ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1717 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 34321 - 34340 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
34321 | ปัญหาขาดแคลนผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มดิบ | กษ | 11/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. สถานการณ์ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มปี พ.ศ. ๒๕๕๓ และแนวโน้มปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ๑.๑ ด้านการผลิตและการใช้ ผลผลิตปาล์มน้ำมันในช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม ๒๕๕๓ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ร้อยละ ๑๔ ในขณะที่ความต้องการใช้เพิ่มขึ้นร้อยละ ๗.๐๐ ส่งผลให้สต็อก ณ สิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๓ ลดลงเหลือ ๘๐,๐๖๕ ตันน้ำมันปาล์มดิบ หรือลดลงร้อยละ ๔๒ สำหรับในเดือนมกราคม ๒๕๕๔ คาดว่าผลผลิตปาล์มน้ำมันจะมีปริมาณ ๖๔๖,๖๓๒ ตันทะลาย หรือเทียบเท่ากับ ๑๐๙,๙๒๗ ตันน้ำมันปาล์มดิบ เมื่อรวมกับสต็อก ณ สิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๓ จะมีผลผลิตรวมทั้งสิ้น ๑๘๙,๙๙๓ ตัน คาดว่าจะมีสต็อกคงเหลือ ณ สิ้นเดือนมกราคม ๒๕๕๔ ประมาณ ๗๘,๙๙๓ ตันน้ำมันปาล์มดิบ มีปริมาณสต็อกต่ำกว่าระดับปกติ ๑๒๐,๐๐๐ ตันต่อเดือน ปริมาณ ๔๑,๐๐๗ ตันน้ำมันปาล์มดิบ ๑.๒ ราคาผลปาล์มและน้ำมันปาล์ม ในเดือนธันวาคม ๒๕๕๓ ราคาผลปาล์มสดที่เกษตรกรขายได้ อยู่ที่กิโลกรัมละ ๖.๖๘ บาท ส่วนราคาน้ำมันปาล์มดิบขายส่งในตลาดกรุงเทพ อยู่ที่กิโลกรัมละ ๔๒.๑๓ บาท สำหรับราคาน้ำมันปาล์มดิบในต่างประเทศ อยู่ที่กิโลกรัมละ ๓๕.๒๒ บาท ๒. ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ (ครั้งที่ ๖) เมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๔ ได้มีมติเห็นชอบนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบแยกไข (Crude Palm Olein) ปริมาณ ๓๐,๐๐๐ ตัน โดยนำเข้าให้เสร็จภายในวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๔ และให้องค์การคลังสินค้าเป็นผู้นำเข้าและจัดสรรให้สมาชิกสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม
|
||||||||||||||||||
34322 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 7 มกราคม 2554 | กค | 11/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๔ สรุปได้ ดังนี้
๑. อนุมัติแล้ว จำนวน ๔๒,๖๐๖ โครงการ วงเงิน ๓๔๙,๙๖๐.๔๔ ล้านบาท ๒. การจัดสรร ๒.๑ รอจัดสรร จำนวน ๑,๓๑๖ โครงการ วงเงิน ๑๔,๐๘๗.๗๐ ล้านบาท ๒.๒ จัดสรรแล้ว จำนวน ๔๑,๒๙๐ โครงการ วงเงิน ๓๓๕,๘๗๒.๗๔ ล้านบาท ๓. การจัดซื้อจัดจ้าง ๓.๑ ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ จำนวน ๒,๔๒๗ โครงการ วงเงิน ๑๖,๒๗๐.๐๔ ล้านบาท ๓.๑.๑ ยังไม่เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๑๑๓ โครงการ วงเงิน ๖,๒๐๑.๔๐ ล้านบาท ๓.๑.๒ เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๒,๒๙๔ โครงการ วงเงิน ๑๐,๐๖๘.๖๔ ล้านบาท ๓.๒ ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน ๓๘,๘๖๓ โครงการ วงเงิน ๓๑๙,๖๐๒.๗๐ ล้านบาท ๓.๓ มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน ๓๘,๘๖๓ โครงการ วงเงิน ๓๐๙,๕๘๓.๑๖ ล้านบาท ๔. การดำเนินการ ๔.๑ ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน ๒,๑๗๙ โครงการ วงเงิน ๕๑,๙๕๙.๔๕ ล้านบาท ๔.๒ เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) ๓๒,๒๑๕ โครงการ วงเงิน ๒๑๕,๕๒๐.๔๑ ล้านบาท ๔.๓ เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน ๔,๔๖๙ โครงการ วงเงิน ๔๒,๑๐๓.๓๐ ล้านบาท ๔.๔ เบิกจ่ายทั้งหมด (๔.๒+๔.๓) จำนวน ๓๖,๖๘๔ โครงการ วงเงิน ๒๕๗,๖๒๓.๗๑ ล้านบาท
|
||||||||||||||||||
34323 | สรุปผลการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 | มท | 11/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอสรุปผลการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๔ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาพรวมสถิติอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๔ เกิดอุบัติเหตุทางถนน ๓,๔๙๗ ครั้ง เปรียบเทียบกับช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๓ ซึ่งเกิดอุบัติเหตุทางถนน ๓,๕๓๔ ครั้ง ลดลง ๓๗ ครั้ง คิดเป็นร้อยละ ๑.๐๕ มีผู้เสียชีวิต ๓๕๘ ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ๑๑ ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ๓,๗๕๐ คน ลดลงจากปีก่อน ๗๗ คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก และเชียงราย จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ จังหวัดลพบุรี และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย ๒. การวิเคราะห์การเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๔ พบว่าการเมาสุราเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด โดยมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด รองลงมาคือ รถกระบะ และรถเก๋ง นอกจากนี้ ยังพบว่าพฤติกรรมเสี่ยงที่เกิดจากการไม่สวมหมวกนิรภัยสูงถึงร้อยละ ๒๗.๕๓ ส่วนการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดกฎหมายจราจร พบว่ามีผู้กระทำผิดในกรณีไม่สวมหมวกนิรภัยสูงสุด รองลงมาคือ ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย ตามลำดับ สำหรับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต พบว่ากลุ่มวัยแรงงานบาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุด และ ๑ ใน ๔ ของผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตเป็นเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า ๒๐ ปี
|
||||||||||||||||||
34324 | รายงานผลความคืบหน้าการดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในงาน "6 วัน 63 ล้านความคิด" ร่วมเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 28 กรกฎาคม 2553 | นร | 11/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานผลความคืบหน้าการดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในงาน “๖ วัน ๖๓ ล้านความคิด” ร่วมเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๓ สรุปได้ ดังนี้
๑. คณะกรรมการวิเคราะห์และติดตามผลการรับฟังความคิดเห็นในโครงการ “๖ วัน ๖๓ ล้านความคิด” ได้พิจารณากลั่นกรองข้อมูลการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในงาน “๖ วัน ๖๓ ล้านความคิด” ร่วมเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย จำนวนรวม ๒๙๘ เรื่อง จำแนกเป็น ๒ กรณีคือ กรณีเรื่องราวร้องทุกข์ จำนวน ๑๒๐ เรื่อง และกรณีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย จำนวน ๑๗๘ เรื่อง และได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินการส่งเรื่องราวร้องทุกข์และข้อเสนอแนะ จำนวน ๒๙๘ เรื่อง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม ๒๗ หน่วยงาน รับไปพิจารณาดำเนินการ โดยกรณีเรื่องราวร้องทุกข์ซึ่งเกี่ยวข้องกับ ๒๑ หน่วยงาน ให้หน่วยงานรับไปพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาแล้วรายงานผลการดำเนินงานให้ทราบภายใน ๑๕ วัน หลังจากวันที่ได้รับเรื่องเพื่อจะได้รวบรวมนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป และกรณีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับ ๒๔ หน่วยงาน ให้หน่วยงานรับไว้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ๒. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการส่งเรื่องราวร้องทุกข์และข้อเสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการและเร่งรัดติดตามผลการดำเนินการ โดยกรณีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย จำนวน ๑๗๘ เรื่อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบไว้เป็นข้อมูลเพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้ว ได้แก่ ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ด้านสวัสดิการสังคม ด้านการศึกษา ด้านสาธารณูปโภค ด้านสิ่งแวดล้อมและการบริหารทรัพยากรธรรมชาติ ด้านสื่อและการสื่อสารมวลชน และข้อเสนอแนะอื่น ๆ ส่วนกรณีเรื่องราวร้องทุกข์ จำนวน ๑๒๐ เรื่อง สามารถยุติเรื่องได้ทั้งหมด โดยเป็นการยุติเรื่องโดยมีผลการดำเนินการแล้ว จำนวน ๒๘ เรื่อง ยุติเรื่องโดยอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการแก้ไขปัญหาของส่วนราชการ จำนวน ๘๓ เรื่อง และยุติเรื่องเนื่องจากไม่สามารถดำเนินการได้ จำนวน ๙ เรื่อง
|
||||||||||||||||||
34325 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี (ผู้ตรวจราชการกระทรวง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอำนวย โชติสกุล) | นร | 11/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายอำนวย โชติสกุล ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||
34326 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) (นางเมธินี เทพมณี) | ทก | 11/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางเมธินีร เทพมณี ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ
|
||||||||||||||||||
34327 | แต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (จำนวน 8 คน 1. นายประสงค์ เอี่ยมอนันต์ ฯลฯ) | ทส | 11/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จำนวน ๘ คน ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑ มกราคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ตามที่ประธานกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. นายประสงค์ เอี่ยมอนันต์ (ภาคเอกชน)ประธานกรรมการที่ปรึกษาสมาคมนักผังเมืองไทย (ด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ศิลปกรรมและผังเมือง) ๒. นายสุทิน อยู่สุข (ภาคเอกชน) กรรมการกลางสมาคมวิศวกรรมแห่งประเทศไทย (ด้านมลพิษ) ๓. นายวิเชียร กีรตินิจกาลผู้อำนวยการศูนย์วิชาการเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตรแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ๔. นายพนัส ทัศนียานนท์ นักวิชาการอิสระ (ด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อม) ๕. นายสันทัด สมชีวิตา (ภาคเอกชน)กรรมการมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (ด้านบริหารจัดการ) ๖. นายพยุง นพสุวรรณ (ภาคเอกชน)รองประธานมูลนิธิรักษ์โลก (ด้านทรัพยากรป่าไม้) ๗. รองศาสตราจารย์ ศิรินธรา สิงหรา ณ อยุธยาหัวหน้าภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี (ด้านสาธารณสุขและสุขภาพ) ๘. นางสาวแสงจันทร์ ลิ้มจิรกาลผู้อำนวยการหลักสูตรสหสาขาวิชาสิ่งแวดล้อม การพัฒนา และความยั่งยืน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ด้านความหลากหลายทางชีวภาพและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ)
|
||||||||||||||||||
34328 | รายงานผลการติดตามการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ : การแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน | นร | 11/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการประสานงานและขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (ปคค.) โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) รายงานผลการดำเนินการตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง การแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ที่ได้รับมอบหมายตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๓ โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดให้ช่วงปี พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๖๓ เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน โดยมีเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ให้ต่ำกว่า ๑๐ คน ต่อประชากรหนึ่งแสนคน และจัดทำโครงการปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริมการสวนหมวกนิรภัย ๑๐๐% ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อบูรณาการทุกภาคส่วนในการรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยในขณะขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์ รวมทั้งได้เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พ.ศ. ... เพื่อกำหนดโครงสร้าง หน้าที่ของคณะกรรมการทั้งในระดับชาติ ระดับพื้นที่ เพื่อให้การดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง และบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สำหรับการจัดให้มีการเก็บภาษีรถจักรยานยนต์ในอัตราที่เหมาะสมตามขนาดเครื่องยนต์ (ซีซี) และการกำหนดแบบและมาตรฐานทางสัญจรและทางเท้าที่เอื้อต่อความปลอดภัยและความสะดวกของผู้ใช้ทุกกลุ่ม ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ศปถ. เพื่อพิจารณามอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป ๒. กระทรวงคมนาคมได้เสนอร่างกฎกระทรวง กำหนดลักษณะ หรือการจัดให้มีอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการสำหรับคนพิการในโครงสร้างพื้นฐานและในระบบการขนส่งสาธารณะ พ.ศ. .... ขณะนี้อยู่ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา และในส่วนของกรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างพิจารณาแก้ไขปรับปรุงประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีตรวจหรือทดสอบสารอันเกิดจากการเมาสุราและกำหนดเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจตรวจหรือทดสอบหรือสั่งให้ผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถในขณะปฏิบัติหน้าที่รับการตรวจหรือทดสอบ พ.ศ. ๒๕๔๐ ซึ่งอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็น ตลอดจนศึกษาข้อมูลวิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของระดับแอลกอฮอล์กับอุบัติเหตุ สำหรับการกำหนดแบบและมาตรฐานรถโดยสารสาธารณะเพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ศปถ. เพื่อพิจารณามอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||
34329 | แต่งตั้งข้าราชการการเมืองตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายอร่ามอาชว์วัต โล่ห์วีระ) | พน | 11/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายอร่ามอาชว์วัต โลห์วีระ เป็นข้าราชการการเมืองตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แทนนายอุทัย มิ่งขวัญ ที่ลาออก ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||
34330 | มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2553 (ครั้งที่ 133) | พน | 11/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและรับทราบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในการประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๕๓ (ครั้งที่ ๑๓๓) เมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๓ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดยที่ประชุม กพช. มีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการไซยะบุรี และให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการไซยะบุรีกับผู้ลงทุนต่อไป โดยมีเงื่อนไขว่า โครงการฯ ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการลุ่มน้ำโขง (MRC) ตามกระบวนการข้อตกลงของประเทศสมาชิกในลุ่มแม่น้ำโขง (Agreement on the Cooperative for the Sustainable Development of the Mekong River Basin 5 April 1995) แล้ว รวมทั้งร่างสัญญาฯ ได้ผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานอัยการสูงสุด โดยหากจำเป็นต้องมีการแก้ไขร่างสัญญาฯ ที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ไม่จำเป็นต้องนำกลับมาเสนอขอความเห็นชอบจาก กพช. อีก ทั้งนี้ ให้กระทรวงพลังงาน และ กฟผ. เปิดเผยข้อมูลโครงการนี้ต่อสาธารณะชน และเห็นชอบให้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการไซยะบุรีใช้เงื่อนไขการระงับข้อพิพาทโดยวิธีการอนุญาโตตุลาการของสถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักระงับข้อพิพาท สำนักงานศาลยุติธรรมประเทศไทย และดำเนินการที่กรุงเทพฯ โดยใช้ภาษาไทย และเมื่อ กพช. ให้ความเห็นชอบแล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ ๒.เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในวงเงินประมาณ ๕,๐๐๐ ล้านบาท ในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน ๓๐ บาท/ลิตร เป็นการชั่วคราวประมาณ ๒ - ๓ เดือน โดยให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) รับไปดำเนินการ และถ้าหากราคาน้ำมันตลาดโลกยังปรับตัวเพิ่มขึ้น และเงินกองทุนน้ำมันฯ ในวงเงิน ๕,๐๐๐ ล้านบาทไม่เพียงพอ ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงานร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม และให้นำเสนอ กพช. ให้การพิจารณาต่อไป ๓. เห็นชอบแนวทางในการแก้ไขปัญหาก๊าซปิโตรเลียม (LPG) ด้านการจัดหา โดยเพิ่มแรงจูงใจให้โรงกลั่นน้ำมันนำก๊าซ LPG ที่จำหน่ายให้กับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และใช้ในกระบวนการกลั่น (Own Used) มาจำหน่ายเป็นเชื้อเพลิงให้กับประชาชนและเพิ่มการผลิตก๊าซ LPG ให้มากขึ้น และมอบหมายให้กระทรวงพลังงาน และ ปตท. ดำเนินการศึกษาจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการนำเข้า LPG ในอนาคต เช่น ท่าเรือ คลัง และระบบขนส่ง เป็นต้น
|
||||||||||||||||||
34331 | มาตรการภาษีสำหรับเงินบริจาคเข้ากองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ที่กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งขึ้น | กค | 11/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบมาตรการภาษีสำหรับเงินบริจาคเข้ากองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งขึ้น ดังนี้ ๑.๑ กรณีบุคคลธรรมที่มีการบริจาคเงินเข้ากองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ที่กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งขึ้น สามารถนำมาหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีได้สองเท่า แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาตามโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ ๑๐ ของเงินได้สุทธิ ๑.๒ กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีการบริจาคเงินเข้ากองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ที่กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งขึ้น มีสิทธินำรายจ่ายดังกล่าวมาเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้สองเท่า แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาตามโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบ และรายจ่ายในการจัดสร้างและบำรุงรักษาสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬาของเอกชนที่เปิดให้ประชาชนใช้เป็นการทั่วไปโดยไม่เก็บค่าบริการทั่วไป หรือสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬาของทางราชการแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ ๑๐ ของกำไรสุทธิ ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นจำนวนสองเท่าของจำนวนเงินที่บริจาคให้กับกองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ที่กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งขึ้น และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
34332 | สถานการณ์และราคาจำหน่ายน้ำมันพืชปาล์ม | พณ | 11/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสถานการณ์และราคาจำหน่ายน้ำมันพืชปาล์ม สรุปได้ดังนี้ ๑.๑ ราคาผลปาล์มดิบและน้ำมันปาล์มดิบในเดือนธันวาคม ๒๕๕๓ อยู่ที่กิโลกรัมละ ๗.๖๐ บาท และ ๔๗.๓๕ บาท เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูการผลิต ประกอบกับเกิดภาวะภัยแล้งในช่วงต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๓ และน้ำท่วมในช่วงปลายปี ทำให้ผลผลิตปาล์มลดลง ในขณะที่ความต้องการใช้ในภาคการบริโภค ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมทั้งการใช้ในภาคพลังงานทดแทนเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้สต็อคคงเหลือน้ำมันปาล์มดิบของเดือนธันวาคม ๒๕๕๓ ลดลงอยู่ที่ประมาณ ๘๐,๐๐๐ ตัน จากปกติที่ควรอยู่ในระดับ ๑๒๐,๐๐๐ - ๑๕๐,๐๐๐ ตัน ๑.๒ ราคาจำหน่ายน้ำมันพืชปาล์ม กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดราคาจำหน่ายปลีกแนะนำน้ำมันพืชปาล์มไว้ที่ขวดลิตรละ ๓๘.๐๐ บาท ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๑ แต่จากการที่ราคาวัตถุดิบในปัจจุบันสูบขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถจำหน่ายน้ำมันพืชปาล์มได้ในราคาที่กำหนดขวดลิตรละ ๓๘.๐๐ บาท ๑.๓ การแก้ไขปัญหา กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดราคาจำหน่ายน้ำมันพืชปาล์มที่ขวดลิตรละ ๔๗.๐๐ บาท โดยใช้ราคาน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ตลาดมาเลเซียที่จะมีการนำเข้ามาเป็นฐานในการคำนวณที่ประมาณกิโลกรัมละ ๓๖.๕๑ บาท รวมค่าใช้จ่ายในการนำเข้ากิโลกรัมละ ๑.๕๐ บาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๔ เป็นต้นไป รวมทั้งเจรจากับห้างค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่พิจารณาลดค่าใช้จ่ายในการกระจายน้ำมันพืชปาล์มเพื่อให้สามารถจำหน่ายในราคาไม่เกินขวดลิตรละ ๔๗.๐๐ บาท ๒. เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำมันพืชปาล์มทั้งในระยะสั้นและระยะยาวเป็นไปอย่างเป็นระบบ ให้กระทรวงพาณิชย์จัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเสนอคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติพิจารณาโดยเร็วต่อไป
|
||||||||||||||||||
34333 | รายงานผลการดำเนินงานตามโครงการผลไม้ไทยคุณภาพสู่การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 | กษ | 04/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการดำเนินงานตามโครงการผลไม้ไทยคุณภาพสู่การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ ๑๖ โดยมีผลการดำเนินงานสรุปได้ ดังนี้
๑. ดำเนินการคัดเลือกสวนที่มีมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพ : การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืช (Good Agriculture Practices : GAP) และเข้าร่วมโครงการผลิตผลไม้คุณภาพสู่การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ ๑๖ ซึ่งจัดขึ้น ณ นครกวางโจย มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวัน ๑๒ - ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ รวมจำนวน ๑๑ สวน เพื่อผลิตผลไม้จำนวน ๑๐ ชนิด ปริมาณ ๕ ตัน ประกอบด้วย ทุเรียน ลำไย มะม่วงน้ำดอกไม้ มังคุด ส้มโอ มะพร้าวอ่อน กล้วยไข่ ชมพู่ ฝรั่ง และมะขามหวาน ๒. นำคณะเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานตรวจสอบคุณภาพของการนำเข้าผลไม้ (China Entry-Exit Inspection and Quarantine : CIQ) มณฑลกวางตุ้ง เพื่อศึกษาดูงานเกี่ยวกับกระบวนการผลิตสวนไม้ผลคุณภาพตามมาตรฐาน GAP ในเขตพื้นที่จังหวัดนครปฐม ราชบุรี สระแก้ว และโรงคัดบรรจุผลไม้ที่ตลาดไทย จังหวัดปทุมธานี ๓. จัดพิธีส่งมอบผลไม้ไทยคุณภาพเพื่อสนับสนุนการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ ๑๖ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ส่งมอบผลไม้ไทยอย่างเป็นทางการให้กับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ๔. ดำเนินการตรวจสอบและรับรองคุณภาพผลไม้ และได้จัดส่งทางอากาศไปให้กับคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ ๑๖ ณ นครกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยในการส่งครั้งนี้ได้มีการส่งข้าวหอมมะลิไทยไปด้วยอีก จำนวน ๓ ตัน เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับข้าวหอมมะลิไทยเพิ่มขึ้นด้วย
|
||||||||||||||||||
34334 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ในท้องที่จังหวัดตาก และจังหวัดลำปาง จำนวน 5 ฉบับ | กษ | 04/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา จำนวน ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแม่กุ ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด และตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแม่กุ ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด และตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลปงเตา ตำบลนาแก ตำบลบ้านอ้อน ตำบลหลวงใต้ และตำบลบ้านโป่ง อำเภองาว จังหวัดลำปาง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลปงเตา ตำบลนาแก ตำบลบ้านอ้อน ตำบลหลวงใต้ และตำบลบ้านโป่ง อำเภองาว จังหวัดลำปาง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกากรณีร่างพระราชกฤษฎีกาตามข้อ ๑ มีแนวเขตปฏิรูปที่ดินบางส่วนอยู่ในพื้นที่ควรสงวนไว้ไม่นำไปปฏิรูปที่ดิน สมควรที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมต้องประสานกับกรมป่าไม้เมื่อจะเข้าดำเนินการปฏิรูปที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||
34335 | การใช้เกณฑ์มาตรฐานและตัวชี้วัดความโปร่งใสที่กำหนดภายใต้พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ของหน่วยงานภาครัฐ | นร | 04/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอเรื่อง การใช้เกณฑ์มาตรฐานและตัวชี้วัดความโปร่งใสที่กำหนดภายใต้พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ เพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ นำไปทดลองปฏิบัติเพื่อให้การบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารและการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานและตัวชี้วัดอย่างมีมาตรฐานและแนวทางเดียวกัน รวมทั้งให้หน่วยงานสามารถประเมินผลการดำเนินการตามมาตรฐานและตัวชี้วัดโดยอัตโนมัติของตนเองได้จากระบบการประเมินผลตัวชี้วัด (KPI Management) ที่สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการสร้างขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนสามารถตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะจัดให้มีโครงการหน่วยงานนำร่องในการปฏิบัติตามเกณฑ์มาตรฐานและตัวชี้วัดดังกล่าวก่อน โดยเปิดรับสมัครหน่วยงานนำร่องและทำการอบรมให้ความรู้อย่างเข้มข้นเกี่ยวกับเกณฑ์มาตรฐานตัวชี้วัดความโปร่งใส และระบบสารสนเทศในการบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารตามเกณฑ์มาตรฐานและตัวชี้วัดความโปร่งใสภายใต้พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ที่จัดทำขึ้น เพื่อให้หน่วยงานนำร่องมีความรู้ความเข้าใจและสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง และสามารถรายงานผลการปฏิบัติตามเกณฑ์มาตรฐานผ่านระบบสารสนเทศฯ ได้ รวมทั้งได้พิจารณากำหนดให้หน่วยงานที่สมัครใจเป็นหน่วยงานนำร่องที่สามารถดำเนินการตามเกณฑ์มาตรฐานและตัวชี้วัดความโปร่งใสฯ ได้เกินระดับที่กำหนดในแต่และเกณฑ์มาตรฐานครบ ๑ ปี เป็นหน่วยงานที่จะได้รับโล่รางวัล โดยนายกรัฐมนตรีเป็นผู้มอบรางวัล ๒. เห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายองอาจ คล้ามไพบูลย์) พิจารณาทบทวนอุปสรรคและปัญหาในการดำเนินการตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ ว่า สมควรจะต้องดำเนินการปรับปรุงพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ หรือไม่ และอย่างไร ส่วนดัชนีชี้วัดความโปร่งใสที่กำหนดภายใต้พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ ให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รับไปประกอบการพิจารณาเพื่อทบทวนและปรับปรุงตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้อง เพื่อมิให้เกิดความซ้ำซ้อน หรือไม่สอดคล้องกันด้วย
|
||||||||||||||||||
34336 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 04/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร พ.ศ. ๒๕๒๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้ยกเลิกมาตรา ๘ ตรี แห่งพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร พ.ศ. ๒๕๒๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๘ เพื่อให้ผู้มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรได้รับสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมจากทางราชการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
34337 | การปรับปรุงสวัสดิการเกี่ยวกับการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลพนักงาน สำนักงานธนานุเคราะห์ | พม | 04/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ในการประชุมครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้
๑. ปรับปรุงค่าห้องและค่าอาหารในการเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของทางราชการและสถานพยาบาลของเอกชนสำหรับพนักงาน จากเดิมเบิกได้ ๘๐๐ บาท/วัน เป็นเบิกได้ ๑,๐๐๐ บาท/วัน และบุคคลในครอบครัว จากเดิมเบิกได้ ๖๐๐ บาท/วัน เป็นเบิกได้ ๘๐๐ บาท/วัน ๒. ให้พนักงานมีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกในกรณีที่ได้รับอันตรายแก่กายหรือเจ็บป่วย ให้ใช้สถานพยาบาลเอกชนหรือคลินิกแพทย์ ได้ครั้งละไม่เกิน ๕๐๐ บาท รวมปีละไม่เกิน ๓,๖๐๐ บาท
|
||||||||||||||||||
34338 | รายงานผลการกู้เงิน Short term facility สำหรับรัฐวิสาหกิจ วงเงินไม่เกิน 200,000 ล้านบาท | กค | 04/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการกู้เงิน Short term facility สำหรับรัฐวิสาหกิจ วงเงินไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ ล้านบาท โดยดำเนินการจัดทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการจัดหา Short term facility สำหรับรัฐวิสาหกิจกับสถาบันการเงิน จำนวน ๖ แห่ง เมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๒ วงเงินรวม ๒๐๐,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อให้รัฐวิสาหกิจสามารถกู้เงินระยะสั้นได้โดยตรงเพื่อเป็นการเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารและจัดการการกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาหกิจ โดยมีโครงสร้าง การดำเนินการ ตลอดจนวิธีการสอดคล้องกับความต้องการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจ รวมถึงสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการจัดสรรการกู้เงินของภาครัฐไม่ให้เกิดภาวการณ์กระจุกตัวในช่วงเวลาใด เวลาหนึ่งได้ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการจัดสรรเงินกู้ Short term facility ไปแล้วเป็นจำนวน ๑,๐๐๐ ล้านบาท ให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทย โดยกระทรวงการคลังค้ำประกันเต็มจำนวน ดังนั้น ยอดเงินกู้ดังกล่าวจึงมีวงเงินคงเหลือเท่ากับ ๑๙๙,๐๐๐ ล้านบาท
|
||||||||||||||||||
34339 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรออมทรัพย์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ครั้งที่ 2 ที่ครบกำหนดในวันที่ 15 กันยายน 2553 | กค | 04/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรออมทรัพย์ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ ครั้งที่ ๒ ที่ครบกำหนดในวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๓ จำนวน ๕,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้จำนวนดังกล่าวทั้งหมด โดยกู้เงินระยะยาวโดยตั๋วสัญญาใช้เงินอายุ ๖ ปี จำนวน ๕,๐๐๐ ล้านบาท จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ย BIBOR ลบ Spread ร้อยละ ๐.๐๙ ต่อไป
|
||||||||||||||||||
34340 | ผลการเดินทางเยือนประเทศบรูไนดารุสซาลาม (ระหว่างวันที่ 30 กันยายน - 3 ตุลาคม 2553) | นร | 04/01/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอผลการเดินทางเยือนประเทศบรูไนดารุสซาลาม ของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายองอาจ คล้ามไพบูลย์) ระหว่างวันที่ ๓๐ กันยายน - ๓ ตุลาคม ๒๕๕๓ ณ กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน ประเทศบรูไนดารุสซาลาม เพื่อเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนนตรีของไทยได้กราบบังคมทูลว่าไทยและบรูไนฯ มีการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและการศึกษาระหว่างกันอยู่บ้าง มีนักศึกษาไทยมาศึกษาที่ University of Brunei Darussalam (UBD) และได้เข้าพบหารือกับรัฐมนตรีช่วยประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลงานด้านสารนิเทศและการกระจายเสียงบรูไนดารุสซาลามในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ การรับนักศึกษาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยมาร่วมโครงการแลกเปลี่ยนในบรูไนฯ โดยพำนักกับครอบครัวชาวบรูไนฯ การขยายความร่วมมือด้านฝึกอบรมการผลิตสื่อต่าง ๆ และความเป็นไปได้ในการจัดทำโครงการส่งรายการโทรทัศน์ต่าง ๆ โดยเฉพาะละครไทยมาออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์บรูไนฯ ทั้งนี้ ในช่วงการเยือนประเทศบรูไนฯ นายอเนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมประชาสัมพันธ์ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการเทคนิคร่วมไทย-บรูไนดารุสซาลาม ครั้งที่ ๙ (9th Thai - Brunei Joint technical Committee Meeting - JTC) ระหว่างวันที่ ๑ - ๒ ตุลาคม ๒๕๕๓ ซึ่งการประชุมดังกล่าวกำหนดจัดขึ้นปีละครั้งเพื่อทบทวนและประเมินผลการปฏิบัติงานโครงการความร่วมมือด้านวิทยุ โทรทัศน์ ข่าว และสารสนเทศในปีที่ผ่านมา รวมทั้งพิจารณาโครงการและกิจกรรมที่จะทำร่วมกันในปีต่อไป โดยรัฐบาลบรูไนฯ เน้นความสำคัญเรื่องความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในการแพร่ภาพและกระจายเสียงระบบดิจิตอลของอาเซียน โดยได้ทดลองออกอากาศโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (DVB-T) เมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๒ ทั้งนี้ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยเสนอให้ทั้งสองฝ่ายหารือในเรื่องนี้ต่อในการประชุมครั้งที่ ๑๐ โดยเฉพาะในเรื่องของบุคลากรด้านเทคนิค
|
.....