ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 97 จากทั้งหมด 109 หน้า แสดงรายการที่ 1921 - 1940 จากข้อมูลทั้งหมด 2165 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1921 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหามลพิษในแม่น้ำท่าจีน) | ทส | 21/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานความก้าวหน้า
การดำเนินงานตามความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการ แก้ไขปัญหามลพิษในแม่น้ำท่าจีน โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 กรมควบคุมมลพิษได้ดำเนินการสร้างความ พรัอมในการดำเนินงานระบบบำบัดน้ำเสียให้กับเทศบาลเมืองชัยนาท เทศบาลตำบลอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี และเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี ส่วนปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จะดำเนินการต่อเนื่องโดยเพิ่มพื้นที่เทศบาลนคร นครปฐมอีก 1 พื้นที่
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1922 | ผลการประชุม Sub regional Environmental Policy Dialogue : SEPD ครั้งที่ 2 | ทส | 21/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอผลการประชุม
หารือในระดับรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (Sub regional Environmental Policy Dialogue : SEPD) เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2547 โดยที่ประชุมได้เห็นชอบแผนกลยุทธ์ของ UNEP สำหรับ ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สำหรับปี พ.ศ. 2548-2550 โดยมีข้อเสนอแนะให้เพิ่มเติมในเรื่องของความยาก จนกับสิ่งแวดล้อม การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน การย้ายถิ่นฐานจากชนบทสู่เมือง ความรับผิดชอบร่วม กันในระดับที่แตกต่างกัน ปัญหาการจัดการสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง ในส่วนของประเด็นปัญหาสิ่ง แวดล้อมที่มีความสำคัญของแต่ละภูมิภาคสำหรับอนุภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ประชุมได้เห็นชอบกับ ประเด็นที่มีความสำคัญ 2 เรื่อง ได้แก่ การลดขยะ การนำกลับมาใช้ใหม่ และการใช้ซ้ำ (3R-Reduction, Reuse and Recycle) และของเสียอิเล็กทรอนิกส์ โดยผลการประชุมในครั้งนี้จะเป็นการรวบรวมนโยบาย และแนวทางการดำเนินงานของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมที่สำคัญได้แก่การประชุม The 3rd Session of High Level Open-ended Intergovernmental Working Group on an Intergovern mental Strategic Plan for Technology Support and Capacity Building ในระหว่างวันที่ 2-4 ธันวา คม2547 ณ ประเทศอินโดนีเซีย และการประชุมรัฐมนตรีประศาสน์การ (Governing Council : GC) ใน ระหว่างวันที่ 20-26 กุมภาพันธ์ 2548 ณ กรุงไนไรบี สาธารณรัฐเคนยา |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1923 | ขออนุมัติลงนามใน Host Government Agreement ของการจัดประชุมคณะที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ วิชาการและเทคโนโลยี สมัยที่ 10 และการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจว่าด้วยการเข้าถึงและการแบ่งปันผลประโยชน์ ครั้งที่ 3 | ทส | 21/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด
ล้อมเสนอร่าง Host Government Agreement ของการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ วิชาการและเทคโนโลยี สมัยที่ 10 และการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจ ว่าด้วยการเข้าถึงและการแบ่งปันผล ประโยชน์ ครั้งที่ 3 โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ลงนามใน Host Government Agreement ดังกล่าว และให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจ (Full Powers) ให้โดยเร็วต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อความของร่างความตกลง Host Government Agreement ให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนดำเนินการลงนาม ด้วย โดยเห็นควรให้ตัดข้อความเกี่ยวกับการให้เอกสิทธิและความคุ้มกันในข้อ 27 ออกทั้งหมด และตัดข้อความ "The privileges and immunities and" ในข้อ 28 ออก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการคัดเลือกภายในประเทศ (locally recruited personnel) จะไม่มีสิทธิได้รับเอกสิทธิและความคุ้มกันในการประชุมฯ ตามอนุสัญญาว่าด้วย เอกสิทธิและความคุ้มกันของสหประชาชาติ ค.ศ. 1946 และผู้ที่จะได้รับเอกสิทธิและความคุ้มกันในการประชุม มีเพียงบุคคลที่ระบุไว้ในข้อ 24 ของร่างความตกลง ฯ เท่านั้น |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1924 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (การป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจังหวัดจันทบุรีอย่างบูรณาการ) | ทส | 14/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานผลการดำเนิน
การตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2547 ที่อนุมัติในหลักการมาตรการ/โครงการป้องกันและแก้ไข ปัญหาน้ำท่วมจังหวัดจันทบุรีอย่างบูรณาการ เพื่อพิจารณาทบทวนปรับรูปแบบและรายละเอียดของการดำเนิน การต่าง ๆ ให้มีขนาด เทคนิค วิธีการ และวงเงินค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม เท่าที่จำเป็น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ โดยกรมทรัพยากรน้ำได้ดำเนินการประสานและติดตามความคืบหน้าการดำเนินการของกรมชลประทานในการ พิจารณาปรับรูปแบบของคลองระบายด้วยการลดการก่อสร้างถนนฝั่งซ้ายของคลองให้เหลือเฉพาะเขตคลองเพื่อ การซ่อมบำรุงเท่านั้น เพื่อลดราคาโครงการและยังลดปัญหาทางสังคมได้ด้วย ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาทบ ทวนปรับรูปแบบของกรมชลประทาน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1925 | โครงการจัดทำระบบ Early Warning สำหรับพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย - ดินถล่ม | ทส | 14/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับโครงการจัดทำระบบ Early Warning สำหรับพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย-ดินถล่ม
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยให้รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) รับเรื่องนี้ไปพิจารณาทบทวนความจำเป็น เหมาะสม และรายละเอียดของโครงการดังกล่าวร่วมกับกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรม การพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง หาก ผลการพิจารณาเป็นประการใด ให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้ใช้จ่ายจากเงินงบกลาง ปี พ.ศ. 2548 ในวงเงิน 49,979,700 บาท และให้ตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1926 | ผลการดำเนินงานตามโครงการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลุ่มน้ำภาคใต้ตอนล่าง | ทส | 14/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมขาติและสิ่งแวดล้อมรายงานผลการ
ดำเนินงานตามโครงการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลุ่มน้ำภาคใต้ตอนล่าง โดยได้รับมอบ หมายให้ดำเนินงานร่วมกับภาคประชาสังคมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหาร โครงการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลุ่มน้ำภาคใต้ตอนล่าง มีหน้าที่กำกับและบริหารการ ดำเนินงานตามโครงการ ฯ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ประกอบด้วยบุคคลทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดย คณะกรรมการบริหารโครงการฯ ได้กำหนดกรอบแนวทางและหลักเกณฑ์ในการดำเนินกิจกรรมของโครง การ ฯ โดยให้ภาคประชาชนในพื้นที่เป็นผู้เสนอโครงการ/กิจกรรมเพื่อดำเนินงาน และได้แต่งตั้งคณะ ทำงานลุ่มน้ำ 5 คณะ ประกอบด้วย คณะทำงานลุ่มน้ำเทพา-นาทวี ปัตตานี สายบุรี บางนรา และโก- ลก เพื่อดำเนินกิจกรรมในพื้นที่ลุ่มน้ำ คณะกรรมการบริหารโครงการ ฯ และคณะทำงาน ฯ ได้พิจารณา โครงการนำร่อง และโครงการเร่งด่วนของลุ่มน้ำภาคใต้ตอนล่างตามข้อเสนอของคณะทำงาน ฯ ทั้ง 5 ลุ่มน้ำ พบว่า เป็นโครงการที่ดีและส่วนใหญ่ได้ผ่านเวทีประชาชน โดยที่คณะกรรมการ ฯ ขอให้คณะทำ งาน ฯ ไปเพิ่มเติมรายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณ รวมทั้งบางโครงการยังไม่ผ่านเวทีประชาชน ก็ขอให้ไป ผ่านความคิดเห็นของประชาชนก่อน บางโครงการเป็นเรื่องการก่อสร้าง หรือเป็นภารกิจของกรมการขน ส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี ก็ให้ไปปรับแก้ไขด้วย ในส่วนของกำหนดแนวทางการดำเนินงานตามโครง การในระยะต่อไป ให้คณะทำงาน ทั้ง 5 ลุ่มน้ำ ไปจัดทำแผนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อมเพื่อรองรับการแก้ไขปัญหาของลุ่มน้ำทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และท้ายน้ำ โดยการมีส่วนร่วมของประชา ชน รวมถึงการพัฒนาศักยภาพการทำงานของคณะกรรมการบริหารโครงการ ฯ และคณะทำงาน ฯ ทั้งนี้ ในส่วนของงบประมาณ ให้ดำเนินการพิจารณาจัดทำกรอบการจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินงาน ตามโครงการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 และได้เสนอแนะให้มีแผนปฏิบัติงานที่ชัดเจนของคณะกรรม การบริหารโครงการ ฯ ประกอบด้วย แผนการจัดประชุมในช่วงระยะเริ่มต้นโครงการ ฯ ควรมีการประชุม อย่างต่อเนื่องเดือนละ 1 ครั้ง และการเข้าร่วมกิจกรรมในพื้นที่ รวมทั้งให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานในการ ดำเนินงานและประสานงาน เพื่อช่วยการดำเนินงานของกรรมการบริหารโครงการ ฯ ในภาพรวม โดย ให้ทำหน้าที่ในการพัฒนาโครงการ ฯ ประสานงานและช่วยอำนวยการคณะกรรมการบริหารโครงการ ฯ และให้มีคณะทำงานเพื่อการติดตาม นิเทศน์งาน และประชาสัมพันธ์โครงการ ฯ ซึ่งจากการดำเนินงานที่ ผ่านมา ภาคประชาชนมีความกระตือรือล้นในการเข้ามามีส่วนร่วมดำเนินงานและมีส่วนร่วมในการแสดง ความคิดเห็นในการจัดกิจกรรมภายใต้โครงการ ฯ ปัญหาเร่งด่วนหรือปัญหาวิกฤตเฉพาะหน้าได้รับการ แก้ไขอย่างทันท่วงที โครงการนำร่องสามารถขยายผลการดำเนินงานให้เกิดประโยชน์ในพื้นที่ได้อย่าง เป็นรูปธรรม เมื่อสิ้นสุดโครงการจะได้รับแผนการดำเนนงานของโครงการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในมิติต่าง ๆ ที่เกิดจากความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ส่วนผลที่คาดว่าจะได้รับ คือ ความร่วมมือและเกิดความรู้สึกในการเป็นเจ้าของโครงการของภาคประชาชนร่วมกับภาครัฐ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1927 | การแต่งตั้งข้าราชการระดับ 10 (จำนวน 3 ราย) | ทส | 14/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เสนอแต่งตั้ง นายสมชัย เพียรสถาพร ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหาร 10) สำนักงาน ปลัดกระทรวง นายชาตรี ช่วยประสิทธิ์ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร 10) กรมส่งเสริมคุณภาพ สิ่งแวดล้อม และนายสุวัช สิงหพันธุ์ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร 10) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ ป่า และพันธุ์พืช ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1928 | การพัฒนาและปรับปรุงแหล่งน้ำบาดาลเพื่อบรรเทาและแก้ปัญหาภัยแล้ง | ทส | 07/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการพัฒนาและปรับปรุงแหล่งน้ำบาดาลเพื่อบรรเทาและแก้ปัญหาภัยแล้ง
โดยอนุมัติให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมทรัพยากรน้ำบาดาล) ดำเนินการพัฒนาและ ปรับปรุงแหล่งน้ำบาดาลเพื่อบรรเทาและแก้ปัญหาภัยแล้งเป็นกรณีเร่งด่วน โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณราย จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินรวม 28,000,000 บาท ประกอบด้วย การพัฒนาบ่อน้ำบาดาล จำนวน 5,000 บ่อ เป็นเงิน 23,000,000 บาท ซ่อมเครื่องสูบน้ำแบบบ่อลึก จำนวน 2,500 เครื่อง เป็นเงิน 2,500,000 บาท และติดตั้งจุดจ่ายน้ำ จำนวน 500 จุด เป็นเงิน 2,500,000 บาท ทั้งนี้ หากไม่เพียงพอ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขอ ความสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้วด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1929 | สรุปสถานการณ์ความแห้งแล้งและการให้ความช่วยเหลือ (ถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2547) | ทส | 07/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากร
น้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล รายงานสถานการณ์ความแห้งแล้งและการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้ สถานการณ์ น้ำ ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำในภาคต่าง ๆ มีปริมาณน้ำไหลเข้ามากกว่าการระบายออก ยกเว้นอ่างเก็บน้ำ เขื่อนศรีนครินทร์มีปริมาณน้ำระบายออกมากกว่าน้ำไหลเข้าวันละ 14.24 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำในแม่น้ำใน ภาคต่าง ๆ ส่วนใหญ่อยู่ในสภาวะน้ำน้อยและมีแนวโน้มลดลง ปริมาณน้ำฝน โดยเฉลี่ยทุกภาคไม่มีรายงาน ฝนตก ในด้านพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ประกอบด้วย ภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 9 จังหวัด และภาคตะวันออก 8 จังหวัด พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ 8,660,193 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 4,440 ล้านบาท ราษฎรเดือดร้อน 5,872,178 คน 1,605,015 ครัวเรือน สำหรับการ ให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ การจัดตั้งศูนย์อำนวยการติดตามและแก้ไขภัยแล้ง ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อติดตามสถานการณ์และดำเนินการป้องกันแก้ไขวิกฤติการขาดแคลนน้ำ การช่วยเหลือน้ำเพื่อการเกษตร กร รวมทั้งการอุปโภค บริโภค และซ่อมแซมระบบประปาที่ชำรุดทั่วประเทศ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1930 | ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 8 (The 8th Informal ASEAN Ministerial Meeting on the Environment - IAMME#8) และ การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม+3 ครั้งที่ 3 (The 3th ASEAN Plus Three Environment Ministers Meeting - EMM+3#3) | ทส | 30/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานผลการประชุม
รัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 8 โดยสรุปคือ (1) การประชุมรัฐมนตรี ASEAN ด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 12-14 ตุลาคม 2547 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ มีการพิจารณาประเด็น ด้านมลพิษหมอกควันข้ามแดน มีเพียงกัมพูชา ลาว และฟิลิปปินส์ ที่อยู่ในขั้นตอนการให้ความเห็นชอบการให้ สัตยาบันข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษหมอกควันข้ามแดน และจะนำเสนอ ASEAN Scio-Cultural Community Plan of Action และ Vientiane Action Programme, 2004-2010 ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 10 ที่เวียงจันท์ และให้ประเทศสมาชิกเร่งดำเนินการตามขั้นตอนภายในแต่ละประเทศเกี่ยวกับการลงนามในข้อ ตกลงจัดตั้ง ASEAN Center for Biodiversity และข้อตกลง ASEAN Framework Agreement on Access to, and Fair and Equitable Sharing of Benefits Arising from the Utilization of Biological and Genetic Resource และการประชุม IAMME ครั้งที่ 9 และ EMM+3 ครั้งที่ 4 จะจัดที่ฟิลิปปินส์ พ.ศ. 2548 (2) การประชุมรัฐมนตรี อาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม + 3 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2547 คือ มีการทบทวนแนวความร่วมมือหลักใน 10 ด้าน และรับทราบสถานการณ์สิ่งแวดล้อม และการดำเนินการพิทักษ์และส่งเสริมสิ่งแวดล้อมในประเทศจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1931 | รายงานความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองบริเวณตำบลหน้าพระลาน (ครั้งที่ 7 เดือนตุลาคม 2547) | ทส | 30/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานความก้าวหน้า
การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองบริเวณตำบลหน้าพระลาน ครั้งที่ 7 (เดือนตุลาคม 2547) โดยการติดตามตรวจสอบ สถานการณ์ฝุ่นละอองในบรรยากาศในพื้นที่หน้าพระลาน กรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 7 จังหวัดสระบุรี ได้ทำการติดตามตรวจสอบ พบว่าระดับฝุ่นขนาดเล็กบริเวณโรงเรียนหน้าพระลาน มีค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนบริเวณบ้านราษฎรเลขที่ 146 หมู่ 5 และวัดถ้ำศรีวิไล ตรวจพบฝุ่นละอองมี ค่าเกินมาตรฐาน ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงอยู่ในช่วง 42-193 มคก./ลบ.ม. ตามลำดับ (มาตรฐานเท่ากับ 120 มคก. /ลบ.ม.) สำหรับการตรวจสอบวัตถุระเบิด ของคณะกรรมการตรวจสอบควบคุมดูแลการใช้วัตถุระเบิดในเขตพื้น ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ พบว่ามีการใช้วัตถุระเบิดในพื้นที่หน้าพระลานและพื้นที่ข้างเคียงถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ สำนักงานเทศบาลตำบลหน้าพระลานและองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าพระลาน ได้นำรถฉีดพรม น้ำเพื่อลดฝุ่นละอองบนถนนสายหลัก และโรงงานปูนซีเมนต์ 2 แห่ง ในพื้นที่หน้าพระลานได้สนับสนุนรถกวาด และดูดฝุ่นเพื่อทำความสะอาดถนนพหลโยธิน ในส่วนของแผนงานในระยะต่อไป กรมควบคุมมลพิษ สำนักงาน สิ่งแวดล้อมภาคที่ 7 จังหวัดสระบุรี และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสระบุรี จะทำการตรวจสอบการ ระบายฝุ่นละอองจากโรงโม่บดและย่อยหิน รวมทั้งระดับเสียงและความสั่นสะเทือนในพื้นที่หน้าพระลาน และ จัดประชุมติดตามการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่หน้าพระลาน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2547 |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1932 | การดำเนินงานแก้ไขปัญหาการเคลื่อนย้ายของเสียอันตรายข้ามแดน และการจัดการของเสียจากเรือ | ทส | 23/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2.2 (ฝ่าย การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ที่มีมติเกี่ยวกับการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการเคลื่อนย้าย ของเสียอันตรายข้ามแดนและการจัดการของเสียจากเรือ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอ โดยเห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องพัฒนาระบบประกันภัย และหลักประกันทางการเงินอื่นที่ให้ความคุ้มครองเสียหายที่เกิดจากการขน ส่งเคลื่อนย้ายของเสียอันตรายข้ามแดน เพื่อรองรับการดำเนินงานเคลื่อนย้ายของเสียอันตรายข้ามแดนตาม อนุสัญญาบาเซล และให้กระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากร ตรวจสอบการขนส่งของเสียบริเวณหน้าด่านขา เข้าและขาออกตามชายแดนระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจมีการเคลื่อนย้ายของเสียอันตรายโดย การขนส่งทางบกผ่านจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในไทยให้เกิดความรัดกุมยิ่งขึ้น และให้กระทรวงคมนาคม ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการ ป้องกันมลพิษจากเรือ ค.ศ. 1973 และพิธีสาร ค.ศ. 1978 (MARPOL 73/78) ด้านเทคนิควิชาการ ระบบ รองรับการจัดการของเสียจากเรือ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามข้อกำหนด รวมทั้งให้กระทรวงคมนาคมอาศัย อำนาจตามความในพระราชบัญญัติเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดระเบียบ ข้อปฏิบัติ หรือหลักเกณฑ์เพิ่มเติมเพื่อป้องกันมลพิษและลดปัญหามลพิษทางน้ำจากเรืออื่น ๆ ที่ไม่เข้าข่าย ตามหลักเกณฑ์การควบคุมของอนุสัญญา MARPOL 73/78
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1933 | มาตรการแก้ไขปัญหาไฟป่า ปี 2548 | ทส | 23/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอมาตรการ
แก้ไขปัญหาไฟป่า ปี พ.ศ. 2548 และให้หน่วยงานต่าง ๆ ให้ความร่วมมือในการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยว ข้อง ดังนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยออกประกาศจังหวัด กำหนดเขตควบคุมไฟป่า และกำหนดระเบียบ และ มาตรการควบคุมไฟป่าในพื้นที่เขตควบคุมไฟป่า รวมทั้งกำกับดูแลให้มีการดำเนินการไปตามมาตรการที่ กำหนด และออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการไฟป่าระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน เพื่อให้ทุก ฝ่ายที่เกี่ยวข้องในทุกระดับได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาไฟป่า ตลอดจนจัดทำแผนระดมพลดับไฟป่าใน สถานการณ์รุนแรงและวิกฤติ เพื่อบูรณาการกำลังพลและทรัพยากรของทุกภาคส่วนมาช่วยในการดับไฟ ป่า ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการส่งเสริมเกษตรกรให้ใช้ประโยชน์จากเศษสิ่งเหลือทางการ เกษตรแทนการเผา เช่น การนำไปทำปุ๋ยหมัก ทำแท่งเชื้อเพลิง หรือทำสิ่งประดิษฐ์ และเร่งดำเนินการจัด ทำฝนหลวงในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า ให้กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวง และกรมทางหลวง ชนบท กำหนดมาตรการป้องกันการเกิดไฟป่าจากริมทางหลวงทุกสาย ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและ กีฬา ดำเนินการรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังการใช้ไฟในพื้นที่ป่าไม้ ให้กระทรวงกลาโหมสนับสนุน กำลังพลและอากาศยานในการดับไฟป่า และให้กระทรวงศึกษาธิการสอดแทรกความรู้เรื่องการป้องกัน ไฟป่าลงในหลักสูตรการเรียนการสอนทุกระดับของกระทรวง และประชาสัมพันธ์ให้นักเรียน นักศึกษา ในทุกระดับการศึกษาช่วยกันรณรงค์ป้องกันไฟป่า ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งรัดดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องเบี้ยเลี้ยงสำหรับผู้ปฏิบัติงานดับไฟป่าให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1934 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (แนวทางการบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชนทั่วประเทศ) | ทส | 23/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอผลการดำเนินการ
ตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 (ฝ่ายการเกษตรทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) เกี่ยวกับการมีระบบแก้ไขและป้องกันภัยน้ำเสียในชุมชน โดยกระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมได้จัดทำแบบบ่อดักไขมัน เพื่อให้จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปเผยแพร่ รณรงค์ ให้ประชาชนในพื้นที่จัดทำบ่อดักไขมัน รวมทั้งจะเสนอให้มีการปรับแก้กฎหมายหรือข้อบัญญัติที่เกี่ยวข้องให้มีผล บังคับใช้กับบ้านเรือนที่พักอาศัยที่จะก่อสร้างใหม่ในอนาคต นอกจากนี้ ยังได้มีการส่งเสริมสนับสนุนการใช้เทค โนโลยีสะอาดและการผลิตที่สะอาด เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสะอาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการจัดการสิ่งแวดล้อมของกิจกรรมต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมชุมชนด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1935 | การบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของ EANET | ทส | 16/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินงาน ของเครือข่ายการติดตามตรวจสอบการตกสะสมของกรดในภูมิภาคเอเชียตะวันออก (Acid Deposition Moni toring Network in East Asia) หรือ EANET ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548-2550 เฉพาะค่าใช้จ่ายของสำนัก งานเลขานุการ (Secretariat) ปีละ 4,720 ดอลลาร์สหรัฐ ฯ และตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เป็นต้น ไป สนับสนุนค่าใช้จ่ายของสำนักงานเลขานุการ (Secretariat) และศูนย์เครือข่าย (Network Center) ปีละ 11,800 ดอลลาร์สหรัฐ ฯ แต่เนื่องจากในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 มิได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำ ปีรองรับไว้ ประกอบกับวงเงินดังกล่าวเป็นจำนวนไม่มากนัก ให้กรมควบคุมมลพิษพิจารณาปรับแผนการใช้ จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 หรือใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2548 ที่มีเหลือจ่ายมาดำเนินการต่อไป สำหรับการบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการดำเนิน งานของ EANET ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 เป็นต้นไป ให้กรมควบคุมมลพิษเสนอขอตั้งงบประมาณราย จ่ายประจำปีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1936 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ (จำนวน 10 ราย) | ทส | 16/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่งตั้งกรรมการอื่น
ในคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ แทนกรรมการชุดเดิม จำนวน 10 ท่าน ดังนี้ นายฉัตรชัย รัตโนภาส อธิบดี กรมป่าไม้ นายพยุง นพสุวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิ มล.อนุพร เกษมสันต์ ผู้ทรงคุณวุฒิ นายพีระเดช มีนสุข ผู้ทรง คุณวุฒิ นายวิเชียร กีรตินิจกาล รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นาย เฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายไมตรี ดวงสวัสดิ์ อธิบดีกรม ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายวีระชัย ณ นคร ผู้อำนวยการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ นายธวัชชัย สันติ สุข ผู้ทรงคุณวุฒิ และนายนิวัติ เรืองพานิช ผู้ทรงคุณวุฒิ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (16 พฤศจิกา ยน 2547) เป็นต้นไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1937 | การแต่งตั้งกรรมการเพิ่มเติมในคณะกรรมการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ (รศ.คุณหญิงสุชาดา ศรีเพ็ญ) | ทส | 16/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่งตั้ง
รศ.คุณหญิงสุชาดา ศรีเพ็ญ เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ โดยให้มีผล ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (16 พฤศจิกายน 2547) เป็นต้นไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1938 | การแต่งตั้งข้าราชการระดับ 10 (นางนิศากร โฆษิตรัตน์) | ทส | 09/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่ง
ตั้ง นางนิศากร โฆษิตรัตน์ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ (นักบริหาร 10) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1939 | ร่างพระราชกฤษฎีกาขยายเขตอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ในท้องที่ตำบลลำแก่น และตำบลท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา พ.ศ. .... | ทส | 02/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่าง
พระราชกฤษฎีกาขยายอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ในท้องที่ตำบลลำแก่น และตำบลท้าย เหมืองอำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ขยายเขตอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาด ท้ายเหมืองในท้องที่ตำบลลำแก่น และตำบลท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ให้เป็นอุทยาน แห่งชาติเพิ่มเติมและให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1940 | รายงานความคืบหน้าผลการดำเนินการ กรณีการลักลอบฝังกลบกากของเสียที่เป็นอันตราย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา | ทส | 02/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานความคืบหน้า
ผลการดำเนินการกรณีการลักลอบฝังกลบกากของเสียที่เป็นอันตราย ที่ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัด นครราชสีมา โดยความคืบหน้าการสำรวจการปนเปื้อนในดิน จากการติดตามตรวจสอบการปนเปื้อนในดิน บริเวณพื้นที่เกิดเหตุ พบการปนเปื้อนสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ประมาณ 20,400 ตารางเมตร ในระดับ ความลึก 1 เมตร โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้แจ้งผลสำรวจให้กระทรวงอุตสาหกรรม ทราบด้วยแล้ว ในส่วนของการขนย้ายดินปนเปื้อน บริษัท บริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จำกัด มหาชน (GENCO) ได้ทำการปาดหน้าดินบริเวณที่เกิดเหตุที่ระดับความลึกประมาณ 20 - 100 เซนติเมตร และ ได้ขนย้ายดินปนเปื้อนไปทำการปรับเสถียรที่โรงงานจังหวัดระยอง ก่อนนำไปฝังกลบที่บ่อฝังกลบ จังหวัดราช บุรี โดยได้ขนย้ายดินไปกำจัด 5,108 ตัน สำหรับการตรวจสอบคุณภาพน้ำในบ่อบาดาลบริเวณชุมชนที่อยู่โดย รอบพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งผลการตรวจสอบที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2547 พบว่า คุณ ภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยังไม่พบการปนเปื้อนในแหล่งน้ำใต้ดิน
|