ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 100 จากทั้งหมด 108 หน้า แสดงรายการที่ 1981 - 2000 จากข้อมูลทั้งหมด 2154 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1981 | แผนฟื้นคืนธรรมชาติ (วาระสำคัญของรัฐบาล Agenda based) | ทส | 16/07/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแผนฟื้นคืน
ธรรมชาติ ระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2548-2552) รวม 7 แผนงาน 50 โครงการ ประกอบด้วย แผนงานที่ 1 การอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 9 โครงการ แผนงานที่ 2 การป้องกันภัยธรรม ชาติ 9 โครงการ แผนงานที่ 3 การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 5 โครงการ แผนงานที่ 4 การฟื้นฟูสิ่ง แวดล้อมมนุษย์แหล่งธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยว 4 โครงการ แผนงานที่ 5 การควบคุมและป้องกันมล พิษ 5 โครงการ แผนงานที่ 6 การมีส่วนร่วม เสริมสร้างศักยภาพและจิตสำนึกของทุกภาคส่วน 7 โครง การ และแผนงานที่ 7 การพัฒนาระบบฐานข้อมูลและประเมินศักยภาพทรัพยากรธรรมชาติ 5 โครงการ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ภาคเหนืออย่างเร่งด่วน 35 โครงการ โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นคืนธรรมชาติ ประกอบด้วย ด้านทรัพยากรน้ำ 12 โครงการ ด้านทรัพยา กรธรรมชาติและป่าไม้ 11 โครงการ และด้านสิ่งแวดล้อม 15 โครงการ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า การ ดำเนินการป้องกัน แก้ไข ฟื้นฟู และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ อย่างยิ่ง ควรดำเนินการจัดทำแผนให้ชัดเจน เป็นระบบ ครบวงจร ครอบคลุมปัญหาต่าง ๆ อย่างครบ ถ้วนและมีความเชื่อมโยงกันในภาพรวมของประเทศโดยเริ่มพิจารณาปัญหาในแต่ละลุ่มน้ำซึ่งจะต้องครอบ คลุมเรื่องต่าง ๆ เช่น ป่าไม้ ป่าชายเลน ที่ดิน ชายฝั่ง น้ำเสีย ขยะ เป็นต้น และกำหนดแนวทางแก้ไข ปัญหาในแต่ละเรื่องให้สอดคล้องกับแนวนโยบาย จัดลำดับความสำคัญของการดำเนินการ งบประมาณ ที่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมด หน่วยงานเจ้าภาพที่รับผิดชอบ รวมทั้งต้องมีมาตรการและแนวทางการดำเนิน การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้าในระหว่างที่รอการดำเนินการตามแผนที่เสนอ โดยรับความเห็นบางประการของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย และ การจัดทำแผน ฯ ดังกล่าว ให้หารือนายกรัฐมนตรีเป็นระยะ ๆ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1982 | การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ภาคเหนือ (วาระสำคัญของรัฐบาล Agenda based) | ทส | 16/07/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแผนฟื้นคืน
ธรรมชาติ ระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2548-2552) รวม 7 แผนงาน 50 โครงการ ประกอบด้วย แผนงานที่ 1 การอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 9 โครงการ แผนงานที่ 2 การป้องกันภัยธรรม ชาติ 9 โครงการ แผนงานที่ 3 การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 5 โครงการ แผนงานที่ 4 การฟื้นฟูสิ่ง แวดล้อมมนุษย์แหล่งธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยว 4 โครงการ แผนงานที่ 5 การควบคุมและป้องกันมล พิษ 5 โครงการ แผนงานที่ 6 การมีส่วนร่วม เสริมสร้างศักยภาพและจิตสำนึกของทุกภาคส่วน 7 โครง การ และแผนงานที่ 7 การพัฒนาระบบฐานข้อมูลและประเมินศักยภาพทรัพยากรธรรมชาติ 5 โครงการ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ภาคเหนืออย่างเร่งด่วน 35 โครงการ โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนพื้นคืนธรรมชาติ ประกอบด้วย ด้านทรัพยากรน้ำ 12 โครงการ ด้านทรัพยา กรธรรมชาติและป่าไม้ 11 โครงการ และด้านสิ่งแวดล้อม 15 โครงการ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า การ ดำเนินการป้องกัน แก้ไข ฟื้นฟู และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ อย่างยิ่ง ควรดำเนินการจัดทำแผนให้ชัดเจน เป็นระบบ ครบวงจร ครอบคลุมปัญหาต่าง ๆ อย่างครบ ถ้วนและมีความเชื่อมโยงกันในภาพรวมของประเทศโดยเริ่มพิจารณาปัญหาในแต่ละลุ่มน้ำซึ่งจะต้องครอบ คลุมเรื่องต่าง ๆ เช่น ป่าไม้ ป่าชายเลน ที่ดิน ชายฝั่ง น้ำเสีย ขยะ เป็นต้น และกำหนดแนวทางแก้ไข ปัญหาในแต่ละเรื่องให้สอดคล้องกับแนวนโยบาย จัดลำดับความสำคัญของการดำเนินการ งบประมาณ ที่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมด หน่วยงานเจ้าภาพที่รับผิดชอบ รวมทั้งต้องมีมาตรการและแนวทางการดำเนิน การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้าในระหว่างที่รอการดำเนินการตามแผนที่เสนอ โดยรับความเห็นบางประการของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย และ การจัดทำแผน ฯ ดังกล่าว ให้หารือนายกรัฐมนตรีเป็นระยะ ๆ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1983 | แผนการจัดการน้ำเสียชุมชนและแผนฟื้นฟูและปรับปรุงระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชนทั่วประเทศ และการจัดการปัญหาน้ำเสียจากฟาร์มสุกรในพื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีน (วาระสำคัญของรัฐบาล Agenda based) | ทส | 16/07/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแผนการ
จัดการน้ำเสียชุมชนและแผนฟื้นฟูและปรับปรุงระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชนทั่วประเทศ ประกอบ เป้าหมายหลักในการทำให้ชุมชนและประชาชนมีคุณภาพสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตดีขึ้น และเป้าหมายรอง คือ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อมสามารถบริหารจัดการน้ำเสียชุมชน ด้วยการพึ่งพาตนเองได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ภายในปี พ.ศ. 2554 และมีการดำเนินการจัดการน้ำเสียชุมชนในชุมชนเมือง 291 พื้นที่ เพื่อควบ คุมปริมาณของเสียให้ระบายออกสู่สิ่งแวดล้อมได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของที่เกิดขึ้นภายในปี พ.ศ. 2551 และมีการ บริหารจัดการน้ำเสียในชุมชนเมือง 1,130 พื้นที่ ให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพภายในปี พ.ศ. 2560 สำหรับ รายละเอียดที่จะดำเนินการตามแผนการจัดการน้ำเสียชุมชนให้ศึกษาความเป็นไปได้ในทุก ๆ ด้าน และคำนึงถึง ความพร้อมในด้านต่าง ๆ ที่จะก่อสร้างระบบ รวมทั้งติดตามประเมินผลความสำเร็จของโครงการอย่างเป็นรูป ธรรม และต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมต่อ ไป และให้รับความเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของส่วนราชการไปประกอบการพิจารณาด้วย โดยหากกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเห็นว่ามีส่วนใดที่จำเป็นต้องรีบดำเนินการก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา ปรับแผนปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ไปดำเนินการ ส่วนงบประมาณรายจ่ายที่จะต้องใช้จ่ายในปีต่อไป ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่าย ประจำปีตามความเหมาะสมและจำเป็นต่อไป สำหรับการจัดการน้ำเสียจากฟาร์มสุกรในพื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีนโดยที่ ในพื้นที่ลุ่มน้ำดังกล่าวซึ่งมีฟาร์มสุกรขนาดเล็กเป็นจำนวนมากประกอบกับยังไม่มีระบบบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อย ลงสู่แม่น้ำลำคลอง ดังนั้น หากรัฐจะสนับสนุนงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปดำเนินการปรับ ปรุงซ่อมแซมระบบบำบัดน้ำเสีย เดินระบบ และดูแลรักษาระบบบำบัดน้ำเสีย ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยไม่ครอบคลุมถึงน้ำเสียจากฟาร์มสุกรขนาดเล็ก อาจไม่สามารถแก้ไขต้นตอของ ปัญหาได้อย่างแท้จริงและไม่คุ้มค่าแก่การลงทุนเท่าที่ควร จึงให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสำรวจ ตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงของสภาพปัญหาในพื้นที่ให้ถูกต้องชัด เจนอีกครั้งหนึ่ง หากเห็นควรดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำเสียในพื้นที่ลุ่มน้ำดังกล่าวประการใด และจำเป็นต้องใช้ งบประมาณเพิ่มเติมเท่าใด ก็ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1984 | การพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา (วาระสำคัญของรัฐบาล Agenda based) | ทส | 16/07/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ รับทราบผล
การดำเนินงานในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ตามสาระสำคัญของโครงการเร่งรัดการพัฒนา ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 และโครงการภายใต้แผนบูรณาการงบประมาณ การพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 และเห็นชอบให้ขยายเวลาการเบิก จ่ายเงินงบประมาณ ปี พ.ศ. 2545 งบกลาง ค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับเป็นค่าจ้าง จัดทำแผนแม่บทการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาและค่าใช้จ่ายของสำนักงานเลขานุการโครงการจัดทำ แผนแม่บท ฯ โดยให้ขยายเวลาการเบิกจ่ายออกไปอีก 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2548 รวมทั้งเห็นชอบโครงการที่เสนอขอแปรญัตติเพิ่มเติมงบประมาณรายจ่ายการพัฒนาลุ่ม น้ำทะเลสาบสงขลา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 11 โครงการ ในวงเงิน 87.9 ล้านบาท โดยมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการตามขั้นตอนการขอแปรญัตติงบประมาณเพิ่มเติมต่อไป ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า การพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ เพื่อแก้ไขฟื้นฟูสภาพของลุ่มน้ำให้ดีขึ้นใกล้เคียงกับสภาพเดิมตามธรรมชาติให้มากที่สุด ในขณะเดียวกันก็ จะต้องไม่ให้เกิดผลกระทบต่อวิถีชีวิต และการประกอบอาชีพของประชาชนในพื้นที่ จึงให้ส่วนราชการที่ เกี่ยวข้องประสานและร่วมมือในการดำเนินการด้านต่าง ๆ กันอย่างใกล้ชิด โดยในส่วนของการประกอบ อาชีพของประชาชนที่ไม่ถูกต้อง เช่น การใช้ไซ หรือโพงพางในการจับปลา เป็นต้น ให้คณะกรรมการ พัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนให้ยุติการกระทำดังกล่าว และให้กำหนด ระยะเวลาผ่อนผันให้ชัดเจนหลังจากนั้นจึงให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1985 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520 | ทส | 06/07/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่าง
กฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520 โดยมีสาระ สำคัญคือ ให้นำเงินที่ได้จากการเรียกเก็บค่าใช้น้ำบาดาลตามกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติน้ำ บาดาล พ.ศ. 2520 นำส่งเข้ากองทุนพัฒนาน้ำบาดาลในอัตราร้อยละห้าสิบของเงินดังกล่าว และให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1986 | ขออนุมัติงบประมาณและก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าปีงบประมาณสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมนานาชาติ CITES CoP13 และ BWCC | ทส | 06/07/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอของบประมาณ
เพื่อจัดการประชุมสมัยสามัญภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 13 (The 13th Meeting of the Conference of the Parties to CITES-CITES CoP13) ระหว่างวันที่ 2-14 ตุลาคม 2547 ณ กรุงเทพมหานคร และก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าปีงบประมาณ สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ใหญ่สมัชชาการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโลก ครั้งที่ 3 (The 3rd IUCN World Conservation Congress หรือ Bangkok World Conservation Congress-BWCC) ระหว่างวันที่ 17-25 พฤศจิกายน 2547 สำหรับเรื่องการเงินให้เป็น ไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่ให้ดำเนินการได้ในวงเงินรวมทั้งสิ้น จำนวน 238,377,990 บาท ซึ่ง จะเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 80,000,000 บาท ส่วนงบประมาณที่จะต้องใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 อีกจำนวน 158,377,990 บาท นั้น ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยาน แห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเสนอขอแปรญัตติเพิ่มงบประมาณต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราช บัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ตามขั้นตอนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1987 | ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. .... | ทส | 29/06/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 (คกก.5) ที่
มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึก ดำบรรพ์ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีการขึ้นทะเบียนแหล่งซากดึกดำบรรพ์และซากดึกดำบรรพ์ กำหนดมิให้ผู้ใดส่งหรือนำซากดึกดำบรรพ์ออกนอกราชอาณาจักร กำหนดเขตสำหรับการดำเนินการสำรวจและ ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับแหล่งซากดึกดำบรรพ์หรือซากดึกดำบรรพ์ กำหนดให้มีศูนย์วิจัยซากดึกดำบรรพ์ สถานที่จัด แสดงซากดึกดำบรรพ์ หรือพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา กำหนดให้มีกองทุนบริหารจัดการซากดึกดำบรรพ์ กำหนดให้มี พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปในแหล่งซากดึกดำบรรพ์เพื่อตรวจดูและยึดหรืออายัดซากดึกดำบรรพ์ กำหนด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และกำหนดบทลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนร่างพระราช บัญญัตินี้ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยให้รับข้อสังเกต ของ คกก.5 ไปพิจารณาดำเนินการด้วยดังนี้ การกำหนดผู้รับผิดชอบกรณีแหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่ชำรุดพังทลาย หรือเสียหาย ไม่ควรให้เป็นภาระของเจ้าของที่ดิน และในการจัดตั้งกองทุนบริหารจัดการซากดึกดำบรรพ์ การ เก็บรักษา และการจ่ายเงินกองทุนบริหารจัดการซากดึกดำบรรพ์ ระเบียบการใช้จ่ายเงินต้องตราเป็นพระราช บัญญัติ และควรเป็นไปตามที่กระทรวงการคลังเห็นชอบ ส่วนชื่อร่างพระราชบัญญัติ ฯ ควรเปิดกว้างเป็น "พระ ราชบัญญัติซากดึกดำบรรพ์" เพราะหากใช้คำว่า "คุ้มครอง" อาจจะไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของร่างพระราช บัญญัติ ฯ เนื่องจากบทบัญญัติของร่างพระราชบัญญัติ ฯ มิได้มีวัตถุประสงค์แค่คุ้มครองซากดึกดำบรรพ์เท่านั้น แต่ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในการดูแลรักษาและอนุรักษ์ การรักษาสภาพ ความปลอดภัย ความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของแหล่งซากดึกดำบรรพ์ การส่งเสริมการศึกษา การเผยแพร่ การจัดแสดง การสำรวจและศึกษาวิจัย และพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยาด้วย นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อมควรปรับปรุงมาตรา 37(1) และ (2) ของร่างพระราชบัญญัติ ฯ เกี่ยวกับการกำหนดอำนาจหน้าที่พนัก งานเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปตรวจค้นสถานที่ หรือเคหสถานให้ชัดเจน ระหว่างกฎหมายอาญาและการปกครอง อีกทั้งควรชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์ของรัฐกับประโยชน์ของปัจเจกชน รวมทั้งกฎหมายที่ออกมาควรลดเรื่อง ทางลบ เช่น การขู่การจับ การตรวจค้น ควรมีการยืดหยุ่น และแยกเกรดของซากดึกดำบรรพ์ที่พบ และพยายาม ให้เอกชนเข้ามาร่วมดำเนินการอย่างโปร่งใส จะช่วยได้มาก |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1988 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง และอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อำเภอหัวหิน และอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | ทส | 22/06/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างประกาศ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมใน บริเวณพื้นที่อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง และอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อำเภอ หัวหิน และอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณาแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดพื้นที่อำเภอบ้านแหลม อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง และอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อำเภอหัวหิน และอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นเขตควบ คุมมลพิษ และเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1989 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณจังหวัดพังงา และในบริเวณจังหวัดกระบี่ พ.ศ. .... | ทส | 22/06/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่าง
ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวด ล้อมในบริเวณพื้นที่อำเภอคุระบุรี อำเภอตะกั่วป่า อำเภอท้ายเหมือง อำเภอตะกั่วทุ่ง อำเภอเมืองพังงา อำเภอทับปุด และอำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา พ.ศ. .... และร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่อำเภออ่าวลึก อำเภอ เมืองกระบี่ อำเภอเหนือคลอง อำเภอเกาะลันตา และอำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ พ.ศ. .... โดยมีสาระ สำคัญคือ กำหนดให้เขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมครอบคลุมพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่งทะเลของจังหวัดพังงา และจังหวัดกระบี่ และกำหนดมาตรการเพื่อการรักษาและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มี กำหนดระยะเวลาบังคับใช้ 5 ปี และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการ ต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1990 | รายงานความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองบริเวณตำบลหน้าพระลาน | ทส | 22/06/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานความก้าวหน้า
การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองบริเวณตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี ครั้งที่ 3 ระหว่าง วันที่ 12 พฤษภาคม-11 มิถุนายน 2547 ซึ่งมีผลการดำเนินงานในส่วนของการตรวจสอบแหล่งกำเนิดมลพิษ การฟื้นฟูเหมืองหินร้างและการตรวจสอบการให้อนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้เพื่อการทำเหมือง การทำความสะอาด ถนน การดำเนินงานอื่นที่เกี่ยวข้องตาม (ร่าง) แผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษ การติด ตามตรวจสอบสถานการณ์ฝุ่นละออง เสียง และความสั่นสะเทือน รวมทั้งการกำหนดแผนงานกำกับดูแลแหล่ง กำเนิดฝุ่นละอองอื่นเพิ่มเติม ดังนี้ โรงงานอุตสาหกรรมอื่นที่อยู่ในตำบลหน้าพระลานและพื้นที่ใกล้เคียง อาจจะ มีการระบายฝุ่นละอองจากปล่องระบายอากาศเสียในช่วงใดช่วงหนึ่งเกินกว่าที่มาตรฐานกำหนด เช่น โรงงาน ปูนซิเมนต์ และโรงงานผลิตปูนขาว เป็นต้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมล พิษ จะร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินการตรวจสอบการระบายฝุ่นละอองจาก โรงงานปูนซิเมนต์ และโรงงานผลิตปูนขาวที่อยู่ในพื้นที่ตำบลหน้าพระลาน ในช่วงเดือนสิงหาคม 2547 ส่วน การประกอบกิจการของโรงโม่ บด และย่อยหิน ในช่วงเวลากลางคืน อาจจะดำเนินการโดยไม่มีการควบคุมฝุ่น ละออง และการตกสะสมของเศษฝุ่นดินและหินบนถนน การฟุ้งกระจายเมื่อรถวิ่งบดทับไปมา และฝุ่นที่เกิดจาก ดินโคลนที่ติดล้อรถบรรทุกขณะออกจากโรงโม่ ฯ รวมไปถึงเหมืองหินออกมาวิ่งบนถนนสาธารณะเมื่อดินโคลน แห้ง และเกิดการบดทับจากยานพาหนะจึงเกิดเป็นฝุ่นขนาดเล็กฟุ้งกระจายในอากาศได้ นอกจากนี้ กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อม จะกำหนดจัดประชุมเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษในเขตควบคุมมลพิษตำบล หน้าพระลาน และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในเขตควบคุมมลพิษ (ครั้งที่ 2) ในวันที่ 14 มิถุนายน 2547 ณ จังหวัดสระบุรี และจะนำเสนอให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณาในเดือนมิถุนายน 2547 เพื่อ นำเสนอให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1991 | การแต่งตั้งข้าราชการระดับ 10 (นายวิชัย แหลมวิไล และนายเกษม จันทจรูญพงษ์) | ทส | 22/06/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่ง
ตั้ง นายวิชัยแหลมวิไล ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการ 10) สำนักงานปลัดกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายเกษม จันทจรูญพงษ์ ให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดี (นักบริหาร 10) กรมทรัพยากรน้ำ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1992 | ขออนุมัติจัดทำประกันภัยสถานีตรวจวัดสภาพอากาศทางอุตุนิยมวิทยาระดับผิวพื้น (เสาสูง 100 เมตร) | ทส | 15/06/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอให้
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ จัดทำประกันภัยสำหรับสถานีตรวจวัด สภาพอากาศทางอุตุนิยมวิทยาระดับผิวพื้น (เสาสูง 100 เมตร) จำนวน 5 สถานี ต่อเนื่องจากเดิมเป็นระยะ เวลา 5 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548-พ.ศ. 2552) และให้กำหนดอัตราค่าเบี้ยประกันภัยสำหรับสถานี ตรวจวัดสภาพอากาศทางอุตุนิยมวิทยาระดับผิวพื้นในอัตราสูงสุดไม่เกิน 40,000 บาท ต่อปี ต่อ 1 สถานี จำนวน 5 สถานี รวมเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้รับ ความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ที่แจ้งว่าอัตราเบี้ยประกันภัยสำหรับสถานีตรวจวัดสภาพอากาศทางอุตุนิยม วิทยาระดับผิวพื้นที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ เป็นอัตรา ฯ ที่ต่ำกว่าอัตรา ฯ ที่กรม การประกันภัยกระทรวงพาณิชย์ ได้กำหนดเป็นมาตรฐานให้ทุกบริษัทถือปฏิบัติ ฉะนั้น หากจะกำหนด ให้อัตรา ฯ ดังกล่าวบริษัทประกันภัยสามารถดำเนินการได้ แต่ทั้งนี้ต้องขอรับความเห็นชอบจากกรมการ ประกันภัย กระทรวงพาณิชย์ เป็นกรณีพิเศษก่อน ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1993 | การลงนามในบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding, MOU) โครงการความร่วมมือกับศูนย์วิจัยภายใต้รัฐบาลสวิสเซอร์แลนด์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย | ทส | 15/06/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง
แวดล้อมเสนอบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding, MOU) โครงการความร่วมมือกับศูนย์ วิจัยภายใต้รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมโดยกรมควบคุมมลพิษลงนามร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียและศูนย์วิจัยภายใต้รัฐบาลสวิส เซอร์แลนด์ (The Swiss National Centre of Competence in Research North-South, NCCR N-S) ใน บันทึกความเข้าใจดังกล่าว ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข ที่เห็นควรให้มีผู้แทนจากกระทรวง สาธารณสุขร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการดำเนินงานศึกษาวิจัยเกี่ยวกับแนวทางการสาธารณสุขสิ่งแวด ล้อมในลุ่มแม่น้ำท่าจีน ไปดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1994 | การบริจาคเงินสมทบกองทุนสิ่งแวดล้อมของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ | ทส | 08/06/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอให้ประเทศไทย
บริจาคเงินสมทบกองทุนสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติสำหรับในช่วงปี พ.ศ. 2547-พ.ศ. 2549 เป็นจำนวน เงินปีละ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1995 | ขอเปลี่ยนประธานคณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา | ทส | 08/06/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) ประธานคณะกรรม
การพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา เสนอการเปลี่ยนประธานคณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา จาก รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) เป็น รองนายกรัฐมนตรี (นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1996 | รายงานสถานการณ์อุทกภัย อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก และ อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ | ทส | 25/05/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานสถานการณ์
อุทกภัย อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก และอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ อันเนื่องมาจากได้เกิดพายุดีเปรสชั่น ตั้งแต่วันที่ 19-20 พฤษภาคม 2547 ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มในบางพื้นที่ ส่งผลให้เกิดความเสีย หายต่อชีวิตและทรัพย์สินของราษฎร โดยสถานการณ์และความเสียหายที่อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก หมู่ บ้านได้รับความเสียหาย 10 หมู่บ้าน ราษฎรเสียชีวิต 5 คน บาดเจ็บ 105 คน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 378 หลัง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 2,135 ครัวเรือน 8,846 คน ถนนเสียหาย 19 สาย สะพานเสียหาย 4 แห่ง ฝายกั้นน้ำเสียหาย 21 แห่ง ส่วนที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ หมู่บ้านได้รับความเสียหาย 2 ตำบล บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 370 หลัง สะพานเสียหาย 2 แห่ง ไม่พบผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ การแก้ปัญหา เฉพาะหน้า ได้มอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และองค์การอุตสาหกรรมป่า ไม้ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตากและจังหวัดเชียงใหม่ ประสานกับทางจังหวัด ให้ ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และให้เคลื่อนย้ายต้นไม้ เศษไม้ และปลายไม้ ที่กระจายอยู่ทั่วไปและกีดขวางทางน้ำในบริเวณเกิดเหตุ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1997 | ขออนุมัติแผนยุทธศาสตร์งบประมาณรายจ่ายปี พ.ศ. 2547 ค่าตอบแทนและการประกาศแนวเขตพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน | ทส | 25/05/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 ที่มีมติ อนุมัติหลักการนโยบายและแผนยุทธศาสตร์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2547 - 2550 ของคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (กพท.) โดยวงเงินคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ขององค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่ พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) เห็นชอบวงเงินในเบื้องต้น จำนวน 149,450,000 บาท โดยใช้จ่ายจากงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่ง ยืนของประเทศ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้ยกเว้นหลักเกณฑ์ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2543 และวันที่ 11 มกราคม 2543 เป็นการเฉพาะคราว โดยขออนุมัติค่าตอบแทน ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) อัตรา เบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานกรรมการ กรรมการ กรรมการที่ปรึกษา และอนุกรรม การ ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ทั้งนี้ หากในโอกาสต่อไปคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกับการปรับ ปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราเงินเดือน และผลประโยชน์ตอบแทนอื่น ของผู้อำนวยการองค์การมหาชน ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. จะได้เสนอต่อไป ก็ให้คณะกรรมการ กพท. พิจารณากำหนดอัตราเงินเดือนและผล ประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้อำนวยการองค์การมหาชนใหม่ตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว นอกจากนี้ อนุมัติหลัก การตามที่คณะกรรมการ กพท. เสนอร่างประกาศคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่อง เที่ยวอย่างยั่งยืน เรื่อง การกำหนดแนวเขตพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนหมู่เกาะช้างและพื้นที่ เชื่อมโยง และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1998 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2547 | ทส | 25/05/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอมติคณะกรรมการ
สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2547 ซึ่งคณะกรรมการ ฯ ได้ให้การรับรองเรียบร้อยแล้ว รวม 13 เรื่อง เป็น เรื่องที่ประธาน ฯ แจ้งต่อที่ประชุม เรื่องรายงานการประชุม ฯ ครั้งที่ 2/2547 เรื่องสืบเนื่องเพื่อพิจารณา 1 เรื่อง ได้แก่ รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการขยายท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต เรื่องเพื่อพิจารณา 5 เรื่อง ได้แก่ รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการบ้านเอื้ออาทรบางโฉลง ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 และโครงการบ้านเอื้ออาทรหัวหมาก โครงการจัดตั้งห้องปฏิบัติการไดออกซิน การปรับปรุงองค์ประกอบ คณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างของกรมควบคุมมลพิษ กรอบมาตรการจัดการปัญหามลพิษ ทางอากาศและเสียงจากท่าอากาศยาน การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่หน้าพระลาน จังหวัดสระบุรี เรื่อง เพื่อทราบ 4 เรื่อง ได้แก่ การกำหนดมาตรฐานคุณภาพดิน การขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อ การออกประทานบัตรเหมืองแร่ใหม่ซ้ำในพื้นที่ประทานบัตรเดิมที่จะสิ้นสุดอายุประทานบัตร ของบริษัท ปูนซิ เมนต์ไทย (ท่าหลวง) จำกัด : แผนการทำเหมืองแร่ในภาพรวม จำนวน 21 แปลง ผลการศึกษาโครงการศึกษา แผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ตั้งแต่ปากแม่น้ำเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ถึงปากแม่น้ำ ปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และผลการตรวจสอบและประเมินผลการปนเปื้อนของสารแคดเมียม ในพื้นที่ ลุ่มน้ำแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และเรื่องอื่น ๆ ได้แก่ การปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบคณะ กรรมการผู้ชำนาญการ/คณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในการประชุมคณะกรรม การสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2547 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2547
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1999 | รายงานความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองบริเวณตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี (ครั้งที่2) | ทส | 18/05/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานความก้าวหน้า
การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองบริเวณตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี ครั้งที่ 2 ระหว่าง วันที่ 25 เมษายน - 11 พฤษภาคม 2547 โดยมีผลการดำเนินงานดังนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อม มีคำสั่งย้ายและแต่งตั้งข้าราชการในพื้นที่จังหวัดสระบุรีที่เกี่ยวข้อง จำนวน 8 ราย ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2547 เป็นต้นไป ส่วนสำนักงานป่าไม้จังหวัดสระบุรี ได้ทำการตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้ ตามพระราช บัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 จำนวน 29 พื้นที่ สามารถจับกุมและดำเนินคดีกับผู้บุกรุกป่าในพื้นที่ตำบลหน้าพระ ลาน และพื้นที่ใกล้เคียงได้รวมทั้งสิ้น 14 ราย จำนวนเนื้อที่ป่าไม้ 401-1-92 ไร่ ด้านกรมควบคุมมลพิษ ได้ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดประชุมเพื่อทำแผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษ พร้อมทั้งกำหนดมาตรการคุ้ม ครองสิ่งแวดล้อมในเขตตำบลหน้าพระลาน รวมทั้งได้ดำเนินการตรวจวัดฝุ่นขนาดเล็กในบรรยากาศจากสถานี ตรวจวัดแบบอัตโนมัติบริเวณโรงเรียนหน้าพระลาน พบว่า แนวโน้มของฝุ่นขนาดเล็กเฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าลด ลง และได้ร่วมกับสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 7 สระบุรี ได้ดำเนินการตรวจวัดฝุ่นละอองในบรรยากาศเพิ่มเติม โดยใช้เครื่องมือตรวจวัดแบบ Hi-Volume Air Sampler ในพื้นที่ตำบลหน้าพระลาน พื้นที่เขตเทศบาลตำบล หน้าพระลาน และพื้นที่เขต อบต.หน้าพระลาน และดำเนินการตรวจวัดระดับเสียงและความสั่นสะเทือนจากกิจ กรรมโรงโม่บดและย่อยหิน และการทำเหมืองหินในพื้นที่ตำบลหน้าพระลาน ซึ่งผลการตรวจวัดพบว่ามีค่าอยู่ ในเกณฑ์มาตรฐาน ในการนี้ กรมควบคุมมลพิษ อยู่ระหว่างการจัดทำประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่ง ชาติเพื่อประกาศให้ตำบลหน้าพระลานทั้งตำบลเป็นเขตควบคุมมลพิษ สำหรับการดำเนินงานของสำนักงาน นโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตรวจสอบเหมืองหิน 8 แห่ง ในพื้นที่ตำบลหน้าพระ ลาน พบว่า โครงการทั้งหมดยังไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวด ล้อม และยังไม่ได้จัดส่งรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการในรายงานดังกล่าว ซึ่งทางสำนักงานนโยบายและ แผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แจ้งผลการตรวจสอบเจ้าของโครงการปฏิบัติตามมาตรการในราย งานดังกล่าวแล้ว และแจ้งกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กำกับดูแลการดำเนินงานของโครงการ ต่อไปแล้ว และขณะนี้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อยู่ระหว่างการจัดทำข้อ กำหนดให้โรงงานอุตสาหกรรมประเภทโรงโม่บดและย่อยหินทุกขนาดตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน จะต้องทำ รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2000 | การแต่งตั้งข้าราชการระดับ 10 (จำนวน 3 ราย) | ทส | 18/05/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่งตั้ง นางมณทิพย์
ศรีรัตนา ทาบูกานอน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการ 10 ตำแหน่งเลขที่ 9) สำนัก งานปลัดกระทรวง นายสุวัช สิงหพันธุ์ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร 10 ตำแหน่งเลขที่ 1) กรมส่งเสริม คุณภาพสิ่งแวดล้อม และนายสุรชัย ศศิสุวรรณ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการ 10 ตำแหน่งเลขที่ 127) สำนักงานปลัดกระทรวง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง เป็นต้นไป |