ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 91 จากทั้งหมด 109 หน้า แสดงรายการที่ 1801 - 1820 จากข้อมูลทั้งหมด 2165 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1801 | รายงานผลการดำเนินการ เรื่อง ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของชาติ และการจัดการ 25 ลุ่มน้ำสำคัญของประเทศ และ เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของชาติและ 25 แม่น้ำสำคัญของประเทศ รวม 9 กลุ่มลุ่มน้ำ และ เรื่อง ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการบริหารจัดการภัยน้ำหลาก ภัยน้ำเสีย และภัยน้ำขาดแคลนในพื้นที่ราบลุ่มภาคกลางแบบบูรณาการ | ทส | 21/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานผลการดำเนิน
การตามความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง แนวทางการบริหารจัด การทรัพยากรน้ำของชาติ และการจัดการ 25 ลุ่มน้ำสำคัญของประเทศ เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้ำของชาติ และ 25 แม่น้ำสำคัญของประเทศ รวม 9 กลุ่มลุ่มน้ำ และเรื่อง การบริหารจัดการภัยน้ำ หลาก ภัยน้ำเสีย และภัยน้ำขาดแคลนในพื้นที่ราบลุ่มภาคกลางแบบบูรณาการ โดยมีผลการดำเนินการบริหาร จัดการทรัพยากรน้ำตามแนวทางข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ อาทิเช่น การบริหารจัดการน้ำอย่างเป็น ระบบ ได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลสถานการณ์ทรัพยากรน้ำ ศักยภาพการพัฒนา ประเด็นปัญหาและกลยุทธ์ การแก้ไขปัญหา มาตรการและแผนงานการแก้ไขปัญหาในทุกลุ่มน้ำ และกำหนดแผนการลงทุนในโครงการลง ทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega Project) ในช่วงปี พ.ศ. 2549-2552 ส่วนแนวทางการดำเนินงานการจัดการ ลุ่มน้ำแบบบูรณาการ ประกอบด้วย การดำเนินการในพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ นอกจากนี้ ยังมีการ แก้ไขปัญหาท้ายน้ำและชายฝั่ง การจัดทำร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ และการปรับปรุงโครงสร้างหน่วย งานด้านน้ำ เป็นต้น สำหรับค่าใช้จ่ายในการนี้โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 เห็นชอบ ในหลักการโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ ในเรื่องกรอบวงเงินรวม (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549-2552) เป็นวงเงินในสาขาทรัพยากรน้ำ รวม 203,084 ล้านบาท โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 จะพิจารณาจัดสรรงบ ประมาณเพิ่มให้จากที่ได้รับจัดสรรไว้แล้วตามพระราชบัญญัติงบประมาณ พ.ศ. 2549 เฉพาะโครงการที่มีความ พร้อม สามารถดำเนินการได้ทันที ส่วนวงเงินที่ยังเกินอยู่ให้กระจายไปดำเนินการในปีถัดไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
1802 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค | ทส | 21/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานความ
ก้าวหน้าการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค สำหรับการพิจารณามอบหมาย กระทรวงมหาดไทย เร่งรัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดำเนินงานตามโครงการแก้ไขปัญหาการ ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และการมอบหมายให้สำนักงบประมาณพิจารณาเร่งรัดจัดสรรงบประมาณให้ แก่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค เพื่อที่จะได้โอนงบประมาณให้แก่ อปท. ที่ได้รับความเห็นชอบโครงการ จากคณะกรรมการอำนวยการโครง การจัดหาแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคทั่วประเทศแล้วต่อไปนั้น เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 6 กันยา ยน 2548 อนุมัติวงเงินและแนวทางปฏิบัติไปแล้ว จึงให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานการดำเนินการตามแนวทางมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวต่อไป และให้เสนอคณะ รัฐมนตรีทราบ
|
|||||||||||||||||||||||||||
1803 | ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนผู้รับผิดชอบการอนุวัตตามอนุสัญญา CITES เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2548 ณ ประเทศไทย | ทส | 21/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานผลการประชุม
รัฐมนตรีอาเซียนที่รับผิดชอบการอนุวัตตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ ใกล้สูญพันธุ์ [The convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora (CITES)] จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2548 ณ ประเทศไทย โดยสาระสำคัญของการประชุมในครั้งนี้ ที่ประชุม ได้ให้การยืนยันการเพิ่มความร่วมมือภายในภูมิภาคเพื่อการอนุวัตตามอนุสัญญา และเห็นชอบการจัดตั้งเครือ ข่ายการบังคับใช้กฎหมายด้านสัตว์ป่าในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Statement on Lanunching of the ASEAN Wildlife Law Enforcement Network-ASEAN-WEN) และออกแถลงการณ์โดยผู้แทนรัฐมนตรีอาเซียน รวมทั้ง การให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการอนุวัตตามอนุสัญญา CITES ในภูมิภาคร่วมกับแผนปฏิบัติการในภูมิภาค อาเซียนว่าด้วยการค้าสัตว์ป่าและพืชป่า พ.ศ. 2548-พ.ศ. 2553 (ASEAN Regional Action Plan on Trade in Wild Fauna and Flora 2005-2010) ภายใต้การสร้างเครือข่ายการบังคับใช้กฎหมายสัตว์ป่าและพืชปาของ อาเซียนแบบบูรณาการ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า ประเด็นการจัดตั้งเครือข่ายการบังคับใช้กฎหมายสัตว์ป่า และพืชป่าในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN-WEN) มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายความร่วมมือในการบังคับใช้กฎ หมายด้านสัตว์ป่าและพืชป่าในภูมิภาคอาเซียน เป็นการดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้องของ แต่ละประเทศ และอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งจะมี การกำหนดขอบเขตการดำเนินการของเครือข่ายในการประชุมครั้งแรกในปี พ.ศ. 2549 ณ ประเทศไทย อย่าง ไรก็ตาม ผลกระทบจากการนี้อาจจะต้องนำไปสู่การต้องมีข้อตกลงระหว่างประเทศ เพื่อให้มีผลผูกพันในการ ปฏิบัติหรืออาจต้องมีการแก้ไขกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องที่อาจจำเป็นจะต้องได้รับความเห็นชอบของ คณะรัฐมนตรีและรัฐสภา ประเด็นนี้ จึงเป็นเรื่องการตัดสินใจเชิงนโยบายซึ่งจะมีผลผูกพันรัฐบาลใหม่ จึงให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำประเด็นในเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่พิจารณา
|
|||||||||||||||||||||||||||
1804 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการการใช้งบประมาณ | ทส | 21/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอเปลี่ยน
แปลงรายการใช้งบประมาณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภายใต้โครงการถ่ายโอนการสนับสนุน แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 โครงการก่อ สร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจร เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นโครงการ จัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมตามแนวพระราชดำริ วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 28,800,000 บาท และขยายระยะ เวลาการเบิกจ่ายงบประมาณจากที่กรมบัญชีกลางได้อนุมัติให้เบิกจ่ายงบประมาณดังกล่าว ได้ถึงสิ้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2549 เป็นให้เบิกจ่ายงบประมาณได้ถึงสิ้นเดือนกันยายน พ.ศ. 2549 และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ดำเนินการตามความเห็นของ สำนักงบประมาณที่เห็นว่ารายการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบ คีรีขันธ์ เป็นภารกิจถ่ายโอน ดังนั้น การขอยกเลิกโครงการดังกล่าว เห็นควรให้สำนักงานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำเสนอคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ก่อน แล้วให้ขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
1805 | แต่งตั้งกรรมการแทนในคณะกรรมการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ (นายมนัส แจ่มเวหา) | ทส | 07/03/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่งตั้ง
นายมนัสแจ่มเวหา รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง (รักษาการ) เป็นกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังใน คณะกรรมการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ แทนนางอรอนงค์ มณีกาญจน์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะ รัฐมนตรีมีมติ (7 มีนาคม 2549) เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการ เสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||
1806 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายและการฟื้นฟูทะเลไทย พ.ศ. .... | ทส | 14/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ขอถอนร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายและการฟื้นฟูทะเลไทย พ.ศ. .... เพื่อนำไปพิจารณา ทบทวนอีกครั้งหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||
1807 | ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2548 (เรื่อง การดำเนินงานจัดหาที่ดินทำกินให้แก่คนยากจนตามนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจน) | ทส | 07/02/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอขอยกเว้นมติคณะ
รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2548 เรื่อง การดำเนินงานจัดหาที่ดินทำกินให้แก่คนยากจนตามนโยบายแก้ ไขปัญหาความยากจน ในส่วนของการจัดที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยในการแก้ไขปัญหาความยากจนที่กระทรวง การคลัง โดยกรมธนารักษ์ดำเนินการตามนโยบายและยุทธศาสตร์ ด้วยการออกหลักฐานและอนุญาตให้เช่าที่ ราชพัสดุอันเป็นที่ดินของรัฐได้โดยมิต้องชะลอการดำเนินงานจนกว่าการจัดหาที่ดินฯ ที่อยู่ในความครอบครอง และการเจรจาการใช้ที่ดินส่วนเกินจะแล้วเสร็จ รวมทั้งการออกหลักฐานให้เช่าใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุในการ สร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้จากที่ราชพัสดุตามยุทธศาสตร์ เพื่อให้เกิดรายได้และมีมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ โดย การนำที่ราชพัสดุที่มีทำเลเหมาะสมมาเปิดประมูลให้เอกชนลงทุน อันเป็นการกระตุ้นการลงทุน และเป็นการ พัฒนาเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ก่อนที่การจัดทำแผนที่ 1: 4,000 จะแล้วเสร็จ ถ้ากระทรวงการคลังหรือหน่วยงานใด ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวอีก ให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการจัดการที่ดิน แห่งชาติรีบจัดประชุมเพื่อพิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
1808 | ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่ที่ได้รับธรณีพิบัติ จังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต จังหวัดระนอง และจังหวัดสตูล พ.ศ. .... | ทส | 31/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างประกาศ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ใน บริเวณพื้นที่ที่ได้รับธรณีพิบัติ จังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต จังหวัดระนอง และจังหวัด สตูล พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้พื้นที่ ที่ได้มีการกำหนดเป็นเขตอนุรักษ์และเขตควบคุมอาคารของจังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง จังหวัดพังงา จังหวัด ภูเก็ต จังหวัดระนอง และจังหวัดสตูล บางส่วน เป็นเขตพื้นที่ที่ให้ใช้มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง กำหนดประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณชายหาด และบริเวณแนวสันทราย แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ สำหรับข้อสังเกตของคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 7 เกี่ยวกับมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมที่กำหนดใน ประกาศฉบับนี้ อาจไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณ ภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 นั้น ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับไปพิจารณา ในการออกประกาศฉบับต่อ ๆ ไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
1809 | ร่างพระราชกฤษฎีกาขยายเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา พ.ศ. .... | ทส | 24/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราช
กฤษฎีกาขยายเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัด พังงา พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ ให้ขยายเขต อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงาตามที่ได้กำหนด ไว้โดยพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินหมู่เกาะสุรินทร์ ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2524 และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็น กฎหมายต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
1810 | ร่างพระราชกฤษฎีกาขยายเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าสาละวิน ในท้องที่ตำบลเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.ศ. .... | ทส | 24/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่าง
พระราชกฤษฎีกาขยายเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าสาละวิน ในท้องที่ตำบลเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง จังหวัด แม่ฮ่องสอน พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ขยายเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าสาละวิน บริเวณพื้นที่ป่าสงวน แห่งชาติป่าสาละวินตอนบน ในท้องที่ตำบลเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้เป็นเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่า และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
1811 | ร่างพระราชกฤษฎีกาขยายเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าดอยผาเมือง ในท้องที่ตำบลเวียงตาล ตำบลแม่สัน อำเภอห้างฉัตร และตำบลเสริมขวา อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง พ.ศ. .... | ทส | 24/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ร่างพระราชกฤษฎีกาขยายเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าดอยผาเมือง ในท้องที่ตำบลเวียงตาล ตำบลแม่ สัน อำเภอห้างฉัตร และตำบลเสริมขวา อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญ คือ ขยายเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าดอยผาเมือง บริเวณพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยาว ในท้องที่ ตำบลเวียงตาล ตำบลแม่สัน อำเภอห้างฉัตร และบริเวณพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่เรียง ในท้องที่ ตำบลเสริมขวา อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และให้ส่งสำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
1812 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าภูค้อและป่าภูกระแต ในท้องที่ตำบลหนองคัน ตำบลห้วยสีเสียด ตำบลแก่งศรีภูมิ อำเภอภูหลวง ตำบลปวนพุ ตำบลหนองหิน ตำบลตาดข่า กิ่งอำเภอหนองหิน อำเภอภูกระดึง และตำบลภูกระดึง ตำบลศรีฐาน ตำบลห้วยส้ม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พ.ศ. .... | ทส | 24/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราช
กฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าภูค้อและป่าภูกระแต ในท้องที่ตำบลหนองคน ตำบลห้วยสีเสียด ตำบล แก่งศรีภูมิ อำเภอภูหลวง ตำบลปวนพุ ตำบลหนองหิน ตำบลตาดข่า กิ่งอำเภอหนองหิน อำเภอภูกระดึง และตำบลภูกระดึง ตำบลศรีฐาน ตำบลห้วยส้ม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณ ที่ดินป่าภูค้อและป่าภูกระแตในท้องที่ตำบลหนองคัน ตำบลห้วยสีเสียด ตำบลแก่งศรีภูมิ อำเภอภูหลวง ตำบลปวนพุ ตำบลหนองหิน ตำบลตาดข่า กิ่งอำเภอหนองหิน อำเภอภูกระดึง และตำบลภูกระดึง ตำบลศรีฐาน ตำบลห้วยส้ม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และให้นำขึ้นทูล เกล้า ฯ ถวายเพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
1813 | ผลการประชุมคณะมนตรี ในคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ 12 | ทส | 24/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและให้ดำเนินการต่อไปได้ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด
ล้อมเสนอผลการประชุมคณะมนตรี ในคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission council) ครั้ง ที่ 12 ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-1 ธันวาคม 2548 ณ จังหวัดเชียงราย ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการ แผนกลยุทธ์ของ MRC ปี 2549-2553 และได้มีการเสนอร่างระเบียบปฏิบัติเรื่องการรักษาปริมาณการไหลใน แม่น้ำโขงสายประธาน (Draft Procedures for the Maintenance of Flows on the Mainstream : PMFM) โดย คณะผู้แทนกัมพูชา ลาว และเวียดนาม ได้มีความเห็นไปในทางเดียวกันต่อการยอมรั บ PMFM ส่วนผู้แทนฝ่าย ไทยเห็นว่า ควรที่จะให้ประเทศจีนและพม่าร่วมเป็นสมาชิกในคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงด้วยเพื่อให้การบริหาร จัดการลุ่มน้ำโขงเป็นระบบที่สมบูรณ์ตลอดทั้งลุ่มน้ำตลอดจนสามารถขยายความร่วมมือให้รวมถึงการท่องเที่ยว ทางน้ำ การฟื้นฟูวัฒนธรรมลุ่มน้ำและอื่น ๆ และเห็นชอบร่างระเบียบปฏิบัติเรื่องการรักษาปริมาณการไหลใน แม่น้ำโขงสายประธาน และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณา ประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย และให้กระทรวงการต่างประเทศถือเป็นยุทธศาสตร์ที่จะต้องดำเนินการโดย ประสานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันหรือโน้มน้าวให้ สาธารณรัฐประชาชนจีน และสหภาพพม่าเข้าร่วมเป็นสมาชิกในคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงเพิ่มเติม นอกจากนี้ ให้ทุกกระทรวงพิจารณาแผนงานหรือโครงการความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับแม่น้ำโขง และเร่งรัดดำเนินการโครง การดังกล่าว โดยให้เชิญชวนสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้ามาร่วมลงทุนด้วย เช่น โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำ ของกระทรวงพลังงาน เป็นต้น และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ลง นามในระเบียบปฏิบัติเรื่อง การรักษาปริมาณการไหลในแม่น้ำโขงสายประธานในนามฝ่ายไทย |
|||||||||||||||||||||||||||
1814 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ป่าดงหนองกล้า ในท้องที่ตำบลเหล่า อำเภอธวัชบุรี และตำบลโพนเมือง อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ป่าคำใหญ่ และป่าคำขวาง ในท้องที่ตำบลหนองขาม ตำบลหนองหมื่นถ่าน ตำบลหน่อม อำเภออาจสามารถ และตำบลหัวโทน ตำบลห้วยหินลาด อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | ทส | 17/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่าง
กฎกระทรวงกำหนดให้ป่าดงหนองกล้า ในท้องที่ตำบลเหล่า อำเภอธวัชบุรี และตำบลโพนเมือง อำเภอ อาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ให้ป่าดงหนองกล้า ใน ท้องที่ตำบลเหล่า อำเภอธวัชบุรี และตำบลโพนเมือง อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นป่าสงวน แห่งชาติ ให้ถูกต้องกับสภาพความเป็นจริง และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ป่าคำใหญ่และป่าคำขวาง ใน ท้องที่ตำบลหนองขาม ตำบลหนองหมื่นถ่าน ตำบลหน่อม อำเภออาจสามารถ และตำบลหัวโทน ตำบล ห้วยหินลาด อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ให้ ป่าคำใหญ่ และป่าคำขวาง ในท้องที่ตำบลหนองขาม ตำบลหนองหมื่นถ่าน ตำบลหน่อม อำเภออาจ สามารถ และตำบลหัวโทน ตำบลห้วยหินลาด อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นป่าสงวนแห่งชาติ ให้ถูกต้องกับสภาพความเป็นจริง และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน การต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
1815 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ป่าดงหนองกล้า ในท้องที่ตำบลเหล่า อำเภอธวัชบุรี และตำบลโพนเมือง อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ป่าคำใหญ่ และป่าคำขวาง ในท้องที่ตำบลหนองขาม ตำบลหนองหมื่นถ่าน ตำบลหน่อม อำเภออาจสามารถ และตำบลหัวโทน ตำบลห้วยหินลาด อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | ทส | 17/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่าง
กฎกระทรวงกำหนดให้ป่าดงหนองกล้า ในท้องที่ตำบลเหล่า อำเภอธวัชบุรี และตำบลโพนเมือง อำเภอ อาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ให้ป่าดงหนองกล้า ใน ท้องที่ตำบลเหล่า อำเภอธวัชบุรี และตำบลโพนเมือง อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นป่าสงวน แห่งชาติ ให้ถูกต้องกับสภาพความเป็นจริง และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ป่าคำใหญ่และป่าคำขวาง ใน ท้องที่ตำบลหนองขาม ตำบลหนองหมื่นถ่าน ตำบลหน่อม อำเภออาจสามารถ และตำบลหัวโทน ตำบล ห้วยหินลาด อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ให้ ป่าคำใหญ่ และป่าคำขวาง ในท้องที่ตำบลหนองขาม ตำบลหนองหมื่นถ่าน ตำบลหน่อม อำเภออาจ สามารถ และตำบลหัวโทน ตำบลห้วยหินลาด อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นป่าสงวนแห่งชาติ ให้ถูกต้องกับสภาพความเป็นจริง และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน การต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
1816 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ (จำนวน 6 ราย) | ทส | 10/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่งตั้งกรรมการ
ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ประกอบด้วย นายประทีป เจริญพร นายไพศาล กุวลัยรัตน์ นายศิริ เกวลินสฤษดิ์ นายปริญญา บุญชู นายวุฒิชัย กปิลกาญจน์ และนายไพโรจน์ พรหมสาส์น โดยให้ มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (10 มกราคม 2549) เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎี กาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||
1817 | การแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง | ทส | 10/01/2549 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอดังนี้ รับทราบแนวทาง
การแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ในประเด็นการโยกย้ายและ จัดสร้างบ้านพักอาศัย สรุปดังนี้ การจัดแปลงที่อยู่อาศัย ใช้วิธีการจับสลากแยกพื้นที่เป็นรายหมู่บ้านก่อน จากนั้นให้แต่ละหมู่บ้านจับสลาก เป็นรายครัวเรือนของแต่ละหมู่บ้าน ให้มีคณะกรรมการประเมินราคาการ รื้อถอนและปลูกสร้างบ้านแห่งใหม่ กรณีบ้านพักแห่งใหม่จะเน้นเรื่องผักสวนครัวรั้วกินได้ไม่ทำเป็นคอนกรีต ด้านสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ ทางราชการจะเร่งดำเนินการโดยเร่งด่วน กรณีพื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินในพื้นที่รองรับการอพยพ ทางราชการจะดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนด ให้แก่ผู้อพยพ และเห็นชอบในหลักการในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเจียดจ่ายงบประมาณจากงบกรมทาง หลวงชนบทดำเนินการ สำหรับการก่อสร้างถนนสายหลักและสายรองพร้อมรางระบายน้ำทางเข้าหมู่บ้าน ระยะทาง 4.65 กม. โดยได้นำเสนองบประมาณ 27,453,000 บาท และจะปรับลดลงเหลือ เป็นเงิน 13,445,000 บาท กรมโยธาธิการและผังเมือง สำหรับการก่อสร้างถนนซอยคอนกรีตเสริมไม้ไผ่โดยใช้แรง งานเป็นหลักภายในหมู่บ้าน ระยะทาง 7 กม. โดยนำเสนองบประมาณ 22,267,000 บาท และจะปรับลด ลงเหลือเป็นเงิน 12,950,000 บาท กรมทรัพยากรน้ำบาดาล สำหรับค่าเจาะบ่อน้ำบาดาล โดยนำเสนอ งบประมาณ 1,250,000 บาท จะปรับเพิ่มเป็นเงิน 1,731,000 บาท กรมทรัพยากรน้ำ สำหรับการก่อ สร้างระบบประปาขนาดกลาง โดยนำเสนองบประมาณ 7,500,000 บาท (งบประมาณคงเดิม) และการ ไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำหรับการขยายเขตระบบไฟฟ้าในหมู่บ้าน โดยนำเสนองบประมาณ 11,589,223.50 บาท (งบประมาณคงเดิม) ทั้งนี้ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมติดตามและ เร่งรัดการดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือและสนับ สนุนด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
1818 | การดำเนินงานจัดหาที่ดินที่ทำกินให้แก่คนยากจนตามนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจน | ทส | 27/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอเกี่ยวกับการ
ดำเนินงานจัดหาที่ดินที่ทำกินให้แก่คนยากจนตามนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจน โดยให้หน่วยงานราช การทุกหน่วยงานที่มีที่ดินอยู่ในความครอบครอง ชะลอการออกหลักฐาน และการอนุญาตให้เช่าในที่ดิน ที่เป็นของรัฐไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าการจัดหาที่ดินที่ทำกินจากส่วนราชการต่าง ๆ ที่มีที่ดินอยู่ในความ ครอบครอง และการเจรจาการใช้ที่ดินส่วนเกินจะแล้วเสร็จ ส่วนราชการหน่วยงานใดที่มีที่ดินอยู่ในความ ครอบครอง และมีความจำเป็นที่จะต้องออกหลักฐานให้เช่าใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ให้นำเรื่องเสนอคณะ รัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเป็นรายหน่วยงาน ส่วนการออกเอกสารสิทธิ หรือการทำนิติกรรมการเช่าที่เอกชน ไม่ใช่ที่ดินของรัฐ สามารถดำเนินการได้ตามปกติ
|
|||||||||||||||||||||||||||
1819 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยแบบเครื่องหมาย การทำและการยกเลิกเครื่องหมายห้ามใช้ยานพาหนะ พ.ศ. .... | ทส | 20/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างกฎ
กระทรวงว่าด้วยแบบเครื่องหมาย การทำและการยกเลิกเครื่องหมายห้ามใช้ยานพาหนะ พ.ศ. .... โดยมีสาระ สำคัญคือ ปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการออกคำสั่ง การยกเลิกคำสั่ง การทำและการยกเลิก เครื่องหมายห้ามใช้ยานพาหนะเด็ดขาดหรือชั่วคราว หรือการใช้ยานพาหนะในขณะที่มีเครื่องหมายดังกล่าว เพื่อความเหมาะสมต่อการนำไปใช้ปฏิบัติงาน และเพื่อประโยชน์ต่อการติดตามตรวจสอบของพนักงานเจ้า หน้าที่ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมที่ เห็นควรแก้ไขถ้อยคำในร่างกฎกระทรวง เช่น เปลี่ยนคำว่า "แต่" ในหน้า 2 ย่อหน้าที่ 1 บรรทัดที่ 1 เป็น "การใช้ยานพาหนะเพื่อวัตถุประสงค์ตามวรรคหนึ่ง ให้ใช้ได้เฉพาะในเวลา ..." เปลี่ยนคำว่า "อาจ" ในร่างข้อ 5 เป็น "เจ้าของหรือผู้ครอบครองต้องนำยานพาหนะไปแก้ไขปรับปรุง ..." เป็นต้น ไปพิจารณาด้วย แล้ว ดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
1820 | หลักเกณฑ์การจัดหาและที่ดินที่ทำกินให้แก่คนยากจนตามนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจน | ทส | 20/12/2548 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานคณะ
ทำงานกำหนดหลักเกณฑ์การจัดหาและจัดที่ดินที่ทำกินให้แก่คนยากจน ตามนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจน เสนอ หลักเกณฑ์การจัดหาและจัดที่ดินที่ทำกินให้แก่คนยากจน ตามนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจน ในส่วน ของการจัดหาที่ดินที่ทำกิน (Supply) มีหลักเกณฑ์ ดังนี้ 1) ที่ดินที่จะนำมาดำเนินการ มี 2 ส่วน ได้แก่ที่ดินที่ นำมาจากส่วนราชการที่มีที่ดินของรัฐอยู่ในความรับผิดชอบ และที่ดินที่นำมาจากการเจรจาใช้ที่ดินส่วนเกินตาม ที่คณะกรรมการเจรจาที่ดินได้ดำเนินการไปแล้ว โดยให้ส่งรายละเอียดฐานข้อมูลของทั้ง 2 ส่วนต่อผู้ว่าราชการ จังหวัด เพื่อเป็นข้อมูลในระดับจังหวัดเพื่อจัดทำบัญชีการสำรองที่ดินสำหรับการจัดสรรที่ดินให้สอดคล้อง และ เหมาะสมกับความต้องการของราษฎรผู้ยากจนที่ลงทะเบียนไว้ 2) ให้ทุกส่วนราชการมอบอำนาจการดำเนิน งานในพื้นที่ของจังหวัด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าคณะทำงานในระดับจังหวัด และให้นายอำเภอเป็นหัว หน้าคณะทำงานในระดับอำเภอ 3) ให้ส่วนราชการที่มีที่ดินในความรับผิดชอบในแต่ละอำเภอแต่งตั้งคณะกรรม การที่จะดูแลที่ดินทั้ง Supply และ Demand หากไม่มีอัตรากำลังหรือมีแต่ไม่เพียงพอก็ให้เจ้าหน้าที่ในระดับ จังหวัดมาดำเนินการ กรอบการดำเนินงาน ให้คณะกรรมการกลางร่วมกับหน่วยงานของรัฐที่มีที่ดินอยู่ในความ รับผิดชอบโดยจัดทำคู่มือการดำเนินการและข้อแนะนำตลอดจนกรอบระยะเวลาของการปฏิบัติในแต่ละขั้นตอน ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด และการจัดที่ดินที่ทำกิน (Demand) จะจัดที่ดินที่ทำกินให้แก่ผู้ยาก จน โดยคำนึงถึงอาชีพที่เหมาะสม จำนวนสมาชิกในครัวเรือน ถิ่นฐานเดิม โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำเกณฑ์ขนาดที่ดินที่เหมาะสมแก่การประกอบอาชีพ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมที่ดินเร่งสำรวจที่ดินที่เป็นแปลงว่างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ ให้รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย อาทิเช่น ความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ ที่เห็นว่าการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์การจัดหาและจัดที่ดินทำกินให้แก่คนจนตามนโยบายแก้ไขปัญหา ความยากจน ในประเด็นที่ให้ส่วนราชการมอบอำนาจการดำเนินงานในพื้นที่ของจังหวัดให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ในกรณีพื้นที่ที่ส่วนราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับผิดชอบในแปลงที่ดินพื้นที่รับ รองสิทธิ์ เช่น พื้นที่ในเขตนิคมสหกรณ์รูปเช่า สามารถดำเนินการได้โดยให้กรมป่าไม้ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เป็น ผู้มอบอำนาจ การจัดที่ดินทำกินให้แก่ผู้ยากจนนอกเหนือจากการคำนึงถึงอาชีพที่เหมาะสม จำนวนสมาชิก ในครัวเรือน และถิ่นฐานเดิมแล้ว ควรจะพิจารณาถึงปัจจัยที่เกี่ยวกับศักยภาพและความอุดมสมบูรณ์ของดินและ น้ำในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งรายได้ที่จะได้รับจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการประกอบอาชีพดังกล่าวด้วย |
.....