ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1664 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 33261 - 33280 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
33261 | โครงการผลิตพยาบาลวิชาชีพเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | นร | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและเห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการโครงการผลิตพยาบาลวิชาชีพเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนี้
๑. อนุมัติอัตราข้าราชการเพิ่มใหม่ ภายในกรอบ ๒,๒๐๐ อัตรา เพื่อรองรับการบรรจุนักศึกษาตามโครงการผลิตพยาบาลวิชาชีพเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และบรรเทาปัญหาการบรรจุนักเรียนทุนรัฐบาล (แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร) ที่สำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่เหลือซึ่งปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ โดยดำเนินการตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐกำหนด และให้กระทรวงสาธารณสุขไปตกลงในรายละเอียดกับสำนักงาน ก.พ. และให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำแผนบริหารจัดการตำแหน่งว่าง รวมถึงรายละเอียดการใช้ตำแหน่งที่ว่างอยู่ แล้วรายงานคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๔๕ วัน ๒. เห็นชอบการบรรจุนักเรียนทุนรัฐบาล (แพทย ทันตแพทย์ เภสัชกร) ที่สำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน ๑๐๒ อัตรา ในอัตราว่างที่มีอยู่ (กันไว้แล้ว) เป็นลำดับแรกก่อน ส่วนนักเรียนทุนรัฐบาลที่เหลือ ซึ่งปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขบริหารจัดการตำแหน่งต่อไป ๓. เห็นชอบให้คณะอนุกรรมการบริหารจัดการกำลังคนและภารกิจด้านสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข ที่ประธานกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐแต่งตั้ง ศึกษาภาพรวมและจัดทำข้อเสนอในการแก้ปัญหากำลังคนและการบริหารจัดการภารกิจด้านสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข เสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๔. ให้สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางศึกษาผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายภาครัฐในระยะยาว หากมีการกำหนดตำแหน่งเพิ่มใหม่กรณีดังกล่าว ๕. ส่วนลูกจ้างชั่วคราวที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขจ้างด้วยเงินบำรุง จำนวน ๒๗,๓๑๘ อัตรา หากต้องให้บรรจุเป็นข้าราชการควรพิจารณาเฉพาะพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีจำนวน ๖๖๙ รายเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อลูกจ้างชั่วคราวในลักษณะเดียวกันนี้ที่ส่วนราชการ ทั้งในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงอื่นซึ่งจะทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมด้วย |
|||||||||||||||||||||
33262 | การขอรับจัดสรรงบประมาณเพิ่มเพื่อปรับอัตราค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานมหาวิทยาลัย | ศธ | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติวงเงินเพิ่มเพื่อ่ใช้ในการปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานมหาวิทยาลัยที่จ่ายค่าตอบแทนด้วยเงินงบประมาณของสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นส่วนราชการและมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ โดยให้ใช้จ่ายจากเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย ในวงเงินรวม ๓๙๗.๒๑ ล้านบาท และให้กระทรวงศึกษาธิการขอทำความตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
33263 | การช่วยเหลือผู้ประกอบการซึ่งได้รับผลกระทบเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ชุมนุมในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร | มท | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อให้ความช่วยเหลือเฉพาะในส่วนที่เป็นความเสียหายโดยตรงต่อทรัพย์สินของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ภายในกรอบวงเงินไม่เกิน ๕,๕๔๖,๖๖๗ บาท โดยให้กรุงเทพมหานครขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ๒. ให้คณะกรรมการประสานงานและกำกับโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครรับไปพิจารณาในส่วนของความเสียหายที่มีผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของบริษัทฯ โดยให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||
33264 | การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถานว่าด้วยความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและกีฬา | กต | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถานว่าด้วยความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและกีฬา ทั้งนี้ หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างความตกลงฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรีโดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) เป็นผู้ลงนามในร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถานว่าด้วยความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและกีฬา ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) เป็นผู้ลงนามความตกลงฯ
|
|||||||||||||||||||||
33265 | การจัดทำบันทึกความตกลงการขยายเวลาให้ลูกหมีแพนด้ายักษ์ (หลินปิง) อยู่ในประเทศไทยต่อไปอีก 2 ปี | ทส | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดทำและลงนามในบันทึกความตกลงบันทึกข้อตกลงการขอขยายเวลาการส่งคืนหมีแพนด้ายักษ์ (หลินปิง) ออกไปอีก ๒ ปี ทั้งนี้ หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างบันทึกข้อตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ๑.๒ ให้ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกข้อตกลงฯ และให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ฯ เป็นผู้ลงนามในบันทึกข้อตกลงต่อไป ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรสนับสนุนการจ่ายเงินเพื่อสนับสนุนงานอนุรักษ์สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเป็นการแสดงการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์หมีแพนด้ายักษ์ และในระยะต่อไป ควรหารือข้อตกลงกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนในด้านการพัฒนาความร่วมมือทางวิชาการในการขยายพันธุ์หมีแพนด้ายักษ์ในประเทศไทย และขยายระยะเวลาในการอยู่ในประเทศไทยเป็นการถาวร ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
33266 | ขออนุมัตจัดทำและลงนามข้อตกลงการแลกเปลี่ยนทางวิชาการระหว่างสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) กับมหาวิทยาลัยโตเกียว (University of Tokyo) | กษ | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติให้จัดทำข้อตกลงการแลกเปลี่ยนทางวิชาการระหว่างสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) แห่งราชอาณาจักรไทยกับมหาวิทยลัยโตเกียว (University of Tokyo) ประเทศญี่ปุ่น ตามร่างที่สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) เสนอ โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) เป็นผู้ลงนามในข้อตกลงฯ ฝ่ายไทย ๒. อนุมัติในหลักการว่าก่อนที่จะมีการลงนาม หากมีการแก้ไขร่างข้อตกลงฯ ดังกล่าว ในประเด็นที่ไม่ใช่หลักการสำคัญขอให้อยู่ในดุลยพินิจของสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
|
|||||||||||||||||||||
33267 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการควบคุมและดำเนินการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนรษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไป (กรณียุบสภา) | ลต | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ ดังนี้
๑. ค่าใช้จ่ายในภารกิจที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งต้องดำเนินการเอง ในวงเงิน ๓,๑๖๔,๘๕๙,๑๐๐ บาท ทั้งนี้ วงเงินดังกล่าวให้รวมถึงค่าใช้จ่ายในภารกิจการสืบสวนสอบสวนที่เกี่ยวข้องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย และให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป ๒. ค่าใช้จ่ายในภารกิจที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจดำเนินการ ในวงเงิน ๖๕๓,๐๘๘,๒๐๐ บาท และให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
33268 | แผนงบประมาณขับเคลื่อนการปฎิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ.2555-2561) | ศธ | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบแผนงบประมาณขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๖๑) โดยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการปฏิรูปการศึกษา (กนป.) ครั้งที่ ๒/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๔ มีมติเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อดำเนินการตามแผนงาน/โครงการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง ในปี ๒๕๕๕ ตามนโยบายเร่งด่วน ๑๐ ประการ จำนวน ๑๕,๘๓๙.๙๕๖ ล้านบาท และให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการต่อไป และเห็นชอบหลักการแผนงบประมาณขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๖๑) เป็นเงิน ๓๗๑,๕๙๘.๓๗๙ ล้านบาท ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ส่วนเรื่องงบประมาณในการดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาเป็นหน่วยงานเจ้าภาพประสานงานในลักษณะบูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการจัดทำรายละเอียด กิจกรรมของแผนงาน/โครงการ พร้อมทั้งกำหนดหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ชัดเจนเพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำเป็นปี ๆ ต่อไป และเห็นควรมีการทบทวนตรวจสอบแผนงาน/โครงการ ตามแผนงบประมาณฯ เพื่อมิให้เกิดความซ้ำซ้อนกับโครงการที่ใช้งบประจำ และจัดทำรายละเอียดแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อให้การดำเนินการตามแผนงบประมาณฯ สำเร็จตามวัตถุประสงค์ และเกิดความคุ้มค่าต่อการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
33269 | โครงการพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า | วท | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับเรื่อง โครงการพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า ไปเพื่อนำเสนอคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณา ตามนัยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๕๐ ต่อไปให้แล้วเสร็จภายใน ๓ เดือน แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๒. ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเร่งจัดทำข้อมูลตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการวิเคราะห์ความเหมาะสมของโครงการฯ จากการวิเคราะห์ความเสี่ยง โดยการทดสอบความไวของผลตอบแทนทางการเงินต่อการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยที่สำคัญ เช่น การเพิ่มขึ้นของต้นทุนค่าก่อสร้าง และความล่าช้าของการเกิดผลประโยชน์อย่างเต็มที่ รวมทั้งจัดทำรายละเอียดประมาณการรายได้ แนวทางการหารายได้ และการพิจารณาความเหมาะสมในการให้เอกชนซึ่งมีความเป็นมืออาชีพเข้าร่วมดำเนินการ/ลงทุนในบางกิจกรรม เพื่อลดภาระการอุดหนุนงบประมาณรายปีของภาครัฐ รวมถึงการประเมินผลการดำเนินงานพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่ผ่านมา และการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินโครงการฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งให้คณะกรรมการฯ เพื่อประกอบการพิจารณาโดยด่วน |
|||||||||||||||||||||
33270 | การดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบบริการการเดินอากาศของบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด | คค | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบบริการการเดินอากาศของบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) และให้กระทรวงคมนาคม และ บวท. ดำเนินการตามความเห็นของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป ดังนี้
๑. ให้คงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๓๕ เกี่ยวกับการให้ผู้ใช้ประโยชน์ (สายการบิน) เป็นผู้รับภาระการดำเนินงานและการลงทุนของ บวท. โดยยังคงยึดหลักการและวัตถุประสงค์ของการเป็นรัฐวิสาหกิจที่ไม่แสวงหากำไร ทั้งนี้ ให้ บวท. เป็นผู้รับภาระการลงทุนตามโครงการ โดยเร่งจัดเก็บค่าบริการรอเรียกเก็บสะสมจากสมาชิกสายการบินผู้ถือหุ้น ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน ๘๒๘ ล้านบาท เพื่อนำมาสมทบการลงทุนตามโครงการและจัดหาแหล่งเงินกู้เพื่อการลงทุนในส่วนที่เหลือ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาปรับปรุงอัตราค่าบริการควบคุมจราจรทางอากาศให้สะท้อนต้นทุนการดำเนินการและภาระการลงทุนด้านการให้บริการจราจรทางอากาศ และให้ส่วนราชการต่าง ๆ ที่ใช้บริการควบคุมจราจรทางอากาศและบริการการบินทดสอบต้องชำระค่าบริการให้กับ บวท. ๓. ให้ บวท. จัดทำแผนการดำเนินธุรกิจในระยะยาว โดยพิจารณาการเพิ่มรายได้จากการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและอื่น ๆ โดยอาจปรับโครงสร้างหน่วยธุรกิจเพื่อให้สามารถแยกบัญชีให้ชัดเจนระหว่างกิจกรรมที่ให้บริการเชิงสังคมและกิจกรรมที่สร้างรายได้ในเชิงธุรกิจให้กับ บวท. ควบคู่กับการพิจารณาแนวทางการลดรายจ่าย โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายบุคลากร ๔. ให้กระทรวงคมนาคมจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมการบิน และแนวทางการพัฒนาส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องให้มีความเชื่อมโยงและบูรณาการอย่างเป็นระบบ สามารถแข่งขันได้ และสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค รวมทั้งสร้างความร่วมมือของรัฐวิสาหกิจสาขาขนส่งทางอากาศในการเป็นพันธมิตรและสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจไปในทิศทางเดียวกัน ๕. ให้กระทรวงคมนาคมปรับโครงสร้างและพัฒนากลไกการกำกับดูแลสาขาการขนส่งทางอากาศ โดยกรมการบินพลเรือนควรพัฒนาองค์กรให้มีความพร้อมเพื่อรองรับการขยายตัวของปริมาณการจราจรทางอากาศ และยกระดับการเป็นองค์กรกำกับดูแลและติดตามการดำเนินงานด้านการขนส่งทางอากาศที่มีประสิทธิภาพและมีความเป็นสากล |
|||||||||||||||||||||
33271 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าดอยสุเทพ บางส่วน ในท้องที่ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ | ทส | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าดอยสุเทพ บางส่วน ในท้องที่ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ เพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าดอยสุเทพบางส่วน ในท้องที่ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อที่ ๑๕ ไร่ เพื่อให้ที่พักสงฆ์ดอยปุยตั้งเป็นวัดดอยปุยได้ ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
33272 | การจัดตั้งส่วนราชการประจำจังหวัดบึงกาฬ | นร | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการในการประชุม ครั้งที่ ๓/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๔ เกี่ยวกับหลักการกำหนดส่วนราชการประจำจังหวัดบึงกาฬ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ โดยมติคณะกรรมการฯ มี ดังนี้
๑. กรณีที่กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ มีการกำหนดให้มีราชการบริหารส่วนภูมิภาค และไม่ได้กำหนดจำนวนหรือเงื่อนไขไว้ เนื่องจากเป็นภารกิจพื้นฐานที่จำเป็นต้องมีในพื้นที่ทุกจังหวัด ก็ให้ส่วนราชการดำเนินการจัดตั้งส่วนราชการประจำจังหวัดบึงกาฬขึ้นได้ทันที โดยให้เกลี่ยอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการที่มีอยู่ไปปฏิบัติหน้าที่ในส่วนราชการประจำจังหวัดบึงกาฬที่ตั้งขึ้นใหม่ เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๓ (เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. ....) ๒. กรณีที่กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ มีการกำหนดให้มีราชการบริหารส่วนภูมิภาค และไม่ได้กำหนดจำนวนหรือเงื่อนไขไว้ แต่มีกฎหมายเฉพาะในการกำหนดให้มีการจัดตั้งส่วนราชการประจำจังหวัด ซึ่งเป็นกรณีของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ดังนั้น การจัดตั้งส่วนราชการประจำจังหวัดบึงกาฬของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จะต้องเป็นไปตามบทบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ด้วย ๓. กรณีที่กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ มีการกำหนดให้มีราชการบริหารส่วนภูมิภาค แต่มีการกำหนดเงื่อนไขให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ๓.๑ กรณีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและกระทรวงพลังงาน หากส่วนราชการวิเคราะห์และเห็นควรจัดตั้งส่วนราชการประจำจังหวัดบึงกาฬ เป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาคเพิ่มขึ้น ส่วนราชการจะต้องดำเนินการตามแนวทางหนังสือสำนักงาน ก.พ.ร. ที่ นร ๑๒๐๐๐/ว ๑๗ ลงวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๐ ๓.๒ กรณีกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมโดยที่รัฐมนตรีได้มีการประกาศกำหนดให้มีเรือนจำอำเภอบึงกาฬแล้ว กรณีนี้ให้รัฐมนตรีประกาศกำหนดให้ส่วนราชการดังกล่าวเป็นเรือนจำจังหวัดได้ทันที ๔. ทั้ง ๓ กรณีข้างต้น ไม่ต้องแก้ไขกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการของกรมต่าง ๆ แต่ประการใด
|
|||||||||||||||||||||
33273 | (ร่าง) รายงานผลการดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ฉบับที่ 3-4 | พม | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบ (ร่าง) รายงานผลการดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ฉบับที่ ๓ - ๔ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ โดยเนื้อหาของ (ร่าง) รายงานฯ ฉบับที่ ๓ - ๔ ประกอบด้วย ๑.๑ มาตรการทั่วไป : ข้อสงวนข้อ ๗ และข้อ ๒๒ กฎหมายการประสานงาน นโยบายด้านเด็กและเยาวชน กระบวนการติดตามอิสระ การจัดสรรงบประมาณ การรวบรวมข้อมูลสถิติ การเผยแพร่อนุสัญญา ๑.๒ หลักการทั่วไป : การไม่เลือกปฏิบัติ สิทธิในการมีชีวิต การอยู่รอดและการพัฒนา การเคารพความคิดเห็นของเด็ก ๑.๓ สิทธิพลเมืองและเสรีภาพ : การจดทะเบียนการเกิด ชื่อ สัญชาติและสถานะบุคคล การคุ้มครองความเป็นส่วนตัว การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การเฆี่ยนตีเด็ก ๑.๔ สภาพแวดล้อมทางครอบครัวและการเลี้ยงดูรูปแบบอื่น : การเลี้ยงดูรูปแบบอื่น ความรุนแรง การกระทำมิชอบ การปฏิบัติที่เลวร้ายและการทอดทิ้งเด็ก เด็กติดมารดาในเรือนจำ ๑.๕ สุขภาพพื้นฐานและสวัสดิการ : เด็กทุพพลภาพ สุขภาพและบริการด้านสุขภาพ สุขภาพเด็กวัยรุ่น สุขภาวะแวดล้อม เอชไอวี/เอดส์ คุณภาพชีวิต ๑.๖ การศึกษา เวลาว่าง และกิจกรรมทางวัฒนธรรม : การศึกษา การฝึกอบรมและการแนะแนว จุดมุ่งหมายของการศึกษา ๑.๗ มาตรการปกป้องพิเศษ : เด็กในพื้นที่พักพิงของผู้หนีภัยจากการสู้รบ เด็กที่เป็นบุตรของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐาน แรงงานเด็ก การแสวงประโยชน์ทางเพศจากเด็กและการค้าเด็ก เด็กในกระบวนการยุติธรรม เด็กชนพื้นเมืองดั้งเดิมและชนกลุ่มน้อย เด็กในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศเสนอ (ร่าง) รายงานฯ ฉบับที่ ๓ - ๔ ต่อคณะกรรมการสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ พร้อมทั้งให้รับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและกระทรวงแรงงานเกี่ยวกับการยกเลิกข้อสงวนข้อ ๗ ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๓ เนื่องจากข้อสงวนดังกล่าวถือได้ว่าเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญของประเทศไทยด้านสิทธิมนุษยชน หากสามารถระบุเพิ่มเติมไว้ในร่างรายงานฯ ได้ ก็จะเป็นผลดีต่อภาพลักษณ์และการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนของไทยในโอกาสต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการปรับแก้ไขข้อความในรายละเอียดต่อไป |
|||||||||||||||||||||
33274 | กำหนดงานให้คนต่างด้าวที่เป็นผู้เสียหายจากการกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ทำ | รง | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบข้อเสนอแนะของคณะกรรมการพิจารณาการทำงานของคนต่างด้าวเกี่ยวกับการกำหนดงานประเภทงานกรรมการ และงานรับใช้ในบ้าน ให้คนต่างด้าวที่เป็นผู้เสียหายจากการกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ทำ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับงานรับใช้ในบ้านเป็นงานที่ต้องใกล้ชิดกับนายจ้างมากกว่างานประเภทอื่น ๆ จึงอาจทำให้ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์อยู่ในสถานการณ์ที่เปราะบางและมีความสุ่มเสี่ยงที่จะตกเป็นผู้ถูกกระทำ (abuse) ซ้ำซ้อนได้โดยง่าย นอกจากนี้ ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์อาจไม่จำเป็นต้องเป็นบุคคลที่ไม่ได้รับการศึกษาหรือกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ดังนั้น การกำหนดประเภทของงานที่กำหนดให้ผู้เสียหายจากการกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ทำได้อาจพิจารณาให้เป็นงานที่ใช้ทักษะด้วยเช่นกัน ไปพิจารณาด้วย |
|||||||||||||||||||||
33275 | ขอความเห็นชอบการสถาปนาวันมวยไทย | วธ | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกำหนดให้วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็น “วันมวยไทย” ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๔ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้เกิดขึ้นกับประชาชนทั้งประเทศ และเป็นการเผยแพร่ชื่อเสียงเกียรติภูมิของประเทศที่มีมรดกวัฒนธรรมอันเก่าแก่และสืบสานต่อกันมาแขนงหนึ่งให้ปรากฏไปทั่วโลก ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
33276 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือระหว่างสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) กับ North East Institute of Science and Technology (NEIST) | กษ | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติให้สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) จัดทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือระหว่างสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) แห่งราชอาณาจักรไทย กับ North East Institute of Science and Technology (NEIST) แห่งประเทศสาธารณรัฐอินเดีย ตามร่างที่สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) เสนอ โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ฝ่ายไทย ๒. อนุมัติในหลักการว่า ก่อนที่จะมีการลงนาม หากมีการแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าวในประเด็นที่ไม่ใช่หลักการสำคัญ ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน |
|||||||||||||||||||||
33277 | การเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎรของกรมการปกครอง | ยธ | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้ผู้อำนวยการทะเบียนกลางยินยอมให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กรมราชทัณฑ์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เฉพาะสำนักบังคับคดีอาญาและบังคับใช้กฎหมาย เชื่อมโยงข้อมูลที่ปรากฏในทะเบียนอื่นนอกจากข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎร ตามขอบเขตการเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมการปกครอง ทั้งนี้ ขอบเขตการเชื่อมโยงข้อมูลฯ ได้แก่ ๑.๑ ฐานข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในทะเบียนอื่นนอกจากข้อมูลที่ปรากฏในทะเบียนบ้าน ทะเบียนเกิด ทะเบียนคนตาย หรือทะเบียนประวัติสำหรับคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย เช่น ภาพใบหน้าที่จัดเก็บจากข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชน รายการบิดามารดาหรือผู้รับบุตรบุญธรรมที่จัดเก็บจากฐานข้อมูลทะเบียนรับบุตรบุญธรรม เป็นต้น ทั้งนี้ ตามที่แต่ละหน่วยงานของกระทรวงยุติธรรมได้ทำบันทึกข้อตกลงกับกรมการปกครอง ๑.๒ ระบบฐานข้อมูลเฝ้าระวัง (WATCHED LIST) ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย (กรมการปกครอง) รับไปตรวจสอบการเชื่อมโยงข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎรว่ามีหน่วยงานใดที่มีการเชื่อมโยงข้อมูลในลักษณะดังกล่าว แล้วยังมิได้ดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายก็ให้ดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||
33278 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การขอตรวจเอกสาร การขอสำเนาเอกสารพร้อมคำรับรอง และค่าธรรมเนียมอื่นที่เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การขอตรวจเอกสาร การขอสำเนาเอกสารพร้อมคำรับรอง และค่าธรรมเนียมอื่นที่เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมการถ่ายข้อมูลที่ได้จัดทำจากระบบคอมพิวเตอร์และกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับการให้บริการข้อมูลด้วยการถ่ายโอนข้อมูลจากระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ขอข้อมูล และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
33279 | ขอความเห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง | กค | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการการปรับปรุงโครงสร้างสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ด้วยการจัดตั้งสำนักนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ทั้งนี้ การดำเนินการดังล่าวต้องไม่มีการเพิ่มอัตรากำลังและงบประมาณด้านบุคลากรภาครัฐ ๒. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง จำนวน ๒ ฉบับ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๔๙ (เรื่อง การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ (เรื่อง นโยบายการพัฒนาระบบราชการ) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๓ (เรื่อง การขยายระยะเวลาของมาตรการระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่หรือขยายหน่วยงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๓ (เรื่อง การขยายระยะเวลาของมาตรการระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่หรือขยายหน่วยงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๓) เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ๒.๑.๑ เพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เกี่ยวกับการเสนอแนะนโยบายและมาตรการ ตรวจสอบ และติดตามการกระทำความผิดเกี่ยวกับธุรกิจการเงินนอกระบบ และเป็นศูนย์ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องปรามการกระทำความผิดอันเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ๒.๑.๒ กำหนดให้มีสำนักนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชนในสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ๒.๑.๓ กำหนดอำนาจหน้าที่ของสำนักนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน ๒.๒ ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเลิก (๘) ของข้อ ๒ แห่งกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง พ.ศ. ๒๕๕๑ และกำหนดให้มีกลุ่มงานด้านวิชาการขึ้นตรงต่อปลัดกระทรวงการคลัง และกำหนดอำนาจหน้าที่ของกลุ่มงานด้านวิชาการ |
|||||||||||||||||||||
33280 | มาตรการภาษีและค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนไทย | กค | 03/05/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบมาตรการภาษีและค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นรายได้ให้แก่บริษัทจำกัดที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยซึ่งได้รับเงินปันผลที่จ่ายจากกำไรสุทธิของผู้จ่ายเงินได้ที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีเงินได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ๓. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา และร่างกฎกระทรวง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๓.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๓ ฉบับ มีสาระสำคัญคือ ๓.๑.๑ ยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่ผู้ระดมทุน ทรัสตี และผู้ถือศุกูกในธุรกรรมที่เกี่ยวกับศุกูก ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน ๓.๑.๒ ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ผู้ถือหุ้นสำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐(๔) (ฉ) แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะการโอนหุ้นเพื่อแลกกับหุ้น (share swap) ๓.๑.๓ ลดอัตราและยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้มีเงินได้ซึ่งอยู่ในประเทศไทยและได้รับเงินปันผลจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศซึ่งได้นำหลักทรัพย์เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และยอมให้ผู้จ่ายเงินได้นั้นหักภาษี ณ ที่จ่ายตามมาตรา ๕๐(๒) แห่งประมวลรัษฎากร ในอัตราร้อยละ ๑๐.๐ ของเงินได้ เมื่อถึงกำหนดยื่นรายการให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินปันผลดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่ผู้มีเงินได้ดังกล่าวไม่ขอรับเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้นคืน หรือไม่ขอเครดิตเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้นไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ๓.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎการ ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญคือ ๓.๒.๑ ลดอัตราภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทมหาชนจำกัดหรือบริษัทจำกัดใหม่อันได้ควบเข้ากันซึ่งมีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ๓.๒.๒ ยกเลิกเงื่อนไขบริษัทที่นำหลักทรัพย์มาจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่จะได้รับสิทธิในการลดอัตราภาษีเงินได้จะต้องไม่เป็นบริษัทที่ควบเข้ากันกับบริษัทที่เคยมีหลักทรัพย์จดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ๓.๓ ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร รวม ๓ ฉบับ มีสาระสำคัญคือ ๓.๓.๑ ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ผู้ถือหุ้นสำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐(๔) (ฉ) แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะการโอนหุ้นเพื่อแลกกับหุ้น (share swap) ๓.๓.๒ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ลูกจ้างได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีลูกจ้างออกจากงานเมื่ออายุไม่ต่ำกว่า ๕๕ ปีบริบูรณ์ หรือออกจากงานก่อนอายุครบ ๕๕ ปีบริบูรณ์ แต่ได้คงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจนอายุครบ ๕๕ ปีบริบูรณ์ และเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไม่น้อยกว่า ๕ ปี โดยไม่จำต้องมีเหตุของการเกษียณอายุ ๓.๓.๓ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้จากการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ ที่มีการซื้อขายผ่านระบบที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจัดให้มีขึ้นเพื่อเชื่อมโยงการซื้อขายกับตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศที่เป็นประเทศสมาชิกอาเซียน แต่ไม่รวมถึงเงินได้จากการขายหลักทรัพย์ที่เป็นหุ้นกู้หรือพันธบัตร ๔. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณากำหนดภาระภาษีเงินได้จากเงินปันผลในระดับบุคคลธรรมดาให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นมาตรฐานเดียวกันกับนิติบุคคล รวมทั้งศึกษาผลกระทบต่อรายได้รัฐและผลประโยชน์โดยรวมของประเทศจากการยกเว้นภาษีและค่าธรรมเนียมตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทย เพื่อประเมินความคุ้มค่าจากการดำเนินมาตรการดังกล่าว โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับการดำเนินการตามแนวทางการปรับปรุงระบบภาษีของประเทศ และการบรรลุเป้าหมายงบประมาณสมดุลภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
.....