ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1423 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 28441 - 28460 จากข้อมูลทั้งหมด 124003 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
28441 | ขออนุมัติดำเนินโครงการควบคุมและกำจัดศัตรูมะพร้าว (หนอนหัวดำ) แบบครอบคลุมพื้นที่ | กษ | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ในการประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้ดำเนินโครงการควบคุมและกำจัดศัตรูมะพร้าว (หนอนหัวดำ) แบบครอบคลุมพื้นที่ เพื่อกำจัดศัตรูมะพร้าว (หนอนหัวดำ) โดยมีวัตถุประสงค์ของโครงการฯ เพื่อตัดวงจรการระบาด ลดความรุนแรงและผลกระทบต่อผลผลิตจากการทำลายของหนอนหัวดำและควบคุมไม่ให้แพร่กระจายไปยังพื้นที่ที่ไม่มีการระบาด และเพื่อสร้างความเข้มแข็งด้านการควบคุมและกำจัดหนอนหัวดำให้กับเกษตรกรในพื้นที่ระบาดโดยผ่านกลไกศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน เป้าหมายการดำเนินงาน จังหวัดที่มีพื้นที่การระบาดของหนอนหัวดำ ๑๕ จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต ทั้งนี้ ระยะเวลาดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่เดือนธันวาคม ๒๕๕๕ ถึงเดือนกันยายน ๒๕๕๖ ๑.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณากำหนดมาตรการในการกำกับดูแลและควบคุมการใช้สารเคมีให้ชัดเจนและรัดกุม พร้อมทั้งสนับสนุนการใช้ศัตรูธรรมชาติควบคู่กันไป เพื่อสร้างความยั่งยืนในการแก้ปัญหาสารเคมีตกค้างในมะพร้าว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ และให้รายงานผลการดำเนินงานต่อคณะรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง ๒. สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการฯ อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในวงเงิน ๒๑,๑๒๐,๐๐๐ บาท เพื่อใช้ในการควบคุมและกำจัดศัตรูมะพร้าว โดยใช้ศัตรูธรรมชาติควบคุมหนอนหัวดำ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอทำความตกลงในรายละเอียดงบประมาณกับสำนักงบประมาณต่อไป สำหรับวงเงินส่วนที่เหลือในส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายในการฉีดสารเคมีเข้าลำต้นกำจัดหนอนหัวดำ จำนวน ๓๖๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท หากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เห็นว่ายังมีความจำเป็นต้องใช้สารเคมีฉีดเข้าลำต้น ก็เห็นควรให้มีการจัดทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม รวมทั้งเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวเพื่อพิจารณาถึงผลดี ผลเสีย และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นให้ได้ข้อยุติก่อน ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
28442 | ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของสำนักงานเลขานุการเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน พ.ศ. .... | ศธ | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ในการประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ที่เห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของสำนักงานเลขานุการเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้จัดตั้งสำนักงานเลขานุการเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน โดยให้กระทรวงศึกษาธิการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติฯ โดยตัดมาตรา ๕ มาตรา ๖ (๑) (๒) ที่ระบุเอกสิทธิ์ด้านการยกเว้นภาษีอากร และมาตรา ๖ (๓) ที่ระบุให้ยกเว้นการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าว ออก เนื่องจากการยกเว้นดังกล่าวอยู่นอกเหนือข้อผูกพันตามกฎบัตรเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) เสนอ ๒. ให้ส่งร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของสำนักงานเลขานุการเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน พ.ศ. .... ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาให้สอดคล้องกับกฎบัตรเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน โดยให้ตัดมาตรา ๕ มาตรา ๖ (๑) (๒) และ (๓) ออก แล้วเสนอคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
28443 | การประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าแขวงชายแดนไทย - ลาว ครั้งที่ 9 | มท | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแนวทางการจัดทำบันทึกการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าแขวงชายแดนไทย-ลาว ครั้งที่ ๙ มีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนผลการดำเนินงานของการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ครั้งที่ ๘ และนำประเด็นต่าง ๆ จากผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-ลาว ครั้งที่ ๑๗ และการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไปไทย-ลาว ครั้งที่ ๑๙ ซึ่งครอบคลุมสาระสำคัญในด้านความร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้านเศรษฐกิจการค้าชายแดน และความร่วมมือทางด้านสังคมและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี เพื่อให้ประชาชนตามแนวชายแดนอยู่ร่วมกันด้วยความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และร่วมมือกันพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงในร่างบันทึกการประชุมที่มิใช่สาระสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย และให้กระทรวงมหาดไทยหารือกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้ความเห็นชอบได้ โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบอีก ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ไม่ต้องจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) เพื่อใช้ในการลงนามในบันทึกการประชุมฯ ตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่ขอแก้ไขถ้อยคำในบันทึกการประชุมฯ โดยแก้ไขชื่อการประชุม จาก "ประชุมทวิภาคีว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ครั้งที่ ๑๔" เป็น “ประชุมทวิภาคีว่าด้วยความร่วมมือด้านการปราบปรามยาเสพติดระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ครั้งที่ ๑๔” และแก้ไข “สำนักงานประสานงานชายแดนด้านยาเสพติดของไทยและลาว (Border Liaison Offices) : BLOs)” เป็น “สำนักงานประสานงานปราบปรามยาเสพติดชายแดน (Border Liaison Offices : BLOs) ของไทยและลาว” ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
28444 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ตช | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ ให้สอดรับกับการปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการของสำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ หากมีภาระด้านงบประมาณเพิ่มขึ้นให้พิจารณาใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
28445 | ขออนุมัติงบประมาณและขยายเวลาผูกพันงบประมาณค่าเช่ารถยนต์ 3 คัน เพิ่มเติม | นร11 | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติขยายระยะเวลาและเพิ่มวงเงินผูกพันงบประมาณค่าเช่ารถยนต์ ๓ คัน จากเดิม ปี พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙ รวมระยะเวลา ๕ ปี วงเงินทั้งสิ้น ๔,๔๕๕,๐๐๐ บาท เป็น ปี พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๖๑ รวมระยะเวลา ๕ ปี (๖๐ เดือน) วงเงินทั้งสิ้น ๔,๙๓๒,๐๐๐ บาท โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่ได้รับการอนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีจากกระทรวงการคลัง จำนวน ๙๙๐,๐๐๐ บาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ จำนวน ๙๙๐,๐๐๐ บาท ซึ่งได้จัดสรรงบประมาณไว้แล้ว สำหรับงบประมาณในส่วนที่เหลืออีกจำนวน ๒,๙๕๒,๐๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๑ ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับค่าเช่าตามสัญญาต่อไป ตามความเห็นสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
28446 | ขอความเห็นชอบเอกสารสำหรับการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง ครั้งที่ 5 | กต | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างปฏิญญาการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy : ACMECS) ครั้งที่ ๕ และร่างแผนปฏิบัติการยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ปี ๒๕๕๖-๒๕๕๘ โดย ๑.๑.๑ ร่างปฏิญญาการประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่ ๕ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ของผู้นำที่จะส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งรับรองแผนปฏิบัติการ ACMECS ปี ๒๕๕๖-๒๕๕๘ ซึ่งกำหนดแผนการดำเนินโครงการความร่วมมือใน ๘ สาขา ได้แก่ การอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุน การเกษตร อุตสาหกรรม และพลังงาน การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม การท่องเที่ยว การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สาธารณสุขและสวัสดิการสังคม และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้ประเทศหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนามีส่วนร่วมในโครงการของ ACMECS ด้วย ๑.๑.๒ ร่างแผนปฏิบัติการ ACMECS ปี ๒๕๕๖-๒๕๕๘ มีเป้าหมายหลัก คือ การเสริมสร้างการเป็นประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นฐานการผลิตเดียว โดยประเทศสมาชิก ACMECS เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เชื่อมโยงกันทั้งด้านเศรษฐกิจ การผลิต และการคมนาคมขนส่ง รวมทั้งได้ระบุแผนการดำเนินการใน ๘ สาขาความร่วมมือระหว่างปี ๒๕๕๖-๒๕๕๘ ๑.๒ อนุมัติให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองเอกสารฯ ดังกล่าว ๑.๓ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขเอกสารฯ ดังกล่าวที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับกรณีที่โครงการพัฒนาภายใต้ยุทธศาสตร์ฯ เข้าข่ายประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการซึ่งต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม จะต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ และหากมีการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการยุทธศาสตร์ฯ ในพื้นที่ป่าไม้ หรือผ่านพื้นที่ป่าไม้ อาทิ การพัฒนาสายส่งไฟฟ้าข้ามแดนเข้ามาในประเทศไทย การจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมตามแนวชายแดน การสร้างถนน หรือทางรถไฟข้ามพรมแดนเข้ามาในประเทศไทย จะต้องมีการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
28447 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยเสนานิเวศน์ 200 กับถนนนาคนิวาส พ.ศ. .... | มท | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยเสนานิเวศน์ ๒๐๐ กับถนนนาคนิวาส พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยเสนานิเวศน์ ๒๐๐ กับถนนนาคนิวาส ในท้องที่แขวงจรเข้บัว และแขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
28448 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนเลียบคลองสองและซอยรามอินทรา 109 พ.ศ. .... | มท | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนเลียบคลองสองและซอยรามอินทรา ๑๐๙ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนเลียบคลองสองและซอยรามอินทรา ๑๐๙ ในท้องที่เขตคลองสามวา และเขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
28449 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... | มท | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณรัฐสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๖ ไร่ ๒ งาน ๑๔ ตารางวา เพื่อมอบให้กรมที่ดินใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงราย สาขาเชียงแสน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
28450 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลนามะเฟือง อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู พ.ศ. .... | มท | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลนามะเฟือง อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลนามะเฟือง อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
28451 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดระยอง พ.ศ. .... | มท | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดระยอง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้ผังเมืองรวม ในท้องที่จังหวัดระยอง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องกับชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
28452 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดพะเยา พ.ศ. .... | มท | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดพะเยา พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้ผังเมืองรวม ในท้องที่จังหวัดพะเยา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องกับชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
28453 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองน่าน พ.ศ. .... | มท | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองน่าน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่บางส่วนของตำบลผาสิงห์ ตำบลในเวียง บางส่วนของตำบลไชยสถาน บางส่วนของตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน และบางส่วนของตำบลฝายแก้ว บางส่วนของตำบลม่วงตึ๊ด และบางส่วนของตำบลท่าน้าว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องกับชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
28454 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า พ.ศ. .... | รง | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. หมวด ๑ บททั่วไป ซึ่งประกอบด้วยหน้าที่นายจ้างในการจัดให้มีข้อบังคับเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน และการฝึกอบรมให้กับลูกจ้างซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับไฟฟ้า การเก็บรักษาแผนผังวงจรไฟฟ้า การจัดให้มีแผ่นป้ายหรือสัญลักษณ์เตือนอันตรายจากไฟฟ้า การจัดให้ลูกจ้างสวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลที่มีมาตรฐานและเหมาะสมกับการปฏิบัติงาน การดูแลและบำรุงรักษาบริภัณฑ์ไฟฟ้าและสายไฟฟ้า และจัดให้มีแผ่นภาพพร้อมคำบรรยายเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติเมื่อประสบอันตรายและการปฐมพยาบาล ๒. หมวด ๒ บริภัณฑ์ไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วยหน้าที่นายจ้างในการติดตั้งบริภัณฑ์ไฟฟ้า การใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เต้ารับ สายไฟฟ้า อุปกรณ์และเครื่องป้องกัน ตามมาตรฐานที่กำหนด และห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างใช้เครื่องเป่าลมทำความสะอาดบริภัณฑ์ไฟฟ้าที่มีกระแสไฟฟ้า ๓. หมวด ๓ ระบบป้องกันฟ้าผ่า ซึ่งประกอบด้วยการติดตั้งระบบป้องกันฟ้าผ่าในสถานประกอบกิจการ อาคาร ปล่องควัน และบริเวณที่มีถังเก็บของเหลวไวไฟหรือก๊าซไวไฟ ๔. หมวด ๔ อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลและอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วยหน้าที่นายจ้างในการจัดอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลให้ลูกจ้างซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับไฟฟ้า คุณสมบัติของอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัย การบำรุงรักษาและการจัดเก็บอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัย
|
|||||||||||||||||||||||||||
28455 | ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านวัฒนธรรมระหว่างอาเซียนกับสหพันธรัฐรัสเซีย | วธ | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. ความพร้อมของประเทศไทยในการที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีตามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านวัฒนธรรมระหว่างอาเซียนกับสหพันธรัฐรัสเซีย (Agreement on Cultural Cooperation between the Governments of the Member States of the Association of Southeast Asian Nations and the Government of the Russian Federation) โดยความตกลงฯ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือและแลกเปลี่ยนในสาขาวัฒนธรรมรูปแบบต่าง ๆ ประกอบด้วย ดนตรี การละคร งานจดหมายเหตุ หอสมุด พิพิธภัณฑ์ มรดกทางวัฒนธรรม นาฏศิลป์ ทัศนศิลป์ ภาพยนตร์ สิทธิบัตร หัตถกรรมพื้นบ้าน ศิลปะประยุกต์ มัณฑนศิลป์ ละครสัตว์ และศิลปะในรูปแบบอื่น ๆ ภายในขอบเขตของกฎหมายและนโยบายของแต่ละประเทศ ๑.๒ ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากความร่วมมือตามความตกลงฯ ฝ่ายผู้ส่งจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางระหว่างประเทศไป-กลับของผู้แทนของตน และฝ่ายผู้รับจะรับผิดชอบค่าอาหารและที่พัก ค่าล่าม และค่าใช้จ่ายในการเดินทางภายในประเทศ ๑.๓ ความตกลงฯ จะมีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา ๕ ปี หลังจากนั้นจะต่ออายุได้โดยอัตโนมัติครั้งละ ๕ ปี เว้นแต่รัฐบาลของประเทศสมาชิกอาเซียนหรือรัฐบาลแห่งสหพันธรัฐรัสเซียจะแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบเป็นลายลักษณ์อักษรถึงเจตนาที่จะยกเลิกความตกลงล่วงหน้าอย่างน้อย ๖ เดือนก่อนที่ความตกลงจะสิ้นสุดลง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแจ้งเลขาธิการอาเซียนเป็นลายลักษณ์อักษรตามที่ระบุไว้ในข้อ ๒๒ วรรคแรกของความตกลงฯ “ความตกลงฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่เลขาธิการอาเซียนได้รับการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรว่ารัฐบาลของประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐบาลแห่งสหพันธรัฐรัสเซียได้ดำเนินกระบวนการที่จำเป็นภายในแต่ละประเทศเพื่อการมีผลใช้บังคับของความตกลงฯ เรียบร้อยแล้ว” เพื่อให้การเข้าเป็นภาคีของความตกลงฯ เป็นไปอย่างสมบูรณ์
|
|||||||||||||||||||||||||||
28456 | รายงานข้อมูลปัญหาอาชญากรรม (ในรอบเดือนมกราคม 2556) | ตช | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานข้อมูลปัญหาอาชญากรรม ในรอบเดือนมกราคม ๒๕๕๖ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ด้านการป้องกันอาชญากรรม ๑.๑ คดีกลุ่มที่ ๑ คดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ มีการรับแจ้งคดีทั้งสิ้น ๔๒๒ คดี ๑.๒ คดีกลุ่มที่ ๒ คดีประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย และเพศ มีการรับแจ้งคดีทั้งสิ้น ๒,๐๗๐ คดี ๑.๓ คดีกลุ่มที่ ๓ คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ มีการรับแจ้งคดีทั้งสิ้น ๔,๐๔๖ คดี ๒. ด้านการปราบปรามอาชญากรรม ๒.๑ คดีกลุ่มที่ ๑ จับกุมได้ ๒๕๓ คดี คิดเป็นร้อยละ ๕๙.๙๕ ของการรับแจ้ง (๔๒๒ คดี) ๒.๒ คดีกลุ่มที่ ๒ จับกุมได้ ๑,๐๘๗ คดี คิดเป็นร้อยละ ๕๒.๕๑ ของการรับแจ้ง (๒,๐๗๐ คดี) ๒.๓ คดีกลุ่มที่ ๓ จับกุมได้ ๑,๗๐๒ คดี คิดเป็นร้อยละ ๔๒.๐๗ ของการรับแจ้ง (๔,๐๔๖ คดี) ๓. ด้านการประชาสัมพันธ์ ได้ดำเนินการเร่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์สื่อต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ให้ประชาชนมีความระมัดระวังในการรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของตนเองให้มากยิ่งขึ้น โดยไม่เปิดโอกาสให้คนร้ายเข้ามาประทุษร้ายต่อทรัพย์ของตนเองได้ง่าย รวมทั้งการให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสการกระทำผิดของคนร้าย สำหรับกรณีที่มีการจับกุมผู้กระทำความผิดในคดีที่ก่อให้เกิดความเสียหายในภาพรวมหรือกระทบต่อความสงบสุขในการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชน ให้พิจารณาจัดแถลงข่าวทางสื่อมวลชนให้ประชาชนได้รับทราบ ๔. สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาแต่ละระดับเร่งรัดมาตรการด้านสายตรวจให้มีความถี่เพิ่มมากขึ้น เพื่อลดแรงจูงใจในการกระทำผิด ตามห้วงเวลาที่เกิดเหตุมากของแต่ละพื้นที่ ให้แต่ละหน่วยพิจารณาระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในห้วงเวลาที่เหมาะสม เป็นประจำทุกเดือน ๆ ละไม่น้อยกว่า ๕ วัน และให้มีการเร่งรัดจับกุมคดีค้างเก่าอย่างจริงจัง ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญในการระดมกวาดล้าง ได้แก่ อาวุธปืน อาวุธสงคราม และวัตถุระเบิด มือปืนรับจ้างและผู้มีอิทธิพลที่กระทำความผิด คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คดีค้างเก่าตามหมายจับ คดียาเสพติดให้โทษ และอบายมุขทุกประเภท
|
|||||||||||||||||||||||||||
28457 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงพาณิชย์) (นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์) | พณ | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการพาณิชย์ (นักวิชาการพาณิชย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
28458 | การขอปรับปรุงสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของ กฟผ. | พน | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบการปรับปรุงสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยให้มีผลใช้บังคับเมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้ว ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (ครส.) ในการประชุมครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การตรวจมะเร็งเต้านม โดยการทำ Mammogram และการ Ultrasound ในรายการตรวจสุขภาพประจำปี สำหรับผู้ปฏิบัติงานที่มีอายุ ๔๐ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ในวงเงินเท่าที่จ่ายจริงไม่เกินครั้งละ ๑,๗๐๐ บาท โดยผู้ที่อายุ ๔๐ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป แต่ยังไม่ครบ ๕๐ ปี ให้ได้รับการตรวจทุก ๑ ปี ส่วนผู้ที่อายุ ๕๐ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ให้ได้รับการตรวจทุก ๒ ปี ยกเว้นกรณีมีข้อบ่งชี้ให้ตรวจทุกปี ๑.๒ การเบิกค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลและคลินิกเอกชน สำหรับผู้ปฏิบัติงาน คู่สมรส บุตร และบิดามารดา ได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกินครั้งละ ๑,๐๐๐ บาท แต่รวมกันไม่เกินปีละ ๓,๖๐๐ บาท ๒. ให้กระทรวงพลังงาน กระทรวงแรงงาน และ ครส. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการปรับปรุงสวัสดิการการตรวจมะเร็งเต้านมโดยการทำ Mammogram และการ Ultrasound ในรายการตรวจสุขภาพประจำปี ควรกำหนดเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งค่าตรวจและเงื่อนไขการตรวจสำหรับหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ ส่วนการปรับปรุงสภาพการจ้างเกี่ยวกับการเบิกค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกของสถานพยาบาลและคลินิกเอกชน จะต้องตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินดังกล่าวและบริหารจัดการลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ควบคุมได้ รวมทั้งมีแนวทางในการเพิ่มรายได้เพื่อให้ครอบคลุมรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น โดยอาจพิจารณากำหนดเป็นเงื่อนไขให้คงสัดส่วนของรายจ่ายด้านบุคลากรต่อรายได้ให้คงอยู่ในอัตราเดิม และในกรณีผู้มีอายุก่อน ๔๐ ปี ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่มีข้อบ่งชี้ที่มีประวัติญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านมก็ควรให้ทำการตรวจ Mammogram นอกจากนี้ ให้ ครส. พิจารณาการปรับเพิ่มสวัสดิการเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพดังกล่าวให้เป็นธรรมแก่ทุกรัฐวิสาหกิจ โดยเพิ่มเติมรายการการตรวจ Mammogram ไว้ในรายการตรวจสุขภาพประจำปี ทั้งนี้ ให้พิจารณาความสามารถในการจ่ายของแต่ละรัฐวิสาหกิจประกอบด้วย และให้ กฟผ. ระบุไว้ในเงื่อนไขการเบิกค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลและคลินิกเอกชนให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถเบิกได้เฉพาะในกรณีเจ็บป่วยกะทันหัน และ/หรือ ไม่มีสถานพยาบาลของราชการอยู่ใกล้เท่านั้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
28459 | แผนการลงทุนเกษตรแบบมีสัญญากับประเทศเพื่อนบ้าน (Contract Farming) ภายใต้ยุทธศาสตร์อิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง (ACMECS) ประจำปี 2556 | พณ | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบแผนการลงทุนและแนวทางดำเนินโครงการลงทุนเกษตรแบบมีสัญญากับประเทศเพื่อนบ้าน (Contract Farming) ภายใต้ยุทธศาสตร์อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy : ACMECS) ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงโครงการฯ ให้กระทรวงพาณิชย์สามารถดำเนินการได้ โดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับสาระสำคัญของแผนการลงทุนฯ ฯ ในยุทธศาสตร์ ACMECS ประกอบด้วย ๑.๑.๑ การกำหนดชนิดและปริมาณ พืชเกษตรเป้าหมาย ๑๐ ชนิด ปริมาณรวม ๑,๐๐๓,๒๐๐ ตัน ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ๒๐๐,๐๐๐ ตัน ถั่วเหลือง ๑๐๐,๐๐๐ ตัน ถั่วลิสง ๖,๕๐๐ ตัน ถั่วเขียวผิวมัน ๑๒,๐๐๐ ตัน งา ๑๐,๒๐๐ ตัน ข้าวโพดหวาน ๒๒,๐๐๐ ตัน ลูกเดือย ๕๐,๐๐๐ ตัน ละหุ่ง ๒,๕๐๐ ตัน มันสำปะหลัง (มันเส้น) ๒๐๐,๐๐๐ ตัน และไม้ยูคาลิปตัส ๔๐๐,๐๐๐ ตัน ๑.๑.๒ การนำเข้าผลผลิตพืชเป้าหมาย ระยะเวลานำเข้า สำหรับพืชเป้าหมาย จำนวน ๙ ชนิด ได้แก่ ข้าวโพดหวาน งา ลูกเดือย ละหุ่ง ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วเขียวผิวมัน มันสำปะหลัง (มันเส้น) และไม้ยูคาลิปตัส ผลผลิตตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ถึง ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ และระยะเวลานำเข้าผลผลิต สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม ถึง ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ๑.๑.๓ เงื่อนไขการนำเข้า ให้ผลผลิตพืชที่นำเข้าประเทศไทยภายใต้แผนการลงทุนฯ ในยุทธศาสตร์ ACMECS ที่มีถิ่นกำเนิดจากราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ จะต้องมีหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าแบบฟอร์ม Form D ATIGA ใบรับรองสุขอนามัยที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานที่มีอำนาจออกหนังสือรับรองดังกล่าวของประเทศที่ส่งออก และต้องรายงานการนำเข้าผลผลิตภายใต้โครงการ ACMECS Contract Farming รวมทั้งปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ๑.๑.๔ สิทธิพิเศษที่ได้รับ กำหนดให้ผลผลิตพืชนำเข้าไทยภายใต้แผนการลงทุนฯ ในยุทธศาสตร์ ACMECS ที่มีถิ่นกำเนิดจากราชอาณาจักรกัมพูชา สปป.ลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ได้รับสิทธิพิเศษภาษีศุลกากรนำเข้าในอัตราร้อยละศูนย์ ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมพิเศษ (ถ้ามี) รวมทั้งได้รับความช่วยเหลือภายใต้ยุทธศาสตร์ ACMECS จากสาขาความร่วมมือด้านเกษตร และสาขาการอำนวยความสะดวกทางด้านการค้าและการลงทุน ๑.๒ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป้าหมายปฏิบัติงานตามแนวทางการดำเนินงานแผนการลงทุนเกษตรแบบมีสัญญากับประเทศเพื่อนบ้านภายใต้ยุทธศาสตร์ ACMECS ๑.๓ อนุมัติการยกเว้นค่าธรรมเนียมพิเศษสำหรับการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในอัตราน้ำหนักสุทธิเมตริกตันละศูนย์บาท สำหรับการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในโครงการความร่วมมือเกษตรแบบมีสัญญากับประเทศเพื่อนบ้าน ปี ๒๕๕๖ ภายใต้ยุทธศาสตร์ ACMECS โดยผู้นำเข้าจะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณารายละเอียดเพื่อบริหารจัดการช่วงเวลาและปริมาณการนำเข้าสินค้าเกษตรตามโครงการแผนการลงทุนเกษตรแบบมีสัญญากับประเทศเพื่อนบ้าน (Contract Farming) ภายใต้ยุทธศาสตร์อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ประจำปี ๒๕๕๖ ให้เหมาะสม โดยไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณและราคาของสินค้าเกษตรภายในประเทศของไทย และในกรณีสินค้าเกษตรที่จะนำเข้าชนิดใดมีคณะกรรมการเฉพาะที่มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลโดยตรงอยู่ด้วย เช่น คณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช เป็นต้น ให้นำเรื่องการนำเข้าสินค้าเกษตรชนิดนั้น ๆ เสนอคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องพิจารณาตามขั้นตอนก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการประชาสัมพันธ์การประกาศใช้แผนการลงทุนฯ ให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นควรขยายระยะเวลาการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นตั้งแต่ ๑ มกราคม ถึง ๓๑ ธันวาคม เพื่อให้เท่าเทียมกับระยะเวลาการนำเข้าของพืชเป้าหมายอีก ๙ ชนิด โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อเกษตรกรภายในประเทศและความสอดคล้องกับการจัดระบบการนำเข้าภายในประเทศ รวมทั้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปรับเป้าหมายปฏิบัติงานตามแนวทางดำเนินงานดังกล่าว นอกจากนี้ ให้ผู้นำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
28460 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... | คค | 05/03/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เพื่อสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้า และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม อนุรักษ์ทรัพยากรและด้านสังคมของประชาชนในพื้นที่ควบคู่ด้วย รวมทั้งควรพิจารณาถึงความสอดคล้องกับรูปแบบ/กิจกรรมดำเนินการของศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย และการวางแผนการบริหารจัดการและพัฒนาการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ให้สามารถรองรับกิจกรรมการขนส่งถ่ายสินค้าข้ามพรมแดนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตามแนวโน้มการค้าและบริบทการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
.....