ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1637 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 32721 - 32740 จากข้อมูลทั้งหมด 123982 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
32721 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) | สธ | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นางจรุงศรี โกสินทรเสนีย์ ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ ด้านทันตกรรม กลุ่มงานทันตกรรม กลุ่มภารกิจวิชาการ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๔ ๒. นางสาวดารณี หมู่ขจรพันธ์ ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข (นักวิชาการอาหารและยาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตั้งแต่วันที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๔
|
||||||||||||||||||||||||
32722 | การแต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงมหาดไทย) | มท | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสมคิด ใจยิ้ม ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย (นิติกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32723 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 100 ปี กรมศิลปากร พ.ศ. .... | กค | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๐๐ ปี กรมศิลปากร พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญคือ กำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๐๐ ปี กรมศิลปากร ชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลาย และลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์โลหะสองสี (สีขาวและสีทอง) ราคาสิบบาท ประเภทธรรมดา (จำนวนผลิตไม่เกิน ๒,๐๐๐,๐๐๐ เหรียญ) และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
32724 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยเครื่องแบบตำรวจ พ.ศ. .... | ตช | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยเครื่องแบบตำรวจ พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดลักษณะ ชนิด และประเภทของเครื่องแบบตำรวจชายและตำรวจหญิง เครื่องแบบพิเศษสำหรับตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและระงับอัคคีภัยในเขตพระราชฐานและที่ประทับ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจดุริยางค์ ตำรวจน้ำ ตำรวจที่ขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับอากาศยานของกองบินตำรวจ ตำรวจม้า และตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน ๒. กำหนดเครื่องหมายอื่นที่ใช้ประกอบการแต่งเครื่องแบบตำรวจประเภทต่าง ๆ
|
||||||||||||||||||||||||
32725 | ข้อมูลข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร | นร | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อมูลบัญชีรายชื่อและประวัติบุคคลของข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ในสายงานบริหาร (นักบริหาร) สายงานบริหารงานปกครอง (นักปกครอง) สายงานตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง) และสายงานบริหารการทูต (นักบริหารการทูต) ของส่วนราชการ จำแนกตามส่วนราชการและความเชี่ยวชาญพิเศษในรูป CD - Rom ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32726 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันตามมาตรา 23 วรรคสี่ สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 (การเช่าอาคารที่ทำการสำนักงานและสัญญาเช่ารถยนต์เพื่อใช้ประจำสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสาขาในประเทศและต่างประเทศ) | กก | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๑.๑ ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าเช่าอาคารสำนักงานและรายการค่าเช่ารถยนต์ของ ททท. สำนักงานต่างประเทศ ๘ รายการ (ค่าเช่าสำนักงานโตเกียว สำนักงานจาการ์ตา สำนักงานเซี่ยงไฮ้ สำนักงานแฟรงก์เฟิร์ต สำนักงานซิดนีย์ และค่าเช่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลเพื่อใช้ประจำสำนักงานสตอกโฮล์ม สำนักงานแฟรงก์เฟิร์ต และสำนักงานปารีส) วงเงิน ๑๒๑,๓๔๕,๐๐๐ บาท และรายการค่าเช่าอาคารสำนักงานรายการใหม่ของ ททท. สำนักงานในประเทศ ๒ รายการ (สำนักงานแพร่ และสำนักงานอุทัยธานี) วงเงิน ๑,๔๐๔,๐๐๐ บาท โดยให้สามารถลงนามสัญญาได้ภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงต้นปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นกรณีที่ต้องใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ไปพลางก่อน ดังนั้น ททท. จึงต้องใช้จ่ายรายการที่ได้รับอนุมัติก่อหนี้ผูกพันดังกล่าวจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ไปพลางก่อน จนกว่างบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ จะประกาศบังคับใช้ ๑.๒ สำหรับรายการค่าเช่าอาคารสำนักงานของ ททท. สำนักงานในประเทศ ที่เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ จำนวน ๓ รายการ [สำนักงานอุบลราชธานี สำนักงานสุราษฎร์ธานี (ศูนย์ฯ สมุย) และสำนักงานหาดใหญ่] วงเงิน ๓๐๒,๐๐๐ บาท ให้ดำเนินการจัดหาไว้ล่วงหน้า และให้ก่อหนี้ผูกพันงบประมาณเมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ มีผลบังคับใช้ และได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๓ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ อันเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณซึ่งสามารถดำเนินการได้ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุฯ ข้อ ๑๓ และหนังสือคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กวพ.) ด่วนที่สุด ที่ กค (กวพ.) ๐๔๐๘.๔/ว ๓๕๑ ลงวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๔๘ ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรพิจารณาจ่ายเงินงบประมาณให้เป็นไปอย่างคุ้มค่า และมีการติดตามประเมินผลการดำเนินงานของสำนักงาน ททท. ในประเทศและต่างประเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
32727 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีนายสกลสมบูรณ์ เสรีรักษ์ กับพวก รวม 65 คน ฟ้องนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 22 คน ต่อศาลปกครองสูงสุด | อส | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขดำที่ ฟ.๑๒/๒๕๕๑ หมายเลขแดงที่ ฟ.๒๘/๒๕๕๔ ระหว่าง
นายสกลสมบูรณ์ เสรีรักษ์ กับพวกรวม ๖๕ คน ผู้ฟ้องคดี นายกรัฐมนตรี กับพวก รวม ๒๒ คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่องขอให้เพิกถอนพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษายกฟ้องคดีดังกล่าว
|
||||||||||||||||||||||||
32728 | ขอความเห็นชอบร่างบันทึกการประชุมคณะกรรมการระดับสูงไทย - อินโดนีเซีย ครั้งที่ 5 | กห | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างบันทึกการประชุมคณะกรรมการระดับสูงไทย - อินโดนีเซีย ครั้งที่ ๕ เพื่อใช้เป็นกรอบการประชุมและกรอบการเจรจาของคณะกรรมการระดับสูง ไทย - อินโดนีเซีย ครั้งที่ ๕ ในวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๔ ณ กรุงเทพฯ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ โดยร่างบันทึกการประชุมฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. การรายงานผลการดำเนินงานหลังจากการประชุมคณะกรรมการระดับสูง ไทย - อินโดนีเซีย ครั้งที่ ๔ ที่สำคัญ ได้แก่ ความคืบหน้าในการจัดทำระเบียบปฏิบัติประจำ (Standard Operating Procedure - SOP) การลาดตระเวนร่วมในช่องแคบมะละการะหว่างไทยกับอินโดนีเซีย การขยายความร่วมมือในการช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ (Humanitarian Assistance and Disaster Relief - HA/DR) และการรักษาสันติภาพและการแพทย์ระหว่างไทย - อินโดนีเซีย ๒. การรายงานผลการประชุม ครั้งที่ ๓ ของคณะอนุกรรมการร่วม ๓ คณะ ประกอบด้วย ๒.๑ รายงานผลการประชุมคณะอนุกรรมการร่วมด้านการข่าว ไทย - อินโดนีเซีย ครั้งที่ ๓ ที่สำคัญ ได้แก่ การขยายความร่วมมือด้านการข่าวเกี่ยวกับ HA/DR และการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ๒.๒ รายงานผลการประชุมคณะอนุกรรมการร่วมด้านยุทธการ ไทย - อินโดนีเซีย ครั้งที่ ๓ ที่สำคัญ คือ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในร่างบันทึกความเข้าใจและระเบียบปฏิบัติประจำในการลาดตระเวนร่วมในช่องแคบมะละกา ความร่วมมือด้าน HA/DR และการรักษาสันติภาพ รวมทั้งการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ ๒.๓ รายงานผลการประชุมคณะอนุกรรมการร่วมด้านการฝึกและศึกษา ไทย - อินโดนีเซีย ครั้งที่ ๓ ที่สำคัญ คือ คงความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนการดูงานและเยี่ยมเยือนสถาบันทางทหารโดยอากาศยานทหารของทั้งสองประเทศ ซึ่งเริ่มดำเนินการเมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๕๔ ต่อไป รวมทั้งจะกระชับความร่วมมือด้านการฝึกและศึกษาตามกรอบความร่วมมือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมประเทศคู่เจรจา ๕ ด้าน ได้แก่ ความร่วมมือด้าน HA/DR การรักษาความมั่นคงทางทะเล การรักษาสันติภาพ การแพทย์ทหาร และการต่อต้านการก่อการร้าย ๓. การรายงานแผนการประชุมคณะกรรมการระดับสูงและคณะอนุกรรมการร่วมทั้ง ๓ คณะ
|
||||||||||||||||||||||||
32729 | แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กรณีนายฟรานซิส ก. (กู้เกียรติ) เรืองฤทธิ์ ฟ้องนายกรัฐมนตรีคณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2550 ต่อศาลปกครองสูงสุด | อส | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมและสำนักงานอัยการสูงสุดแจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงที่ ฟ. ๒๒/๒๕๕๔ ซึ่งมีคำพิพากษายกฟ้องคดีหมายเลขดำที่ ฟ. ๑๕/๒๕๕๑ ระหว่างนายฟรานซิส ก.(กู้เกียรติ) เรืองฤทธิ์ ผู้ฟ้องคดีนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. ๒๕๕๐ ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. ๒๕๕๐
|
||||||||||||||||||||||||
32730 | รายงานการโอนงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย | นร | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอรายงานการโอนงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รวม ๓ ฉบับ ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ผ่านมายังมิได้รับทราบ เนื่องจากมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร ดังนี้
๑. รายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ในช่วง ๖ เดือนแรก (๑ ตุลาคม ๒๕๕๑ - ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๒) ๒. รายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ในช่วง ๖ เดือนหลัง (๑ เมษายน ๒๕๕๒ - ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒) ๓. รายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ในช่วง ๖ เดือนแรก (๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ - ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๓)
|
||||||||||||||||||||||||
32731 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๔ เพื่อปรับปรุงการเทียบตำแหน่งในการได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปดำเนินงานของประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รองประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยให้ประธานสภาและรองประธานสภาฯ ได้รับสิทธิในอัตราเดียวกับข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง และสมาชิกสภาฯ ได้รับสิทธิในอัตราเดียวกับข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
32732 | การคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรก | กค | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการและแนวทางการคืนเงินแก่ผู้ซื้อรถยนต์คันแรก ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้แก้ไขวันที่ผู้ซื้อรถยนต์ จาก “ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕” เป็น “ตั้งแต่วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕” สำหรับแนวทางการคืนเงินแก่ผู้ซื้อรถยนต์คันแรก มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ ผู้ซื้อรถยนต์คันแรกตั้งแต่วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ต้องยื่นคำขอคืนเงินกับกรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่พร้อมเอกสารหลักฐาน ได้แก่ หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนภายใน ๕ ปี สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ และสำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ในกรณีเช่าซื้อ) ๑.๒ กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่มีหนังสือถึงกรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัด เพื่อขอให้ตรวจสอบการครอบครองรถยนต์คันแรก และแจ้งการสละสิทธิ์การโอนภายใน ๕ ปีของผู้ซื้อ ๑.๓ กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจสอบและบันทึก “ห้ามโอนภายใน ๕ ปี” ลงในระบบคอมพิวเตอร์และในสมุดคู่มือการจดทะเบียน ๑.๔ กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดส่งหนังสือรับรองการครอบครองรถยนต์คันแรก และสำเนาคู่มือการจดทะเบียนที่บันทึก “ห้ามโอนภายใน ๕ ปี” ให้กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ ๑.๕ กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ และสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ซื้อตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ เป็นต้นไป ๒. อนุมัติในหลักการค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ จำนวน ๑๐๐ ล้านบาท เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขภายใต้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ไปพลางก่อน โดยให้กระทรวงการคลังขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป ๓. อนุมัติในหลักการกรอบวงเงินในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ จำนวน ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรกเท่ากับภาษีที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินคันละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้กระทรวงการคลังเสนอขอตั้งงบประมาณจำนวนดังกล่าวตามขั้นตอนต่อไป ๔. อนุมัติเป็นหลักการให้อธิบดีกรมบัญชีกลาง หรือผู้ที่อธิบดีกรมบัญชีกลางมอบหมายมีอำนาจอนุมัติให้คืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรกให้กับผู้ซื้อ ทั้งนี้ ในการดำเนินการคืนเงินดังกล่าวให้กรมสรรพสามิตประสานงานในรายละเอียดกับกรมบัญชีกลางต่อไป ๕. ให้กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ให้ความร่วมมือกับกรมสรรพสามิตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแสดงหลักฐานการครอบครองรถยนต์คันแรก การบันทึกข้อมูลห้ามจำหน่าย โอนรถยนต์ภายใน ๕ ปี ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๖. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรปรับปรุงเกณฑ์การคืนเงินแก่ผู้ซื้อรถยนต์คันแรกเพิ่มเติม โดยให้สะท้อนถึงแนวนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนด้วย ส่วนการใช้เกณฑ์กระบอบสูบที่จำกัดไว้ไม่เกิน ๑,๕๐๐ ลูกบาศก์เซนติเมตร และประเภทของรถ เช่น รถยนต์กระบะ หรือรถยนต์นั่งกระบะ อาจพิจารณาให้ครอบคลุมถึงรถยนต์ที่มีกระบอกสูบเกิน ๑,๕๐๐ ลูกบาศก์เซนติเมตร แต่มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำและสามารถใช้พลังงานทดแทนได้ด้วย รวมทั้งควรกำหนดหลักเกณฑ์ด้านมาตรฐานการปล่อยมลพิษและมาตรฐานความปลอดภัยเพิ่มเติม เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานยานยนต์ที่ผลิตและใช้ภายในประเทศ นอกจากนี้ ควรกำหนดระยะเวลาคืนภาษีอย่างชัดเจนและเป็นระบบ พิจารณาความเหมาะสมในการสนับสนุนมาตรการด้านสินเชื่อรถยนต์สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อย ตลอดจนเร่งปรับปรุงการเชื่อมต่อของระบบคมนาคมขนส่งเพื่อรองรับปริมาณรถยนต์ใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ ๕๐๐,๐๐๐ คัน เช่น การจัดพื้นที่จอดแล้วจร (Park and Ride) เพื่อให้ผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลสามารถเชื่อมต่อการเดินทางกับระบบขนส่งมวลชนสาธารณะในการเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
32733 | ร่างกฎกระทรวง (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบทหาร พุทธศักราช 2477 ว่าด้วยเครื่องแบบทหารบก ฉบับที่ .. | กห | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๗ ว่าด้วยเครื่องแบบทหารบก ฉบับที่ .. มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง (พ.ศ. ๒๕๔๒) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๗ ว่าด้วยเครื่องแบบทหาร ฉบับที่ ๘๐ โดยปรับปรุงเครื่องแบบทหารบกที่เกี่ยวข้องกับการติดเครื่องหมายรูปคทาไขว้ประกอบกับช่อชัยพฤกษ์ของนายทหารสัญญาบัตรนอกประจำการชั้นพันเอกซึ่งเทียบเท่าพลจัตวา นายพล และจอมพล เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหวางนายทหารสัญญาบัตรประจำการและนอกประจำการ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
32734 | ขออนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินงานโครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิและขออนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พร้อมทั้งเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการค่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงาน | กษ | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ จากเดิม ๖ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ - ๒๕๕๓) เป็น ๗ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ - ๒๕๕๔) เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันฯ รายการค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างโครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ๑.๒ ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างโครงการระบายน้ำบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ จากเดิมปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ - ๒๕๕๓ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ - ๒๕๕๔ พร้อมทั้งเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณจากวงเงินตามสัญญาเดิม ๑๘๑,๑๗๙,๑๑๙.๖๐ บาท เป็นวงเงิน ๒๑๓,๐๐๑,๘๑๙.๖๐ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ (เรื่อง การปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณและมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง) เป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
32735 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านกล้วย ตำบลในเมือง และตำบลท่าชัย อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท พ.ศ. .... | คค | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านกล้วย ตำบลในเมือง และตำบลท่าชัย อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านกล้วย ตำบลในเมือง และตำบลท่าชัย อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท เพื่อสร้างทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๑๑ ไปจดแม่น้ำเจ้าพระยา และสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดท่าชัย และถนนต่อเชื่อม เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับร่างพระราชกฤษฎีกาที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ในร่างมาตรา ๒ ได้กำหนดให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้น ร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้สมควรให้มีผลใช้บังคับไม่ก่อนวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๔ และการกำหนดเงินค่าทดแทนให้กับผู้ถูกเวนคืนจะต้องใช้ฐาน ณ วันที่ร่างพระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกเวนคืน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
32736 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลบ้านกล้วย ตำบลในเมือง และตำบลท่าชัย อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลบ้านกล้วย ตำบลในเมือง และตำบลท่าชัย อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลบ้านกล้วย ตำบลในเมือง และตำบลท่าชัย อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อประโยชน์สาธารณะในการสร้างทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๑๑ ไปจดแม่น้ำเจ้าพระยาและสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดท่าชัย และถนนต่อเชื่อม ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
32737 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลหนองตำลึง อำเภอพานทอง และตำบลดอนหัวฬ่อ อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลหนองตำลึง อำเภอพานทอง และตำบลดอนหัวฬ่อ อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลหนองตำลึง อำเภอพานทอง และตำบลดอนหัวฬ่อ อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อประโยชน์สาธารณะในการสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ บริเวณทางหลวงชนบท ชบ. ๓๐๒๒ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
32738 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง) | กค | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ในสังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ
จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑. นายนิพิฐ อริยวงศ์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมธนารักษ์ ตั้งแต่วันที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๔ ๒. นางสาวจารุวรรณ จันทิมาพงษ์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการบริหารเหรียญกษาปณ์และ ทรัพย์สินมีค่า (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมธนารักษ์ ตั้งแต่วันที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๔ ๓. นายวัฒนา เชาวสกู ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (นักวิเคราะห์ นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมธนารักษ์ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๔
|
||||||||||||||||||||||||
32739 | ขอความเห็นชอบแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีขนส่งเอเปค | คค | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีขนส่งเอเปค ครั้งที่ ๗ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวเป็นแถลงการณ์สำหรับรัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านการขนส่งของสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปค ๒๑ เขตเศรษฐกิจ ประกอบด้วย ออสเตรเลีย บรูไนดารุสซาลาม แคนาดา ชิลี สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี เปรู ฟิลิปปินส์ สหพันธรัฐรัสเซีย สิงคโปร์ จีนไทเป ประเทศไทย สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม โดยยืนยันเจตนารมณ์ที่จะสนับสนุนนโยบายของผู้นำเอเปคในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่
๑. การส่งเสริมการเติบโตสีเขียวและนวัตกรรมการขนส่งที่มุ่งเน้นด้านการขนส่งที่ปลอดภัย มั่นคง ไร้รอยต่อ และยั่งยืน โดยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในระบบขนส่งเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซและให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการใช้พลังงานในการขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ ๒. สนับสนุนความร่วมมือด้านกฎระเบียบ เพื่อลดอุปสรรคด้านการค้าและการลงทุน และให้ความสำคัญกับบทบาทองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ที่กำหนดมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติเพื่อให้ประเทศสมาชิกถือปฏิบัติ ๓. สร้างความเข้มแข็งเพื่อบูรณาการด้านเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเปิดเสรีในทุกสาขาการขนส่ง และลดอุปสรรคต่าง ๆ ที่มีต่อการค้าและการลงทุน
|
||||||||||||||||||||||||
32740 | (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555 - 2559) | นร | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ส่ง (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙) ให้สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้ความเห็นเพื่อให้เป็นไปตามนัยมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๓ ที่บัญญัติว่า ให้กรณีที่คณะรัฐมนตรีจะดำเนินการประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้คณะรัฐมนตรีเสนอร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้ความเห็นก่อนการประกาศใช้ และเมื่อสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้จัดส่งความเห็นมาให้คณะรัฐมนตรีแล้ว ให้คณะรัฐมนตรีนำความเห็นดังกล่าวประกอบการพิจารณาในการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อให้เหมาะสมกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
.....