ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1800 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 35981 - 36000 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
35981 | ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจบัตรเครดิต พ.ศ. .... | กค | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจบัตรเครดิต พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1.1 กำหนดหลักเกณฑ์ในการประกอบธุรกิจบัตรเครดิต เช่น ประเภทของบัตรเครดิต หลักเกณฑ์ การออกบัตร วงเงิน คุณสมบัติของผู้ถือบัตร เป็นต้น 1.2 กำหนดสิทธิและหน้าที่ของผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ถือบัตรและผู้รับบัตร 1.3 กำหนดห้ามผู้ประกอบธุรกิจเรียกเก็บเงินก่อนวันครบกำหนดชำระตามสัญญาและถ้าผู้ถือบัตร ชำระเงินเกินยอด และได้ร้องขอต่อผู้ประกอบธุรกิจเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ประกอบธุรกิจต้องคืนเงินแก่ผู้ถือบัตร ทันที 1.4 กำหนดให้กรณีที่ผู้ถือบัตรซื้อสินค้าหรือบริการผ่านทางอินเตอร์เน็ต เมื่อผู้ถือบัตรมีข้อโต้แย้ง เป็นลายลักษณ์อักษรว่า ตนมิได้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากผู้รับบัตรนั้น ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องระงับการ เรียกเก็บเงินจากผู้ถือบัตรไว้และทำการตรวจสอบ 1.5 กำหนดให้หนี้อันเนื่องมาจากการใช้บัตรเครดิตห้ามมิให้ฟ้องร้องเมื่อพ้น 2 ปีนับแต่วันที่สัญญา บัตรเครดิตสิ้นสุดลง 1.6 กำหนดบทเฉพาะกาลโดยให้ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่ได้รับอนุญาตก่อนพระราชบัญญัตินี้ ใช้บังคับให้ถือว่าได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ และให้ผู้ที่ได้รับผ่อนผันตามกฎหมายเดิมได้รับการผ่อนผัน ต่อไปจนกว่าจะมีคำสั่งตามพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งให้ถือว่าบัตรเครดิตตามกฎหมายเดิมเป็นบัตรเครดิตตามพระ ราชบัญญัตินี้ด้วย 2. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กระทรวงยุติธรรม เกี่ยวกับการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจบัตรเครดิต ควรเพิ่มหลักเกณฑ์ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มี อำนาจในการพิจารณาเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้รับบัตรหรือผู้ถือบัตรที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายอันเนื่อง มาจากการกระทำของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้ใช้บัตรได้อย่างเต็มที่ ส่วนการยกเลิกการชำระ ค่าสินค้าหรือค่าบริการแก่ผู้ประกอบธุรกิจ ควรครอบคลุมถึงกรณีผู้ใช้บัตรมิได้รับสินค้าหรือบริการจากผู้รับจาก ผู้รับบัตร หรือกรณีได้รับสินค้าหรือบริการดังกล่าวแต่เพียงบางส่วนซึ่งไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของสัญญาด้วย รวมทั้งควรเพิ่มการจำกัดความรับผิดชอบของผู้ถือบัตรกรณีบัตรเครดิตสูญหาย ถูกขโมย หรือถูกฉ้อฉล หรือถูก นำไปใช้โดยบุคคลอื่น และความเห็นของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการกำหนดอัตราดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าธรรม เนียม และค่าบริการอื่น ๆ ควรกำหนดอัตราขั้นสูงที่เหมาะสมและเป็นธรรมเพื่อเป็นการคุ้มครองประชาชนผู้ใช้ บริการให้ได้รับประโยชน์สูงสุด และในการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตต้องมิให้มีพฤติกรรมที่เป็นการ ผูกขาดหรือลดการแข่งขัน การตกลงร่วมกัน หรือพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งอาจเข้าข่ายความรับผิด ตามพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการ ประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
35982 | ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตราย พ.ศ. .... | พม | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตราย พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา แล้วเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดความหมายของสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตรายและลักษณะการกระทำที่เป็นพฤติกรรมอันตราย ซึ่ง รวมถึงการกระทำวิปริตทางเพศ การกระทำทารุณกรรมต่อเด็ก การฆ่าตัวตายของเด็กหรือเป็นหมู่คณะ การใช้ยา เสพติด การกระทำความผิดต่อชีวิตและความผิดต่อทรัพย์ และขยายความหมายของคำว่า "เด็ก" ให้ครอบคลุมถึงตัว แสดงที่ปรากฏอยู่ในสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตรายซึ่งมีลักษณะที่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นเด็กด้วย 2. กำหนดให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตราย ประกอบด้วย กรรมการ โดยตำแหน่งและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ 3. กำหนดให้สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ ทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการ 4. กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปตรวจค้นสถานที่หรือเคหสถานของบุคคล ค้นบุคคล หรือ ยานพาหนะ เมื่อมีเหตุอันสมควรสงสัยว่ามีสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตรายหรือทรัพย์สินที่ได้ใช้ หรือจะใช้ในการกระทำ ความผิดซึ่งอาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ ยึดหรืออายัดสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตรายหรือพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับ การกระทำความผิด รวมทั้งมีอำนาจเข้าถึงข้อมูลการกระทำความผิดในพัสดุภัณฑ์ จดหมาย ตู้ไปรษณียภัณฑ์ ระบบ คอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ฯลฯ เมื่อปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าจะได้ข้อมูลที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ทั้งนี้ ต้องได้รับอนุญาตจากศาลและต้องรายงานผลการดำเนินการให้ศาลทราบด้วย และให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา 5. กำหนดความผิดและบทกำหนดโทษสำหรับการกระทำความผิดเกี่ยวกับสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตราย
|
|||||||||||||||||||||||||||
35983 | ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านฯ พ.ศ. 2522 โดยกำหนดคำนิยาม ให้มีความชัดเจนขึ้น และแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง โครงสร้างหมู่บ้าน องค์ประกอบของคณะกรรมการกลาง อำนาจหน้าที่ การจัดสรรรายได้ การจัดทำงบประมาณ และการควบคุม ตาม ที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนัก งานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ.ร. และ กระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับการให้คณะกรรมการกลางบริหารหมู่บ้านให้สอดคล้องกับแนวทางดำเนินงานในกรอบ นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ รวมทั้งให้คณะทำงานด้านการปกครองและรักษาความสงบเรียบร้อยของหมู่บ้านอาสา พัฒนาและป้องกันตนเอง (อพป.) เพิ่มเติมหน้าที่เกี่ยวกับการเสริมสร้างจิตสำนึกด้านความมั่นคงของคนและชุมชนใน หมู่บ้าน อพป. และกำหนดบทบาท ภารกิจและอำนาจหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้มีระบบและกลไกการบริหารงานที่ประสานสัมพันธ์กันและไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน นอกจากนี้ เห็นควรให้คณะกรรมการ กลางของแต่ละหมู่บ้านต้องมีการประชุมและเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลาโดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งในการประชุม และการเตรียมความพร้อมของชุมชนอย่างน้อยปีละ 2-3 ครั้ง และปรับเพิ่มงบประมาณในพื้นที่เสี่ยง ไปประกอบการ พิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป 2. ส่วนค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมคณะกรรมการกลาง (ร่างมาตรา 13) ให้กระทรวงมหาดไทยไปพิจารณา กำหนดหลักเกณฑ์ โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลังต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
35984 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวนที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการและหน่วยงานของรัฐจะต้องรับคนพิการเข้าทำงาน และจำนวนเงินที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ จะต้องนำส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. .... | รง | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวนที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการและหน่วย งานของรัฐจะต้องรับคนพิการเข้าทำงาน และจำนวนเงินที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการจะต้องนำส่งเงิน เข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดจำนวนที่นายจ้างหรือเจ้าของ สถานประกอบการและหน่วยงานของรัฐต้องรับคนพิการเข้าทำงาน และให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ ที่มิได้รับคนพิการเข้าทำงานตามจำนวนที่กำหนดจะต้องส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา 2. ให้กระทรวงแรงงานปรับอัตราส่วนการรับคนพิการเข้าทำงาน จาก 200 : 1 เป็น 100 : 1 และ พิจารณาความเหมาะสมของระยะเวลาในการใช้บังคับกฎกระทรวงดังกล่าว โดยอาจให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 90 วัน หรือ 180 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปเพื่อให้สถานประกอบการหรือหน่วยงานของรัฐ ได้เตรียมความพร้อมในการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับรองรับคนพิการที่จะเข้าไปทำงานได้เป็นปกติ และให้ กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงาน ก.พ. และสำนัก งบประมาณที่เห็นว่า ในการออกกฎกระทรวงเพื่อใช้บังคับกับหน่วยงานของรัฐ นั้น ควรดำเนินการในรูปแบบของ การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการให้สัมปทานการจ้างเหมาช่วงงาน ฝึกงาน หรือให้การช่วยเหลืออื่นใดแก่ คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการ ฯลฯ จะเหมาะสมกว่า รวมทั้งควรกำหนดความหมายของคำว่า "ผู้ปฏิบัติงาน" ให้ชัด เจนว่าหมายถึงประเภทบุคคลใดบ้าง เช่น ข้าราชการ พนักงานของรัฐ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว ฯลฯ เพื่อ หลีกเลี่ยงปัญหาที่เกิดขึ้นจากการตีความ และผลต่อการพิจารณาจำนวนคนพิการที่สามารถทำงานได้ในหน่วยงาน ของรัฐตามร่างกฎกระทรวงฯ นอกจากนี้ ควรกำหนดกรอบระยะเวลาก่อนการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้หน่วยงาน ของรัฐได้เตรียมความพร้อมในการจัดสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อรองรับคนพิการที่จะเข้าไปทำงานได้เป็นการปกติ ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
35985 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2553 | ทส | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ 2/2553 เมื่อวัน
ที่ 15 มิถุนายน 2553 ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่ง ชาติเสนอ ดังนี้ 1. ให้กรมทรัพยากรน้ำดำเนินการโครงการระบบเครือข่ายน้ำในพื้นที่วิกฤตน้ำ 19 พื้นที่ โดยทำการศึกษา ความเหมาะสมของโครงการฯ (Feasibility Study : FS) ศึกษาการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) และศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (Strategic Environ mental Assessment : SEA) ในระดับลุ่มน้ำโขง ชี มูล รวมเป็นเงินงบประมาณ 917 ล้านบาท โดยผูกพันงบประมาณ ข้ามปี พ.ศ. 2553-2555 ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ 1.1 งบประมาณปี พ.ศ. 2553 ใช้งบประมาณจากการปรับแผนงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553 ของกรมทรัพยากรน้ำ จำนวน 200 ล้านบาท 1.2 ผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. 2554 จำนวน 400 ล้านบาท 1.3 ผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. 2555 จำนวน 317 ล้านบาท 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยกรมทรัพยากรน้ำ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน รับไปหารือและตกลงร่วมกันเกี่ยวกับโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการอีก 11 โครงการ รวมทั้งไปพิจารณาถึงขอบเขต บทบาท ภารกิจของหน่วยงานทั้งสองในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้าน นโยบาย การบริหาร การก่อสร้าง และอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการกำหนดภารกิจและการปฏิบัติงานของแต่ ละหน่วยงานต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
35986 | การขยายระยะเวลาการจัดฝึกอบรม ประชุมสัมมนา | กค | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาการจัดฝึกอบรม ประชุมสัมมนา สำหรับส่วนราชการที่ไม่
สามารถดำเนินการได้ภายในเดือนมิถุนายน 2553 เป็นให้ส่วนราชการจัดการฝึกอบรม ประชุมสัมมนาให้แล้วเสร็จ โดยเร็ว และเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินภายในเดือนกันยายน 2553 และให้ส่วนราชการถือปฏิบัติตามแนวทาง ตามที่ รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
35987 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่วัด วัดมังกรบุปผาราม ตำบลพลิ้ว อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... | พศ | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่วัด วัดมังกรบุปผาราม ตำบลพลิ้ว อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ โอนที่วัด วัดมังกรบุปผาราม ตำบลพลิ้ว อำเภอ แหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3) เลขที่ 260/177 เนื้อที่ 2 งาน 50 ตารางวา ให้แก่กรมทางหลวง เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 สายกรุงเทพมหานคร-ตราด ตอน อำเภอเมืองจันทบุรี-อำเภอขลุง และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการ ต่อไปได้ 2. ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาตินำเรื่องนี้เสนอมหาเถรสมาคมทราบ เพื่อให้สอดคล้องกับ บทบัญญัติของกฎหมาย
|
|||||||||||||||||||||||||||
35988 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลสมหวัง และตำบลชะรัด อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลสมหวัง และตำบลชะรัด
อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลสม หวังและตำบลชะรัด อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
35989 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยพะเยา พ.ศ. .... | สผ | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||
35990 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขา
วิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่ กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดย ร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์เพิ่มขึ้น 2. กำหนดสีประจำสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์เพิ่มขึ้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
35991 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขา
วิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไป ได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์เพิ่มขึ้น 2. กำหนดสีประจำสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์เพิ่มขึ้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
35992 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขา
วิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการ ต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาการบัญชี และสาขาวิชาสัตวแพทยศาสตร์ เพิ่มขึ้น 2. กำหนดสีประจำสาขาวิชาการบัญชี และสาขาวิชาสัตวแพทยศาสตร์เพิ่มขึ้น
|
|||||||||||||||||||||||||||
35993 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการรับรองรุ่นการผลิตยาแผนปัจจุบันที่เป็นยาชีววัตถุ พ.ศ. .... | สธ | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการรับรองรุ่นการผลิตยาแผนปัจจุบันที่เป็นยาชีววัตถุ
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ดำเนินการ ต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการยื่นขอรับหนังสือรับรองรุ่นการผลิตยาชีววัตถุจากผู้อนุญาตก่อนออก จำหน่ายหรือส่งมอบให้ผู้ใช้ เว้นแต่กรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อประโยชน์สาธารณะอาจยกเว้นให้ออกจำหน่าย หรือส่งมอบให้ผู้ใช้ก่อนได้ตามสมควร 2. กำหนดสถานที่ที่ยืนคำขอหนังสือรับรองรุ่นการผลิตยาชีววัตถุ และหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาต 3. กำหนดแบบคำขอและหนังสือรับรองรุ่นการผลิตยาชีววัตถุ
|
|||||||||||||||||||||||||||
35994 | การดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สผ | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||
35995 | การดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์พิจารณาร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||
35996 | การแต่งตั้งข้าราชการ (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นายพันธุ์เรือง พันธุหงส์) | นร | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายพันธุ์เรือง พันธุหงส์ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาระบบราชการ
(นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553 ซึ่ง เป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
35997 | รัฐบาลสาธารณรัฐไซปรัสเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นางสาวนัฟซิกา คริสตอส ครูสตี (Ms. Nafsika Chr. Krousti)] | กต | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสาวนัฟซิกา คริสตอส ครูสตี (Ms. Nafsika Chr. Krousti) ให้ดำรง
ตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐไซปรัสประจำประเทศไทยคนใหม่ สืบแทน นาย อันเดรอัส ซีโนนอส (Mr. Andreas Zenonos) โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงนิวเดลี ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
35998 | รายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ประจำปี พ.ศ. 2549 - 2551 เสนอต่อคณะรัฐมนตรี | ยธ | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะผู้บังคับบัญชาสำนักงาน ป.ป.ส. เสนอราย งานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ประจำปี พ.ศ. 2549-2551 และให้เสนอรายงานผลการปฏิบัติ งานดังกล่าวต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป 2. ให้สำนักงาน ป.ป.ส. เร่งรัดจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ประจำปี เสนอ ต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว เพื่อจะได้เสนอคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เป็นปี ๆ ไป |
|||||||||||||||||||||||||||
35999 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของสถาบันการบินพลเรือน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 และ 2551 | คค | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของ
สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 และ 2551 โดยสำนักงานการตรวจ เงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองงบดุล ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 และ 2551 งบรายได้ค่าใช้จ่าย งบแสดง การเปลี่ยนแปลงส่วนของทุน และงบกระแสเงินสดสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของ สบพ. แล้วมีความ เห็นว่า งบการเงินดังกล่าวแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 และ 2551 รายได้ค่าใช้จ่าย การ เปลี่ยนแปลงส่วนของทุน และกระแสเงินสดสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของ สบพ. โดยถูกต้องตามที่ ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
36000 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพิษณุโลก พ.ศ. .... | มท | 22/06/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพิษณุโลก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ
ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลจอมทอง ตำบลปากโทก ตำบลบ้านกร่าง ตำบลหัวรอ ตำบลดอนทอง ตำบล พลายชุมพล ตำบลสมอแข ตำบลบ้านคลอง ตำบลอรัญญิก ตำบลในเมือง ตำบลวัดจันทร์ ตำบลท่าทอง ตำบลบึง พระ ตำบลท่าโพธิ์ ตำบลวัดพริก อำเภอเมืองพิษณุโลก ตำบลวังทอง ตำบลวังพิกุล อำเภอวังทอง และตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือ ชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภคบริการสาธารณะ และ สภาพแวดล้อม ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนิน การต่อไปได้
|
.....