ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1638 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 32741 - 32760 จากข้อมูลทั้งหมด 123982 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
32741 | รัฐบาลสาธารณรัฐอินเดียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย | กต | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอนิล วาธวา (Mr. Anil Wadhwa) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายปินาก รัญชัน จักรวรรติ (Mr. Pinak Ranjan Chakravarty) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
32742 | รัฐบาลสาธารณรัฐบูรพาอุรุกวัยเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย | กต | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเคราร์โด ปราโต (Mr. Gerardo Prato) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐบูรพาอุรุกวัยประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สืบแทน นายปาโบล ซาเดร์ เอร์นันเดช (Mr. Pabio Sader Hernandez) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
32743 | รัฐบาลสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย | กต | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง พลเอก สุวันทะ แหนนะทิเค ศานตะ โกฏเฏโกทะ [General (Retd.) Suwanda Hennadige Shantha Kottegoda] ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน ศาสตราจารย์ชัยรัตนะ พันทะ ทิสานายกะ (Prof. Jayaratna Banda Disanayaka) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
32744 | รัฐบาลสาธารณรัฐมาลีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย | กต | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอุสมาเนอ ต็องดียา (Mr. Ousmane Tandia) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐมาลีประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงนิวเดลี สืบแทน นางกีเซ มาอีมูนา ดีอาล (Mrs. Guisse Maimouna Dial) ซึ่งมีถิ่นพำนัก ณ กรุงโตเกียว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
32745 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งนักการข่าว ระดับทรงคุณวุฒิ | นร | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ในสังกัดสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. นายสุรพล แสงหัตถวัฒนา ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านการต่อต้านการก่อการร้ายและ อาชญากรรมข้ามชาติ (นักการข่าวทรงคุณวุฒิ) ตำแหน่งเลขที่ ๕ กลุ่มงานที่ปรึกษา ตั้งแต่วันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๓ ๒. นายกัมพุช วุฒิวงศ์ ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบงานการข่าว (นักการข่าว ทรงคุณวุฒิ) ตำแหน่งเลขที่ ๖ กลุ่มงานที่ปรึกษา ตั้งแต่วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
|
|||||||||||||||||||||
32746 | ขอแก้ไขข้อคลาดเคลื่อนของแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2555 - 2558 | นร | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบการแก้ไขข้อความคลาดเคลื่อนของแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) ประธานคณะกรรมการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดินเสนอ ดังนี้
๑. ปรับแก้ไขในหน้าที่ ๓ หัวข้อที่ ๓. รายการค่าใช้จ่ายดำเนินการภาครัฐ รวมของปี ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘ ในตางราง แถวที่ ๒ สดมภ์ที่ ๖ โดยปรับจาก ๓,๘๗๘,๓๙๐ ล้านบาท เป็น ๓,๙๐๒,๕๙๐ ล้านบาท ๒. ปรับแก้ไขในหน้า ๓ หัวข้อที่ ๔. รวมความต้องการใช้เงินทั้งสิ้น (๒ + ๓) รวมของปี ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘ ในตาราง แถวที่ ๓ สดมภ์ที่ ๖ โดยปรับจาก ๑๕,๑๗๗,๗๖๗ ล้านบาท เป็น ๑๕,๒๐๑,๙๖๗ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
32747 | ร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมของรัฐมนตรีพลังงานอาเซียนอาเซียน+3 และเอเชียตะวันออกกับร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างอาเซียนกับทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) | พน | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมของรัฐมนตรีพลังงานอาเซียน อาเซียน+๓ และเอเชียตะวันออก รวมทั้งร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างอาเซียนกับทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency : IEA) ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถบังเกิดผลเป็นรูปธรรมสำหรับความร่วมมือด้านพลังงานในกรอบอาเซียน อาเซียน + ๓ และเอเชียตะวันออก ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ในวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๔ ณ กรุงดาร์เสรีเบกาวัน รัฐบรูไนดารุสซาลาม ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมของรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน จำนวน ๓ ฉบับ ได้แก่ ร่างแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ ๒๙ (Joint Ministerial Statement of the 29th AMEM) ร่างแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีอาเซียน + ๓ ด้านพลังงาน ครั้งที่ ๘ (Joint Ministerial Statement of 8th Amem+3) และร่างแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีเอเชียตะวันออกด้านพลังงาน ครั้งที่ ๕ (Joint Ministerial Staterment of the 5th EAS EMM) โดยร่างแถลงการณ์ทั้ง ๓ ฉบับ จะเป็นแถลงการณ์สรุปผลการประชุมของรัฐมนตรีพลังงานทั้ง ๓ คณะ ประกอบด้วยสาระหลัก คือ การผลักดันประเทศสมาชิกไปสู่เป้าหมายในการลดอัตราการใช้พลังงานในภูมิภาค และเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้า การเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันผ่านการเชื่อมโยงโครงข่ายด้านพลังงานในภูมิภาค การดำเนินงานร่วมกันเพื่อยกระดับการใช้พลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีพลังงานใหม่ การสนับสนุนให้มีการแบ่งปันและปรับปรุงข้อมูลการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงาน การตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานและการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ และแสดงความมุ่งมั่นที่จะทำกิจกรรมช่วยลดภาวะโลกร้อน การให้ความสำคัญต่อความหลากหลายของแหล่งพลังงาน การเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศสมาชิก ตลอดจนการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนและเศรษฐกิจการเติบโตแบบคาร์บอนต่ำ (low - carbon growth economy) ๒. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน) เป็นผู้ให้การรับรองในร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมทั้ง ๓ ฉบับ ร่วมกับรัฐมนตรีพลังงานของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน อาเซียน+๓ และเอเชียตะวันออก ๓. เห็นชอบให้กระทรวงพลังงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศสามารถพิจารณาปรับปรุงถ้อยคำในร่างแถลงการณ์ร่วมทั้ง ๓ ฉบับ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญของแถลงการณ์ร่วมได้ตามความเหมาะสมก่อนที่จะมีการรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมทั้ง ๓ ฉบับดังกล่าวในที่ประชุมได้ ๔. เห็นชอบในหลักการร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างอาเซียนกับทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ (Memorandum of Understanding on Energy Co - Operation between the Association of Southeast Asian Nations and the International Energy Agency) ระหว่างเลขาธิการอาเซียนกับผู้บริหารทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือทางด้านวิชาการและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องทางด้านพลังงาน รวมถึงนโยบายทางด้านพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการเตรียมความพร้อมต่อสถานการณ์ฉุกเฉินทางด้านพลังงาน |
|||||||||||||||||||||
32748 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ) | นร | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คงคณะกรรมการ ๒ คณะ เพื่อปฏิบัติงานต่อไป ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คณะกรรมการพิจารณาปัญหาเขตแดนของประเทศไทย โดยปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ จาก “ผู้อำนวยการสำนักความมั่นคงกิจการชายแดนและการป้องกันประเทศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการ” เป็น “ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์ความมั่นคงกิจการชายแดนและประเทศรอบบ้าน สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการ” ๒. คณะกรรมการนโยบายและอำนวยการแก้ไขปัญหาการก่อการร้าย โดยปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ ดังนี้ ๒.๑ เพิ่ม รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) เป็นรองประธานกรรมการ ๒.๒ ปรับปรุงจาก “ผู้อำนวยการสำนักความมั่นคงกิจการภายนอกประเทศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ (๒)” เป็น “ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์ความมั่นคงเกี่ยวกับภัยคุกคามข้ามชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ (๒)”
|
|||||||||||||||||||||
32749 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (สำนักงบประมาณ) | นร | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานระหว่างหน่วยราชการทางการเงินขึ้นใหม่ ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นประธานกรรมการ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ตามที่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินมอบหมาย) รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ (ตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณมอบหมาย) รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง (ตามที่อธิบดีกรมบัญชีกลางมอบหมาย) และผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการ โดยมีผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและระเบียบ สำนักงบประมาณ เป็นเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ในการวินิจฉัยและแก้ไขปัญหาในทางปฏิบัติต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเงินและการงบประมาณแผ่นดิน กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเงินและการงบประมาณแผ่นดิน รวมทั้งเสนอแนะเกี่ยวกับการแก้ไขปรับปรุงระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการเงินและการงบประมาณแก่หน่วยงานเจ้าของเรื่องหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
32750 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 | กค | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้สัญญาเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้สัญญาเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒ ในวงเงินไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลประเภทอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ อายุ ๑๐ ปี จำหน่ายให้กับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลไม่จำกัดประเภท เมื่อวันที่ ๑๑ - ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๔ โดยจดทะเบียนในวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๔ สามารถจำหน่ายได้ครบทั้งจำนวน ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท ๒. กระทรวงการคลังได้นำเงินที่ได้จากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลดังกล่าวไปปรับโครงสร้างหนี้สัญญาเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒ ประกอบด้วย ๒.๑ สัญญาเงินกู้สำหรับโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ครั้งที่ ๓ วงเงินที่ ๑ จำนวน ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท สัญญาลงวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๓ (ยอดเงินกู้คงค้างจำนวน ๓๗,๑๖๙,๗๑๐,๐๐๐ บาท) ชำระคืนต้นเงินกู้จำนวน ๓๗,๑๖๙,๗๑๐,๐๐๐ บาท คงเหลือเงินกู้คงค้างจำนวน ๐.๐๐ บาท ๒.๒ สัญญาเงินกู้สำหรับโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ครั้งที่ ๓ วงเงินที่ ๒ จำนวน ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท สัญญาลงวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๓ ชำระคืนต้นเงินกู้จำนวน ๒,๘๓๐,๒๙๐,๐๐๐ บาท คงเหลือเงินกู้คงค้างจำนวน ๓๗,๑๖๙,๗๑๐,๐๐๐ บาท
|
|||||||||||||||||||||
32751 | ขออนุมัติค่าธรรมเนียมสมาชิกสมาคมความร่วมมือแห่งภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย | กต | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศเบิกจ่ายเงินค่าธรรมเนียมสมาชิกสมาคมความร่วมมือแห่งภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย (Indian Ocean Rim Association for Regional Cooperation : IOR - ARC) จำนวน ๑๖,๕๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ จากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ งบเงินอุดหนุน ของกระทรวงการต่างประเทศ ๒. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงการต่างประเทศตั้งงบประมาณรองรับเพื่อชำระค่าธรรมเนียมสมาชิกสมาคมความร่วมมือแห่งภูมิภาคมหาสมุทรอินเดียในปีต่อ ๆ ไปทุกปี ตามอัตราที่สมาคมความร่วมมือแห่งภูมิภาคมหาสมุทรอินเดียกำหนด
|
|||||||||||||||||||||
32752 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี | กต | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. แต่งตั้งคณะกรรมการ จำนวน ๕๒ คณะ ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีชุดเดิมมีมติแต่งตั้งไว้แล้ว ๒. ยกเลิกคณะกรรมการ จำนวน ๔ คณะได้แก่ ๒.๑ คณะกรรมการให้ความเห็นชอบการให้ความคุ้มครองการลงทุนภายใต้ความตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่าง ๆ ๒.๒ คณะกรรมการว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย - แปซิฟิก (เอเปค) ๒.๓ คณะกรรมการนโยบายของไทยต่อองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) ๒.๔ คณะกรรมการเตรียมการประชุม WIPO Intergovernmental Committee on Intellectual Property and Genetic Resources, Traditional Knowledge and Folklore (IGC) ๓. ปรับรายละเอียดองค์ประกอบคณะกรรมการ จำนวน ๖ คณะ คือ ๓.๑ คณะกรรมการกฎหมายทะเลเขตทางทะเลของประเทศไทย ๓.๒ คณะกรรมการความร่วมมือไทย - ประชาคมยุโรป ๓.๓ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (ฝ่ายไทย) ๓.๔ คณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทย - กัมพูชา (ฝ่ายไทย) ๓.๕ คณะกรรมการอาเซียนแห่งชาติ ๓.๖ คณะกรรมการจัดทำหลักเขตแดนร่วมระหว่างไทย - มาเลเซีย ๔. โอนคณะกรรมการกำกับดูแลฝ่ายไทยของสถาบันฝึกอบรมระหว่างประเทศว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย (ILEA) ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๑ ให้จัดขึ้นตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ให้อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||
32753 | การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2554 | นร | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแนวทางในการจัดทำแผนปฏิบัติราชการตามมาตรา ๑๖ โดยให้ถือว่าคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นแผนปฏิบัติราชการประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ และให้นำไปประกอบการจัดทำเป็นแผนปฏิบัติราชการสี่ปีต่อไป ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ๒. ให้ส่วนราชการนำเป้าหมายและตัวชี้วัดในแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘ ไปประกอบการจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปี ช่วง พ.ศ. ๒๕๕๖ - ๒๕๕๘ และแผนปฏิบัติราชการสี่ปีของส่วนราชการ เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินสามารถบรรลุเป้าหมายนโยบายของรัฐบาลและแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติด้วย
|
|||||||||||||||||||||
32754 | การขออนุมัติคณะรัฐมนตรีในการใช้ข้อสัญญาอนุญาโตตุลาการในสัญญา First Amendment to the Dispute Resolution Agreement ระหว่างบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กับกลุ่มสายการบิน Star Alliance | คค | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (บกท.) ใช้ข้อสัญญาอนุญาโตตุลาการในสัญญา First Amendment to the Dispute Resolution Agreement กับกลุ่มสายการบิน Star Alliance เพื่อแก้ไขสัญญาฉบับเดิม คือ Dispute Resolution Agreement ที่ บกท. เคยลงนามไปแล้วอันเป็นสัญญาเกี่ยวกับการระงับข้อพิพาทอันเนื่องมาจากข้อพิพาทตามสัญญาที่เกี่ยวกับ Star Alliance โดยมีการปรับปรุงเพิ่มเติมรายละเอียดสัญญาเดิมบางประการ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับเรื่องการใช้วิธีการระงับข้อพิพาทโดยการอนุญาโตตุลาการไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อกำหนดแนวทาง/วิธีปฏิบัติของหน่วยงานฝ่ายไทยให้เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางการขอตั้งอนุญาโตตุลาการ แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
|||||||||||||||||||||
32755 | การแต่งตั้งผู้แทนรัฐบาลสำหรับการนำเสนอรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศไทยภายใต้กลไก Universal Periodic Review (UPR) ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ | กต | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบและรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบแต่งตั้งให้นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการนำเสนอรายงานทบทวนสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยภายใต้กลไก Universal Periodic Review (UPR) ในฐานะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลไทย ๑.๒ รับทราบเกี่ยวกับการเตรียมการนำเสนอรายงานทั้งในส่วนของถ้อยแถลงกล่าวนำการเสนอรายงาน UPR เกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของไทย บริบททางการเมืองในปัจจุบันที่เกี่ยวโยงกับการส่งเสริมและการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเทศ และประเด็นสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับรายงาน UPR ของไทย การจัดทำคำชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ ที่คาดว่าจะถูกซักถามจากที่ประชุม การกำหนดท่าทีเบื้องต้นในการรับหรือไม่รับข้อเสนอแนะใด ๆ ที่เกิดจากการประชุม และการพิจารณาเบื้องต้นเกี่ยวกับการให้คำมั่นโดยสมัครใจในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยการเตรียมการดังกล่าวจะใช้บริบททางการเมืองและนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบันเป็นพื้นฐานสำคัญในการดำเนินการ โดยมีคณะกรรมการกำกับดูแลการจัดทำรายงานประเทศภายใต้กลไก UPR กลั่นกรอง และนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้ความเห็นชอบเพื่อคณะผู้แทนไทยดำเนินการต่อไป ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการพิจารณาใช้ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ โดยเฉพาะยุทธศาสตร์การสร้างความเป็นธรรมในสังคม ในการเตรียมการควบคู่ไปด้วย ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
32756 | มอบหมายรัฐมนตรีรับผิดชอบเร่งรัด กำกับ ติดตามการกู้วิกฤตจากภัยธรรมชาติเพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน | นร | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอเรื่อง การมอบหมายรัฐมนตรีรับผิดชอบเร่งรัด กำกับ ติดตามการกู้วิกฤตจากภัยธรรมชาติ เพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๕๗/๒๕๕๔ เรื่อง มอบหมายรัฐมนตรีรับผิดชอบเร่งรัด กำกับ ติดตามการกู้วิกฤตจากภัยธรรมชาติเพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นต้นไป ดังนี้
๑. ให้รัฐมนตรีรับผิดชอบเร่งรัด กำกับ ติดตามการกู้วิกฤตจากภัยธรรมชาติเพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน โดยแบ่งเป็นพื้นที่รายจังหวัด ๒. ให้ผู้รับผิดชอบตามข้อ ๑ มีอำนาจหน้าที่ในการเร่งรัด กำกับ ติดตาม สนับสนุน ประสานงาน การให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วนในเขตจังหวัดพื้นที่ที่ได้รับมอบหมาย รวมทั้งการประสานงานกับภาคเอกชนและผู้แทนประชาชนในพื้นที่ เพื่อเสริมการทำงานของคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) และผู้ว่าราชการจังหวัด โดยให้ผู้รับผิดชอบรายงานนายกรัฐมนตรีทราบโดยตรง และหากมีเรื่องสำคัญหรือประเด็นที่คาบเกี่ยวหลายหน่วยงาน หรือส่วนราชการ หรือหลายจังหวัด ให้นำหารือรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) ประธานกรรมการ ศอส. เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีวินิจฉัยสั่งการ ๓. ให้รองนายกรัฐมนตรีตามข้อ ๒ เป็นผู้มีอำนาจเปลี่ยนแปลงเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของรัฐมนตรีได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ภัยพิบัติจากธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไป ๔. ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการทำงานของรัฐมนตรีผู้ได้รับมอบหมาย เสนอข้อมูล ประสานงาน อำนวยความสะดวก และให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงานตามคำสั่งนี้ด้วย โดยในส่วนสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีให้รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (พลตำรวจตรี ธวัช บุญเฟื่อง) เป็นผู้ประสานงาน ติดตามการรายงานต่อนายกรัฐมนตรี
|
|||||||||||||||||||||
32757 | รายงานความก้าวหน้าในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยฯ ของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติและรายงานสภาวะอากาศ ของกรมอุตุนิยมวิทยา | ทก | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยฯ ของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และรายงานสภาวะอากาศในรอบสัปดาห์ และการพยากรณ์อากาศใน ๗ วันข้างหน้า ของกรมอุตุนิยมวิทยา ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ความก้าวหน้าในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยฯ ของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ระหว่างวันที่ ๖ - ๑๒ กันยายน ๒๕๕๔ มีดังนี้ ๑.๑ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้เตรียมระบบสื่อสารสำรองร่วมกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ได้แก่ ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม (รถถ่ายทอดสัญญาณเคลื่อนที่) ระบบ Internet และโทรศัพท์ทางสาย และระบบ E - Conference รวมทั้งได้เตรียมเครือข่ายการสื่อสารทางเสียง และ E - Radio ระหว่างนักวิทยุสมัครเล่นและผู้มีจิตอาสากับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติเอาไว้อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับประชาชนทั่วไปได้เปิดให้ติดต่อทางโทรศัพท์ฉุกเฉิน หมายเลข ๑๙๒ ตลอดเวลา มีประชาชนบางรายได้ใช้บริการนี้เพื่อแจ้งขอความช่วยเหลือ ซึ่งศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้แจ้งต่อให้หน่วยงานในพื้นที่ทราบดำเนินการต่อไป ๑.๒ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้แจ้งอนุญาตให้ท้องถิ่นหรือท้องที่ผู้ดูแลหอกระจายข่าวได้ใช้หอกระจายข่าวเตือนภัยประชาชนในชุมชน เมื่อภัยปรากฏแน่ชัดแล้ว จึงแจ้งศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติทราบ ๒. กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาวะอากาศในช่วง ๗ วันที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ ๕ - ๑๑ กันยายน ๒๕๕๔) และการคาดหมายลักษณะอากาศในช่วง ๗ วันข้างหน้า (ระหว่างวันที่ ๑๓ - ๑๙ กันยายน ๒๕๕๔) ดังนี้ ๒.๑ สภาวะอากาศในช่วง ๗ วันที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ ๕ - ๑๑ กันยายน ๒๕๕๔) ร่องมรสุมพาดผ่านกำลังปานกลางผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ จากนั้นได้มีกำลังแรงขึ้นและเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงตลอดสัปดาห์ ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนาแน่นตลอดสัปดาห์ ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นในระยะปลายสัปดาห์ ๒.๒ การคาดหมายลักษณะอากาศในช่วง ๗ วันข้างหน้า (ระหว่างวันที่ ๑๓ - ๑๙ กันยายน ๒๕๕๔) โดยในช่วงวันที่ ๑๒ - ๑๓ กันยายน ๒๕๕๔ ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย เริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศเริ่มมีปริมาณฝนลดลง ส่วนช่วงวันที่ ๑๔ - ๑๖ กันยายน ๒๕๕๔ ร่องมรสุมมีกำลังอ่อนและเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์กระจาย ต่อจากนั้นช่วงวันที่ ๑๗ - ๑๘ กันยายน ๒๕๕๔ ร่องมรสุมจะเริ่มมีกำลังแรงขึ้น
|
|||||||||||||||||||||
32758 | จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดชัยนาท ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ด้านค่าวัสดุซ่อมแซมที่อยู่อาศัยประจำตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม | มท | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่ยังไม่ได้รับงบประมาณช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน ๔๗,๐๗๘ ครัวเรือน กรอบวงเงินไม่เกิน ๒๖๑,๖๔๕,๓๑๔.๘๓ บาท และจังหวัดชัยนาท จำนวน ๖,๐๐๙ ครัวเรือน กรอบวงเงินไม่เกิน ๕๔,๒๒๗,๐๘๑ บาท รวมกรอบวงเงินไม่เกิน ๓๑๕,๘๗๒,๓๙๕.๘๓ บาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดประสานรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลต่าง ๆ กับสำนักงบประมาณเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยเร่งด่วนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
32759 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีอุทกภัยและดินโคลนถล่ม) ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ | มท | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมตรีมีมติเห็นชอบในหลักการในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีอุทกภัย) ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท ตามข้อมูลครัวเรือนผู้ประสบภัยเบื้องต้นของจังหวัดอุตรดิตถ์ในกรอบครัวเรือนจำนวน ๗๐๕ ครัวเรือน กรอบวงเงินไม่เกิน ๓,๕๒๕,๐๐๐ บาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ทั้งนี้ ให้จังหวัดอุตรดิตถ์ตรวจสอบความถูกต้องตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัยที่มีบ้านเรือนอยู่อาศัยประจำใน ๓ กรณีก่อนการจ่ายเงินช่วยเหลือ โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรเงินงบประมาณตรงให้ธนาคารออมสิน เพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
32760 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) จังหวัดนครศรีธรรมราช | มท | 13/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท ของจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน ๑,๕๒๓ ครัวเรือน กรอบวงเงินไม่เกิน ๗,๖๑๕,๐๐๐ บาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดประสานรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลต่าง ๆ กับสำนักงบประมาณเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติโดยเร่งด่วนต่อไป
|
.....