ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1394 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 27861 - 27880 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
27861 | ขอความเห็นชอบการกู้เงินในประเทศ เพื่อเป็นเงินลงทุนสำหรับการลงทุนในแผนงานระยะยาวของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค | มท | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ดำเนินการกู้เงินในประเทศภายใต้กรอบวงเงินรวม ๕,๘๔๘.๐๐ ล้านบาท เพื่อเป็นเงินลงทุนสำหรับการลงทุนในแผนงานระยะยาว จำนวน ๕ แผนงาน ได้แก่ แผนงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ระยะที่ ๓ แผนงานบำรุงรักษาอุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้า แผนงานจัดการทรัพย์สินระบบจำหน่ายไฟฟ้า แผนงานขยายโครงข่ายระบบสื่อสาร SDH และสายเคเบิลใยแก้วนำแสงให้ครอบคลุมการไฟฟ้าและสถานีไฟฟ้า ส่วนที่ ๑ และแผนงานออกแบบจัดหาพร้อมติดตั้ง IP Core Network โดยให้ทยอยดำเนินการกู้เงินตามความจำเป็นรายปีจนกว่าการดำเนินงานแล้วเสร็จตามที่ กฟภ. เสนอขอ ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง และให้กระทรวงมหาดไทย โดย กฟภ. รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาวงเงินกู้เพื่อการลงทุนตามความจำเป็นเพื่อลดความเสี่ยงจากภาระหนี้สินขององค์กรในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป สำหรับการดำเนินการตามแผนงานที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่น เช่น กรณีเป็นเรื่องเกี่ยวกับสายส่งไฟฟ้า ตามแผนงานการจัดการทรัพย์สินระบบจำหน่ายไฟฟ้า ให้กระทรวงมหาดไทย โดย กฟภ. หารือและประสานงานกับกระทรวงพลังงาน (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย) เพื่อให้เกิดความสอดคล้องและเชื่อมโยงเป็นระบบเดียวกันด้วย ๒. กรณีที่มีการดำเนินโครงการที่เกี่ยวกับการวางแผนจัดการ หรือลงทุนในระบบสาธารณูปโภค เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการหารือและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ เพื่อให้เกิดการบูรณาการ มีการดำเนินงานที่สอดคล้องกัน ลดความซ้ำซ้อน และประหยัดงบประมาณ ซึ่งจะทำให้เกิดประสิทธิภาพของงานและประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน |
|||||||||||||||||||||
27862 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2509 | มท | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๐๙ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๔๒ ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๐๙ เพื่อกำหนดลักษณะ ชนิด และประเภทของเครื่องแบบ และระเบียบในการแต่งเครื่องแบบของกรรมการหมู่บ้าน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ๒. ให้รับข้อสังเกตของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงฯ ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๔๒) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๐๙ ดังนั้น ข้อความ “ให้เพิ่มข้อความต่อไปนี้เป็นหมวด ๔/๑ เครื่องแบบกรรมการหมู่บ้าน ข้อ ๑๑/๑ แห่งกฎกระทรวง (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๔๒” ในร่างข้อ ๑ ควรแก้เป็น “ให้เพิ่มข้อความต่อไปนี้เป็นหมวด ๔/๑ เครื่องแบบกรรมการหมู่บ้าน ข้อ ๑๑/๑ แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๔๒) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๐๙” ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
27863 | ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ส่งใบสั่งทางไปรษณีย์) | มท | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๑๔๐ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๓๕ เพื่อกำหนดให้เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่พบการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกหรือกฎหมายอื่นเกี่ยวกับรถ สามารถส่งใบสั่งไปยังภูมิลำเนาของเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับได้ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรตรวจพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม และกระทรวงยุติธรรมไปหารือร่วมกันเพื่อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตขับขี่ การกำหนดระยะเวลาในการขับขี่ ตลอดจนการจัดตั้งศาลจราจร เป็นต้น อย่างบูรณาการเพื่อเป็นการป้องกันและลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น ทั้งสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป |
|||||||||||||||||||||
27864 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สผ | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พร้องผลการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคตามข้อสังเกตดังกล่าว และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป โดยในส่วนข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ เห็นว่า เนื่องจากพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ ได้ประกาศใช้บังคับมาเป็นเวลานาน ทำให้บทกำหนดโทษในพระราชบัญญัติดังกล่าว ไม่เหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบันและการกระทำของผู้ประกอบธุรกิจมีการละเมิดสิทธิของผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก กอปรกับคณะกรรมาธิการได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมบทกำหนดโทษในมาตรา ๙ มาตรา ๑๐ และมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... หากมีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ คราวต่อไป ควรมีการแก้ไขเพิ่มเติมบทกำหนดโทษในหมวด ๔ ว่าด้วยบทกำหนดโทษ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ ให้สอดคล้องกับการแก้ไขเพิ่มเติมบทกำหนดโทษในมาตรา ๙ มาตรา ๑๐ และมาตรา ๑๑ แห่งร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขบทกำหนดโทษเป็นไปอย่างมีระบบชัดเจน ซึ่งจะเป็นการป้องปรามการกระทำความผิด และเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
|
|||||||||||||||||||||
27865 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนหทัยราษฎร์ พ.ศ. .... | มท | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนหทัยราษฎร์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนหทัยราษฎร์ในท้องที่แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี แขวงบางชัน แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า การขยายถนนหทัยราษฎร์เป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาโครงข่ายถนนย่านกรุงเทพมหานคร ตะวันออก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพถนนรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นของกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ปัจจุบันกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการขยายถนนในส่วนถนนเสมอระดับในเส้นทางดังกล่าวให้เป็น ๔ ช่องจราจรใกล้จะสมบูรณ์แล้วคงเหลือเฉพาะส่วนก่อสร้างสะพานข้ามทางแยกและสะพานข้ามคลอง จึงเห็นควรให้กรุงเทพมหานครพิจารณากำหนดแผนดำเนินงานก่อสร้างดังกล่าวให้มีความชัดเจน เพื่อให้สามารถกำหนดระยะเวลาการบังคับใช้พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณดังกล่าวให้มีความสอดคล้องกับแผนการก่อสร้างโครงการฯ ก่อนดำเนินการตามขั้นตอน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
27866 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... | มท | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลนาเกลือ ตำบลหนองปรือ บางส่วนของตำบลหนองปลาไหล บางส่วนของตำบลโป่ง บางส่วนของตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง และบางส่วนของตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่า เพื่อให้การบังคับใช้กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... มีผลในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง เมื่อร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ประกาศใช้ หน่วยงานที่รับผิดชอบการวางผังจะต้องให้ความสำคัญต่อการควบคุมการดำเนินการให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎกระทรวงดังกล่าวอย่างเข้มงวดและต่อเนื่องต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการ |
|||||||||||||||||||||
27867 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สผ | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร และผลการดำเนินการตามข้อสังเกตดังกล่าวที่กระทรวงกลาโหมเสนอ แล้วแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป โดยในส่วนข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ เห็นควรให้แก้ไขอัตราเงินประจำตำแหน่งที่กำหนดขึ้นโดยพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. ๒๕๓๘ ให้เหมาะสมกับสภาวะทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากข้าราชการประเภทต่าง ๆ อาทิ ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ หรือแม้แต่ข้าราชการพลเรือนที่แม้จะแยกบัญชีอัตราเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งมาบัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการแต่ละประเภทแล้วก็ตาม แต่ยังคงต้องยึดโยงกับอัตราเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งเดิมตามพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. ๒๕๓๘ ซึ่งเป็นอัตราเงินประจำตำแหน่งที่น่าจะไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน หากมีการดำเนินการในภาพรวมแก่ข้าราชการดังกล่าวก็จะเป็นขวัญและกำลังใจ รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการด้วย
|
|||||||||||||||||||||
27868 | รายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา เรื่อง การส่งเสริมเกษตรแปรรูปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : กรณีข้าว | สว | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา เรื่อง การส่งเสริมเกษตรแปรรูปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : กรณีข้าว พร้อมข้อสังเกตและข้อเสนอแนะกับผลการดำเนินการตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะในประเด็นเกี่ยวกับการวิจัยข้าวไร้ทิศทาง การส่งเสริมเกษตรแปรรูปข้าว การถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีการแปรรูป การกำหนดนโยบายการวิจัยและพัฒนาในเชิงพาณิชย์ ผลการดำเนินการส่งเสริมเกษตรแปรรูปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การปรับปรุงกระบวนการผลิตข้าว ปัญหาเรื่องสิทธิทางปัญญาของงานวิจัยนวัตกรรมจากแป้งข้าวเจ้าเป็นเครื่องสำอาง และมาตรการการช่วยเหลือเกษตรกรด้านการตลาด ตามรายงานที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
27869 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพธิ์ตาก ตำบลบ้านผึ้ง ตำบลกุรุคุ ตำบลหนองญาติ และตำบลคำเตย อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโพธิ์ตาก ตำบลบ้านผึ้ง ตำบลกุรุคุ ตำบลหนองญาติ และตำบลคำเตย อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลโพธิ์ตาก ตำบลบ้านผึ้ง ตำบลกุรุคุ ตำบลหนองญาติ และตำบลคำเตย อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
27870 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ในท้องที่ตำบล (โคกหม้อ) ท่าระหัด อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ของวัดปราสาททอง ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... | พศ | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ในท้องที่ตำบล (โคกหม้อ) ท่าระหัด อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ของวัดปราสาททอง ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ตำบล (โคกหม้อ) ท่าระหัด อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๓๙๓ เนื้อที่ ๒ งาน ๘๗ ตารางวา ของวัดปราสาททอง ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ให้แก่กรมทางหลวง ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
27871 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ วัดโพธาราม ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... | พศ | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาโอนที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ วัดโพธาราม ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ให้แก่กรมชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ โอนที่วัดและที่ธรณีสงฆ์ วัดโพธาราม ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓) เลขที่ ๕๘๙ บางส่วน จำนวนเนื้อที่ ๓ ไร่ ๒ งาน ๘๗ ตารางวา ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓ ก) เลขที่ ๒๑๐๐ บางส่วน เนื้อที่ ๒ ไร่ ๒ งาน ๙๔ ตารางวา และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓ ก) เลขที่ ๒๑๘๕ ทั้งแปลง เนื้อที่ ๖ ไร่ ๑๐ ตารางวา ให้แก่กรมชลประทาน ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
27872 | สรุปผลการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ 16 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | กก | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ ๑๖ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม ๒๕๕๖ ณ กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ ๑๖ ๑.๑ รัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนยินดีกับความคืบหน้าของการดำเนินการตามแผนแม่บทว่าด้วยการเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน การจัดตั้งตลาดการบินร่วมอาเซียน การจัดทำความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งผู้โดยสารทางบกข้ามพรมแดน และการศึกษาเกี่ยวกับการจัดทำการตรวจลงตราเดียวอาเซียนสำหรับบุคคลที่มิใช่สัญชาติอาเซียน ๑.๒ รัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนร่วมยินดีกับการลงนามในข้อตกลงร่วมว่าด้วยการยอมรับคุณสมบัติวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวอาเซียน (Mutual Recognition Arrangement for ASEAN Tourism Professionals) ของไทย เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ณ กรุงเทพฯ เป็นผลให้ประเทศอาเซียนลงนามครบสิบประเทศ ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือภายในอาเซียนและการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี ๒๕๕๘ ๑.๓ รัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ร่วมรับรองแผนการดำเนินงานความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวอาเซียน+๓ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๖๐ ซึ่งเน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ การพัฒนาบุคลากร การส่งเสริมการตลาดร่วมกัน การท่องเที่ยวทางเรือสำราญ และการสื่อสารในสภาวะวิกฤติ รวมทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยผ่านศูนย์อาเซียน-จีน ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น และศูนย์อาเซียน-เกาหลีใต้ ในการนี้ รัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จของการเฉลิมฉลองให้ปี ๒๕๕๕ เป็นปี “Visit ASEAN Plus Three Year” ๒. ผลการหารือระดับทวิภาคี ประกอบด้วย การหารือทวิภาคีระหว่างไทยและกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายร่วมยินดีกับการจัดทำ Single Visa ระหว่างไทยกับกัมพูชาภายใต้กรอบความร่วมมือยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ซึ่งเริ่มใช้เมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๕ ทั้งนี้ หากประสบปัญหาในการดำเนินงานในระยะเริ่มต้น และอาจจำเป็นต้องมีการปรับแก้ไขเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง รัฐมนตรีท่องเที่ยวกัมพูชาในฐานะประธานคณะทำงานด่านชายแดนจะเชิญผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยเดินทางไปสำรวจด่านชายแดนร่วมกัน และการหารือทวิภาคีระหว่างไทยกับมาเลเซีย รัฐมนตรีท่องเที่ยวมาเลเซียแสดงความเสียใจต่อการอสัญกรรมของนายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากไทยและมาเลเซียมีการส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวมาโดยตลอด และเห็นควรกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี
|
|||||||||||||||||||||
27873 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลคลองใหญ่ ตำบลน้ำเชี่ยว อำเภอแหลมงอบ และตำบลวังกระแจะ ตำบลหนองโสน อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | กษ | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลคลองใหญ่ ตำบลน้ำเชี่ยว อำเภอแหลมงอบ และตำบลวังกระแจะ ตำบลหนองโสน อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลคลองใหญ่ ตำบลน้ำเชี่ยว อำเภอแหลมงอบ และตำบลวังกระแจะ ตำบลหนองโสน อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลคลองใหญ่ ตำบลน้ำเชี่ยว อำเภอแหลมงอบ และตำบลวังกระแจะ ตำบลหนองโสน อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์ นั้น ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
27874 | การปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล ค.ศ. 2006 | คค | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบในหลักการแนวทางการปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล ค.ศ. ๒๐๐๖ (Maritime Labour Convention : MLC 2006) เพื่อให้ประเทศไทยมีกฎหมายเกี่ยวกับมาตรฐานการจ้างคนประจำเรือ ๑๔ ด้าน ตามอนุสัญญาฯ เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการตราพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเลขึ้นมาบังคับใช้และประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงแรงงานดำเนินการออกประกาศกระทรวงแรงงานว่าด้วยมาตรฐานแรงงานทางทะเลเพื่อรองรับการดำเนินการตามอนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล ค.ศ. ๒๐๐๖ เป็นการเฉพาะ ๑.๒ ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการมาตรฐานแรงงานทางทะเล โดยให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอนุสัญญาร่วมเป็นคณะกรรมการและจัดหางบประมาณดำเนินการ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้กระทรวงคมนาคมโดยกรมเจ้าท่า กำหนดแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมและคล่องตัว รวมถึงประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐเจ้าของเมืองท่า เพื่อให้ทราบและเข้าใจถึงแนวทางการดำเนินการของประเทศไทยตามข้อกำหนดของอนุสัญญาฯ และให้กระทรวงแรงงานเร่งจัดทำร่างพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเลให้แล้วเสร็จโดยเร็ว พร้อมกับดำเนินการในขั้นตอนของการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ ด้วย เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวมีความสมบูรณ์และได้รับการยอมรับในระดับสากล ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
27875 | โครงการผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง ตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี 2555/56 | พน | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินโครงการผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง ตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี ๒๕๕๕/๕๖ ในไตรมาสที่ ๑/๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การดำเนินโครงการผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังในไตรมาสที่ ๑/๒๕๕๖ ตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี ๒๕๕๕/๕๖ มีสัดส่วนการใช้เอทานอลจากกากน้ำตาล : มันสำปะหลัง ในการผลิตเอทานอล เป็น ๗๗.๕ : ๒๒.๕ คิดเป็นปริมาณการใช้เอทานอลจากกากน้ำตาล : มันสำปะหลัง เท่ากับ ๑๕๗,๗๒๑,๔๓๐ ลิตร : ๔๕,๗๒๓,๒๓๕ ลิตร คิดเป็นปริมาณการใช้หัวมันสด จำนวน ๒๘๖,๒๒๗.๔๕ ตัน แต่มีการใช้หัวมันสดในโครงการฯ เพียง ๕๓,๑๔๕.๓๒ ตัน เนื่องจากมีเกษตรกรมาจำนำหัวมันสดที่โรงงานเอทานอลที่เปิดเป็นจุดรับจำนำน้อย ทำให้ปริมาณมันสดตามโครงการรับจำนำมันสำปะหลังเพื่อใช้ผลิตเอทานอลไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ผลิตเอทานอลที่เข้าร่วมโครงการฯ อีกทั้งองค์การคลังสินค้ายังไม่ส่งมอบมันเส้นในโครงการฯ ทำให้ผู้ผลิตเอทานอลจำเป็นต้องใช้มันสดและมันเส้นในประเทศซึ่งอยู่นอกโครงการฯ ผลิตเอทานอลจำหน่ายให้ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา ๗ เพื่อผสมเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอลจำหน่ายแก่ประชาชนไปพลางก่อน ทั้งนี้ ปริมาณมันสำปะหลังนอกโครงการฯ ที่บริษัทผู้ผลิตเอทานอลใช้ไปแล้วนั้น ไม่นับรวมเป็นปริมาณมันสำปะหลังที่ต้องใช้ตามโครงการฯ โดยปริมาณมันสำปะหลังที่ผู้ผลิตเอทานอลจะต้องซื้อเพิ่มเติมสำหรับไตรมาสที่ ๑/๒๕๕๖ คิดเป็นหัวมันสด ๒๓๓,๐๘๒.๑๒ ตัน หรือคิดเป็นมันเส้น ๙๗,๙๒๔.๒๘ ตัน ๒. ปัญหา/อุปสรรคในการดำเนินโครงการฯ ๒.๑ ผู้ผลิตเอทานอล ได้แก่ เกษตรกรนำหัวมันสดมาจำนำที่โรงงานผู้ผลิตเอทานอลซึ่งเปิดเป็นจุดรับจำนำน้อยกว่าเป้าหมาย ผู้ผลิตเอทานอลยังไม่ทราบราคามันเส้นที่แน่นอนจากโครงการฯ ที่จะส่งมอบให้ผู้ผลิตเอทานอลและเพิ่งเริ่มทยอยส่งมอบมันเส้นให้กับผู้ผลิตเอทานอล บริษัท ดั๊บเบิล เอ เอทานอล จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังหยุดการผลิตเอทานอลเพื่อปรับปรุงระบบบ่อบำบัด และผู้ผลิตเอทานอลบางรายเป็นผู้ผลิตรายใหม่เพิ่งเริ่มผลิตเอทานอลเชิงพาณิชย์ทำให้เดินเครื่องได้ไม่เต็มกำลังการผลิต ๒.๒ ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา ๗ ได้แก่ ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา ๗ บางรายได้ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับผู้ผลิตเอทานอลจากกากน้ำตาลไปแล้วก่อนเริ่มดำเนินโครงการฯ ทำให้ไม่สามารถซื้อเอทานอลจากมันสำปะหลังได้ตามสัดส่วน และมีผู้ผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังเข้าประมูลน้อยรายและเสนอราคาประมูลสูงเกินไป
|
|||||||||||||||||||||
27876 | รายงานผลการเบิกจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปี 2556 ไตรมาส 2 (มกราคม - มีนาคม 2556) | นร11 | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการเบิกจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปี ๒๕๕๖ ไตรมาส ๒ (มกราคม-มีนาคม ๒๕๕๖) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. จากการประมวลผลการดำเนินงานในไตรมาสที่สองของรัฐวิสาหกิจที่ใช้รอบปีบัญชีทั้งปีงบประมาณและปีปฏิทิน จำนวน ๕๔ แห่ง ปรากฏว่า รัฐวิสาหกิจในภาพรวมสามารถเบิกจ่ายลงทุนในช่วงดังกล่าวได้จำนวน ๙๐,๓๔๑ ล้านบาท หรือร้อยละ ๘๕.๗ ของเป้าหมายไตรมาส ๒ (จำนวน ๑๐๕,๔๗๔ ล้านบาท) สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เบิกจ่ายลงทุนได้ร้อยละ ๗๖.๐ และสามารถเบิกจ่ายลงทุนสะสมตั้งแต่ตุลาคม ๒๕๕๕-มีนาคม ๒๕๕๖ ได้จำนวน ๑๐๓,๑๙๒ ล้านบาท หรือร้อยละ ๗๙.๒ ของเป้าหมายสะสม (จำนวน ๑๓๐,๒๗๔ ล้านบาท) ๒. เมื่อพิจารณาผลการเบิกจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจในไตรมาสที่สอง (มกราคม-มีนาคม ๒๕๕๖) เปรียบเทียบกับเป้าหมายการเบิกจ่ายลงทุนของไตรมาสที่แล้ว มีรัฐวิสาหกิจที่มีผลการเบิกจ่ายต่ำกว่าเป้าหมายหลายแห่ง หากพิจารณาจากร้อยละที่เบิกจ่ายได้ต่ำกว่าเป้าหมายมาก พบว่า ส่วนใหญ่เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีวงเงินลงทุนจำนวนไม่สูง อาทิ โรงงานไพ่ กรมสรรพสามิต บริษัท ไทย-อะมาดิอุส เซาท์อิสต์เอเชีย จำกัด องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สำหรับรัฐวิสาหกิจที่มีวงเงินลงทุนสูงซึ่งอาจมีผลต่อระบบเศรษฐกิจและมีผลการเบิกจ่ายลงทุนต่ำกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง บริษัท ทีโอทีจำกัด (มหาชน) การรถไฟแห่งประเทศไทย และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยสาเหตุที่เบิกจ่ายได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่สำคัญเนื่องจากปัญหาความล่าช้าในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภายใน การทบทวนแผนการลงทุน การส่งมอบงานล่าช้า รวมทั้งความไม่พร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ดำเนินการ ส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินการลงทุนได้ตามแผน
|
|||||||||||||||||||||
27877 | ผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2555 จังหวัดชลบุรี เรื่อง การแก้ไขปรับปรุงผังเมืองรวมบริเวณอุตสาหกรรมหลัก และชุมชนจังหวัดระยอง (ผังมาบตาพุด) | อก | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๕ เรื่อง การแก้ไขปรับปรุงผังเมืองรวมบริเวณอุตสาหกรรมหลักและชุมชนจังหวัดระยอง (ผังมาบตาพุด) โดยคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงร่างผังเมืองรวมบริเวณอุตสาหกรรมหลักและชุมชนจังหวัดระยอง (ผังมาบตาพุด) ได้จัดทำข้อเสนอการขอแก้ไขปรับปรุงผังเมืองรวมบริเวณอุตสาหกรรมหลักและชุมชนจังหวัดระยอง (ผังมาบตาพุด) ฉบับปรับปรุงครั้งที่ ๓ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยข้อเสนอการขอแก้ไขปรับปรุงผังเมืองรวมฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. แนวคิด (Concept) ในการจัดทำข้อเสนอผังการใช้พื้นที่ ควรมีการนำแนวคิดอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco-industry) มาใช้ในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมภายใต้หลักการพึ่งพาอาศัยกัน (Symbiosis) ระหว่างอุตสาหกรรมและชุมชน ด้วยการออกแบบการใช้พื้นที่โดยคำนึงถึงความสำคัญและความสอดคล้องของการพัฒนา ๕ มิติ กล่าวคือ มิติทางกายภาพ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย และคุณภาพชีวิตชุมชน ๒. ข้อเสนอผังการใช้พื้นที่ การใช้ประโยชน์พื้นที่ตามข้อเสนอการขอแก้ไขปรับปรุงผังเมืองรวมฯ จัดทำขึ้นภายใต้แนวคิดความสอดคล้องของการพัฒนา ๕ มิติ ของอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ กล่าวคือ มิติทางกายภาพ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตชุมชน โดยมีพื้นที่อุตสาหกรรมและคลังสินค้าและพื้นที่รองรับกิจกรรม/บริการสนับสนุนอุตสาหกรรม และพื้นที่ท่าเรืออุตสาหกรรม ทั้งสิ้นรวมประมาณ ๔๓,๔๔๔ ไร่ ๓. แนวทางการบริหารจัดการเพื่อให้บรรลุการเป็นอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco-industrial) ได้นำแนวคิดหลักการ Eco อันหมายถึง ทั้ง Ecology และ Economy มาประยุกต์ใช้ สำหรับการพัฒนา (๑) ระดับโรงงานอุตสาหกรรม เป็น Green Industry (๒) ระดับนิคมอุตสาหกรรมและเครือข่าย ได้แก่ ชุมชนโดยรอบ โรงเรียน โรงพยาบาล หน่วยงานท้องถิ่น เป็น Eco Industrial Estate & Networks และ (๓) ระดับท้องถิ่น ได้แก่ เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล และองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่นิคมอุตสาหกรรมตั้งอยู่เป็น Eco Industrial Town เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||
27878 | การรายงานสถานะหนี้สาธารณะของประเทศ และผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2556 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2556 | กค | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบสถานะหนี้สาธารณะของประเทศ และผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖ มีจำนวน ๕,๑๒๑,๓๐๐.๗๓ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๔๔.๑๖ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยเป็นหนี้ของรัฐบาลกู้โดยตรง จำนวน ๓,๕๕๖,๔๖๐.๖๒ ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน จำนวน ๑,๐๖๔,๗๔๖.๑๗ ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน ๔๙๔,๕๓๒.๐๓ ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ จำนวน ๕,๕๖๑.๙๑ ล้านบาท ส่วนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ไม่มีหนี้คงค้าง ทั้งนี้ หนี้สาธารณะจำนวนดังกล่าวจำแนกตามอายุของหนี้ เป็นหนี้ระยะยาว จำนวน ๔,๙๕๙,๐๕๖.๖๗ ล้านบาท และหนี้ระยะสั้น จำนวน ๑๖๒,๒๔๔.๐๖ ล้านบาท และจำแนกตามแหล่งที่มา เป็นหนี้ต่างประเทศ จำนวน ๓๓๔,๙๙๐.๓๓ ล้านบาท และหนี้ในประเทศ จำนวน ๔,๗๘๖,๓๑๐.๔๐ ล้านบาท ๑.๒ คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีได้จัดทำแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ เพื่อใช้เป็นกรอบในการดำเนินการบริหารและจัดการหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ ประกอบด้วย ๔ แผนย่อย และได้ปรับปรุงแผนฯ ในระหว่างปี เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการใช้เงินกู้และบริหารหนี้ ซึ่งหลังการปรับปรุงแผนฯ ครั้งที่ ๑ ทำให้วงเงินรวมในแผนฯ ที่จะบริหารจัดการมีจำนวนทั้งสิ้น ๒,๐๖๙,๙๑๕.๓๒ ล้านบาท โดยในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๕๕ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการกู้เงินและบริหารหนี้ เป็นวงเงินทั้งสิ้น ๘๖๑,๐๘๑.๒๖ ล้านบาท ๑.๓ สรุปผลการดำเนินการตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะในช่วง ๖ เดือนแรกของปีงบประมาณ ๒๕๕๖ (ตุลาคม ๒๕๕๕-มีนาคม ๒๕๕๖) กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการบริหารและจัดการหนี้สาธารณะตามกรอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ เป็นจำนวนทั้งสิ้น ๗๘๘,๒๐๔.๕๕ ล้านบาท โดยมีความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ ๔๐.๔๖ ของแผนการบริหารหนี้สาธารณะทั้งปี สำหรับผลการกู้เงินและบริหารจัดการหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขออนุมัติคณะรัฐมนตรีภายใต้กรอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ในช่วง ๖ เดือนแรกของปีงบประมาณ ๒๕๕๖ รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินและบริหารหนี้รวมทั้งสิ้น ๗๒,๘๗๖.๗๑ ล้านบาท ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับสัดส่วนของยอดหนี้สาธารณะคงค้างในปัจจุบันซึ่งยังอยู่ในกรอบความยั่งยืนทางการคลัง แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามรายจ่ายภายใต้แผนการบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ รวมถึงแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาประเทศ จึงเห็นควรให้มีการเตรียมการในการกำกับดูแลและบริหารจัดการหนี้สาธารณะของประเทศที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยให้ความสำคัญกับการรักษาวินัยทางการคลังอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
27879 | การติดตามงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านเศรษฐกิจประจำเดือนเมษายน 2556 | นร | 04/06/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวราเทพ รัตนากร) รายงานผลการติดตามงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านเศรษฐกิจ ประจำเดือนเมษายน ๒๕๕๖ ประกอบด้วย การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ การสร้างสมดุลและความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพให้แก่ระบบเศรษฐกิจมหภาค การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล การส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน (กองทุนหมู่บ้าน SML) การยกระดับราคาสินค้าเกษตรและให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน การปฏิรูปการจัดการที่ดิน (นโยบายที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) และให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในแต่ละด้านรับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป สรุปได้ ดังนี้
๑. การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง โดยที่ขณะนี้ยังมีการตรึงราคา LPG ภาคครัวเรือน จึงทำให้อาจมีการลักลอบนำแก๊สหุงต้มมาจำหน่ายให้กับภาคอุตสาหกรรมและภาคขนส่ง ซึ่งจะทำให้เกิดผลเสียต่อภาคเศรษฐกิจ จึงเห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาตรวจสอบ และรายงานสภาพปัญหาและผลกระทบ รวมถึงการกำหนดมาตรการในการป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย ๒. การดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในเรื่อง แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ในส่วนของราคาสินค้ามีหลายโครงการที่สิ้นสุดระยะเวลาในการดำเนินการแล้ว จึงเห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาศึกษาหามาตรการ/โครงการที่จะช่วยป้องกันและบรรเทาผลกระทบเพื่อรองรับปัญหาราคาสินค้าที่มีการขยับตัวสูงขึ้น ๓. นโยบายยกระดับราคาสินค้าเกษตรและให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน ในส่วนของการเยียวยาและการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรจากภัยพิบัติ ซึ่งการดำเนินการให้ความช่วยเหลือค่อนข้างล่าช้า ดังนั้น เพื่อให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติได้รับความช่วยเหลือเยียวยาอย่างรวดเร็ว จึงเห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการหารือและบูรณาการการทำงานในเรื่องดังกล่าวร่วมกัน ๔. การรับซื้อยางพารา ตามโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางนั้น เกิดปัญหาสวมสิทธิ์การขายยางพาราให้กับโครงการ เนื่องจากแหล่งที่มาของยางพาราซึ่งมาขายให้กับโครงการไม่สามารถตรวจสอบได้ จึงเห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาตรวจสอบ และรายงานสภาพปัญหาและผลกระทบ รวมถึงการกำหนดมาตรการในการป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย ๕. การแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร ผักและผลไม้ ตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการขอความร่วมมือให้ภาคเอกชนช่วยรับซื้อผักและผลไม้เพื่อนำไปจำหน่าย พร้อมทั้งผลักดันให้มีการส่งออกเพิ่มขึ้น รวมถึงการเชื่อมโยงการจำหน่ายผักและผลไม้จากกลุ่มเกษตรกรและผู้ค้าในแหล่งผลิตมาจำหน่ายผลผลิตให้กับผู้บริโภคโดยตรงนั้น เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทย ได้มีการหารือและบูรณาการการทำงานในเรื่องดังกล่าวร่วมกัน เพื่อนำแนวทางดังกล่าวไปปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรอื่น ๆ ด้วย
|
|||||||||||||||||||||
27880 | ขออนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ งานจ้างก่อสร้างระบบส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวาพร้อมอาคารประกอบ ส่วนที่ 1 โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ | กษ | 28/05/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการระบบส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา พร้อมอาคารประกอบ ส่วนที่ ๑ โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ ในวงเงินตามผลการประกวดราคา จำนวน ๑,๙๘๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งอยู่ภายในวงเงินตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๕ (เรื่อง ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖) และอนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๙ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
.....