ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1605 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 32081 - 32100 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
32081 | ขออนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ครั้งที่ 2 | มท | 15/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งให้นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ขยายระยะเวลาการดำรงตำแหน่งต่อไปอีก เป็นครั้งที่ ๒ ตั้งแต่วันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32082 | รายงานผลการดำเนินงาน ป้องกันและฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม | อก | 15/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงาน ป้องกันและฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การฟื้นฟูนิคม/เขตประกอบการ/สวนอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย คณะทำงานฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม ได้ประชุมร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและผู้พัฒนานิคมในการจัดทำแผนฟื้นฟูนิคม/เขตประกอบการ/สวนอุตสาหกรรม ที่ประสบอุทกภัยแล้ว ๗ แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ เขตประกอบการอุตสาหกรรมแฟ็คตอรี่แลนด์ สวนอุตสาหกรรมนวนคร และสวนอุตสาหกรรมบางกะดี ซึ่งภาพรวมของแผนการฟื้นฟู ประกอบด้วย งานสูบน้ำ งานทำความสะอาดพื้นที่นิคมและโรงงาน งานซ่อมแซมอาคาร/สิ่งปลูกสร้าง งานฟื้นฟูสาธารณูปโภค (น้ำประปา, ไฟฟ้า) งานรื้อถอนและขนย้ายเครื่องจักร งานติดตั้งเครื่องจักรใหม่ และงานฟื้นฟูซ่อมแซมเครื่องจักร ปัจจุบันนิคม/เขตประกอบการ/สวนอุตสาหกรรมแต่ละแห่งอยู่ในขั้นตอนแรกของการดำเนินงานซ่อมคันดินและสูบน้ำออก ๒. การป้องกันนิคมอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงจะประสบอุทกภัย คณะทำงานป้องกันและลดผลกระทบจากอุทกภัยในนิคมอุตสาหกรรม ได้ดำเนินการป้องกันด้วยมาตรการต่าง ๆ โดยทุ่มเทสรรพกำลังจากทุกหน่วยงาน เพื่อรักษานิคมอุตสาหกรรม ๘ แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมบางชัน นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง นิคมอุตสาหกรรมอัญธานี นิคมอุตสาหกรรมบางพลี นิคมอุตสาหกรรมบางปู นิคมอุตสาหกรรมเวลโกลว์ นิคมอุตสาหกรรมสินสาคร และนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร มิให้ถูกน้ำท่วมเสียหายเพิ่มเติมอีก โดยมาตรการในเชิงป้องกันของนิคมฯ ที่สำคัญ ได้แก่ การเสริมความสูงของพนังกั้นน้ำ เขื่อนหรือคันดิน พร้อมกับการตรวจตราความเข้มแข็งของพนังกั้นน้ำอย่างใกล้ชิด การจัดหาเครื่องสูบน้ำและเครื่องจักรหนัก การขุดลอกคูคลองและการกำจัดเศษขยะเพื่อให้น้ำระบายได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น การย้ายและจัดเก็บสารเคมีอันตรายไว้ในที่ปลอดภัย การจัดเวรยามเฝ้าระวังความสูงของน้ำและสภาพของคันดิน การทำความเข้าใจกับชุมชน และการเตรียมแผนอพยพ เป็นต้น ปัจจุบันมาตรการป้องกันสำหรับนิคมฯ ต่าง ๆ ยังสามารถป้องกันน้ำท่วมได้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้านกำลังคนและเครื่องจักรหนักในการกู้ภัยจากกระทรวงกลาโหมเป็นอย่างดี ๓. การตรวจสอบและเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมจากการระบายน้ำในพื้นที่ท่วมขังภายในพื้นที่นิคม/เขตประกอบการ/สวนอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงสาธารณสุขได้บูรณาการการทำงานเกี่ยวกับการตรวจสอบและเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมจากการระบายน้ำในพื้นที่ท่วมขังภายในนิคม/เขตประกอบการ/สวนอุตสาหกรรม โดยดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำตั้งแต่ระยะที่น้ำภายในและภายนอกนิคมอยู่ในระดับเดียวกันจนกระทั่งน้ำแห้งโดยตรวจสอบเป็นระยะ ๆ ต่อเนื่อง กรณีที่ตรวจคุณภาพน้ำไม่เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพการระบายน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมจะต้องหยุดสูบน้ำออกชั่วคราว จนกว่าจะได้มีการปรับปรุงคุณภาพน้ำให้เป็นไปตามมาตรฐาน ดำเนินการบำบัดและฟื้นฟูคุณภาพน้ำให้ได้มาตรฐาน ดำเนินการตรวจสอบและเฝ้าระวังคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่องในระหว่างที่มีการสูบน้ำ รวมทั้งหากพบถังสารเคมีจะตรวจวิเคราะห์และจำแนกความเป็นอันตรายของสารเคมีและเก็บรวบรวมไว้ในที่ปลอดภัย และเมื่อระดับน้ำลดลงจนเหลือระดับ ๓๐ เซนติเมตรจากระดับพื้นหรือจนถึงระดับตะกอนดินจะต้องหยุดทำการสูบน้ำ และทำการตรวจสอบคุณสมบัติของตะกอนว่าเข้าข่ายเป็นของเสียอันตรายตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ หรือไม่
|
||||||||||||||||||||||||
32083 | โครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 | ยธ | 15/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||
32084 | ขอปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง นโยบายและมาตรการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ปี 2555 - 2557 | พณ | 15/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการขอแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ (เรื่อง นโยบายและมาตรการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ปี ๒๕๕๕ - ๒๕๕๗) จาก “เห็นชอบการกำหนดนโยบายและมาตรการนำเข้ากากถั่วเหลือง ปี ๒๕๕๕ - ๒๕๕๗ ตามมติคณะกรรมการนโยบายอาหาร ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานกรรมการนโยบายอาหารเสนอ” เป็น “เห็นชอบการกำหนดนโยบายและมาตรการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ (กากถั่วเหลือง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และปลาป่น) ปี ๒๕๕๕ - ๒๕๕๗ ตามมติคณะกรรมการนโยบายอาหาร ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานคณะกรรมการนโยบายอาหารเสนอ” ตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
32085 | การยกเว้นการเก็บค่าผ่านทางพิเศษ (ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษอุดรรัถยา) | นร | 15/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า กระทรวงคมนาคมมีหนังสือ ที่ คค (ปคร.) ๐๒๐๕/๒๙๒ ลงวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เสนอขอแก้ไขข้อความในหนังสือยืนยันมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ [เรื่อง การยกเว้นการเก็บค่าผ่านทางพิเศษ (ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษอุดรรัถยา)] ให้ถูกต้องตามมติคณะรัฐมนตรีในวันดังกล่าว ดังนี้ ๓.๑ “ให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยสำรองจ่ายเงินค่าผ่านทางพิเศษให้บริษัท ทางด่วน กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด ตามจำนวนเงินค่าผ่านทางพิเศษที่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด มีสิทธิจะได้รับตามเงื่อนไขของสัญญาภายในวงเงิน ๑๘๔,๐๐๙,๗๔๖ บาท โดยเฉลี่ยจ่ายเป็นรายวัน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ”
|
||||||||||||||||||||||||
32086 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค | นร03 | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||
32087 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 (ฝ่ายความมั่นคงและโครงสร้างพื้นฐาน) ครั้งที่ 2/2554 (ขออนุมัติจัดทำข้อตกลงการจัดตั้งสถาบันการตรวจสอบสูงสุดแห่งอาเซียน) | ตผ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบข้อเสนอเกี่ยวกับเรื่อง การประชุมอาเซียน และการประชุมเอเปค ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงมหาดไทยเสนอ (ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) ดังนี้ ๑.๑ การประชุมอาเซียน ๑.๑.๑ เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์ที่จะมีการลงนามหรือรับรองในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน จำนวน ๑๑ ฉบับ โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประสานและติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามปฏิญญาบาหลีฯ ทั้งในระดับอาเซียนและในระดับประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อให้บรรลุตามปฏิญญาดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๑.๑.๒ เอกสารสำคัญที่จะมีการลงนามหรือรับรองในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๑๙ ระหว่างวันที่ ๑๗ - ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (เอกสารเพิ่มเติม) จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๑.๓ การภาคยานุวัติสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๑.๔ ปฏิญญาบาหลีว่าด้วยการเสริมสร้างบทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้พิการในประชาคมอาเซียน จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๑.๕ การลงนามในความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์ประสานงานอาเซียนในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ ๑๙ ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๒ การประชุมเอเปค ๑.๒.๑ การรับรองร่างเอกสารสำคัญที่จะรับรองในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๑๙ และการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๒๓ จำนวน ๒ ฉบับ โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๑.๒.๒ การรับรองเอกสารที่จะรับรองในการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๒๓ จำนวน ๑ ฉบับ ๒. เห็นชอบการลงนามปฏิญญาว่าด้วยเอกภาพของอาเซียนในความหลากหลายทางวัฒนธรรม : สู่ความมั่นคงของประชาคมอาเซียน (Declaration on ASEAN Unity in Diversity Towards Strengthenting ASEAN Community) ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอเพิ่มเติมกรณีการลงนามปฏิญญาดังกล่าว มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนาม ๓. เห็นชอบข้อเสนอเกี่ยวกับการค้าสินค้าและบริการเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และการขยายขอบเขตความตกลง ITA ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๑๙ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๔. ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงสาธารณสุข นำเรื่องเกี่ยวกับการประชุมอาเซียนที่ขอให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีไปประสานกับกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อพิจารณาว่าเรื่องต่าง ๆ ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานมีกรณีเข้าข่ายตามมาตรา ๑๙๐ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหรือไม่ โดยให้ทั้งสองหน่วยงานเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยด่วน ภายในวันศุกร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ๕. เห็นชอบให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ดำเนินการจัดทำร่างข้อตกลงการจัดตั้งสถาบันการตรวจสอบสูงสุดแห่งอาเซียน เนื่องจาก สตง. เป็นส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ มีฐานะเป็นกรมตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ตามที่บัญญัติในมาตรา ๓๘ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๒ สตง. จึงสามารถดำเนินการจัดทำร่างข้อตกลงฯ ในนามของส่วนราชการได้ โดยไม่จำเป็นต้องกำหนดให้รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยเข้าเป็นภาคีในร่างข้อตกลงฯ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
|
||||||||||||||||||||||||
32088 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1(ฝ่ายความมั่นคงและโครงสร้างพื้นฐาน) ครั้งที่ 2/2554 (การรับรองร่างเอกสารสำคัญที่จะรับรองในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่19 และการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ 23, เรื่อง ขอความเห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์ที่จะมีการลงนามหรือรับรองในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน, เรื่อง การภาคยานุวัติสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล, เรื่อง การรับรองเอกสารสำคัญที่จะรับรองในการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ 23 และเรื่อง เอกสารสำคัญที่จะมีการลงนามหรือรับรองในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 19 (เอกสารเพิ่มเติม)) | กต | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบข้อเสนอเกี่ยวกับเรื่อง การประชุมอาเซียน และการประชุมเอเปค ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงมหาดไทยเสนอ (ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) ดังนี้ ๑.๑ การประชุมอาเซียน ๑.๑.๑ เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์ที่จะมีการลงนามหรือรับรองในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน จำนวน ๑๑ ฉบับ โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประสานและติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามปฏิญญาบาหลีฯ ทั้งในระดับอาเซียนและในระดับประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อให้บรรลุตามปฏิญญาดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๑.๑.๒ เอกสารสำคัญที่จะมีการลงนามหรือรับรองในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๑๙ ระหว่างวันที่ ๑๗ - ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (เอกสารเพิ่มเติม) จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๑.๓ การภาคยานุวัติสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๑.๔ ปฏิญญาบาหลีว่าด้วยการเสริมสร้างบทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้พิการในประชาคมอาเซียน จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๑.๕ การลงนามในความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์ประสานงานอาเซียนในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ ๑๙ ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๒ การประชุมเอเปค ๑.๒.๑ การรับรองร่างเอกสารสำคัญที่จะรับรองในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๑๙ และการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๒๓ จำนวน ๒ ฉบับ โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๑.๒.๒ การรับรองเอกสารที่จะรับรองในการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๒๓ จำนวน ๑ ฉบับ ๒. เห็นชอบการลงนามปฏิญญาว่าด้วยเอกภาพของอาเซียนในความหลากหลายทางวัฒนธรรม : สู่ความมั่นคงของประชาคมอาเซียน (Declaration on ASEAN Unity in Diversity Towards Strengthenting ASEAN Community) ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอเพิ่มเติมกรณีการลงนามปฏิญญาดังกล่าว มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนาม ๓. เห็นชอบข้อเสนอเกี่ยวกับการค้าสินค้าและบริการเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และการขยายขอบเขตความตกลง ITA ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๑๙ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๔. ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงสาธารณสุข นำเรื่องเกี่ยวกับการประชุมอาเซียนที่ขอให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีไปประสานกับกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อพิจารณาว่าเรื่องต่าง ๆ ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานมีกรณีเข้าข่ายตามมาตรา ๑๙๐ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหรือไม่ โดยให้ทั้งสองหน่วยงานเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยด่วน ภายในวันศุกร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ๕. เห็นชอบให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ดำเนินการจัดทำร่างข้อตกลงการจัดตั้งสถาบันการตรวจสอบสูงสุดแห่งอาเซียน เนื่องจาก สตง. เป็นส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ มีฐานะเป็นกรมตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ตามที่บัญญัติในมาตรา ๓๘ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๒ สตง. จึงสามารถดำเนินการจัดทำร่างข้อตกลงฯ ในนามของส่วนราชการได้ โดยไม่จำเป็นต้องกำหนดให้รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยเข้าเป็นภาคีในร่างข้อตกลงฯ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา |
||||||||||||||||||||||||
32089 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 (ฝ่ายความมั่นคงและโครงสร้างพื้นฐาน) ครั้งที่ 2/2554 (การภาคยานุวัติสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล) | นร | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบข้อเสนอเกี่ยวกับเรื่อง การประชุมอาเซียน และการประชุมเอเปค ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงมหาดไทยเสนอ (ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) ดังนี้ ๑.๑ การประชุมอาเซียน ๑.๑.๑ เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์ที่จะมีการลงนามหรือรับรองในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน จำนวน ๑๑ ฉบับ โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประสานและติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามปฏิญญาบาหลีฯ ทั้งในระดับอาเซียนและในระดับประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อให้บรรลุตามปฏิญญาดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๑.๑.๒ เอกสารสำคัญที่จะมีการลงนามหรือรับรองในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๑๙ ระหว่างวันที่ ๑๗ - ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (เอกสารเพิ่มเติม) จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๑.๓ การภาคยานุวัติสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๑.๔ ปฏิญญาบาหลีว่าด้วยการเสริมสร้างบทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้พิการในประชาคมอาเซียน จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๑.๕ การลงนามในความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์ประสานงานอาเซียนในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ ๑๙ ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๒ การประชุมเอเปค ๑.๒.๑ การรับรองร่างเอกสารสำคัญที่จะรับรองในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๑๙ และการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๒๓ จำนวน ๒ ฉบับ โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๑.๒.๒ การรับรองเอกสารที่จะรับรองในการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๒๓ จำนวน ๑ ฉบับ ๒. เห็นชอบการลงนามปฏิญญาว่าด้วยเอกภาพของอาเซียนในความหลากหลายทางวัฒนธรรม : สู่ความมั่นคงของประชาคมอาเซียน (Declaration on ASEAN Unity in Diversity Towards Strengthenting ASEAN Community) ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอเพิ่มเติมกรณีการลงนามปฏิญญาดังกล่าว มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนาม ๓. เห็นชอบข้อเสนอเกี่ยวกับการค้าสินค้าและบริการเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และการขยายขอบเขตความตกลง ITA ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๑๙ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๔. ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงสาธารณสุข นำเรื่องเกี่ยวกับการประชุมอาเซียนที่ขอให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีไปประสานกับกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อพิจารณาว่าเรื่องต่าง ๆ ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานมีกรณีเข้าข่ายตามมาตรา ๑๙๐ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหรือไม่ โดยให้ทั้งสองหน่วยงานเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยด่วน ภายในวันศุกร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ๕. เห็นชอบให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ดำเนินการจัดทำร่างข้อตกลงการจัดตั้งสถาบันการตรวจสอบสูงสุดแห่งอาเซียน เนื่องจาก สตง. เป็นส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ มีฐานะเป็นกรมตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ตามที่บัญญัติในมาตรา ๓๘ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๒ สตง. จึงสามารถดำเนินการจัดทำร่างข้อตกลงฯ ในนามของส่วนราชการได้ โดยไม่จำเป็นต้องกำหนดให้รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยเข้าเป็นภาคีในร่างข้อตกลงฯ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
|
||||||||||||||||||||||||
32090 | ร่างพระราชบัญญัติสภาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... | ทก | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสภาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... ตาที่กระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสารเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ กำหนดนิยามคำว่า “อุตสาหกรรมไอซีที” หมายความว่า กิจการที่เกี่ยวกับการผลิต การประกอบ และการค้า ซึ่งผลิตภัณฑ์ และบริการด้านไอซีทีทุกชนิดและทุกประเภท ๑.๒ กำหนดให้มีสภาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทย กำหนดวัตถุประสงค์ ที่มาของรายได้ และองค์ประกอบของสมาชิก และกำหนดสิทธิและหน้าที่ของสมาชิกให้เป็นไปตามที่กำหนดในข้อบังคับ ๑.๓ กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารสภาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทย และองค์ประกอบของคณะกรรมการ และกำหนดอำนาจหน้าที่ คุณสมบัติ วาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการ ๑.๔ กำหนดให้มีสำนักงานสภามีผู้อำนวยการเป็นหัวหน้าสำนักงานโดยตำแหน่ง และกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหาผู้อำนวยการ ๑.๕ กำหนดการดำเนินกิจการของสภาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทย ๑.๖ กำหนดให้มีการกำกับดูแลการดำเนินงานของสภาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทย ๑.๗ กำหนดให้มีบทกำหนดโทษ และบทเฉพาะกาล ๒. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นทุนประเดิมในการจัดตั้งสำนักงานสภาและหน่วยงานฝ่ายธุรการของสภาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทย ไม่ควรมีข้อกำหนดไว้ในร่างพระราชบัญญัติฯ เนื่องจากรัฐบาลสามารถพิจารณาให้เงินอุดหนุนตามความเหมาะสมและจำเป็นได้โดยไม่จำเป็นต้องบัญญัติไว้ในกฎหมายแต่อย่างใด ส่วนการกำหนดให้สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายเป็นเงินอุดหนุนให้กับคณะกรรมการก่อตั้งจะเหมาะสมกว่ากำหนดบทบัญญัติให้รัฐมนตรีจัดตั้งงบประมาณ และเห็นควรให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการสนับสนุนเงินทุนสมทบทุนประเดิมสำหรับการจัดตั้งสภาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทยในช่วงเริ่มแรก ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
32091 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการพัฒนาอาคารปฏิบัติการและสาธารณูปโภคของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ภูเก็ต | มท | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้นำเรื่อง ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการพัฒนาอาคารปฏิบัติการและสาธารณูปโภคของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ๑๘ ภูเก็ต เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ (ฝ่ายความมั่นคงและโครงสร้างพื้นฐาน) พิจารณา แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||
32092 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในท้องที่ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... | มท | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในท้องที่ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๕๐ ไร่ เพื่อมอบให้สำนักงานศาลยุติธรรม ใช้เป็นที่ตั้งศาลจังหวัดพิษณุโลก สาขานครไทย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
32093 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านนา อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านนา อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลบ้านนา อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. สำหรับเนื้อที่ที่เป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ที่จะนำมาดำเนินการปฏิรูปที่ดิน ให้คงเหลือเนื้อที่ประมาณ ๒๕๐ ไร่ (จากเดิมเนื้อที่ประมาณ ๒๘๗ ไร่) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแก้ไขรายละเอียดดังกล่าวให้สอดคล้องกันก่อนดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
32094 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การกำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. 2554 | มท | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การกำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ มีสาระสำคัญคือ กำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยให้ถือจำนวนหนึ่งร้อยคน สำหรับคนต่างด้าวที่มีสัญชาติของแต่ละประเทศ และห้าสิบคนสำหรับคนไร้สัญชาติ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
32095 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลสักหลง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... | มท | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลสักหลง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน “ป่าเหนือสนามบินสาธารณประโยชน์” ในท้องที่ตำบลสักหลง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๑๐๕ ไร่ เพื่อมอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติใช้เป็นที่ตั้งกองร้อยสมบูรณ์ที่ ๘ ตำรวจตระเวนชายแดน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
32096 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ในท้องที่จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดขอนแก่น รวม 2 ฉบับ | กษ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ในท้องที่จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดขอนแก่น รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลผักขะ อำเภอวัฒนานคร และตำบลคลองทับจันทร์ ตำบลบ้านด่าน อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลผักขะ อำเภอวัฒนานคร และตำบลคลองทับจันทร์ ตำบลบ้านด่าน อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลม่วงหวาน อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลม่วงหวาน อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพิจารณาความเหมาะสมในการจัดซื้อที่ดินเพื่อนำมาดำเนินการปฏิรูป ในกรณีที่ดินที่ติดจำนองกับธนาคารซึ่งยังไม่มีการไถ่ถอนจำนอง และกรณีที่ดินที่อยู่ภายในแนวเขตนิคมสร้างตนเองตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. ๒๕๑๑ ไปพิจารณดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
32097 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1(ฝ่ายความมั่นคงและโครงสร้างพื้นฐาน) ครั้งที่ 2/2554 (การลงนามในความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์ประสานงานอาเซียนในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 19 ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย) | มท | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบข้อเสนอเกี่ยวกับเรื่อง การประชุมอาเซียน และการประชุมเอเปค ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงมหาดไทยเสนอ (ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) ดังนี้ ๑.๑ การประชุมอาเซียน ๑.๑.๑ เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์ที่จะมีการลงนามหรือรับรองในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน จำนวน ๑๑ ฉบับ โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประสานและติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามปฏิญญาบาหลีฯ ทั้งในระดับอาเซียนและในระดับประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อให้บรรลุตามปฏิญญาดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๑.๑.๒ เอกสารสำคัญที่จะมีการลงนามหรือรับรองในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๑๙ ระหว่างวันที่ ๑๗ - ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (เอกสารเพิ่มเติม) จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๑.๓ การภาคยานุวัติสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๑.๔ ปฏิญญาบาหลีว่าด้วยการเสริมสร้างบทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้พิการในประชาคมอาเซียน จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๑.๕ การลงนามในความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์ประสานงานอาเซียนในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ ๑๙ ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๒ การประชุมเอเปค ๑.๒.๑ การรับรองร่างเอกสารสำคัญที่จะรับรองในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๑๙ และการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๒๓ จำนวน ๒ ฉบับ โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๑.๒.๒ การรับรองเอกสารที่จะรับรองในการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๒๓ จำนวน ๑ ฉบับ ๒. เห็นชอบการลงนามปฏิญญาว่าด้วยเอกภาพของอาเซียนในความหลากหลายทางวัฒนธรรม : สู่ความมั่นคงของประชาคมอาเซียน (Declaration on ASEAN Unity in Diversity Towards Strengthenting ASEAN Community) ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอเพิ่มเติมกรณีการลงนามปฏิญญาดังกล่าว มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนาม ๓. เห็นชอบข้อเสนอเกี่ยวกับการค้าสินค้าและบริการเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และการขยายขอบเขตความตกลง ITA ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๑๙ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๔. ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงสาธารณสุข นำเรื่องเกี่ยวกับการประชุมอาเซียนที่ขอให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีไปประสานกับกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อพิจารณาว่าเรื่องต่าง ๆ ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานมีกรณีเข้าข่ายตามมาตรา ๑๙๐ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหรือไม่ โดยให้ทั้งสองหน่วยงานเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยด่วน ภายในวันศุกร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ๕. เห็นชอบให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ดำเนินการจัดทำร่างข้อตกลงการจัดตั้งสถาบันการตรวจสอบสูงสุดแห่งอาเซียน เนื่องจาก สตง. เป็นส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ มีฐานะเป็นกรมตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ตามที่บัญญัติในมาตรา ๓๘ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๒ สตง. จึงสามารถดำเนินการจัดทำร่างข้อตกลงฯ ในนามของส่วนราชการได้ โดยไม่จำเป็นต้องกำหนดให้รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยเข้าเป็นภาคีในร่างข้อตกลงฯ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา |
||||||||||||||||||||||||
32098 | การจัดทำหนังสือแลกเปลี่ยนตอบตกลงกับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยในการจัดทำข้อตกลงโครงการความร่วมมือทางวิชาการไทย - ญี่ปุ่น | กต | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. ให้สำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.) กระทรวงการต่างประเทศ ลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนตอบข้อตกลงกับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยในการดำเนินกิจกรรมความร่วมมือทางวิชาการไทย - ญี่ปุ่น ประจำปีงบประมาณญี่ปุ่น ๒๐๑๑ (๑ เมษายน ๒๕๕๔ ถึง ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๕) ๒. ให้ สพร. และหน่วยงานผู้ดำเนินโครงการลงนามในเอกสารย่อยสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้โครงการที่ระบุในหนังสือแลกเปลี่ยนได้
|
||||||||||||||||||||||||
32099 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 (ฝ่ายความมั่นคงและโครงสร้างพื้นฐาน) ครั้งที่ 2/2554 (การรับรองร่างเอกสารสำคัญที่จะรับรองในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 19 และการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ 23) | กษ | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบข้อเสนอเกี่ยวกับเรื่อง การประชุมอาเซียน และการประชุมเอเปค ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงมหาดไทยเสนอ (ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔) ดังนี้ ๑.๑ การประชุมอาเซียน ๑.๑.๑ เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์ที่จะมีการลงนามหรือรับรองในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน จำนวน ๑๑ ฉบับ โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประสานและติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามปฏิญญาบาหลีฯ ทั้งในระดับอาเซียนและในระดับประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อให้บรรลุตามปฏิญญาดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๑.๑.๒ เอกสารสำคัญที่จะมีการลงนามหรือรับรองในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๑๙ ระหว่างวันที่ ๑๗ - ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (เอกสารเพิ่มเติม) จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๑.๓ การภาคยานุวัติสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๑.๔ ปฏิญญาบาหลีว่าด้วยการเสริมสร้างบทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้พิการในประชาคมอาเซียน จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๑.๕ การลงนามในความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์ประสานงานอาเซียนในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ ๑๙ ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย จำนวน ๑ ฉบับ ๑.๒ การประชุมเอเปค ๑.๒.๑ การรับรองร่างเอกสารสำคัญที่จะรับรองในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๑๙ และการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๒๓ จำนวน ๒ ฉบับ โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๑.๒.๒ การรับรองเอกสารที่จะรับรองในการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ ๒๓ จำนวน ๑ ฉบับ ๒. เห็นชอบการลงนามปฏิญญาว่าด้วยเอกภาพของอาเซียนในความหลากหลายทางวัฒนธรรม : สู่ความมั่นคงของประชาคมอาเซียน (Declaration on ASEAN Unity in Diversity Towards Strengthenting ASEAN Community) ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอเพิ่มเติมกรณีการลงนามปฏิญญาดังกล่าว มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนาม ๓. เห็นชอบข้อเสนอเกี่ยวกับการค้าสินค้าและบริการเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และการขยายขอบเขตความตกลง ITA ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๑๙ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๔. ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงสาธารณสุข นำเรื่องเกี่ยวกับการประชุมอาเซียนที่ขอให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีไปประสานกับกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อพิจารณาว่าเรื่องต่าง ๆ ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานมีกรณีเข้าข่ายตามมาตรา ๑๙๐ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหรือไม่ โดยให้ทั้งสองหน่วยงานเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยด่วน ภายในวันศุกร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ๕. เห็นชอบให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ดำเนินการจัดทำร่างข้อตกลงการจัดตั้งสถาบันการตรวจสอบสูงสุดแห่งอาเซียน เนื่องจาก สตง. เป็นส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ มีฐานะเป็นกรมตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ตามที่บัญญัติในมาตรา ๓๘ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๒ สตง. จึงสามารถดำเนินการจัดทำร่างข้อตกลงฯ ในนามของส่วนราชการได้ โดยไม่จำเป็นต้องกำหนดให้รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยเข้าเป็นภาคีในร่างข้อตกลงฯ ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา |
||||||||||||||||||||||||
32100 | งบการเงินของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย | กค | 08/11/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบงบดุล ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ และ ๒๕๕๒ งบรายได้ค่าใช้จ่าย งบแสดงการเปลี่ยนแปลง ส่วนของทุนและงบกระแสเงินสด สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปี ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) และรับรองงบการเงินดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
.....