คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
             1. เห็นชอบร่างเอกสารผลการประชุมต่าง ๆ รวม 4 ฉบับ คือ
                 1.1 ร่างปฏิญญาคาร์ตาเฮนา ค.ศ. 2009  (The 2009 Cartagena  Declaration)  เป็นคำประกาศท่าที
ร่วมกันของรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ของอนุสัญญา  ฯ    ทั้งในฐานะความ
เป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือ  รวมทั้งรับทราบที่จะต้องปฏิบัติตามอนุสัญญา ฯ  และยืนยันที่จะขจัดความทุกข์ทรมาน
ที่เกิดจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคล  ทั้งนี้  ผู้แทนระดับสูงของรัฐภาคีอนุสัญญา ฯ จะพิจารณาให้การรับรองและร่วมลง
นามในปฏิญญาคาร์ตาเฮนา ในช่วงการประชุมระดับสูงระหว่างวันที่ 3-4 ธันวาคม 2552
                 1.2 ร่างแผนปฏิบัติการคาร์ตาเฮนา ค.ศ. 2010-2014  (Cartagena Action Plan 2010-2014)  เป็น
เอกสารแนะนำแนวทางการดำเนินการตามพันธกรณีของอนุสัญญา ฯ ในอีก  5  ปีข้างหน้า (ปี พ.ศ. 2553-2557)
ที่รัฐภาคีอาจนำไปปรับใช้เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของอนุสัญญา ฯ
                 1.3 ร่างเอกสารทบทวนการดำเนินการและสถานะของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Review
of  the  Operation  and  Status  of  the  Convention, 2005-2009 ) เป็นรายงานพัฒนาการการปฏิบัติตามอนุ
สัญญา ฯ ในรอบ 5 ปี  (ปี พ.ศ. 2548-2552)  นับตั้งแต่การประชุมทบทวนอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
ครั้งที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2547 ณ กรุงไนโรบี จนถึงปัจจุบัน
                 1.4 ร่างข้อตัดสินใจเรื่องการประชุมในอนาคต  (Draft Decisions on  Future  Meetings)  เป็นเอกสาร
แผนงานกำหนดการจัดประชุมที่เกี่ยวข้องกับอนุสัญญา ฯ
             2. อนุมัติให้หัวหน้าคณะผู้แทนไทยร่วมลงนามในร่างปฏิญญาคาร์ตาเฮนา

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการของบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding) ระหว่าง
รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งเติร์กเมนิสถาน  มีสาระสำคัญคือ  แก้ไขปรับปรุงข้อบทว่าด้วยเรื่องคำ
จำกัดความในส่วนของเจ้าหน้าที่การเดินอากาศ การแลกเปลี่ยนและการโอนรายได้  การบังคับใช้ความตกลง ฯ  และ
พิกัดอัตราค่าขนส่ง และปรับปรุงใบพิกัดเส้นทางบินเป็นแบบเปิดโดยระบุจุดระหว่างทางและจุดพ้นเป็นจุดใด ๆ  รวม
ทั้งเพิ่มเติมข้อบทว่าด้วยความปลอดภัยการบิน การป้องกันการแข่งขัน และการแข่งขันที่เป็นธรรม  นอกจากนี้  ปรับ
ปรุงสิทธิความจุความถี่จากเดิม 7 เที่ยวต่อสัปดาห์  เป็น 14 เที่ยวต่อสัปดาห์  และปรับปรุงสิทธิรับขนการจราจรเสรี
ภาพที่ 5  โดยให้สายการบินที่กำหนดของแต่ละฝ่ายสามารถรับขนการจราจรเสรีภาพที่ 5 ได้ 7 เที่ยวต่อสัปดาห์ต่อ
จุด และให้เสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบ และมอบกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแลกเปลี่ยนทางการ
ทูตยืนยันการมีผลใช้บังคับต่อไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding) ระหว่าง
รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐตุรกี  มีสาระสำคัญคือ  แก้ไขปรับปรุงใบพิกัดเส้นทาง
บินจากเดิมที่ระบุชื่อจุดปลายทาง เป็นระบุเป็นจุดใด ๆ ในประเทศคู่ภาคี รวมทั้งปรับปรุงสิทธิความจุความถี่จาก
เดิม 7 เที่ยวต่อสัปดาห์ เป็น 21 เที่ยวต่อสัปดาห์ด้วยอากาศยานแบบใด ๆ โดยไม่ต้องระบุแยกสิทธิตามแบบของ
อากาศยาน ทั้งนี้ เพื่อความยืดหยุ่นในการดำเนินการและวางแผนของสายการบิน  และเสนอรัฐสภาพิจารณาให้
ความเห็นชอบ  และมอบให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตการมีผลใช้บังคับ
ต่อไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการชลประทาน
กระบี่  เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน  พ.ศ. ....  มีสาระสำคัญคือ  กำหนดให้ทางน้ำชลประทาน
คลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวาคลองน้ำแดง, คลองซอย 1 ซ้าย  ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวาคลองน้ำแดง, คลองซอย
1 ขวา ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย คลองน้ำแดง, คลองซอย  1  ซ้าย  ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย  คลองน้ำ
แดง และคลองน้ำแดง (รวม 5 ทางน้ำ) ในเขตโครงการชลประทานกระบี่  เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชล
ประทานตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน
การต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
              1. รับทราบและอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิย์เสนอ
                  1.1 รับทราบรายงานผลการชำระบัญชีของบริษัท รวมค้าปลีกเข้มแข็ง จำกัด โดยบริษัท ฯ ได้ดำเนินการ
ชำระบัญชีตามกระบวนการและขั้นตอนของกฎหมาย  และได้สรุปการจำหน่ายทรัพย์สิน  รายการลูกหนี้  เจ้าหนี้  และ
ค่าใช้จ่ายค้างจ่ายที่สามารถประเมินได้แล้วว่ามีรายรับต่ำกว่าหนี้สินค้างจ่ายทำให้ไม่สามารถชำระบัญชีให้เสร็จสิ้น
                  1.2 อนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย
เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อจ่ายชำระหนี้ผูกพันของบริษัท ฯ ในวงเงิน 17,279,774 บาท
              2. ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552  (เรื่อง  แนวทางปฏิบัติ
กรณีการขออนุมัติใช้เงินงบกลาง  รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น)  เนื่องจากบริษัท ฯ  ได้จัดตั้งขึ้น
ตามนโยบายของรัฐบาล โดยมีหน่วยงานภาครัฐเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด  ดังนั้น หากให้บริษัท ฯ มีสถานะเป็นผู้ล้มละลาย
โดยไม่ชำระหนั้สินที่เกิดขึ้น  อาจส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์ของภาคราชการ และความเชื่อมั่นของภาคเอกชนในการ
ร่วมดำเนินการกับภาคราชการ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553  งบกลาง  รายการเงินสำรองจ่าย
เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินการจัดหาถุงยังชีพพระราชทานช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย จำนวน
98,500 ชุด ในวงเงินงบประมาณ 179,000,000 บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสุรชัย พรภัทรกุล ให้ดำรงตำแหน่งวิศวกรใหญ่ (วิศวกรวิชาชีพ 10
วช. (วิศวกรรมโยธา) กรมโยธาธิการและผังเมือง  กระทรวงมหาดไทย  ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2551  ซึ่งเป็นวัน
ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายชาญวิทย์ อมตะมาทุชาติ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน เป็น
กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ  ในคณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาพื้นที่พิเศษ  5  จังหวัดชายแดนภาคใต้  แทนนาง
จุฑามาศ  บาระมีชัย  รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  ที่ครบเกษียณอายุราช
การ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงกลาโหมแจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดซึ่งมีคำพิพากษา
ยกฟ้อง  กรณีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การฟอกหนังฟ้องคณะรัฐมนตรีต่อศาลปกครองสูงสุดเกี่ยวกับพระราช
กฤษฎีกายุบเลิกองค์การฟอกหนัง พ.ศ. 2550

              คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอเรื่อง การเปลี่ยนชื่อสะพานจากร่างความตกลงว่าด้วย
การบริหารจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้งานสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2  ฉบับที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความ
เห็นชอบเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2550 ตามข้อเสนอของกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซีย จากเดิม "The Second
Bridge" เป็น "The Friendship Bridge" ให้ทันก่อนการประชุมหารือประจำปี  ครั้งที่ 4  ระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับ
นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2552 ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้อธิบดีกรมทางหลวง
เป็นผู้ลงนามความตกลง ฯ ร่วมกับฝ่ายมาเลเซียต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายยุคล ลิ้มแหลมทอง ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน
กรรมการในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร แทน นายจรัลธาดา กรรณสูต ซึ่งได้โอน
ไปรับราชการที่สำนักราชเลขาธิการ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ  (24 พฤศจิกายน 2552)  เป็นต้น
ไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งพันเอก เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ผู้แทนศูนย์ศิลปาชีพบางไทร เป็นกรรมการ
ในคณะกรรมการบริหารศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ แทนนายชัชวาล  ลางดี  ที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจาก
มีอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ อันเป็นลักษณะต้องห้ามตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ
(องค์การมหาชน) พ.ศ. 2546 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (24 พฤศจิกา
ยน 2552) เป็นต้นไป

              คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่ประธานกรรมการปฏิรูปกฎหมายรายงานว่า ศาสตราจารย์กิตติคุณ อัมรา
พงศ์ศาพิชญ์ ได้ลาออกจากคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2552 เนื่องจากได้รับการสรรหา
เป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทำให้องค์ประกอบของคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเหลือกรรมการทั้งหมด
เพียง 9 คน ซึ่งกรรมการที่เหลืออยู่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้โดยที่ไม่ต้องแต่งตั้งกรรมการเพิ่มเติมแต่อย่างใด

                 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอเรื่อง การดำเนินการตามข้อสังเกต
ของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์พิจารณาร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... (จัดตั้งกรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ของวุฒิสภา  โดยมีข้อสังเกตว่าภายใน 10 ปี นับแต่วัน
ที่ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับให้กรมหม่อนไหมดำเนินการปรับปรุงอำนาจหน้าที่ให้ครอบคลุมเส้นใยธรรม
ชาติอื่นด้วย  ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการ ฯ  แล้ว  แจ้งว่าสามารถดำเนิน
การตามข้อสังเกตดังกล่าวได้ ทั้งนี้ ให้แจ้งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสายเคเบิลโทร
คมนาคมตัวนำทองแดง   หุ้มฉนวนพอลิโอเลฟิน   สำหรับการติดตั้งแบบแขวนในอากาศต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
พ.ศ. ....  มีสาระสำคัญคือ  กำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสายเคเบิลโทรคมนาคมตัวนำทองแดง หุ้มฉนวนพอลิ
โอเลฟิน สำหรับการติดตั้งแบบแขวนในอากาศ ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เลขที่ มอก. 2434-2552 ตามประกาศ
กระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 4051 (พ.ศ. 2552)  ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาห
กรรม พ.ศ. 2511 เรื่อง กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสายเคเบิลโทรคมนาคมตัวนำทองแดง หุ้มฉนวน
พอลิโอเลฟิน สำหรับการติดตั้งแบบแขวนในอากาศ ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2552 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทวง จำนวน  2  ฉบับ  ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เสนอและให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
               1. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากำแพงแสน เป็น
ทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....  มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองแยก
1 ซ้าย ของคลองแยก 2 ซ้าย ของคลองซอย 5 ซ้าย ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย จากกิโลเมตรที่ 16.488 ของ
คลองแยก 2 ซ้าย ของคลองซอย 5 ซ้าย ในท้องที่ตำบลตาก้อง อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ถึงกิโลเมตร
ที่ 12.066 ในท้องที่ตำบลบ้านหลวง อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม  และกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองแยก
1 ขวา ของคลองแยก 1 ซ้าย ของคลองซอย 5 ซ้าย ในท้องที่ตำบลสนามแย้ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ถึง
กิโลเมตรที่ 46.092 ในท้องที่ตำบลวัดละมุด อำเภอนครชัยศรี  จังหวัดนครปฐม  เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียก
เก็บค่าชลประทาน
               2. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย เป็นทางน้ำชลประทานที่
จะเรียกเก็บค่าชลประทาน  พ.ศ. ....   มีสาระสำคัญคือ   กำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย
จากกิโลเมตรที่ 10.055 ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย  ในท้องที่ตำบลตะคร้ำเอน  อำเภอท่ามะกา  จังหวัดกาญ
จนบุรี ถึงกิโลเมตรที่ 15.150  ในท้องที่ตำบลท่าเรือพระแท่น  อำเภอท่ามะกา  จังหวัดกาญจนบุรี  เป็นทางน้ำชล
ประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การส่งแป้งมันสำปะหลังออก
ไปสหภาพยุโรป  พ.ศ. ....  ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ  และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่าง
อนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างประกาศ ฯ มีสาระสำคัญคือ
               1. ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร  (ฉบับที่ 74) 
พ.ศ. 2539 ลงวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2539 
               2. ให้แป้งมันสำปะหลังที่ส่งออกไปสหภาพยุโรปเพื่อขอรับสิทธิชำระภาษีเป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือ
รับรองถิ่นกำเนิดสินค้าที่ออกโดยกรมการค้าต่างประเทศ ไปแสดงต่อสหภาพยุโรป  ทั้งนี้  หลักเกณฑ์  วิธีการ
และเงื่อนไขให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กำหนด
               3. ให้ประกาศนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2553 เป็นต้นไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการโอนกิจการ ทรัพย์สิน  สิทธิ  หนี้  และงบประมาณของสำนักงานปลัดกระทรวง
เกษตรและสหกรณ์ไปเป็นของสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหา
ชน) โดยเบิกจ่ายในลักษณะเงินอุดหนุนทั่วไป ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2552  เป็นต้นไป  ตามที่กระทรวง
เกษตรและสหกรณ์เสนอ  โดยให้โอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553  ในส่วนที่เหลือจากวงเงินที่
ได้รับจัดสรรให้สำนักงานพิพิธภัณฑ์ ฯ ไปแล้วด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

             คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอสรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย
-มาเลเซีย ครั้งที่ 49 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม-3 กันยายน 2552  ณ  กรุงกัวลาลัมเปอร์  ประเทศมาเลเซีย  ซึ่งมีผล
การประชุมดังนี้
             1. มอบหมายให้คณะกรรมการระดับสูง ไทย-มาเลเซีย ดำเนินการ ดังนี้
                 1.1 ปฏิบัติตามงานมอบของการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปครั้งก่อน  ๆ ต่อไป
                 1.2 นำผลการหารือของนายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 
2552 ที่เกี่ยวข้องมาปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม
                 1.3 ทบทวนความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งประเทศไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศมาเลเซีย  ว่าด้วยความ
ร่วมมือชายแดนฉบับปัจจุบันและเสนอแนะการแก้ไขที่จำเป็น
              2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาเลเซียได้ให้ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ดังนี้
                  2.1 ให้ยุบหน่วยเฉพาะกิจ 2010 ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2552
                  2.2 ให้กระทรวงมหาดไทยของทั้งสองประเทศดำเนินการในเรื่องเกี่ยวกับข้อตกลงข้ามแดนต่อไป
                  2.3 เห็นด้วยกับการเสนอให้มีการฝึกร่วม/ผสม  โดยให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ชายแดน
ของทั้งสองฝ่ายรวมอยู่ด้วย และให้จัดตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อวางแผนและจัดการฝึกตามห้วงเวลา
                  2.4 ให้ประธานร่วมเยี่ยมเยือนโครงการที่สำคัญตามแนวชายแดนเพื่อรับทราบความก้าวหน้าในการ
ดำเนินงาน โดยให้กองเลขานุการร่วมประสานงานในรายละเอียด

               คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี
งบประมาณ พ.ศ. 2551 (1 ตุลาคม 2551-30 กันยายน 2552) สรุปได้ดังนี้
               1. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เบิกจ่ายได้ จำนวน  1,696,085.58  ล้านบาท
หรือร้อยละ 92.42 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552  (1,951,700.00 ล้านบาท)  ต่ำกว่า
เป้าหมายตามมติคณะรัฐมนตรี (ร้อยละ 94.00) อยู่ร้อยละ 1.58 แต่สูงกว่าปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ร้อยละ 0.10
โดยประกอบด้วย รายจ่ายประจำ จำนวน 1,424,050.98 ล้านบาท หรือร้อยละ 96.47 และรายจ่ายลงทุน จำนวน
272,034.60  ล้านบาท  หรือร้อยละ  75.78  สูงกว่าเป้าหมายตามมติคณะรัฐมนตรี  (ร้อยละ 74.00)  อยู่ร้อยละ
1.78 แต่ต่ำกว่าปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ร้อยละ 2.86
               2. งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม เบิกจ่ายได้จำนวน 94,776.66 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.30  ประกอบ
ด้วย รายจ่ายประจำ จำนวน 83,842.66 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน จำนวน 10,934.00 ล้านบาท