ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1875 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 37481 - 37500 จากข้อมูลทั้งหมด 124241 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
37481 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหาร ระดับสูง) (นายธีรภัทร สันติเมทนีดล และนายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์) | นร | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่ง
ประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนัก นายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ 1. นายธีรภัทร สันติเมทนีดล ดำรงตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนัก นายกรัฐมนตรี 2. นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนัก นายกรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||
37482 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2552 | กค | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครง
การ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. จำนวนโครงการ 1.1 โครงการที่ได้รับอนุมัติ จำนวน 21,880 โครงการ 1.2 หน่วยงานป้อนรายละเอียด/สำนักงบประมาณพิจารณา จำนวน 14,541 โครงการ 1.3 จัดสรรเงินแล้ว จำนวน 6,095 โครงการ 1.4 ลงนามในสัญญาแล้ว จำนวน 1,141 โครงการ 1.5 เสร็จสมบูรณ์ จำนวน 103 โครงการ 2. วงเงิน 2.1 วงเงินที่ได้รับอนุมัติ 199,960.60 ล้านบาท 2.2 วงเงินรอจัดสรร 135,910.07 ล้านบาท 2.3 วงเงินจัดสรรแล้วที่ยังไม่ได้ลงนามในสัญญา 36,870.58 ล้านบาท 2.4 ลงนามในสัญญาแล้วอยู่ระหว่างดำเนินงาน โดยมีวงเงินตามสัญญา 11,790.32 ล้านบาท เบิก จ่ายแล้ว 2,249.29 ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
37483 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 5 ราย 1. นายศิริพงศ์ หังสพฤกษ์ ฯลฯ) | ทส | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด
ล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 5 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้น ไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ 1. นายศิริพงษ์ หังสพฤกษ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2. นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมทรัพยากรน้ำ 3. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช 4. นางนิศากร โฆษิตรัตน์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 5. นางมิ่งขวัญ วิชยารังสฤษดิ์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สำนักงานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
|
||||||||||||||||||||||||
37484 | ผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 4/2552 | นร | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ) ประธานกรรมการพัฒนาพื้นที่
บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก (กพอ.) เสนอ ดังนี้ 1. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการ กพอ. ครั้งที่ 4/2552 เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2552 ซึ่งได้ พิจารณาเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหามาบตาพุดในระยะเร่งด่วน และความก้าวหน้าการดำเนินงานแก้ไขปัญหามล พิษและคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะที่ผ่านมา (การแก้ปัญหาด้านมลพิษ การแก้ปัญหาด้านสาธารณสุข การ แก้ปัญหาด้านคุณภาพชีวิตในชุมชนมาบตาพุด การแก้ปัญหาประปามาบตาพุด และการศึกษาเปรียบเทียบเมือง อุตสาหกรรมเชิงนิเวศประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (บริษัท BASF) เมือง Kitakyushu ประเทศญี่ปุ่น) 2. เห็นชอบผลการประชุมคณะกรรมการ กพอ. ดังนี้ 2.1 มอบหมายฝ่ายเลขานุการจัดทำรายชื่อโครงการแก้ปัญหามาบตาพุด เพื่อจัดลำดับความสำคัญ โครงการร่วมกับจังหวัดระยองและภาคประชาชน เพื่อนำไปจัดทำแผนปฏิบัติการต่อไป ประกอบด้วย (1) โครงการ ตามแผนปฏิบัติการเพื่อลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง พ.ศ. 2553-2556 (2) กลุ่มโครงการ แก้ปัญหาของกรมควบคุมมลพิษ (3) กลุ่มโครงการพัฒนาศักยภาพการให้บริการของโรงพยาบาลในพื้นที่เขตควบ คุมมลพิษ จังหวัดระยอง (4) โครงการปรับปรุงเส้นท่อและขยายเขตจ่ายน้ำของการประปาส่วนภูมิภาค และ (5) โครงการอื่นที่สำคัญ เช่น ป้ายอัจฉริยะบอกตัวชี้วัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม โครงการขุดลอกตะกอนคลองซากหมาก เป็นต้น 2.2 จัดตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของมาบตาพุด โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ) เป็นประธาน ทำหน้าที่จัดทำแผนปฏิบัติการแก้ปัญหาเร่งด่วนของมาบตาพุดร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อเสนอ ต่อคณะกรรมการ กพอ. และคณะรัฐมนตรี รวมทั้งประสานและเร่งรัดการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการ ฯ ให้มี ประสิทธิผลโดยเร็ว โดยให้ฝ่ายเลขานุการประสานกระทรวงขอรายชื่อผู้แทนหน่วยงานเพื่อแต่งตั้งเป็นผู้แทนถาวร ในคณะทำงาน ทั้งนี้ ในระยะเร่งด่วนจะเน้นการแก้ไขปัญหามลพิษ (อากาศ ขยะ น้ำเสีย)
|
||||||||||||||||||||||||
37485 | ขออนุมัติจัดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมนัดพิเศษ เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ | ทส | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ 1.1 เห็นชอบให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นเจ้าภาพในการ จัดประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมนัดพิเศษ เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในระหว่างวันที่ 28- 29 พฤศจิกายน 2552 ณ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 1.2 เห็นชอบอนุมัติวงเงินงบประมาณ จำนวน 3,500,000 บาท โดยมอบให้สำนักงบประมาณ และ กระทรวงการคลังพิจารณาจัดสรรงบประมาณจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อ สนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว 2. ในส่วนของงบประมาณเพื่อสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม ให้กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
37486 | สรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ | นร | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2552 ซึ่งที่ ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรี จำนวน 4 ฉบับ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้ แทนราษฎร ชุดที่ 23 ปีที่ 2 ครั้งที่ 26 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน 2552 รวมทั้งพิจารณา ระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรฐสภา ครั้งที่ 8 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน 2552 2. ให้กระทรวงการคลังเสนอกรอบการเจรจาข้อตกลงจัดตั้ง Credit Guarantee and Investment Mechanism (CGIM) และกรอบวงเงินทุนจัดตั้งในส่วนที่ประเทศไทยจะต้องชำระ ต่อคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งเพื่อขอความเห็นชอบ ของรัฐสภาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในสมัยประชุมสามัญทั่วไปสมัยหน้า
|
||||||||||||||||||||||||
37487 | การรายงานความคืบหน้าการเบิกจ่ายเงิน | นร | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1.รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินตอบแทนตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเงินค่าใช่จ่ายสนับสนุนการดำเนินงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่ บ้าน (อสม.) โดยในส่วนของเงินตอบแทนตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเบิกจ่ายครบถ้วนทุกจังหวัดแล้ว สำหรับเงิน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเบิกจ่ายแล้ว เหลือเพียงจังหวัดกาฬสินธุ์ มุกดาหาร อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ ระนอง นราธิวาส และ กรุงเทพมหานคร ที่ยังไม่ได้เบิกจ่าย ส่วนเงินค่าใช้จ่ายสนับสนุนการดำเนินงานของ อสม. ได้จัดสรรเงินในระบบ GFMIS แล้ว รอองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ส่งข้อมูลรายละเอียดผู้ได้รับสิทธิไปที่จังหวัด 2. รับทราบตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์) รายงานว่า การ จ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 เริ่มจ่ายเมื่อเดือนพฤศจิกายนโดยจ่ายรวมกับเดือนตุลาคมเป็น 2 เดือน ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้ออกระเบียบกำหนดให้ อปท. ทุกแห่งจ่ายเป็นรายเดือนทุกเดือน ภายในวัน ที่ 10 ของเดือน และให้จ่ายเท่ากันทุกแห่งคือ เดือนละ 500 บาท ขณะนี้ อปท. ทุกแห่งได้จ่ายเงินตามระเบียบแล้ว นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงสาธารณสุข จะ ร่วมกันดำเนินการขึ้นทะเบียนคนพิการรอบใหม่เพื่อให้ความช่วยเหลือตามกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
37488 | กรอบการเจรจาข้อตกลงจัดตั้ง Credit Guarantee and Investment Mechanism (CGIM) และกรอบวงเงินทุนจัดตั้งในส่วนที่ประเทศไทยจะต้องชำระ | นร | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงการคลังเสนอกรอบการเจรจาข้อตกลงจัดตั้ง Credit Guarantee and
Investment Mechanism (CGIM) และกรอบวงเงินทุนจัดตั้งในส่วนที่ประเทศไทยจะต้องชำระ เสนอคณะรัฐมนตรี อีกครั้ง เพื่อขอความเห็นชอบของรัฐสภาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยในสมัยประชุม สามัญทั่วไปสมัยหน้า
|
||||||||||||||||||||||||
37489 | ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. .... | นร | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกา
ยน 2552 ซึ่งที่ประชุมมีมติให้เสนอร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อ บรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
37490 | ร่างพระราชบัญญัติองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 3 ฉบับ | นร | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกา
ยน 2552 ซึ่งที่ประชุมมีมติให้เสนอร่างพระราชบัญญัติองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. .... ร่างพระราช บัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 3 ฉบับ ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
37491 | การแก้ไขปัญหาพนักงานหยุดงานของแรงงานในภาคอุตสาหกรรม | นร | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) รับเรื่องการแก้ไขปัญหา
พนักงานหยุดงานของแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีผลทำให้นักลงทุนต่างชาติเกิดความลังเลและขาดความเชื่อมั่น ในการตัดสินใจที่จะเข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิต หรือขยายฐานการผลิตในประเทศไทย ประกอบกับพระราชบัญญัติ แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการร้องเรียนว่า เมื่อได้มีการแจ้งข้อเรียกร้องเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ของลูกจ้างแล้ว ถ้าข้อเรียกร้องนั้นยังอยู่ระหว่างการเจรจาการไกล่เกลี่ยหรือการชี้ขาดข้อพิพาทแรงงาน ห้ามมิให้นาย จ้างเลิกจ้าง หรือโยกย้ายหน้าที่การงานลูกจ้าง ผู้แทนลูกจ้าง กรรมการ อนุกรรมการ หรือสมาชิกสหภาพแรงงาน หรือกรรมการ หรืออนุกรรมการสหพันธ์แรงงานซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องโดยมีข้อยกเว้นเพียงบางกรณีเท่านั้น อาจ ทำให้ฝ่ายผู้ประกอบการเกิดความรู้สึกว่าไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายเท่าที่ควรในกรณีผู้ประกอบการเห็นว่าลูก จ้างได้กระทำการให้เกิดความเสียหายแก่ธุรกิจของตน โดยพิจารณาร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมทั้งความจำเป็นและเหมาะสมในการปรับปรุงแก้ ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37492 | ร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อประโยชน์ของคนพิการ) | พณ | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ข้อยกเว้นการละเมิด
ลิขสิทธิ์เพื่อประโยชน์ของคนพิการ) เพื่อนำกลับไปพิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์เสนอ |
||||||||||||||||||||||||
37493 | ร่างพระราชบัญญัติการประกอบการค้าข้าว พ.ศ. .... | พณ | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติการประกอบการค้าข้าว พ.ศ. .... เพื่อนำกลับไป
พิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี ไปพิจารณาด้วยว่า ปัจจุบันสถานการณ์เกี่ยวกับการค้าข้าวได้เปลี่ยนแปลงไปมาก สมควรพิจารณาความจำเป็น และความเหมาะสมที่จะต้องมีกฎหมายในเรื่องนี้ และเนื่องจากได้มีคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ เป็นคณะ กรรมการระดับชาติที่มีบทบาทในการกำหนดนโยบายข้าวในภาพรวมอยู่แล้ว หากจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงกฎ หมายในเรื่องนี้ สมควรพิจารณาให้มีความเชื่อมโยง สอดคล้องกัน
|
||||||||||||||||||||||||
37494 | แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2553 - 2557 | มท | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติในหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ประธานกรรมการป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติเสนอ ดังนี้ 1.1 แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2553-2557 ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ว่าด้วยหลักการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส่วนที่ 2 ว่าด้วยกระบวนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส่วนที่ 3 ว่าด้วยกระบวนการป้องกันและบรรเทาภัยด้านความมั่นคง 1.2 มอบหมายให้กระทรวง กรม องค์กร และหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ จังหวัด อำเภอ องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคส่วนอื่น ๆ ถือปฏิบัติตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และให้จัดทำแผนปฏิบัติการและงบประมาณรองรับแผนดังกล่าว 1.3 มอบหมายให้สำนักงบประมาณ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณา ให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกในการจัดสรรงบประมาณเพื่อการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตั้งแต่ระยะก่อนเกิด ภัย ขณะเกิดภัย และการฟื้นฟูบูรณะภายหลังภัยสิ้นสุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และเพื่อผู้ประสบ ภัยสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติสุขได้โดยเร็ว 1.4 มอบหมายให้หน่วยงานระดับกระทรวงจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับยุทธศาสตร์และให้บรรจุโครง การที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยไว้ในแผนปฏิบัติราชการประจำปี รวมทั้งกำหนดให้เรื่องดัง กล่าวเป็นตัวชี้วัดร่วม (Joint KPI) ระหว่างหน่วยงาน 2. ให้รับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่เห็นควรให้มีคลังข้อมูลด้านสาธารณภัยเป็น แผนงานเร่งด่วนเพื่อเป็นฐานข้อมูลกลางด้านสาธารณภัยของประเทศ และจัดทำคู่มือมาตรฐานปฏิบัติงานหรือแนว ทางการปฏิบัติ (Standard Operating Procedure) ในแต่ละประเภทภัยและระดับความรุนแรง รวมทั้งจัดทำแผน เผชิญเหตุรองรับ (Contingency Plan) เพื่อให้หน่วยงานที่ร่วมรับผิดชอบได้ยึดถือปฏิบัติเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นว่า การจัดทำแผนปฏิบัติการและงบประมาณให้พิจารณาดำเนินการตาม ความเหมาะสมและจำเป็นโดยคำนึงถึงข้อจำกัดทางการเงินการคลังของประเทศ โดยพิจารณาพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง และหรือพื้นที่ที่ส่งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจในโอกาสแรก ไปพิจารณาดำเนินการด้วย 3. ให้รับข้อเสนอเพิ่มเติมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่ให้มีการประสานงานกับองค์กร ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับการฝึกอบรมตามแผน ฯ รวมทั้งข้อเสนอเพิ่มเติม ของผู้อำนวยการสำนักงบประมาณที่ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำรายละ เอียดการใช้จ่ายงบประมาณ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
37495 | แนวทางเลือกการดำเนินโครงการบัตรสมาชิกพิเศษ (Thailand Privilege Card) | กก | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักโดยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐ กิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาจัดทำร่างขอบเขตของงาน (TOR) ของโครงการบัตรสมาชิกพิเศษ (Thailand Privilege Card) ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน โดยมีระยะเวลาให้ภาคเอกชนยื่นความจำนงภายใน 1 เดือน และระยะเวลาการคัด เลือกเอกชนผู้ประมูลอีก 1 เดือน รวมทั้งสิ้นให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน เมื่อกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรม การพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจัดทำร่างขอบเขตของงาน (TOR) เสร็จแล้ว ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและ กีฬาดำเนินการประกาศประมูลและคัดเลือกผู้ประมูลต่อไป ทั้งนี้ ร่างขอบเขตของงาน (TOR) จะต้องระบุให้ภาคเอกชน ประมูลโครงการ ฯ ไปดำเนินการทั้งหมด ชดเชยเงินลงทุนภาครัฐ และต้องรับภาระหนี้สินและความรับผิดชอบทางกฎ หมายทั้งหมด ส่วนภาครัฐจะรับผิดชอบเฉพาะสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับการถือครองวีซ่า และการอำนวยความสะดวกใน การตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวพิเศษ (Special Entry Visa) เท่านั้น 2. หากดำเนินการตามข้อ 1. แล้ว ไม่มีภาคเอกชนสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการ ฯ หรือไม่อาจคัดเลือกผู้ ประมูลได้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการต่อไป โดยให้จดทะเบียนเลิกบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด พร้อมดำเนินการชดเชยพนักงาน และดำเนินการเกี่ยวกับสมาชิก และที่จำเป็นอื่น ๆ ก่อนโอนภารกิจตามโครง การ ฯ ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยรับไปบริหารจัดการตามแนวทางการดำเนินโครงการในข้อเสนอข้อ 5.2 ทาง เลือกย่อยที่ 3 คือ การโอนภารกิจให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยดำเนินการต่อไป ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและ กีฬาเสนอ ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องไม่มีการเสนอของบประมาณเพิ่มเติมเพื่อดำเนินโครงการ ฯ อีก และหากจำเป็น ต้องมีการเสนอของบประมาณเพิ่มเติม ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง |
||||||||||||||||||||||||
37496 | ขออนุมัติลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและสำนักงานกิจการอวกาศส่วนนอกแห่งสหประชาชาติ | วท | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยน (Letter of Exchange) ระหว่างรัฐบาลแห่งราช
อาณาจักรไทยและสำนักงานกิจการอวกาศส่วนนอกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office for Outer Space Affairs : UNOOSA) โดยมอบหมายให้เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสำนักงานสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา เป็นผู้ลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ ให้สามารถเปลี่ยนแปลงสาระหรือถ้อยคำในส่วนที่ไม่กระทบต่อสาระสำคัญ ของหนังสือแลกเปลี่ยนได้ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ |
||||||||||||||||||||||||
37497 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เรื่องการกู้เงินสำหรับใช้เป็นทุนหมุนเวียนแทรกแซงตลาดรับซื้อข้าวเปลือก ปี 2552/53 | พณ | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2552 (เรื่อง การกู้เงินสำหรับใช้เป็นเงินทุน หมุนเวียนในการแทรกแซงตลาดรับซื้อข้าวเปลือก ปี 2552/53) ข้อ 1.2 จากเดิม "1.2 ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ ค้ำประกันเงินกู้และจัดสรรเงินเพื่อชำระต้นเงินกู้และดอกเบี้ย" เป็น "1.2 ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ และรัฐรับภาระจัดสรรเงินเพื่อชำระต้นเงินกู้และดอกเบี้ย และผลขาดทุนจากการดำเนินงานตามโครงการแทรกแซง ตลาดรับซื้อข้าวเปลือก ปี 2552/53 จากงบประมาณแผ่นดิน" ตามความเห็นสำนักงบประมาณ 2. ให้กระทรวงพาณิชย์ประสานกับกระทรวงการคลังเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติบริหาร หนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ เห็นควรให้องค์การคลังสินค้าพัฒนาระบบบริหารจัดการในการรับซื้อ การเก็บรักษา และการระบายผลผลิตข้าว เปลือกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไปดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
37498 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันโครงการจ้างบำรุงรักษาระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์สินค้าด้วยเครื่อง X-ray | กค | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมศุลกากรก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ การจ้างบำรุงรักษาระบบตรวจ
สอบตู้คอนเทนเนอร์สินค้าด้วยเครื่อง X-ray ในวงเงินทั้งสิ้น 832,460,900 บาท ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 -พ.ศ. 2557 รวมระยะเวลา 5 ปี โดยมีวงเงินที่จะใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 166,759,700 บาท สำหรับส่วนที่เหลืออีก จำนวน 665,701,200 บาท ให้ผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. 2554-พ.ศ. 2557 ทั้งนี้ ให้กรม ศุลกากรใช้เงินรายได้สมทบเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว โดยมีสัดส่วนเงินงบประมาณต่อเงินนอกงบประมาณ 60 : 40 คิดเป็นเงินงบประมาณ จำนวน 499,476,500 บาท และเงินนอกงบประมาณ จำนวน 332,984,400 บาท สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ให้จ่ายจากงบประมาณที่ได้รับจัดสรรไว้ในแผนงานการเงินการคลัง ผลผลิตการ จัดเก็บภาษีศุลกากร งบดำเนินงานเพื่อรายการดังกล่าว จำนวน 108,186,000 บาท และใช้เงินรายได้สมทบ จำนวน 58,573,700 บาท สำหรับในปีต่อ ๆ ไปให้กรมศุลกากรขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามสัดส่วนดัง กล่าวข้างต้น ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
37499 | การเปิดตลาดนำเข้าเมล็ดถั่วเหลือง ปี 2553 | กษ | 17/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบการเปิดตลาดนำเข้าเมล็ดถั่วเหลือง ปี 2553 ตามมติคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช ครั้งที่ 1/2552 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2552 ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธาน กรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืชเสนอ ดังนี้ 1.1 กรอบองค์การการค้าโลก (WTO) ปริมาณเปิดตลาดและอัตราภาษีนำเข้าไม่จำกัดปริมาณและ ช่วงเวลานำเข้า อัตราภาษีในโควตาร้อยละ 0 อัตราภาษีนอกโควตาร้อยละ 80 1.2 ภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) 1.2.1 ภายใต้กรอบเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ปริมาณการเปิดตลาดและอัตราภาษีนำเข้า เป็นไปตามข้อผูกพัน ส่วนการนำเข้าใช้หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเช่นเดียวกับการนำเข้าภายใต้กรอบ WTO 1.2.2 ภายใต้กรอบเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน ปริมาณนำเข้าในโควตา 10,922 ตัน อัตรา ภาษีในโควตาร้อยละ 0 นอกโควตาร้อยละ 80.9 ส่วนการนำเข้าใช้หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเช่นเดียวกับการนำ เข้าภายใต้กรอบ WTO 2. ให้คณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืชรับข้อสังเกตของกระทรวงพาณิชย์ที่เห็นว่าขณะนี้ไทยยังไม่ มีข้อผูกพันลดภาษีสินค้าถั่วเหลือง ซึ่งเป็นสินค้าอ่อนไหวภายใต้ข้อตกลงอาเซียน-จีน และคณะรัฐมนตรียังไม่ได้ อนุมัติโครงการ Contract Farming กับประเทศเพื่อนบ้านภายใต้กรอบ ACMECS ดังนั้น มติคณะกรรมการ ฯ ใน เรื่องนี้จึงยังไม่มีผลในทางปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม ผู้นำเข้าสามารถนำเข้าถั่วเหลืองจากประเทศภายใต้ข้อตกลงดัง กล่าวได้ภายใต้กรอบ WTO ไปดำเนินการ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์รับความเห็น ของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการเปิดตลาดนำเข้าเมล็ดถัวเหลืองดังกล่าว ควรคำนึงถึงมาตรการรองรับ และเยียวยาผลกระทบจากการเปิดตลาดต่อเกษตรกรไทย เพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิต และปรับโครงสร้างการ ผลิตภาคเกษตรอย่างรอบคอบและยั่งยืน ไปดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
37500 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน พ.ศ. .... | รง | 10/11/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราช
การกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน พ.ศ. .... ของกระทรวงแรงงาน ที่ตรวจพิจารณาแล้ว โดย สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง ฯ เป็นการปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการและอำนาจหน้าที่ของกรมสวัสดิการและ คุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน โดยรวมภารกิจของกองตรวจความปลอดภัยและสถาบันความปลอดภัยในการ ทำงาน เป็นสำนักความปลอดภัยแรงงาน เพื่อให้การบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพ แวดล้อมในการทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น |
.....