ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1607 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 32121 - 32140 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
32121 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ วัดตะพงนอก ตำบลตะพง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... | พศ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ วัดตะพงนอก ตำบลตะพง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ โอนกรรมสิทธิ์ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ วัดตะพงนอก ตำบลตะพง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้แก่กรมทางหลวง เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓ สายกรุงเทพมหานคร - ตราด ที่บ้านตะพงนอก ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
32122 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่วัด วัดบ้านบัวเทิง ตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... | พศ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่วัด วัดบ้านบัวเทิง ตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ โอนที่วัด วัดบ้านบัวเทิง ตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี ให้แก่กรมทางหลวง เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๔ สายสีคิ้ว - อุบลราชธานี ตอนเลี่ยงเมืองอุบลราชธานีด้านตะวันออก ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
32123 | การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (มติ 30 ส.ค. 54) | พณ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๔ ซึ่งมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ประสานขอความร่วมมือผู้ประกอบการ รวมทั้งพิจารณาดำเนินการโดยใช้กลไกที่มีอยู่ เพื่อให้มีการพิจารณาปรับลดราคาสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้ปรับลดลง เพื่อช่วยบรรเทาภาระของประชาชนผู้บริโภค ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
๑. กรอบการดูแลราคาสินค้า ประกอบด้วย ๑.๑ การกำหนดรายการสินค้าและบริการควบคุม ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๔๑ รายการ แยกเป็นสินค้าควบคุม จำนวน ๓๙ รายการ และบริการควบคุม จำนวน ๒ รายการ พร้อมทั้งกำหนดมาตรการที่ใช้บังคับกับสินค้าและบริการควบคุม จำนวน ๔๑ รายการ และรายการสินค้าที่ติดตามดูแล จำนวน ๒๐๕ รายการ โดยมีการติดตาม ตรวจสอบราคาและสถานการณ์ของสินค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการคุ้มครองประชาชนผู้บริโภค และมิให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาเอาเปรียบผู้บริโภค ๑.๒ การกำหนดมาตรการที่จะใช้บังคับกับสินค้าและบริการควบคุม ซึ่งจะมีการพิจารณาทบทวนทุกปี เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ได้แก่ การกำหนดราคาจำหน่ายสูงสุด การห้ามมิให้มีการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงเกินสมควร การให้แจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ ต้นทุน ค่าใช้จ่าย และการห้ามมิให้มีการกักตุนสินค้าควบคุม โดยไม่นำสินค้าออกจำหน่ายตามปกติ หรือปฏิเสธการจำหน่ายโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร นอกจากนี้ ได้มีการกำกับดูแลเครื่องมือชั่งตวงวัดที่ใช้ในทางพาณิชยกิจ เช่น เครื่องชั่งรถยนต์ ใช้สำหรับการชั่งสินค้าเกษตร มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องวัดความชื้นข้าว รวมทั้งการดูแลปริมาณการบรรจุและวิธีการแสดงปริมาณการบรรจุสินค้าที่หีบห่อ รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการเป็นหลักในการดูแลราคาสินค้า สำหรับสินค้าที่อยู่ในข่ายติดตามดูแล ๒๐๕ รายการ โดยให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ผลิต/ผู้นำเข้า แจ้งการเปลี่ยนแปลงราคาจำหน่าย โดยเฉพาะการขึ้นราคาสินค้าให้ทราบล่วงหน้าก่อนดำเนินการ และการปรับเปลี่ยนราคาจะพิจารณาตามภาระต้นทุนในส่วนของวัตถุดิบที่สูงขึ้นเท่านั้น และกรณีราคาวัตถุดิบลดลงก็ให้ปรับลดราคาลงด้วย ๒. การปรับลดราคาสินค้าเพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ได้มีการจัดประชุมหารือกับผู้ประกอบการ เมื่อวันที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๔ มีผู้ประกอบการยินดีให้ความร่วมมือปรับลดราคาสินค้าลง (แม้ว่าต้นทุนจะลดลงเล็กน้อย) จำนวน ๕ รายการ ร้อยละ ๐.๕๕ - ๑๓.๘๘ ได้แก่ ปูนซีเมนต์ กระเบื้องมุงหลังคา ปุ๋ยเคมี เครื่องปั้มน้ำ และแป้งสาลี สำหรับสินค้าในหมวดอื่น ๆ ตลาดมีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม หมวดของใช้ประจำวัน ซึ่งเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ได้แก่ นมผง นมสด นมเปรี้ยวพร้อมดื่ม นมถั่วเหลืองพร้อมดื่ม นมข้นหวาน กาแฟผงสำเร็จูป ครีมเทียม น้ำผลไม้สำเร็จรูปพร้อมดื่มบรรจุภาชนะผนึก โฟมล้างหน้า แชมพู ครีมนวดผม ยาสีฟัน เป็นต้น ผู้ประกอบการจะตรึงราคาไว้จนถึงสิ้นปี พ.ศ. ๒๕๕๔ สำหรับสินค้าเกษตร ได้มีการกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาเนื้อไก่ที่มีการปรับตัวสูงขึ้น โดยออกประกาศเพื่อกำหนดราคาขายปลีกแนะนำเนื้อไก่ลดลง ตั้งแต่วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๔ รวมทั้งกำหนดมาตรการควบคุมการส่งออกสุกรมีชีวิต การขนย้าย การแจ้งปริมาณสถานที่เก็บสุกร และกำหนดราคาจำหน่าย โดยออกประกาศเพื่อกำหนดราคาจำหน่ายปลีกแนะนำเนื้อหมูลดลง ตั้งแต่วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๔ ๓. มาตรการเสริม ดำเนินการภายใต้ โครงการธงฟ้า...ราคาประหยัด ได้ดำเนินการโดยขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการรายใหญ่จัดจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ภายใต้ชื่อ “งานธงฟ้า...ราคาประหยัด” จำหน่ายสินค้าในราคาต่ำกว่าราคาตลาดทั่วไปร้อยละ ๒๐ - ๔๐ ขอความร่วมมือศูนย์อาหารในห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงานเอกชน ศูนย์ราชการ ร้านอาหารทั่วไป จัดเมนูอาหารปรุงสำเร็จอย่างน้อย ๑ รายการ จำหน่ายราคาจาน/ชามละ ๒๕ - ๓๐ บาท และร่วมกับร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ จัดโครงการ “ธงฟ้าอิ่มสะดวก ๒๙ บาท” จัดกิจกรรมตรึงราคาอาหารปรุงสำเร็จอย่างน้อย ๑๒ รายการ ที่จำหน่ายในร้าน ในราคา ๒๙ บาท ไปจนถึงสิ้นปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
32124 | รายงานผลการกู้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 | กค | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ จำนวน ๔๓,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๑ วงเงิน ๔๓,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๓.๘๕ ต่อปี ครบกำหนดวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๘ ๒. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๑ เสร็จแล้วเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๔ ๓. กระทรวงการคลังได้แจ้งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการนำประกาศกระทรวงการคลัง จำนวน ๓ เรื่อง ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ดังนี้ ๓.๑ ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๑ ๓.๒ ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง แต่งตั้งพนักงานธนาคารแห่งประเทศไทยลงลายมือชื่อกำกับในพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๑ ๓.๓ ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ครั้งที่ ๑
|
||||||||||||||||||||||||
32125 | การเข้าร่วมงาน Universal Exhibition Milano 2015 | พณ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้ประเทศไทยเข้าร่วมงาน Universal Exhibition Milano 2015 ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีอิตาลี ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑ พฤษภาคม ถึง ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ ณ เมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบการเข้าร่วมงานดังกล่าว รวมทั้งเข้าร่วมการประชุม “First International Participants Meeting” ระหว่างวันที่ ๒๕ - ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๔ ณ เมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32126 | การขออนุมัติเปิดสถานกงสุลประจำสาธารณรัฐแอลเบเนีย และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำสาธารณรัฐแอลเบเนีย | กต | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเปิดสถานกงสุลประจำสาธารณรัฐแอลเบเนีย และแต่งตั้งนายซามีร์ มาเน (Mr. Samir Mane) เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำสาธารณรัฐแอลเบเนีย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32127 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงคมนาคม) | คค | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายเหม โง้วศิริ ให้ดำรงตำแหน่งวิศวกรใหญ่ ที่ปรึกษาวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านวางแผนและวางโครงการก่อสร้าง) วิศวกรโยธาทรงคุณวุฒิ กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ตั้งแต่วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32128 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) | กษ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสรายุทธ์ รัตนนคร ให้ดำรงตำแหน่งวิศวกรใหญ่ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านจัดสรรน้ำและบำรุงรักษา) วิศวกรชลประทานทรงคุณวุฒิ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32129 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง ยุทธศาสตร์การแข่งขันกล้วยไม้ไทยในตลาดโลก พ.ศ. 2554 - 2559 | กษ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การแข่งขันกล้วยไม้ไทยในตลาดโลก พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. แผนงานเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้านการตลาดส่งออก ได้แก่ การขยายช่องทางการตลาด โดยศึกษาวิเคราะห์ตลาดและแนวทางการขยายตลาดใหม่ ๕ ตลาด คือ ประเทศไต้หวัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิหร่าน อินเดีย และแคนาดา และศึกษาวิเคราะห์เพื่อแก้ไขปัญหาที่มีต่อการส่งออกในตลาดญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน อิตาลี และเนเธอร์แลนด์ รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการจัดตั้งศูนย์กลางกล้วยไม้แบบครบวงจรของสหกรณ์ผู้ประกอบการกล้วยไม้ไทย และการรณรงค์ประชาสัมพันธ์กล้วยไม้ อาทิ เข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ จัดแสดงศักยภาพกล้วยไม้ไทยในการแสดงกล้วยไม้ระดับนานาชาติ ณ ประเทศไต้หวัน จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ภาษาอังกฤษ และจัดทำหมู่บ้านกล้วยไม้ไทยเพื่อการอนุรักษ์และการท่องเที่ยว ๒. แผนงานส่งเสริมการผลิตกล้วยไม้คุณภาพ ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการผลิตกล้วยไม้ให้มีความหลากหลาย โดยดำเนินการดูแลรักษา ขยาย และให้บริการเกสรจากต้นพ่อแม่พันธุ์เพื่อใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ใหม่ และจัดอบรมการพัฒนาพันธุ์ และโครงการส่งเสริมการผลิตกล้วยไม้ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานการส่งออก โดยจัดอบรมที่ปรึกษาการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืช (GAP) แก่เจ้าหน้าที่ และอบรมการส่งเสริมการจัดทำสวน GAP ของเกษตรกร ให้การรับรองสวน GAP แก่เกษตรกร และจัดทำโครงการทดสอบมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับกล้วยไม้ตัดดอก และการปฏิบัติที่ดีสำหรับโรงคัดบรรจุดอกกล้วยไม้ ๓. แผนงานพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรม โดยจัดทำโครงการส่งเสริมงานวิจัยเชิงบูรณาการระหว่างเกษตรกร ผู้ประกอบการ และนักวิจัย ๔. แผนงานพัฒนาองค์กร ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการสร้างคลัสเตอร์กล้วยไม้ที่เข้มแข็ง โดยจัดประชุมส่งเสริมการสร้างคลัสเตอร์กล้วยไม้ที่เข้มแข็งสำหรับเจ้าหน้าที่ จัดประชุมเครือข่ายคลัสเตอร์กล้วยไม้ และจัดประชุมเชื่อมโยงเครือข่ายสำหรับเกษตรกร และโครงการสร้างศูนย์กลางการให้บริการกล้วยไม้แบบเบ็ดเสร็จ โดยการปรับปรุงระบบเครือข่ายข้อมูลกล้วยไม้ จัดตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีและฝึกอาชีพกล้วยไม้ และจัดตั้งศูนย์บริการด้านการตลาดกล้วยไม้ ๕. แผนงานส่งเสริมการใช้และสนับสนุนการส่งออก ได้ดำเนินการจัดทำสวนกล้วยไม้ประดับตกแต่ง ณ สนามบินสุวรรณภูมิ และจัดงานกล้วยไม้บานที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ตลอดเดือนกันยายนของทุกปี) และจัดทำสวนกล้วยไม้ในสวนสาธารณะของกรุงเทพมหานครเป็น Orchid Park ณ สวนลุมพินี และใช้กล้วยไม้ประดับตกแต่งทั่วไป ณ สวนสันติภาพ ๖. การบริหารจัดการโครงการเพื่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การแข่งขันกล้วยไม้ไทยในตลาดโลก พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๙ ได้จัดประชุมคณะกรรมการกล้วยไม้แห่งชาติ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ และที่ปรึกษาคณะทำงานการเตรียมความพร้อมและการประสานงาน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ |
||||||||||||||||||||||||
32130 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลท่าเคย ตำบลคลองไทร อำเภอท่าฉาง ตำบลลีเล็ด ตำบลศรีวิชัย ตำบลมะลวน ตำบลหัวเตย ตำบลท่าข้าม ตำบลพุนพิน ตำบลน้ำรอบ ตำบลหนองไทร ตำบลบางงอน อำเภอพุนพิน และตำบลท่ากระดาน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | กษ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลท่าเคย ตำบลคลองไทร อำเภอท่าฉาง ตำบลลีเล็ด ตำบลศรีวิชัย ตำบลมะลวน ตำบลหัวเตย ตำบลท่าข้าม ตำบลพุนพิน ตำบลน้ำรอบ ตำบลหนองไทร ตำบลบางงอน อำเภอพุนพิน และตำบลท่ากระดาน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลท่าเคย ตำบลคลองไทร อำเภอท่าฉาง ตำบลลีเล็ด ตำบลศรีวิชัย ตำบลมะลวน ตำบลหัวเตย ตำบลท่าข้าม ตำบลพุนพิน ตำบลน้ำรอบ ตำบลหนองไทร ตำบลบางงอน อำเภอพุนพิน และตำบลท่ากระดาน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทนเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นได้ตามแผนงานที่กำหนดไว้ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
32131 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหาดพันไกร อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหาดพันไกร อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลหาดพันไกร อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร เนื้อที่ประมาณ ๑๑๘ ไร่ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
32132 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี และตำบลสระลงเรือ ตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา ตำบลรางหวาย ตำบลดอนตาเพชร ตำบลพนมทวน ตำบลหนองโรง ตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | กษ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี และตำบลสระลงเรือ ตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา ตำบลรางหวาย ตำบลดอนตาเพชร ตำบลพนมทวน ตำบลหนองโรง ตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี และตำบลสระลงเรือ ตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา ตำบลรางหวาย ตำบลดอนตาเพชร ตำบลพนมทวน ตำบลหนองโรง ตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทนเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นได้ตามแผนงานที่กำหนดไว้ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
32133 | ร่างพระราชบัญญัติเหรียญพิทักษ์เสรีชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กห | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติเหรียญพิทักษ์เสรีชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ในการพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ในการพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน เพื่อให้ครอบคลุมถึงผู้ที่ทางราชการมีคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงภายใน การรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ การปฏิบัติการเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติในต่างประเทศ หรือปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ อันเป็นการสนับสนุนการรักษาความมั่นคงของประเทศ ๒. แก้ไขบทบัญญัติเกี่ยวกับการพระราชทานเครื่องหมายของเหรียญพิทักษ์เสรีชน โดยกำหนดให้ในกรณีที่ผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ ๑ ปฏิบัติการถึงขั้นที่จะได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ ๑ อีก ก็จะได้รับพระราชทานเครื่องหมายเป็นรูปช่อชัยพฤกษ์ช่อเดียวติดเพิ่มกลางแพรแถบในทางดิ่งกับช่อชัยพฤกษ์เดิมทุกครั้ง ๓. แก้ไขหลักเกณฑ์ในการพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๓ และมาตรา ๔ และกำหนดให้การขอพระราชทานเหรียญการประดับและกรณีให้ประดับเหรียญ บัตรประจำตัว และการเรียกเหรียญและบัตรประจำตัวคืน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ๔. กำหนดบทเฉพาะกาลรองรับให้บุคคลตามมาตรา ๓ วรรคสอง ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่พระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. ๒๔๙๕ พ.ศ. ๒๕๔๓ มีผลใช้บังคับ จนถึงก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ จะมีสิทธิได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนตามพระราชบัญญัตินี้ในเหตุการณ์ใด พื้นที่ใด ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี |
||||||||||||||||||||||||
32134 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการย้ายกองคลังยุทโธปกรณ์สรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก | กห | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้กองทัพบกก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการย้ายกองคลังยุทโธปกรณ์สรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก ซึ่งเป็นการดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงาน อาคารคลังเก็บสิ่งอุปกรณ์ อาคารโรงซ่อม อาคารโรงรับ - จ่าย บ้านพักข้าราชการกองคลังยุทโธปกรณ์สรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก พร้อมระบบสาธารณูปโภค งานระบบรักษาความปลอดภัยด้วยอิเล็กทรอนิกส์ งานจัดหาสิ่งอุปกรณ์ และงานเคลื่อนย้าย จากเดิมมีที่ตั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ (ถนนพระราม ๕ เขตดุสิต) เป็นที่ตั้งปกติถาวรบริเวณอำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี เพื่อความเหมาะสมในการปฏิบัติสนับสนุนงานส่งกำลังสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๒ ถึงประเภท ๔ สายสรรพาวุธ ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ในกองทัพบกทั้ง ๔ กองทัพภาค รวมทั้งหน่วยขึ้นตรงกับกองทัพบกที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ๒. ให้กองทัพบกดำเนินงานก่อหนี้ผูกพันงานอาคารและสาธารณูปโภค ในวงเงินทั้งสิ้น ๒,๙๕๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นราคาตามผลการประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ จนได้ข้อยุติแล้ว โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามโครงการย้ายกองคลังยุทโธปกรณ์สรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก เข้าที่ตั้งปกติถาวรจังหวัดสระบุรี ซึ่งสำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายและกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว จำนวน ๕๔๐,๑๔๕,๕๐๐ บาท ส่วนงบประมาณที่ยังขาดอยู่อีกจำนวน ๒,๔๑๘,๘๕๔,๕๐๐ บาท ให้กองทัพบกเสนอคำขอตั้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ - พ.ศ. ๒๕๕๗ ให้ครบค่างานตามความจำเป็นของการปฏิบัติงานต่อไป สำหรับงานส่วนที่ยังไม่ทราบผลการจัดซื้อจัดจ้าง จำนวน ๓ รายการ ประกอบด้วยงานระบบรักษาความปลอดภัยด้วยอิเล็กทรอนิกส์ งานจัดหาสิ่งอุปกรณ์อื่น ๆ และงานเคลื่อนย้ายหน่วย ให้กองทัพบกดำเนินการภายในวงเงิน ๖๐๘,๐๔๘,๙๔๒ บาท และเมื่อได้ดำเนินการตามวิธีการจัดหาจนได้ผลเป็นข้อยุติแล้ว ก็ให้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ และเสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||
32135 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงการคลัง กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน | นร | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา ของกระทรวงการคลัง กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. แต่งตั้งนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา ของกระทรวงการคลัง ๒. แต่งตั้งศาสตราจารย์อภินันท์ โปษยานนท์ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา ของกระทรวงวัฒนธรรม ๓. แต่งตั้งนางสุชาดา รังสินันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน |
||||||||||||||||||||||||
32136 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการจัดหารถยนต์บรรทุกขนาดเบา | กห | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กองทัพบกก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการจัดหารถยนต์บรรทุกขนาดเบา (รถยนต์บรรทุกขนาดเบา ๔ x ๔) จำนวน ๙๔๑ คัน วงเงินทั้งสิ้น ๙๕๐,๐๓๑,๖๐๐ บาท ระยะเวลาดำเนินการ ๔ ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ๒. ให้กระทรวงกลาโหมเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามโครงการจัดหารถยนต์บรรทุกขนาดเบา (ทบ. ๑๔๑๖) ซึ่งสำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณรายจ่าย และกองทัพบกได้รับการกันเงินงบประมาณไว้เบิกเหลื่อมปีจากกระทรวงการคลังไว้แล้ว จำนวน ๒๔๔,๒๐๐,๐๐๐ บาท และผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๖ - พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๗๐๕,๘๓๑,๖๐๐ บาท ทั้งนี้ เมื่อมีการปรับปรุงคุณลักษณะเฉพาะของรถยนต์บรรทุกขนาดเบาเพื่อเพิ่มสมรรถนะและประสิทธิภาพในการปฏิบัติภารกิจแล้ว เห็นควรที่กองทัพบกจะพิจารณาทบทวนจำนวนรถยนต์ดังกล่าวให้มีจำนวนเท่าที่จำเป็นในการปฏิบัติภารกิจด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการจัดหารถยนต์บรรทุกขนาดเบาให้ถือปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ และเห็นควรเพิ่มศักยภาพในการใช้งานของรถยนต์ดังกล่าวให้สนับสนุนภารกิจที่สำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยได้อย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
32137 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | นร | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ได้รับอนุมัติให้กันไว้เบิกเหลื่อมปีของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเป็นลำดับแรก หากไม่เพียงพอให้ขอรับการจัดสรรจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ไปพลางก่อน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เพิ่มเติมภายในกรอบวงเงิน ๑,๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
32138 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. .... และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พ.ศ. .... | นร | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอขอแก้ไขร่างคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ดังนี้ ๑.๑ เพิ่มนายธีระ วงศ์สมุทร เป็นกรรมการ ๑.๒ แก้ไขคำว่า "เลขาธิการคณะรัฐมนตรี" เป็น "นายอำพน กิตติอำพน" ๑.๓ ให้อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ๑.๔ เพิ่มอธิบดีกรมชลประทาน เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ๑.๕ แก้ไขชื่อสกุล "นายสุพจน์ โตวิจักษ์ชัยกุล" เป็น "นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล" ๒. เห็นชอบตามที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอว่า โดยที่ร่างข้อ ๓ ของร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. .... และร่างข้อ ๔ ของร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พ.ศ. .... กำหนดให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตของประเทศ (กยอ.) และคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) รวม ๒ คณะ เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีจะมีคำสั่งแต่งตั้งและเสนอคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป อาจจะทำให้เกิดความล่าช้า ดังนั้น เพื่อให้คณะกรรมการ รวม ๒ คณะ ดังกล่าวสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ เห็นควรกำหนดให้การแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวเป็นตามที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง
|
||||||||||||||||||||||||
32139 | ผลการประชุมว่าด้วยความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายในแม่น้ำโขง | กต | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมว่าด้วยความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายในแม่น้ำโขง ๔ ฝ่าย ได้แก่ จีน สปป.ลาว พม่า และไทย ที่กรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ ๓๐ ตุลาคม - ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอกโกวิท วัฒนะ) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ สรุปสาระสำคัญของการประชุมฯ ได้ ดังนี้ ๑.๑ การหารือทวิภาคีระหว่างหัวหน้าคณะผู้แทนไทยกับมนตรีแห่งรัฐจีน ๑.๑.๑ มนตรีแห่งรัฐจีนได้กล่าวแสดงการสนับสนุนของจีนและความเชื่อมั่นในรัฐบาลไทยที่จะสามารถแก้ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นได้ และว่าการมาร่วมประชุมฯ พร้อมทั้งขอขอบคุณรัฐบาลไทยและตำรวจไทยที่ให้ความร่วมมืออย่างดีกรณีเรือจีน ๒ ลำที่ถูกโจมตีในแม่น้ำโขง เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๔ ปัจจุบันมีความชัดเจนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระดับหนึ่งแล้ว โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงรักษาความสงบภายในของจีนได้เดินทางไปไทยเพื่อรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงให้คดีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ สถานการณ์บริเวณสามเหลี่ยมทองคำเป็นเขตแดนเชื่อมต่อระหว่างสามประเทศ จึงเป็นช่องว่างให้เกิดอาชญากรรม รัฐบาลจีนพร้อมให้การสนับสนุนรัฐบาลไทยและเห็นว่าต้องมีความร่วมมือ ๔ ฝ่ายเพื่อต่อต้านอาชญากรรม โดยร่วมมือกันสร้างกรอบและกลไกความร่วมมือทางกฎหมายเกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อจัดการกับขบวนการต่าง ๆ รวมทั้งการค้ายาเสพติด อาทิ การลาดตระเวนร่วม เพื่อให้การสัญจรในแม่น้ำโขงมีความปลอดภัยมากขึ้น ๑.๑.๒ รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอกโกวิท วัฒนะ) ได้แสดงความขอบคุณความช่วยเหลือของจีนที่ให้ไทยเรื่องอุทกภัย สำหรับกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลไทยมีความตั้งใจในการร่วมมือกับรัฐบาลจีนอย่างเต็มที่เพื่อจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว และขอบคุณที่ฝ่ายจีนได้ส่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงรักษาความสงบภายในไปร่วมการสืบสวนตั้งแต่ต้นจนประสบความสำเร็จ พร้อมทั้งเห็นด้วยในหลักการกับความร่วมมือ ๔ ฝ่ายเพื่อสร้างกรอบกลไกและวางมาตรการในการสัญจรในแม่น้ำโขง เพียงแต่กระบวนการทางกฎหมายภายในของไทยนั้น เรื่องที่มีผลกระทบต่อเขตแดนและอำนาจอธิปไตยต้องผ่านกระบวนการพิจารณาของรัฐสภา ดังนั้น จึงต้องนำกลับไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและพร้อมผลักดันให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ๑.๒ ถ้อยแถลงของหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศต่าง ๆ ระหว่างการประชุมฯ ๑.๒.๑ หัวหน้าคณะจีนเสนอให้มีการจัดตั้งกลไกและมาตรการเพื่อปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในแม่น้ำโขง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่ทันต่อเหตุการณ์ การลาดตระเวนร่วม การจัดตั้งหน่วยงานประสานงานหลักของแต่ละประเทศ รวมทั้งการจัดทำความตกลงเพื่อความร่วมมือว่าด้วยการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับมาตรการข้างต้นระหว่างหน่วยงานความมั่นคงของทั้ง ๔ ประเทศ ๑.๒.๒ หัวหน้าคณะพม่าพร้อมให้การสนับสนุนการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ และสนับสนุนความพยายามของประเทศต่าง ๆ ในการปราบปรามยาเสพติด ทั้งนี้ พม่าร่วมกับ สปป.ลาว ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและลาดตระเวนร่วมเพื่อปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในแม่น้ำโขง รวมทั้งความร่วมมือในการปราบปรามยาเสพติดในเขตสามเหลี่ยมทองคำ ๑.๒.๓ หัวหน้าคณะ สปป.ลาว สนับสนุนความคิดริเริ่มของจีนในการจัดการประชุมครั้งนี้เพื่อกำหนดมาตรการทางกฎหมายในการทำให้การเดินเรือในแม่น้ำโขงปลอดภัย และเสนอให้มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพการประชุม ๔ ฝ่ายนี้ ๑.๒.๔ หัวหน้าคณะผู้แทนไทยสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อความคิดริเริ่มของจีนในการจัดการประชุมครั้งนี้ เพื่อร่วมมือกันในการวางมาตรการการบังคับใช้กฎหมายในการขจัดภัยคุกคามในแม่น้ำโขงเพื่อความสงบและความรุ่งเรืองของภูมิภาคนี้ ๑.๓ ที่ประชุมฯ ได้รับรองถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement) ๔ ฝ่าย โดยไม่มีการลงนาม โดยมีสาระสำคัญคือ การใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพในการร่วมสืบสวนกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๔ และหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย และการจัดตั้งกลไกความร่วมมือว่าด้วยการบังคับใช้กฎหมายในแม่น้ำโขงระหว่างประเทศทั้ง ๔ หรือเรียกย่อ ๆ ว่า กลไก ๔ ประเทศ รวมทั้งจัดตั้งกลไกย่อยภายใต้กลไก ๔ ประเทศ เพื่อจัดการกับสถานการณ์ความมั่นคงใหม่ในแม่น้ำโขง ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบและดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
32140 | รายงานสรุปสภาวะอากาศในรอบสัปดาห์ฯ ของกรมอุตุนิยมวิทยา และรายงานการเฝ้าระวังเพื่อการเตือนภัยของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (วันที่ 31 ตุลาคม - วันที่ 6 พฤศจิกายน 2554 และวันที่ 8 - วันที่ 14 พฤศจิกายน 2554) | ทก | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปสภาวะอากาศในรอบสัปดาห์ฯ ของกรมอุตุนิยมวิทยา และรายงานการเฝ้าระวังเพื่อการเตือนภัยของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สรุปสภาวะอากาศทั่วไปในรอบสัปดาห์และพยากรณ์อากาศ ๗ วันข้างหน้า ของกรมอุตุนิยมวิทยา ๑.๑ ลักษณะอากาศในช่วง ๗ วันที่ผ่านมา (ช่วงวันที่ ๓๑ ตุลาคม - ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) บริเวณประเทศไทยตอนบนมีปริมาณฝนลดลง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอย่างต่อเนื่อง แต่มรสุมที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนช่วงปลายสัปดาห์ปริมาณฝนในภาคใต้มีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์กระจาย เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทย ๑.๒ การคาดหมายลักษณะอากาศใน ๗ วันข้างหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๘ - ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) ช่วงต้นสัปดาห์ มีปัจจัยจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อยู่ในแนวร่องมรสุม ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันออก และภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น และคลื่นกระแสลมตะวันตกที่จะเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง ๒ - ๕ องศาเซลเซียส ส่วนช่วงปลายสัปดาห์ ทั่วประเทศจะมีฝนลดลง เว้นแต่ภาคใต้มีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ๒. รายงานการปฏิบัติงานของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ๒.๑ ในช่วงวันที่ ๑ - ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ด้านตะวันออก) ภาคตะวันออก และภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ควรเฝ้าระวังสภาวะอากาศและติดตามประเมินผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่องพร้อมเตรียมการรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและบรรเทาภัย ๒.๒ พื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ราบลุ่มในภาคใต้ ขอให้ประชาชนควรระมัดระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก (ในบางพื้นที่) ส่วนพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างในจังหวัดปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม (บางพื้นที่) กรุงเทพมหานคร (ฝั่งตะวันออก เขตสายไหม ดอนเมือง บางเขน หลักสี่ บางซื่อ จตุจักร ลาดพร้าว มีนบุรี หนองจอก คลองสามวา ลาดกระบัง และเขตคันนายาว ส่วนฝั่งตะวันตก เขตบางพลัด ทวีวัฒนา ตลิ่งชัน หนองแขม บางแค ภาษีเจริญ และเขตบางกอกน้อย) และจังหวัดข้างเคียงยังอยู่ในภาวะประสบภัยอยู่ต่อไป ส่วนพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม ได้แก่ เขตดินแดง และเขตบางกอกใหญ่
|
.....