ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1234 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 24661 - 24680 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
24661 | ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางพิเศษสายบางพลี - สุขสวัสดิ์ ในท้องที่อำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ และอำเภอ พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... | คค | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. มอบให้กระทรวงคมนาคมและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแก้ไขบัญชีรายชื่อเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินที่ต้องเวนคืนท้ายพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ ในท้องที่อำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ และอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการอันเป็นสาธารณูปโภค เพื่อก่อสร้างหรือขยายถนน หรือเพื่อประโยชน์แก่ชลประทานในการเก็บกักน้ำ นั้น อาจจะเกิดความไม่เป็นธรรมแก่เจ้าของที่ดินในการใช้ประโยชน์จากที่ดินในส่วนที่ไม่ถูกเวนคืน เช่น การเวนคืนจนทำให้ที่ดินส่วนที่ไม่ถูกเวนคืนเป็นที่ดินตาบอด ซึ่งจะทำให้เจ้าของที่ดินไม่สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้นได้อย่างเต็มที่ หรือเวนคืนที่ดินจนเหลือที่ดินเพียงเล็กน้อยซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้ประโยชน์ ดังนั้น กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรพิจารณาถึงความเหมาะสมและจำเป็นในการเวนคืนที่ดิน รวมทั้งให้คำนึงถึงความเป็นธรรมในการชดเชยและเยียวยาแก่เจ้าของที่ดินที่ถูกเวนคืนด้วย และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมและจำเป็นในการเวนคืนที่ดิน รวมถึงให้คำนึงถึงความเป็นธรรมในการชดเชยและเยียวยาแก่เจ้าของที่ดินที่ถูกเวนคืนด้วย |
||||||||||||||||||
24662 | ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542 พ.ศ. .... | พณ | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. ๒๕๔๒ และพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ และให้ยุบเลิกสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า และตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย เพื่อให้การซื้อขายล่วงหน้าสินค้าเกษตรไปดำเนินการภายใต้กฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยยังคงรักษาวัตถุประสงค์ตามกฎหมายว่าด้วยการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าต่อเนื่องไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||
24663 | ร่างพระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อก | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงพระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร พ.ศ. ๒๕๑๔ โดยเพิ่มบทบัญญัติเกี่ยวกับการให้เอกชนเป็นผู้ตรวจสอบเครื่องจักรที่จะจดทะเบียนกรรมสิทธิ์แทนพนักงานเจ้าหน้าที่ และยกเลิกการแจ้งย้ายเครื่องจักรภายในบริเวณสถานประกอบกิจการอุตสาหกรรม เพื่อลดภาระของเจ้าของเครื่องจักร และปรับปรุงบัญชีอัตราค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัติ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการจัดทำหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ และแนวทางการตรวจสอบเครื่องจักรที่มีมาตรฐานตามหลักสากล การประชาสัมพันธ์แนวทางและขั้นตอนการขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชนในวงกว้างอย่างทั่วถึง การดำเนินการทดสอบสมรรถนะของผู้ได้รับใบอนุญาตตรวจสอบเครื่องจักรเอกชนเป็นระยะ รวมทั้งการติดตามประเมินผลประสิทธิภาพของการให้บริการการตรวจสอบเครื่องจักรโดยผู้ตรวจสอบเอกชน สำหรับการให้อำนาจรัฐมนตรีออกกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียม ควรเป็นการยกเว้นเฉพาะกรณีการเกิดเหตุสุดวิสัย หรือเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการสามารถแข่งขันได้จากการลดภาระค่าธรรมเนียมเท่านั้น โดยการออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องระบุหลักเกณฑ์ คุณสมบัติของผู้ขอรับการยกเว้นค่าธรรมเนียม และระยะเวลาสิ้นสุดของการยกเว้นค่าธรรมเนียมที่ชัดเจน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
24664 | ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. .... | ศธ | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับเปลี่ยนสถานภาพจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ไปเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการแต่อยู่ในกำกับของรัฐ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง และสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินของมหาวิทยาลัย ควรเพิ่มหลักการในวรรคสามของร่างมาตรา ๑๔ (๓) โดยกำหนดกรอบวงเงินกู้ที่อยู่ในอำนาจการพิจารณาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้ชัดเจน และหากเกินกรอบวงเงินกู้ดังกล่าว ให้เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ ส่วนการบัญชีและการตรวจสอบ ในประเด็นการจัดทำบัญชีและรายงานในร่างมาตรา ๔๙ ควรกำหนดให้เป็นไปตามมาตรฐานและนโยบายบัญชีภาครัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด และในร่างมาตรา ๕๐ การจัดทำงบการเงินส่งผู้สอบบัญชีของมหาวิทยาลัย ควรปรับระยะเวลาจากภายในเก้าสิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชี เป็นภายในหกสิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชี นอกจากนี้ ร่างพระราชบัญญัติฯ ควรปรับปรุงเนื้อหาให้สอดคล้องกับหลักการกลางในการร่างพระราชบัญญัติของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่จะออกนอกระบบ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๔๖ (เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่จะออกนอกระบบ) รวมทั้งการปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัยตามร่างในมาตรา ๒๑ ควรให้ครอบคลุมอำนาจหน้าที่ของมหาวิทยาลัยตามร่างในมาตรา ๑๔ (๘) เกี่ยวกับการอนุมัติการจัดตั้งองค์กรที่เป็นนิติบุคคล รวมถึงการลงทุนหรือร่วมลงทุนกับบุคคลหรือนิติบุคคล ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับไปกำกับดูแลมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐให้มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อมิให้เป็นภาระกับรัฐบาลในการให้การอุดหนุนด้านงบประมาณเพิ่มเติม ๓. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรกำหนดให้มีระเบียบเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีสั่งจ่ายเงินรายได้ และระบบการตรวจสอบ ติดตามผล เพื่อให้การจัดเก็บรักษาและการใช้จ่ายเงินรายได้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้เป็นมาตรฐานเดียวกันสำหรับมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐทุกแห่ง และควรให้ความสำคัญในการพัฒนาและวางระบบการบริหารการเงินการคลังที่เอื้อประโยชน์สูงสุดต่อการวางแผนการพัฒนาการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ตลอดจนการศึกษาและติดตามประเมินผลการดำเนินงานของสถาบันอุดมศึกษาเพื่อหาจุดที่คุ้มทุนของการจัดการศึกษาในแต่ละสาขาวิชา ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
24665 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... | รง | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเพื่อจัดตั้งสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานขึ้นเป็นองค์การมหาชนตามกฎหมายว่าด้วยองค์การมหาชน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับข้อสังเกตของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับร่างมาตรา ๑๐ (๒) ของร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวที่บัญญัติให้ทุนและทรัพย์สินในการดำเนินกิจการของสถาบันฯ ประกอบด้วยเงินที่รัฐบาลจ่ายให้เป็นทุนประเดิม นั้น ตามร่างมาตรา ๔๐ กำหนดเกี่ยวกับการโอนบรรดาอำนาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบประมาณของสำนักความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานไปเป็นของสถาบันฯ ไว้แล้ว ประกอบกับมีแหล่งเงินทุนต่าง ๆ และเงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้ตามความเหมาะสม ดังนั้น ในวาระเริ่มแรก สถาบันฯ น่าจะมีทุนที่เพียงพอในการดำเนินกิจการอยู่แล้วไม่ต้องกำหนดให้รัฐบาลจ่ายเงินเป็นทุนประเดิมแต่อย่างใด รวมทั้งเมื่อมีการโอนภารกิจบางส่วนของสำนักความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ไปเป็นของสถาบันฯ ตามพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้แล้ว ก็ควรมีการพิจารณายุบเลิกสายงานหรือปรับลดบุคลากร เพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับภารกิจที่ลดลง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
24666 | ร่างปฏิญญาทางการเมืองเนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี ของการประชุมระดับโลกว่าด้วยเรื่องสตรี ครั้งที่ 4 | พม | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการรับรองร่างปฏิญญาทางการเมืองเนื่องในโอกาสครบรอบ ๒๐ ปี ของการประชุมระดับโลกว่าด้วยเรื่องสตรี ครั้งที่ ๔ ระหว่างวันที่ ๙-๒๐ มีนาคม ๒๕๕๘ ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นการแสดงความมุ่งมั่นและเจตจำนงทางการเมืองของประเทศไทยที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและการเสริมพลังสตรีซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ในการดำเนินงานต่อไป ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
||||||||||||||||||
24667 | การเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกของไทยในทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ (International Renewable Energy Agency : IRENA) | พน | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้กระทรวงพลังงานยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ (International Renewable Energy Agency : IRENA) ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ๒. ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการตามความเห็นของกระทรวงต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ให้กระทรวงพลังงานยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศพร้อมทั้งแนบธรรมนูญทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศพร้อมคำแปลก่อน และเมื่อทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศได้เห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกแล้ว กระทรวงพลังงานจึงแจ้งคณะรัฐมนตรีพร้อมทั้งแนบธรรมนูญของทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศและคำแปล ตลอดจนร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง ต่อไปด้วย ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เห็นควรพิจารณาจัดตั้งคณะทำงานด้านพลังงานหมุนเวียน เพื่อกำหนดเป้าหมายวางแผนการดำเนินงานด้านการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานหมุนเวียน รวมทั้งควรมีการกำหนดรูปแบบหรือกรอบความร่วมมือที่ชัดเจนเพื่อให้ประเทศไทยได้ประโยชน์จากการเป็นสมาชิกสูงสุด ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||
24668 | การสมัครของไทยเพื่อเป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ของกลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก (Pacific Alliance) | กต | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการสมัครของไทยเพื่อเป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ของกลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก (Pacific Alliance) ๑.๒ เห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะมนตรีของกลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก รวมทั้งการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่ประเทศผู้สังเกตการณ์ได้รับเชิญ ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของไทยเพื่อประโยชน์ของไทยในฐานะประเทศผู้สังเกตการณ์ดังกล่าว ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่าการเป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ควรมีการกำหนดจุดเน้นที่สำคัญประกอบด้วย เช่น ในเรื่องมาตรฐานสินค้าและบริการ และการบังคับใช้กฎระเบียบต่าง ๆ เป็นต้น และควรมีการส่งเสริมบทบาทของกรอบความร่วมมือที่ไทยร่วมเป็นสมาชิกกับกลุ่มประเทศในลาตินอเมริกาอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น เช่น เวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกและลาตินอเมริกา (Forum for East Asia-Latin America Cooperฟtion : FEALAC) เพื่อลดความซ้ำซ้อนของกิจกรรม แผนงาน และโครงการความร่วมมือที่อาจมีขึ้นต่อไปในอนาคต ไปพิจารณาต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||
24669 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายชูศักดิ์ เกษมศานติ์) | สธ | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายชูศักดิ์ เกษมศานติ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาศัลยกรรม) กลุ่มงานศัลยศาสตร์ กลุ่มภารกิจวิชาการ สถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||
24670 | ขอความเห็นชอบการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (สภาซีเมค) ครั้งที่ 48 | ศธ | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (สภาซีเมค) ครั้งที่ ๔๘ ระหว่างวันที่ ๖-๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ณ โรงแรม Royal Cliff Hotels Group พัทยา จังหวัดชลบุรี ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ๒ ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนได้รับรู้ เข้าใจวัตถุประสงค์และประโยชน์ของการจัดประชุมเพื่อร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดีและสนับสนุนให้การประชุมบรรลุผลตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. ให้กระทรวงศึกษาธิการนำเรื่องการศึกษาทางไกล ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและเครื่องมือที่เหมาะสมมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน ไปเสนอในการประชุมสภาซีเมคด้วย |
||||||||||||||||||
24671 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านกรูด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | มท | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านกรูด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
24672 | การปรับกฎเฉพาะรายสินค้าจากพิกัดศุลกากรระบบฮาร์โมไนซ์ ฉบับปี 2007 เป็นฉบับปี 2012 ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี | พณ | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการปรับกฎเฉพาะรายสินค้าจากพิกัดศุลกากรระบบฮาร์โมไนซ์ ฉบับปี ๒๐๐๗ เป็นฉบับปี ๒๐๑๒ ภายใต้ความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ๑.๒ มอบหมายให้กระทรวงการคลัง (กรมศุลกากร) และกระทรวงพาณิชย์ (กรมการค้าต่างประเทศ) ดำเนินการต่อไปเพื่อให้กฎเฉพาะสินค้าภายใต้ความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี พิกัดศุลกากรระบบฮาร์โมไนซ์ ฉบับปี ๒๐๑๒ มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียนเพื่อผนวกกฎเฉพาะรายสินค้า ฉบับปี ๒๐๑๒ เข้าไปในความตกลงการค้าสินค้าภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสาธารณรัฐเกาหลี ทั้งนี้ ให้แจ้งเมื่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบและกรมศุลกากรดำเนินกระบวนการภายในเสร็จแล้ว ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า การดำเนินการปรับกฎเฉพาะรายการสินค้าจากพิกัดศุลกากรระบบฮาโมไนซ์ ฉบับปี ๒๐๐๗ เป็นฉบับปี ๒๐๑๒ เป็นการปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ขององค์กรศุลกากรโลกที่ไทยเป็นสมาชิกซึ่งจะมีการปรับพิกัดศุลกากรตามกรอบระยะเวลา ๕ ปี ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์ควรเร่งประชาสัมพันธ์ และสร้างความรู้ความเข้าใจให้ผู้ประกอบการทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อเกิดความชัดเจนและลดปัญหาอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นในทางปฏิบัติซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการค้าของไทยในตลาดอาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลีมากยิ่งขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||
24673 | มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2558 (ครั้งที่ 1) | พน | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๘ (ครั้งที่ ๑) ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ๑.๑ อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง รวม ๓ ฉบับ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๑.๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดกระทะไฟฟ้าก้นตื้นที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. .... ๑.๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดตู้น้ำเย็นบริโภคและตู้น้ำร้อนน้ำเย็นบริโภคที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. .... ๑.๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดเตาอบไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. .... ๑.๒ มอบหมายให้กระทรวงการคลังไปพิจารณาออกพระราชกฤษฎีกาลดหย่อนภาษีสำหรับอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงและวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ๒. รับทราบมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๘ (ครั้งที่ ๑) จำนวน ๔ เรื่อง ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ๒.๑ แนวทางการดำเนินการกับผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ประเภทสัญญา Firm ระบบ Cogeneration ที่จะสิ้นสุดอายุสัญญา ๒.๒ อัตราการรับซื้อไฟฟ้าพิเศษจากขยะอุตสาหกรรม ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) สำหรับปี ๒๕๕๘-๒๕๖๒ ๒.๓ การออกระเบียบการรับซื้อจากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ๒.๔ แผนแม่บทการพัฒนาระบบโครงข่ายสมาร์ทกริดของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๗๙ ๓. ให้กระทรวงพลังงานรับข้อเสนอแนะของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปประกอบการพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ดังนี้ ๓.๑ ปัจจุบันเตาอบไฟฟ้า กระทะไฟฟ้าก้นตื้น ตู้น้ำเย็นบริโภค และตู้น้ำร้อนบริโภค เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่มีใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในครัวเรือนและสำนักงาน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าในลำดับต้น ๆ ที่ควรมีกฎหมายบังคับค่าประสิทธิภาพพลังงานขั้นต่ำ และวางแผนกำหนดค่าประสิทธิภาพพลังงานขั้นต่ำของสินค้าที่จะวางขายในตลาด และเพื่อกำหนดค่าต่ำสุดของประสิทธิภาพของอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และในการลดหย่อนภาษีของอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง ควรให้สิทธิประโยชน์สินค้าทั้งที่ผลิตจากในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งควรกระจายสิทธิประโยชน์ถึงผู้บริโภคซึ่งเป็นผู้ใช้สินค้าเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้มากขึ้น ๓.๒ การเพิ่มการรับซื้อไฟฟ้าที่ผลิตจากขยะอุตสาหกรรม ควรพิจารณาถึงกรอบระยะเวลาการสนับสนุนให้เหมาะสม เมื่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนสามารถแข่งขันได้กับการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิลแล้ว ควรมีการพิจารณาปรับลดราคาหรือยกเลิกการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานทดแทน ๓.๓ การออกระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าเฉพาะจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed in Tariff (FiT) สำหรับปี ๒๕๕๘ (ไม่รวมพลังงานแสงอาทิตย์) ควรแก้ไขสัญญาที่ครอบคลุมไปถึงกลุ่มผู้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบไปแล้วที่ยังอยู่ในระยะเวลาสนับสนุน ๗ ปีด้วย โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบไปแล้วที่ขนาดการผลิตที่ไม่เกิน ๑ เมกะวัตต์ เพื่อให้ความเป็นธรรมที่ทั่วถึงกับการดำเนินการในช่วงเปลี่ยนผ่านจากระบบ Adder เป็น FiT ที่ครอบคลุมในทุกกลุ่ม ๓.๔ ระบบโครงการข่ายสมาร์ทกริด ในการพัฒนาโครงข่ายในช่วงต้นยังจำเป็นต้องนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศเป็นหลัก แต่ในระยะยาวประเทศไทยต้องพึ่งพาตนเองทางด้านเทคโนโลยีให้มากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีสมาร์ทกริดเหล่านี้ภายในประเทศ ได้แก่ การส่งเสริมการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา การผลิตอุปกรณ์ การสร้างศูนย์ทดสอบมาตรฐานอุปกรณ์และการติดตั้ง การพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องทั้งด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและระดับแรงงานวิชาชีพ เป็นต้น |
||||||||||||||||||
24674 | ร่างยุทธศาสตร์การจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เชิงบูรณาการ ปี พ.ศ. 2557 - 2564 | ทส | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างยุทธศาสตร์การจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เชิงบูรณาการ ปี พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๔ จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นกรอบนโยบายการบริหารจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นทางซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าฯ ให้มีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมทัดเทียมระดับสากล จนถึงปลายทางซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนากลไกการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าฯ อย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามความเห็นของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ๑.๒ มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทำหน้าที่ประสานงานและติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ฯ และจัดทำรายงานเสนอต่อรัฐบาล ๑.๓ มอบหมายให้กระทรวง กรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกรอบยุทธศาสตร์ฯ และจัดทำรายงานเสนอต่อรัฐบาล ๑.๔ มอบหมายให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามแผนปฏิบัติการภายใต้ยุทธศาสตร์ฯ ให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ฯ ให้บรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดทำแผนปฏิบัติการที่จะดำเนินการในช่วงระยะเวลา ๓ เดือน ๖ เดือน ๙ เดือน และ ๑ ปี ให้ชัดเจนตามแนวทางของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องประเภทนโยบาย แผนงานโครงการต่อคณะรัฐมนตรี) รวมทั้งกำหนดแนวทางให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการดำเนินการตามแผน โดยเฉพาะธุรกิจที่เป็นผู้ผลิตหรือนำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประสานงานในรายละเอียดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินโครงการตามแผนเกิดความชัดเจน และควร notify ให้องค์การการค้าโลก (WTO) ได้รับทราบด้วย เพื่อประโยชน์ต่อการค้าระหว่างประเทศของไทย รวมทั้งส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพัฒนาระบบฐานข้อมูลของผู้ประกอบกิจการเกี่ยวกับการสะสม การผลิต การรับซื้อขาย การถอดแยก การรีไซเคิลซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ รายย่อย และรายที่ไม่ได้มีการจดทะเบียนโรงงานแต่รับซื้อซากผลิตภัณฑ์มาทำการถอดแยกอย่างไม่เหมาะสม เพื่อเป็นข้อมูลนำไปสู่การพัฒนาปรับปรุงกลไกการคัดแยก เก็บรวบรวม และขนส่งซากผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนเร่งรัดการประกาศใช้ (ร่าง) พระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และซากผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว พร้อมทั้งเร่งพิจารณาจัดทำร่างกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนการดำเนินตามยุทธศาสตร์ฯ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ฯ ปี พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔ ที่ได้สิ้นสุดลงไปแล้ว นอกจากนี้ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมทำการศึกษาวิเคราะห์บริบทการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในระดับโลก และระดับภูมิภาค ที่จะส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย เช่น กฎกติการะหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง และกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสังคมระหว่างประเทศต่าง ๆ และนำมาประกอบการพิจารณาปรับเพิ่มเติมเป้าหมายของยุทธศาสตร์ฯ เป็นต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||
24675 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนท่าลาน จังหวัดสระบุรี พ.ศ. .... | มท | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนท่าลาน จังหวัดสระบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลหนองบัว ตำบลสร่างโศก ตำบลบ้านครัว ตำบลบางโขมด อำเภอบ้านหมอ และตำบลเริงราง ตำบลบ้านยาง อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคม และการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
24676 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม พ.ศ. .... | มท | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลคลองโยง ตำบลศาลายา ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล และตำบลหอมเกร็ด ตำบลทรงคนอง ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
24677 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพล จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. .... | มท | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพล จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลเก่างิ้ว ตำบลโจดหนองแก ตำบลเมืองพล ตำบลโสกนกเต็น ตำบลเพ็กใหญ่ ตำบลลอมคอม ตำบลโนนข่า และตำบลหนองมะเขือ อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
24678 | ขออนุมัติใช้งบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายการดำเนินงานจัดงานพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก | นร01 | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นชอบในหลักการให้หน่วยงานต่าง ๆ รวม ๔ หน่วยงาน เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีไม่มีหนี้ผูกพันได้ถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนมีนาคม ๒๕๕๘ แล้ว ในกรอบวงเงิน ๑๑๓,๑๐๓,๗๙๔ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน ๔๙,๔๓๔,๑๓๖ บาท เป็นค่าใช้จ่ายอุดหนุนวัดบวรนิเวศวิหารในการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ๒. กรมศิลปากร จำนวน ๔,๒๐๐,๐๐๐ บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำพระโอวาทเป็นที่คั่นหนังสือเพื่อแจกผู้ไปร่วมงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ๓. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จำนวน ๕๕,๐๑๕,๖๕๘ บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงภูมิทัศน์และระบบระบายน้ำเขตฌาปนสถานวัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร ๔. กรุงเทพมหานคร จำนวน ๔,๔๕๔,๐๐๐ บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสร้างซุ้มรับดอกไม้จันทน์ ค่าใช้จ่ายการจัดทำดอกไม้จันทน์ และค่าใช้จ่ายการจัดทำพระรูป โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าวข้างต้นขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายจากสำนักงบประมาณตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยตรงต่อไป |
||||||||||||||||||
24679 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... | มท | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลหนองกุง ตำบลโพนทอง ตำบลบึงวิชัย ตำบลลำพาน ตำบลกาฬสินธุ์ ตำบลเหนือ และตำบลหลุบ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
24680 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณค่าก่อสร้างอาคารหอสมุดและแหล่งเรียนรู้ โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย นครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช | ศธ | 17/03/2558 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างอาคารหอสมุดและแหล่งเรียนรู้ โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย นครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน ๑ หลัง จากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ วงเงิน ๒๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท เป็นวงเงิน ๒๔,๑๕๔,๐๐๐ บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗-พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๑๗,๐๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่ขาดอยู่อีกจำนวน ๗,๑๕๔,๐๐๐ บาท ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ต่อไป ทั้งนี้ การดำเนินการก่อสร้างและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนปฏิบัติตามประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้ถูกต้องครบถ้วนด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
.....