ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1660 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 33181 - 33200 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
33181 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ | ทส | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จำนวน ๒ คน แทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่ง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ๒. นายณัฏฐ์ วัลลิโภดม
|
||||||||||||||||||||||||
33182 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ กรณีการเช่าบ้านพักข้าราชการของหน่วยงานที่ประจำในต่างประเทศ | กษ | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการเช่าบ้านพักของรองผู้อำนวยการสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศประจำสหภาพยุโรป กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๗ ตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ เป็นเงิน ๓,๑๐๙,๘๖๐ บาท หรือ ๗๐,๒๐๐ ยูโร อัตราแลกเปลี่ยน ๑ ยูโร เท่ากับ ๔๔.๓๐ บาท โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ของสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน ๒๕๙,๑๕๕ บาท งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่ได้เสนอตั้งงบประมาณรองรับไว้แล้ว จำนวน ๑,๐๓๖,๖๒๐ บาท ส่วนที่เหลืออีกจำนวน ๑,๘๑๔,๐๘๕ บาท ให้เสนอขอตั้งงบประมาณตามความจำเป็นตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
33183 | มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติปี 2553 และ 2554 (เพิ่มเติม) | กค | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการมาตรการการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติปี ๒๕๕๓ และ ๒๕๕๔ (เพิ่มเติม) และกรอบวงเงินชดเชยของรัฐบาล ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เพิ่มเติมหลักเกณฑ์การให้สินเชื่อใหม่เพื่อการฟื้นฟูการประกอบอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิต และขอรับการชดเชยดอกเบี้ยในมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยปี ๒๕๕๓ ๑.๒ ขยายวงเงินโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและวาตภัยปี ๒๕๕๓ ของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) ๑.๓ ชดเชยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยโครงการสินเชื่อ SME POWER เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยและวาตภัยในปี ๒๕๕๔ โดยชดเชยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๒ ต่อปี ตลอดอายุสัญญากู้ ซึ่งจากประมาณการการชดเชยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๒ ต่อปีของยอดประมาณการสินเชื่อคงค้างต่อปี คิดเป็นจำนวน ๑๖๐.๗๓ ล้านบาท โดยให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ประสานกับสำนักงบประมาณในการเบิกจ่ายต่อไป ๑.๔ มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและวาตภัยในปี ๒๕๕๔ ประกอบด้วย มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยปี ๒๕๕๔ วงเงิน ๒,๐๐๐ ล้านบาท และมาตรการโครงการช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มปี ๒๕๕๔ วงเงิน ๒,๐๐๐ ล้านบาท ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและวาตภัยปี ๒๕๕๓ ของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยที่ต้องเบิกจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ นั้น อนุมัติให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในวงเงินไม่เกิน ๒๔๐ ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ และ พ.ศ. ๒๕๕๖ ต่อไป ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบรายละเอียดจำนวนของผู้ประสบภัยธรรมชาติและวงเงินที่ต้องขอชดเชยจากรัฐบาลที่ชัดเจนถูกต้องเพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป ไปดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
33184 | การเป็นเจ้าภาพการประชุม World Economic Forum on East Asia ปี 2555 | นร | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม World Economic Forum on East Asia (WEF) ปี ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. อนุมัติในหลักการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๕ ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์และเปิดตัวการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม WEF ปี ๒๕๕๕ ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
33185 | สถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยในประเทศลิเบีย | รง | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยในประเทศลิเบีย ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานะปัจจุบัน ณ วันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๔ มีแรงงานไทยเดินทางกลับจากประเทศลิเบีย จำนวน ๑๐,๖๗๘ คน คงเหลืออีกจำนวนประมาณ ๗๖ คน ซึ่งเป็นแรงงานไทยและชุมชนคนไทยที่ประสงค์อยู่ต่อ โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงทริโปลี ได้ทราบข้อมูลถิ่นที่อยู่อาศัยและพร้อมให้ความช่วยเหลือคนไทยดังกล่าวหากประสงค์จะกลับประเทศไทย ๒. กระทรวงแรงงานได้ประชุมชี้แจงจัดหางานจังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยที่กลับจากประเทศลิเบียเกี่ยวกับการขอค่าบริการและค่าใช้จ่ายคืนตามส่วน การติดตามเงินค่าจ้างค้างจ่ายและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ตลอดจนการให้บริการลงทะเบียนสมัครงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศลิเบียได้ยื่นคำร้องทุกข์ ได้แก่ ติดตามค่าจ้างค้างจ่ายและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ จำนวน ๔๙ คน และติดตามค่าบริการและค่าใช้จ่ายคืน จำนวน ๔๕๐ คน ๓. กระทรวงแรงงานได้ประสานกับสำนักงานแรงงานไทยในต่างประเทศและบริษัทจัดหางานที่จัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ โดยรวบรวมตำแหน่งงานในภาคก่อสร้างเพื่อรองรับแรงงานดังกล่าว ซึ่งนายจ้างในต่างประเทศประสงค์จะจ้างแรงงานไทยมีกว่า ๑๒,๙๑๙ อัตรา ได้แก่ เกาหลีใต้ ไต้หวัน บรูไน สิงคโปร์ กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และคูเวต โดยกำหนดจัดงาน “วันนัดพบแรงงานกลับจากลิเบีย” ขึ้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ อุบลราชธานี และลำปาง ในวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๔ วันที่ ๓ และ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ตามลำดับ
|
||||||||||||||||||||||||
33186 | ผลการประชุมคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ครั้งที่ 3/2554 | นร | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ ครั้งที่ ๓/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๔ ซึ่งได้มีการพิจารณาเรื่อง แนวทางการดำเนินงานของเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (DPL) และผลการศึกษาเบื้องต้นการติดตามประเมินผลโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ ตามแผนการพัฒนาพื้นที่พิเศษ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๕ และเห็นชอบตามมติคณะกรรมการฯ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. ให้กระทรวงการคลังพิจารณาความเหมาะสมของคณะกรรมการกลั่นกรองและบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ ในการพิจารณากลั่นกรองโครงการเงินกู้ DPL ตามวัตถุประสงค์ที่ ๓ (การสนับสนุนโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕) ตามข้อสังเกตของคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ ที่เห็นว่า การพิจารณาโครงการเงินกู้ DPL ควรพิจารณากลั่นกรองจากโครงการใหม่ทั้งหมด โดยให้ความสำคัญกับโครงการตามวัตถุประสงค์ ๑ (เพื่อใช้ในการสนับสนุนโครงการลงทุนภาครัฐที่สนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในระยะยาว) และ ๒ (เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินของประเทศ) เพื่อให้ได้โครงการที่มีความพร้อมในการดำเนินการอย่างแท้จริง ทั้งนี้ เพื่อให้กระบวนการพิจารณากลั่นกรองโครงการเงินกู้ DPL สอดคล้องกับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกำกับการดำเนินการศึกษาโครงการวางระบบติดตามประเมินผลแผนการพัฒนาพื้นที่พิเศษ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำข้อสังเกตของคณะกรรมการติดตามฯ ในเรื่องการกำหนดตัวชี้วัดโครงการที่เหมาะสม ความสอดคล้องระหว่างตัวชี้วัดในแผนงานรวมกับแผนงานย่อย การปรับปรุงข้อความให้เหมาะสมและเกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และการสุ่มตัวอย่างโครงการในการติดตามประเมินผล ไปปรับปรุงรายงานการศึกษา เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ที่รับผิดชอบแผนการพัฒนาพื้นที่พิเศษ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยตรงต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
33187 | ขออนุมัติโครงการถนนสายเลี่ยงเมืองบ้านทุ่งเสี้ยว - บ้านสันป่าตอง - บ้านหางดง (ตอนที่ 2) อำเภอหางดง และอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ของกรมทางหลวงชนบท | คค | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติวงเงินงบประมาณโครงการถนนสายเลี่ยงเมืองบ้านทุ่งเสี้ยว - บ้านสันป่าตอง - บ้านหางดง (ตอนที่ ๒) อำเภอหางดง และอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากเดิม ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๖ เป็น ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินโครงการถนนสายเลี่ยงเมืองบ้านทุ่งเสี้ยว - บ้านสันป่าตอง - บ้านหางดง (ตอนที่ ๒) อำเภอหางดง และอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ตามผลการประกวดราคาจ้างโครงการฯ ที่บริษัท เชียงใหม่คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด ในวงเงิน ๙๘๙.๖๙๖ ล้านบาท โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๑๔๘.๕๐๐ ล้านบาท ซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว ส่วนที่เหลืออีกจำนวน ๘๔๑.๑๙๖ ล้านบาท ให้ผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๗ โดยให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับเพื่อให้ครบค่างานต่อไป ทั้งนี้ ให้พิจารณาการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเป็นค่างานในหมวดงานทั่วไปและค่าใช้จ่ายที่เบิกจ่ายในลักษณะเงินจร (Provisional Sum) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและมาตรฐานของทางราชการต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
33188 | แต่งตั้งคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า แทนตำแหน่งที่ว่าง | พณ | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายมนตรี ปรีมาโนช เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
33189 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารหอประชุมและอเนกประสงค์ (ส่วนที่ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ) | ศธ | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เปลี่ยนแปลงรายละเอียดรูปแบบรายการที่มีผลให้ต้องเพิ่มวงเงิน ๘๔,๐๐๐,๐๐๐ บาท เป็นวงเงิน ๑๐๑,๔๔๕,๐๐๐ บาท และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผู้พันข้ามปีงบประมาณ จากเดิมปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๐ - พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๐ - พ.ศ. ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ๒. การเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อดำเนินการให้เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติให้กันเงินไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีเป็นเงิน ๔๒,๑๘๑,๘๙๐ บาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ได้รับจัดสรรคืนจำนวน ๒๕,๐๑๘,๑๑๐ บาท ส่วนที่ขาดอีก จำนวน ๒๑,๔๔๕,๕๐๐ บาท ให้มหาวิทยาลัยฯ เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ และ พ.ศ. ๒๕๕๖ ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
33190 | ขออนุมัติจ่ายเงินชดเชยเป็นกรณีพิเศษแทนการจัดสรรที่ดินให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการเขื่อนน้ำอูน (เพิ่มเติม) | กษ | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้มีการจ่ายเงินชดเชยเป็นกรณีพิเศษแทนการจัดสรรที่ดินให้แก่ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนน้ำอูนหรือทายาทของบุคคลดังกล่าวในกรณีที่บุคคลนั้นเสียชีวิต ตามบัญชีรายชื่อที่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการร่วมระหว่างภาคราชการและผู้แทนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานโครงการของรัฐ จำนวนรวม ๕๗๘ ราย ๆ ละ ๑๕ ไร่ ในอัตราไร่ละ ๑๐,๐๐๐ บาท วงเงิน ๘๖,๗๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้ใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้กรมชลประทานนำมาใช้จ่ายเพื่อการนี้ ๑.๒ แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบบุคคลผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยพิเศษแทนการจัดสรรที่ดินให้แก่ราษฎรกลุ่มนี้และกำกับการจ่ายเงินให้เป็นไปอย่างถูกต้องเรียบร้อยไม่ให้เกิดการจ่ายเงินซ้ำซ้อนด้วยวิธีโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารตามบัญชีรายชื่อบุคคลผู้มีสิทธิหรือทายาทของบุคคลดังกล่าว โดยถือความเห็นของคณะกรรมการชุดนี้เป็นหลักฐานในการจ่ายเงิน รวมทั้งป้องกันมิให้มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลแสวงหาผลประโยชน์จากการจ่ายเงินให้แก่ราษฎร ๑.๓ ในการจ่ายเงินให้ระบุไว้ในเอกสารการจ่ายเงินด้วยว่า “ข้าพเจ้าตกลงและยินยอมรับเงินชดเชยพิเศษแทนการจัดสรรที่ดินในอัตราไร่ละ ๑๐,๐๐๐ บาท และจะไม่มาเรียกร้องขอรับเงินชดเชยพิเศษเพิ่มเติมหรือขอรับการช่วยเหลืออย่างอื่นจากทางราชการอีก” ส่วนกรณีการร้องขอความเป็นธรรมจากราษฎรที่อ้างว่ามีสิทธิแต่รายชื่อตกหล่นไปในครั้งนี้ ขอให้ผ่านการตรวจสอบจากคณะทำงานระดับจังหวัดเพื่อนำเสนอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยคณะกรรมการร่วมระหว่างภาคราชการและผู้แทนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานโครงการของรัฐได้พิจารณาให้ความเห็นก่อนนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ๒. ให้คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตรวจสอบบุคคลผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยเป็นกรณีพิเศษแทนการจัดสรรที่ดินให้ถูกต้องรอบคอบและไม่เกิดความซ้ำซ้อน รวมทั้งดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องด้วย ในส่วนของงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ จากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในวงเงิน ๘๖,๗๐๐,๐๐๐ บาท ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
33191 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล | กค | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งพลตำรวจโท สุรสีห์ สุนทรศารทูล เป็นกรรมการในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
33192 | ขออนุมัติงบกลางเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการมหกรรมลดค่าครองชีพประชาชน | พณ | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการการดำเนินโครงการมหกรรมลดค่าครองชีพประชาชนระยะเวลา ๓ เดือน ในช่วงเดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม ๒๕๕๔ โดยคัดเลือกผู้ผลิตสินค้า เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน (OTOP) ผู้ประกอบการรายกลางและรายย่อย (SEMs) นำสินค้าที่มีคุณภาพมาจำหน่ายโดยตรงให้แก่ผู้บริโภคในราคาลดพิเศษ โดยกำหนดกลุ่มสินค้าเป้าหมาย ๔ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสินค้าคนจน เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำมันพืช น้ำตาลทราย เนื้อสัตว์ น้ำปลา เป็นต้น กลุ่มสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก แชมพู เป็นต้น กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นอื่น ๆ เช่น อาหารสำเร็จรูป เครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น และกลุ่มสินค้าเกษตรและสินค้าท้องถิ่น เช่น ผัก ผลไม้ สินค้า OTOP เป็นต้น โดยให้กระทรวงพาณิชย์ตัดรายการค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดงานจำหน่ายสินค้าออก ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการกำหนดพื้นที่ดำเนินการควรพิจารณาให้ความสำคัญกับพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนก่อน เช่น พื้นที่ที่ประสบภัยธรรมชาติ และควรคำนึงถึงความสะดวกในการเดินทางของกลุ่มเป้าหมายเพื่อมิให้เป็นภาระต่อผู้มีรายได้น้อย ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. สำหรับค่าใช้จ่ายในการจัดงานดังกล่าวอนุมัติให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในวงเงิน ๑๖๙,๔๒๐,๐๐๐ บาท โดยให้กระทรวงพาณิชย์ขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||
33193 | การขออนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 เพื่อชดเชยความเสียหายต่อทรัพย์สินของการไฟฟ้านครหลวงที่เกิดจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง | นร | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ดำเนินการก่อสร้างอาคารและพื้นที่ประกอบ ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ โดยมีรายละเอียดแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณสำหรับการก่อสร้างอาคารที่ทำการคลองเตยตามรูปแบบอาคารตามแผนฯ ประกอบด้วย ก่อสร้างอาคารสำนักงานพร้อมตกแต่งภายในพื้นที่ประมาณ ๕๐,๐๐๐ ตารางเมตร และก่อสร้างอาคารจอดรถ ๙๐๐ คัน พื้นที่ประมาณ ๓๒,๐๐๐ ตารางเมตร ส่วนพื้นที่ประกอบ ประกอบด้วย พื้นที่สำรองการย้ายที่ทำการชั่วคราว พื้นที่สันทนาการ โรงอาหาร สถานพยาบาล ห้องประชุม โดยใช้จากเงินรายได้ของ กฟน. ตามแผนก่อสร้างอาคารที่ทำการคลองเตยที่กำหนด และให้ กฟน. เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี สำหรับเป็นค่าชดเชยความเสียหายต่อทรัพย์สินของ กฟน. จากแหล่งเงินชดเชยของรัฐ ในวงเงินตามมูลค่าความเสียหาย จำนวน ๑๓๔,๐๗๐,๐๐๐ บาท โดยสำนักงบประมาณจะเสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
33194 | โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนระดับหมู่บ้านจังหวัดชายแดนภาคใต้ | นร | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนระดับหมู่บ้านจังหวัดชายแดนภาคใต้ (พนม.) ในพื้นที่ ๑๒ อำเภอของจังหวัดสงขลา จำนวน ๖๒๐ หมู่บ้าน ตามที่ ศอ.บต. เสนอ ๒. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ พนม. ในพื้นที่เป้าหมาย ๖๒๐ หมู่บ้าน ตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๕๔ - กันยายน ๒๕๕๔ รวมระยะเวลา ๖ เดือน นั้น เนื่องจากระยะเวลาได้ล่วงเลยมาแล้ว และเพื่อให้เป็นไปตามระยะเวลาที่ดำเนินการได้จริง เห็นควรให้ ศอ.บต. ดำเนินการในระยะเวลา ๕ เดือน จากกรอบวงเงิน ๑๘๐,๖๘๘,๐๐๐ บาท ตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอเพิ่มเติม
|
||||||||||||||||||||||||
33195 | ความคืบหน้าในการดำเนินการตามนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ | ทก | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการตามนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๓ ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ และเห็นชอบการดำเนินการตามนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติในระยะต่อไป ซึ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการบริการบรอดแบนด์ให้มีการแข่งขันและขยายบริการบรอดแบนด์ไปสู่พื้นที่ชนบทห่างไกลในทุกระดับให้มีปริมาณเพียงพอ มีคุณภาพมาตรฐานสากล มีต้นทุนต่ำ และเป็นการลงทุนร่วมของภาครัฐกับภาคเอกชนให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ โดยในช่วงระยะต่อไปคาดว่าจะมีการดำเนินการดังต่อไปนี้ ๑.๑ จัดตั้งหน่วยงานภายในสำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อดำเนินการและประสานงานนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ ๑.๒ จัดทำแผนการดำเนินการในระยะ ๕ ปี และแผนปฏิบัติราชการประจำปี เพื่อกำหนดแผนงาน/มาตรการ/โครงการ/งาน/กิจกรรมที่จะต้องดำเนินการโดยใช้กระบวนการต่อเนื่องให้บรรลุเป้าหมายนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ ๑.๓ หารือกับหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ที่ให้บริการโครงการ (Fiber Optic) เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม เป็นต้น เพื่อให้ได้ข้อมูลโครงการข่ายครบถ้วนและครอบคลุมทั้งประเทศ ๑.๔ ขยายโครงข่ายบรอดแบนด์ไปยังพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ในระดับอำเภอทั้ง ๓๓ อำเภอ โดยมีความเร็วไม่น้อยกว่า ๒ ล้านบิตต่อวินาที เพื่อให้เป็นเส้นทางในการรับส่งข้อมูลจากหน่วยราชการส่วนกลางถึงหน่วยงานระดับจังหวัดและระดับอำเภอ รวมทั้งรองรับระบบการประชุมทางไกลผ่านทางจอภาพ (Web Conference) ที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากภัยการก่อการร้าย ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และทำให้หน่วยงานราชการใน ๓ จังหวัดดังกล่าวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถให้บริการและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันต่อเหตุการณ์ ๒. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรเร่งจัดทำแผนการดำเนินการในระยะ ๕ ปี ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยกำหนดเป้าหมายของแผนการดำเนินงานเป็นรายปีและแนวทางการติดตามประเมินผลให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถดำเนินงานตามนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติได้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด และกำหนดบทบาทภารกิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนเพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานร่วมกันทั้งในด้านแผนงานและการขอรับการจัดสรรงบประมาณ ส่วนเรื่องการจัดตั้งหน่วยงานภายในสำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อดำเนินการและประสานงานนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ นั้น ให้นำเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาพร้อมกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาหน่วยงานของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
||||||||||||||||||||||||
33196 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรเกี่ยวกับการขึ้นราคาค่าเช่านาของผู้ให้เช่าอย่างไม่เป็นธรรม | กษ | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๓ (เรื่อง การดำเนินการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี ๒๕๕๓/๕๔ รอบที่ ๑) และเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยดำเนินการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๒๔ ตามผลการหารือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีประเด็นสาระสำคัญของกฎหมายที่ควรปรับปรุง ได้แก่ เรื่องระยะเวลาการเช่าที่นา การบอกเลิกการเช่านา ข้อจำกัดเกี่ยวกับการขายที่นาของผู้ให้เช่า โครงสร้างและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำตำบล (คชก.) ตำบล และจังหวัด หลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าเช่า และปัญหาอื่น ๆ เช่น การเช่าชั่วคราว การเช่าช่วงนา สิทธิหน้าที่ของผู้รับโอน เป็นต้น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมส่งเสริมการเกษตรซึ่งเป็นผู้รับขึ้นทะเบียนและออกหนังสือรับรองเกษตรกรจะต้องพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการประกันรายได้ให้เหมาะสมต่อไป ส่วนการตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาจัดทำรายละเอียดและยกร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๒๔ ควรให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมเป็นคณะทำงานด้วย และควรมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นในวงกว้างจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อให้เกิดการยอมรับและการบังคับใช้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
33197 | ขอความเห็นชอบในหลักการจัดตั้งศูนย์สุขภาพสัตว์ป่าแห่งชาติ | ทส | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการจัดตั้งศูนย์สุขภาพสัตว์ป่าแห่งชาติ ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ภายใต้การดูแลและดำเนินการของคณะสัตวแพทยศาสตร์ โดยมีภารกิจในการเฝ้าระวัง ติดตาม และเตือนภัยภาวะคุกคามสุขภาพสัตว์ป่าและสุขภาพสิ่งแวดล้อมตลอดจนโรคจากสัตว์ป่า และโรคอุบัติใหม่ ระยะเวลาดำเนินการ ๕ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับเรื่องนี้ไปพิจารณาในรายละเอียดร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อดำเนินการให้การจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวมีลักษณะเป็นหน่วยงานกลางเกี่ยวกับสุขภาพสัตว์ป่าที่สถาบันการศึกษาและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานได้อย่างคล่องตัว ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงบประมาณที่เห็นควรมีการจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางการจัดตั้งหน่วยงาน การกำหนดกรอบอัตรากำลัง สถานะและคุณสมบัติของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงาน รวมทั้งแผนการดำเนินงานทั้งในระยะสั้นและระยะยาวของศูนย์สุขภาพสัตว์ป่าแห่งชาติให้ชัดเจน และให้มหาวิทยาลัยมหิดลทบทวนการจัดโครงสร้างหน่วยงานภายในเพื่อมิให้ภารกิจของศูนย์ฯ ซ้ำซ้อนกับภารกิจของศูนย์เฝ้าระวังและติดตามโรคจากสัตว์ป่า สัตว์ต่างถิ่น และสัตว์อพยพ รวมทั้งควรกำหนดบทบาทภารกิจและระบบวิธีการดำเนินงานระหว่างศูนย์ฯ กับส่วนราชการที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพสัตว์ป่าและสาธารณสุขให้ชัดเจน สำหรับงบประมาณในการดำเนินงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามพันธกิจที่รับผิดชอบตามขั้นตอนต่อไป ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
33198 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีโครงการบำบัดน้ำเสียปริมณฑลส่วนเหนือ ขั้นที่ 1 (คูคต-ประชาธิปัตย์) และโครงการบำบัดน้ำเสียอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ | ทส | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๔๓ เรื่อง ขออนุมัติแผนงานโครงการบำบัดน้ำเสียปริมณฑลส่วนเหนือ ขั้นที่ ๑ (คูคต - ประชาธิปัตย์) และโครงการบำบัดน้ำเสียอ้อมน้อย - อ้อมใหญ่ ตามข้อเสนอของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (องค์การจัดการน้ำเสีย) รับเรื่องนี้ไปพิจารณาทบทวนและจัดทำรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ตลอดจนผลการศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study) ของโครงการให้เป็นปัจจุบัน ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นและข้อเสนอแนะของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องการบำบัดน้ำเสียกับชุมชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งทั้งในระหว่างการก่อสร้างและระยะดำเนินการ การวางแผนการจัดเก็บค่าบริการให้ชัดเจนโดยอาจพิจารณาร่วมกับการประปาผู้จ่ายน้ำ เพื่อให้การดำเนินการในระยะยาวไม่เป็นภาระกับรัฐ การพิจารณานำน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วกลับไปใช้ประโยชน์โดยอาจขายเป็นน้ำสำหรับหล่อเย็นให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมบริเวณใกล้เคียง การวางแผนศึกษาการใช้ประโยชน์จากกากตะกอน (sludge) ที่เกิดจากการบำบัดน้ำเสียเพื่อให้เกิดการยอมรับจากชุมชนใกล้เคียงและลดปัญหาเรื่องกลิ่นจากการตกค้างของตะกอนไปพร้อมกัน การทบทวนผลการวิเคราะห์ผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจและด้านการเงินของโครงการให้เป็นปัจจุบัน นอกจากนี้ เห็นควรให้องค์การจัดการน้ำเสียจัดทำรายละเอียดภาพรวมการลงทุนและวงเงินลงทุนของทั้งสองโครงการ ปริมาณน้ำเสีย ปริมาณกากตะกอน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและผลตอบแทนโครงการด้านเศรษฐศาสตร์และการเงินให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์เพื่อประกอบการพิจารณาความเหมาะสมของโครงการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา และเร่งสร้างขีดความสามารถและความพร้อมของท้องถิ่นในการรับโอนระบบบำบัดน้ำเสียทั้งด้านเทคนิค การเดินระบบ การบำรุงรักษาระบบ รวมทั้งการจัดเก็บค่าบำบัดน้ำเสีย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของหน่วยงานส่วนท้องถิ่นในการให้บริการสาธารณะของตนเองได้มากขึ้นและสอดคล้องกับพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง |
||||||||||||||||||||||||
33199 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ | ทก | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายวรากรณ์ สามโกเศศ ประธานกรรมการ ๒. นายเข็มชัย ชุติวงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายเทคโนโลยีสารเสนเทศและการสื่อสาร ๓. นายจเรรัฐ ปิงคลาศัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านบริหารจัดการและทรัพยากรบุคคลและด้านอื่นที่เกี่ยวข้อง และเป็นประโยชน์ต่อกิจการของสำนักงาน ๔. นางจารุพร ไวยนันท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน การบัญชีและงบประมาณ การตรวจสอบประเมิน ผลและการบริหารความเสี่ยง ๕. พันเอก เจียรนัย วงศ์สะอาด กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ๖. นายไชยเจริญ อติแพทย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
|
||||||||||||||||||||||||
33200 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การศึกษาแนวทางและกำหนดมาตรการในการนำเทคโนโลยีระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (Global positioning System: GPS) มาใช้ติดตั้งกับรถสาธารณะ ครั้งที่ 1 | คค | 03/05/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การศึกษาแนวทางและกำหนดมาตรการในการนำเทคโนโลยีระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (Global Positioning System : GPS) มาใช้ติดตั้งกับรถสาธารณะ ครั้งที่ ๑ และเห็นชอบในหลักการแนวทางและมาตรการในการดำเนินงาน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยแนวทางและมาตรการในการดำเนินงาน มีดังนี้ ๑.๑ แนวทางในการดำเนินงาน ประกอบด้วย ๑.๑.๑ ระยะที่ ๑ รวบรวม ศึกษา วิเคราะห์สภาพการใช้รถสาธารณะ กำหนดกลุ่มและจัดลำดับความสำคัญ รวมทั้งแนวทางการปรับแก้กฎหมาย ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินโครงการนำร่องตามกลุ่มรถที่จัดลำดับแล้วภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ๑.๑.๒ ระยะที่ ๒ปรับแก้ไขกฎหมาย ข้อบังคับ และประกาศหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการนำระบบ GPS มาติดตั้งกับรถสาธารณะ ภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๗ ๑.๑.๓ ระยะที่ ๓ จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการการเดินรถสาธารณะด้วยระบบ GPS และศูนย์ฝึกอบรมผู้เกี่ยวข้องกับการใช้ระบบ GPS ทั้งเจ้าหน้าที่ภาครัฐและผู้ประกอบการขนส่งภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๗ ๑.๑.๔ ใช้ระบบ GPS ในการกำกับดูแลการเดินรถสาธารณะเต็มรูปแบบภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ๑.๒ มาตรการในการดำเนินงานในระยะแรกภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ๑.๒.๑ ให้บริษัท วิทยุการบิน แห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เร่งรัดการศึกษาออกแบบสถาปัตยกรรมศูนย์บูรณาการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบแห่งชาติ (NMTIC) ซึ่งจะเป็นภาพรวมการบริหารจัดการคมนาคมขนส่งของประเทศ ๑.๒.๒ ให้กรมการขนส่งทางบกขยายผลการศึกษาโครงการศึกษาเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแลรถโดยสารประจำทางโดยใช้เทคโนโลยีให้ครอบคลุมการกำหนดแนวทางและมาตรการในการนำระบบ GPS มาใช้ติดตั้งกับรถสาธารณะทั้งระบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุม ตรวจสอบ และยกระดับความปลอดภัยทางถนน ๒. ให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการดำเนินงานในระยะที่ ๑ ควรศึกษารูปแบบการลงทุนและการดำเนินงานที่เหมาะสม คุ้มค่า ตลอดจนรูปแบบและโครงสร้างองค์กรที่จะเป็นกลไกในการดำเนินงานและความสัมพันธ์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและระเบียบข้อบังคับเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการติดตามควบคุมการเดินรถ การวางแผน และการให้บริการต่อสาธารณะได้อย่างแท้จริง ส่วนการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการการเดินรถสาธารณะด้วยระบบ GPS ตามที่กำหนดในระยะที่ ๓ ควรพิจารณาดำเนินการภายหลังจากการศึกษารูปแบบ โครงสร้างองค์กร การปรับปรุงกฎหมายและระเบียบข้อบังคับแล้วเสร็จ และควรพิจารณาการใช้ประโยชน์ข้อมูลสารสนเทศจากการดำเนินโครงการทั้งในเชิงสาธารณะและเชิงพาณิชย์เพื่อลดภาระงบประมาณในการสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรต่อไป นอกจากนี้ การลงทุนในการนำระบบ GPS มาใช้กับรถสาธารณะที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เห็นควรให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของระบบ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
.....