ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1632 จากทั้งหมด 6224 หน้า แสดงรายการที่ 32621 - 32640 จากข้อมูลทั้งหมด 124474 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 32621 | การแต่งตั้งกงสุลสาธารณรัฐอินเดียประจำจังหวัดเชียงใหม่ | กต | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายธีเรนทร สิงห คารพยาล (Mr. Dhirendra Singh Garbyal) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลสาธารณรัฐอินเดียประจำจังหวัดเชียงใหม่ สืบแทนนายอรพินท์ กุมาร (Mr. Arvind Kumar) ซึ่งหมดวาระประจำการ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 32622 | การขออนุมัติจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์อาเซียน - เกาหลี (ASEAN-Korea Centre) | กต | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศเสนอชื่อข้าราชการของกระทรวงการต่างประเทศไปดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการหน่วยสารสนเทศและข้อมูล (Deputy Head of Information and Data Unit) ศูนย์อาเซียน - เกาหลี (ASEAN - Korea Centre) ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๗ วาระ ๓ ปี เนื่องจากลักษณะงานที่เน้นการประสานงานกับฝ่ายสาธารณรัฐเกาหลีและประเทศสมาชิกอาเซียน เจ้าหน้าที่จึงควรมีความเชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศและเคยมีประสบการณ์ออกประจำการในต่างประเทศ ๑.๒. อนุมัติให้การไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์อาเซียน - เกาหลี เป็นการไปปฏิบัติราชการโดยไม่ถือเป็นการลาไปปฏิบัติหน้าที่ในองค์การระหว่างประเทศ ๑.๓ อนุมัติให้ข้าราชการที่ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์อาเซียน - เกาหลี สามารถได้รับสิทธิในการเบิกค่าใช้จ่ายเทียบเท่ากับข้าราชการในระดับเดียวกันที่มีตำแหน่งหน้าที่ประจำอยู่ในสาธารณรัฐเกาหลี ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็น ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||
| 32623 | รัฐบาลสาธารณรัฐรวันดาเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย | กต | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายชาลส์ มูริกันเด (Mr. Charles Murigande) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐรวันดาประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงโตเกียว สืบแทนนายเบ็น รูกันกาซี (Mr. Ben Rugangazi) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 32624 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดหนองเบน ตำบลสายลำโพง อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... | พศ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดหนองเบน ตำบลสายลำโพง อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ โอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดหนองเบน ตำบลสายลำโพง อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ ให้แก่กรมทางหลวง เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๑๑๙ สายหนองบัว - ท่าตะโก ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 32625 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ วัดตะพงนอก ตำบลตะพง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... | พศ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ วัดตะพงนอก ตำบลตะพง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ โอนกรรมสิทธิ์ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ วัดตะพงนอก ตำบลตะพง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้แก่กรมทางหลวง เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓ สายกรุงเทพมหานคร - ตราด ที่บ้านตะพงนอก ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 32626 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่วัด วัดบ้านบัวเทิง ตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... | พศ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่วัด วัดบ้านบัวเทิง ตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ โอนที่วัด วัดบ้านบัวเทิง ตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี ให้แก่กรมทางหลวง เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๔ สายสีคิ้ว - อุบลราชธานี ตอนเลี่ยงเมืองอุบลราชธานีด้านตะวันออก ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 32627 | การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (มติ 30 ส.ค. 54) | พณ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๔ ซึ่งมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ประสานขอความร่วมมือผู้ประกอบการ รวมทั้งพิจารณาดำเนินการโดยใช้กลไกที่มีอยู่ เพื่อให้มีการพิจารณาปรับลดราคาสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้ปรับลดลง เพื่อช่วยบรรเทาภาระของประชาชนผู้บริโภค ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
๑. กรอบการดูแลราคาสินค้า ประกอบด้วย ๑.๑ การกำหนดรายการสินค้าและบริการควบคุม ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๔๑ รายการ แยกเป็นสินค้าควบคุม จำนวน ๓๙ รายการ และบริการควบคุม จำนวน ๒ รายการ พร้อมทั้งกำหนดมาตรการที่ใช้บังคับกับสินค้าและบริการควบคุม จำนวน ๔๑ รายการ และรายการสินค้าที่ติดตามดูแล จำนวน ๒๐๕ รายการ โดยมีการติดตาม ตรวจสอบราคาและสถานการณ์ของสินค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการคุ้มครองประชาชนผู้บริโภค และมิให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาเอาเปรียบผู้บริโภค ๑.๒ การกำหนดมาตรการที่จะใช้บังคับกับสินค้าและบริการควบคุม ซึ่งจะมีการพิจารณาทบทวนทุกปี เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ได้แก่ การกำหนดราคาจำหน่ายสูงสุด การห้ามมิให้มีการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงเกินสมควร การให้แจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ ต้นทุน ค่าใช้จ่าย และการห้ามมิให้มีการกักตุนสินค้าควบคุม โดยไม่นำสินค้าออกจำหน่ายตามปกติ หรือปฏิเสธการจำหน่ายโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร นอกจากนี้ ได้มีการกำกับดูแลเครื่องมือชั่งตวงวัดที่ใช้ในทางพาณิชยกิจ เช่น เครื่องชั่งรถยนต์ ใช้สำหรับการชั่งสินค้าเกษตร มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องวัดความชื้นข้าว รวมทั้งการดูแลปริมาณการบรรจุและวิธีการแสดงปริมาณการบรรจุสินค้าที่หีบห่อ รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการเป็นหลักในการดูแลราคาสินค้า สำหรับสินค้าที่อยู่ในข่ายติดตามดูแล ๒๐๕ รายการ โดยให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ผลิต/ผู้นำเข้า แจ้งการเปลี่ยนแปลงราคาจำหน่าย โดยเฉพาะการขึ้นราคาสินค้าให้ทราบล่วงหน้าก่อนดำเนินการ และการปรับเปลี่ยนราคาจะพิจารณาตามภาระต้นทุนในส่วนของวัตถุดิบที่สูงขึ้นเท่านั้น และกรณีราคาวัตถุดิบลดลงก็ให้ปรับลดราคาลงด้วย ๒. การปรับลดราคาสินค้าเพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ได้มีการจัดประชุมหารือกับผู้ประกอบการ เมื่อวันที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๔ มีผู้ประกอบการยินดีให้ความร่วมมือปรับลดราคาสินค้าลง (แม้ว่าต้นทุนจะลดลงเล็กน้อย) จำนวน ๕ รายการ ร้อยละ ๐.๕๕ - ๑๓.๘๘ ได้แก่ ปูนซีเมนต์ กระเบื้องมุงหลังคา ปุ๋ยเคมี เครื่องปั้มน้ำ และแป้งสาลี สำหรับสินค้าในหมวดอื่น ๆ ตลาดมีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม หมวดของใช้ประจำวัน ซึ่งเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ได้แก่ นมผง นมสด นมเปรี้ยวพร้อมดื่ม นมถั่วเหลืองพร้อมดื่ม นมข้นหวาน กาแฟผงสำเร็จูป ครีมเทียม น้ำผลไม้สำเร็จรูปพร้อมดื่มบรรจุภาชนะผนึก โฟมล้างหน้า แชมพู ครีมนวดผม ยาสีฟัน เป็นต้น ผู้ประกอบการจะตรึงราคาไว้จนถึงสิ้นปี พ.ศ. ๒๕๕๔ สำหรับสินค้าเกษตร ได้มีการกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาเนื้อไก่ที่มีการปรับตัวสูงขึ้น โดยออกประกาศเพื่อกำหนดราคาขายปลีกแนะนำเนื้อไก่ลดลง ตั้งแต่วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๔ รวมทั้งกำหนดมาตรการควบคุมการส่งออกสุกรมีชีวิต การขนย้าย การแจ้งปริมาณสถานที่เก็บสุกร และกำหนดราคาจำหน่าย โดยออกประกาศเพื่อกำหนดราคาจำหน่ายปลีกแนะนำเนื้อหมูลดลง ตั้งแต่วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๔ ๓. มาตรการเสริม ดำเนินการภายใต้ โครงการธงฟ้า...ราคาประหยัด ได้ดำเนินการโดยขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการรายใหญ่จัดจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ภายใต้ชื่อ “งานธงฟ้า...ราคาประหยัด” จำหน่ายสินค้าในราคาต่ำกว่าราคาตลาดทั่วไปร้อยละ ๒๐ - ๔๐ ขอความร่วมมือศูนย์อาหารในห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงานเอกชน ศูนย์ราชการ ร้านอาหารทั่วไป จัดเมนูอาหารปรุงสำเร็จอย่างน้อย ๑ รายการ จำหน่ายราคาจาน/ชามละ ๒๕ - ๓๐ บาท และร่วมกับร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ จัดโครงการ “ธงฟ้าอิ่มสะดวก ๒๙ บาท” จัดกิจกรรมตรึงราคาอาหารปรุงสำเร็จอย่างน้อย ๑๒ รายการ ที่จำหน่ายในร้าน ในราคา ๒๙ บาท ไปจนถึงสิ้นปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
| 32628 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 | กค | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ จำนวน ๔๓,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๑ วงเงิน ๔๓,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๕ ต่อปี ครบกำหนดวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๘ ๒. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๑ เสร็จแล้วเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๔ ๓. กระทรวงการคลังได้แจ้งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการนำประกาศกระทรวงการคลัง จำนวน ๓ เรื่อง ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ดังนี้ ๓.๑ ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๑ ๓.๒ ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง แต่งตั้งพนักงานธนาคารแห่งประเทศไทยลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๑ ๓.๓ ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๑
|
||||||||||||||||||||||||
| 32629 | การเข้าร่วมงาน Universal Exhibition Milano 2015 | พณ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้ประเทศไทยเข้าร่วมงาน Universal Exhibition Milano 2015 ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีอิตาลี ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑ พฤษภาคม ถึง ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ ณ เมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบการเข้าร่วมงานดังกล่าว รวมทั้งเข้าร่วมการประชุม “First International Participants Meeting” ระหว่างวันที่ ๒๕ - ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๔ ณ เมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 32630 | การขออนุมัติเปิดสถานกงสุลประจำสาธารณรัฐแอลเบเนีย และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำสาธารณรัฐแอลเบเนีย | กต | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเปิดสถานกงสุลประจำสาธารณรัฐแอลเบเนีย และแต่งตั้งนายซามีร์ มาเน (Mr. Samir Mane) เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำสาธารณรัฐแอลเบเนีย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 32631 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงคมนาคม) | คค | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายเหม โง้วศิริ ให้ดำรงตำแหน่งวิศวกรใหญ่ ที่ปรึกษาวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านวางแผนและวางโครงการก่อสร้าง) วิศวกรโยธาทรงคุณวุฒิ กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ตั้งแต่วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 32632 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) | กษ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสรายุทธ์ รัตนนคร ให้ดำรงตำแหน่งวิศวกรใหญ่ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านจัดสรรน้ำและบำรุงรักษา) วิศวกรชลประทานทรงคุณวุฒิ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 32633 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง ยุทธศาสตร์การแข่งขันกล้วยไม้ไทยในตลาดโลก พ.ศ. 2554 - 2559 | กษ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การแข่งขันกล้วยไม้ไทยในตลาดโลก พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. แผนงานเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้านการตลาดส่งออก ได้แก่ การขยายช่องทางการตลาด โดยศึกษาวิเคราะห์ตลาดและแนวทางการขยายตลาดใหม่ ๕ ตลาด คือ ประเทศไต้หวัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิหร่าน อินเดีย และแคนาดา และศึกษาวิเคราะห์เพื่อแก้ไขปัญหาที่มีต่อการส่งออกในตลาดญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน อิตาลี และเนเธอร์แลนด์ รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการจัดตั้งศูนย์กลางกล้วยไม้แบบครบวงจรของสหกรณ์ผู้ประกอบการกล้วยไม้ไทย และการรณรงค์ประชาสัมพันธ์กล้วยไม้ อาทิ เข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ จัดแสดงศักยภาพกล้วยไม้ไทยในการแสดงกล้วยไม้ระดับนานาชาติ ณ ประเทศไต้หวัน จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ภาษาอังกฤษ และจัดทำหมู่บ้านกล้วยไม้ไทยเพื่อการอนุรักษ์และการท่องเที่ยว ๒. แผนงานส่งเสริมการผลิตกล้วยไม้คุณภาพ ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการผลิตกล้วยไม้ให้มีความหลากหลาย โดยดำเนินการดูแลรักษา ขยาย และให้บริการเกสรจากต้นพ่อแม่พันธุ์เพื่อใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ใหม่ และจัดอบรมการพัฒนาพันธุ์ และโครงการส่งเสริมการผลิตกล้วยไม้ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานการส่งออก โดยจัดอบรมที่ปรึกษาการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืช (GAP) แก่เจ้าหน้าที่ และอบรมการส่งเสริมการจัดทำสวน GAP ของเกษตรกร ให้การรับรองสวน GAP แก่เกษตรกร และจัดทำโครงการทดสอบมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับกล้วยไม้ตัดดอก และการปฏิบัติที่ดีสำหรับโรงคัดบรรจุดอกกล้วยไม้ ๓. แผนงานพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรม โดยจัดทำโครงการส่งเสริมงานวิจัยเชิงบูรณาการระหว่างเกษตรกร ผู้ประกอบการ และนักวิจัย ๔. แผนงานพัฒนาองค์กร ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการสร้างคลัสเตอร์กล้วยไม้ที่เข้มแข็ง โดยจัดประชุมส่งเสริมการสร้างคลัสเตอร์กล้วยไม้ที่เข้มแข็งสำหรับเจ้าหน้าที่ จัดประชุมเครือข่ายคลัสเตอร์กล้วยไม้ และจัดประชุมเชื่อมโยงเครือข่ายสำหรับเกษตรกร และโครงการสร้างศูนย์กลางการให้บริการกล้วยไม้แบบเบ็ดเสร็จ โดยการปรับปรุงระบบเครือข่ายข้อมูลกล้วยไม้ จัดตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีและฝึกอาชีพกล้วยไม้ และจัดตั้งศูนย์บริการด้านการตลาดกล้วยไม้ ๕. แผนงานส่งเสริมการใช้และสนับสนุนการส่งออก ได้ดำเนินการจัดทำสวนกล้วยไม้ประดับตกแต่ง ณ สนามบินสุวรรณภูมิ และจัดงานกล้วยไม้บานที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ตลอดเดือนกันยายนของทุกปี) และจัดทำสวนกล้วยไม้ในสวนสาธารณะของกรุงเทพมหานครเป็น Orchid Park ณ สวนลุมพินี และใช้กล้วยไม้ประดับตกแต่งทั่วไป ณ สวนสันติภาพ ๖. การบริหารจัดการโครงการเพื่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การแข่งขันกล้วยไม้ไทยในตลาดโลก พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๙ ได้จัดประชุมคณะกรรมการกล้วยไม้แห่งชาติ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ และที่ปรึกษาคณะทำงานการเตรียมความพร้อมและการประสานงาน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ |
||||||||||||||||||||||||
| 32634 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลท่าเคย ตำบลคลองไทร อำเภอท่าฉาง ตำบลลีเล็ด ตำบลศรีวิชัย ตำบลมะลวน ตำบลหัวเตย ตำบลท่าข้าม ตำบลพุนพิน ตำบลน้ำรอบ ตำบลหนองไทร ตำบลบางงอน อำเภอพุนพิน และตำบลท่ากระดาน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | กษ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลท่าเคย ตำบลคลองไทร อำเภอท่าฉาง ตำบลลีเล็ด ตำบลศรีวิชัย ตำบลมะลวน ตำบลหัวเตย ตำบลท่าข้าม ตำบลพุนพิน ตำบลน้ำรอบ ตำบลหนองไทร ตำบลบางงอน อำเภอพุนพิน และตำบลท่ากระดาน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลท่าเคย ตำบลคลองไทร อำเภอท่าฉาง ตำบลลีเล็ด ตำบลศรีวิชัย ตำบลมะลวน ตำบลหัวเตย ตำบลท่าข้าม ตำบลพุนพิน ตำบลน้ำรอบ ตำบลหนองไทร ตำบลบางงอน อำเภอพุนพิน และตำบลท่ากระดาน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทนเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นได้ตามแผนงานที่กำหนดไว้ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 32635 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหาดพันไกร อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหาดพันไกร อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลหาดพันไกร อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร เนื้อที่ประมาณ ๑๑๘ ไร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 32636 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี และตำบลสระลงเรือ ตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา ตำบลรางหวาย ตำบลดอนตาเพชร ตำบลพนมทวน ตำบลหนองโรง ตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | กษ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี และตำบลสระลงเรือ ตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา ตำบลรางหวาย ตำบลดอนตาเพชร ตำบลพนมทวน ตำบลหนองโรง ตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี และตำบลสระลงเรือ ตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา ตำบลรางหวาย ตำบลดอนตาเพชร ตำบลพนมทวน ตำบลหนองโรง ตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทนเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นได้ตามแผนงานที่กำหนดไว้ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 32637 | ร่างพระราชบัญญัติเหรียญพิทักษ์เสรีชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กห | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติเหรียญพิทักษ์เสรีชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ในการพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ในการพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน เพื่อให้ครอบคลุมถึงผู้ที่ทางราชการมีคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงภายใน การรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ การปฏิบัติการเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติในต่างประเทศ หรือปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ อันเป็นการสนับสนุนการรักษาความมั่นคงของประเทศ ๒. แก้ไขบทบัญญัติเกี่ยวกับการพระราชทานเครื่องหมายของเหรียญพิทักษ์เสรีชน โดยกำหนดให้ในกรณีที่ผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ ๑ ปฏิบัติการถึงขั้นที่จะได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ ๑ อีก ก็จะได้รับพระราชทานเครื่องหมายเป็นรูปช่อชัยพฤกษ์ช่อเดียวติดเพิ่มกลางแพรแถบในทางดิ่งกับช่อชัยพฤกษ์เดิมทุกครั้ง ๓. แก้ไขหลักเกณฑ์ในการพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๓ และมาตรา ๔ และกำหนดให้การขอพระราชทานเหรียญการประดับและกรณีให้ประดับเหรียญ บัตรประจำตัว และการเรียกเหรียญและบัตรประจำตัวคืน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ๔. กำหนดบทเฉพาะกาลรองรับให้บุคคลตามมาตรา ๓ วรรคสอง ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่พระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. ๒๔๙๕ พ.ศ. ๒๕๔๓ มีผลใช้บังคับ จนถึงก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ จะมีสิทธิได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนตามพระราชบัญญัตินี้ในเหตุการณ์ใด พื้นที่ใด ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี |
||||||||||||||||||||||||
| 32638 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการย้ายกองคลังยุทโธปกรณ์สรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก | กห | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้กองทัพบกก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการย้ายกองคลังยุทโธปกรณ์สรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก ซึ่งเป็นการดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงาน อาคารคลังเก็บสิ่งอุปกรณ์ อาคารโรงซ่อม อาคารโรงรับ - จ่าย บ้านพักข้าราชการกองคลังยุทโธปกรณ์สรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก พร้อมระบบสาธารณูปโภค งานระบบรักษาความปลอดภัยด้วยอิเล็กทรอนิกส์ งานจัดหาสิ่งอุปกรณ์ และงานเคลื่อนย้าย จากเดิมมีที่ตั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ (ถนนพระราม ๕ เขตดุสิต) เป็นที่ตั้งปกติถาวรบริเวณอำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี เพื่อความเหมาะสมในการปฏิบัติสนับสนุนงานส่งกำลังสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๒ ถึงประเภท ๔ สายสรรพาวุธ ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ในกองทัพบกทั้ง ๔ กองทัพภาค รวมทั้งหน่วยขึ้นตรงกับกองทัพบกที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ๒. ให้กองทัพบกดำเนินงานก่อหนี้ผูกพันงานอาคารและสาธารณูปโภค ในวงเงินทั้งสิ้น ๒,๙๕๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นราคาตามผลการประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ จนได้ข้อยุติแล้ว โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามโครงการย้ายกองคลังยุทโธปกรณ์สรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก เข้าที่ตั้งปกติถาวรจังหวัดสระบุรี ซึ่งสำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายและกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว จำนวน ๕๔๐,๑๔๕,๕๐๐ บาท ส่วนงบประมาณที่ยังขาดอยู่อีกจำนวน ๒,๔๑๘,๘๕๔,๕๐๐ บาท ให้กองทัพบกเสนอคำขอตั้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ - พ.ศ. ๒๕๕๗ ให้ครบค่างานตามความจำเป็นของการปฏิบัติงานต่อไป สำหรับงานส่วนที่ยังไม่ทราบผลการจัดซื้อจัดจ้าง จำนวน ๓ รายการ ประกอบด้วยงานระบบรักษาความปลอดภัยด้วยอิเล็กทรอนิกส์ งานจัดหาสิ่งอุปกรณ์อื่น ๆ และงานเคลื่อนย้ายหน่วย ให้กองทัพบกดำเนินการภายในวงเงิน ๖๐๘,๐๔๘,๙๔๒ บาท และเมื่อได้ดำเนินการตามวิธีการจัดหาจนได้ผลเป็นข้อยุติแล้ว ก็ให้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ และเสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||
| 32639 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงการคลัง กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน | นร | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา ของกระทรวงการคลัง กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. แต่งตั้งนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา ของกระทรวงการคลัง ๒. แต่งตั้งศาสตราจารย์อภินันท์ โปษยานนท์ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา ของกระทรวงวัฒนธรรม ๓. แต่งตั้งนางสุชาดา รังสินันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน |
||||||||||||||||||||||||
| 32640 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการจัดหารถยนต์บรรทุกขนาดเบา | กห | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กองทัพบกก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการจัดหารถยนต์บรรทุกขนาดเบา (รถยนต์บรรทุกขนาดเบา ๔ x ๔) จำนวน ๙๔๑ คัน วงเงินทั้งสิ้น ๙๕๐,๐๓๑,๖๐๐ บาท ระยะเวลาดำเนินการ ๔ ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ๒. ให้กระทรวงกลาโหมเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามโครงการจัดหารถยนต์บรรทุกขนาดเบา (ทบ. ๑๔๑๖) ซึ่งสำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณรายจ่าย และกองทัพบกได้รับการกันเงินงบประมาณไว้เบิกเหลื่อมปีจากกระทรวงการคลังไว้แล้ว จำนวน ๒๔๔,๒๐๐,๐๐๐ บาท และผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๖ - พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๗๐๕,๘๓๑,๖๐๐ บาท ทั้งนี้ เมื่อมีการปรับปรุงคุณลักษณะเฉพาะของรถยนต์บรรทุกขนาดเบาเพื่อเพิ่มสมรรถนะและประสิทธิภาพในการปฏิบัติภารกิจแล้ว เห็นควรที่กองทัพบกจะพิจารณาทบทวนจำนวนรถยนต์ดังกล่าวให้มีจำนวนเท่าที่จำเป็นในการปฏิบัติภารกิจด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการจัดหารถยนต์บรรทุกขนาดเบาให้ถือปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ และเห็นควรเพิ่มศักยภาพในการใช้งานของรถยนต์ดังกล่าวให้สนับสนุนภารกิจที่สำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยได้อย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
.....
