ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 9 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 161 - 180 จากข้อมูลทั้งหมด 9657 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 161 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาระบบสถาบันการเงินประชาชน (1. นายมรกต พิธรัตน์ ฯลฯ จำนวน 7 คน) | กค. | 11/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาระบบสถาบันการเงินประชาชน
จำนวน ๗ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี ทั้งนี้
ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑. นายมรกต พิธรัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินระดับชุมชน ๒. นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการพัฒนาชุมชน ๓. นายนิพนธ์ ฮะกีมี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๔. นายนรินทร์ กัลยาณมิตร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจ การเงิน หรือการคลัง ๕. นางปรางมาศ เธียรธนู กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบัญชี ๖. นายกิตติพงศ์ บุญยิ่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารความเสี่ยงหรือการประกันภัย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 162 | ร่างพระราชกำหนดภาษีส่วนเพิ่ม พ.ศ. .... | กค. | 11/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 163 | การกำหนด QR Code บนแผ่นป้ายแสดงรายละเอียดก่อสร้างของทางราชการ | กค. | 11/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบสั่งการให้หน่วยงานของรัฐนำ
QR Code ที่ดาวน์โหลดจากระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์
(e - GP) ไปใส่ในแผ่นป้ายแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับงานก่อสร้างของทางราชการตามแบบแผ่นป้ายของกรมโยธาธิการและผังเมือง
และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยนำแนวทางปฏิบัติดังกล่าวไปใช้บังคับในการจ้างก่อสร้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย
โดยอนุโลม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงคมนาคม เห็นว่าข้อความที่ปรากฏบนแผ่นป้าย ข้อความ
“กำลังก่อสร้างด้วยเงินภาษีอากรของประชาชน” ตามที่ปรากฏอยู่ด้านล่างของแผ่นป้ายฯ
ควรให้มีเนื้อหาที่สอดคล้องกับแหล่งที่มาของงบประมาณในการก่อสร้าง ข้อความ “งานก่อสร้าง”
เห็นควระบุ เป็นข้อความ “ชื่องาน”
เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนเหมาะสมตามแต่ละประเภทงาน และบนแผ่นป้ายแสดงรายละเอียดควรมีการระบุผู้ควบคุมงานทั้งฝ่ายผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้าง
รวมทั้งวัสดุที่ใช้ในการจัดทำโครงสร้างแผ่นป้ายฯ
ควรพิจารณาว่าสามารถใช้วัสดุอื่นนอกเหนือจากใช้ไม้อัดโครงเคร่าไม้
เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่งานก่อสร้าง
และวัสดุที่ใช้ให้มีความคงทนเหมาะสมระยะเวลางานก่อสร้าง เช่น ตัวเสาเสนอใช้เป็นโครงเหล็กแทนไม้
เนื่องจากมีความแข็งแรงกว่า และให้ภาพลักษณ์ที่ดีกว่าเสาไม้ เป็นต้น |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 164 | การแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ปี 2569 | กค. | 03/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
ปี ๒๕๖๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓
ธันวาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 165 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์) | กค. | 03/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ (ผู้แทนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม)
เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
แทนกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ ธันวาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
และผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งตามวาระของผู้ซึ่งตนแทน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 166 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดด่านศุลกากรและด่านพรมแดน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สำนักงานศุลกากรมาบตาพุด) | กค. | 03/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดด่านศุลกากรและด่านพรมแดน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สำนักงานศุลกากรมาบตาพุด)
มีสาระสำคัญเป็นแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดด่านศุลกากรและด่านพรมแดน พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดด่านศุลกากรและด่านพรมแดน
(ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๖ เพื่อแก้ไขที่ตั้งสำนักงานศุลกากรมาบตาพุด จาก “ตั้งอยู่ที่ตำบลมาบตาพุด
อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง” เป็น “ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง
จังหวัดระยอง” เนื่องจากด่านศุลกากร สำนักงานศุลกากรมาบตาพุดได้ย้ายสถานที่ปฏิบัติราชการจากอาคารที่ทำการแห่งเดิมไปอยู่ที่อาคารที่ทำการแห่งใหม่
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 167 | รายงานสถานะหนี้สาธารณะ หนี้ภาครัฐ และความเสี่ยงทางการคลัง ตามมาตรา 76 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ณ วันสิ้นปีงบประมาณ 2567 | กค. | 03/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานะหนี้สาธารณะ หนี้ภาครัฐ
และความเสี่ยงทางการคลัง ตามมาตรา ๗๖ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ณ วันสิ้นปีงบประมาณ ๒๕๖๗ สรุปได้ ดังนี้ ๑) หนี้สาธารณะคงค้าง มีจำนวน
๑๑.๖๓ ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๖๓.๓๒ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าจำนวน ๐.๕๐
ล้านล้านบาท ๒) หนี้เงินกู้คงค้างของหน่วยงานของรัฐ ประกอบด้วย (๑) รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ
ที่ไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ ได้แก่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก
จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
มีจำนวนรวมทั้งสิ้น ๓๔,๙๑๓.๕๐ ล้านบาท (๒)
รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะที่ทำธุรกิจให้กู้ยืมเงิน ธุรกิจบริหารสินทรัพย์
และธุรกิจประกันสินเชื่อที่กระทรวงการคลังไม่ได้ค้ำประกัน อาทิ บริษัท
บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด ธนาคารอาคารสงเคราะห์
และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย มีจำนวนรวมทั้งสิ้น ๐.๕๙
ล้านล้านบาท (๓) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีจำนวน ๐.๐๔ ล้านล้านบาท และ (๔)
ธนาคารแห่งประเทศไทย มีจำนวน ๔.๒๑ ล้านล้านบาท และ ๓) ความเสี่ยงทางการคลัง
พบว่าหนี้สาธารณะ จำนวน ๑๑.๖๓ ล้านล้านบาท โดยหนี้ส่วนใหญ่ (ร้อยละ ๙๘.๙๕) เป็นหนี้ในประเทศ
และร้อยละ ๘๕.๘๖ ของหนี้สาธารณะเป็นหนี้ที่เป็นภาระต่องบประมาณโดยตรง และหนี้เงินกู้ของหน่วยงานของรัฐที่ไม่นับเป็นหนี้สาธารณะ
ไม่มีผลกระทบต่อภาระทางการคลัง หรือเงินงบประมาณแผ่นดินในภาพรวม
เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่มีสถานะการดำเนินงานที่มั่นคงและมีรายได้เพียงพอที่จะชำระหนี้เงินกู้เองได้
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 168 | รายงานการประเมินผลลัพธ์ต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 | กค. | 03/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 169 | โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ | กค. | 03/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลังถอนเรื่องนี้คืนไปก่อน
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 170 | ร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 03/12/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖
กรกฎาคม ๒๕๖๗ (เรื่อง
แนวทางในการส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติเพื่อรองรับการเกษียณผ่านโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ)
โดยเปลี่ยนชื่อโครงการ จากเดิม “โครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ” เป็น
“โครงการสลากออมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ (สลากเกษียณ)”
และเพิ่มเติมหลักการกรณีผู้ที่มีอายุครบ ๖๐ ปีบริบูรณ์
ให้ซื้อสลากของกองทุนต่อไปได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)
ให้รวมถึงการส่งเสริมการออมทรัพย์โดยการออกและขายสลากและกำหนดคุณสมบัติของสมาชิกที่ซื้อสลากให้ครอบคลุมทั้งสมาชิก
กอช. ในปัจจุบันและผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓
(บุคคลทั่วไปที่ประกอบอาชีพอิสระหรือแรงงานนอกระบบที่ไม่มีนายจ้าง เช่น พ่อค้า
แม่ค้า แม่บ้าน รับจ้างทั่วไป ฟรีแลนซ์) เพื่อสร้างแรงจูงใจให้สมาชิกมีการซื้อสลากเป็นการออมเงินอีกรูปแบบหนึ่ง
รวมทั้งสามารถเป็นกลไกการออมเพื่อการชราภาพสำหรับแรงงานนอกระบบให้มีการสะสมเงินออมได้อย่างเพียงพอและต่อเนื่องในระยะยาวเพื่อรองรับการเกษียณ
และการเข้าสู่สังคมสูงอายุระดับสุดยอด (Super-Aged
Society) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน
ที่เห็นควรพิจารณาออกแบบโครงสร้างการดำเนินโครงการ รูปแบบ จำนวนเงินรางวัล และการใช้แหล่งเงินให้มีความเหมาะสมที่จะทำให้โครงการมีความยั่งยืนและไม่พึ่งพางบประมาณเพียงแหล่งเงินเดียว
และต้องมีแผนบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการดำเนินงานที่ชัดเจนทั้งในด้านกระบวนการบริหารจัดการโครงการ
การบริหารการออกสลาก ความพร้อมของระบบงานที่เกี่ยวข้องในทุกมิติ ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๓. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๔. ในส่วนของค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีที่ ๑
เมื่อร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีผลใช้บังคับแล้ว และค่าใช้จ่ายในปีที่ ๒ และ ๓
รวมทั้งเงินรางวัลที่จะขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำทุกปีให้กระทรวงการคลังและกองทุนการออมแห่งชาติดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๕. ให้กระทรวงการคลังและกองทุนการออมแห่งชาติบริหารจัดการกองทุนเพื่อจัดหาประโยชน์
และการลงทุนจากเงินที่สมาชิกซื้อสลากเพื่อการออมให้เป็นไปด้วยความรอบคอบและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิกตามนัยมาตรา
๔๒ และมาตรา ๔๓ แห่งพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔ อย่างเคร่งครัด
รวมทั้งให้รับความเห็นของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน เห็นควรให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการเงินสะสมของสมาชิกอย่างมีประสิทธิภาพ
มั่นคง และปลอดภัย โดยควรหาแนวทางการบริหารจัดการเงินสะสมให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าอัตราผลตอบแทนความคาดหวัง
(Benchmark) ภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสมตามแผนการลงทุนระยะยาวต่อไป
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่ากระทรวงการคลัง
และ กอช. ควรร่วมกันเตรียมความพร้อมในการศึกษาความเหมาะสมของการเพิ่มทางเลือกให้สมาชิกสามารถเลือกออมเงินต่อไปได้หลังอายุครบ
๖๐ ปี โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีอาชีพอิสระและยังต้องประกอบอาชีพต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 171 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (1.นายกุลิศ สมบัติศิริ ฯลฯ จำนวน 5 คน) | กค. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
จำนวน ๕ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑. นายกุลิศ สมบัติศิริ ๒. นายชาญวิทย์ อมตะมาทุชาติ ๓. นายเข็มชัย ชุติวงศ์ ๔. นายวรวิทย์ จำปีรัตน์ ๕. นายวิเลิศ ภูริวัชร
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 172 | รายงานสรุปผลการดำเนินงานประจำปี 2566 ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ | กค. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินงานประจำปี ๒๕๖๖ ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
ซึ่งศูนย์ข้อมูลฯ สามารถดำเนินงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
โดยทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการจัดเก็บข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ
ให้เป็นฐานข้อมูลที่มีความถูกต้องและน่าเชื่อถือ
และทำหน้าที่จัดทำข้อมูลทางด้านอสังหาริมทรัพย์ให้กับกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูลฯ
มีการปรับปรุงเว็บไซต์และเพิ่มช่องทางการเผยแพร่ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลมากขึ้น
ทำให้ผู้ที่สนใจนำไปใช้ในการวิเคราะห์เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 173 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีช่วยค่าซ่อมบ้านและมาตรการภาษีช่วยค่าซ่อมรถ) | กค. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 174 | รายงานผลการดำเนินการตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขที่เพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 2567 | กค. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมาตรา
๑๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอรัฐสภาทราบต่อไป ทั้งนี้
รายงานดังกล่าวประกอบด้วย ๒ ส่วน ดังนี้ ๑. ผลการดำเนินการตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ณ สิ้นเดือนกันยายน ๒๕๖๗ ได้แก่ (๑) ผลการก่อหนี้ใหม่ วงเงิน
๗๘๘,๖๓๐.๑๓ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๖๙.๐๒ ของแผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงินประมาณ ๑,๑๔๒,๕๘๐.๗๑
ล้านบาท (๒) ผลการบริหารหนี้เดิม วงเงิน ๑,๗๖๑,๒๔๑.๑๑ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๘๖.๗๗
ของแผนการบริหารหนี้เดิม วงเงิน ๒,๐๒๙,๗๑๐.๑๙ ล้านบาท และผลการชำระหนี้ วงเงิน
๔๙๑,๗๑๗.๘๓ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑๐๘.๒๗ ของแผนการชำระหนี้ วงเงิน ๔๕๔,๑๖๘.๘๗
ล้านบาท ทั้งนี้ ระดับหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นปีงบประมาณ ๒๕๖๗ มีจำนวน ๑๑,๖๒๗,๘๕๓.๕๔
ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ ๒๕๖๖ จำนวน ๔๙๖,๒๑๙.๓๔ ล้านบาท
โดยหนี้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล
และรัฐบาลกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
อย่างไรก็ตาม หนี้สาธารณะของประเทศยังคงอยู่ภายใต้กรอบการบริหารหนี้สาธารณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐกำหนด
คือไม่เกินร้อยละ ๗๐ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ณ สิ้นปีงบประมาณ ๒๕๖๗ อยู่ที่ร้อยละ ๖๓.๓๒ ๒. รายงานการประเมินผลโครงการพัฒนาและโครงการประจำปีงบประมาณ
๒๕๖๗ กระทรวงการคลังได้ดำเนินการติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์โครงการพัฒนา
โครงการและแผนงานของรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินการแล้วเสร็จ
ตามหลักเกณฑ์การประเมินผลโครงการในด้านความสอดคล้องของวัตถุประสงค์ ประสิทธิภาพ
ประสิทธิผล ผลกระทบ และความยั่งยืนของโครงการ เช่น (๑) โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมพระนครใต้
ชุดที่ ๓ (๒) โครงการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร
และอำนาจเจริญ เพื่อรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการในประเทศลาว (๓)
โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และ (๔)
โครงการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก
เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางบริเวณสถานีสะพานพระนั่งเกล้าของโครงการรถไฟฟ้า สายสีม่วง
ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 175 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (1.นายพลนชชา จักรเพ็ชร ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | กค. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๔ ราย ทั้งนี้
ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
ดังนี้ ๑. นายพลนชชา จักรเพ็ชร ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
(นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์) ๒. นายยงยุทธ มั่นบุปผชาติ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
(นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล) ๓. นายสุรชาติ เทียนทอง ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
[ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายจุลพันธ์
อมรวิวัฒน์)]
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 176 | รายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ ตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 | กค. | 29/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ
ตามมาตรา ๕๐ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ณ วันที่ ๓๐
กันยายน ๒๕๖๗ พร้อมเหตุผล วิธีการ
และระยะเวลาในการทำให้สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณที่เกินกว่ากรอบอยู่ภายในสัดส่วนที่กำหนด
ตามความในวรรคสองของมาตรา ๕๑ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.
๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 177 | รายงานการรับจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | กค. | 19/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการรับจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอต่อรัฐสภาต่อไป ดังนี้ ๑. รายรับของรัฐบาล ประกอบด้วย ๑) รายได้แผ่นดิน จำนวน
๒,๗๘๑,๒๘๘.๖๖ ล้านบาท
และ ๒) เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน ๕๙๒,๓๒๐.๙๗
ล้านบาท รวมรายรับทั้งสิ้น จำนวน ๓,๓๗๓,๖๐๙.๖๓ ล้านบาท ๒. รายจ่ายของรัฐบาล ประกอบด้วย ๑)
รายจ่ายตามงบประมาณประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน ๓,๓๑๒,๖๙๑.๙๕ ล้านบาท รายจ่ายจากเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี
(เงินงบประมาณปีก่อน) จำนวน ๑๔๖,๔๒๙.๗๓ ล้านบาท
และรายจ่ายตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง จำนวน ๑๒๒,๙๘๕.๓๓
ล้านบาท รวมรายจ่ายทั้งสิ้น จำนวน ๓,๕๘๒,๑๐๗.๐๑ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 178 | รายงานผลการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการและแนวทางการแก้ไขปัญหาการจ่ายเงินตามโครงการ | กค. | 19/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 179 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (นายปรีชา ลิ้มถวิล) | กค. | 19/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังขอถอนเรื่องนี้คืนไปก่อน
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 180 | การแยกบัญชีโครงการสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพของธนาคารออมสินเป็นบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA) | กค. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแยกบัญชีโครงการสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพของธนาคารออมสินเป็นบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ
(Public Service Account : PSA) พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
เพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องและบรรเทาภาระหนี้สินของประชาชนเป็นการเร่งด่วน
ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นวงกว้าง
และเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการกำกับดูแล
การตรวจสอบและการประเมินผลการดำเนินงานของสถาบันการเงินเฉพาะกิจในการทำหน้าที่เป็นกลไกของรัฐเพื่อฟื้นฟูและช่วยเหลือกลุ่มประชาชนและธุรกิจเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น
และเพื่อเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๒
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง (ธนาคารออมสิน)
รับความเสียหายที่เกิดจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non - Performing
Loans : NPLs) จากการดำเนินโครงการสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพของธนาคารออมสินไว้ทั้งหมด ให้กระทรวงการคลัง (ธนาคารออมสิน)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เห็นควรมีการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ผ่านสื่อทุกประเภท
โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงจัดทำสื่อที่เหมาะสมสำหรับคนพิการทุกประเภท อาทิ
เสียงบรรยายภาพ (Audio Description : AD) สำหรับคนพิการทางการเห็น
คำบรรยายแทนเสียง (Closed Captions : CC) สำหรับคนพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย
และหนังสือที่อ่านเข้าใจง่าย (Easy Read) สำหรับคนพิการ ทางสติปัญญาหรือออทิสติก
ฯลฯ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
