ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1533 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 30641 - 30660 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
30641 | ขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับการจัดการประชุม World Economic Forum on East Asia ที่ประเทศไทย | กต | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๔๕ ล้านบาท เพื่อดำเนินการเตรียมการจัดการประชุม World Economic Forum on East Asia ที่ประเทศไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศขอตกลงในรายละเอียดการใช้จ่ายงบประมาณกับสำนักงบประมาณต่อไป และให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงการต่างประเทศขอความร่วมมือจากภาครัฐวิสาหกิจและเอกชนในการสนับสนุนการดำเนินการจัดประชุม ทั้งในรูปการสนับสนุนทางการเงิน หรือกิจกรรมเสริมอื่น ๆ เช่น สินค้าและผลิตภัณฑ์เพื่อประกอบการจัดประชุม การอำนวยความสะดวกผู้เข้าร่วมประชุม การประชาสัมพันธ์ เป็นต้น เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่าง ๆ ในกิจกรรมดังกล่าว และช่วยลดภาระการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐอีกทางหนึ่ง ไปพิจารณาดำเนินการ และขอให้มีการประชุมเพื่อติดตามงานและเตรียมการด้วย |
||||||||||||||||||
30642 | ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติด (กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555) | ทก | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติด (กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕) ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ประชาชนร้อยละ ๔๐.๔ เห็นว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดในปัจจุบันโดยรวมยังมีปัญหาอยู่ ร้อยละ ๓๘.๔ เห็นว่าไม่มีปัญหาร้อยละ ๒๑.๒ ไม่แน่ใจ/ไม่ทราบ โดยผู้ที่ระบุว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดที่ยังมีปัญหาอยู่ ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านผู้ค้า หรือผู้ลักลอบค้ายาเสพติด ประชาชนร้อยละ ๖๙.๕ ระบุว่ามีปัญหา และร้อยละ ๓๐.๕ ระบุว่าไม่มีปัญหา และด้านผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ประชาชนร้อยละ ๙๗.๙ ระบุว่ามีปัญหา และร้อยละ ๒.๑ ระบุว่าไม่มีปัญหา ๒. ประชาชนร้อยละ ๑๑.๘ ระบุว่ามีผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดที่ผ่านการบำบัดรักษาแล้วกลับไปใช้ยาเสพติดอีก และร้อยละ ๓๘.๗ ระบุว่าไม่มีปัญหา และร้อยละ ๔๙.๕ ไม่แน่ใจ/ไม่ทราบ ๓. การแพร่ระบาดยาเสพติดในโรงเรียน/สถานศึกษา ประชาชนร้อยละ ๓๑.๔ ระบุว่ามีปัญหา และร้อยละ ๖๘.๖ ระบุว่าไม่มีปัญหา ๔. ความยากง่ายในการหาซื้อหายาเสพติด ประชาชนร้อยละ ๒๗.๗ ระบุว่าหาซื้อไม่ได้ และร้อยละ ๙.๕ ระบุว่าหาซื้อยาก ในขณะที่ประชาชนร้อยละ ๑๓.๐ ระบุว่าหาซื้อยาเสพติดง่าย และร้อยละ ๔๙.๘ ไม่แน่ใจ/ไม่ทราบ ๕ ประชาชนร้อยละ ๑๒.๐ ระบุว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และร้อยละ ๘๑.๑ ระบุว่าไม่มี มีเพียงร้อยละ ๖.๙ ที่ไม่แสดงความคิดเห็น ๖. ประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชน/หมู่บ้านที่มีสถานบันเทิง ร้อยละ ๓๗.๔ ระบุว่ามีสถานบันเทิง/สถานบริการเปิด - ปิด เกินเวลา ร้อยละ ๓๕.๐ ระบุว่ามีสถานบันเทิง/สถานบริการส่งเสียงดังรบกวน ร้อยละ ๓๗.๖ ระบุว่ามีการปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี เข้าไปในสถานบันเทิง/สถานบริการ และร้อยละ ๒๖.๓ ระบุว่ามีการตรวจบัตรประชาชนผู้ที่เข้ามาใช้บริการในสถานบันเทิง/สถานบริการ ๗. ประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชน/หมู่บ้านที่มีร้านเกมส์ - อินเทอร์เน็ต ร้อยละ ๗.๖ ระบุว่ามีการมั่วสุมเสพยาเสพติดในร้านเกมส์ - อินเทอร์เน็ต ร้อยละ ๖.๖ ระบุว่ามีการซื้อขายยาเสพติดในร้านเกมส์ - อินเทอร์เน็ต และร้อยละ ๑๑.๖ ระบุว่ามีการตรวจค้น จับกุม ปราบปรามแหล่งมั่วสุมของเยาวชนในร้านเกมส์ - อินเทอร์เน็ต ๘. ความพึงพอใจต่อผลการดำเนินงานของรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประชาชนร้อยละ ๙๙.๕ ระบุว่ามีความพึงพอใจ และร้อยละ ๐.๕ ระบุว่าไม่พึงพอใจ โดยผู้ที่พึงพอใจระบุว่ามีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดร้อยละ ๑๑.๙ มากร้อยละ ๔๕.๙ ปานกลางร้อยละ ๓๔.๙ และน้อยร้อยละ ๖.๘ ๙. ความเชื่อมั่นต่อการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ประชาชนร้อยละ ๙๙.๕ ระบุว่ามีความเชื่อมั่น และร้อยละ ๐.๕ ระบุว่าไม่เชื่อมั่นเลย โดยผู้ที่เชื่อมั่นได้ระบุว่ามีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับมากที่สุดร้อยละ ๑๕.๑ มากร้อยละ ๔๖.๐ ปานกลางร้อยละ ๓๑.๙ และน้อยร้อยละ ๖.๕ ๑๐. ประชาชนร้อยละ ๗๕.๗ ได้แสดงความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการป้องกัน/แก้ไขปัญหายาเสพติด ได้แก่ การปราบปรามยาเสพติดควรดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ร้อยละ ๕๕.๙ การใช้กฎหมายลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ร้อยละ ๔๗.๓ การประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด ร้อยละ ๑๖.๐ การส่งเสริมการเล่นกีฬา/สนับสนุนอุปกรณ์กีฬาในชุมชน/หมู่บ้าน ร้อยละ ๗.๘ และการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้กับทุกฝ่ายและคนในชุมชน/หมู่บ้านต้องสามัคคีต่อต้านยาเสพติด ร้อยละ ๗.๗ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||
30643 | การกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการสำนักงานธนานุเคราะห์ จำนวน 1,000 ล้านบาท | พม | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กู้ยืมเงินเพื่อใช้ในกิจการสำนักงานธนานุเคราะห์ จำนวน ๑,๐๐๐ ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน เพื่อใช้สำหรับหมุนเวียนรับจำนำ และบริหารหนี้โดยวิธีการ Refinance เงินกู้ระยะยาวของธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีวงเงินคงเหลือ จำนวน ๒๒๕ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า วงเงินกู้เพื่อใช้ในการดำนินงานดังกล่าวมีต้นทุนอัตราดอกเบี้ยต่อปีมากน้อยแตกต่างกัน จึงเห็นควรให้ดำเนินการเบิกใช้เงินกู้ในวงเงินที่มีต้นทุนต่ำกว่าก่อนเป็นลำดับแรก ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||
30644 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลบ้านช้าง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... | มท | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลบ้านช้าง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลบ้านช้าง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ทั้งหมดประมาณ ๖ ไร่ ๑ งาน ๙๕ ตารางวา เพื่อมอบสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานใช้เป็นสถานที่ตั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๒ และใช้ประโยชน์อย่างอื่นในราชการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
30645 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... | มท | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เนื้อที่ประมาณ ๒ ไร่ ๓ งาน เพื่อมอบให้องค์การบริหารส่วนตำบลบางโฉลงใช้เป็นที่ตั้งที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบางโฉลง และใช้ประโยชน์อย่างอื่นในราชการขององค์การบริหารส่วนตำบล ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
30646 | สรุปผลการเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหารของยูเนสโก ครั้งที่ 189 | ศธ | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหารของยูเนสโก ครั้งที่ ๑๘๙ ระหว่างวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ - ๓ มีนาคม ๒๕๕๕ ณ สำนักงานใหญ่องค์การยูเนสโก กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การประชุมคณะกรรมการบริหารของยูเนสโก ครั้งที่ ๑๘๙ เน้นเรื่องการหามาตรการต่าง ๆ เพื่อจัดการกับปัญหาสภาพคล่องทางการเงินขององค์การ ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่สหรัฐอเมริกาลดงบประมาณที่สนับสนุนองค์การ ด้วยสาเหตุที่ยูเนสโกได้รับปาเลสไตน์เข้าเป็นสมาชิกล่าสุด ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมฯ เพื่อยืนยันถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในภารกิจงานของยูเนสโก โดยเฉพาะกิจกรรมหลักตามสาขาความรับผิดชอบของยูเนสโก ซึ่งประเทศไทยได้เร่งรัดการจัดส่งเงินอุดหนุนให้กับองค์การเร็วขึ้นกว่าปกติ และยินดีที่จะช่วยซ่อมแซมอาคารสำนักงานยูเนสโกที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการส่งเสริมบทบาทของสตรี โดยจัดตั้งกองทุนพัฒนาสตรีเพื่อสร้างโอกาสให้กับสตรีได้เข้าถึงการศึกษา สาธารณสุขและการมีงานทำ ซึ่งถือว่าเป็นการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศชายหญิง ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้พบปะเจรจาหารือกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการของสาธารณรัฐประชาชนจีน (Mr. Hao Ping) โดยกล่าวขอบคุณรัฐบาลจีนที่ได้ให้การสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทยเป็นอย่างดีตลอดมา พร้อมทั้งสนับสนุนครูอาสาสมัครจีนให้มาสอนภาษาจีนในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในประเทศไทยมีการขยายตัวในเรื่องการเรียนการสอนภาษาจีนมากขึ้น ทำให้จำนวนครูอาสาสมัครไม่เพียงพอ ในการนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการจีนแจ้งว่ารัฐบาลจีนประสงค์จะจัดตั้งศูนย์ศึกษาของประเทศต่าง ๆ ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ประมาณ ๒๐๐ แห่ง รวมทั้งศูนย์ไทยศึกษา โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายใน ๕ ปี จะมีนักเรียน/นักศึกษาจากประเทศอาเซียนเข้ามาศึกษาในสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ คน ซึ่งจะมีทุนสนับสนุนให้ส่วนหนึ่ง รวมทั้งจะส่งเสริมให้นักเรียนต่างชาติเข้าไปศึกษาในสาขาต่าง ๆ ทั้งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสังคมศาสตร์ โดยขอให้รัฐบาลไทยส่งเสริมให้นักเรียน/นักศึกษาไทยเข้าไปศึกษาในสาธารณรัฐประชาชนจีนมากขึ้นด้วย ๓. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้พบปะกับนักศึกษาไทยที่ได้รับทุนการศึกษาโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน ที่ศึกษาอยู่ในประเทศฝรั่งเศส พร้อมทั้งกล่าวสนับสนุนให้นักศึกษาโครงการฯ กลับมาทำงานในชุมชนท้องถิ่นของตนในภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อจะได้ร่วมกันพัฒนาประเทศต่อไป ๔. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโกและคณะกรรมการบริหารของยูเนสโกสำหรับการสนับสนุนให้ประเทศไทยได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารของยูเนสโก ซึ่งผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก (Mrs. Irina BOKOVA) ได้กล่าวขอบคุณที่ประเทศไทยเห็นความสำคัญและสนับสนุนบทบาทสตรีและได้จัดตั้งกองทุนพัฒนาสตรี รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือในการซ่อมแซมอาคารสำนักงานยูเนสโกที่กรุงเทพฯ ด้วย
|
||||||||||||||||||
30647 | การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ สปป.ลาว สำหรับโครงการก่อสร้างถนนจากภูดู่ (อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์) ถึงเมืองปากลาย แขวงไซยะบุรี สปป.ลาว | กค | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินโครงการก่อสร้างถนนจากภูดู่ (อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์) ถึงเมืองปากลาย แขวงไซยะบุรี สปป.ลาว วงเงินรวม ๗๑๘ ล้านบาท โดยมีวิธีดำเนินโครงการและเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือทางการเงินที่มีสัดส่วนของเงินกู้และเงินให้เปล่าร่วมกัน แบ่งเป็นเงินให้เปล่าร้อยละ ๒๐ (คิดเป็นเงินไม่เกิน ๑๔๓.๖๐ ล้านบาท) และเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรนร้อยละ ๘๐ (คิดเป็นเงินไม่เกิน ๕๗๔.๔๐ ล้านบาท) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นควรหารืออย่างใกล้ชิดกับกรมแผนที่ทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อป้องกันมิให้การก่อสร้างถนนดังกล่าวก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสันปันน้ำเพิ่มเติม หรือกระทบเส้นเขตแดนที่เสนอ (proposed boundary line) บริเวณช่องทางภูดู่ ระหว่างหลักเขตที่ ๕ - ๑๖/๑ และ ๕ - ๑๖/๒ ซึ่งทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายลาวมีความเห็นพ้องกันเป็นเอกภาพและที่ประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย - ลาว ครั้งที่ ๘ ได้รับรองแล้ว แต่ยังไม่มีผลใช้บังคับทางกฎหมาย ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||
30648 | การแก้ไขข้อตกลงว่าด้วยกองทุนการเงินระหว่างประเทศในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการบริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศ | กค | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบในการรับร่างแก้ไขข้อตกลงว่าด้วยกองทุนการเงินระหว่างประเทศในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการบริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งได้มีการปรับเปลี่ยนการบริหารกิจการภายในให้เกิดการปฏิบัติที่เท่าเทียมระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิก โดยเฉพาะกลุ่มที่มีตัวแทนของประเทศตนเพียงประเทศเดียวกับกลุ่มที่สมาชิกต้องหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันเป็นผู้แทนของกลุ่มในคณะกรรมการบริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศ โดยให้คณะกรรมการบริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด จากเดิมที่ให้มาจากการแต่งตั้ง ๕ ตำแหน่งสำหรับประเทศที่มีสิทธิออกเสียงสูงสุด และมาจากการเลือกตั้งสำหรับตำแหน่งที่เหลืออีก ๑๕ ตำแหน่ง รวมทั้งแก้ไขข้อกำหนดเดิมที่อ้างถึงกรรมการบริหารที่มาจากการแต่งตั้งให้สอดคล้องกัน ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือแจ้งการยอมรับข้อตกลงฯ หรือ Declaration of Acceptance และส่งให้ธนาคารแห่งประเทศไทยดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปตามที่เคยได้ปฏิบัติมาแล้ว |
||||||||||||||||||
30649 | ความคืบหน้าในการปฏิบัติงานร่วมมือลาดตระเวนและการบังคับใช้กฎหมายในแม่น้ำโขง | นร | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติรายงานความคืบหน้าในการปฏิบัติงานร่วมมือลาดตระเวนและการบังคับใช้กฎหมายในแม่น้ำโขง กรณีเหตุการณ์เรือบรรทุกสินค้าจีนปะทะกับกองกำลังไม่ทราบฝ่ายในแม่น้ำโขง เป็นเหตุให้ลูกเรือชาวจีนเสียชีวิต โดยฝ่ายจีนได้จัดประชุมหารือในระดับปฏิบัติการ ระหว่างวันที่ ๑ - ๕ มีนาคม ๒๕๕๕ ณ เมืองเชียงรุ้ง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อกำหนดกฎเกณฑ์และแนวทางการปฏิบัติในความร่วมมือลาดตระเวน ๔ ฝ่าย (จีน ลาว เมียนมาร์ และไทย) ใน ๓ ประเด็นตามร่างความร่วมมือที่ฝ่ายจีนเสนอเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการใช้แม่น้ำโขงในเชิงพาณิชย์และการท่องเที่ยวอย่างจริงจังมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยมีผลการหารือ ดังนี้
๑. ประเด็นที่ตกลงกันได้แล้ว ๑.๑ กฎเกณฑ์การปฏิบัติงาน (Rules of Work) ทั้ง ๔ ฝ่ายเห็นชอบในหลักการตามที่ฝ่ายจีนเสนอ และมีประเด็นเพิ่มเติม ดังนี้ ๑.๑.๑ ฝ่ายลาวต้องการให้ไทยและเมียนมาร์ส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำศูนย์ปฏิบัติการผสม ๔ ฝ่ายที่เมืองกวนเหล่ยเช่นเดียวกับจีนและลาวที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำแล้วตามที่ได้ตกลงกันไว้ในแถลงการณ์ร่วม ๑.๑.๒ ฝ่ายเมียนมาร์จะจัดเจ้าหน้าที่ไปประจำที่สถานกงสุลพม่าที่คุนหมิง และจะจัดหัวหน้าเจ้าหน้าที่ไปประจำที่สำนักงานตำรวจที่ท่าขี้เหล็ก ซึ่งสามารถประสานงานกับศูนย์ปฏิบัติการผสม ๔ ฝ่าย ได้ทันทีเมื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉิน ๑.๑.๓ ฝ่ายไทยจะให้ความร่วมมือในการจัดเจ้าหน้าที่ไปประจำศูนย์ปฏิบัติการผสม ๔ ฝ่าย โดยในชั้นแรกจะจัดเจ้าหน้าที่ ๒ นาย ไปประจำศูนย์ปฏิบัติการผสม ๔ ฝ่าย เป็นเวลาครั้งละไม่น้อยกว่า ๕ วัน และอีก ๒ นาย ประจำที่ศูนย์บัญชาการที่เชียงแสน พร้อมทั้งเสนอให้ใช้ภาษาจีน ลาว เมียนมาร์ และไทย ในการติดต่อสื่อสารที่ศูนย์ปฏิบัติการผสม ๔ ฝ่าย แต่ในกรณีที่ต้องใช้การแปลภาษาให้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง ๑.๑.๔ ฝ่ายจีนเห็นชอบในเรื่องภาษาที่ใช้โดยให้ระบุเพิ่มในร่างความร่วมมือฯ ขณะที่ยังไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของฝ่ายเมียนมาร์ โดยจะนำไปพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป ๑.๒ กฎเกณฑ์การติดต่อสื่อสาร (Rules of Communication) ทั้ง ๔ ฝ่ายเห็นชอบในหลักการตามที่ฝ่ายจีนเสนอ และเสนอให้ฝ่ายจีนพัฒนาระบบวิทยุสื่อสาร ตลอดจนแนวทางการร่วมมือลาดตระเวนระยะทาง ๓๐๐ กิโลเมตร ซึ่งฝ่ายจีนรับข้อเสนอของฝ่ายไทยไปพิจารณาและศึกษาความเป็นไปได้ ๒. ประเด็นที่ต้องหารือกันในโอกาสต่อไป ที่ประชุมได้มีมติให้นำข้อเสนอทั้ง ๓ ประเด็นบรรจุไว้ในบันทึกการประชุมเพื่อหารือในการประชุมครั้งต่อไป ดังนี้ ๒.๑ หลักการพื้นฐานสำหรับเรือและลูกเรือ (Basic Principles for Vessels and Personnel) ขอให้แบ่งเขตการร่วมลาดตระเวนเป็น ๓ ส่วน คือ ในเขตน่านน้ำของเมียนมาร์ - จีน เมียนมาร์ - ลาว และ ลาว - ไทย โดยให้มีเฉพาะเรือลาดตระเวนของ ๒ ประเทศเท่านั้น ในการลาดตระเวนในบริเวณดังกล่าว และในกรณีมีความจำเป็นต้องใช้อาวุธเพื่อป้องกันตนเองให้ใช้อาวุธได้เฉพาะในเขตน่านน้ำของตนเองและกระสุนจะต้องไม่ไปตกในเขตน่านน้ำของอีกประเทศหนึ่ง ๒.๒ กฎเกณฑ์เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน (Rules for Dealing with Emergencies) ในเขตน่านน้ำที่ติดกันระหว่างเมียนมาร์ - จีน และเมียนมาร์ - ลาว ประเทศที่มีน่านน้ำติดกันเท่านั้นจะเป็นผู้พิจารณาการดำเนินการเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ๒.๓ กฎเกณฑ์การใช้อาวุธ (Rules for Use of Arms) ในการใช้อาวุธในกรณีฉุกเฉิน เรือลาดตระเวนของประเทศที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่จะใช้อาวุธได้ในเขตน่านน้ำของตนเอง
|
||||||||||||||||||
30650 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า | นร | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการการดำเนินกิจกรรมของคณะสงฆ์ รวมทั้งหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เนื่องในงานฉลองพุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ประกอบด้วย การสัมมนาพุทธศาสนิกชนนานาชาติ การสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ จำนวน ๙ องค์ การจัดงานเฉลิมฉลองพุทธชยันตี, พิธีเททองหล่อพระ, แห่พระบรมสารีริกธาตุ ฯลฯ ณ ท้องสนามหลวง การจัดงานฉลองพุทธชยันตี ณ พุทธมณฑล และพื้นที่ส่วนกลางอื่น ๆ และการประชาสัมพันธ์งานพุทธชยันตี โดยค่าใช้จ่ายของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่เป็นหน่วยงานหลักในการจัดกิจกรรมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนนั้น ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในกรอบวงเงิน ๑๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท และให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ส่วนค่าใช้จ่ายที่เหลือเป็นกิจกรรมที่หน่วยงานภาครัฐอื่นและภาคเอกชนจะสามารถจัดกิจกรรมต่าง ๆ เข้าร่วมในงานพุทธบูชาดังกล่าวได้ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรมที่เห็นควรสร้างค่านิยมที่ดีให้กับสังคมไทยด้วยการรณรงค์ปลูกฝัง “ธรรมะในใจคนไทย” อย่างต่อเนื่องในกลุ่มพุทธศาสนิกชนคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและเยาวชนให้เข้าใจ เข้าถึงหลักธรรม และมีส่วนร่วมในการนำธรรมะมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||
30651 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ วัดดอนสาลี ตำบลดอนใหญ่ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... | พศ | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ วัดดอนสาลี ตำบลดอนใหญ่ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ โอนกรรมสิทธิ์ที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ วัดดอนสาลี ตำบลดอนใหญ่ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๕๒๒๒ (บางส่วน) เนื้อที่ ๑ ไร่ ๓ งาน ๒๐ ตารางวา และโฉนดที่ดินเลขที่ ๔๗๓๐ (บางส่วน) เนื้อที่ ๓ งาน และโฉนดที่ดินเลขที่ ๕๕๗๑ (บางส่วน) เนื้อที่ ๓ งาน ให้แก่กรมชลประทาน ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
30652 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดศรีประทุนทอง ตำบลหัวโพธิ์ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... | พศ | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดศรีประทุนทอง ตำบลหัวโพธิ์ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ โอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดศรีประทุนทอง ตำบลหัวโพธิ์ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๑๙๙๐ (บางส่วน) เนื้อที่ ๙๐ ตารางวา โฉนดที่ดินเลขที่ ๑๑๙๙๑ (บางส่วน) เนื้อที่ ๘๔ ตารางวา และโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๑๙๙๒ (บางส่วน) เนื้อที่ ๔๑ ตารางวา ให้แก่กรมชลประทาน ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
30653 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ในท้องที่ตำบลบางเลน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ของวัดมเหยงคณ์ ตำบลท่าระหัด อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... | พศ | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ในท้องที่ตำบลบางเลน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ของวัดมเหยงคณ์ ตำบลท่าระหัด อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ในท้องที่ตำบลบางเลน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ของวัดมเหยงคณ์ ตำบลท่าระหัด อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๔๘๕๕ (บางส่วน) เนื้อที่ ๕ ไร่ ๓ งาน ๖๘ ตารางวา ให้แก่กรมชลประทาน ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
30654 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดนางชี ตำบลบ้านหีบ อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... | พศ | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดนางชี ตำบลบ้านหีบ อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ของวัดนางชี ตำบลบ้านหีบ อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๖๒๒๗ (บางส่วน) เนื้อที่ ๑ ไร่ ๑๙ ตารางวา ให้แก่กรมชลประทาน ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
30655 | หลักเกณฑ์การจ่ายค่ากระแสไฟฟ้าสำหรับเจ้าหน้าที่ที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณสถานบริการการสาธารณสุข | นร | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี จำนวน ๓ มติ ดังนี้ ๑.๑ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๘ (เรื่อง เงินค่ากระแสไฟฟ้าสำหรับเจ้าหน้าที่ที่พักอาศัยอยู่ในโรงพยาบาล) ๑.๒ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๑๙ (เรื่อง เงินค่ากระแสไฟฟ้าสำหรับเจ้าหน้าที่ที่พักอาศัยอยู่ในโรงพยาบาล) ๑.๓ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๒๖ (เรื่อง เงินค่ากระแสไฟฟ้าสำหรับเจ้าหน้าที่ที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณสถานบริการการสาธารณสุข) ๒. อนุมัติให้สถานบริการการสาธารณสุขในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งที่ให้บริการผู้ป่วยตลอดเวลา ๒๔ ชั่วโมง และมีบ้านพักที่ทางราชการจัดหาให้ภายในบริเวณสถานบริการการสาธารณสุขจ่ายค่ากระแสไฟฟ้าสำหรับบ้านพักข้าราชการ ลูกจ้างและผู้ป่วยโรคเรื้อนได้โดยใช้เงินงบประมาณหรือเงินบำรุงของสถานบริการการสาธารณสุขตามหลักเกณฑ์ ดังนี้ ๒.๑ ข้าราชการตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส ขึ้นไป ๑๐๐ ยูนิตต่อเดือน ตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการ ตำแหน่ง ประเภทอำนวยการ และตำแหน่งประเภทบริหาร ๒.๒ ข้าราชการตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับชำนาญงาน ๘๐ ยูนิตต่อเดือน และตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ๒.๓ ข้าราชการตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน ๖๐ ยูนิตต่อเดือน ๒.๔ ลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราว ๓๐ ยูนิตต่อเดือน ๒.๕ ผู้ป่วยโรคเรื้อน ครอบครัวละ ๑๕ ยูนิตต่อเดือน หากผู้ใดใช้เกินโควตาที่กำหนดไว้ ให้ผู้นั้นออกเงินในส่วนที่ใช้เกินเอง ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๑ เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||
30656 | รัฐบาลสาธารณรัฐฝรั่งเศสเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย | กต | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายดาเมียง โลรา (Mr. Damien Loras) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทนนายกิลดา เลด ลีเดก (Mr. Gildas Le Lidec) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||
30657 | รัฐบาลราชอาณาจักรภูฏานเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย | กต | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายเกซัง วังดี (Mr. Kesang Wangdi) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรภูฏานประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทนนายเชริง ดอร์จี (Mr. Tshering Dorji) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||
30658 | รัฐบาลสาธารณรัฐซูรินาเมเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย | กต | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมาติแต่งตั้งนางติติ อะมินา ปาร์ดี (Ms. Titi Amina Pardi) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐซูรินาเมประจำประเทศไทยคนแรก โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงจาการ์ตา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||
30659 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเรื่อง การพิจารณาโครงการย้ายองค์การสะพานปลาฯ | กษ | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๓๔ (เรื่อง การพิจารณาโครงการย้ายองค์การสะพานปลา องค์การอุตสาหกรรมห้องเย็น และกองพัฒนาอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ กองประมงทะเล กรมประมง) เพื่อให้องค์การสะพานปลาสามารถพัฒนาสะพานปลากรุงเทพตามแผนงานที่วางไว้ คือ พัฒนาสะพานปลากรุงเทพให้เป็นตลาดกลางสัตว์น้ำที่ทันสมัย สะอาด ถูกสุขอนามัยตามมาตรฐานสากล ภายใต้แนวคิด “ตลาดกลางสัตว์น้ำคุณภาพแห่งกรุงเทพมหานคร” โดยปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการ และวิธีการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพสามารถตอบสนองนโยบายรัฐ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้องค์การสะพานปลาเร่งดำเนินการจัดทำรายละเอียดโครงการที่จะพัฒนาสะพานปลาร่วมกับสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานครเสนอให้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบโครงการลงทุนอีกครั้งหนึ่ง โดยคำนึงถึงการปรับบทบาทการดำเนินการขององค์กรจากการเป็นผู้ประกอบกิจการบริการสถานที่ขนถ่ายสินค้าสัตว์น้ำและตลาดสินค้าสัตว์น้ำโดยตรงแก่ชาวประมงและแพปลา มาเป็นผู้ส่งเสริม สนับสนุนให้แก่ภาคเอกชนเข้ามาบริการแทน และควรเน้นการพัฒนาพื้นที่และปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อให้เป็นแหล่งรองรับการดำเนินธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวด้านการประมงที่ไม่ส่งผลกระทบต่อทัศนียภาพและสภาพแวดล้อมริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งให้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญการจัดการดูแลประโยชน์เชิงพาณิชย์และมีประสบการณ์ในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องมาเป็นผู้รับผิดชอบภาพรวมการบริหารโครงการฯ แทนองค์การสะพานปลา ซึ่งมีประสบการณ์เฉพาะการดูแลและพัฒนาสะพานปลา หรือดำเนินงานร่วมทุนกับภาคเอกชนที่มีศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า ไปพิจารณาดำเนินการ ทั้งนี้ ให้ดำเนินการตามข้อกฎหมาย ระเบียบหลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนที่จะดำเนินการโครงการฯ ต่อไป |
||||||||||||||||||
30660 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบางไผ่ จังหวัดพิจิตร พ.ศ. .... | นร | 01/05/2555 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบางไผ่ จังหวัดพิจิตร พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลบางไผ่ อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
.....