ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1663 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 33241 - 33260 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
33241 | ขออนุมัติวงเงินรายการก่อสร้างทางต่างระดับถนนพัฒนาการ - ถนนอ่อนนุช | มท | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติวงเงินค่าก่อสร้างทางต่างระดับถนนพัฒนาการ - ถนนอ่อนนุช จำนวน ๘๘๗,๘๔๘,๗๘๑บาท มีสัดส่วนงบประมาณของกรุงเทพมหานครร้อยละ ๓๐ จำนวน ๒๖๖,๓๕๔,๖๓๔ บาท และเงินอุดหนุนรัฐบาลร้อยละ ๗๐ จำนวน ๖๒๑,๔๙๔,๑๔๗ บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๙ จำนวน ๑๔๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๑ จำนวน ๑๓๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือจำนวน ๓๔๖,๔๙๔,๑๔๗ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ - พ.ศ. ๒๕๕๖ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง จำนวน ๒๓,๐๓๖,๕๖๕ บาท ให้ใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานคร
|
|||||||||||||||||||||||||||
33242 | ข้อเสนอเพื่อพิจารณาการกำหนดค่าตอบแทนกำลังคนด้านการสาธารณสุข | สธ | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการการกำหนดค่าตอบแทนกำลังคนด้านการสาธารณสุข ซึ่งประกอบด้วย ๓ ส่วนหลักการสำคัญ คือ ส่วนที่ ๑ เป็นเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง ส่วนที่ ๒ เป็นค่าตอบแทนตามระดับวิชาชีพและความแตกต่างของระดับพื้นที่ และส่วนที่ ๓ เป็นค่าตอบแทนตามภาระและผลการปฏิบัติงาน โดยให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการจ่ายค่าตอบแทนควรมีความเหมาะสมกับภาระงานและเพียงพอที่จะจูงใจให้บุคลากรอยู่ในระบบพร้อมทั้งพิจารณาปรับปรุงสิ่งจูงใจอื่น ๆ เช่น โครงสร้างระบบการบริหาร ความก้าวหน้าสายงาน การมีตำแหน่งราชการรองรับ กฎระเบียบที่เอื้อต่อการปฏิบัติงาน ระบบสวัสดิการพื้นฐานที่เหมาะสม ทั้งสถานที่ ความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน เป็นต้น ทั้งนี้ ควรมีการกำหนดตัวชี้วัดประสิทธิภาพของงานในแต่ละระดับบริการให้ชัดเจน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อเป็นค่าตอบแทนกำลังคนด้านการสาธารณสุข จำนวน ๔,๒๐๐ ล้านบาท โดยให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๓ (เรื่อง ข้อเสนองบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔) ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ สำหรับวงเงินงบประมาณ จำนวน ๔,๒๐๐ ล้านบาท ให้กระทรวงสาธารณสุขปรับแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ของกระทรวงสาธารณสุขก่อน หากไม่เพียงพอให้เบิกจ่ายจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยให้กระทรวงสาธารณสุขทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ๓. อนุมัติในหลักการให้มีการตั้งกรรมการเพื่อศึกษาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเกี่ยวกับการกำหนดค่าตอบแทนกำลังคนด้านการสาธารณสุข ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ. เกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาค่าตอบแทนสำหรับกำลังคนด้านการสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษ และในพื้นที่ที่มีปัญหาความขาดแคลน ควรบูรณาการเป็นคณะเดียวกันเพื่อให้มีการประสานแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างมีเอกภาพ รวมทั้งให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันศึกษาวิเคราะห์เพื่อพิจารณาปรับค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุขให้มีความเหมาะสม เป็นธรรม โดยคำนึงถึงภาระงบประมาณของภาครัฐในภาพรวม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๔. ให้กระทรวงสาธารณสุขขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ รองรับตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
33243 | โครงการทศวรรษการผลิตและพัฒนากำลังคนในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล พ.ศ. 2555 - 2564 | สธ | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการโครงการทศวรรษการผลิตและพัฒนากำลังคนในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๖๔ โดยมีเป้าหมายการผลิตบุคลกรจำนวนมาก ประกอบด้วย พยาบาลวิชาชีพ นักวิชาการสาธารณสุข (ทันตสาธารณสุข) นักวิชาการสาธารณสุข นักการแพทย์แผนไทย และพยาบาลเวชปฏิบัติ เพื่อปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๒. โดยที่โครงการฯ ตามข้อ ๑ เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ใช้ระยะเวลาดำเนินการถึง ๑๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๖๔) รวมทั้งจะใช้เงินงบประมาณจำนวนมาก จึงมอบให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสำนักงาน ก.พ. สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดทำแผนการดำเนินงานของโครงการฯ โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ และคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการเกี่ยวกับการจัดระบบสนับสนุนในการทำงานที่เหมาะสมควบคู่กับการผลิตบุคลากรเพิ่มเพื่อสร้างแรงจูงใจให้บุคลากรสามารถคงอยู่ในระบบและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การจัดให้มีตำแหน่งข้าราชการรองรับ มีระบบสวัสดิการ และค่าตอบแทนที่เหมาะสม เป็นต้น การวางระบบความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career path) โดยเปิดโอกาสให้บุคลากรด้านสาธารณสุขทุกประเภทมีโอกาสพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง การประสานความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีศักยภาพและความพร้อมในการสนับสนุนงบประมาณสำหรับการผลิตและพัฒนาบุคลากรโดยคำนึงถึงคนในพื้นที่เป็นหลัก รวมทั้งการทบทวนบทบาทภารกิจของ รพ.สต. เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๕๒ ที่กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบภารกิจด้านสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน การสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การฟื้นฟูสภาพ และการรักษาพยาบาลเบื้องต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
33244 | ขอเงินงบกลางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยศัตรูพืชระบาด (โรคไหม้คอรวง) | กษ | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กรมส่งเสริมการเกษตรเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในวงเงิน ๔๓๙,๓๓๙,๘๕๐ บาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยศัตรูพืชระบาด (โรคไหม้คอรวง) ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ร้อยเอ็ด และอุบลราชธานี โดยให้จัดสรรงบประมาณดังกล่าวให้แก่กระทรวงการคลัง (ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) เบิกจ่ายงบประมาณให้แก่เกษตรกรผู้ประสบภัยโดยตรง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้เบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุนประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร ตรวจสอบและรับรองข้อมูลเกี่ยวกับผู้ประสบภัย ช่วงเวลาที่ประสบภัยและจำนวนพื้นที่ที่ประสบภัยกับพื้นที่ที่จะให้การช่วยเหลือให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริง แล้วขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
33245 | ขอความเห็นชอบวงเงินโครงการใหม่ พร้อมขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ | มท | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบและอนุมัติให้กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) ดำเนินการและก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเฉพาะโครงการก่อสร้างอาคาร Futsal Stadium บริเวณที่ดินศูนย์ฝึกอบรมข้าราชการ กรุงเทพมหานคร เขตหนองจอก วงเงินโครงการ ๑,๒๓๙,๔๖๔,๐๐๐ บาท โดยใช้เงินอุดหนุนจากรัฐบาลร้อยละ ๑๐๐ ระยะเวลาดำเนินการ ๓ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๖) ส่วนรายละเอียดงบประมาณในการดำเนินการให้กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) ไปตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและคุ้มค่าในการลงทุนให้กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) จัดทำแผนการใช้ประโยชน์ของอาคาร Futsal Stadium ร่วมกับการกีฬาแห่งประเทศไทยภายหลังการเสร็จสิ้นการแข่งขันด้วย ๒. ส่วนโครงการก่อสร้างถนนศรีนครินทร์ - ร่มเกล้า ให้คงหลักการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ (เรื่อง ขออนุมัติเพิ่มวงเงินขยายระยะเวลาโครงการ เปลี่ยนชื่อ และผูกพันงบประมาณข้ามปี จำนวน ๑๓ โครงการ) |
|||||||||||||||||||||||||||
33246 | เสนอขอจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินแผนงานด้านผู้ค้าหาบเร่ - แผงลอย ตามโครงการประชาวิวัฒน์ และขอสนับสนุนงบประมาณดำเนินโครงการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ (มอเตอร์ไซค์วิน) | นร | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการจัดสรรงบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๘,๘๕๐,๐๐๐ บาท เพื่อดำเนินแผนงานด้านผู้หาบเร่ - แผงลอย ตามโครงการประชาวิวัฒน์ และสนับสนุนงบประมาณดำเนินโครงการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ (มอเตอร์ไซค์วิน) โดยเบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อาชีพผู้ค้าหาบเร่แผงลอย จำนวน ๑๑,๗๐๐,๐๐๐ บาท ประกอบด้วย ๑.๑.๑ โครงการทำให้จุดการค้านำร่องให้เป็นเสน่ห์ของเมือง จำนวน ๒๖ จุด เป็นเงิน ๑๐,๔๐๐,๐๐๐ บาท ๑.๑.๒ โครงการทำจุดผ่อนผันเป็นประชาคมเข้มแข็ง จำนวน ๖๖๗ จุด เป็นเงิน ๑,๓๐๐,๐๐๐ บาท ๑.๒ อาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ จำนวน ๗,๑๕๐,๐๐๐ บาท ประกอบด้วย ๑.๒.๑ โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ที่ตั้งวิน “วินในฝัน” จำนวน ๕๐ จุด จุดละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท เป็นเงิน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๑.๒.๒ โครงการ “รถจักรยานยนต์รับจ้างอาสาสมัครพิทักษ์เมือง” จำนวน ๑๕,๐๐๐ คน เป็นเงิน ๒,๑๕๐,๐๐๐ บาท ๒. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) และกระทรวงกลาโหมเร่งรัดตรวจสอบและแก้ไขปัญหาผู้มีอิทธิพลข่มขู่ผู้เข้าร่วมโครงการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ (มอเตอร์ไซค์วิน) หากพบว่าผู้มีอิทธิพลดังกล่าวปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐใด ให้แจ้งหน่วยงานนั้น เพื่อดำเนินการลงโทษตามกฎหมายและระเบียบวินัยที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัดต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
33247 | การแต่งตั้งกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ | อส | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งนายเกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์ เป็นกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการอัยการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
33248 | ขออนุมัติปรับอัตราค่าเบี้ยเลี้ยงสนามของอาสาสมัครทหารพราน | กห | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ดังนี้
๑. ปรับอัตราค่าเบี้ยเลี้ยงสนามของอาสาสมัครทหารพราน จากเดิมอัตรา ๕๕.- บาทต่อคนต่อวัน เป็น ๑๒๐.- บาทต่อคนต่อวัน ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นไป ๒. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เพิ่มเติม งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้กับกองทัพบก จำนวน ๑๕๐,๘๙๕,๔๘๕.- บาท และกองทัพเรือ จำนวน ๒๑,๑๖๒,๙๖๐.- บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
33249 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 2/2554 | นร | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ ๒/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๔ ตามที่ กพต. เสนอ โดยที่ประชุม กพต. มีมติในเรื่องต่าง ๆ สรุปได้ ดังนี้
๑. รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการ กพต. ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๔ จำนวน ๓ เรื่อง ประกอบด้วย ระเบียบ ประกาศที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๓ จำนวน ๓ ฉบับ แผนปฏิบัติการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๗ และความก้าวหน้าการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมโครงการในพื้นที่พิเศษ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน ๘ โครงการ ๒. รับทราบผลการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (อชต.) ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๔ ประกอบด้วย เรื่องที่ อชต. พิจารณา จำนวน ๑๒ เรื่อง เรื่องที่ อชต. รับทราบ ๕ เรื่อง ๓. รับทราบผลการประชุมคณะทำงานส่งเสริมการค้า การลงทุน และการพัฒนาด่านชายแดนไทย - มาเลเซีย ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๔ ประกอบด้วย การกำหนดแนวทางและขั้นตอนการจัดทำแผนการส่งเสริมด้านการค้า และการลงทุนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ใน ๔ ประเด็น คือ การประเมินสถานการณ์ปัญหาและแนวโน้ม การประเมินศักยภาพและโอกาสการพัฒนา การกำหนดประเด็นท้าทาย และการทบทวนและจัดทำแผนงาน โครงการและมาตรการ และโครงการสร้างงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ๔. รับทราบความก้าวหน้าการผลักดันร่างพระราชบัญญัติการใช้กฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัว มรดก และการพิจารณาคดี พ.ศ. .... ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ลงนามรับรองแล้ว รวม ๓ ฉบับ ๕. รับทราบเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่ส่วนราชการได้รับจัดสรรตามแผนปฏิบัติการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้รับแจ้งยืนยันการจัดสรรงบประมาณจาก ๑๒ หน่วยงาน งบประมาณ ๕,๐๘๓.๔๖๗๒ ล้านบาท ที่เหลืออีก ๘ หน่วยงาน อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ ในส่วนของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้รับการจัดสรรงบประมาณ ๑,๓๗๙.๗๑๙ ล้านบาท ๖. รับทราบความก้าวหน้าการแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยปรับถ้อยคำในระเบียบฯ ข้อ ๒๕ เรื่อง การโอนเปลี่ยนแปลงโครงการหรือใช้เงินเหลือจ่ายจากโครงการ จากอำนาจของคณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาพื้นที่พิเศษ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (รชต.) มาเป็นของ กพต. ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๕ ได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการปรับแก้ร่างระเบียบฯ เพื่อให้มีความถูกต้องชัดเจนยิ่งขึ้น และให้จัดส่งร่างระเบียบฯ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อบังคับใช้ต่อไป ๗. เห็นชอบโครงการที่ อชต. ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ พิจารณาให้ความเห็นชอบ จำนวน ๓ โครงการ ประกอบด้วย โครงการศูนย์ครูใต้ (การขยายเวลาการลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างศูนย์ครูใต้จังหวัดยะลา และศูนย์ครูใต้จังหวัดนราธิวาส) โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล และโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลปกครองยะลา พร้อมบ้านพักตุลาการและข้าราชการ ๘. เห็นชอบการปรับแผนการดำเนินโครงการปรับปรุงหออภิบาลผู้ป่วยหนัก โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการปรับปรุงหออภิบาลฯ จำนวน ๑๕๐.๐๐ ล้านบาท ๙. เห็นชอบร่างระเบียบ จำนวน ๓ ฉบับ ได้แก่ ร่างระเบียบว่าด้วยการมอบอำนาจให้แก่เลขาธิการ ศอ.บต. และการมอบอำนาจของเลขาธิการ ศอ.บต. พ.ศ. .... ร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุมัติให้เลื่อนเงินเดือนประจำปีเป็นกรณีพิเศษสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายพลเรือนซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. .... และร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุมัติให้เลื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายพลเรือนซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. .... ๑๐. เห็นชอบระบบฐานข้อมูลสารสนเทศเพื่อการบริหารแผนการพัฒนาพื้นที่พิเศษ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้ ศอ.บต. ในฐานะฝ่ายเลขานุการ อชต. รับผิดชอบในการติดตามและรายงานความก้าวหน้าการดำเนินโครงการตามแผนดังกล่าวที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจัดทำขึ้น สำหรับการติดตามและรายงานผลการดำเนินการ และให้หน่วยงานเจ้าของโครงการภายใต้แผนการพัฒนาพื้นที่พิเศษ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ รับผิดชอบในการบันทึกข้อมูลผลการดำเนินงานและผลการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการเพื่อรายงาน อชต. ตามระยะเวลาที่กำหนดต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
33250 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการปฏิรูปประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข | สธ | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามแผนปฏิบัติการปฏิรูปประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดสวัสดิการสำหรับแม่ที่ตั้งครรภ์และกลุ่มเด็กอายุ ๐ - ๒ ปี โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ได้รับจัดสรรไปแล้วในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๕๒๓,๕๐๒,๑๙๗ บาท จากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กรมอนามัย และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ซึ่งสนับสนุนงบประมาณเพื่อการดังกล่าว แทนการขอใช้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณให้สอดคล้องกับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ เพื่อรองรับภารกิจดังกล่าว ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
33251 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการก่อสร้างอาคารเรียนสหศึกษา 1 หลัง | ศธ | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้มหาวิทยาลัยบูรพา เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการก่อสร้างอาคารเรียนสหศึกษา ๑ หลัง จากจำนวน ๑๙๔,๖๐๐,๐๐๐ บาท เป็นจำนวน ๑๙๖,๘๗๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้ใช้เงินที่เพิ่มขึ้น จำนวน ๒,๒๗๐,๐๐๐ บาท จากเงินนอกงบประมาณสมทบ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
33252 | (ร่าง) มาตรฐานศูนย์เด็กเล็กแห่งชาติ | พม | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ประกาศใช้มาตรฐานศูนย์เด็กเล็กแห่งชาติเป็นมาตรฐานกลางของประเทศ เพื่อใช้เป็นแนวทางหรือเครื่องมือในการประเมินผลการดำเนินงานศูนย์เด็กเล็ก และเป็นเครื่องมือในการยกระดับคุณภาพของศูนย์เด็กเล็กทั่วประเทศ ๑.๒ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการโดยนำมาตรฐานศูนย์เด็กเล็กแห่งชาติใช้เป็นแนวทางในการประเมินผลการดำเนินงานของศูนย์ฯ และเป็นเครื่องมือในการยกระดับคุณภาพของศูนย์เด็กเล็ก ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๒.๑ (ร่าง) มาตรฐานศูนย์เด็กเล็กแห่งชาติ (ข้อ ๑.๓.๘ หน้า ๕) กำหนดพื้นที่สำหรับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของเด็กมีอัตราส่วน ๒ ตารางเมตรต่อเด็ก ๑ คน เป็นอย่างน้อย ไม่สอดคล้องกับระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการกำหนดมาตรฐานโรงเรียนเอกชน ประเภทสามัญศึกษา ระดับก่อนประถมศึกษา ระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ ข้อ ๑๒ (๑) กำหนดสัดส่วนพื้นที่ห้องสำหรับจัดกิจกรรมให้เด็กชั้นเตรียมอนุบาลต้องไม่น้อยกว่า ๑.๕ ตารางเมตรต่อเด็ก ๑ คน ๒.๒ เกณฑ์การประเมินและค่าคะแนน เมื่อใช้ประเมินระยะหนึ่งแล้วต้องมีการพัฒนาให้เป็นเกณฑ์มาตรฐานและให้สอดคล้องกับสภาพบริบทที่อาจเปลี่ยนแปลงไป ๒.๓ บางเรื่องใน (ร่าง) มาตรฐานศูนย์เด็กเล็กแห่งชาติ ควรจะเป็นข้อแนะนำสำหรับผู้ปกครองหรืออื่น ๆ มากกว่าที่จะใช้เกณฑ์การพิจารณาศูนย์เด็กเล็ก เช่น กรณีที่เด็กและผู้ปกครองต้องโดยสารเรือมารับ/ส่ง ต้องมีชูชีพสวมให้เด็กทุกคนทุกครั้งในการรับ-ส่งเด็ก (ข้อ ๑.๔.๕ หน้า ๘) และกรณีที่เด็กและผู้ปกครองเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ต้องมีหมวกนิรภัย (หมวกกันน็อก) สำหรับเด็ก (ข้อ ๑.๔.๕ หน้า ๙) เป็นต้น ๒.๔ ในการนำมาตรฐานศูนย์เด็กเล็กแห่งชาติไปใช้ในระยะแรก ควรมีคณะกรรมการกำกับ นิเทศ ติดตาม ช่วยเหลือศูนย์เด็กเล็กในการพัฒนาสู่มาตรฐาน |
|||||||||||||||||||||||||||
33253 | โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ 9 | มท | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงมหาดไทย โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ ๙ (โครงการ คพส.๙) วงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น ๓๑,๑๗๐ ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปรายละเอียดได้ ดังนี้ ๑.๑ โครงการ คพส.๙ ส่วนที่ ๑ : ภาคเหนือ ประกอบด้วย การก่อสร้างสถานีไฟฟ้า ๑๑๕ - ๒๒ กิโลโวลท์ จำนวน ๑๙ แห่ง และก่อสร้างสถานีลานไก ๑๑๕ กิโลโวลท์ จำนวน ๒ แห่ง วงเงินลงทุน ๗,๐๖๐ ล้านบาท ๑.๒ โครงการ คพส.๙ ส่วนที่ ๒ : ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย การก่อสร้างสถานีไฟฟ้า ๑๑๕ - ๒๒ กิโลโวลท์ จำนวน ๑๔ แห่ง และก่อสร้างสถานีลานไก ๑๑๕ กิโลโวลท์ จำนวน ๔ แห่ง วงเงินลงทุน ๔,๕๔๐ ล้านบาท ๑.๓ โครงการ คพส.๙ ส่วนที่ ๓ : ภาคกลาง ประกอบด้วย การก่อสร้างสถานีไฟฟ้า ๑๑๕ - ๒๒ กิโลโวลท์ จำนวน ๔๗ แห่ง และก่อสร้างสถานีลานไก ๑๑๕ กิโลโวลท์ จำนวน ๑ แห่ง วงเงินลงทุน ๑๕,๐๘๕ ล้านบาท ๑.๔ โครงการ คพส.๙ ส่วนที่ ๔ : ภาคใต้ ประกอบด้วย การก่อสร้างสถานีไฟฟ้า ๑๑๕ - ๒๒/๓๓ กิโลโวลท์ จำนวน ๑๐ แห่ง และก่อสร้างสถานีลานไก ๑๑๕ กิโลโวลท์ จำนวน ๒ แห่ง วงเงินลงทุน ๔,๔๘๕ ล้านบาท รวมเป็นวงเงินลงทุนทั้งสิ้น ๓๑,๑๗๐ ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๘ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย โดย กฟภ. รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ที่เห็นควรให้ กฟภ. ดำเนินการตามขั้นตอนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ รวมทั้งข้อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และกระทรวงพลังงานในการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด และให้ กฟภ. กำหนดเป้าหมายด้านคุณภาพและการให้บริการในด้านจำนวนครั้งที่ไฟฟ้าดับ (SAIFI) และระยะเวลาที่ไฟฟ้าดับ (SAIDI) ตามโครงการฯ เป็นดัชนีชี้วัดการประเมินประสิทธิภาพการดำเนินงาน และประกาศระดับคุณภาพการให้บริการดังกล่าวให้ผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่โครงการฯ ได้รับทราบ เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพการให้บริการและสร้างความมั่นใจต่อผู้ใช้ไฟ นอกจากนี้ ให้นำเสนอผลการวิเคราะห์ผลกระทบในมิติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการพลังงาน อาทิ มาตรฐานคุณภาพบริการ อัตราค่าบริการในการประกอบกิจการพลังงาน ความเหมาะสมและประสิทธิภาพของการดำเนินงานตามแผน สำหรับกรณีแผนการขยายระบบโครงข่ายพลังงาน ให้มีการศึกษา วิเคราะห์ การปรับปรุงความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้าในระดับพื้นที่ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและสามารถนำไปวิเคราะห์ในมิติของการกำกับดูแลกิจการพลังงานต่อไป ไปดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
33254 | ขออนุมัติจัดตั้งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ | มท | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้มีการจัดตั้งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา แทนการจัดตั้งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอเพิ่มเติม และให้สำนักงาน ก.พ.ร. เป็นเจ้าภาพในการพิจารณาคัดเลือกพื้นที่จังหวัดรวมถึงจำนวนจังหวัดที่เหมาะสมที่จะจัดตั้งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย โดยให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกพื้นที่ ไปดำเนินการด้วย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการขออนุมัติอัตรากำลังของข้าราชการเพิ่มอำเภอละ ๓ อัตรา จะต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๓ เรื่อง มาตรการบริหารกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ ๒๕๕๒ - ๒๕๕๖) ซึ่งมาตรการบริหารกำลังคนภาครัฐดังกล่าวได้กำหนดมาตรการปกติ โดยไม่ให้เพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ ยกเว้นกรณีจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ โดยให้กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) เน้นการให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการสร้างเครือข่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสร้างความตระหนักและเตรียมความพร้อมของประชาชนในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตลอดจนฝึกอบรมและฝึกปฏิบัติในการป้องกันบรรเทาสาธารณภัย การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้ท้องถิ่น นอกจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยควรมีบทบาทในการพัฒนาศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สามารถตอบสนองวัตถุประสงค์และเป้าหมายของการจัดการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของประเทศ ตามกรอบแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๗ ที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ รวมทั้งกำหนดแนวทางปฏิบัติระดับอำเภอที่ชัดเจน เพื่อให้การบูรณาการเพื่อป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ในการดำเนินการจัดตั้งให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
33255 | ขออนุมัติโครงการถนนต่อเชื่อมถนนราชพฤกษ์ - ถนนกาญจนาภิเษก (แนวตะวันออก - ตะวันตก) พร้อมสะพานกลับรถ 4.60 กิโลเมตร ของกรมทางหลวงชนบท | คค | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติโครงการถนนต่อเชื่อมถนนราชพฤกษ์ - ถนนกาญจนาภิเษก (แนวตะวันออก - ตะวันตก) พร้อมสะพานกลับรถ ๔.๖๐ กิโลเมตร วงเงินก่อหนี้ผูกพันรวม ๒,๔๔๔,๗๔๔,๑๓๒ บาท และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๗ ของกรมทางหลวงชนบท ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวงชนบท) เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๓๕๒,๕๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งได้จัดสรรงบประมาณให้แล้ว ส่วนที่เหลืออีกจำนวน ๒,๐๙๒,๒๔๔,๑๓๒ บาท ผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๗ โดยให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับเพื่อให้ครบค่างานต่อไป ทั้งนี้ ให้พิจารณาการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเป็นค่างานในรายการงานทั่วไป และค่าใช้จ่ายที่เบิกจ่ายในลักษณะเงินจร (Provisional Sum) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และมาตรฐานของทางราชการต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
33256 | โครงการเชียงใหม่ : นครที่เป็นที่สุดแห่งความสง่างามทางวัฒนธรรม (Chiang Mai : The Most Splendid City of Culture) | มท | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการโครงการเชียงใหม่ : นครที่เป็นที่สุดแห่งความสง่างามทางวัฒนธรรม (Chiang Mai : The Most Splendid City of Culture) ซึ่งได้มีการกำหนดบทบาท มาตรการและแนวทางการในการดำรงรักษาและสืบสานอัตลักษณ์ล้ำค่าของจังหวัด โดยบูรณาการจากทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเชียงใหม่ให้เป็นนครที่เป็นที่สุดแห่งความสง่างามทางวัฒนธรรมให้บรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยเสนอโครงการฯ ให้คณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ พิจารณาเห็นชอบในรายละเอียดและความเหมาะสมของโครงการฯ ก่อนแล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรปรับปรุงรายละเอียดของโครงการฯ ให้มีความชัดเจนมากขึ้น โดยรายละเอียดของโครงการฯ ควรครอบคลุมแผนงาน กิจกรรม งบประมาณ และกรอบระยะเวลาการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ควรมีกรอบแนวคิดที่ชัดเจนโดยนำแนวคิดการพัฒนาเมืองสร้างสรรค์ (Creative City) เชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของต่างประเทศมาใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการท่องเที่ยวในพื้นที่และการกระจายรายได้สู่ชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุณภาพ รวมทั้งเพื่อส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวในกลุ่มอารยธรรมล้านนา (ภาคเหนือตอนบน) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
33257 | ขออนุมัติเพิ่มรายการดำเนินงานและกรอบวงเงินงบประมาณโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ | กก | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพิ่มเติมรายการก่อสร้างจากสัญญาเดิมของโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ เฉพาะส่วนที่กระทบกับการก่อสร้างซึ่งหากไม่ดำเนินการควบคู่กันไปจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างเดิม และให้เพิ่มวงเงินภายในกรอบวงเงินที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๑ จำนวน ๓ รายการ ในวงเงิน ๒๒๓,๓๔๐,๐๐๐ บาท ได้แก่ งานสถาปัตยกรรม อาคารศูนย์ประชุม วงเงิน ๓,๗๖๖,๐๐๐ บาท งานระบบวิศวกรรมไฟฟ้าและสื่อสาร อาคารศูนย์ประชุมฯ วงเงิน ๒๑๔,๒๕๙,๐๐๐ บาท และงานระบบวิศวกรรมไฟฟ้าและสื่อสาร อาคารศูนย์ส่งเสริมฯ วงเงิน ๕,๓๑๕,๐๐๐ บาท โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและสาเหตุของการดำเนินการซึ่งไม่ได้รวมรายการก่อสร้างที่จำเป็นต่าง ๆ ไว้จนเป็นเหตุทำให้ต้องขออนุมัติการดำเนินงานเพิ่มเติมในครั้งนี้ทั้งที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๑ อนุมัติงบประมาณไว้แล้วเป็นเงินรวม ๒,๒๑๙.๐๐๔๐ ล้านบาท แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วน |
|||||||||||||||||||||||||||
33258 | การเลื่อนเงินเดือนข้าราชการผู้ได้รับการพิจารณาบำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2553 (สำนักงานผู้แทนการค้าไทย) | นร | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการเลื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ ให้แก่ข้าราชการผู้ไปช่วยปฏิบัติราชการให้แก่ผู้แทนการค้าไทย จำนวน ๕ ราย ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ทั้งนี้ เงินเลื่อนเงินเดือนให้ปรับแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการต้นสังกัด ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ สำหรับข้าราชการผู้ไปช่วยปฏิบัติราชการให้แก่ผู้แทนการค้า จำนวน ๕ ราย มีดังนี้
๑. นายตุลย์ ไตรโสรัสนั กการทูตชำนาญการ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศกระทรวงการต่างประเทศ ๒. นางสาวธันยพัต รินทา เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน สำนักบริหารกลางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ๓. นายธีระพงษ์ วัฒนวงษ์ภิญโญ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักประสานงานการเมือง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ๔. นางณัฏฐา สุนทราภา นักการทูตชำนาญการ กรมพิธีการทูต กระทรวงการต่างประเทศ ๕. นายปรีชาพร สุวัฒโนดม วิศวกรโยธาปฏิบัติการ สำนักสำรวจและออกแบบกรมทางหลวง
|
|||||||||||||||||||||||||||
33259 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2554 เพิ่มเติม | กห | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการในการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เพิ่มเติม ให้แก่กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติราชการในสนามและเดินทางไปราชการให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด ภายในกรอบวงเงินจำนวน ๒๘๘,๐๔๓,๖๙๕.๖๐ บาท ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้สำนักงบประมาณรับไปดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓ แล้วให้ใช้งบประมาณจากการปรับแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ของกระทรวงกลาโหมก่อน หากยังไม่เพียงพอก็อนุมัติให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยให้กระทรวงกลาโหมขอตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
33260 | แต่งตั้งประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ | ทก | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายจรัมพร โชติกเสถียร ประธานกรรมการ ๒. นางสาววิลาวรรณ วนดุรงค์วรรณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นายปรีชา ปรมาพจน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นายอภิรมย์ น้อยอ่ำ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นายชวลิต อัตถศาสตร์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นายสุเจตน์ จันทรังษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. นายสิริวัฒน์ พรหมบุรี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
.....