ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1425 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 28481 - 28500 จากข้อมูลทั้งหมด 124003 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
28481 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลนางแล อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... | มท | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลนางแล อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตเทศบาลตำบลนางแล อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เพื่อประโยชน์ในด้านการควบคุมเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การสาธารณสุข การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
28482 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในเขตเทศบาลตำบลหนองล่อง อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน พ.ศ. .... | มท | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในเขตเทศบาลตำบลหนองล่อง อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในเขตเทศบาลตำบลหนองล่อง อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน เพื่อประโยชน์ในด้านการควบคุมเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การสาธารณสุข การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
28483 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในเขตเทศบาลตำบลกรับใหญ่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี พ.ศ. .... | มท | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยถอนร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในเขตเทศบาลตำบลกรับใหญ่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
28484 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนลำนารายณ์ จังหวัดลพบุรี พ.ศ. .... | มท | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนลำนารายณ์ จังหวัดลพบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลนิคมลำนารายณ์ ตำบลลำนารายณ์ ตำบลบัวชุม ตำบลบ้านใหม่สามัคคี ตำบลชัยนารายณ์ ตำบลท่ามะนาว และตำบลท่าดินดำ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
28485 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดนครปฐม พ.ศ. .... | มท | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดนครปฐม พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้ผังเมืองรวม ในท้องที่จังหวัดนครปฐม เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
28486 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของวุฒิสภา พร้อมผลการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคตามข้อสังเกตดังกล่าว และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป โดยข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ มีดังนี้
๑. นิยามคำว่า "บริการ" ที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค ในปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากอาจหมายความรวมถึงการประกอบวิชาชีพอื่น เช่น การบริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขที่มีกฎหมายเฉพาะกำหนดไว้ ดังนั้น จึงควรกำหนดขอบเขตและระบุคำจำกัดความของนิยามคำว่า "บริการ" ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภคให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางปฏิบัติในการตีความถ้อยคำดังกล่าว ๒. นิยามคำว่า "สินค้าที่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค" ในปัจจุบัน หมายความว่า สินค้าที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ อนามัย หรือจิตใจของผู้บริโภคเท่านั้น ซึ่งนิยามดังกล่าวไม่ได้หมายความรวมถึงอันตรายต่อทรัพย์สินของผู้บริโภค ดังนั้น หากสินค้านั้นก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้บริโภคจึงควรพิจารณาถึงความเหมาะสมและความจำเป็นว่าสมควรจะให้อำนาจของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคครอบคลุมไปถึงการคุ้มครองทรัพย์สินของผู้บริโภคด้วยหรือไม่ ๓. ควรกำหนดระยะเวลาเร่งรัดในการดำเนินการออกกฎกระทรวงการยื่นคำขอ และการรับรองสมาคมและมูลนิธิเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้กฎหมายเกิดผลในทางปฏิบัติที่ชัดเจนอันจะเป็นประโยชน์ต่อการคุ้มครองผู้บริโภค ๔. ควรเร่งรัดให้มีการเสนอกฎหมายกำหนดบทลงโทษสมาคมหรือมูลนิธิ รวมถึงกรรมการที่ฟ้องคดีโดยไม่สุจริต
|
|||||||||||||||||||||||||||
28487 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ พ.ศ. .... | สผ | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของที่ประชุมสภาแทนราษฎร และผลการพิจารณาของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ตามข้อสังเกตของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ พ.ศ. .... และให้แจ้งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป โดยข้อสังเกตฯ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. รัฐควรสนับสนุนให้มีการเปิดคลินิกให้คำปรึกษาของผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ให้ผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์มีทักษะด้านการให้คำปรึกษา (Counseling) ซึ่งเป็นกระบวนการให้คำปรึกษาแนะนำ การเข้าถึงอารมณ์จิตใจของผู้ใช้บริการ โดยจะช่วยให้เกิดการเรียงลำดับทางความคิดอย่างเป็นระบบและนำไปสู่กระบวนการสื่อสารสองทาง เพื่อให้ผู้ใช้บริการเกิดการตัดสินใจได้ด้วยตนเอง หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านความคิดและพฤติกรรมของผู้ใช้บริการในระยะยาว ๒. รัฐควรเร่งพัฒนาและผลิตผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ที่มีคุณภาพให้มีจำนวนเพียงพอ พร้อมทั้งต้องมีทักษะการปฏิบัติงานที่มีมาตรฐาน และมีความเป็นมืออาชีพ เพื่อความพร้อมในการแข่งขันกับต่างประเทศ และเพื่อให้เกิดความพร้อมก่อนการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ๓. รัฐควรให้การส่งเสริมและสนับสนุนวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ เพื่อให้ผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์เป็นบุคลากรที่มีความรู้ทักษะ และได้รับการกำกับด้านจรรยาบรรณทางวิชาชีพ นอกจากนี้รัฐควรสนับสนุนให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ที่ช่วยเหลือและทำประโยชน์ให้แก่สังคม อันเป็นภารกิจประการหนึ่งในการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในด้านสิทธิและโอกาสทางสังคม ๔. ควรมีการพิจารณาอัตราค่าธรรมเนียมวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ต่าง ๆ ในอัตราที่เหมาะสม และไม่ควรเรียกเก็บในอัตราสูงสุดในช่วงแรก และจะต้องมีข้อกำหนดเกี่ยวกับระยะเวลาในการต่อใบอนุญาตที่ชัดเจน ทั้งนี้ เพื่อให้โอกาสแก่ผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ในการเข้าสู่กระบวนการควบคุมมาตรฐานและจรรยาบรรณเป็นสำคัญ ๕. ให้คณะกรรมการสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ดำเนินการออกข้อบังคับเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต รวมทั้งประชาชนผู้รับบริการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
28488 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจด้านการลงทุนระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งราชอาณาจักรไทยกับหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนเอกชนแห่งราชอาณาจักรเปรู (PROINVERSION) | อก | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการลงนามในบันทึกความเข้าใจด้านการลงทุนระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งราชอาณาจักรไทยกับหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนเอกชนแห่งราชอาณาจักรเปรู (Memorandum of Understanding Concerning Cooperation on the Promotion of Bilateral Investments to be signed between the Board of Investment of the Kingdom of Thailand and the Private Investment Promotion Agency of Peru) ซึ่งมีสาระสำคัญในเรื่องความร่วมมือทางด้านการลงทุนและการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการจัดทำฐานข้อมูลการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ได้จัดทำความร่วมมือในการส่งเสริมการลงทุนภายใต้กรอบความตกลงต่าง ๆ ในการอำนวยความสะดวก และช่วยในการวางแผนประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนไทย เพื่อเป็นการส่งเสริมให้นักลงทุนไทยไปลงทุนในต่างประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
28489 | การเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในภารกิจของกรมคุมประพฤติ | ยธ | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมคุมประพฤติเช่ารถยนต์บรรทุกแบบตู้โดยสารปรับอากาศ (เบนซิน) ขนาด ๑๕ ที่ นั่ง พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) จำนวน ๙๓ คัน ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๖๐ รวม ๕ ปี ตามนัยมาตรา ๒๓ วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในอัตราค่าเช่ารถยนต์ ๓๓,๙๐๐ บาทต่อคันต่อเดือน รวมเป็นเงิน ๑๗๐,๒๔๕,๘๐๐ บาท ซึ่งกระทรวงการคลังให้ความเห็นชอบอัตราค่าเช่าแล้ว โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๗ ให้ใช้จ่ายจากเงินดอกเบี้ยอันเกิดจากเงินกลางของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาค่าใช้จ่ายเงินดอกเบี้ยอันเกิดจากเงินกลางของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมได้อนุมัติไว้แล้ว จำนวน ๓๕,๗๘๑,๑๐๐ บาท ส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๑๓๔,๔๖๔,๗๐๐ บาท ให้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๐ และให้กระทรวงยุติธรรมจัดสรรเงินดอกเบี้ยอันเกิดจากเงินกลางของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมมาสมทบเพื่อการเช่ารถยนต์ดังกล่าวในสัดส่วนร้อยละ ๑๐ ของวงเงินส่วนที่เหลือต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
28490 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏจันทรเกษม พ.ศ. .... | นร09 | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการชี้แจงเหตุผลความจำเป็นในการให้ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมีผลใช้บังคับย้อนหลังเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในการนำร่างพระราชกฤษฎีกาในเรื่องนี้ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ต่อไป และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดให้ใช้บังคับร่างพระราชกฤษฎีกานี้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เว้นแต่ปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา และสีประจำสาขาวิชาในสาขาวิชาการแพทย์แผนจีนบัณฑิต ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๕ เป็นต้นไป ๒. กำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ๓. กำหนดครุยวิทยฐานะของมหาวิทยาลัย ครุยประจำตำแหน่งและเครื่องหมายประกอบครุยประจำตำแหน่งของนายกสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี และกรรมการสภามหาวิทยาลัย ๔. กำหนดเข็มวิทยฐานะของมหาวิทยาลัย ๕. กำหนดสีประจำสาขาวิชา
|
|||||||||||||||||||||||||||
28491 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงการต่างประเทศ (นายพีรศักย จันทวรินทร์) | กต | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศแจ้งการแต่งตั้งนายพีรศักย จันทวรินทร์ เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง เป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของกระทรวงการต่างประเทศ
|
|||||||||||||||||||||||||||
28492 | การสนับสนุนงบประมาณค่าสร้างและซ่อมเครื่องราชอิสริยาภรณ์และการเร่งรัดให้ส่งคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นรอง | นร | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการการจัดสรรงบประมาณค่าสร้างและซ่อมเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพายให้ได้เต็มจำนวนที่พร้อมจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสำหรับพระราชทานแก่ผู้ที่ได้รับพระราชทานประจำปีแต่ละปี และไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๔๐ ของจำนวนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในชั้นต่ำกว่าสายสะพาย โดยให้หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมและกระทรวงพิจารณาเร่งรัดการส่งคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นรองตามระเบียบและกฎเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด และให้นำเรื่องการส่งคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ประกอบการพิจารณาเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ในกรณีเลื่อนชั้นตราสูงขึ้น ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ โดยในส่วนของงบประมาณจัดสร้างเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพายเพิ่มเติมอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว จำนวน ๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้ทุกส่วนราชการส่งข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ รวมถึงข้าราชการประเภทอื่นในระดับที่เทียบเท่า ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อประกอบการนำเสนอคณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพายพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์การเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย (ประถมาภรณ์มงกุฎไทย) เพื่อมิให้เกิดความเหลื่อมล้ำและมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีขอความร่วมมือหน่วยงานขององค์กรตามรัฐธรรมนูญส่งข้อมูลดังกล่าวด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
28493 | แจ้งผลคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ 225/2552 คดีหมายเลขแดงที่ 63/2556 ระหว่างนายสุวิช ชมพูนุทจินดา ผู้ฟ้องคดีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ 1 คณะรัฐมนตรี ที่ 2 ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย | ทส | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแจ้งคำพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ ๒๒๕/๒๕๕๒ คดีหมายเลขแดงที่ ๖๓/๒๕๕๖ ระหว่างนายสุวิช ชมพูนุทจินดา ผู้ฟ้องคดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ ๑ คณะรัฐมนตรี ที่ ๒ ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีคำพิพากษายกฟ้อง
|
|||||||||||||||||||||||||||
28494 | ขอยืนยันการขออนุมัติงบกลางสำหรับชดเชยค่าปฏิบัติการฉุกเฉินที่สูงกว่าเป้าหมายที่ได้รับจัดสรรชดเชยปฏิบัติการในพื้นที่เฉพาะและภาวะภัยพิบัติค้างจ่าย | สธ | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติค่าใช้จ่ายสำหรับชดเชยค่าปฏิบัติการฉุกเฉินที่สูงกว่าเป้าหมายที่ได้รับจัดสรรชดเชยปฏิบัติการในพื้นที่เฉพาะและภาวะภัยพิบัติค้างจ่ายให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ในกรอบวงเงินทั้งสิ้น ๒๙๙,๖๑๓,๕๗๘ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
๑. ค่าใช้จ่ายสำหรับชดเชยค่าปฏิบัติการฉุกเฉินที่ออกปฏิบัติการไปแล้วและผลงานสูงกว่าเป้าหมายงบประมาณ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ และปี พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๗๑๙,๗๘๖ ครั้ง จำนวน ๒๗๕,๒๗๗,๐๕๐ บาท ประกอบด้วย งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว จำนวน ๑๖๘,๐๐๐,๐๐๐ บาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ของกองทุนแพทย์ฉุกเฉิน จำนวน ๑๐๗,๒๗๗,๐๕๐ บาท ๒. งบชดเชยที่ปฏิบัติการในพื้นที่เฉพาะ เป็นวงเงิน ๒๔,๓๓๖,๕๒๘ บาท ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ของกองทุนแพทย์ฉุกเฉิน ที่ได้ตั้งงบประมาณไว้แล้ว จำนวน ๗๗๓,๗๘๖,๐๐๐ บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
28495 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายละเอียดรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 (กรมโยธาธิการและผังเมือง จำนวน 4 รายการ) | มท | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองเปลี่ยนแปลงรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ของโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำและริมทะเลทั่วประเทศและผลผลิตงานด้านช่างที่ให้บริการ จาก ๓ รายการ วงเงินรวม ๑๓๓,๕๐๐,๐๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๕-พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำ ๔ รายการ วงเงินรวม ๑๓๓,๕๐๐,๐๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๕-พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ จำนวน ๒๐,๐๒๕,๐๐๐ บาท ซึ่งสำนักงบประมาณอนุมัติหลักการให้โอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่าย และได้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีกับกรมบัญชีกลางแล้ว ส่วนที่เหลือ จำนวน ๑๑๓,๔๗๕,๐๐๐ บาท ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ จำนวน ๔๗,๐๙๔,๗๐๐ บาท และเสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๖๖,๓๘๐,๓๐๐ บาท เพื่อให้ครบค่างานต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองดำเนินการตามระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต่อไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตของกระทรวงการคลังที่ว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองควรดำเนินการขอโอนเปลี่ยนแปลงรายการกับสำนักงบประมาณให้เสร็จสิ้นก่อนสิ้นปีงบประมาณ และดำเนินการกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีในรายการใหม่ เพื่อให้การเบิกจ่ายเงินงบประมาณเป็นไปตามแผน ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
28496 | รายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการและงบประมาณ ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2554 - 2556) ภายใต้แผนแม่บทป้องกันและบรรเทาภัยจากคลื่นสึนามิ พ.ศ. 2552 - 2556 | มท | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการและงบประมาณ ระยะ ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๕๖) ภายใต้แผนแม่บทป้องกันและบรรเทาภัยจากคลื่นสึนามิ พ.ศ. ๒๕๕๒-๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รวบรวมผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ และการนำแผนงาน/โครงการ และกิจกรรม ตามแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ของหน่วยงานที่ร่วมบูรณาการ จำนวน ๘๑ หน่วยงาน สรุปได้ ดังนี้
๑. ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ มีหน่วยงานแจ้งผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ จำนวน ๔๔ แห่ง โดยมีแผนงาน/โครงการที่ได้รับงบประมาณเพื่อดำเนินการ จำนวน ๓๒ แผนงาน/โครงการ เป็นเงิน ๑,๖๔๗.๔๒๓๔ ล้านบาท ดำเนินการแล้วเสร็จ ๒๖ แผนงาน/โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการ ๕ แผนงาน/โครงการ และไม่ได้ดำเนินการเนื่องจากไม่เกิดภัย ๑ แผนงาน/โครงการ ๒. ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ มีแผนงาน/โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ที่กำหนดให้ดำเนินการ จำนวน ๒๒๐ แผนงาน/โครงการ งบประมาณ ๔,๑๓๒.๕๘๔๓ ล้านบาท มีแผนงาน/โครงการได้รับงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อดำเนินการ จำนวน ๑๘ แผนงาน/โครงการ เป็นเงิน ๒,๕๔๔.๑๔๐๑ ล้านบาท ดำเนินการโดย ๘ หน่วยงาน ประกอบด้วย ด้านการป้องกันและลดผลกระทบ งบประมาณที่ได้รับ ๒,๕๓๗.๐๒๐๑ ล้านบาท ด้านการเตรียมความพร้อมรับภัย งบประมาณที่ได้รับ ๕.๐๐๐๐ ล้านบาท และด้านการจัดการหลังเกิดภัย งบประมาณที่ได้รับ ๒.๑๒๐๐ ล้านบาท ๓. กรณีที่ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ หน่วยงานต่าง ๆ มีการดำเนินการปรับแผนการดำเนินงานเป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ขอรับการสนับสนุนจากงบประมาณอื่น เจียดจ่ายงบประมาณปกติมาดำเนินโครงการ และขอใช้งบประมาณเหลือจ่ายจากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖
|
|||||||||||||||||||||||||||
28497 | แผนแม่บทเร่งด่วนเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ประจำปี 2556 | พม | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบแผนแม่บทเร่งด่วนเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ประจำปี ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นแผนที่จัดทำขึ้นเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยมีประเด็นเร่งด่วน ได้แก่ การค้ามนุษย์ในรูปแบบแรงงาน การดูแลแรงงานที่เสี่ยงต่อการถูกค้ามนุษย์ การปรับปรุงพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ระบบการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินคดี การอนุญาตให้ผู้เสียหายอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานได้เป็นการชั่วคราว การค้ามนุษย์กับการท่องเที่ยว การให้ข้อมูลและภาพลักษณ์ของประเทศไทย รวมทั้งทรัพยากรในการดำเนินงานตามแผนแม่บทเร่งด่วน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามแผนแม่บทฯ และรายงานผลการดำเนินงานและความคืบหน้าให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อรวบรวมนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ และตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอเพิ่มเติมว่า เห็นควรเพิ่มประเด็นเร่งด่วนด้านการแพทย์และสาธารณสุขไว้ในแผนแม่บทฯ โดยให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการใช้จ่ายหรือปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณให้สอดคล้องกับแผนแม่บทฯ โดยด่วน ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ส่วนเรื่องอัตรากำลังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับแผนแม่บทฯ ให้มีการบริหารกำลังคนและเกลี่ยอัตรากำลังจากทุกส่วนราชการภายในกระทรวงหรือกรมของตนก่อน ตามข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.ร. ทั้งนี้ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงแรงงาน ที่เห็นควรประชาสัมพันธ์การดำเนินงานตามแผนแม่บทฯ ให้นานาประเทศและองค์การระหว่างประเทศได้รับทราบ และแก้ไขข้อความในแผนแม่บทฯ ให้ถูกต้อง ได้แก่ “การดำเนินการของศูนย์ประสานงานประมงจังหวัด หน่วยงานหลัก กระทรวงมหาดไทย กรมการจัดหางาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมประมง กรมเจ้าท่า สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย” รวมทั้ง “การดำเนินการยกร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการทำงานของคนต่างด้าวที่เป็นผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นค่าธรรมเนียมการทำงานของคนต่างด้าวที่เป็นผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และอนุญาตให้ทำงานได้ในระหว่างรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร” เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กำกับดูแลและบูรณาการการดำเนินการการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ทั้งระบบเพื่อให้การดูแลและคุ้มครองแรงงาน เด็ก สตรี คนชรา คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส ทั้งที่เป็นคนไทยและคนต่างชาติ เพื่อให้เกิดประสิทธิผลและประสิทธิภาพอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป รวมทั้งประสานกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อกำหนดหมายเลขโทรศัพท์สายด่วนในการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์เพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในลักษณะเบ็ดเสร็จ (One-Stop-Service) โดยสามารถประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว ทันการณ์ และให้ประสานกับเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ (workshop) เพื่อสร้างความเข้าใจในนโยบายและแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนนำไปปฏิบัติได้และเป็นเอกภาพเดียวกันต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
28498 | การขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขอขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันค่าก่อสร้างอาคารที่ทำการกระทรวงยุติธรรม พร้อมส่วนประกอบ | ยธ | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารที่ทำการกระทรวงยุติธรรม พร้อมส่วนประกอบ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ เป็นเงิน ๑,๕๐๒,๕๒๐,๐๐๐ บาท โดยปรับลดงานครุภัณฑ์ประกอบอาคารดังกล่าว ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๑๒๒,๑๑๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นรายการที่กระทรวงยุติธรรมได้รับอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินถึงสิ้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ แล้ว หากไม่สามารถเบิกจ่ายเงินดังกล่าวได้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้กระทรวงยุติธรรมขอทำความตกลงขอขยายระยะเวลาเบิกจ่ายเงินผ่านระบบ GFMIS ภายในรอบระยะเวลาเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ ตามนัยหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค ๐๔๐๖.๖/ว ๑๐๔ ลงวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๕ เรื่อง การกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและ/หรือการขยายเวลาเบิกจ่ายเงินผ่านระบบ GFMIS ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ เมื่อการก่อสร้างอาคารที่ทำการกระทรวงยุติธรรมแล้วเสร็จ หากกระทรวงยุติธรรมประสงค์จะยกเลิกการใช้พื้นที่ภายในโครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ก็ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) รับไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแผนการใช้ประโยชน์ในพื้นที่โครงการศูนย์ราชการฯ ในภาพรวมให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งเพื่อเตรียมการป้องกันผลกระทบกรณีหน่วยงานต่าง ๆ ขอยกเลิกการใช้พื้นที่ภายในโครงการศูนย์ราชการฯ ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเช่าอาคารหรือสถานที่ที่ใช้เป็นที่ทำการของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำแผนในเรื่องนี้ด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
28499 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีกหนึ่งปี จำนวน 9 ฉบับ) | มท | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวงมีสาระสำคัญคือแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อขยายระยะเวลาการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีกหนึ่งปีเพิ่มขึ้น จำนวน ๙ ฉบับ ดังนี้
๑. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองหนองเสือ-คลองหลวง-ธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พ.ศ. ๒๕๕๐ ๒. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนหินกอง-โคกแย้ จังหวัดสระบุรี พ.ศ. ๒๕๕๐ ๓. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนทับกวาง จังหวัดสระบุรี พ.ศ. ๒๕๕๐ ๔. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองเพชรบุรี พ.ศ. ๒๕๕๐ ๕. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองเชียงราย พ.ศ. ๒๕๕๐ ๖. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองชัยภูมิ พ.ศ. ๒๕๕๐ ๗. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองเพชรบูรณ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ๘. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองสมุทรสาคร พ.ศ. ๒๕๕๐ ๙. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพังงา พ.ศ. ๒๕๕๐
|
|||||||||||||||||||||||||||
28500 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนฉลองกรุง พ.ศ. .... | มท | 27/02/2556 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนฉลองกรุง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนฉลองกรุง ในท้องที่แขวงลำผักชี เขตหนองจอก และแขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....