ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1666 จากทั้งหมด 6224 หน้า แสดงรายการที่ 33301 - 33320 จากข้อมูลทั้งหมด 124475 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 33301 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิ สาระผล และนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์) | พณ | 30/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายภูมิ สาระผล และนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตามลำดับ เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้รวมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||
| 33302 | คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 | นร | 30/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๔๔/๒๕๕๔ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ลงวันที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยมีประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง องคมนตรี (นายอำพล เสนาณรงค์) และองคมนตรี (นายสวัสดิ์ วัฒนายากร) เป็นที่ปรึกษาและกรรมการ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรีทุกท่าน เป็นรองประธานกรรมการ และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและเลขนุการ มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายและแนวทางการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ให้สมพระเกียรติและถูกต้องตามราชประเพณี พิจารณาและให้ความเห็นชอบแผนงาน โครงการ และกิจกรรมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ตลอดจนแต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานตามที่เห็นสมควร ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ๒. เห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเพิ่มเติมว่า เพื่อให้การจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ เป็นไปอย่างสมพระเกียรติและถูกต้องตามราชประเพณี รวมทั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ เร่งรัดดำเนินการจัดการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อติดตามผลการดำเนินการดังกล่าวภายใน ๑ สัปดาห์
|
|||||||||||||||||||||
| 33303 | คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี | นร | 30/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๔๓/๒๕๕๔ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ลงวันที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยมีประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา และองคมนตรี (นายพลากร สุวรรณรัฐ) เป็นคณะที่ปรึกษา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรีทุกท่าน เป็นรองประธานกรรมการ และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้องตามราชประเพณี และสมพระเกียรติ ประสานงานกับหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องและอำนวยการจัดงานพระราชพิธีให้สมพระเกียรติ รวมทั้งมีอำนาจแต่งตั้งคณะที่ปรึกษา คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานได้ตามความจำเป็น ตลอดจนดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ๒. เห็นชอบให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เร่งรัดดำเนินการจัดการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ เพื่อติดตามผลการดำเนินการดังกล่าวภายใน ๑ สัปดาห์ ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเพิ่มเติม
|
|||||||||||||||||||||
| 33304 | แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (จำนวน 20 ราย 1. พลเอก วัฒนา สรรพานิช ฯลฯ) | นร | 30/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี จำนวน ๒๐ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ได้รับแต่งตั้งลาออกจากตำแหน่งอื่น ๆ ที่เป็นลักษณะต้องห้ามได้ดำเนินการให้เรียบร้อย ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. พลเอก วัฒนา สรรพานิช ๒. นายวิมล จันทร์จิราวุฒิกุล ๓. นายภาคิน สมมิตร ๔. นายสฤษฏ์ อึ้งอภินันท์ ๕. นายสุเทพ สายทอง ๖. พลโท มะ โพธิ์งาม ๗. นายประภัสร์ จงสงวน ๘. นายพิทยา พุกกะมาน ๙. พลตำรวจโท วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ ๑๐. นางสาวมาลินี อินฉัตร ๑๑. นายเหรียญชัย ลิขิตพฤกษ์ ๑๒. พลตำรวจโท ฉลอง สนใจ ๑๓. นายสุรชัย เบ้าจรรยา ๑๔. นายปรีชา ธนานันท์ ๑๕. นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ๑๖. นายวิสา คัญทัพ ๑๗. นางฉวีวรรณ คลังแสง ๑๘. นายวิบูลย์ แช่มชื่น ๑๙. นายมานิตย์ ภาวสุทธิ์ ๒๐. นายธวัชชัย สุทธิบงกช
|
|||||||||||||||||||||
| 33305 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (จำนวน 4 ราย 1. นายสมหวัง อัสราษี ฯลฯ) | พณ | 30/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายสมหวัง อัสราษี ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ๒. นายชัยวัฒน์ ทรัพย์รวงทอง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล) ๓. นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ๔. พันตรี วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ ตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล)
|
|||||||||||||||||||||
| 33306 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (จำนวน 3 ราย 1. นายอารี ไกรนรา ฯลฯ) | มท | 30/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๓ ราย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ๒. นายสุรสิทธิ์ วงค์วิทยานันท์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชูชาติ หาญสวัสดิ์) ๓. นายยศวริศ ชูกล่อม ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฐานิสร์ เทียนทอง)
|
|||||||||||||||||||||
| 33307 | การแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย (จำนวน 5 ราย 1. นางนลินี ทวีสิน ฯลฯ) | นร | 30/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย จำนวน ๕ ราย ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. นางนลินี ทวีสิน ๒. นายพิเชษฐ์ สถิรชวาล ๓. นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์ ๔. นางลินดา เชิดชัย ๕. นายวรวีร์ มะกูดี
|
|||||||||||||||||||||
| 33308 | มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2554 (ครั้งที่ 137) | พน | 30/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในการประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๕๔ (ครั้งที่ ๑๓๗) เมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๔ เรื่อง มาตรการชะลอการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลเพื่อลดภาระของผู้บริโภค ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบในหลักเกณฑ์ให้ชะลอการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากน้ำมันเบนซิน 95 น้ำมันเบนซิน 91 และน้ำมันดีเซล เป็นการชั่วคราว โดยให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานรับไปดำเนินการกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนที่จะเริ่มดำเนินการในปีแรกของรัฐบาล รวมทั้งติดตามความคืบหน้าและผลกระทบจากการดำเนินนโยบายดังกล่าว หลังจากนั้นให้รายงานเสนอ กพช. เพื่อทราบเป็นระยะ ๆ ต่อไป ๑.๒ เห็นชอบในหลักเกณฑ์ให้ชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือให้ผู้ค้าน้ำมัน ของน้ำมันเบนซิน 95 น้ำมันเบนซิน 91 และน้ำมันดีเซล ตามปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือที่คลังน้ำมันและสถานีบริการน้ำมัน โดยให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานรับไปดำเนินการกำหนดอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ๑.๓ เห็นชอบคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๙/๒๕๕๔ เรื่อง กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้สามารถดำเนินการตรวจสอบปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือ ณ คลังน้ำมันและสถานีบริการ ตั้งแต่เวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ของวันก่อนที่จะมีประกาศราคาขายปลีกใหม่บังคับใช้ และให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือให้ผู้ค้าน้ำมัน ๒. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานรับไปกำกับติดตามการพิจารณาปรับลดราคาน้ำมันในคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานให้เหมาะสม โดยให้มีช่องว่าง (gap) ระหว่างราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน ๙๑ และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ให้สามารถจูงใจประชาชนเลือกใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์เป็นหลัก เนื่องจากการปรับลดราคาน้ำมันข้างต้น เป็นเพียงมาตรการระยะสั้นเพื่อช่วยพยุงค่าครองชีพของประชาชน โดยรัฐบาลยังคงมีนโยบายส่งเสริมการผลิต การใช้และพัฒนาพลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก รวมทั้งส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์อยู่เช่นเดิม ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปประสานงานและขอความร่วมมือผู้ประกอบการด้านต่าง ๆ รวมทั้งพิจารณาดำเนินการโดยใช้กลไกที่มีอยู่ของหน่วยงาน เพื่อให้มีการพิจารณาปรับลดราคาสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันที่ได้ปรับลดลงแล้ว เพื่อช่วยบรรเทาภาระของประชาชนผู้บริโภคต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 33309 | สรุปสถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน "นกเตน" (NOCK - TEN) และร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่าน และอิทธิพลของร่องมรสุม กำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (ข้อมูล ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2554) | มท | 30/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปสถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “นกเตน” (NOCK - TEN) และร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่าน และอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (ข้อมูล ณ วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๔) ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สรุปสถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากพายุโซนร้อน “นกเตน” (NOCK - TEN) และร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (ระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม - ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๔) มีพื้นที่ซึ่งประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) รวม ๓๐ จังหวัด ๒๕๘ อำเภอ ๑,๗๖๖ ตำบล ๑๔,๘๕๖ หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดแพร่ เชียงใหม่ สุโขทัย น่าน ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ นครพนม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี อุดรธานี หนองคาย มุกดาหาร บึงกาฬ สกลนคร เลย เพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์ นครนายก ปราจีนบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดชัยนาท ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๑,๐๔๑,๖๓๙ ครัวเรือน ๓,๕๗๘,๑๖๘ คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง ๔๒ หลัง เสียหายบางส่วน ๑๓,๔๖๐ หลัง พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย ๒,๒๓๙,๑๙๘ ไร่ ถนน ๖,๐๐๔ สาย สะพาน/คอสะพาน ๕๒๕ แห่ง บ่อปลา/บ่อกุ้ง ๒๓,๒๙๙ บ่อ ปศุสัตว์ ๙๑,๐๔๑ ตัว มีผู้เสียชีวิต ๕๒ ราย สูญหาย ๑ คน ทั้งนี้ จังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างฟื้นฟู จำนวน ๒๒ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน แพร่ ลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ประจวบคีรีขันธ์ นครนายก และจังหวัดปราจีนบุรี ๒. สรุปสถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ย (ระหว่างวันที่ ๑๗ - ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๔) ส่งผลกระทบในพื้นที่และประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) รวม ๖ จังหวัด ๒๓ อำเภอ ๑๐๙ ตำบล ๕๘๖ หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดเชียงราย ระยอง พังงา ภูเก็ต ระนอง และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๘๗,๕๐๒ ครัวเรือน ๒๙๓,๕๘๘ คน มีผู้เสียชีวิต ๒ ราย ทั้งนี้ จังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างฟื้นฟู จำนวน ๓ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย ระยอง และจังหวัดภูเก็ต
|
|||||||||||||||||||||
| 33310 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน [รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายวิทยา บุรณศิริ)] | รง | 30/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายวิทยา บุรณศิริ) ตามลำดับ เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในกรณีที่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานด้วย
|
|||||||||||||||||||||
| 33311 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางนฤมล ธารดำรงค์ และนายสง่า ธนสงวนวงศ์) | รง | 30/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๒ ราย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นางนฤมล ธารดำรงค์ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ๒. นายสง่า ธนสงวนวงศ์ ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
|
|||||||||||||||||||||
| 33312 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (จำนวน 10 ราย 1.นายสรรพภัญญู ศิริไปล์ ฯลฯ) | นร | 30/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๓ ตำแหน่ง รวม ๑๐ ราย ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง จำนวน ๒ ราย ได้แก่ ๑.๑ นายสรรพภัญญู ศิริไปล์ (รองนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) ๑.๒ พันตำรวจเอก ปราณ์รนต์ สันติปราน์รนต์ (รองนายกรัฐมนตรี พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ) ๒. ตำแหน่งที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี จำนวน ๑ ราย ได้แก่ นายถาวร จำปาเงิน (รองนายกรัฐมนตรี นายชุมพล ศิลปอาชา) ๓. ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำนวน ๗ ราย ได้แก่ ๓.๑ นายพงษ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง ๓.๒ นายจำรัส เวียงสงค์ ๓.๓ นางสาวนพสรัญ วรรณศิริกุล ๓.๔ นายถนอม สมผล ๓.๕ นายสุรชัย ทิณเกิด ๓.๖ นาวาตรี วรวิทย์ เตชะสุภากูร ๓.๗ นายไพศาล ชโนวรรณ
|
|||||||||||||||||||||
| 33313 | การรายงานความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย | พม | 25/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการรายงานความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดได้สำรวจความสูญเสียและความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัย ณ วันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๔ มีจังหวัดที่ประสบอุทกภัย จำนวน ๒๕ จังหวัด มีผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อน จำนวน ๒,๕๒๗,๔๒๓ ราย เสียชีวิต ๓๒ ราย และสูญหาย ๒ ราย ๑.๒ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ประสบอุทกภัย ตามระเบียบกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่าด้วยการจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นเงินสงเคราะห์ครอบครัว จำนวน ๓,๙๗๔ ราย รวมเป็นเงิน ๓,๙๙๗,๐๐๐ บาท และได้จัดทำโครงการฝึกอาชีพระยะสั้นแก่ผู้ประสบอุทกภัย โดยมีจำนวนกลุ่มเป้าหมาย ๒๔๗,๒๔๘ คน เป็นเงิน ๑,๖๖๙,๑๗๑,๐๐๐ บาท เพื่อขอรับการสนับสนุนงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ๒. ในส่วนของการจัดทำโครงการฝึกอาชีพระยะสั้นแก่ผู้ประสบอุทกภัยโดยขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑,๖๖๙,๑๗๑,๐๐๐ บาท นั้น ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิจารณาดำเนินการเฉพาะในส่วนที่จำเป็นเร่งด่วนที่ผู้ประสบภัยได้รับความเดือดร้อนอย่างรุนแรงเป็นลำดับแรก โดยให้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณในการปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ของหน่วยงานมาดำเนินการก่อน และให้รายงานความคืบหน้าเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 33314 | การมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตรวจพิจารณาร่างมติคณะรัฐมนตรี (ยกเลิกโดยมติ 1905/55) | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวกฤษณา สีหลักษณ์) เป็นผู้ตรวจพิจารณาร่างมติคณะรัฐมนตรี ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
| 33315 | แนวทางปฏิบัติในการชี้แจงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 16 มิถุนายน 2552) | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๒ (เรื่อง การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการชี้แจงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี) ต่อไป ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
| 33316 | ขอความเห็นชอบให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2553 (เรื่อง การปรับปรุงแนวทางการนำหนังสือตอบความเห็นของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี) ต่อไป | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๓ (เรื่อง การปรับปรุงแนวทางการนำหนังสือตอบความเห็นของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี) โดยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐส่งหนังสือเสนอความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอย่างช้าก่อนเวลาเริ่มการประชุมคณะรัฐมนตรี (ปกติกำหนดเวลา ๙.๐๐ น.) เพื่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้จัดทำสำเนาแจกที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หากเลยกำหนดเวลาดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดทำสำเนาแจกที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เฉพาะกรณีที่รัฐมนตรีหรือหัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่มีข้อเสนอแนะหรือความเห็นได้นำเสนอข้อเสนอแนะหรือความเห็นนั้นในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
| 33317 | การแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) ขึ้นคณะหนึ่ง ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ โดยให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณาและประสานงานในการเลือกสรรผู้สมควรดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ ตลอดจนองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ และนำเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้ง แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
| 33318 | แนวทางปฏิบัติกรณีมีการขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร่างพระราชบัญญัติหรือ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว มีข้อความ ขัดหรือแย้งหรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และแนวทางปฏิบัติกรณีมีการตรวจสอบจากองค์กรตามรัฐธรรมนูญ | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางปฏิบัติกรณีมีการขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างพระราชบัญญัติหรือร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว มีข้อความขัดหรือแย้งหรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และแนวทางปฏิบัติกรณีมีการตรวจสอบจากองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
| 33319 | การขอรับร่างพระราชบัญญัติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ศาลหรือองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาพิจารณาก่อนรับหลักการ | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการขอรับร่างพระราชบัญญัติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ศาลหรือองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาพิจารณาก่อนรับหลักการ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ในการเสนอสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอรับร่างพระราชบัญญัติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ศาลหรือองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาพิจารณาก่อนรับหลักการ โดยปกติให้ขอเวลาสำหรับพิจารณามีกำหนดอย่างน้อย ๔๕ วัน แต่ถ้าเป็นเรื่องด่วนให้ขอเวลาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า ๓๐ วัน ๒. เมื่อสภาผู้แทนราษฎรอนุมัติแล้ว ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างพระราชบัญญัตินั้นให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาดำเนินการ โดยให้เชิญผู้แทนกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้องกับร่างพระราชบัญญัตินั้นมาร่วมพิจารณาโดยด่วนให้แล้วเสร็จ และเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนครบกำหนดเสนอสภาผู้แทนราษฎร ๑๕ วัน เพื่อให้สามารถเสนอสภาผู้แทนราษฎรได้ภายในกำหนดเวลาขอรับมา ทั้งนี้ เพื่อให้การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแต่ละฉบับมีความสอดคล้องกับทิศทางนโยบายของคณะรัฐมนตรีและกรอบของงบประมาณ จึงขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเชิญผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณร่วมพิจารณาด้วยทุกครั้ง
|
|||||||||||||||||||||
| 33320 | แนวทางปฏิบัติในการเสนอร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการภายในกรมตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน | นร | 25/08/2554 | ||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการปฏิบัติในการเสนอร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการภายในกรมตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ให้กรมเจ้าของเรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานแบ่งส่วนราชการภายในกรม โดยมีผู้แทนหน่วยงานกลาง ประกอบด้วย สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เข้าร่วมเป็นคณะทำงานดังกล่าว และมีเจ้าหน้าที่ของกรมเป็นฝ่ายเลขานุการ และกระทรวงแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างระบบราชการของกระทรวง โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวง เป็นประธาน ปลัดกระทรวง เลขาธิการ ก.พ.ร. เลขาธิการ ก.พ. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ปลัดกระทรวงการคลัง เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นกรรมการ และมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ก.พ.ร. เป็นฝ่ายเลขานุการ ๒. ให้คณะทำงานแบ่งส่วนราชการภายในกรม เสนอเรื่องต่อคณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างระบบราชการของกระทรวงแล้วให้ส่งร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการที่คณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างระบบราชการของกระทรวงพิจารณาแล้ว ให้ ก.พ.ร. พิจารณา และเมื่อ ก.พ.ร. พิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงส่งร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการดังกล่าวให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่งร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการที่ได้ตรวจพิจารณาเสร็จแล้วให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีทราบ และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป อนึ่ง ในกรณีที่ ก.พ.ร. และคณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างระบบราชการของกระทรวงมีความเห็นไม่สอดคล้องกัน ให้สำนักงาน ก.พ.ร. ส่งร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
.....
