ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1634 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 32661 - 32680 จากข้อมูลทั้งหมด 123982 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
32661 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีกห้าปี จำนวน 1 ฉบับ) | มท | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อขยายระยะเวลาการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีกห้าปี เพิ่มขึ้น จำนวน ๑ ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
32662 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 และสถานที่ทำการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด | นร | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการในการสนับสนุนงบประมาณเพื่อใช้จ่ายในการจัดตั้งสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดตั้งสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด (๖๗ จังหวัด) เป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน ๕๑๓,๘๓๙,๖๔๐ บาท เพิ่มเติมจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๔ ๑.๒ ให้จังหวัดต่าง ๆ หรือส่วนราชการอื่น ให้ความอนุเคราะห์ให้ใช้สถานที่เป็นที่ทำการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชั่วคราว เพื่อให้สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมีสถานที่ทำการชั่วคราวภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ รองรับการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด ๑.๓ ให้กรมธนารักษ์ และผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ความอนุเคราะห์ในการจัดสรรที่ราชพัสดุที่เหมาะสมและเพียงพอสำหรับการจัดตั้งที่ทำการถาวรสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด เพื่อให้สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด มีที่ทำการถาวรทั้ง ๗๖ จังหวัด (ยกเว้นกรุงเทพมหานคร) ๒. ให้สำนักงาน ป.ป.ช. ไปตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ โดยให้จัดลำดับความสำคัญและคำนึงถึงความจำเป็นเร่งด่วนของจังหวัดที่จะจัดตั้ง ความพร้อมของบุคลากร ปริมาณงาน และการใช้งบประมาณอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||
32663 | คณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงกลาโหม) | กห | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการที่มีความสำคัญและจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน ๑๖ คณะ โดยมีองค์ประกอบอำนาจหน้าที่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตลอดจนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ดังนี้
๑. คณะกรรมการพิจารณาการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเอกชน ตามพระราชบัญญัติโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พุทธศักราช ๒๕๕๐ ในความควบคุมของกระทรวงกลาโหม ๒. คณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไป ไทย - ลาว ๓. คณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนระดับจังหวัด - แขวง ๔. คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย - มาเลเซีย ๕. คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย - กัมพูชา ๖. คณะกรรมการยีออเดซี่และยีออฟิสิกส์แห่งชาติ ๗. คณะกรรมการชื่อภูมิศาสตร์แห่งชาติ ๘. คณะกรรมการสภาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ๙. คณะกรรมการพิจารณาสิทธิกำลังพลกรณีพิเศษกองทัพไทย ๑๐. คณะกรรมการพิจารณาบำเหน็จพิเศษสำหรับการสู้รบของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ๑๑. คณะกรรมการขอพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ๑๒. คณะกรรมการพิจารณาสิทธิกำลังพลปฏิบัติราชการพิเศษของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ๑๓. คณะกรรมการพิจารณาสิทธิด้านกำลังพลให้แก่เจ้าหน้าที่กองทัพเรือที่ออกปฏิบัติการตามแผนป้องกันประเทศ แผนรักษาความสงบภายในประเทศ หรือออกปฏิบัติราชการรักษาความสงบในเวลาฉุกเฉิน (พิจารณาเงินทดแทนและบำเหน็จความชอบ) ๑๔. คณะกรรมการพิจารณาสิทธิด้านกำลังพลให้แก่เจ้าหน้าที่กองทัพเรือที่ออกปฏิบัติการตามแผนป้องกันประเทศ แผนรักษาความสงบภายในประเทศ หรือออกปฏิบัติราชการรักษาความสงบในเวลาฉุกเฉิน (พิจารณาบำเหน็จพิเศษสำหรับการสู้รบ) ๑๕. คณะกรรมการพิจารณาสิทธิด้านกำลังพลให้แก่เจ้าหน้าที่กองทัพเรือที่ออกปฏิบัติการตามแผนป้องกันประเทศ แผนรักษาความสงบภายในประเทศ หรือออกปฏิบัติราชการรักษาความสงบในเวลาฉุกเฉิน (ขอพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน) ๑๖. คณะกรรมการเพื่อพิจารณาการได้รับสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศ (ขอพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน)
|
|||||||||||||||||||||
32664 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (สำนักงานอัยการสูงสุด) | อส | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คงคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี จำนวน ๑ คณะ เพื่อปฏิบัติงานต่อไปคือ คณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กยพ.) ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
32665 | พระราชดำริเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ | รล | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบพระราชดำริเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานสนองพระราชดำริ ตามที่สำนักราชเลขาธิการเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. เรื่องดินถล่มที่เพิ่มขึ้นมาก ให้ศึกษาหาแนวทางแก้ไขโดยใช้ความระมัดระวังในการดำเนินงาน แม้กระทั่งหญ้าแฝกอาจจะเป็นตัวการให้ดินถล่มได้ เพราะรากเจาะลึกทำให้ดินแตกแยก ควรศึกษาอย่างรอบคอบว่าโครงสร้างดินลักษณะใด ควรจะดำเนินการอย่างไร ปลูกพืชชนิดใด เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเรื่องการบุกรุกพื้นที่เพาะปลูกเข้าไปในป่า ทำให้พื้นที่ดินถล่มเพิ่มขึ้นตามมา เมื่อเปิดพื้นที่ใหม่ขึ้นไปบนภูเขาจะเกิดการสร้างถนนขวางทางน้ำ ก่อความเสียหายทั้งอุทกภัยและดินถล่ม การแก้ไขปัญหาคือการปรับที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม ถูกต้อง ซึ่งใช้เวลา ๑๐ ถึง ๒๐ ปี จึงจำเป็นต้องศึกษา วิจัย ทดลองให้ได้คำตอบว่าจะปลูกพืชอย่างไรให้มีรากแก้วลึกสลับกับหญ้าแฝก หรือพืชอื่นที่เหมาะสมตามสภาพ ๒. เรื่องอุทกภัย ภัยแล้ง ให้ศึกษาสรุปการแก้ไขในพื้นที่สำคัญ แม่น้ำที่มีผลต่อการเกิดอุทกภัย ภัยแล้ง มี ๕ สาย คือ แม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน และแม่น้ำป่าสัก ให้ดำเนินการศึกษาและพัฒนาแม่น้ำทั้ง ๕ สาย จะช่วยแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งของประเทศได้มาก พื้นที่แม่น้ำน่าน น้ำว้า ควรศึกษาพื้นที่ต้นน้ำว่าจะฟื้นฟูรักษาและใช้ประโยชน์อย่างไร ไม่ให้ดินถล่มและหน่วงน้ำไว้ได้ โดยการสร้างฝายและทำนบเพิ่มเติม พื้นที่แม่น้ำยมให้มูลนิธิชัยพัฒนาประสานดำเนินการสร้างพัฒนาเขื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง โดยให้ประชาชนในพื้นที่ยอมรับและเห็นประโยชน์ร่วมกัน อาจเป็นการพัฒนาเขื่อนแก่งเสือเต้นให้เหมาะสมทั้งลักษณะและขนาดที่ยอมรับได้ และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน หากศึกษาแล้วสรุปได้ทางเลือกที่เหมาะสมก็ให้เร่งดำเนินการ เมื่อมีแผนงานแล้วให้เชื่อมโยงทั้งระบบของแม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน และแม่น้ำป่าสัก ใช้หลักการทั้งอ่างพ่วง แก้มลิง การผันน้ำ และคลองทูอินวัน (คลองส่งน้ำและคลองระบายน้ำ) เพื่อบริหารจัดการแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา สำหรับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ดำเนินการเชื่อมต่อเขื่อนลำตะคองกับอ่างเก็บน้ำในลุ่มน้ำ แล้วศึกษาหาพื้นที่แก้มลิงก่อนถึงจังหวัดนครราชสีมา ๓. เรื่องการจัดการน้ำชุมชน ให้รวบรวมชุมชนมาช่วยทำงาน ให้ชุมชนชาวบ้านที่มีความรู้ ประสบความสำเร็จ มีประสบการณ์ จัดการและพัฒนาน้ำในพื้นที่ แล้วขยายผลยังชุมชนอื่น ๔. เรื่องน้ำปัญหามากมาย ให้พัฒนาพื้นที่ตัวอย่างก่อน การใช้ที่ดินป่าต้นน้ำ เกี่ยวโยงกัน ให้ศึกษาและพัฒนาโครงการตัวอย่างในพื้นที่ให้ประสบความสำเร็จ สรุปแนวทางแก้ปัญหาให้ได้แล้วจึงขยายผล
|
|||||||||||||||||||||
32666 | รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ประจำปี พ.ศ. 2552 | ปช | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) เสนอ โดยสาระสำคัญของรายงานดังกล่าว ประกอบด้วยผลการปฏิบัติงานด้านปราบปรามการทุจริต ด้านป้องกันการทุจริต ด้านตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน และด้านบริหารจัดการองค์กร รวมทั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งมีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ รวม ๒ เรื่อง ดังนี้ ๑.๑ เรื่อง “คุณธรรมและจริยธรรมของนักการเมือง” คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า ตามมาตรา ๓๐๔ บัญญัติให้ดำเนินการจัดทำประมวลจริยธรรมให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ โดยในส่วนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประเภทที่ ๑ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับชาติ ได้แก่ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ได้จัดทำประมวลจริยธรรมของตนแล้วเสร็จ และได้ออกประกาศใช้บังคับแล้ว สำหรับของผู้ดำรงตำแหน่งประเภทที่ ๒ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับท้องถิ่น ได้แก่ ผู้บริหารและสมาชิกสภาในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประเภทต่าง ๆ ทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล และท้องถิ่นที่มีลักษณะการปกครองแบบพิเศษ คือ กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ยังมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีกเป็นจำนวนมากที่ยังมิได้จัดทำประมวลจริยธรรมของหน่วยงาน จึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่รัฐบาลและรัฐสภาในฐานะผู้กำกับดูแลและตรวจสอบการปฏิบัติราชการของหน่วยงานของรัฐจะเร่งรัดให้หน่วยงานของรัฐดังกล่าวดำเนินการจัดทำประมวลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฝ่ายบริหารและฝ่ายสภาหรือประมวลจริยธรรมของข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเร็ว ๑.๒ เรื่อง “ปัญหาการทุจริตที่ดินของรัฐ” คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาด้านกฎหมายและระเบียบด้านนโยบาย ด้านการบริหารราชการ ด้านผู้มีอิทธิพลและอำนาจแฝง และด้านการบูรณาการกลไกภาคประชาสังคมในการป้องกันการทุจริตที่ดินของรัฐ เพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตในการออกเอกสารสิทธิที่ดิน ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับประเด็นข้อเสนอแนะเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมของนักการเมืองและเรื่องปัญหาการทุจริตที่ดินของรัฐ เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
32667 | ขออนุมัติโครงการและงบประมาณก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ บริเวณพื้นที่ราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร | สผ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการโครงการและงบประมาณก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ บริเวณพื้นที่ราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร วงเงินรวม ๑๕,๓๒๔,๙๐๐,๐๐๐ บาท ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ ส่วนการเงินให้ตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ โดยให้คำนึงถึงการใช้งบประมาณอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพตามความจำเป็นและเร่งด่วน และให้คำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศและความเห็นของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับความจำเป็นต้องใช้งบประมาณส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้วย ๒. ให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ที่เห็นชอบกับความเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้านการพัฒนาโครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือโครงการร่วมเอกชน ต่อรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมีมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม และรับผิดชอบในการขอจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการฯ และให้นำแผนติดตามตรวจสอบผลกระทบต่าง ๆ ที่ได้กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการฯ มาใช้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ตามความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติด้วย |
|||||||||||||||||||||
32668 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ (สำนักพระราชวัง) | พว | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักพระราชวังเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในราชการ โดยเบิกจ่ายจาก งบเงินอุดหนุนทั่วไป งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ไปพลางก่อน ระยะเวลาเช่า ๓ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ จำนวน ๒๘ คัน เป็นเงิน ๒๐,๙๐๘,๖๕๖ บาท ตามที่สำนักพระราชวังเสนอ โดยให้ตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
32669 | ขออนุมัติรายชื่อผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ประจำปีการศึกษา 2554 - 2555 จากคณะรัฐมนตรี (เพิ่มเติม) | กห | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ดังนี้
๑. รายชื่อบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ ๕๔ (เพิ่มเติม) จำนวน ๙ คน และหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.) รุ่นที่ ๒๔ (เพิ่มเติม) จำนวน ๑๘ คน ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๔ - ๒๕๕๕ ห้วงการศึกษาตั้งแต่วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๕ ๒. เปลี่ยนตัวบุคคลที่จะเข้ารับการศึกษา รวม ๓ คน ในหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ ๕๔ จำนวน ๒ คน และหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.) รุ่นที่ ๒๔ จำนวน ๑ คน ๓. หากตรวจสอบคุณสมบัติในภายหลังพบว่า ผู้ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการศึกษาหลักสูตรดังกล่าวขาดคุณสมบัติตามระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้กระทรวงกลาโหม โดยวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ตัดรายชื่อออกจากจำนวนที่ได้รับอนุมัติ หากมีความจำเป็นที่จะพิจารณาผู้ที่จะเข้ารับการศึกษาทดแทนให้กระทรวงกลาโหม โดยสภาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ดำเนินการตามความเหมาะสม
|
|||||||||||||||||||||
32670 | ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีเสนอที่รัฐสภายังมิได้ให้ความเห็นชอบ | ยธ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงยุติธรรมรับร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... ไปพิจารณาทบทวน แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
32671 | การจัดสรรเงินงบประมาณเหลือจ่ายเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลสำหรับข้าราชการธุรการและลูกจ้างประจำของสำนักงานอัยการสูงสุด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 | อส | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบให้สำนักงานอัยการสูงสุดเบิกจ่ายเงินงบประมาณโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตบุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๐ ล้านบาท จากเงินเหลือจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่ได้ผ่านการพิจารณาจากกระทรวงการคลังมาดำเนินการจัดสรรเพื่อใช้จ่ายเป็นเงินรางวัลสำหรับข้าราชการธุรการและลูกจ้างประจำของสำนักงานอัยการสูงสุดประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยใช้หลักเกณฑ์ตามแนวทางและวิธีการจัดสรรเงินรางวัลของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษาที่จัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กำหนด โดยอนุโลม ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
32672 | การปรับราคาผลิตภัณฑ์นม ยู.เอช.ที. ตราสัญลักษณ์กระทรวงยุติธรรม | ยธ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับเพิ่มราคาการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นม ยู.เอช.ที. ไทย - เดนมาร์คตราสัญลักษณ์กระทรวงยุติธรรม ขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ขนาดบรรจุ ๒๕๐ มิลลิลิตร ที่จัดส่งให้สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ จากรายการเดิม ๙.๕๐ บาท/กล่อง เป็นราคาใหม่ ๙.๙๐ บาท/กล่อง โดยราคาที่ปรับเพิ่มขึ้น ๐.๔๐ บาท/กล่อง เป็นการปรับราคาในอัตราใกล้เคียงกับราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นสำหรับนม ยู.เอช.ที. ชนิดกล่อง ขนาดบรรจุ ๒๐๐ มิลลิลิตร สำหรับภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้น ให้กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนบริหารจัดการภายในวงเงินงบประมาณที่ได้รับต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||
32673 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี | วธ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คณะกรรมการต่างๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จำนวน ๗ คณะ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. คณะกรรมการประสานงานฝ่ายไทยว่าด้วยวัฒนธรรมและสนเทศอาเซียน ๒. คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย ๓. คณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์และพัฒนานครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ๔. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยสภาการพิพิธภัณฑ์ระหว่างชาติ ๕. คณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินงานโครงการอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ๖. คณะกรรมการอำนวยการวันอนุรักษ์มรดกไทย ๗. คณะกรรมการพัฒนากฎหมายกระทรวงวัฒนธรรม
|
|||||||||||||||||||||
32674 | การทบทวนความจำเป็นต้องคงอยู่ของคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี | ทส | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการต่างๆ ที่คณะรัฐมนตรีชุดเดิมแต่งตั้งไว้ให้คงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จำนวน ๑๐ คณะ โดยปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการ จำนวน ๒ คณะ และยกเลิก จำนวน ๑ คณะ คือ คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อการเจรจากรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้คณะกรรมการที่ให้คงปฏิบัติหน้าที่มี ดังนี้
๑. คณะกรรมการอำนวยการโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ ๕๐ ๒. คณะกรรมการบริหารโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ ๕๐ ๓. คณะกรรมการกองทุนโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ ๕๐ ๔. คณะกรรมการโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ ๕๐ ประจำจังหวัดทุกจังหวัด ๕. คณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ๖. คณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย (ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการ) ๗. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ๘. คณะกรรมการป้องกันและแก้ปัญหาพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ ๙. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ (ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการ) ๑๐. คณะกรรมการกำหนดราคาค่าขนย้าย ค่ารื้อย้ายอาคารบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง ต้นไม้ยืนต้น พืชล้มลุก
|
|||||||||||||||||||||
32675 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี | วช | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีซึ่งยังมีความสำคัญและจำเป็นต้องมีอยู่ขึ้นใหม่
จำนวน ๔ คณะ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการประสานงานของสภาสหภาพวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ (ICSU-ไทย) ๒. คณะกรรมการโครงการความร่วมมือการวิจัยระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ๓. คณะกรรมการแห่งชาติเพื่อพัฒนางานเลี้ยงและใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ ๔. คณะกรรมการแห่งชาติเพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย
|
|||||||||||||||||||||
32676 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนจังหวัดที่ประสบอุทกภัย | สธ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
๑. สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนจังหวัดที่ประสบอุทกภัย ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาตรวจสอบความเสียหายที่ชัดเจน สอดคล้องกับข้อเท็จจริง และเป็นความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อฟื้นฟูความเสียหายให้กลับสู่สภาพเดิมอย่างยั่งยืน และเสนอให้คณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) เพื่อพิจารณาแนวทางในการสนับสนุนงบประมาณในภาพรวมก่อนที่จะจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
32677 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี | นร | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คงคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี จำนวน ๒ คณะ ทั้งนี้ เห็นควรปรับปรุงองค์ประกอบใหม่ ซึ่งจะเสนอเพื่อพิจารณาต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ๒. คณะกรรมการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (กพบ.)
|
|||||||||||||||||||||
32678 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงอุตสาหกรรม) | อก | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีชุดเดิมแต่งตั้งไว้ให้คงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จำนวน ๙ คณะ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
๑. คณะกรรมการประสานงานแห่งชาติเพื่อการปฏิบัติให้เป็นไปตามอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี ๒. คณะกรรมการพิจารณาการตั้งโรงงานแปรรูปไม้ตามมติคณะรัฐมนตรี ๓. คณะกรรมการชำระบัญชีโรงงานน้ำตาล ฯ ๔. คณะกรรมการกำหนดแหล่งหินสำหรับการทำเหมืองหินอุตสาหกรรม ๕. คณะกรรมการกำหนดแหล่งหินสำหรับการทำเหมืองหินอุตสาหกรรมระดับจังหวัด ๖. คณะกรรมการดัชนีอุตสาหกรรม ๗. คณะกรรมการว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า ๘. คณะกรรมการพิจารณาสินค้าที่ผลิตในประเทศ ๙. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยมาตรฐานเทคนิคทางไฟฟ้าระหว่างประเทศ
|
|||||||||||||||||||||
32679 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน | พน | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามลำดับ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานด้วย ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
|
|||||||||||||||||||||
32680 | รายงานสถานะหนี้สาธารณะ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2554 และผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2554 ระหว่างเดือนตุลาคม 2553 ถึงเดือนมีนาคม 2554 | กค | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานะหนี้สาธารณะ ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ และผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๕๓ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. หนี้สาธารณะ ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ มีจำนวน ๔,๒๔๖,๑๑๔.๖๘ ล้านบาท หรือร้อยละ ๔๑.๒๘ ของ GDP ประกอบด้วยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง ๒,๙๘๘,๘๔๕.๓๙ ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน ๑,๐๖๕,๘๗๒.๑๓ ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน ๑๖๐,๓๔๐.๒๗ ล้านบาท และหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ๓๑,๐๕๖.๘๙ ล้านบาท ทั้งนี้ หนี้สาธารณะจำนวนดังกล่าวจำแนกตามอายุของหนี้เป็นหนี้ระยะยาว ๔,๒๑๒,๑๐๗.๙๘ ล้านบาท และหนี้ระยะสั้น ๓๔,๐๐๖.๗๐ ล้านบาท และจำแนกตามแหล่งที่มาเป็นหนี้ต่างประเทศ ๓๕๐,๓๓๑.๘๘ ล้านบาท และหนี้ในประเทศ ๓,๘๙๕,๗๘๒.๘๐ ล้านบาท ๒. ภาพรวมผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ในช่วง ๖ เดือนแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ สามารถดำเนินการงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ปรับปรุงครั้งที่ ๑ วงเงินรวม ๑,๒๙๑,๕๐๔.๒๗ ล้านบาท ประกอบด้วยแผนการก่อหนี้ใหม่ ๖๐๒,๖๐๔.๑๗ ล้านบาท แผนการปรับโครงสร้างหนี้ ๖๐๘,๙๐๐.๑๐ ล้านบาท และแผนการบริหารความเสี่ยง ๘๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท โดยในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๕๓ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๔ กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการก่อหนี้ใหม่ การปรับโครงสร้างหนี้ และการบริหารความเสี่ยงแล้ว เป็นวงเงินทั้งสิ้น ๕๑๓,๖๙๒.๒๓ ล้านบาท และจากผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะดังกล่าว ยังมีการกู้เงินและบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่อยู่ภายใต้กรอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะอีก ๑๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินและการบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่มีสถานะเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ๗,๕๐๐.๐๐ ล้านบาท การกู้เงินระยะสั้นเพื่อเสริมสภาพคล่องในรูป Credit Line จำนวน ๒,๕๐๐.๐๐ ล้านบาท ๓. สรุปผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยในช่วงระยะเวลา ๖ เดือนแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ (ตุลาคม ๒๕๕๓ - มีนาคม ๒๕๕๔) กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการบริหารและจัดการหนี้สาธารณะตามกรอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะ เป็นจำนวนทั้งสิ้น ๕๑๓,๖๙๒.๒๓ ล้านบาท ส่วนผลการกู้เงินและบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องอยู่ภายใต้กรอบวงเงินของแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินและบริหารหนี้รวมทั้งสิ้น ๑๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท ทั้งนี้ จากการดำเนินการดังกล่าว กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้กู้เงินและบริหารหนี้รวมทั้งสิ้น ๕๒๓,๖๙๒.๒๓ ล้านบาท แบ่งเป็นการก่อหนี้ใหม่ ๑๙๙,๖๒๐.๓๕ ล้านบาท และการบริหารหนี้ ๓๒๔,๐๗๑.๘๘ ล้านบาท
|
.....