ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1640 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 32781 - 32800 จากข้อมูลทั้งหมด 123982 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
32781 | ร่างพระราชบัญญัติและเรื่องที่คณะรัฐมนตรีเสนอที่รัฐสภาหรือสภาผู้แทนราษฎรยังมิได้ให้ความเห็นชอบหรือรับทราบ | นร | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีและองค์กรอิสระเป็นผู้เสนอและรัฐสภายังมิได้ให้ความเห็นชอบ รวม ๑๑๗ ฉบับ ไปพิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่งว่า จะสมควรร้องขอให้รัฐสภาพิจารณาต่อไปหรือไม่ แล้วแต่กรณี ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติของส่วนราชการต่าง ๆ ที่ค้างการพิจารณาอยู่ที่รัฐสภา มอบให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณา ๒. ร่างพระราชบัญญัติองค์กรอิสระต่าง ๆ ที่ค้างการพิจารณาอยู่ที่รัฐสภา ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งไปยังองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องพิจารณา ๓. ร่างพระราชบัญญัติที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดก่อนเสนอและค้างการพิจารณาอยู่ที่รัฐสภา มอบให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์) และคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรรับไปพิจารณา ๔. ร่างพระราชบัญญัติที่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเสนอและค้างการพิจารณาอยู่ที่รัฐสภา มอบให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณา ๕. ให้ส่วนราชการรับไปตรวจสอบเรื่องอื่นนอกจากร่างพระราชบัญญัติ ตามข้อ ๑ - ๔ เช่น รายงานการโอนหรือนำรายจ่ายตามงบประมาณที่กำหนดไว้ในรายการใดไปใช้ในรายการอื่นของหน่วยราชการหรือรัฐวิสาหกิจ และรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ของหน่วยงานของรัฐที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินตามมาตรา ๑๖๙ และมาตรา ๑๗๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งรัฐสภาหรือสภาผู้แทนราษฎรยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จและตกไปอันเนื่องมาจากการยุบสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ ให้แจ้งผลการพิจารณาตามข้อ ๑ - ๔ ว่าจะสมควรร้องขอให้รัฐสภาพิจารณาต่อไปหรือไม่ ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายในวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๔ เพื่อรวบรวมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันอังคารที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๔ ต่อไป และแจ้งผลการพิจารณาตามข้อ ๕ ว่าจะสมควรดำเนินการเช่นไร ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ เพื่อรวบรวมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||
32782 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ในคดีระหว่างนายประสงค์ ตันมณีวัฒนา ผู้ฟ้องคดี กับนายกรัฐมนตรี ที่ 1 คณะรัฐมนตรี ที่ 2 และปลัดกระทรวงคมนาคม ที่ 3 ผู้ถูกฟ้องคดี ขอให้เพิกถอนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน | อส | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ในคดีระหว่างนายประสงค์ ตันมณีวัฒนา ผู้ฟ้องคดี กับนายกรัฐมนตรี ที่ ๑ คณะรัฐมนตรี ที่ ๒ และปลัดกระทรวงคมนาคม ที่ ๓ ผู้ถูกฟ้องคดี ขอให้เพิกถอนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน ซึ่งศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้อง ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ
|
||||||||||||||||||
32783 | สรุปสถานการณ์อุทกภัย ณ วันที่ 2 กันยายน 2554 | กษ | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์อุทกภัย ณ วันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “นกเตน” ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นมา ทำให้ทั่วประเทศมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่งผลทำให้เกิดผลกระทบด้านการเกษตรทั้งสิ้นรวม ๔๘ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน นครสวรรค์ พะเยา พิจิตร พิษณุโลก แพร่ เพชรบูรณ์ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน เลย สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี กาฬสินธุ์ บึงกาฬ นครพนม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร ยโสธร หนองคาย หนองบัวลำภู สกลนคร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี อุดรธานี กรุงเทพ ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง ตราด นครนายก ปราจีนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง ชุมพร ภูเก็ต และพังงา ๒. ผลกระทบด้านการเกษตร ได้แก่ ๒.๑ ด้านพืช เกษตรกรได้รับผลกระทบ ๔๐๔,๑๐๐ ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย ๓,๕๓๐,๙๖๙ ไร่ แบ่งเป็น ข้าว ๓,๑๕๑,๔๖๓ ไร่ พืชไร่ ๒๖๖,๖๕๔ ไร่ พืชสวนและอื่น ๆ ๑๑๒,๘๕๒ ไร่ ๒.๒ ด้านประมง เกษตรกรได้รับผลกระทบ ๕๓,๕๕๙ ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำคาดว่าจะเสียหาย แบ่งเป็น บ่อปลา ๖๗,๕๖๒ ไร่ กุ้ง/ปู/หอย ๒,๒๔๒ ไร่ กระชัง/บ่อซีเมนต์ ๗๗,๐๒๓ ตารางเมตร ๒.๓ ด้านปศุสัตว์ เกษตรกรได้รับผลกระทบ ๓๘,๗๓๒ ราย สัตว์ได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น ๒,๒๙๑,๗๓๒ ตัว แบ่งเป็น โค - กระบือ ๔๙,๘๕๘ ตัว สุกร ๕๐,๐๓๖ ตัว แพะ - แกะ ๔๑๖ ตัว สัตว์ปีก ๒,๐๙๑,๔๒๒ ตัว แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ ๓,๖๕๘ ไร่ ๓. การช่วยเหลือเบื้องต้นด้านการเกษตร ได้มีการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ จำนวน ๕ ฉบับ ของกรมชลประทาน และการคาดการณ์การเกิดอุทกภัย ดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก ของกรมพัฒนาที่ดิน การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ และรถยนต์บรรทุกน้ำ รวมทั้งสนับสนุนพืชอาหารสัตว์ และดูแลสุขภาพสัตว์ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||
32784 | แผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2555 - 2558 (รัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี) | นร | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) ประธานคณะกรรมการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดินเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ ๑.๑.๑ องค์ประกอบของแผนการบริหารราชการแผ่นดิน ประกอบด้วย ๔ ส่วน คือ ๑.๑.๑.๑ แนวคิดและทิศทางการบริหารประเทศ เป็นการสรุปวิสัยทัศน์ สถานการณ์ของประเทศ และกรอบการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ๑.๑.๑.๒ แนวทางการบริหารราชการแผ่นดินตามนโยบายรัฐบาล ๘ นโยบาย เป็นการแสดงเป้าหมายเชิงนโยบาย ตัวชี้วัด และกลยุทธ์หรือวิธีดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของนโยบายรัฐบาล ๑.๑.๑.๓ กลไกการนำแผนการบริหารราชการแผ่นดินไปสู่การปฏิบัติ ระบุหน่วยงานรับผิดชอบ งบประมาณสนับสนุน ตามนโยบาย และแนวทางการติดตามประเมินผล ๑.๑.๑.๔ แผนงาน/โครงการที่มีลำดับความสำคัญตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งคัดเลือกจากแผนงาน/โครงการรายนโยบาย ๘ นโยบาย ๑.๑.๒ ประมาณการความต้องการใช้เงินตามนโยบายรัฐบาล ประมาณการการลงทุน วงเงินงบประมาณสนับสนุนตามนโยบาย เป็นประมาณการความต้องการใช้เงินเบื้องต้นซึ่งเป็นข้อเสนอตามความต้องการของส่วนราชการเพื่อดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลสี่ปี เท่ากับ ๑๑.๒๙๙ ล้านล้านบาท และค่าใช้จ่ายดำเนินการภาครัฐสี่ปี รวม ๓.๘๗๘ ล้านล้านบาท รวมเป็นประมาณการความต้องการใช้เงินเบื้องต้นทั้งสิ้น ๑๕.๑๗๘ ล้านล้านบาท และประมาณการรายได้สุทธิของรัฐบาลเท่ากับ ๘.๙๐๑ ล้านล้านบาท โดยมีแหล่งเงินในการดำเนินโครงการตามนโยบาย ประกอบด้วย เงินในงบประมาณ ๑๐.๔๔๐ ล้านล้านบาท และเงินนอกงบประมาณ ๐.๘๕๙ ล้านล้านบาท ทั้งนี้ ประมาณการความต้องการใช้เงินที่ปรากฏในแผนการบริหารราชการแผ่นดินจะใช้เป็นกรอบแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติราชการสี่ปีและแผนปฏิบัติราชการประจำปีของส่วนราชการเพื่อประกอบการจัดทำคำของบประมาณประจำปีต่อไป ๑.๑.๓ การติดตามประเมินผล แผนการบริหารราชการแผ่นดินได้กำหนดให้มีกลไกการติดตามประเมินผลการดำเนินงานของส่วนราชการ โดยกำหนดขั้นตอนการติดตามประเมินผลความก้าวหน้าการปฏิบัติงานตามแผนการบริหารราชการแผ่นดิน เป็น ๓ ระยะ ได้แก่ การติดตามประเมินผลความก้าวหน้าประจำปี การประเมินผลในระยะครึ่งแผน และการประเมินผลเมื่อสิ้นสุดแผน ๑.๒ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำความเห็นของคณะกรรมการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘ เกี่ยวกับขั้นตอนของการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ รวมทั้งการบูรณาการแผนงาน/โครงการ ตามแผนปฏิบัติราชการสี่ปีและแผนปฏิบัติราชการประจำปี ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการ ๑.๓ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ ตามขั้นตอนต่อไป ๑.๔ ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐนำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘ ไปประกอบการจัดทำแผนปฏิบัติราชการสี่ปีให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐ วัน หลังจากที่แผนการบริหารราชการแผ่นดินประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ และแผนปฏิบัติราชการประจำปี ๑.๕ ให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณรับไปพิจารณาแหล่งเงินที่เหมาะสมสำหรับแผนงาน/โครงการ ตามแผนการบริหารราชการแผ่นดิน โดยคำนึงถึงข้อจำกัดด้านงบประมาณและรักษาวินัยการคลัง ๑.๖ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารราชการแผ่นดิน และรายงานให้คณะกรรมการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดินและคณะรัฐมนตรีทราบ ๑.๗ เห็นชอบหลักการกรณีคณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนงาน/โครงการเพิ่มเติม ให้คณะกรรมการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดินปรับปรุงแผนการบริหารราชการแผ่นดินให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี ๒ ให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ) รับความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่ขอเพิ่มเติมโครงการเกี่ยวกับการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาด้านศึกษาศาสตร์ ศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาในวิทยาเขต และโครงการส่งเสริมการศึกษาต่อของนักเรียนที่มีความสามารถด้านกีฬา ณ ประเทศออสเตรเลีย ไปปรับปรุงแผนการบริหารราชการแผ่นดินอีกครั้งหนึ่ง โดยยังคงประมาณการรายได้และรายจ่ายไว้ตามเดิม แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ส่งคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ และดำเนินการต่าง ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามกำหนดเวลาตามปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ (เรื่อง การกำหนดปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕) อย่างเคร่งครัด ๔. คณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมว่า เพื่อให้การดำเนินการตามนโยบายด้านต่าง ๆ ของรัฐบาลเป็นไปตามแผนการบริหารราชการแผ่นดินและมีการบูรณาการกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ เช่น การแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ การดำเนินการในกรอบความร่วมมืออาเซียน โลจิสติกส์ การแก้ไขปัญหาสังคม และการจัดตั้งกองทุนต่าง ๆ เป็นต้น สมควรกำหนดหน่วยงานเจ้าภาพหลัก/รอง เพื่อรับผิดชอบเรื่องต่าง ๆ ให้ชัดเจน โดยให้รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) รับไปพิจารณาดำเนินการในรายละเอียด โดยให้สำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการโดยด่วน แล้วให้นำเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||
32785 | สรุปรายงานภาวะสังคมไตรมาสสองปี 2554 | นร | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานภาวะสังคมไตรมาสสองปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การจ้างงาน และรายได้ ในไตรมาส ๒/๒๕๕๔ มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ร้อยละ ๑.๕ จากการจ้างงานในภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้น แต่การจ้างงานนอกภาคเกษตรลดลงโดยเฉพาะสาขาการค้าส่ง/ค้าปลีก ก่อสร้างและอุตสาหกรรม อัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ ๐.๖ เป็นผู้ว่างงาน ๒๑๖,๙๘๐ คน ลดลงจากร้อยละ ๑.๓ ในช่วงเดียวกันของปีก่อน การว่างงานลดลงในทุกระดับการศึกษา และการว่างงานของนักศึกษาจบใหม่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึงร้อยละ ๗๙.๓ สำหรับในด้านรายได้ การปรับเพิ่มรายได้แรงงานในเกณฑ์ใหม่ควรดำเนินการควบคู่กับมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบในระยะสั้น รวมทั้งการปรับเปลี่ยนในเชิงโครงสร้างในระยะต่อไปเป็นลำดับ ได้แก่ การสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีความพร้อมให้ปรับเพิ่มรายได้ให้กับแรงงานได้ทันที โดยมีมาตรการจูงใจตามความจำเป็น การพิจารณาปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นระยะตามความพร้อมและความจำเป็นของแต่ละจังหวัดภายใต้ระยะเวลาที่กำหนด และการเฝ้าระวังผลกระทบต่อเงินเฟ้อในระยะสั้น โดยระมัดระวังการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเกินความจริง และขอความร่วมมือในการปรับราคาสินค้าตามจังหวะเวลาและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างเหมาะสม ๒. ด้านการศึกษา มีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในเชิงปริมาณและคุณภาพอย่างชัดเจน โดยกลุ่มเด็กที่มีฐานะความเป็นอยู่ด้อยสุดได้รับการศึกษาระดับอุดมศึกษาเพียงร้อยละ ๑.๓ ขณะที่เด็กมาจากครอบครัวที่มีฐานะความเป็นอยู่ดีสุดเข้าถึงการศึกษาระดับอุดมศึกษาถึงร้อยละ ๙๐.๔ ของประชากรในวัยเรียนในกลุ่มรายได้สูงสุด ในเชิงคุณภาพการศึกษา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีความแตกต่างระหว่างภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งมีครัวเรือนยากจนมากสุด มีคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบในชั้นมัธยมต่ำสุด และผลการประเมินสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ได้มาตรฐานตามเกณฑ์ยังมีสัดส่วนต่ำ ๓. ด้านสุขภาพของเด็กยากจนและปัญหาเด็กออทิสติก โดยในส่วนของเด็กยากจนและเด็กด้อยโอกาสยังเผชิญปัญหาโภชนาการส่งผลกระทบต่อสุขภาวะ พัฒนาการและไอคิวของเด็ก โดยครัวเรือนยากจนมีปัญหาการมีทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อยกว่า ๒,๕๐๐ กรัม อยู่ร้อยละ ๑๙ ซึ่งกระจุกตัวในภาคเหนือและภาคอีสาน รวมทั้งมีปัญหาการขาดสารอาหารไอโอดีนของเด็กแรกเกิดมีมากถึงร้อยละ ๑๖ ส่งผลให้เด็กในภาคอีสานมีไอคิวเฉลี่ยต่ำกว่าในภาคอื่น สำหรับเด็กออทิสติกและเด็กพิการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น พบสูงสุดเป็น ๔ คนต่อประชากร ๑,๐๐๐ คน เป็นเพศชายมากกว่าหญิง และยังมีภาวะต้องพึ่งพิงผู้อื่นตลอดชีวิต และในด้านการศึกษา เด็กออทิสติกวัยเรียนเข้าสู่ระบบการศึกษาเพียงร้อยละ ๓๒.๒ ของเด็กวัยเรียนที่เป็นออทิสติก ๔. ด้านพฤติกรรมและความเป็นอยู่ของคนในสังคมไทย มีประเด็นเฝ้าระวังหลายด้าน ได้แก่ ด้านพฤติกรรมเสี่ยงในเรื่องการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อพิจารณาจากผู้มีรายได้ต่ำมีสัดส่วนการใช้จ่ายค่าบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อการใช้จ่ายรวมมากว่าผู้มีรายได้สูง ส่วนพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของเยาวชน จากการสำรวจในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ พบว่า เยาวชนอายุ ๑๓ - ๑๕ ปี เคยสูบบุหรี่ครั้งแรกเมื่ออายุต่ำกว่า ๑๐ ปี เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ ๑๘.๙ โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนหญิงเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ ๒๐.๙ สำหรับพฤติกรรมการบริโภค คนไทยนิยมบริโภคอาหารสำเร็จรูปมากขึ้น ในขณะที่พบการปนเปื้อนจุลินทรีย์ในอาหารถุงมีถึงร้อยละ ๕๗ ส่งผลกระทบสุขภาพและเกิดสภาวะโรคเรื้อรังต่าง ๆ ๕. ด้านความมั่นคงทางสังคม สังคมไทยยังคงเผชิญกับปัญหายาเสพติดที่รุนแรงโดยเฉพาะในกลุ่มวัยแรงงาน ๒๑ - ๒๕ ปี มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมากที่สุด กลุ่มที่น่าเป็นห่วงมีแนวโน้มใช้สารเสพติดเพิ่มขึ้นคือ วัยรุ่นอายุ ๗ - ๑๗ ปี การจับกุมยาเสพติดเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๙.๑ จากไตรมาสสองของปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการดำเนินการปราบปรามตามมาตรา ๓ - ๑ - ๕ พลเรือน ตำรวจ ทหาร นอกจากนี้ สังคมไทยมีการใช้สารเคมีเพิ่มขึ้นจากการนำเข้าสารเคมีจากต่างประเทศและผลิตเอง กลุ่มเสี่ยงมักเป็นแรงงานนอกระบบประสบปัญหาด้านความไม่ปลอดภัยในการทำงานจากสารเคมีและวัตถุอันตราย โดยกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว ได้แก่ กลุ่มอาชีพเก็บขยะเสี่ยงต่อการได้รับมลพิษหรือสารเคมีตกค้างจากขยะ กลุ่มเกษตรกรเสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีจากยาปราบศัตรูพืชและปุ๋ยเคมี และแรงงานภาคบริการ เช่น แรงงานร้านเสริมสวยเสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีจากผลิตภัณฑ์เสริมความงาม
|
||||||||||||||||||
32786 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงพาณิชย์) | พณ | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวอุรวี เงารุ่งเรือง ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากฎหมาย (นิติกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||
32787 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร | ทก | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติมอบหมายผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในกรณีที่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามลำดับ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารด้วย ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ๒. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น)
|
||||||||||||||||||
32788 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง | พม | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นางสาวศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ กันยายน ๒๕๕๔) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||
32789 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลางรายการ เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีอุทกภัย) | มท | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการในการดำเนินการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขรวมทั้งข้อมูลครัวเรือนที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๘๗๑.๙๑๕ ล้านบาท ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดดำเนินการโดยประสานงานกับสำนักงบประมาณเพื่อให้สามารถจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั้งหมดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แล้วรายงานผลการดำเนินการเสนอนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป ๒. อนุมัติค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนการดำเนินงานศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท
|
||||||||||||||||||
32790 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง | กค | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๖ ราย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นไปตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารสูง) กรมศุลกากร ๒. นางเบญจา หลุยเจริญ ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารสูง) กรมสรรพสามิต ๓. นายนริศ ชัยสูตร ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารสูง) กรมธนารักษ์ ๔. นายสมชัย สัจจพงษ์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ (นักบริหารสูง) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ๕. นายประสงค์ พูนธเนศ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ (นักบริหารสูง) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ๖. นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหารสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||
32791 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์) | กก | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เป็นข้าราชการการเมืองตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
||||||||||||||||||
32792 | การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยปี 2554 กรณีพิเศษ เพิ่มเติม | กษ | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยกรณีที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนด้านพืชกับกรมส่งเสริมการเกษตร แต่ขึ้นทะเบียนชาวไร่อ้อยตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. ๒๕๒๗ กับสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กระทรวงอุตสาหกรรม ให้สามารถขอรับการช่วยเหลือตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ (เรื่อง การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้านการเกษตรปี ๒๕๕๔ กรณีพิเศษ) ได้ ๑.๒ ให้แก้ไขขั้นตอนการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้านการเกษตร ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ จากเดิม ข้อ (๗) “กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และรวบรวมส่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงานใหญ่ ข้อ (๘) ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ ขออนุมัติเงินประจำงวดจากสำนักงบประมาณ” เป็น ข้อ (๗) “กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และรวบรวมส่งสำนักงบประมาณ พร้อมทั้งจัดทำคำขออนุมัติจัดสรรงบประมาณในคราวเดียวกัน และให้ถือว่าคำขอดังกล่าว เป็นคำขออนุมัติจัดสรรงบประมาณของ ธ.ก.ส.” ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประสานงานและเร่งรัดการดำเนินงานร่วมกับสำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือถึงมือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยโดยเร็วด้วย
|
||||||||||||||||||
32793 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายศักดา นพสิทธิ์ ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ กันยายน ๒๕๕๔) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||
32794 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง | มท | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๓ ราย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ กันยายน ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายไพวงษ์ เตชะณรงค์ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ๒. นายสุนทร รัตนากร เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายชูชาติ หาญสวัสดิ์) ๓. พลโท มนัส เปาริก เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่ากากระทรวงมหาดไทย (นายฐานิสร์ เทียนทอง)
|
||||||||||||||||||
32795 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีและเลขานุการรัฐมนตรี (กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) | วท | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๒ ราย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ กันยายน ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒. นายกมล บันไดเพชร เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
|
||||||||||||||||||
32796 | แจ้งกำหนดการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ | สผ | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมีติอนุมัติให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปชี้แจงแสดงความคิดเห็นในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ในวันพุธที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๔
|
||||||||||||||||||
32797 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง | ทส | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๒. นางมิ่งขวัญ วิชยารังสฤษดิ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานปลัด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๓. นายดำรงค์ พิเดช ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
|
||||||||||||||||||
32798 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง | กษ | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๕ ราย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. นายจักรี สุจริตธรรม ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารสูง) กรมตรวจบัญชีสหกร ๒. นายวิมล จันทรโรทัย ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารสูง) กรมประมง ๓. นายทฤษดี ชาวสวนเจริญ ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารสูง) กรมปศุสัตว์ ๔. นางพรรณพิมล ชัญญานุวัตร ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารสูง) กรมส่งเสริมการเกษตร ๕. นายประเสริฐ โกศัลวิตร ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารสูง) กรมหม่อนไหม
|
||||||||||||||||||
32799 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (จำนวน 6 ราย) | กค | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๖ ราย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ กันยายน ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ๒. นายจิรเดช วรเพียรกุล เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์) ๓. นายภิญโญ ตั๊นวิเศษ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์) ๔. นายไพบูลย์ พิมพ์พิสิฐถาวร เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ๕. นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง(รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์) ๖. นายธนาธร โล่ห์สุนทร เป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์)
|
||||||||||||||||||
32800 | การแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ | พณ | 06/09/2554 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ขึ้นใหม่ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ และปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นกรรมการและเลขานุการ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
.....