ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1060 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 21181 - 21200 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
21181 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาจัดเตรียมโครงการลงทุนที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการซึ่งสอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙) เพื่อรองรับหากเกิดกรณีที่โครงการลงทุนใดไม่สามารถดำเนินการได้ เพื่อให้การขับเคลื่อนการลงทุนและเศรษฐกิจของประเทศเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ๑.๒ ให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ แนวทางการนำสภาพคล่อง ส่วนเกินของกองทุน ทุนหมุนเวียนต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในการสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศของรัฐบาล ๑.๓ ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือสินค้าจีไอ (Geographical Indication : GI) จากทั่วทุกภาคของประเทศให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเป็นการคุ้มครองสินค้าให้เป็นสิทธิเฉพาะของผู้จดทะเบียน ส่งเสริมให้มีการพัฒนาคุณภาพของสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่นให้ดีขึ้น และสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูงขึ้น รวมทั้งเป็นการเตรียมการรองรับหากประเทศไทยเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership : TPP) ด้วย ๒. ด้านสังคม ให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดมาตรการช่วยเหลือนักเรียนที่ออกจากระบบการศึกษาในช่วง ๒ ปีที่ผ่านมา เนื่องจากครอบครัวประสบปัญหาด้านรายได้ให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดหลักสูตรการฝึกอบรมต่าง ๆ โดยให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นข้าราชการของหน่วยงานที่จัดเป็นหลัก และมีข้าราชการจากหน่วยงานอื่นเข้าร่วมฝึกอบรมได้ในสัดส่วนไม่เกิน ๑ ใน ๓ รวมทั้งมีข้อกำหนดไม่ให้มีการเข้ารับการฝึกอบรมต่อเนื่อง ๒ หลักสูตรด้วย ๓.๒ ให้กระทรวงคมนาคมกำกับและเร่งรัดให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยคัดสรรและบรรจุบุคลากรที่จำเป็นตามกรอบระยะเวลาที่แผนการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนกำหนดต่อไปด้วย ๓.๓ ให้กระทรวงสาธารณสุขรับไปประสานทันตแพทยสภาเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการออกข้อบังคับเกี่ยวกับการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันตกรรมให้มีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับและสอดคล้องกับวิทยาการและเทคโนโลยีทางทันตกรรมปัจจุบัน ๓.๔ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขยายผลการดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลงรวมโดยมิให้กรรมสิทธิ์ แต่อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐเป็นกลุ่มหรือชุมชน ในพื้นที่อื่น ๆ โดยให้สอดคล้องกับแผนการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) และแผนการบริหารจัดการน้ำด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
21182 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อก | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการดำเนินการไปแล้ว คือ แต่งตั้งคณะทำงานยกร่างกฎหมายเกี่ยวกับการกำหนดคุณสมบัติของผู้ตรวจสอบเครื่องจักเอกชน กฎกระทรวงเกี่ยวกับมาตรฐานการทำงานของผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชน กฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนเครื่องจักร และระเบียบว่าด้วยการยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตเป็นผู้ตรวจสอบเครื่องจักรกล รวมทั้งได้กำหนดมาตรการทางการบริหารสำหรับการกำกับดูแลผู้ตรวจสอบเครื่องจักรเอกชนให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
21183 | รายงานผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง รายงานของสภาปฏิรูปแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดยุทธศาสตร์ชาติและร่างพระราชบัญญัติยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ....) | นร11 | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นว่า ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง รายงานของสภาปฏิรูปแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดยุทธศาสตร์ชาติและร่างพระราชบัญญัติยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ....) ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบัน เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญและมีการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. .... ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ควรรอความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวก่อนที่คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศต่อไป จึงได้มีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรายงานผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะดังกล่าว และแจ้งให้คณะกรรมการประสานงาน รวม ๓ ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) ทราบต่อไป ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติติดตามผลการดำเนินการในเรื่องนี้ และเสนอรายงานผลการพิจารณาเรื่องดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||
21184 | รัฐบาลสาธารณรัฐรวันดาเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นางสาวเวเนเชีย เซบูดันดี (Miss Venetia Sebudandi)] | กต | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวเวเนเชีย เซบูดันดี (Miss Venetia Sebudandi) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐรวันดาประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น สืบแทน นายชาลส์ มูริกันเด (Mr. Charles Murigande) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
21185 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายสรศักดิ์ โล่ห์จินดารัตน์) | สธ | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสรศักดิ์ โล่ห์จินดารัตน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) กลุ่มงานกุมารเวชศาสตร์ กลุ่มภารกิจวิชาการ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
21186 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าแม่แคม ป่าแม่ก๋อน และป่าแม่สาย และป่าลำน้ำน่านฝั่งขวา ป่าจริม และป่าน้ำปาด บางส่วน ในท้องที่ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ และตำบลน้ำหมัน ตำบลจริม อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ .... | ทส | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าแม่แคม ป่าแม่ก๋อน และป่าแม่สาย และป่าลำน้ำน่านฝั่งขวา ป่าจริม และป่าน้ำปาด บางส่วน ในท้องที่ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ และตำบลน้ำหมัน ตำบลจริม อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการเพิกถอนอุทยานแห่งชาติ ป่าแม่แคม ป่าแม่ก๋อน และป่าแม่สาย และป่าลำน้ำน่านฝั่งขวา ป่าแม่จริม และป่าน้ำปาด บางส่วน ในท้องที่ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ และตำบลน้ำหมัน ตำบลจริม อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ รวมเนื้อที่ ๑,๖๒๘ ไร่ ๒ งาน ๖๗ ตารางวา เพื่อก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
21187 | การยุติการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง | อส | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้พิจารณาตัดสินชี้ขาดการดำเนินคดีระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจ กับเอกชน และข้อพิพาทระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจด้วยกันเอง รวม ๒๕ เรื่อง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะประธานกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติ ในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอ และแจ้งให้สำนักงานอัยการสูงสุดส่งเรื่องคืนตัวความหรือส่งคำตัดสินชี้ขาดและมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้ให้คู่กรณีทราบและถือปฏิบัติต่อไป ๒. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่อง ข้อพิพาทระหว่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กับเทศบาลเมืองพิจิตร กรณีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเรียกร้องให้เทศบาลเมืองพิจิตรชำระค่ากระแสไฟฟ้าส่วนที่เกินสิทธิการใช้กระแสไฟฟ้าสาธารณะเป็นเงินจำนวน ๕๔๖,๗๗๔.๕๑ บาท เพื่อให้ได้ข้อยุติในปัญหาที่ว่าการใช้กระแสไฟฟ้าในศูนย์บริการสาธารณสุขของเทศบาลทั้ง ๖๖ แห่ง ที่มีข้อตกลงโอนกิจการผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคถือเป็นการใช้กระแสไฟฟ้าสาธารณะอันจะได้รับสิทธิยกเว้นค่ากระแสไฟฟ้าหรือไม่ และมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานแห่งชาติพิจารณาทบทวนในประเด็นดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||
21188 | รายงานการพิจารณาศึกษาข้อเสนอเชิงนโยบาย "การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม" ของคณะกรรมาธิการการสื่อสารมวลชน การวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสารสนเทศ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานพร้อมทั้งข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการสื่อสารมวลชน การวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสารสนเทศ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เกี่ยวกับเรื่อง “การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม” ซึ่งเห็นว่าในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากด้วยฐานความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ควรเชื่อมโยงองค์ความรู้อันอาศัยกลไกหลักที่เป็นความร่วมมือระหว่างเครือข่ายมหาวิทยาลัย ชุมชนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ หน่วยงานราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดกลุ่มเครือข่ายการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมที่ยั่งยืน ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
21189 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. .... | สว | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การออกกฎกระทรวงของกระทรวงแรงงานเพื่อกำหนดประเภทของสถานประกอบกิจการและการดำเนินการของสถานประกอบกิจการ กระทรวงแรงงานควรพิจารณาออกกฎกระทรวงให้ครอบคลุมถึงกลุ่มลูกจ้างหรือคนงานที่ทำงานในสถานประกอบกิจการประเภทก่อสร้างนอกที่ตั้งของสำนักงานปกติหรือกลุ่มแรงงานไร้ฝีมือด้วย ๑.๒ กรณีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ควรแต่งตั้งผู้แทนจากองค์กรพัฒนาเอกชนและนักวิชาการที่ทำงานด้านสุขภาวะทางเพศเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๑.๓ กรมอนามัยควรมีการจัดทำกระบวนการคุ้มครองหรือแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการป้องกัน ช่วยเหลือ แก้ไข และเยียวยาปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ๑.๔ ในกรณีที่มีการกำหนดมาตรฐานการจัดสวัสดิการสังคม ควรคำนึงถึงสิทธิของวัยรุ่นที่จะได้รับในประเด็นเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และเพียงพอ โดยเสมอภาคและไม่ถูกเลือกปฏิบัติ ๒. มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และกระทรวงแรงงานเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวมแล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
21190 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลท่าเสา ตำบลบ้านเกาะ ตำบลท่าอิฐ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. .... | คค | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลท่าเสา ตำบลบ้านเกาะ ตำบลท่าอิฐ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลท่าเสา ตำบลบ้านเกาะ ตำบลท่าอิฐ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท สาย ง๑ ตามโครงการผังเมืองรวมเมืองอุตรดิตถ์ และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
21191 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิการจัดการศึกษาในศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ พ.ศ. .... | ศธ | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิการจัดการศึกษาในศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อให้ผู้ซึ่งมีความประสงค์และมีความพร้อมเข้ามาช่วยรัฐเป็นผู้จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ในรูปแบบศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการไปพิจารณาหามาตรการส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
21192 | รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การตั้งโรงคัดบรรจุผลไม้ (ล้ง) ของผู้ประกอบการชาวต่างชาติในจังหวัดจันทบุรี | สว | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การตั้งโรงคัดบรรจุผลไม้ (ล้ง) ของผู้ประกอบการชาวต่างชาติในจังหวัดจันทบุรี ของคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และการแรงงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสภาพปัญหาการตั้งโรงคัดบรรจุผลไม้ (ล้ง) ของผู้ประกอบการชาวต่างชาติในจังหวัดจันทบุรี ได้แก่ การครอบงำตลาดผลไม้ของธุรกิจโรงคัดบรรจุผลไม้ของผู้ประกอบการชาวจีน ระบบภาษีและมาตรการนำเข้าที่แตกต่างกัน และการใช้มาตรการนำเข้าเพื่อควบคุมสินค้า ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของรายงานและข้อเสนอแนะดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
21193 | ขอปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย | ทส | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ในส่วนที่ ๓ บทบาทและอำนาจหน้าที่ของสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย และส่วนที่ ๔ องค์ประกอบของคณะผู้แทนไทยในคณะมนตรีและคณะกรรมการร่วม คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. ส่วนที่ ๓ แก้ไข ข้อ ๓.๑ จากเดิม รองอธิบดี รับผิดชอบงานคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย เป็น รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ จำนวน ๒ คน ซึ่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำมอบหมายเป็นรองเลขาธิการ ๒. ส่วนที่ ๔ ๒.๑ ยกเลิก องค์ประกอบของคณะผู้แทนไทยในคณะมนตรีและคณะกรรมการร่วม คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ในลำดับที่ ๒ (ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) และลำดับที่ ๓ (รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านทรัพยากรน้ำในแผ่นดิน) ๒.๒ แก้ไขเพิ่มเติม ลำดับที่ ๔ จากเดิม อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำเป็นเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ผู้แทนไทยสำรองในคณะกรรมการร่วม เป็น อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำเป็นเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย และเป็นผู้แทนไทยในคณะกรรมการร่วม คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ๒.๓ แก้ไขเพิ่มเติม ลำดับที่ ๕ จากเดิม รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำผู้รับผิดชอบงานคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย เป็นรองเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ผู้แทนไทยสำรองในคณะกรรมการร่วม เป็น รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ จำนวน ๒ คน ซึ่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำมอบหมายเป็นรองเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย และเป็นผู้แทนถาวรไทยสำรองในคณะกรรมการร่วมคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง
|
||||||||||||||||||||||||||||||
21194 | การขอปรับปรุงแก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการผู้แทนรัฐบาลเพื่อพิจารณาทำความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศกับรัฐบาลต่างประเทศเป็นประจำ | คค | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการผู้แทนรัฐบาลเพื่อพิจารณาทำความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศกับรัฐบาลต่างประเทศเป็นประจำ จำนวน ๔ คน โดยให้มีอำนาจหน้าที่คงเดิม ดังนี้
๑. ลำดับที่ ๗ เปลี่ยนจาก อธิบดีกรมการบินพลเรือน กรรมการ เป็น ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย กรรมการ ๒. ลำดับที่ ๘ เปลี่ยนจาก รองอธิบดีกรมการบินพลเรือน (ฝ่ายเศรษฐกิจ) กรรมการและเลขานุการ เป็น รองผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย กรรมการและเลขานุการ ๓. ลำดับที่ ๙ เปลี่ยนจาก ผู้อำนวยการสำนักกำกับกิจการขนส่งทางอากาศ กรมการบินพลเรือน กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ เป็น ผู้จัดการฝ่ายการต่างประเทศ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ๔. ลำดับที่ ๑๒ เปลี่ยนจาก หัวหน้ากลุ่มความตกลงและเจรจาสิทธิการบิน สำนักกำกับกิจการขนส่งทางอากาศ กรมการบินพลเรือน กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ เป็น หัวหน้ากองความตกลงระหว่างประเทศ ฝ่ายการต่างประเทศ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
21195 | รายงานผลการพิจารณาข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง ข้อเสนอการปฏิรูปพระราชบัญญัติ องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553) | ทก | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง ข้อเสนอการปฏิรูปพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓) ซึ่งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติได้พิจารณารายงานผลการพิจารณาข้อเสนอแนะดังกล่าวแล้ว ได้แก่ ด้านรูปแบบองค์กร ด้านการสรรหาองค์อำนาจ ด้านงบประมาณ ด้านสำนักงาน ด้านการตรวจสอบภายใน ด้านการบริการกองทุน ด้านการติดตามและประเมินผล รวมทั้งด้านการวินิจฉัยข้อพิพาทและการประนีประนอม ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งรายงานผลการพิจารณาดังกล่าวของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้คณะกรรมการประสานงาน รวม ๓ ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) เพื่อพิจารณาความสอดคล้องและความเหมาะสมกับการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาหามาตรการกำกับดูแลสถานีวิทยุชุมชนให้มีประสิทธิภาพ โดยแบ่งประเภทของสถานีวิทยุ เช่น สถานีวิทยุด้านศาสนา และกำหนดวิธีการกำกับดูแลการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้เหมาะสมตามแต่ละประเภทต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
21196 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ | กค | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๑๒ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๘๖) พ.ศ. ๒๕๕๘ จาก “การยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับรายรับของสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ จากการให้กู้ยืมแก่วิสาหกิจในเครือที่เป็นการบริหารเงิน” เป็น “ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะให้แก่สำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ สำหรับรายรับจากการบริหารเงินให้แก่วิสาหกิจในเครือทั้งหมด” โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังเร่งรัดการดำเนินการปรับปรุงประมวลรัษฎากรให้สามารถใช้ฐานเงินดอลลาร์สหรัฐในการคิดภาษีของสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (International Headquarters : IHQ) เพื่อจูงใจให้บรรษัทข้ามชาติมีการจัดตั้ง IHQ รวมถึงการทำธุรกรรมทางการเงินในไทยโดยรวมมากขึ้น ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๘ (เรื่อง การปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ) ต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
21197 | ขออนุมัติคณะรัฐมนตรีผ่อนผันยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 22 พฤษภาคม 2550 เรื่อง การเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว | พม | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติผ่อนผันการเบิกค่าใช้จ่ายเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวที่มิได้กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติงานประจำปี ๒๕๕๗ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ รายการค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว การประชุมเจรจาเพื่อจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลอาหรับเอมิเรตส์ ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๕ กันยายน ๒๕๕๗ โดยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๐ เรื่อง แนวทางการปฏิบัติในการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว และมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
21198 | รายงานสถานการณ์หนี้สินภาคครัวเรือนและมาตรการในการลดภาระหนี้สินภาคครัวเรือนและหนี้นอกระบบ | กค | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์หนี้สินภาคครัวเรือนและมาตรการในการลดภาระหนี้สินภาคครัวเรือนและหนี้นอกระบบ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ดังนี้
๑. สถานการณ์หนี้สินภาคครัวเรือน สัดส่วนหนี้สินภาคครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วง ๘ ปีที่ผ่านมา โดยพิจารณาจากเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนที่ขยายตัวของ GDP ทำให้หนี้สินภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ ๘๑.๑ ของ GDP ในช่วง ๓ ปีที่ผ่านมา อัตราการขยายตัวเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนและการขยายตัวของอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ต่อสินเชื่อรวมมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ๒. ผลกระทบของหนี้สินภาคครัวเรือนในปัจจุบันยังไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทยมากนัก เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหนี้สินภาคครัวเรือนส่งผลกระทบต่อ NPL ในระบบสถาบันการเงินในระดับต่ำแม้ว่าคุณภาพสินเชื่อจะด้อยลงบ้างแต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ดี สถานการณ์หนี้สินภาคครัวเรือนในปัจจุบันยังทรงตัวในระดับสูงแต่อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ และยังขยายตัวช้ากว่าการเพิ่มขึ้นของหนี้สินภาคครัวเรือน อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเพิ่มขึ้นของหนี้สินภาคครัวเรือน และไม่ได้ทำให้ภาระการผ่อนชำระสินเชื่อเพิ่มขึ้นมากนัก และหนี้สินจากบัตรเครดิตมีสัดส่วนค่อนข้างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับหนี้สินภาคครัวเรือนทั้งหมดและมีอัตราการขยายตัวชะลอลง ๓. ความคืบหน้าของการดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนและหนี้นอกระบบของกระทรวงการคลังที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ได้แก่ การส่งเสริมการเพิ่มรายได้ โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรรายย่อยผ่าน ธ.ก.ส. การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ การให้ความคุ้มครองผู้ที่เป็นลูกหนี้ การให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) โครงการของขวัญปีใหม่ ๒๕๕๙ ของกระทรวงการคลัง และมาตรการบรรเทาภาระหนี้สินของผู้ถือบัตรเครดิต
|
||||||||||||||||||||||||||||||
21199 | รายงานผลการดำเนินงานโครงการบูรณาการมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ปี 2558/59 ครั้งที่ 1 | กษ | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการดำเนินโครงการบูรณาการมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบภัยแล้ง ปี ๒๕๕๘/๕๙ ครั้งที่ ๑ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย (๑) มาตรการส่งเสริมความรู้และการสนับสนุนปัจจัยการผลิตเพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน ดำเนินการในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ๒๒ จังหวัด (๒) มาตรการชะลอหรือขยายระยะเวลาชำระหนี้ที่เกษตรกรมีภาระหนี้กับสถาบันการเงิน (๓) มาตรการจ้างงานเพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร (๔) มาตรการเสนอโครงการตามความต้องการของชุมชนเพื่อบรรเทาผลกระทบภัยแล้ง (๕) มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ (๖) มาตรการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน (๗) มาตรการเสริมสร้างสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน (๘) มาตรการสนับสนุนอื่น ๆ อาทิ การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ แผนสินเชื่อสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน การให้ความช่วยเหลือของกองทุนพัฒนาสหกรณ์ เพื่อช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ที่ประสบภัยแล้ง เป็นต้น และ (๙) การให้ความช่วยเหลืออื่น ๆ เช่น การแจกจ่ายน้ำสะอาด เป่าล้างบ่อน้ำบาดาล ซ่อมเครื่องสูบน้ำบาดาล และซ่อมระบบประปา เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||
21200 | สรุปมติที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ครั้งที่ 1/2558 | คค | 01/03/2559 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ครั้งที่ ๑/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ ซึ่งที่ประชุมรับทราบองค์ประกอบ อำนาจหน้าที่ของ คจร. และการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน คจร. ผลการดำเนินงานของ คจร. ผลการดำเนินงานของอนุกรรมการภายใต้ คจร. ผลการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามแผนแม่บทด้านการขนส่งและจราจรในเมืองภูมิภาคจังหวัดลำปาง แนวทางการดำเนินการโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ในเมืองภูมิภาค ผลการดำเนินงานบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม และโครงข่ายทางหลวงและทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและทางพิเศษ รวมทั้งพิจารณาเกี่ยวกับการปรับปรุงคณะอนุกรรมการภายใต้ คจร. การดำเนินการโครงข่ายทางเชื่อมระหว่างทางยกระดับอุตราภิมุขและทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร การรายงานผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการบริหารจัดการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ การขออนุมัติดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยมีนบุรี (สุวินทวงศ์) การแก้ไขกฎหมายทางด้านการจราจรเกี่ยวกับใบอนุญาตขับขี่และอายุการใช้งานของรถโดยสารสาธารณะ และโครงการที่จะส่งเสริมให้ประชาชนในเมืองออกไปอยู่นอกเมือง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
.....