ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1663 จากทั้งหมด 6224 หน้า แสดงรายการที่ 33241 - 33260 จากข้อมูลทั้งหมด 124475 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 33241 | รายงานความก้าวหน้าในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยฯ ของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติและรายงานสภาวะอากาศ ของกรมอุตุนิยมวิทยา | ทก | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยฯ ของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และรายงานสภาวะอากาศในรอบสัปดาห์ และการพยากรณ์อากาศใน ๗ วันข้างหน้า ของกรมอุตุนิยมวิทยา ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ความก้าวหน้าในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยฯ ของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ระหว่างวันที่ ๖ - ๑๒ กันยายน ๒๕๕๔ มีดังนี้ ๑.๑ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้เตรียมระบบสื่อสารสำรองร่วมกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ได้แก่ ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม (รถถ่ายทอดสัญญาณเคลื่อนที่) ระบบ Internet และโทรศัพท์ทางสาย และระบบ E - Conference รวมทั้งได้เตรียมเครือข่ายการสื่อสารทางเสียง และ E - Radio ระหว่างนักวิทยุสมัครเล่นและผู้มีจิตอาสากับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติเอาไว้อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับประชาชนทั่วไปได้เปิดให้ติดต่อทางโทรศัพท์ฉุกเฉิน หมายเลข ๑๙๒ ตลอดเวลา มีประชาชนบางรายได้ใช้บริการนี้เพื่อแจ้งขอความช่วยเหลือ ซึ่งศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้แจ้งต่อให้หน่วยงานในพื้นที่ทราบดำเนินการต่อไป ๑.๒ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้แจ้งอนุญาตให้ท้องถิ่นหรือท้องที่ผู้ดูแลหอกระจายข่าวได้ใช้หอกระจายข่าวเตือนภัยประชาชนในชุมชน เมื่อภัยปรากฏแน่ชัดแล้ว จึงแจ้งศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติทราบ ๒. กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาวะอากาศในช่วง ๗ วันที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ ๕ - ๑๑ กันยายน ๒๕๕๔) และการคาดหมายลักษณะอากาศในช่วง ๗ วันข้างหน้า (ระหว่างวันที่ ๑๓ - ๑๙ กันยายน ๒๕๕๔) ดังนี้ ๒.๑ สภาวะอากาศในช่วง ๗ วันที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ ๕ - ๑๑ กันยายน ๒๕๕๔) ร่องมรสุมพาดผ่านกำลังปานกลางผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ จากนั้นได้มีกำลังแรงขึ้นและเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงตลอดสัปดาห์ ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนาแน่นตลอดสัปดาห์ ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นในระยะปลายสัปดาห์ ๒.๒ การคาดหมายลักษณะอากาศในช่วง ๗ วันข้างหน้า (ระหว่างวันที่ ๑๓ - ๑๙ กันยายน ๒๕๕๔) โดยในช่วงวันที่ ๑๒ - ๑๓ กันยายน ๒๕๕๔ ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย เริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศเริ่มมีปริมาณฝนลดลง ส่วนช่วงวันที่ ๑๔ - ๑๖ กันยายน ๒๕๕๔ ร่องมรสุมมีกำลังอ่อนและเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์กระจาย ต่อจากนั้นช่วงวันที่ ๑๗ - ๑๘ กันยายน ๒๕๕๔ ร่องมรสุมจะเริ่มมีกำลังแรงขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||
| 33242 | จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดชัยนาท ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ด้านค่าวัสดุซ่อมแซมที่อยู่อาศัยประจำตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม | มท | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่ยังไม่ได้รับงบประมาณช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน ๔๗,๐๗๘ ครัวเรือน กรอบวงเงินไม่เกิน ๒๖๑,๖๔๕,๓๑๔.๘๓ บาท และจังหวัดชัยนาท จำนวน ๖,๐๐๙ ครัวเรือน กรอบวงเงินไม่เกิน ๕๔,๒๒๗,๐๘๑ บาท รวมกรอบวงเงินไม่เกิน ๓๑๕,๘๗๒,๓๙๕.๘๓ บาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดประสานรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลต่าง ๆ กับสำนักงบประมาณเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยเร่งด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 33243 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีอุทกภัยและดินโคลนถล่ม) ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ | มท | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมตรีมีมติเห็นชอบในหลักการในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีอุทกภัย) ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท ตามข้อมูลครัวเรือนผู้ประสบภัยเบื้องต้นของจังหวัดอุตรดิตถ์ในกรอบครัวเรือนจำนวน ๗๐๕ ครัวเรือน กรอบวงเงินไม่เกิน ๓,๕๒๕,๐๐๐ บาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ทั้งนี้ ให้จังหวัดอุตรดิตถ์ตรวจสอบความถูกต้องตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัยที่มีบ้านเรือนอยู่อาศัยประจำใน ๓ กรณีก่อนการจ่ายเงินช่วยเหลือ โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรเงินงบประมาณตรงให้ธนาคารออมสิน เพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 33244 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) จังหวัดนครศรีธรรมราช | มท | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท ของจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน ๑,๕๒๓ ครัวเรือน กรอบวงเงินไม่เกิน ๗,๖๑๕,๐๐๐ บาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดประสานรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลต่าง ๆ กับสำนักงบประมาณเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติโดยเร่งด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 33245 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงคมนาคม) | คค | 06/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงคมนาคม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. นายธีระ โตวิริยะเวช ดำรงตำแหน่งวิศวกรใหญ่ที่ปรึกษาวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านบำรุงรักษา) วิศวกรโยธาทรงคุณวุฒิ กรมทางหลวง ๒. นายยงยุทธ แต้ศิริ ดำรงตำแหน่งวิศวกรใหญ่ที่ปรึกษาวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านวิจัยและพัฒนา) วิศวกรโยธาทรงคุณวุฒิ กรมทางหลวง
|
||||||||||||||||||||||||
| 33246 | การกำหนดวิธีการประชุมคณะรัฐมนตรี | นร | 06/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการกำหนดวิธีการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้อนุมัติ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. วัน เวลา และสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ๒. การประชุมคณะรัฐมนตรี ๓. ระเบียบวาระการประชุม ๔. การแยกประเภทแฟ้มระเบียบวาระ ๕. การส่งระเบียบวาระการประชุม ๖. ระเบียบวาระจร ๗. คณะกรรมการรัฐมนตรี ๘. แนวทางปฏิบัติในการชี้แจงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ๙. การลาประชุมคณะรัฐมนตรี ๑๐. สรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||
| 33247 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2554 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | นร | 06/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ดำเนินการปรับค่าตอบแทนพิเศษเพิ่มเติมให้กำลังพลของ กอ.รมน. ที่ปฏิบัติการในสนาม ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน - ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ของ กอ.รมน. ซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณ รวมทั้งสิ้น ๘,๓๐๖,๐๖๘,๔๐๐ บาท และได้มีการเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้ว จำนวน ๗,๐๒๑,๑๒๔,๔๐๐ บาท คงเหลืองบประมาณที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายอีก จำนวน ๑,๒๘๔,๙๔๔,๐๐๐ บาท เพียงพอที่จะเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าว ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
| 33248 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเกินกว่า 1 ปี (ค่าเช่าที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยเพื่อใช้ก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง) | ศย | 06/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้สำนักงานศาลยุติธรรมทำสัญญาเช่าที่ดินบริเวณย่านพหลโยธิน เนื้อที่ ๑๗,๕๑๓ ตารางเมตร ของการรถไฟแห่งประเทศไทย เกินกว่า ๑ ปี เพื่อใช้ก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ ซึ่งเป็นการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณระยะเวลา ๑๔ ปี ๙ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๙ ภายในวงเงิน ๑๔๓,๙๓๗,๘๑๔.๖๑ บาท ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ ๒. ให้สำนักงานศาลยุติธรรมดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ ข้อ ๔(๒) สำหรับงบประมาณที่ใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ให้สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอขอตั้งงบประมาณตามความเหมาะสมและจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 33249 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดหนองคาย เขตเลือกตั้งที่ 2 และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุโขทัย เขตเลือกตั้งที่ 3 ใหม่ | ลต | 06/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดหนองคาย เขตเลือกตั้งที่ ๒ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุโขทัย เขตเลือกตั้งที่ ๓ ใหม่ และหากภายหลังปรากฏว่ามีงบประมาณไม่เพียงพอในการดำเนินงาน ก็เห็นสมควรให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมตามความจำเป็นและเหมาะสมในการดำเนินงานเป็นกรณี ๆ ไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
| 33250 | กำหนดวันและเวลาประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยประชุมสามัญทั่วไป และสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ | สผ | 06/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ ดังนี้
๑. ในคราวประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๔ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๓ (สมัยสามัญทั่วไป) วันพุธที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๔ ที่ประชุมได้มีมติกำหนดให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สัปดาห์ละ ๒ วัน คือ ทุกวันพุธและวันพฤหัสบดี ๒. ในคราวประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๔ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๔ (สมัยสามัญทั่วไป) วันพุธที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๔ ที่ประชุมได้มีมติกำหนดเวลาประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันพุธ ตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ นาฬิกา ถึง ๒๑.๐๐ นาฬิกา และในวันพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา ถึง ๑๘.๐๐ นาฬิกา และกำหนดให้วันที่ ๒๑ ธันวาคม เป็นวันเริ่มสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ
|
||||||||||||||||||||||||
| 33251 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 พ.ศ. .... | กค | 06/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลาย และลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์ทองคำ ราคาหนึ่งหมื่นหกพันบาท หนึ่งชนิด เหรียญกษาปณ์เงิน ราคาแปดร้อยบาท หนึ่งชนิด และเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ราคาห้าสิบบาท หนึ่งชนิด จัดทำออกใช้เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ในวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ๒. ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงและบัญชีท้ายบรรยายเกี่ยวกับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่ปรากฏดาราจักรีในพระบรมรูป จึงควรตัดคำว่า “และประดับดาราจักรี” ออก ข้อความที่แก้ไขแล้วเป็น “ด้านหน้า กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชผินพระพักตร์เบื้องขวา ทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศจอมทัพ ทรงฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรมราชวงศ์ ทรงเครื่องขัติยราชอิสริยยศอันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ และสายสร้อยจุลจอมเกล้า ...” ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 33252 | กรอบการเจรจาเพื่อจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน | กค | 06/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบกรอบการเจรจาจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน [ASEAN Infrastructure Fund (AIF)] มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการนำแหล่งเงินทุนของอาเซียนมาใช้ในการส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในภูมิภาคอาเซียน และสามารถนำเงินออมภายในภูมิภาคมาใช้ให้เกิดประโยชน์ผ่านทางการออกพันธบัตรของกองทุนฯ ที่มีความน่าเชื่อถือในระดับที่ธนาคารกลางของแต่ละประเทศสามารถถือและนับเป็นส่วนหนึ่งของเงินสำรองระหว่างประเทศได้ (Reserve Eligibility) และนำเสนอกรอบการเจรจาฯ เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบ ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนเข้าร่วมการเจรจาและสามารถผูกพันวงเงินลงทุนในกองทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียนในส่วนของประเทศไทยได้ตามความเหมาะสม ซึ่งในเบื้องต้นนี้จะเป็นเงินจำนวน ๑๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อกรอบการเจรจาฯ ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงบประมาณเกี่ยวกับร่างกรอบการเจรจาฯ ควรระบุถึงขอบเขตของการเจรจาให้ชัดเจนว่ามีเนื้อหาสาระครอบคลุมประเด็นหลักในเรื่องใดบ้าง ผลประโยชน์ของไทย และพันธกรณี ตลอดจนผลกระทบและมาตรการที่จำเป็นที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเจรจาจัดทำหนังสือสัญญา โดยส่วนราชการเจ้าของเรื่องจะเป็นผู้พิจารณารูปแบบและสารัตถะของกรอบการเจรจาให้เหมาะสมและครอบคลุมสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการเจรจา และเมื่อร่างกรอบการเจรจาฯ ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว หากจะใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายเพื่อลงทุนในกองทุนฯ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้จัดเตรียมงบประมาณไว้ กระทรวงการคลังจะต้องนำเสนอขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าหรือนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรี ตามนัยมาตรา ๒๓ วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ก่อนการเจรจาหรือทำความตกลงใด ๆ ที่มีผลผูกพันงบประมาณ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 33253 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเหรียญเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 พ.ศ. .... | กค | 06/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเหรียญเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีเหรียญเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ กำหนดรายละเอียดของลักษณะเหรียญ บุคคลผู้มีสิทธิประดับเหรียญ วิธีการประดับเหรียญ และหน้าที่เกี่ยวกับการสร้างและการจำหน่ายเหรียญ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ๒. ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ ชื่อร่างพระราชกฤษฎีกาควรสอดคล้องกับชื่องานพระราชพิธีที่เป็นทางการ คือ “ร่างพระราชกฤษฎีกาเหรียญเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ พ.ศ. ....” ๒.๒ ในหัวข้อ “เหตุผล” ซึ่งระบุว่า “เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคล ...” เห็นว่า “ถวายพระพรชัยมงคล” น่าจะไม่ใช่เหตุผลในการให้มีเหรียญเฉลิมพระเกียรติฯ นี้ โดยมีข้อพิจารณาว่า ตามบทความของศาสตราจารย์จำนง ทองประเสริฐ ราชบัณฑิต สรุปได้ว่า “ถวายพระพรชัยมงคล” จะกระทำโดยการกล่าวถ้อยคำเขียนข้อความ หรือลงนาม ซึ่งเหรียญดังกล่าวมิได้มีข้อความอันเป็นการถวายพระพรชัยมงคลแต่อย่างใด สำหรับเหตุผลในการให้มีเหรียญเพื่อ “ถวายพระพรชัยมงคล” แม้จะเคยปรากฏครั้งหนึ่งในพระราชบัญญัติเหรียญเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒ พ.ศ. ๒๕๔๒ แต่ในพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกาเหรียญอื่น ๆ โดยเฉพาะพระราชบัญญัติเหรียญเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหามงคลสมัยพระราชพิธีเฉลิมพระชนมายุ ๖๐ พรรษา พ.ศ. ๒๕๒๙ และพระราชกฤษฎีกาเหรียญเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ ซึ่งประกาศใช้ก่อนและหลังพระราชบัญญัติฯ พ.ศ. ๒๕๔๒ ก็มิได้ปรากฏเหตุผลดังกล่าว นอกจากนี้ ร่างมาตรา ๔ และร่างมาตรา ๕ ใช้คำว่า “เหรียญนี้” แทนชื่อเหรียญซึ่งได้กล่าวไว้แล้วในร่างมาตรา ๓ แต่ร่างมาตรา ๖ กลับระบุชื่อเหรียญอีก
|
||||||||||||||||||||||||
| 33254 | มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง | กค | 06/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติมอบหมายเป็นหลักการให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามลำดับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ๒. นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์
|
||||||||||||||||||||||||
| 33255 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรี 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 17 และการประชุมหารือร่วมรัฐมนตรีและภาคเอกชน ครั้งที่ 2 และการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 3 ภายใต้กรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง - ญี่ปุ่นด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม | นร | 06/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๑๗ ของแผนงานการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ (Greater Mekong Subregion : GMS) ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างวันที่ ๒ - ๔ สิงหาคม ๒๕๕๔ และผลการประชุมหารือร่วมรัฐมนตรีและภาคเอกชนภายใต้กรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง - ญี่ปุ่น ด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม (Mekong - Japan Economic and Industrial Cooperation : MJ - CI) ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ณ กรุงเทพฯ และผลการประชุมระดับรัฐมนตรีภายใต้กรอบความร่วมมือ MJ - CI ครั้งที่ ๓ เมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๔ ณ เมืองมานาโด สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ๑.๒ เห็นชอบแถลงการณ์ร่วมระดับรัฐมนตรี ๖ ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๑๗ ของแผนงาน GMS เพื่อให้ไทยสามารถแจ้งผลการให้ความเห็นชอบอย่างเป็นทางการแก่ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ต่อไป โดยสาระสำคัญของแถลงการณ์ร่วมฯ มีดังนี้ ๑.๒.๑ รับทราบการดำเนินงานของแผนงาน GMS ในช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่มีความก้าวหน้าชัดเจน ได้แก่ การพัฒนาเส้นทางคมนาคมให้เป็นแนวพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจการเชื่อมโยงโครงข่ายทางกายภาพ การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการขนส่งและความร่วมมือในด้านอื่น ๆ ๑.๒.๒ ทบทวนร่างสุดท้ายของกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาแผนงาน GMS ฉบับใหม่ ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - พ.ศ. ๒๕๖๕ ๑.๓ เห็นชอบข้อเสนอแผนการดำเนินงานดำเนินงานระยะเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนแผนงาน GMS และกรอบความร่วมมือประเทศลุ่มแม่น้ำโขง - ญี่ปุ่น และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการโดยประสานกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป ดังนี้ ๑.๓.๑ กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาธุรกิจ ๖ ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง เร่งผลักดันและดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ไทยสามารถลงนามและให้ความเห็นชอบเอกสารที่เกี่ยวข้องได้ในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำ ๖ ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๔ ณ นครเนปิดอว์ สหภาพพม่า ระหว่างวันที่ ๑๙ - ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๔ ๑.๓.๒ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับกระทรวงมหาดไทยผลักดันการดำเนินงานเพื่อสร้างความเข้าใจและเพิ่มการมีส่วนร่วมของจังหวัด ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ตามแนวพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจและพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง ๑.๓.๓ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดลำดับความสำคัญและผลักดันการดำเนินงานโครงการตามแผนปฏิบัติการ MJ - CI ๒. ในกรณีที่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น มีการดำเนินการใดภายใต้ผลการประชุม แถลงการณ์ร่วม หรือกรอบความร่วมมือฯ ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอในครั้งนี้ และเป็นเรื่องที่เข้าข่ายมาตรา ๑๙๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องนำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วนก่อนดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 33256 | การมอบหมายให้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ | ศธ | 06/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการในการมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตามลำดับ ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามมาตรา ๔๘ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นางบุญรื่น ศรีธเรศ) ๒. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล)
|
||||||||||||||||||||||||
| 33257 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม | วธ | 06/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการในการมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์) เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมไม่อาจปฏิบัติราชการได้ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 33258 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของผู้ส่งออก (Self - Certification) พ.ศ. .... (การจัดทำระบบการรับรอง ถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของอาเซียนและการเข้าร่วมโครงการนำร่อง) | พณ | 06/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของผู้ส่งออก (Self - Certification) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ผู้ส่งออกสินค้าที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยที่ประสงค์จะรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองเพื่อใช้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีศุลกากร หรือสิทธิพิเศษอื่นตามความตกลงทางการค้า หรือประเพณีทางการค้าระหว่างประเทศ ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออกที่ได้รับสิทธิรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองต่อกรมการค้าต่างประเทศ ทั้งนี้ การขึ้นทะเบียนดังกล่าวให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กรมการค้าต่างประเทศประกาศกำหนด ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 33259 | ร่างพระราชบัญญัติสถาบันการพลศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กก | 06/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติสถาบันการพลศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้สถาบันการพลศึกษามีอำนาจจัดการศึกษาในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก เพื่อเป็นการขยายโอกาสทางการศึกษา และปรับปรุงโครงสร้างของสถาบันการพลศึกษา ระบบการบริหารงานบุคคลและการบริหารงบประมาณ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 33260 | การค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 7 เดือน ปี 2554 (มกราคม - กรกฎาคม) | พณ | 06/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ ๗ เดือน ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ (มกราคม - กรกฎาคม -๕๕๔) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การส่งออกในระยะ ๗ เดือนของปี พ.ศ. ๒๕๕๔ มีมูลค่าการส่งออก ๑๓๖,๔๙๘.๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๕.๗ ในรูปเงินบาทการส่งออกมีมูลค่า ๔,๑๑๓,๘๔๒.๓ ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๖.๙ โดยสินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมเกษตรสำคัญ มีการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ ๔๓.๕ สินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่า ได้แก่ ข้าว ยางพารา สินค้าอาหารประเภทอาหารทะเล ผักผลไม้ ไก่แช่แข็งและแปรรูป และน้ำตาล รวมทั้งสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ มีการส่งออกเพิ่มขึ้นสูงกว่าร้อยละ ๒๐ ได้แก่ เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง สิ่งพิมพ์ เครื่องเดินทางและเครื่องหนัง เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เภสัช/เครื่องมือแพทย์ เครื่องกีฬาและเครื่องเล่นเกมส์ และนาฬิกา เป็นต้น สำหรับตลาดส่งออก เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกกลุ่มตลาด โดยตลาดหลักส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๔.๔ ตลาดศักยภาพสูงส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ ๓๐.๕ และตลาดศักยภาพระดับรอง ส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๔.๑ ๒. การนำเข้าในระยะ ๗ เดือนของปี พ.ศ. ๒๕๕๔ มีมูลค่าการนำเข้า ๑๓๐,๒๕๔.๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๖.๑ โดยสินค้านำเข้าสำคัญ มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นทุกหมวดสินค้า ได้แก่ สินค้าเชื้อเพลิง เพิ่มขึ้นร้อยละ ๔๓. สินค้าทุน เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๕.๒ สินค้าวัตถุดิบกึ่งสำเร็จรูป เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๒.๑ สินค้าอุปโภคบริโภค เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๒.๗ และสินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๓.๓
|
||||||||||||||||||||||||
.....
