ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1666 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 33301 - 33320 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
33301 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณก่อสร้างอาคารคนไข้ 298 เตียง โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช | สธ | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารพักคนไข้ ๒๙๘ เตียง เป็นอาคาร คสล. ๘ ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ ๑๑,๓๘๓ ตารางเมตร โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน ๑ หลัง ในวงเงิน ๒๗๗,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๓๘,๓๐๓,๐๐๐ บาท และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๗ จำนวน ๒๓๘,๖๙๗,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
33302 | การลงนามความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่สูงกับต่างประเทศ | กษ | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติให้ความเห็นชอบในการจัดทำข้อตกลงและหนังสือแสดงเจตจำนงเพื่อการลงนาม ๒ เรื่อง โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ดังนี้ ๑.๑ ข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการไทย - โคลอมเบีย (Technical Cooperation Agreement) ฉบับที่ ๒ ระหว่างมูลนิธิโครงการหลวง สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) และหน่วยงาน Accion Social แห่งสาธารณรัฐโคลอมเบีย ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐโคลอมเบีย ๑.๒ หนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) ระหว่างมูลนิธิโครงการหลวง สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) และ UNODC ประจำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งเป็นสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติประจำ สปป.ลาว ๒. อนุมัติในหลักการว่า ก่อนที่จะมีการลงนาม หากมีการแก้ไขร่างข้อตกลงและร่างหนังสือแสดงเจตจำนงในประเด็นที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงการต่างประเทศ ๓. อนุมัติให้ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูงหรือผู้แทนเป็นผู้ลงามในข้อตกลงความร่วมมือและหนังสือแสดงเจตจำนง ๔. อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ในการลงนามในข้อตกลงและหนังสือแสดงเจตจำนงให้แก่ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูงในการลงนามในข้อตกลงและหนังสือแสดงเจตจำนง
|
||||||||||||||||||||||||
33303 | แต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การตลาด | มท | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การตลาด จำนวน ๕ คน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
๑. นายภาณุ อุทัยรัตน์ รองประธานกรรมการ ๒. พลโท ชาติชิตตรีรัตน์ กรรมการ ๓. นายถวิล เปลี่ยนศรี กรรมการ ๔. นายปรีชา ภูขำ กรรมการ ๕. พลตำรวจโท เจตน์ มงคลหัตถี กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||
33304 | แนวทางการควบคุมการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ปี 2554 | กษ | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบ เห็นชอบ และอนุมัติ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบสาเหตุการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ๑.๒ เห็นชอบแนวทางการควบคุมการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ปี ๒๕๕๔ โดยสรุป ดังนี้ ๑.๒.๑ ให้จังหวัดที่มีการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลดำเนินการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด และหน่วยงานในจังหวัดที่เกี่ยวข้องรณรงค์ประชาสัมพันธ์พื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรงเพื่อลดปริมาณตัวแก่ของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลโดยวิธีกล โดยรัฐสนับสนุนอุปกรณ์ดักแสงไฟใน ๒๐ จังหวัด ๆ ละ ๑๐๐ ชุด รวมเป็น ๒,๐๐๐ ชุด ๆ ละ ๕,๐๐๐ บาท โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น ๑๐ ล้านบาท ๑.๒.๒ สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล จำนวน ๑๕,๐๐๐ ตัน ในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายร้อยละ ๕๐ ไม่เกินรายละ ๑๐ ไร่ ๆ ละ ๑๐ กิโลกรัม (รายละไม่เกิน ๑๐๐ กิโลกรัม) โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น ๓๑๕ ล้านบาท ๑.๒.๓ จัดตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็วในการทำงานเชิงรุกเพื่อเผยแพร่ความรู้ในการป้องกันกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล จำนวน ๕ หน่วย ๆ ละ ๔ ล้านบาท โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น ๒๐ ล้านบาท ๑.๒.๔ รณรงค์ เผยแพร่ และประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อถ่ายทอดความรู้ คำแนะนำผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบกระจายสู่พื้นที่ที่มีการระบาด โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น ๒๕ ล้านบาท ๑.๒.๕ จัดตั้งศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน จำนวน ๓๐๐ ศูนย์ เพื่อเป็นศูนย์กลางการแก้ไขของชุมชนในการควบคุมการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลอย่างทั่วถึง โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น ๑๕ ล้านบาท ๑.๓ อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๓๘๕ ล้านบาท เพื่อดำเนินการตามนัยข้อ ๑.๒ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งดำเนินการควบคุมและป้องกันการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล การวางแผนเชิงรุก การเผยแพร่และถ่ายทอดความรู้ การรณรงค์และประชาสัมพัน์เกี่ยวกับการควบคุมและกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล การใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูข้าวอย่างถูกต้อง การสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ที่มีการระบาดเข้าร่วมโครงการจัดระบบการปลูกข้าวอย่างทั่วถึง และเร่งการดำเนินการประกันภัยพืชผลการเกษตรให้สามารถปฏิบัติเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. สำหรับการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๓๘๕ ล้านบาท ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำรายละเอียดของแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายเงินเพื่อขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
33305 | คณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่ คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง | กห | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ดังนี้
๑. ปรับปรุงชื่อ องค์ประกอบ และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง จำนวน ๘ คณะ ประกอบด้วย ๑.๑ คณะกรรมการการตอบแทนกลับคืนทางเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (เฉพาะกรณีความร่วมมือกับรัฐบาลประเทศสหราชอาณาจักร) ๑.๒ คณะกรรมการพิจารณาสิทธิกำลังพลกรณีพิเศษ กองบัญชาการทหารสูงสุด ๑.๓ คณะกรรมการยีออเดซีและยีออฟิสิกส์แห่งชาติ ๑.๔ คณะกรรมการชื่อภูมิศาสตร์แห่งชาติ ๑.๕ คณะกรรมการพิจารณาบำเหน็จพิเศษสำหรับการสู้รบของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ๑.๖ คณะกรรมการพิจารณาสิทธิด้านกำลังพลให้แก่เจ้าหน้าที่กองทัพเรือที่ออกปฏิบัติการตามแผนป้องกันประเทศ แผนรักษาความสงบภายในประเทศหรือออกปฏิบัติราชการรักษาความสงบในเวลาฉุกเฉิน (พิจารณาเงินทดแทนและบำเหน็จความชอบ) ๑.๗ คณะกรรมการพิจารณาสิทธิด้านกำลังพลให้แก่เจ้าหน้าที่กองทัพเรือที่ออกปฏิบัติการตาม แผนป้องกันประเทศ แผนรักษาความสงบภายในประเทศหรือออกปฏิบัติราชการรักษาความสงบในเวลาฉุกเฉิน (พิจารณาบำเหน็จพิเศษสำหรับการสู้รบ) ๑.๘ คณะกรรมการเพื่อพิจารณาการได้รับสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศ (ขอพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน) ๒. คณะกรรมการที่ยืนยันการคงอยู่ เพิ่มเติม จำนวน ๑ คณะ ได้แก่ คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย - กัมพูชา
|
||||||||||||||||||||||||
33306 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2553 รวม 4 ฉบับ | วธ | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง จำนวน ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการจัดตั้งสภาวัฒนธรรมอื่น ๆ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้จัดตั้งสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร สภาวัฒนธรรมเขต สภาวัฒนธรรมแขวงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร สภาวัฒนธรรมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ สภาวัฒนธรรมเทศบาล และสภาวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยที่มาของกรรมการและสมาชิกของสภาวัฒนธรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้กรรมการและสมาชิกสภาของสภาวัฒนธรรมแต่ละระดับมาจากผู้แทนองค์กรเครือข่ายวัฒนธรรม ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการได้มา จำนวนกรรมการและสมาชิก วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง การประชุม การบริหารจัดการและการดำเนินงานของสภาวัฒนธรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ๑.๓.๑ กำหนดคุณสมบัติและวิธีการได้มาของกรรมการและสมาชิกสภาวัฒนธรรมตำบล สมาชิกสภาวัฒนธรรมอำเภอ สมาชิกสภาวัฒนธรรมจังหวัด สมาชิกสภาวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และสมาชิกสภาวัฒนธรรมอื่น ๆ ๑.๓.๒ กำหนดวาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการสภาวัฒนธรรม ๑.๓.๓ กำหนดหลักเกณฑ์ในการประชุมของคณะกรรมการสภาวัฒนธรรม ๑.๓.๔ กำหนดหลักเกณฑ์ในการบริหารจัดการของคณะกรรมการสภาวัฒนธรรม ๑.๓.๕ กำหนดองค์ประกอบของเงินและทรัพย์สินของสภาวัฒนธรรม ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดสาขา คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการคัดเลือก และประโยชน์ตอบแทนของศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ๑.๔.๑ กำหนดสาขาของศิลปินแห่งชาติ ๓ สาขา ได้แก่ สาขาทัศนศิลป์ สาขาศิลปะการแสดง และสาขาวรรณศิลป์ ๑.๔.๒ กำหนดคุณสมบัติของศิลปินแห่งชาติ ๑.๔.๓ กำหนดให้ศิลปินแห่งชาติต้องมีผลงานทางด้านศิลปะที่มีคุณค่าและมาตรฐานตามที่กำหนด ๑.๔.๔ กำหนดวิธีการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ ๑.๔.๕ กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายประโยชน์ตอบแทนแก่ศิลปินแห่งชาติ ๒. เมื่อกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ และกรุงเทพมหานคร ได้เสนอความเห็นเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงทั้ง ๔ ฉบับ มายังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ให้ส่งความเห็นดังกล่าวไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการตรวจพิจารณาร่างกฎกระทรวงดังกล่าวต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
33307 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ | นร | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ จำนวน ๑๐ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ โดยมีรายชื่อ ดังนี้
๑. คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย ๑.๑ ด้านการเงินการคลัง หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล ๑.๒ ด้านเศรษฐศาสตร์ นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช นายสมชัย ฤชุพันธุ์ ๑.๓ ด้านรัฐศาสตร์ นายไพโรจน์ พรหมสาสน์ ๑.๔ ด้านนิติศาสตร์ นายวัฒนา รัตนวิจิตร นายวิษณุ เครืองาม ๑.๕ ด้านบริหารรัฐกิจ นายปรีชา วัชราภัย ๑.๖ ด้านบริหารธุรกิจ นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ๑.๗ ด้านจิตวิทยาองค์การ นายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ ๑.๘ ด้านสังคมวิทยา นายทรงศักดิ์ วงศ์ภูมิวัฒน์ ๒. ให้นายไพโรจน์ พรหมสาสน์ นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ และนายทรงศักดิ์ วงศ์ภูมิวัฒน์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ต้องทำงานเต็มเวลา
|
||||||||||||||||||||||||
33308 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลวังโตนด อำเภอนายายอาม และตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พ.ศ. .... | กษ | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลวังโตนด อำเภอนายายอามและตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พ.ศ. ....มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลวังโตนด อำเภอนายายอาม และตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เพื่อก่อสร้างประตูระบายน้ำพร้อมอาคารประกอบ ตามโครงการประตูระบายน้ำทุ่งเบญจา เพื่อประโยชน์แก่การชลประทานในการเก็บกักน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตร การอุปโภคบริโภค ตลอดจนป้องกันและบรรเทาอุทกภัย ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
33309 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | มท | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลวังก์พง ตำบลปากน้ำปราณ ตำบลปราณบุรี บางส่วนของตำบลเขาน้อยและบางส่วนของตำบลหนองตาแต้ม อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
33310 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในท้องที่ตำบลเสริมกลาง อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง พ.ศ. .... | มท | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในท้องที่ตำบลเสริมกลาง อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ คือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในท้องที่ตำบลเสริมกลาง อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง บางส่วน รวมเนื้อที่ประมาณ ๕ ไร่ ๔๒ ตารางวา เพื่อมอบให้องค์การบริหารส่วนตำบลเสริมกลางใช้เป็นสถานที่ตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลเสริมกลาง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
33311 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการกลับเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. .... | สว | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการกลับเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. .... และที่เห็นควรแก้ไขข้อความโดยให้ตัดคำว่า “เฉพาะกรณี” ออก เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนว่ายังมีผู้ประกันตนซึ่งตกเป็นผู้ประกันตนในกรณีอื่นนอกจากที่กำหนดไว้ ตามมาตรา ๔๑ (๔) หรือ (๕) แก้ไขเป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษา แล้วแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
33312 | ขออนุมัติเงินงบกลางเพื่อชำระหนี้เงินกู้โครงการแทรกแซงตลาดรับซื้อข้าวเปลือก ปี 2552/53 | กษ | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ให้กับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร จำนวน ๑๒๖,๐๒๔,๙๕๕.๖๘ บาท เพื่อชำระหนี้เงินกู้คืนให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรแทนการขอใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ (นายดุสิต เขมะศักดิ์ชัย) เสนอเพิ่มเติม
|
||||||||||||||||||||||||
33313 | แต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร | ทก | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยมีนายชวลิต อัตถศาสตร์ เป็นประธานกรรมการ บุคคลผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญและนักวิชาการ รวม ๕ คน และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการ่วมเป็นกรรมการ โดยมีผู้อำนวยการสำนักกฎหมายเป็นกรรมการ และมีนิติกรสำนักกฎหมาย จำนวน ๒ คน เป็นเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะปัญหาข้อกฎหมายตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารขอหารือ รวมทั้งมีอำนาจหน้าที่อื่นอีก ๒ ประการ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
33314 | คณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรีของกระทรวงการต่างประเทศ | กต | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. ปรับลดคณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากที่มีอยู่เดิม ๕๕ คณะ เหลือ ๕๒ คณะ โดย ๑.๑ ยืนยันการคงอยู่ จำนวน ๕๑ คณะ ๑.๒ ยุบรวม ๓ คณะ ได้แก่ ๑) คณะกรรมาธิการฝ่ายไทยสำหรับคณะกรรมาธิการว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐเปรู ๒) คณะกรรมาธิการฝ่ายไทยสำหรับคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการไทย - คิวบา และ ๓) คณะกรรมการฝ่ายไทยสำหรับคณะกรรมการร่วมไทย - อาร์เจนตินา เป็น ๑ คณะ คือ คณะกรรมาธิการฝ่ายไทยสำหรับคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยกับภูมิภาคลาตินอเมริกา ๑.๓ ยกเลิก จำนวน ๑ คณะ (คณะกรรมการประสานงานด้านการเข้าร่วมในการปฏิบัติการเพื่อสันติภาพของสหประชาชาติ) ๒. ยืนยันการคงอยู่ของคณะกรรมการ จำนวน ๒ คณะ ได้แก่ ๒.๑ คณะกรรมการร่วมฝ่ายไทยเพื่อความร่วมมือทวิภาคีระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน ๒.๒ คณะกรรมการจัดทำหลักเขตแดนร่วมระหว่างไทย - มาเลเซีย
|
||||||||||||||||||||||||
33315 | เงินชดเชยค่าดำเนินการในการให้บริการเชิงสังคมประจำปีงบประมาณ 2552 ของการประปาส่วนภูมิภาค | มท | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติเงินชดเชยค่าดำเนินการในการให้บริการเชิงสังคมของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ จำนวน ๘๐๒.๘๐๓ ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ ที่ให้ชดเชยเฉพาะส่วนต่างระหว่างอัตราค่าน้ำที่ต่ำกว่าต้นทุนค่าน้ำจริงเฉลี่ยต่อหน่วยคูณด้วยปริมาณการใช้น้ำ และให้เฉพาะกลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่อการดำรงชีพไม่เกิน ๓๐ ลูกบาศก์เมตร/ราย/เดือน ตามแนวทางเดียวกับหลักเกณฑ์การขอรับเงินชดเชยค่าดำเนินการในการให้บริการเชิงสังคมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๑ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อชดเชยค่าดำเนินการให้บริการเชิงสังคมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ให้ กปภ. ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการให้ กปภ. เร่งรัดจัดทำระบบบัญชีโดยแยกบัญชีรายได้และค่าใช้จ่ายของการให้บริการเชิงพาณิชย์และเชิงสังคม และการให้ความสำคัญในการบริหารต้นทุนการผลิตและการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ ไปดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
33316 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย | กค | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยแทนกรรมการชุดเดิมที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง ๓ ปี จำนวน ๖ คน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นายวัฒนา รัตนวิจิตร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๒. นายดุสิต นนทะนาคร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านบริหารธุรกิจ ๓. ศาสตราจารย์พิเศษชูเกียรติ ประมูลผล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการประกันภัย ๔. นายการุณ กิตติสถาพร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการประกันภัย ๕. นายโกวิทย์ โปษยานนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน ๖. นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์
|
||||||||||||||||||||||||
33317 | ขอรับความเห็นชอบโครงการลงทุนด้านรถจักรและล้อเลื่อน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย | คค | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินโครงการลงทุนด้านรถจักรและล้อเลื่อน วงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น ๑๔,๙๐๓.๕๕ ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ จำนวน ๑๑๕ คัน วงเงิน ๔,๙๘๑.๐๕ ล้านบาท แทนการจัดหาขบวนรถโดยสารรูปแบบชุด (Train Set) สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ จำนวน ๖ ขบวน โครงการจัดหารถจักรพร้อมอะไหล่ จำนวน ๕๐ คัน วงเงิน ๖,๕๖๒.๕๐ ล้านบาท และโครงการซ่อมบูรณะรถจักรดีเซลไฟฟ้าอัลสตอม จำนวน ๕๖ คัน วงเงิน ๓,๓๖๐ ล้านบาท โดยให้ รฟท. เป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายจากเงินกู้ และกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคม โดย รฟท. รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ ๒.๑ ประเด็นความเห็นเกี่ยวกับโครงการจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ จำนวน ๑๑๕ คัน ได้แก่ การจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมด้านเทคนิคและราคาต่อหน่วยของโครงการฯ โดยเปรียบเทียบความแตกต่างทางเทคนิคของตู้รถโดยสารที่เสนอในครั้งนี้กับโครงการจัดหาขบวนรถโดยสารรูปแบบชุด (Train Set) และความเหมาะสมของประมาณการวงเงินลงทุนเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี การศึกษาผลกระทบจากการพัฒนากิจการรถไฟร่วมกับสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อใช้ในการกำหนดแผนธุรกิจของ รฟท. และแผนพัฒนาระบบรถไฟที่มีอยู่ในปัจจุบันให้มีความเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด การเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในการจัดหารถโดยสารและรถสินค้าในระยะต่อไป การเร่งรัดแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของ รฟท. ระยะเร่งด่วน พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๗ การจัดหาแหล่งเงินดำเนินการ โดยเฉพาะในส่วนของการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางราง การปรับปรุงตารางการเดินรถให้สอดคล้องกับประมาณการการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต และการเร่งสำรวจพฤติกรรมการเดินทางและความต้องการของผู้โดยสารทางรถไฟ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำแผนส่งเสริมการขายและการกำหนดกลยุทธ์ด้านราคาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสาร ๒.๒ ประเด็นความเห็นเกี่ยวกับโครงการจัดหารถจักรพร้อมอะไหล่ จำนวน ๕๐ คัน และโครงการซ่อมบูรณะรถจักรดีเซลไฟฟ้าอัลสตรอม จำนวน ๕๖ คัน ได้แก่ การพิจารณาศึกษาแนวทางการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในการพัฒนากิจการรถไฟ และการเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุนจัดหารถจักรพร้อมอะไหล่ จำนวน ๕๐ คัน การศึกษาผลกระทบจากการพัฒนากิจการรถไฟร่วมกับสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อใช้ในการกำหนดแผนธุรกิจของ รฟท. และแผนพัฒนาทางรถไฟที่มีอยู่ในปัจจุบัน การเร่งพัฒนาระบบการบริหารจัดการรถจักร (Fleet Management) ที่ครอบคลุมทั้งด้านแผนการใช้งานของรถจักร แผนการจัดหาหรือซ่อมบำรุงรถจักร รวมทั้งแผนการปลดระวางรถจักรอย่างเป็นระบบ การจัดทำแผนการส่งเสริมการตลาดเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนและผู้ประกอบการมาใช้บริการขนส่งทางรถไฟเพิ่มมากขึ้น การจัดทำฐานข้อมูลที่ดินของ รฟท. เพื่อให้ทราบจำนวนพื้นที่ ที่ตั้ง และการใช้ประโยชน์ที่ดินของ รฟท. ในปัจจุบัน และการจัดทำรายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิรูปโครงสร้างการบริหารจัดการกิจการของ รฟท. ๓. ให้กระทรวงการคลังเร่งรัดการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดหาและค้ำประกันเงินกู้เพื่อรองรับการดำเนินโครงการลงทุนด้านรถจักรและล้อเลื่อนของ รฟท. ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว |
||||||||||||||||||||||||
33318 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชลกรุงเทพ ชุดใหม่ จำนวน ๘ คน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ ประธานกรรมการ ๒. นายเทียนโชติ จงพีร์เพียร กรรมการ ๓. นางปาณิสรา ดวงสอดศรี กรรมการ ๔. นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ กรรมการ ๕. พลเอก รังสาทย์ แช่มเชื้อ กรรมการ ๖. นายประสิทธิ์ ศิริภากรณ์ กรรมการ ๗. นายอรัญ อภิจารี กรรมการ ๙. นายกฤชเทพ สิมลี กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||
33319 | ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พม | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญคือ ๑.๑ กำหนดให้ยกเลิกและเพิ่มเติมมาตรา ๑๗ (๖) แห่งพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยกำหนดให้มีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมกิจการผู้สูงอายุ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กรมประชาสงเคราะห์ และกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ๑.๒ กำหนดให้โอนบรรดากิจการ อำนาจหน้าที่ ทรัพย์สิน งบประมาณ หนี้ สิทธิ ภาระผูกพัน ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ และอัตรากำลัง ให้สอดคล้องกับการปรับโครงสร้างของการปรับปรุง ๑.๓ กำหนดให้แก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายให้สอดคล้องกับการโอนอำนาจหน้าที่ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นว่า กรมกิจการผู้สูงอายุเป็นส่วนราชการที่มีบทบาท ภารกิจหลักเกี่ยวกับการกำหนดนโยบาย มาตรการ มาตรฐาน รวมถึงการส่งเสริมสนับสนุนการประสานความร่วมมือกับภาคส่วนอื่นในการดำเนินงานตามนโยบายเกี่ยวกับผู้สูงอายุ ซึ่งงานลักษณะดังกล่าวตามหลักการกำหนดชื่อส่วนราชการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๒๕ ควรกำหนดชื่อเป็น “สำนักงาน” และเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการเรียกชื่อตำแหน่งระหว่างผู้อำนวยการซึ่งมีฐานะเทียบเท่าอธิบดีกับผู้อำนวยการกอง/ผู้อำนวยการสำนัก ในกรณีของหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่อเป็นสำนักงาน จึงเสนอให้ใช้ชื่อว่า “ผู้อำนวยการใหญ่” และให้หน่วยงานดังกล่าวเน้นงานเชิงนโยบาย กำหนดมาตรการ รูปแบบ แนวทาง การส่งเสริมศักยภาพและสวัสดิการของผู้สูงอายุ ในส่วนของสวัสดิการสังคมที่เป็นงานให้บริการ เช่น งานสงเคราะห์ผู้สูงอายุ เป็นต้น ควรดำเนินการโดยอาจใช้วิธีการโอนถ่ายหรือซื้อบริการจากภาคส่วนอื่น เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ชุมชน ภาคประชาสังคม สมาคม หรือมูลนิธิที่มีความพร้อม ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
33320 | ร่างพระราชกฤษฏีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของ มหาวิทยาลัยนครพนม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยนครพนม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชานิเทศศาสตร์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ และสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....