ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1661 จากทั้งหมด 6224 หน้า แสดงรายการที่ 33201 - 33220 จากข้อมูลทั้งหมด 124475 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 33201 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (ขยายเวลาจนถึงวันที่ 20 กันยายน 2554) | นร | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีชุดเดิม (นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) มีมติแต่งตั้งไว้ (ไม่รวมถึงคณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยอาศัยอำนาจตามระเบียบหรือตามกฎหมายหนึ่งกฎหมายใด หรือคณะกรรมการที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งไว้) ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้จนถึงวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๔ และให้กระทรวงดังกล่าวเร่งเสนอเรื่องเกี่ยวกับคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรีไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายในวันพุธที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๔ เพื่อรวบรวมและนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ หากพ้นระยะเวลาวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๔ ให้คณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งและไม่ได้ดำเนินการภายในกำหนดเป็นอันสิ้นสุดลงตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ ตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 33202 | วาระแห่งชาติ "พลังแผ่นดิน เอาชนะยาเสพติด" | นร | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ได้กำหนดยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนในการเอาชนะยาเสพติดของรัฐบาล ซึ่งเมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๔ นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานเปิดปฏิบัติการวาระแห่งชาติ “พลังแผ่นดิน เอาชนะยาเสพติด” มีส่วนราชการ ภาคประชาชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมพิธี ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันแก้ไขปัญหายาเสพติดและคืนคนดีกลับสู่สังคมไทย โดยตั้งเป้าหมายจะต้องลดปัญหายาเสพติดให้ได้ภายใน ๑ ปี และเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวด้วย ๒. รับทราบการจัดตั้งศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ศพส.) มีรองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) เป็นผู้อำนวยการ และเห็นชอบให้ทุกกระทรวงให้ความร่วมมือและแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ในการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 33203 | การแก้ไขปัญหาและเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ประสบอุทกภัย | นร | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบการลงพื้นที่ในแต่ละจังหวัดกำกับติดตามและเร่งรัดการดำเนินงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในการกู้วิกฤตจากสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่รับผิดชอบโดยเร่งด่วน ทั้งนี้ ขอให้รองนายกรัฐมนตรีทุกท่านพิจารณาลงพื้นที่ต่าง ๆ ได้อีกทางหนึ่ง ตามแต่จะเห็นสมควร ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับไปตรวจสอบพื้นที่ที่มีแนวโน้มประสบปัญหาอุทกภัยต่อเนื่องยาวนาน และพิจารณาแนวทางการจัดหาพื้นที่อยู่ใหม่ทดแทนให้แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยโดยเร็ว ๓. ให้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการซ่อมแซม ก่อสร้าง และจัดทำเส้นทางคมนาคมเข้าออกชุมชนและหมู่บ้านที่มีปัญหาถนนถูกน้ำท่วมสูงและประชาชนไม่สามารถสัญจรได้ตามปกติ ๔. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) รับไปประสานงานกับกรุงเทพมหานครเพื่อกำหนดแนวทางการป้องกันปัญหาอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในกรุงเทพมหานครและพื้นที่โดยรอบโดยด่วน ๕. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในการช่วยเหลือและเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้เกษตรกรสามารถได้รับความช่วยเหลือภายใต้โครงการรับจำนำข้าวอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน ๖. ให้กระทวงเกษตรและสหกรณ์รับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพทั้งในเรื่องการระบายน้ำลงทะเล การควบคุมอัตราความเร็วของกระแสน้ำ การตรวจสอบระดับน้ำและเวลาเปิด - ปิดประตูระบายน้ำ ๗. แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการและบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย เพื่อทำหน้าที่ในการบูรณาการเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งการกำหนดแนวทางการป้องกันและการจัดให้มีระบบเตือนภัยที่รวดเร็ว โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ)เป็นประธานกรรมการ และมีกรรมการประกอบด้วย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน ผู้แทนประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญในด้านการบริหารจัดการน้ำเข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 33204 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การขยายเวลามาตรการภาษีสำหรับวิสาหกิจชุมชน) | กค | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการกำหนดให้เงินได้ของวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ที่ได้รับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ทั้งนี้ สำหรับเงินได้พึงประเมินปีละไม่เกินหนึ่งล้านแปดแสนบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 33205 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) | สธ | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นางจรุงศรี โกสินทรเสนีย์ ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ ด้านทันตกรรม กลุ่มงานทันตกรรม กลุ่มภารกิจวิชาการ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๔ ๒. นางสาวดารณี หมู่ขจรพันธ์ ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข (นักวิชาการอาหารและยาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตั้งแต่วันที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๔
|
||||||||||||||||||||||||
| 33206 | การแต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงมหาดไทย) | มท | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสมคิด ใจยิ้ม ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย (นิติกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 33207 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 100 ปี กรมศิลปากร พ.ศ. .... | กค | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๐๐ ปี กรมศิลปากร พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญคือ กำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๐๐ ปี กรมศิลปากร ชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลาย และลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์โลหะสองสี (สีขาวและสีทอง) ราคาสิบบาท ประเภทธรรมดา (จำนวนผลิตไม่เกิน ๒,๐๐๐,๐๐๐ เหรียญ) และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 33208 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยเครื่องแบบตำรวจ พ.ศ. .... | ตช | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยเครื่องแบบตำรวจ พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดลักษณะ ชนิด และประเภทของเครื่องแบบตำรวจชายและตำรวจหญิง เครื่องแบบพิเศษสำหรับตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและระงับอัคคีภัยในเขตพระราชฐานและที่ประทับ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจดุริยางค์ ตำรวจน้ำ ตำรวจที่ขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับอากาศยานของกองบินตำรวจ ตำรวจม้า และตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน ๒. กำหนดเครื่องหมายอื่นที่ใช้ประกอบการแต่งเครื่องแบบตำรวจประเภทต่าง ๆ
|
||||||||||||||||||||||||
| 33209 | ข้อมูลข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร | นร | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อมูลบัญชีรายชื่อและประวัติบุคคลของข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ในสายงานบริหาร (นักบริหาร) สายงานบริหารงานปกครอง (นักปกครอง) สายงานตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง) และสายงานบริหารการทูต (นักบริหารการทูต) ของส่วนราชการ จำแนกตามส่วนราชการและความเชี่ยวชาญพิเศษในรูป CD - Rom ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 33210 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันตามมาตรา 23 วรรคสี่ สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 (การเช่าอาคารที่ทำการสำนักงานและสัญญาเช่ารถยนต์เพื่อใช้ประจำสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสาขาในประเทศและต่างประเทศ) | กก | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๑.๑ ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าเช่าอาคารสำนักงานและรายการค่าเช่ารถยนต์ของ ททท. สำนักงานต่างประเทศ ๘ รายการ (ค่าเช่าสำนักงานโตเกียว สำนักงานจาการ์ตา สำนักงานเซี่ยงไฮ้ สำนักงานแฟรงก์เฟิร์ต สำนักงานซิดนีย์ และค่าเช่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลเพื่อใช้ประจำสำนักงานสตอกโฮล์ม สำนักงานแฟรงก์เฟิร์ต และสำนักงานปารีส) วงเงิน ๑๒๑,๓๔๕,๐๐๐ บาท และรายการค่าเช่าอาคารสำนักงานรายการใหม่ของ ททท. สำนักงานในประเทศ ๒ รายการ (สำนักงานแพร่ และสำนักงานอุทัยธานี) วงเงิน ๑,๔๐๔,๐๐๐ บาท โดยให้สามารถลงนามสัญญาได้ภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงต้นปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นกรณีที่ต้องใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ไปพลางก่อน ดังนั้น ททท. จึงต้องใช้จ่ายรายการที่ได้รับอนุมัติก่อหนี้ผูกพันดังกล่าวจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ไปพลางก่อน จนกว่างบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ จะประกาศบังคับใช้ ๑.๒ สำหรับรายการค่าเช่าอาคารสำนักงานของ ททท. สำนักงานในประเทศ ที่เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ จำนวน ๓ รายการ [สำนักงานอุบลราชธานี สำนักงานสุราษฎร์ธานี (ศูนย์ฯ สมุย) และสำนักงานหาดใหญ่] วงเงิน ๓๐๒,๐๐๐ บาท ให้ดำเนินการจัดหาไว้ล่วงหน้า และให้ก่อหนี้ผูกพันงบประมาณเมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ มีผลบังคับใช้ และได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๓ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ อันเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณซึ่งสามารถดำเนินการได้ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุฯ ข้อ ๑๓ และหนังสือคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กวพ.) ด่วนที่สุด ที่ กค (กวพ.) ๐๔๐๘.๔/ว ๓๕๑ ลงวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๔๘ ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรพิจารณาจ่ายเงินงบประมาณให้เป็นไปอย่างคุ้มค่า และมีการติดตามประเมินผลการดำเนินงานของสำนักงาน ททท. ในประเทศและต่างประเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 33211 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีนายสกลสมบูรณ์ เสรีรักษ์ กับพวก รวม 65 คน ฟ้องนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 22 คน ต่อศาลปกครองสูงสุด | อส | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขดำที่ ฟ.๑๒/๒๕๕๑ หมายเลขแดงที่ ฟ.๒๘/๒๕๕๔ ระหว่าง
นายสกลสมบูรณ์ เสรีรักษ์ กับพวกรวม ๖๕ คน ผู้ฟ้องคดี นายกรัฐมนตรี กับพวก รวม ๒๒ คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่องขอให้เพิกถอนพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษายกฟ้องคดีดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||
| 33212 | ขอความเห็นชอบร่างบันทึกการประชุมคณะกรรมการระดับสูงไทย - อินโดนีเซีย ครั้งที่ 5 | กห | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างบันทึกการประชุมคณะกรรมการระดับสูงไทย - อินโดนีเซีย ครั้งที่ ๕ เพื่อใช้เป็นกรอบการประชุมและกรอบการเจรจาของคณะกรรมการระดับสูง ไทย - อินโดนีเซีย ครั้งที่ ๕ ในวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๔ ณ กรุงเทพฯ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ โดยร่างบันทึกการประชุมฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. การรายงานผลการดำเนินงานหลังจากการประชุมคณะกรรมการระดับสูง ไทย - อินโดนีเซีย ครั้งที่ ๔ ที่สำคัญ ได้แก่ ความคืบหน้าในการจัดทำระเบียบปฏิบัติประจำ (Standard Operating Procedure - SOP) การลาดตระเวนร่วมในช่องแคบมะละการะหว่างไทยกับอินโดนีเซีย การขยายความร่วมมือในการช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ (Humanitarian Assistance and Disaster Relief - HA/DR) และการรักษาสันติภาพและการแพทย์ระหว่างไทย - อินโดนีเซีย ๒. การรายงานผลการประชุม ครั้งที่ ๓ ของคณะอนุกรรมการร่วม ๓ คณะ ประกอบด้วย ๒.๑ รายงานผลการประชุมคณะอนุกรรมการร่วมด้านการข่าว ไทย - อินโดนีเซีย ครั้งที่ ๓ ที่สำคัญ ได้แก่ การขยายความร่วมมือด้านการข่าวเกี่ยวกับ HA/DR และการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ๒.๒ รายงานผลการประชุมคณะอนุกรรมการร่วมด้านยุทธการ ไทย - อินโดนีเซีย ครั้งที่ ๓ ที่สำคัญ คือ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในร่างบันทึกความเข้าใจและระเบียบปฏิบัติประจำในการลาดตระเวนร่วมในช่องแคบมะละกา ความร่วมมือด้าน HA/DR และการรักษาสันติภาพ รวมทั้งการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ ๒.๓ รายงานผลการประชุมคณะอนุกรรมการร่วมด้านการฝึกและศึกษา ไทย - อินโดนีเซีย ครั้งที่ ๓ ที่สำคัญ คือ คงความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนการดูงานและเยี่ยมเยือนสถาบันทางทหารโดยอากาศยานทหารของทั้งสองประเทศ ซึ่งเริ่มดำเนินการเมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๕๔ ต่อไป รวมทั้งจะกระชับความร่วมมือด้านการฝึกและศึกษาตามกรอบความร่วมมือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมประเทศคู่เจรจา ๕ ด้าน ได้แก่ ความร่วมมือด้าน HA/DR การรักษาความมั่นคงทางทะเล การรักษาสันติภาพ การแพทย์ทหาร และการต่อต้านการก่อการร้าย ๓. การรายงานแผนการประชุมคณะกรรมการระดับสูงและคณะอนุกรรมการร่วมทั้ง ๓ คณะ
|
||||||||||||||||||||||||
| 33213 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีนายฟรานซิส ก. (กู้เกียรติ) เรืองฤทธิ์ ฟ้องนายกรัฐมนตรีคณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2550 ต่อศาลปกครองสูงสุด | อส | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมและสำนักงานอัยการสูงสุดแจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงที่ ฟ. ๒๒/๒๕๕๔ ซึ่งมีคำพิพากษายกฟ้องคดีหมายเลขดำที่ ฟ. ๑๕/๒๕๕๑ ระหว่างนายฟรานซิส ก.(กู้เกียรติ) เรืองฤทธิ์ ผู้ฟ้องคดีนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. ๒๕๕๐ ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. ๒๕๕๐
|
||||||||||||||||||||||||
| 33214 | รายงานการโอนงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย | นร | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอรายงานการโอนงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รวม ๓ ฉบับ ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ผ่านมายังมิได้รับทราบ เนื่องจากมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร ดังนี้
๑. รายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ในช่วง ๖ เดือนแรก (๑ ตุลาคม ๒๕๕๑ - ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๒) ๒. รายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ในช่วง ๖ เดือนหลัง (๑ เมษายน ๒๕๕๒ - ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒) ๓. รายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ในช่วง ๖ เดือนแรก (๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ - ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๓)
|
||||||||||||||||||||||||
| 33215 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๔ เพื่อปรับปรุงการเทียบตำแหน่งในการได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปดำเนินงานของประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รองประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยให้ประธานสภาและรองประธานสภาฯ ได้รับสิทธิในอัตราเดียวกับข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง และสมาชิกสภาฯ ได้รับสิทธิในอัตราเดียวกับข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 33216 | การคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรก | กค | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการและแนวทางการคืนเงินแก่ผู้ซื้อรถยนต์คันแรก ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้แก้ไขวันที่ผู้ซื้อรถยนต์ จาก “ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕” เป็น “ตั้งแต่วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕” สำหรับแนวทางการคืนเงินแก่ผู้ซื้อรถยนต์คันแรก มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ ผู้ซื้อรถยนต์คันแรกตั้งแต่วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ต้องยื่นคำขอคืนเงินกับกรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่พร้อมเอกสารหลักฐาน ได้แก่ หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนภายใน ๕ ปี สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ และสำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ในกรณีเช่าซื้อ) ๑.๒ กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่มีหนังสือถึงกรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัด เพื่อขอให้ตรวจสอบการครอบครองรถยนต์คันแรก และแจ้งการสละสิทธิ์การโอนภายใน ๕ ปีของผู้ซื้อ ๑.๓ กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจสอบและบันทึก “ห้ามโอนภายใน ๕ ปี” ลงในระบบคอมพิวเตอร์และในสมุดคู่มือการจดทะเบียน ๑.๔ กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดส่งหนังสือรับรองการครอบครองรถยนต์คันแรก และสำเนาคู่มือการจดทะเบียนที่บันทึก “ห้ามโอนภายใน ๕ ปี” ให้กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ ๑.๕ กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ และสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ซื้อตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ เป็นต้นไป ๒. อนุมัติในหลักการค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ จำนวน ๑๐๐ ล้านบาท เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขภายใต้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ไปพลางก่อน โดยให้กระทรวงการคลังขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป ๓. อนุมัติในหลักการกรอบวงเงินในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ จำนวน ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรกเท่ากับภาษีที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินคันละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้กระทรวงการคลังเสนอขอตั้งงบประมาณจำนวนดังกล่าวตามขั้นตอนต่อไป ๔. อนุมัติเป็นหลักการให้อธิบดีกรมบัญชีกลาง หรือผู้ที่อธิบดีกรมบัญชีกลางมอบหมายมีอำนาจอนุมัติให้คืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรกให้กับผู้ซื้อ ทั้งนี้ ในการดำเนินการคืนเงินดังกล่าวให้กรมสรรพสามิตประสานงานในรายละเอียดกับกรมบัญชีกลางต่อไป ๕. ให้กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ให้ความร่วมมือกับกรมสรรพสามิตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแสดงหลักฐานการครอบครองรถยนต์คันแรก การบันทึกข้อมูลห้ามจำหน่าย โอนรถยนต์ภายใน ๕ ปี ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๖. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรปรับปรุงเกณฑ์การคืนเงินแก่ผู้ซื้อรถยนต์คันแรกเพิ่มเติม โดยให้สะท้อนถึงแนวนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนด้วย ส่วนการใช้เกณฑ์กระบอบสูบที่จำกัดไว้ไม่เกิน ๑,๕๐๐ ลูกบาศก์เซนติเมตร และประเภทของรถ เช่น รถยนต์กระบะ หรือรถยนต์นั่งกระบะ อาจพิจารณาให้ครอบคลุมถึงรถยนต์ที่มีกระบอกสูบเกิน ๑,๕๐๐ ลูกบาศก์เซนติเมตร แต่มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำและสามารถใช้พลังงานทดแทนได้ด้วย รวมทั้งควรกำหนดหลักเกณฑ์ด้านมาตรฐานการปล่อยมลพิษและมาตรฐานความปลอดภัยเพิ่มเติม เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานยานยนต์ที่ผลิตและใช้ภายในประเทศ นอกจากนี้ ควรกำหนดระยะเวลาคืนภาษีอย่างชัดเจนและเป็นระบบ พิจารณาความเหมาะสมในการสนับสนุนมาตรการด้านสินเชื่อรถยนต์สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อย ตลอดจนเร่งปรับปรุงการเชื่อมต่อของระบบคมนาคมขนส่งเพื่อรองรับปริมาณรถยนต์ใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ ๕๐๐,๐๐๐ คัน เช่น การจัดพื้นที่จอดแล้วจร (Park and Ride) เพื่อให้ผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลสามารถเชื่อมต่อการเดินทางกับระบบขนส่งมวลชนสาธารณะในการเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 33217 | ร่างกฎกระทรวง (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบทหาร พุทธศักราช 2477 ว่าด้วยเครื่องแบบทหารบก ฉบับที่ .. | กห | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๗ ว่าด้วยเครื่องแบบทหารบก ฉบับที่ .. มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง (พ.ศ. ๒๕๔๒) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๗ ว่าด้วยเครื่องแบบทหาร ฉบับที่ ๘๐ โดยปรับปรุงเครื่องแบบทหารบกที่เกี่ยวข้องกับการติดเครื่องหมายรูปคทาไขว้ประกอบกับช่อชัยพฤกษ์ของนายทหารสัญญาบัตรนอกประจำการชั้นพันเอกซึ่งเทียบเท่าพลจัตวา นายพล และจอมพล เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหวางนายทหารสัญญาบัตรประจำการและนอกประจำการ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 33218 | ขออนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินงานโครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิและขออนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พร้อมทั้งเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการค่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงาน | กษ | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ จากเดิม ๖ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ - ๒๕๕๓) เป็น ๗ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ - ๒๕๕๔) เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันฯ รายการค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างโครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ๑.๒ ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างโครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ จากเดิมปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ - ๒๕๕๓ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ - ๒๕๕๔ พร้อมทั้งเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณจากวงเงินตามสัญญาเดิม ๑๘๑,๑๗๙,๑๑๙.๖๐ บาท เป็นวงเงิน ๒๑๓,๐๐๑,๘๑๙.๖๐ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ (เรื่อง การปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณและมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง) เป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 33219 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านกล้วย ตำบลในเมือง และตำบลท่าชัย อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท พ.ศ. .... | คค | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านกล้วย ตำบลในเมือง และตำบลท่าชัย อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านกล้วย ตำบลในเมือง และตำบลท่าชัย อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท เพื่อสร้างทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๑๑ ไปจดแม่น้ำเจ้าพระยา และสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดท่าชัย และถนนต่อเชื่อม เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับร่างพระราชกฤษฎีกาที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ในร่างมาตรา ๒ ได้กำหนดให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้น ร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้สมควรให้มีผลใช้บังคับไม่ก่อนวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๔ และการกำหนดเงินค่าทดแทนให้กับผู้ถูกเวนคืนจะต้องใช้ฐาน ณ วันที่ร่างพระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกเวนคืน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 33220 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลบ้านกล้วย ตำบลในเมือง และตำบลท่าชัย อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลบ้านกล้วย ตำบลในเมือง และตำบลท่าชัย อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลบ้านกล้วย ตำบลในเมือง และตำบลท่าชัย อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อประโยชน์สาธารณะในการสร้างทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๑๑ ไปจดแม่น้ำเจ้าพระยาและสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดท่าชัย และถนนต่อเชื่อม ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
.....
