ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 18 การประชุมคณะกรรมการบริหารอนุสัญญา CITES ครั้งที่ 71 และครั้งที่ 72 | ทส | 17/03/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ [Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora (CITES)] ครั้งที่ ๑๘ และการประชุมคณะกรรมการบริหารอนุสัญญา CITES ครั้งที่ ๗๑ และครั้งที่ ๗๒ ระหว่างวันที่ ๑๖-๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๒ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการอนุรักษ์ชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่อยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา CITES เช่น ช้าง แรด สัตว์ในกลุ่มแมวใหญ่ เต่าบกและเต่าน้ำจืด ลิ่น เป็นต้น ตลอดจนการปรับเปลี่ยนบัญชีชนิดพันธุ์ และการพิจารณามาตรการต่าง ๆ เกี่ยวกับการบังคับใช้อนุสัญญา โดยในส่วนของประเทศไทย ที่ประชุมฯ ได้รับทราบรายงานการวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบสารสนเทศการค้าช้าง (Elephant Trade Information System : ETIS Report) ว่าประเทศไทยไม่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการค้างาช้างผิดกฎหมายอีกต่อไป เนื่องจากประเทศไทยไม่มีคดีค้างาช้างรายใหญ่และมีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ประเทศไทยในฐานะภาคีอนุสัญญา CITES ยังมีพันธกิจที่จะต้องดำเนินการตามมติที่ประชุมฯ เช่น (๑) การออกประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์ป่าควบคุม และประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง พืชอนุรักษ์ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงบัญชีชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าในการประชุมฯ (๒) การจัดทำรายงานเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ เช่น รายงานเสือ ลิ่น การปิดตลาดการค้างาช้าง ส่งสำนักเลขาธิการ CITES ตามกำหนดเวลา (๓) การขอสงวนสิทธิ์สำหรับชนิดพันธุ์ที่พบว่ามีการค้ามากในประเทศไทยที่มีการบรรจุอยู่ในบัญชี CITES หรือปรับเลื่อนบัญชี ได้แก่ ตุ๊กแกบ้าน เต่าดาวอินเดีย เต่าแพนเค้ก และยีราฟ (๔) การขอรับจัดสรรงบประมาณในส่วนของเงินอุดหนุนการเป็นสมาชิกอนุสัญญา CITES ระยะเวลา ๓ ปีที่ถูกปรับเพิ่มขึ้น ๖,๘๑๑ ดอลลาร์สหรัฐ (๒๑๒,๗๐๗.๕๓ บาท) จากเดิม ๕๔,๙๐๑ ดอลลาร์สหรัฐ (๑,๗๑๔,๕๕๘.๒๓ บาท) เป็น ๖๑,๗๑๒ ดอลลาร์สหรัฐ (๑,๙๒๗,๒๖๕.๗๖ บาท) และ (๕) การเร่งรัดให้มีการออกพระราชบัญญัติช้าง พ.ศ. .... เพื่อจัดการและควบคุมการค้างาช้างบ้าน ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายใดควบคุมในส่วนดังกล่าว และมอบหมายส่วนราชการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องด้านการจัดการช้างในประเทศไทยรักษามาตรฐานการดำเนินการให้สอดคล้องกับข้อตกลงตามอนุสัญญา CITES และเตรียมความพร้อมในการจัดทำฐานข้อมูลการตรวจสอบรูปพรรณและขึ้นบัญชีเสือที่อยู่ในการครอบครองของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งขยายความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการตัดวงจรการค้าที่ผิดกฎหมาย เพื่อเตรียมการตอบรับการเข้าตรวจสอบจากสำนักเลขาธิการ CITES เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรรเป็นลำดับแรก หากไม่เพียงพอให้พิจารณาโอนหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรรแล้วแต่กรณี ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปพลางก่อน สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีต่อ ๆ ไป เห็นควรให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
.....