ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1632 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 32621 - 32640 จากข้อมูลทั้งหมด 123982 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
32621 | การแก้ไขปัญหาสถานการณ์อุทกภัยและการเยียวยาให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน | นร | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแก้ไขปัญหาสถานการณ์อุทกภัยและการเยียวยาให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยมอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ให้รัฐมนตรีทุกท่านที่ได้ลงพื้นที่ไปกำกับ ติดตาม ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดต่าง ๆ บูรณาการการดำเนินงานกับคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานกรรมการ และให้ส่งรายงานผลการดำเนินการให้ ศอส. เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาสถานการณ์อุทกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและครอบคลุมทุกพื้นที่ ๒. ให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเตรียมการการแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือเยียวยา ฟื้นฟูสิ่งต่าง ๆ ภายหลังสถานการณ์อุทกภัย เช่น การฟื้นฟูสภาพจิตใจของประชาชน ทรัพย์สินต่าง ๆ พื้นที่การเกษตร เส้นทางคมนาคม หรือสิ่งสาธารณประโยชน์ โดยให้จัดเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ และเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันต่อสถานการณ์และอย่างทั่วถึง ๓. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรับไปดำเนินการขอความร่วมมือโรงเรียนต่าง ๆ ให้จัดสรรครู อาจารย์ไปสอนเด็กนักเรียนในชุมชนที่ประสบอุทกภัยที่ต้องหยุดการเรียนการสอน โดยเฉพาะเด็กที่ต้องเตรียมตัวเข้าทดสอบความถนัดทั่วไป (GAT) และความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ (PAT) ที่ได้เลื่อนการสอบออกไป ๔. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานรับไปดำเนินการ ดูแล และให้ความช่วยเหลือเรื่องการสร้างอาชีพแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพื้นที่การเกษตรเสียหายหรือไม่สามารถประกอบอาชีพ หรือไม่มีงานทำ เพื่อให้ประชาชนมีอาชีพหาเงินทุนตั้งตัวได้อย่างมั่นคง ๕. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรับไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเจ็บป่วยจากโรคที่เกิดจากน้ำท่วมขังและเน่าเสีย และให้ประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจตรา กำกับ และแก้ไขให้มีการระบายน้ำที่ท่วมขังให้ไหลเวียนตลอดเวลาในทุกพื้นที่อย่างจริงจังต่อไปด้วย ๖. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการน้ำในภาพรวมและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยง เช่น การตรวจหรือเฝ้าระวังเนบริเวณที่ตั้งและปริมาณน้ำของเขื่อนต่าง ๆ การดูแลการเปิด - ปิดประตูระบายน้ำ คันกั้นน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาการระบายน้ำ การผันน้ำได้อย่างเหมาะสม ทันการณ์ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ทั้งนี้ ให้มีการประชาสัมพันธ์ ชี้แจง ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ การป้องกัน และรักษาพื้นที่สำคัญให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าใจโดยทั่วกันด้วย
|
|||||||||||||||||||||
32622 | การกระตุ้นและขับเคลื่อนภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ | นร | 27/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ให้รัฐมนตรีทุกท่านไปเร่งรัดดำเนินการตามแนวนโยบายของรัฐบาลที่จะช่วยสนับสนุนการกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นลำดับแรก โดยให้นำนโยบายและมาตรการดังต่อไปนี้ ไปประกอบการดำเนินการด้วย ๑.๑ การจัดตั้งกองทุนตั้งตัวได้ เพื่อสนับสนุนการสร้างผู้ประกอบการรายย่อยหรือช่วยเหลือเศรษฐกิจครัวเรือนของประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ โดยการให้กู้ยืมเงินเพื่อการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ซึ่งจะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ๑.๒ มาตรการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้หมู่บ้านบริหารจัดการกองทุนเพื่อการพัฒนาชุมชนด้วยตนเองและช่วยเสริมสร้างศักยภาพของประชาชนให้มีความพร้อมในการดำรงชีวิตและมีอาชีพที่ยั่งยืน ๒. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรับไปพิจารณาร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและฐานะทางการเงินของแต่ละประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถกำหนดมาตรการรองรับผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่จะเกิดขึ้นได้อย่างทันต่อสถานการณ์ และเร่งดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชน นักลงทุน นักธุรกิจ ให้มีความมั่นใจที่จะเพิ่มการลงทุน และการบริโภค รวมทั้งการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศมากยิ่งขึ้น
|
|||||||||||||||||||||
32623 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง (กระทรวงมหาดไทย) | มท | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการต่างๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง จำนวน ๒๑ คณะ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
๑. ให้คงอยู่ของคณะกรรมการเดิมไว้ จำนวน ๑๕ คณะ คือ ๑.๑ คณะกรรมการวิทยาลัยการปกครอง ๑.๒ คณะกรรมการพิจารณาตั้งกิ่งอำเภอและอำเภอ ๑.๓ คณะกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์การจัดตั้งจังหวัดใหม่ ๑.๔ คณะกรรมการอำนวยการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเศรษฐกิจแบบพอเพียงเฉลิมพระเกียรติ ๑.๕ คณะกรรมการบริหารโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเศรษฐกิจแบบพอเพียงเฉลิมพระเกียรติระดับจังหวัด ๑.๖ คณะกรรมการบูรณาการและปฏิรูประบบการทะเบียนแห่งชาติ ๑.๗ คณะกรรมการพิจารณาให้สัญชาติและให้สถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายแก่ชนกลุ่มน้อย ๑.๘ คณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ระดับกระทรวง ๑.๙ คณะกรรมการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทราย (กพด.) ๑.๑๐ คณะกรรมการนโยบายการผังเมืองแห่งชาติ ๑.๑๑ คณะกรรมการที่ปรึกษาเขตอุตสาหกรรมปัตตานี ๑.๑๒ คณะกรรมการดำเนินการจัดสร้างโครงสร้างพื้นฐาน สนามแข่งขันฟุตซอล ชิงแชมป์โลก (FIFA FUTSAL WORLD CUP 2012) ๑.๑๓ คณะกรรมการสถาบันดำรงราชานุภาพ ๑.๑๔ คณะกรรมการอำนวยการจัดงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ เนื่องในโอกาสที่ครบ ๑๕๐ ปี และครบ ๕๐ ปี ที่องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมสหประชาชาติ (UNESCO) ถวายพระเกียรติให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ๑.๑๕ คณะกรรมการศูนย์ดำเนินการเกี่ยวกับผู้อพยพและหลบหนีเข้าเมือง ๒. เปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของคณะกรรมการเดิม จำนวน ๖ คณะ คือ ๒.๑ คณะกรรมการบริหารเขตอุตสาหกรรมปัตตานี ๒.๒ คณะกรรมการอำนวยการพัฒนาเมืองต้นแบบการพัฒนาอย่างยั่งยืนพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันตกของอ่าวไทย ชะอำ - หัวหิน ๒.๓ คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย คณะที่ ๑ ๒.๔ คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย คณะที่ ๒ ๒.๕ คณะกรรมการพิจารณาเรื่องการขอเปลี่ยนแปลงชื่อจังหวัด อำเภอ และตำบล หมู่บ้าน หรือ สถานที่ราชการอื่น ๆ ๒.๖ คณะกรรมการพิจารณาค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเตรียมการหรือดำเนินการรับเสด็จฯ งานพิธีในหัวเมือง
|
|||||||||||||||||||||
32624 | มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบภัยพิบัติปี 2554 โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย | กค | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบภัยพิบัติปี ๒๕๕๔ โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปสาระสำคัญของมาตรการช่วยเหลือฯ ดังนี้ ๑.๑ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากเหตุภัยพิบัติ ตั้งแต่วันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๔ จนถึงปัจจุบัน (พื้นที่ประสบภัยพิบัติตามประกาศของทางราชการ) ๑.๒ วงเงินอนุมัติสินเชื่อรวมของโครงการ วงเงินรวม ๒,๐๐๐ ล้านบาท ๑.๓ ระยะเวลาโครงการ สิ้นสุดวันรับคำขอกู้ภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ หรือเมื่อเต็มวงเงินสินเชื่อรวมของโครงการแล้วแต่ระยะเวลาใดจะถึงก่อน ๑.๔ วัตถุประสงค์ของการกู้ เพื่อใช้ปรับปรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟูกิจการ และ/หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียน ๑.๕ วงเงินสินเชื่อต่อราย สูงสุดไม่เกิน ๑ ล้านบาทต่อราย โดยพิจารณาตามเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด ๑.๖ ประเภทสินเชื่อและระยะเวลากู้ยืม เป็นเงินกู้ยืมแบบมีระยะเวลา (Term Loan) ระยะเวลาการกู้ยืมสูงสุดไม่เกิน ๖ ปี ระยะเวลาปลอดชำระคืนเงินต้น (Grace Period) ไม่เกิน ๒ ปี ๑.๗ อัตราดอกเบี้ย ธนาคารคิดดอกเบี้ยในอัตราคงที่ร้อยละ ๘ ต่อปี ตลอดอายุสัญญา โดยจะเรียกเก็บดอกเบี้ยจากผู้กู้ในอัตราร้อยละ ๖ ต่อปี ตลอดอายุสัญญา และรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยอีกร้อยละ ๒ ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ส่วนค่าธรรมเนียม จะคิดในอัตราร้อยละ ๐.๑ ของวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ โดยเรียกเก็บขั้นต่ำ ๑๐๐ บาทต่อราย ๑.๘ ไม่มีหลักประกัน (Clean loan) ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยจากผู้กู้ในอัตราร้อยละ ๕ ต่อปี และรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยอีกร้อยละ ๒ ต่อปี เนื่องจากอัตราดอกเบี้ย MLR ของธนาคารพาณิชย์เฉลี่ยประมาณร้อยละ ๗.๗ ต่อปี และควรยกเว้นค่าธรรมเนียมเพื่อเป็นการลดภาระของผู้ประกอบการ รวมทั้งควรจัดให้มีมาตรการและแนวทางในการตรวจสอบผู้ประกอบการให้ตรงตามคุณสมบัติที่ได้มีการกำหนดอย่างเข้มงวด และเร่งดำเนินการติดตามและประเมินผลการปล่อยสินเชื่อในโครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (SME POWER) ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่ระยะเวลาการปลอดชำระคืนเงินต้นกำลังจะหมดลงในช่วงต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๕ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหนี้เสียและกระทบต่อผลประกอบการของ ธพว. ในอนาคต ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลังประสานงานกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อขอรับการสนับสนุนข้อมูลเกี่ยวกับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาดำเนินการปล่อยสินเชื่อตามมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยให้เหมาะสม ถูกต้อง และมีความโปร่งใส สอดคล้องกับข้อเท็จจริงต่อไป |
|||||||||||||||||||||
32625 | การดำเนินงานป้องกันแก้ไขและบรรเทาปัญหาอุทกภัยในเขตพื้นที่ภาคกลาง ระยะเร่งด่วน | ทส | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบแผนงาน/โครงการป้องกันแก้ไขและบรรเทาปัญหาอุทกภัยในเขตพื้นที่ภาคกลางระยะเร่งด่วน ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการระบายน้ำเข้าพื้นที่เกษตรรับน้ำนอง (แก้มลิง) รวม ๖ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง และอยุธยา มีพื้นที่โครงการรวม ๒๐ ทุ่ง พื้นที่รองรับน้ำประมาณ ๑,๑๕๐,๔๒๑ ไร่ ซึ่งจะทำให้สามารถรับน้ำได้จำนวนทั้งสิ้น ๓,๖๖๕.๐๖ ล้านลูกบาศก์เมตร จะสามารถบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่และป้องกันน้ำท่วมในเขตเมืองได้ โดยการควบคุมปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาให้ไม่เกิน ๓,๕๐๐ ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทั้งนี้ แผนงาน/โครงการใดที่ได้ดำเนินการไปแล้ว หรืออยู่ระหว่างดำเนินการ ณ วันที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้เร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ส่วนแผนงาน/โครงการใดที่ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และนำเสนอคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ดินโคลนถล่มและภัยแล้ง ที่มีรองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) เป็นประธาน เพื่อพิจารณาและบูรณาการการดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในภาพรวมให้เป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และไม่เกิดความซ้ำซ้อน ก่อนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามภารกิจที่รับผิดชอบต่อไป ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประสานงานกับกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินแผนงาน/โครงการฯ โดยใช้ข้อมูลทุกมิติทั้งในแง่ของการคาดการณ์สภาวะอากาศในอนาคต การบริหารจัดการน้ำ และปริมาณน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาในปัจจุบัน ตลอดจนช่วงเวลาในการหนุนของน้ำทะเลเพื่อประกอบการตัดสินใจ และร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษา สำรวจ ติดตั้ง และบำรุงรักษาระบบเตือนภัยล่วงหน้า (Early Warning) สำหรับพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ลาดชัน และพื้นที่ราบเชิงเขาเพิ่มเติม เพื่อให้ระบบเตือนภัยล่วงหน้าของประเทศสามารถป้องกันความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างเป็นระบบ ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
32626 | ขอโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 (กระทรวงการคลัง) | กค | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) โอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบดำเนินงาน จาก รายการค่าเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่ง จำนวน ๘๑๘,๔๐๐ บาท ประกอบด้วย รถยนต์ประจำตำแหน่งของที่ปรึกษาด้านหนี้สาธารณะ จำนวน ๔๗๐,๔๐๐ บาท และรองผู้อำนวยการ สบน. จำนวน ๓๔๘,๐๐๐ บาท เป็น รายการค่าตอบแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง จำนวน ๖๘๖,๔๐๐ บาท ประกอบด้วย รถยนต์ประจำตำแหน่งที่ปรึกษาด้านหนี้สาธารณะ จำนวน ๓๘๑,๖๐๐ บาท และตำแหน่งรองผู้อำนวยการ สบน. จำนวน ๓๐๔,๘๐๐ บาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
32627 | ร่างพระราชบัญญัติจดหมายเหตุแห่งชาติ พ.ศ. .... | วธ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจดหมายเหตุแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีระบบการเก็บรักษา อนุรักษ์ และการคุ้มครองเอกสารจดหมายเหตุ และให้มีหอจดหมายเหตุแห่งชาติเพื่อเป็นสถานที่เก็บรักษา อนุรักษ์ และให้บริการแก่ประชาชนในการศึกษา การค้นคว้า หรือการวิจัยเอกสารจดหมายเหตุ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
32628 | การโอนบรรดาอำนาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบประมาณของ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี เฉพาะในส่วนของศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม ไปเป็นของศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) กระทรวงวัฒนธรรม | วธ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนบรรอำนาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบประมาณของสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี เฉพาะในส่วนของศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม ไปเป็นของศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) กระทรวงวัฒนธรรม ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
32629 | การโอนบรรดาอำนาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบประมาณของสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) เฉพาะในส่วนของศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ของประเทศไทย ไปเป็นของศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) | วท | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้มีการโอนบรรดาอำนาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบประมาณของสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) เฉพาะในส่วนของศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ของประเทศไทย ไปเป็นของศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ๒. ให้ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) ดำเนินการจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณให้สอดคล้องกับบทบาทภารกิจที่ปรับใหม่ และเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นต้นไป ทั้งนี้ ให้มีการประเมินความคุ้มค่าของศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) เมื่อดำเนินการครบ ๓ ปี ตามนัยที่คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้ดำเนินการเมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||
32630 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) | กษ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายประสิทธิ์ สีโท ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านการออกแบบและคำนวณ) วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ กลุ่มด้านออกแบบและคำนวณ สำนักออกแบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม กรมชลประทาน ให้ดำรงตำแหน่ง วิศวกรใหญ่ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านสำรวจและหรือออกแบบ) วิศวกรโยธาทรงคุณวุฒิ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
32631 | การขออนุมัติเปิดสถานกงสุลสมาพันธรัฐสวิสประจำจังหวัดเชียงใหม่ และแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สมาพันธรัฐสวิสประจำจังหวัดเชียงใหม่ | กต | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เปิดสถานกงสุลสมาพันธรัฐสวิสประจำจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน และอุตรดิตถ์ ๒. แต่งตั้งนายมาร์ก-เฮนรี ดูมูร์ (Mr. Marc-Henri Dumur) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สมาพันธรัฐสวิสประจำจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน และอุตรดิตถ์
|
|||||||||||||||||||||
32632 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. .... | กก | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบกรอบการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. .... ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ ๒ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ควรเป็นกฎหมายที่มีหลักการเป็นการมุ่งส่งเสริมและคุ้มครองกีฬาอาชีพมากกว่าการควบคุม ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ไม่ควรมีบทบัญญัติกำหนดรายละเอียดไว้ในทุกเรื่อง แต่ควรมีบทบัญญัติที่กำหนดหลักการหรือกรอบกว้าง ๆ เพื่อให้อำนาจผู้ที่เกี่ยวข้องไปจัดให้มีการตรากฎหมายในระดับอนุบัญญัติหรือกำหนดรายละเอียดตามความจำเป็นและเหมาะสมได้ต่อไป ๑.๓ การกำหนดความหมายของคำต่าง ๆ ในบทนิยาม ควรมีรายละเอียดที่ชัดเจนและสอดคล้องกับมาตรฐานสากลของกีฬาอาชีพ ๑.๔ ควรมีการกำหนดมาตรการในเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้มีระเบียบการจัดการแข่งขันกีฬาอาชีพที่มีความเที่ยงธรรม และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล ตลอดจนมีมาตรการดูแลสัญญาระหว่างนักกีฬาอาชีพและสโมสรหรือสมาคมที่นักกีฬาอาชีพนั้นสังกัดเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาและจัดทำร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. .... ตามกรอบการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ ๒ แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
32633 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคลองปาง อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคลองปาง
อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลคลองปาง อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ให้เป็น เขตปฏิรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
32634 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแก้มอ้น ตำบลเบิกไพร ตำบลด่านทับตะโก ตำบลปากช่อง ตำบลจอมบึง ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง ตำบลป่าหวาย ตำบลท่าเคย ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง และตำบลหนองพันจันทร์ ตำบลบ้านคา ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลแก้มอ้น ตำบลเบิกไพร ตำบลด่านทับตะโก ตำบลปากช่อง
ตำบลจอมบึง ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง ตำบลป่าหวาย ตำบลท่าเคย ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง และตำบลหนองพันจันทร์ ตำบลบ้านคา ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๑ และพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
32635 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลขุนฝาง ตำบลบ้านด่านนาขาม ตำบลคุ้งตะเภา ตำบลผาจุก ตำบลป่าเซ่า และตำบลหาดกรวด อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลขุนฝาง ตำบลบ้านด่านนาขาม ตำบลคุ้งตะเภา ตำบลผาจุก
ตำบลป่าเซ่า และตำบลหาดกรวด อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๖ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
32636 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญ คือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
32637 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลท่ามะเดื่อ อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลท่ามะเดื่อ อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลท่ามะเดื่อ อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
32638 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลวังยาง ตำบลหนองโพธิ์ อำเภอวังยางและตำบลหนองบ่อ ตำบลคำพี้ ตำบลนาคู่ ตำบลนาแก ตำบลบ้านแก้ง อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลวังยาง ตำบลหนองโพธิ์ อำเภอวังยาง และตำบลหนองบ่อ
ตำบลคำพี้ ตำบลนาคู่ ตำบลนาแก ตำบลบ้านแก้ง อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือปรับปรุงพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
32639 | ร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงซึ่งออกตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์บางฉบับที่ไม่เหมาะสมกับกาลปัจจุบัน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวงกำหนด เครื่องแต่งกาย เครื่องหมาย ประวัติคนขับรถ บัตรประจำตัวคนขับรถ และการแสดงบัตรประจำตัวคนขับรถยนต์สาธารณะ รถยนต์บริการธุรกิจ รถยนต์บริการทัศนาจรและรถจักรยานยนต์สาธารณะ พ.ศ. .... และ ร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องแต่งกายของผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่ เป็นผู้ประจำรถ พ.ศ. .... รวม 3 ฉบับ | คค | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง จำนวน ๓ ฉบับ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงซึ่งออกตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์บางฉบับที่ไม่เหมาะสมกับกาลปัจจุบัน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๔ (พ.ศ. ๒๕๑๓) ออกตามความในพระราชบัญญัติรถยนต์ พุทธศักราช ๒๔๗๓ ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องแต่งกาย เครื่องหมาย ประวัติคนขับรถ บัตรประจำตัวคนขับรถ และการแสดงบัตรประจำตัวคนขับรถยนต์สาธารณะ รถยนต์บริการธุรกิจ รถยนต์บริการทัศนาจร และรถจักรยานยนต์สาธารณะ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ๒.๑ กำหนดให้ยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดเครื่องแต่งกาย เครื่องหมาย ประวัติคนขับรถ บัตรประจำตัวคนขับรถ และการแสดงบัตรประจำตัวคนขับรถยนต์สาธารณะ รถยนต์บริการธุรกิจ รถยนต์บริการทัศนาจร และรถจักรยานยนต์สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ๒.๒ กำหนดเครื่องแต่งกายคนขับรถยนต์สาธารณะ รถยนต์บริการธุรกิจ รถยนต์บริการทัศนาจร และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ๒.๓ กำหนดให้เจ้าของรถยนต์สาธารณะ รถยนต์บริการธุรกิจ รถยนต์บริการทัศนาจร และรถจักรยานยนต์สาธารณะจัดทำประวัติคนขับรถตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด ๒.๔ กำหนดให้การขอและการออกบัตรประจำตัวคนขับรถ การอบรมและทดสอบเพื่อออกบัตรประจำตัวคนขับรถให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องแต่งกายของผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ๓.๑ กำหนดให้ยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๗ (พ.ศ. ๒๕๒๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ๓.๒ กำหนดเครื่องแต่งกายผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถ ขณะปฏิบัติหน้าที่ต้องแต่งกายตามที่กำหนด เช่น เสื้อเชิ้ตคอพับ แขนยาวหรือแขนสั้น หรือเสื้อคอแบะปล่อยเอว แขนสั้น ๓.๓ กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งอาจกำหนดแบบของเครื่องแต่งกายแตกต่างไปจากที่กฎกระทรวงนี้กำหนดได้
|
|||||||||||||||||||||
32640 | การพิจารณาทบทวนความจำเป็นในการมีอยู่ของคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี | พม | 20/09/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการคงอยู่ของคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี จำนวน ๖ คณะ โดยมีการปรับเปลี่ยนชื่อ องค์ประกอบ และอำนาจหน้าที่ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตลอดจนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้
๑. คณะกรรมการบริหารโครงการมิตรภาพเยาวชนอาเซียน - ญี่ปุ่น เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “คณะกรรมการบริหารโครงการฝึกอบรมผู้นำเยาวชน" รวมทั้งปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ๒. คณะกรรมการบริหารโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการ ๓. คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการ ๔. คณะกรรมการอำนวยการโครงการหมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ หุบกะพง ดอนขุนห้วย หนองพลับกลัดหลวง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดเพชรบุรี ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการ ๕. คณะกรรมการโครงการหมู่บ้านสหกรณ์ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ๖. คณะกรรมการจัดงานวันเยาวชนแห่งชาติ ปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ
|
.....