ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1798 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 35941 - 35960 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
35941 | แนวทางให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสมทบงบประมาณแก่กองทุนสวัสดิการชุมชน | พม | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการแนวทางให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สมทบงบประมาณแก่กองทุนสวัสดิ การชุมชน ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1.1 อปท. ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กรุงเทพมหา นคร เมืองพัทยา สามารถจัดตั้งงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานและสมทบกองทุนสวัสดิการชุมชนซึ่งเป็นภารกิจ ของ อปท. ในการสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มต่าง ๆ ในชุมชนที่มีเป้าหมาย เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกกลุ่ม 1.2 การสมทบงบประมาณ โดย อปท. แก่กองทุนฯ เป็นการยึดหลักความเป็นหุ้นส่วนการพัฒนา โดย ประชาชนออม 1 ส่วน อปท. สมทบงบประมาณ 1 ส่วน และรัฐบาล 1 ส่วน โดย อปท. พิจารณาสมทบงบประมาณได้ ตามฐานะการคลังของแต่ละ อปท. 1.3 องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สามารถให้การสนับสนุนงบประมาณให้กับเทศบาล อบต. เพื่อ การสมทบงบประมาณแก่กองทุนสวัสดิการชุมชนได้ โดยปฏิบัติตามระเบียบ หนังสือสั่งการ ตามประกาศคณะกรรม การการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. ที่เกี่ยวข้อง 2. ทั้งนี้ การสนับสนุนหรือการสมทบงบประมาณให้แก่กองทุนฯ ให้เป็นไปตามความสมัครใจของ อปท. แต่ ละแห่ง และให้กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงมหาดไทยรับความ เห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่เห็น ควรจัดระบบความสัมพันธ์ของการจัดสวัสดิการทางสังคมต่าง ๆ ให้เชื่อมโยงและเกื้อกูลกันทั้งระบบสวัสดิการในระดับ ชาติ ระดับท้องถิ่น และระดับชุมชน พร้อมทั้งจัดให้มีกลไกในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาต่อยอดการดำเนินงาน ระหว่างชุมชนเพื่อให้การดำเนินงานของกองทุนฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และควรร่วมกันพิจารณาบูรณาการการ ดำเนินงานของกองทุนฯ และกองทุนฯ เพื่อให้เกิดการส่งเสริมเกื้อหนุนเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ ให้ อบจ. สามารถสมทบงบประมาณแทน อปท. อื่นในจังหวัด ให้กระทำได้ในกรณีที่ อปท. อื่นไม่สามารถให้การสมทบได้ เนื่อง จากมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
||||||||||||||||||||||||
35942 | ขอขยายระยะเวลาดำเนินการมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน | กค | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ 1.1 ขยายระยะเวลาดำเนินมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนออกไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ดังนี้ 1.1.1 มาตรการลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าของครัวเรือน โดยภาครัฐรับภาระค่าใช้จ่ายการใช้ไฟฟ้าสำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือน และสำหรับผู้เช่าอาศัยในอาคารชุดหรือห้องเช่าที่ผู้ประกอบการถูกต้องตามกฎหมายเป็นอาคารชุด หรือห้องเช่าที่มีระดับราคาไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/เดือน และใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยไม่เกิน 90 หน่วย/เดือน/ห้อง และได้ลงทะเบียนไว้กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 1.1.2 มาตรการลดค่าใช้จ่ายเดินทางโดยสารประจำทาง โดยภาครัฐรับภาระค่าใช้จ่ายการจัดรถโดยสารประจำทางธรรมดา จำนวน 800 คันต่อวัน ใน 73 เส้นทาง ให้แก่บริการแก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 1.1.3 มาตรการลดค่าใช้จ่ายเดินทางโดยรถไฟชั้น 3 โดยภาครัฐรับภาระค่าใช้จ่ายการจัดรถไฟชั้น 3 เชิงสังคม จำนวน 164 ขบวนต่อวัน และรถไฟชั้น 3 ระยะทางไกลในขบวนรถเชิงพาณิชย์ จำนวน 8 ขบวนต่อวัน ให้บริการแก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 1.2 ให้รัฐวิสาหกิจซึ่งรับผิดชอบดำเนินมาตรการฯ ได้แก่ กฟน. กฟภ. องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กู้เงินเพื่อชดเชยรายได้จากการดำเนินการตามมาตรการฯ ในช่วงขยายระยะเวลาตามข้อ 1.1 และให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อชำระคืนเงินต้น ดอกเบี้ยเงินกู้ และค่าใช้จ่ายในการกู้เงินให้กับรัฐวิสาหกิจทั้ง 4 แห่งต่อไป 2. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของคณะรัฐมนตรีที่เห็นว่า มาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน เป็นมาตรการระยะสั้นเพื่อช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้มีรายได้น้อยเป็นสำคัญเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่ขยายแล้วมาตรการในบางเรื่องอาจจะปรับลดหรือยกเลิกไปได้ ในขณะที่บางเรื่องอาจจะต้องพิจารณาความจำเป็นที่จะให้คงมีอยู่ต่อไปเพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนในระยะยาวโดยมาตร การเรื่องใดที่เป็นบริการสังคมของรัฐวิสาหกิจ ก็อาจปรับเข้าสู่ระบบการให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ (Public Service Obligation : PSO) ต่อไป ไปพิจารณาด้วย |
||||||||||||||||||||||||
35943 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนาระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. .... | สช | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1.1 ร่างข้อเสนอจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพแห่งชาติ ตามมติคณะ กรรมการสุขภาพแห่งชาติ โดยร่างข้อเสนอฯ มีสาระสำคัญคือ แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง ด้านสุขภาพแห่งชาติขึ้นโดยอาศัยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เป้าหมายภารกิจของคณะกรรมการฯ คือ ข้อเสนอ เชิงนโยบาย เพื่อพัฒนาระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพที่สามารถจัดการกับภาระการเงินการคลังที่เพิ่มขึ้น และ ปฏิบัติได้จริงเพื่อให้มีระบบความยั่งยืน ความมีประสิทธิภาพ และลดความเหลื่อมล้ำของระบบการเงินการคลังด้าน สุขภาพ 1.2 ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนาระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีคณะกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพแห่งชาติ เรียกโดยย่อ คพคช. มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ และมีผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพเป็น กรรมการและเลขานุการ กำหนดองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของ คพคช. และให้มีสำนักงานพัฒนาระบบการ เงินการคลังด้านสุขภาพแห่งชาติเป็นหน่วยงานภายในสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ทำหน้าที่ฝ่ายเลขา นุการของ คพคช. 2. สำหรับงบประมาณเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักงานพัฒนาระบบการเงินการคลังด้านสุข ภาพแห่งชาติตลอดระยะเวลาดำเนินงานของคณะกรรมการ นั้น เนื่องจากสำนักงานฯ มิได้จัดตั้งเป็นหน่วยงานของ รัฐที่มีฐานะเป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณแยกต่างหาก จึงไม่ถือเป็นส่วนราชการหรือรัฐ วิสาหกิจ ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงไม่สามารถจัดสรรงบประมาณ ให้กับสำนักงานฯ ได้โดยตรง แต่สามารถใช้จ่ายจากงบประมาณของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขที่ได้รับจัดสรร งบประมาณรายจ่ายประจำปีเป็นเงินอุดหนุนได้ |
||||||||||||||||||||||||
35944 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิรูป พ.ศ. .... | สช | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติเสนอ ดังนี้ 1.1 ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิรูป พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีคณะกรรม การยุทธศาสตร์การปฏิรูป และคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป กำหนดองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ และให้มีสำนักงานปฏิรูป เป็นหน่วยงานภายในของสำนักงานสุขภาพแห่งชาติ ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานเลขานุการของ คณะกรรมการทั้ง 2 คณะ 1.2 ให้คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติและสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจัดตั้งสำนักงานปฏิรูป ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานเลขานุการ 2. ให้แก้ไขชื่อคณะกรรมการตามหมวด 1 โดยให้ใช้ชื่อว่า "คณะกรรมการปฏิรูป" และให้แก้ไขถ้อยคำในร่าง ระเบียบฯ ให้สอดคล้องกัน แล้วดำเนินการต่อไปได้ สำหรับงบประมาณเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อการปฏิรูป ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานของคณะกรรมการตามระเบียบฯ ให้สำนักงานปฏิรูปรับผิดชอบในการจัดทำแผนการ ปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณให้สอดคล้องกับแนวทางการดำนินงานของคณะกรรมการและเสนอขอตั้งงบ ประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมผ่านสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
35945 | ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ในการจัดซื้อรถยนต์ และเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในราชการของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี | นร | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบและอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ 1.1 ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2550 วันที่ 22 เมษายน 2551 และวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2553 สำหรับจัดซื้อและเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในราชการของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1.1.1 จัดซื้อรถยนต์ในวงเงิน 108,440,000 บาท ประกอบด้วย - รถยนต์ส่วนกลาง จำนวน 32 คัน เป็นเงิน 29,960,000 บาท - รถประจำตำแหน่ง จำนวน 22 คัน เป็นเงิน 78,480,000 บาท 1.1.2 การเช่ารถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ดีเซล จำนวน 3 คัน เพื่อใช้ในภารกิจการรักษาความ ปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2553 โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบดำเนินงาน ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และอนุมัติเป็นหลักการในการขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีตาม ข้อ 1.1 กรณีที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมีภารกิจจำเป็นเร่งด่วนหรือตามนโยบายของรัฐบาลซึ่งจำเป็นจะต้อง เช่ารถยนต์เพื่อใช้ในการปฏิบัติภารกิจนั้น ๆ ด้วย 1.1.3 จัดซื้อรถยนต์ประจำตำแหน่งจุฬาราชมนตรี จำนวน 1 คัน ราคา 4,500,000 บาท โดยให้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีขอแปรญัตติเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 เพื่อเป็นค่าใช้ จ่ายในการจัดซื้อรถประจำตำแหน่งดังกล่าวต่อไป 1.2 เห็นชอบให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดำเนินการเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในราชการของสำนักเลขา ธิการนายกรัฐมนตรีในช่วงก่อนเวลาที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 จะมีผล บังคับใช้ รวมทั้งกรณีที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีไม่สามารถดำเนินการจัดซื้อ/จัดจ้างตามระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ได้ทันภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2553 โดยให้เจียดจ่ายจากงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบดำเนินงาน เพื่อเป็นค่าเช่ารถยนต์ดังกล่าว 2. ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกฎหมายและระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยว ข้องต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
35946 | ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในการจัดซื้อรถยนต์เพื่อใช้ในราชการของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี | นร | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบและอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ 1.1 ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2550 วันที่ 22 เมษายน 2551 และวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2553 สำหรับจัดซื้อและเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในราชการของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1.1.1 จัดซื้อรถยนต์ในวงเงิน 108,440,000 บาท ประกอบด้วย - รถยนต์ส่วนกลาง จำนวน 32 คัน เป็นเงิน 29,960,000 บาท - รถประจำตำแหน่ง จำนวน 22 คัน เป็นเงิน 78,480,000 บาท 1.1.2 การเช่ารถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ดีเซล จำนวน 3 คัน เพื่อใช้ในภารกิจการรักษาความ ปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2553 โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบดำเนินงาน ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และอนุมัติเป็นหลักการในการขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีตาม ข้อ 1.1 กรณีที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมีภารกิจจำเป็นเร่งด่วนหรือตามนโยบายของรัฐบาลซึ่งจำเป็นจะต้อง เช่ารถยนต์เพื่อใช้ในการปฏิบัติภารกิจนั้น ๆ ด้วย 1.1.3 จัดซื้อรถยนต์ประจำตำแหน่งจุฬาราชมนตรี จำนวน 1 คัน ราคา 4,500,000 บาท โดยให้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีขอแปรญัตติเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 เพื่อเป็นค่าใช้ จ่ายในการจัดซื้อรถประจำตำแหน่งดังกล่าวต่อไป 1.2 เห็นชอบให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดำเนินการเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในราชการของสำนักเลขา ธิการนายกรัฐมนตรีในช่วงก่อนเวลาที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 จะมีผล บังคับใช้ รวมทั้งกรณีที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีไม่สามารถดำเนินการจัดซื้อ/จัดจ้างตามระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ได้ทันภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2553 โดยให้เจียดจ่ายจากงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบดำเนินงาน เพื่อเป็นค่าเช่ารถยนต์ดังกล่าว 2. ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกฎหมายและระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยว ข้องต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
35947 | การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 | ยธ | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เป็นกรณีพิเศษ
ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้มีผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่น ไม่เกินร้อยละ 1 ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ที่ไม่มีรายชื่อบุคคล จำนวน 644,384 คน เป็นการเพิ่มเติม ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเสนอ |
||||||||||||||||||||||||
35948 | การประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2553/54 | พณ | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการให้ดำเนินมาตรการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2553/54 โดยวิธีการประกัน รายได้เกษตรกร ตามหลักเกณฑ์ และวิธีดำเนินโครงการประกันรายได้ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณ คีรี) ประธานกรรมการนโยบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เสนอ โดยในส่วนของงบประมาณดำเนินโครงการเป็นค่าบริหารโครง การเหมาจ่ายของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรให้ปรับอัตราเหมาจ่าย จากเดิมคนละ 350 บาท เป็น คนละ 200 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2553/54 2. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการให้ความสำคัญกับขั้นตอนการตรวจสอบพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรอย่าง เคร่งครัดทั้งในขั้นตอนการทำประชาคม การสุ่มตรวจพื้นที่ร้อยละ 10 และการตรวจสอบของหน่วยงานและคณะกรรม การต่าง ๆ รวมทั้งการนำแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้สอบทานข้อมูลการ แจ้งพื้นที่เพาะปลูกและการควบคุมดูแลมิให้เกษตรกรรายใหม่น้ำพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิมาขึ้นทะเบียนเพื่อป้องกันการ บุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
35949 | เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จังหวัดลพบุรีขอใช้สิทธิประกันรายได้ | พณ | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการนโยบายข้าวโพดเลี้ยง สัตว์เสนอ ดังนี้ 1.1 หลักเกณฑ์และวิธีดำเนินการโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2552/53 ข้อ 8.2 กำหนดให้คณะกรรมการนโยบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นผู้พิจารณาผ่อนผันหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีดำเนิน โครงการฯ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ 1.2 การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จังหวัดลพบุรี และจังหวัดอื่น (ถ้ามี) ที่เพาะ ปลูกข้าวโพดในเดือนเมษายน 2552 ที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรและผ่านการประชาคมภายในเดือนกันยายน 2552 ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2552/53 โดยให้ใช้สิทธิรับเงินชดเชย ส่วนต่างราคาตามประกาศคณะอนุกรรมการกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในช่วงระหว่างวันที่ 1-15 ธันวาคม 2552 กิโลกรัมละ 0.58 บาท (ช่วงที่มีราคาส่วนต่างช่วงสุดท้าย) ตามข้อ 2.2.5 เพื่อให้เกษตรกรได้รับ ประโยชน์จากมาตรการประกันรายได้ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล 2. ให้กรมส่งเสริมการเกษตรและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รับความเห็น ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งสำรวจและดำเนินการแก้ไขปัญหา เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จังหวัดลพบุรีให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับเกษตรกรโดยดำเนิน การตรวจสอบการดำเนินการดังกล่าวให้เป็นไปอย่างรัดกุม ชัดเจน และเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวัตถุประสงค์ของ โครงการฯ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
35950 | ขออนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ค่าก่อสร้างอาคารที่ทำการศาล จังหวัดสมุทรสงครามแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว 1 หลัง พร้อมบ้านพักและสิ่งก่อสร้างประกอบ | ศย | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติขยายระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ สำหรับรายการค่าก่อสร้าง
อาคารที่ทำการศาลจังหวัดสมุทรสงครามแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว 1 หลัง พร้อมบ้านพักและสิ่งก่อสร้าง ประกอบ จากเดิมผูกพันงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549-2551 เป็นผูกพันงบประมาณประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2549-2554 ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
35951 | การแต่งตั้งข้าราชการ (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นางจันทร์เพ็ญ ไขว้พันธุ์) | นร | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางจันทร์เพ็ญ ไขว้พันธุ์ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราช
การ (นักพัฒนาระบบราชการทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2552 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
35952 | การแต่งตั้งผู้แทนรัฐบาลไทยเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีถาวรกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส และการชำระค่าใช้จ่ายสมทบในส่วนงานธุรการประจำปีของสำนักเลขาธิการองค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส | กต | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบและอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ 1.1 เห็นชอบการแต่งตั้งเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยโดยตำแหน่ง [เพื่อเป็นผู้ร่วม สังเกตการณ์การประชุมคณะมนตรีถาวรกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (Conseil Permanent de la Francophonie)] และอนุมัติในหลักการให้คณะรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องพิจารณาให้ความเห็นชอบทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงบุคคลที่มา ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส เพื่อประหยัดเวลาในการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในครั้งต่อ ๆ ไป 1.2 เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายสมทบในส่วนงานธุรการ ที่เกิดจากการเข้าร่วมเป็นผู้สังเกตการณ์ของประเทศไทยตามอัตราที่สำนักเลขาธิการองค์การระหว่างประเทศของกลุ่ม ประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเรียกเก็บได้ และอนุมัติในหลักการให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถตั้งงบประมาณรอง รับค่าใช้จ่ายสมทบตามอัตราที่สำนักเลขาธิการองค์การฯ เรียกเก็บตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 เป็นต้นไป 2. งบบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสมทบที่ประเทศไทยต้องชำระในปี พ.ศ. 2552 จำนวน 2,154 ยูโร และ ปี พ.ศ. 2553 จำนวน 2,208 ยูโร ให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้ รับจัดสรรแล้วตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และในปีต่อ ๆ ไปให้เสนอขอรับจัดสรรจากงบประมาณรายจ่าย ประจำปีตามความจำเป็นต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
35953 | การเปิดสถานกงสุลและแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำกรุงพอร์ต-ออฟ-สเปน สาธารณรัฐตรินิแดดและโตเบโก [นางโจน วิลสัน (Ms. Joan Wilson)] | กต | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติเปิดสถานกงสุลประจำกรุงพอร์ต-ออฟ-สเปน สาธารณรัฐตรินิแดดและโตเบโก 2. อนุมัติแต่งตั้งนางโจน วิลสัน (Ms. Joan Wilson) เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำกรุงพอร์ต-ออฟ-สเปน สาธารณรัฐตรินิแดดและโตเบโก
|
||||||||||||||||||||||||
35954 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ครั้งที่ 3) | สสป | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||
35955 | ความคืบหน้าการดำเนินการโครงการช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ไทย | พณ | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานความคืบหน้าการดำเนินการโครงการช่วย
เหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ไทย ระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน 2553 ดังนี้ 1. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ได้เข้าร่วมชี้แจงเกี่ยวกับ หลักเกณฑ์สินเชื่อและกระบวนการขอสินเชื่อให้แก่สมาชิกที่เกี่ยวข้อง ระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน 2553 รวม 1,460 ราย 2. ธพว. จัดกิจกรรมทางการตลาดในระดับภูมิภาค เพื่อประชาสัมพันธ์และให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ พร้อมทั้งบริการรับคำขอกู้ ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2553 มีผู้เข้าร่วมงานรวมทั้งสิ้น 1,905 ราย 3. ธพว. ได้รับคำขอสินเชื่อตามโครงการฯ เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2553 เป็นต้นมา มีผู้ยื่นขอกู้ จำนวน 224 ราย วงเงิน 780.70 ล้านบาท ได้รับอนุมัติสินเชื่อจำนวน 125 ราย วงเงิน 373.75 ล้านบาท และ การเบิกจ่ายเงินกู้ จำนวน 42 ราย เป็นเงิน 116.90 ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
35956 | รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประจำเดือนพฤษภาคม 2553 | อก | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประจำ
เดือนพฤษภาคม 2553 สรุปได้ดังนี้ 1. อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม 1.1 การผลิตผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม คาดว่าจะทรงตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการสั่งซื้อล่วงหน้าจะไม่ กระทบต่อการผลิตมากนัก ส่วนการจำหน่ายและการส่งออกจะลดลง เนื่องจากมีปัจจัยลบที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลง 1.2 สำหรับวิกฤตเศรษฐกิจในหลายประเทศของสหภาพยุโรปจะส่งผลกระทบไม่มากนัก เนื่องจากสิ่งทอ ไทยมีสัดส่วนที่ไม่มาก แต่ต้องระมัดระวังหากวิกฤติขยายวงไปสู่การถดถอยของเศรษฐกิจทั้งกลุ่มสหภาพยุโรปซึ่งเป็น ตลาดหลักส่งออกสิ่งทอของไทยตลาดหนึ่ง 2. อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 2.1 ประมาณการแนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.37 จากการ ปรับตัวเพิ่มขึ้นของเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และเครื่องคอมเพรสเซอร์ 2.2 ประมาณการแนวโน้มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ยังคงมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกันและปรับ ตัวเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 44.40 จากการผลิตเพื่อส่งออก HDD/IC เป็นหลัก
|
||||||||||||||||||||||||
35957 | ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. .... | ลต | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอมติที่ประชุมคณะกรรมการการ
เลือกตั้งที่ขอพิจารณาทบทวนร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณาและคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้ว ดังนี้ 1. ขอให้คงช่องทางการเข้าชื่อเสนอกฎหมายโดยการจัดของคณะกรรมการการเลือกตั้งไว้เช่นเดิมดังเช่นพระ ราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. 2542 บัญญัติไว้ 2. ควรให้มีตัวแทนของผู้เข้าชื่อเสนอกฎหมายเพื่อเป็นผู้ชี้แจงหลักการเหตุผลแห่งร่างพระราชบัญญัติที่เสนอ แก่ประชาชนผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งในขั้นตอนที่ประชาชนไปใช้สิทธิเข้าชื่อ ณ สถานที่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จังหวัดกำหนด 3. ควรให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมให้คณะกรรมการการเลือกตั้งสำหรับจัดทำเอกสารที่ เกี่ยวข้องกับการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย
|
||||||||||||||||||||||||
35958 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดศรีมิ่งแก้ว ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... | พศ | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดศรีมิ่งแก้ว ตำบลเวียง อำเภอ
เมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ โอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดศรีมิ่งแก้ว ตำบล เวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ให้แก่กรมทางหลวง เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1211 สาย ต่อเขตเทศบาลเมืองเชียงรายควบคุม-บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 118 (ดงมะดะ) ตามที่สำนักงานพระพุทธ ศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
35959 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยขอนแก่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขา
วิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยขอนแก่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระ สำคัญคือ กำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาการบัญชี ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และ ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
35960 | การศึกษาผลกระทบทางสังคมของโครงการฝายราษีไศล | กษ | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางสังคมของโครงการฝายราษีไศล และแผนงานป้องกัน แก้ไขและฟื้นฟูผลกระทบตามผลการศึกษา ของสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามที่กระทรวงเกษตร และสหกรณ์เสนอ 2. อนุมัติให้ชะลอการขออนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนตามแนวทางในการป้องกัน แก้ไข และ ฟื้นฟูผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศลเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการดังกล่าวให้เหมาะ สม ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอเพิ่มเติม
|
.....