คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 ที่มีมติ
เห็นชอบการขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเงินกู้ของธนาคารพัฒนาเอเชีย  (ADB)  เป็นเงินกู้ระบบ  LIBOR-Based
Loan  (LBL)  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  โดยอนุมัติในหลักการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเงินกู้สัญญาเก่าของ
ADB จำนวน 4 สัญญา  เป็นเงินกู้ระบบ LBL  ได้แก่  โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการพัฒนาฝีมือแรงงาน  
โครงการจัดการน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ  จังหวัดสมุทรปราการ   โครงการพัฒนาบัณฑิตศึกษาและการวิจัย
ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  และโครงการเงินกู้เพื่อเตรียมการปรับโครงสร้างสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
ของรัฐ ทั้งนี้ ในการบริหารจัดการเงื่อนไขเงินกู้ในอนาคตให้สามารถดำเนินการได้ โดยให้กระทรวงการคลัง 
พิจารณาความเหมาะสมเป็นกรณี  ๆ  ไป    และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการคลังมอบหมายเป็นผู้ลงนามในสัญญาเงินกู้ (ฉบับแก้ไข) ทั้ง  4  สัญญา   รวมทั้งให้สำนักงาน
คณะกรรมการกฤษฎีกาจัดทำความเห็นทางกฎหมายของสัญญาเงินกู้ดังกล่าว

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 (คกก.5)
ที่มีมติอนุมัติหลักการให้มีการจัดหาพัสดุในรูปแบบการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์   (e-Auction)   ตามที่
กระทรวงการคลังเสนอ ตามความเห็นของ คกก.5 รวมทั้งเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการพัสดุ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. ....  และร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกำหนดแนวทาง ขั้นตอนและ
หลักเกณฑ์สำหรับการดำเนินการจัดหาพัสดุในรูปแบบการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์   ตามที่กระทรวงการ
คลังเสนอ   โดยให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของ คกก.5  ไปพิจารณาและปรับปรุงร่างระเบียบ ฯ  และร่าง
ประกาศ ฯ แล้วดำเนินการต่อไปได้

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจ่ายเงินตอบแทนพิเศษสำหรับพนักงานธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
ในปีบัญชี 2545 ในอัตรา 2 เท่าของเงินเดือน นอกเหนือจากเงินโบนัสประจำปีตามระบบประเมินผลการดำเนิน
งานรัฐวิสาหกิจ ในวงเงิน 87 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณประจำปี 2545 ของ ธอส. รายการงบลงทุน
เป็นกรณีพิเศษเฉพาะปี ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้ถือเป็นหลักการว่าต่อไปรัฐวิสาหกิจจ่ายเงินค่าตอบ
แทนพิเศษตามระบบการจ่ายโบนัสประจำปีตามระบบประเมินผลงาน   ซึ่งประเมินครอบคลุมการดำเนินงานทุก
ด้านของรัฐวิสาหกิจอยู่แล้วเท่านั้น 

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวัฒนะ กาญจนอัครเดช ผู้แทนสำนักนายกรัฐมนตรี นายบุญมี
จันทรวงศ์ ผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์  นางสว่างจิตต์ จัยวัฒน์ ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย  และนางสาว
สุธีพร ดวงโต  ผู้แทนกระทรวงการคลัง  เป็นกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
การเกษตร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (12 พฤศจิกายน 2545) เป็นต้นไป  ตามที่กระทรวงการคลัง
เสนอ

                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อ
ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน  พ.ศ. ....  โดยให้เพิ่มสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นส่วนราชการ
ตามร่างข้อ  7   มีวงเงินทดรองราชการ   50,000,000   บาท  แก้ไขชื่อส่วนราชการตามร่างข้อ  7.5  จากเดิม
"สำนักงานจังหวัด"  แก้ไขเป็น  "ที่ทำการปกครองจังหวัด"  และแก้ไขกรรมการและเลขานุการในคณะกรรมการ
ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด ตามร่างข้อ 10 จากเดิม "หัวหน้าสำนักงานจังหวัด" แก้ไขเป็น "ปลัด
จังหวัด" ตามที่กระทรวงการคลังเสนอและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายวราเทพ รัตนากร) เสนอ
เพิ่มเติม    และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา    โดยรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไป
พิจารณาด้วยว่า  คำนิยาม  "ภัยพิบัติ"  และ "ฉุกเฉิน" ตามร่างข้อ  5  อาจทำให้เกิดปัญหาทางปฏิบัติของส่วน
ราชการเพราะเมื่อเกิดภัยพิบัติฉุกเฉิน  ระเบียบปฏิบัติส่วนราชการจะเปลี่ยนจากระบบปกติ   เป็นระบบที่ต้อง
อาศัยความรวดเร็ว ควรกำหนดให้ชัดเจน  โดยอาจมอบให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นผู้พิจารณา
ประกาศว่า ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นนั้นภัยใดเป็นภัยพิบัติฉุกเฉิน โดยเริ่มต้นเมื่อใดและสิ้นสุดเมื่อใด นอกจากนี้  หาก
ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมีความเห็นเพิ่มเติมประการใด   ให้แจ้งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบ
การพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ราย
งานเกี่ยวกับประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง  กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ  5  แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ
ฉบับที่ 58 เกี่ยวกับการกำหนดให้การประกอบธุรกิจบัตรเครดิตเป็นกิจการที่ต้องขออนุญาต   โดยสำนักงาน
คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ร่วมกับผู้แทนกระทรวงการคลัง (สำนักเศรษฐกิจการคลัง) และผู้แทนธนาคารแห่ง
ประเทศไทยดำเนินการยกร่างประกาศดังกล่าวเสร็จแล้ว    และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ลงนามใน
ร่างประกาศ ฯ และจะได้ดำเนินการเพื่อประกาศใช้บังคับต่อไป หลังจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะได้ออก
ประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขอัตราดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าธรรมเนียม และเรื่องอื่น ๆ ที่ผู้ประกอบ
ธุรกิจบัตรเครดิตต้องปฏิบัติ ตลอดจนคุณสมบัติของผู้ถือบัตรเครดิตต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอแผนการปฏิรูปงานของหน่วยงานภายใต้
กระทรวงการคลัง ได้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง  กรมสรรพากร  กรมสรรพสามิต  กรมศุลกากร  กรม
บัญชีกลาง กรมธนารักษ์ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานกิจการ งบดุล งบกำไรขาดทุน ประจำ
ปีบัญชี  2544 (1 เมษายน 2544-31 มีนาคม 2545) ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 
(ธ.ก.ส.) ประกอบด้วย สินทรัพย์ 342,420.31 ล้านบาท หนี้สิน 317,395.92 ล้านบาท  ส่วนของผู้ถือหุ้น
25,024.40 ล้านบาท  รายได้ 19,590.70 ล้านบาท  ค่าใช้จ่าย 19,036.38 ล้านบาท  กำไรสุทธิ 554.32 
ล้านบาท และการให้บริการสินเชื่อแก่เกษตรกร โดยจำนวนเงินให้สินเชื่อตามแผนงานปกติในปี พ.ศ. 2544 
มีจำนวน 107,776.79 ล้านบาท ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ได้กำหนดภารกิจ นโยบาย และแผนงานการดำเนินงานในปี
บัญชี 2545  โดยภารกิจ ธ.ก.ส. คงดำรงบทบาทการเป็นสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนา  กับให้บริการทาง
การเงินที่ครบวงจร  โดยมุ่งเน้นปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนเพื่อสร้างมูลค่า
เพิ่มของสินค้าและบริการในชนบท ส่งเสริมให้มีการเชื่อมโยงเครือข่ายทางด้านการผลิตและการตลาด  และ
สนับสนุนกระบวนการเรียนรู้ในชนบท ส่วนนโยบายดำเนินงาน มุ่งเน้นให้เกษตรกรและประชาชนในชนบท
มีรายได้เพิ่มขึ้น รู้จักทำงานเป็นกลุ่ม ใช้ภูมิปัญญาเสริมอาชีพหลัก ใช้ทรัพยากรให้เกิดสมดุลกับสิ่งแวดล้อม
รู้จักเก็บออม  และส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น  ควบคู่กับการพัฒนาองค์กรและการ
บริหารทรัพยากรบุคคลไปสู่การเป็นสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาชนบทที่มั่นคง   สำหรับแผนงาน  ในปี
พ.ศ. 2545 ธ.ก.ส. ได้กำหนดแผนงานสำคัญเพื่อรองรับนโยบายดังกล่าวรวม 7 แผนงาน

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติ
ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. .... (กำหนดให้บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย
เป็นหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539) ตามที่กระทรวงการ
คลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติ
ศุลกากร พุทธศักราช 2469 (กำหนดเพิ่มเติมให้ด่านศุลกากรเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นท่าหรือที่สำหรับ
การส่งออกซึ่งของที่ขอคืนอากรขาเข้าหรือของที่มีทัณฑ์บนทุกประเภท) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  และให้ส่ง
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลในปีงบประมาณ 
พ.ศ. 2546  ประกอบด้วยวงเงินกู้ไม่เกิน 174,900 ล้านบาท   อัตราดอกเบี้ยตามอัตราตลาดหรือไม่เกินอัตรา
ดอกเบี้ยพันธบัตรที่จะ Re-Open  และอายุของตราสารไม่เกิน 20 ปี  ทั้งนี้  ในการกู้เงินแต่ละครั้ง ให้กระทรวง
การคลังเป็นผู้กำหนดวิธีการ วงเงิน  เงื่อนไข  และรายละเอียดของการกู้เงินแต่ละครั้งได้ตามความจำเป็น ภาย
ใต้หลักการดังกล่าวข้างต้น เมื่อกระทรวงการคลังดำเนินการกู้เงินเสร็จแล้ว  รายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อ
ไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง  นายสุธา ชันแสง ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการคลัง ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (ร้อยเอก สุชาติ เชาว์วิศิษฐ)
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2545 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมของธนาคารอาคารสงเคราะห์
(ธอส.)  โดยคณะกรรมการ ธอส.  ได้มีมติอนุมัติโครงการบ้าน ธอส.  เพื่อผู้ประสบภัยน้ำท่วม ให้สามารถกู้
เงินเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหาย โดยได้รับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำเป็นพิเศษและได้รับยกเว้น
การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมประเมินราคาหลักทรัพย์ และค่าธรรมเนียมไถ่ถอนก่อน 3 ปี  เป็น 2 มาตรการ 
ได้แก่  กรณีลูกค้าของธนาคารที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระหนี้กับธนาคาร  สามารถผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยเงิน
กู้ได้เป็นระยะเวลา  1  ปี   และสามารถขยายระยะเวลาผ่อนชำระออกไปได้โดยธนาคารไม่คิดค่าธรรมเนียม
ส่วนกรณีลูกค้าและประชาชนทั่วไปที่ต้องการกู้เงินเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ประสบภัยน้ำท่วมวงเงินให้กู้ไม่
เกิน 500,000 บาท ระยะเวลากู้ 10 ปี  อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.75 ต่อปี  โดยยกเว้นค่าประเมินราคาหลัก
ประกันตามระเบียบธนาคาร รวมทั้งยกเว้นค่าธรรมเนียมไถ่ถอนก่อน 3 ปี ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติที่ประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ครั้งที่
4/2545  เมื่อวันที่  16  ตุลาคม  2545  เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาธุรกิจของบริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด
(มหาชน)  โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังร่วมกับบริษัท บางจาก ฯ  ไปเจรจากับเจ้าหนี้เงินกู้ที่ถึงกำหนด
ชำระในเดือนพฤศจิกายน 2545  และมกราคม 2546  ในวงเงินประมาณ  3,000  ล้านบาท  หรือหากมีความ
จำเป็นให้หาแหล่งเงินกู้ระยะสั้น  (Bridging Loan)  ไปก่อน  รวมทั้งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทาง
การแก้ไขปัญหาธุรกิจของบริษัท บางจาก ฯ ซึ่งประกอบด้วย  ผู้แทนในส่วนของเจ้าหนี้  ส่วนของผู้ถือหุ้น  และ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและนำเสนอ กนร. พิจารณาภายใน 2 เดือน  ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพรหมินทร์ 
เลิศสุริย์เดช) ประธานคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจเสนอ และมอบให้กระทรวงการคลังรับไป
ดำเนินการเจรจากับแหล่งเงินกู้ที่ยินดีสนับสนุนแล้วคือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการให้ นายวราเทพ รัตนากร  และร้อยเอก สุชาติ  เชาว์วิศิษฐ 
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในกรณีที่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามลำดับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายรุ่งเรือง พิทยศิริ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการ
กระทรวงการคลัง (ร้อยเอก สุชาติ เชาว์วิศิษฐ) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2545 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวง
การคลังเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอเกี่ยวกับมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้
ประสบภัยน้ำท่วม โดยสามารถกู้เงินเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือซื้อสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านที่ได้รับความ
เสียหาย โดยได้รับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำเป็นพิเศษ และได้รับยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมประเมินราคา
หลักทรัพย์ เป็น 2 มาตรการ ได้แก่ มาตรการช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อเคหะเดิมของธนาคารออมสิน และมาตรการ
ช่วยเหลือประชาชนทั่วไป จำนวนเงินให้กู้ไม่เกินรายละ 300,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ปีแรกร้อยละ
3.00 ต่อปี ปีที่ 2 ร้อยละ 4.00 ต่อปี ปีที่ 3 ร้อยละ 5.00 ต่อปี ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ ไม่เกิน 10 ปี

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐตั้งแต่ต้นปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2545  จนถึงวันที่ 15 กันยายน 2545  โดยผลการเบิกจ่ายเงินในภาพรวมมีจำนวน 829,388
ล้านบาท หรือร้อยละ 81.07  ของวงเงินงบประมาณ  จำแนกเป็นรายจ่ายประจำ  659,361  ล้านบาท  หรือ
ร้อยละ  87.52  ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำ  และรายจ่ายลงทุน  170,027  ล้านบาท  หรือร้อยละ
63.07 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน  โดยกระทรวงที่มีการเบิกจ่ายสูงสุดใน  2  สัปดาห์แรกของเดือน
ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ  ส่วนผลการเบิกจ่ายตั้งแต่ต้นปีจนถึงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน  หน่วยงานอิสระตาม
รัฐธรรมนูญมีอัตราการเบิกจ่ายสูงสุด   ผลการเบิกจ่ายเงินงบลงทุนแยกเป็นส่วนกลางและส่วนภูมิภาคมีการ
เบิกจ่ายจำนวน 226,672 ล้านบาท แยกเป็นส่วนกลาง 85,772 ล้านบาท  และส่วนภูมิภาค 140,900 ล้าน
บาท  สำหรับการเบิกจ่ายงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จำนวน 58,000 ล้านบาท
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการเป็นเงิน 36,388 ล้านบาท เบิกจ่ายไปแล้ว 12,899 ล้านบาท  หรือร้อยละ
35.45  ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติโครงการ  การเบิกจ่ายเงินงบประมาณโครงการถ่ายโอน/กิจกรรมสาธารณะ
ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีการเบิกจ่ายเงินจากคลัง  24,093  ล้านบาท  หรือร้อยละ  89.02  ของ
วงเงินงบประมาณ   ผลการเบิกจ่ายเงินนอกงบประมาณของกองทุนและเงินทุนหมุนเวียน  มีการเบิกจ่ายเงิน
จำนวน 92 กองทุน เป็นเงิน 111,746 ล้านบาท หรือร้อยละ 73.82 ของแผนการใช้จ่ายเงิน นอกจากนี้ ผล
การเบิกจ่ายเงินกู้ต่างประเทศ มีการเบิกจ่าย 41,861 ล้านบาท หรือร้อยละ 72.02 ของแผนการใช้จ่ายเงิน
กู้ต่างประเทศ   และผลการเบิกจ่ายเงินของรัฐวิสาหกิจ มีการเบิกจ่าย  1,226,543  ล้านบาท  หรือร้อยละ
88.97 ของแผนการใช้จ่ายเงิน ทั้งนี้ ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ เงินนอกงบประมาณ เงินกู้ต่างประเทศ
และเงินของรัฐวิสาหกิจ เมื่อหักรายการซ้ำซ้อนจำนวน 106,368 ล้านบาทแล้ว ทำให้การเบิกจ่ายมีจำนวน
ทั้งสิ้น 2,103,170 ล้านบาท หรือร้อยละ 88.77 ของแผนการใช้จ่ายเงินภาครัฐ

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการและแนวทางเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2546  และให้ดำเนินการต่อไปได้  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  ทั้งนี้  ให้ส่วนราชการและรัฐ
วิสาหกิจถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  8  ตุลาคม  2545  เรื่อง รายงานสรุปผลการเบิกจ่ายเงินงบ
ประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2545  (ณ  สิ้นเดือนกันยายน  2545)  เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ
และการทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันงบประมาณในแผนงาน/โครงการต่าง  ๆ    โดยให้ถือเสมือนว่าเดือนสิงหาคม
2546 เป็นเดือนสิ้นสุดปีงบประมาณ พ.ศ. 2546   แทนเดือนกันยายน  เช่นเดียวกับที่ได้ถือปฏิบัติแล้วในปีงบ
ประมาณที่ผ่านมาด้วย

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยธรรมชาติในปี พ.ศ. 2545
ตามที่กระทรวงการคลังเสน อ และให้ดำเนินการต่อไปได้  ได้แก่  กรณีเกษตรกรลูกค้าประสบภัยอย่างร้ายแรงจน
สูญเสียชีวิต   และไม่สามารถชำระหนี้ให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร  (ธ.ก.ส.)  ได้อย่างแน่
นอน ให้จำหน่ายลูกหนี้ดังกล่าวออกจากบัญชีเป็นหนี้สูญ โดย ธ.ก.ส.  รับภาระเอง  กรณีเกษตรกรลูกค้ามีหนี้เงิน
กู้เดิมเป็นหนี้เงินกู้เพื่อทำการผลิตและ/หรือเพื่อการลงทุน  (ไม่รวมเงินกู้โครงการตามนโยบายของรัฐบาล)  และ
ประสบความเสียหายอย่างร้ายแรง ให้เลื่อนกำหนดชำระต้นเงินกู้ในปีบัญชี พ.ศ. 2545 ออกไปอีก  1  ปี  และงด
คิดดอกเบี้ยเงินกู้เป็นระยะเวลา  3  ปี  รวมทั้งการให้เงินกู้แก่เกษตรกรลูกค้าที่ประสงค์ขอกู้เงินสัญญาใหม่ เพื่อใช้
เป็นทุนหมุนเวียนในวงเงินรายละไม่เกิน 30,000 บาท  กำหนดชำระคืนเป็นรายปี  ระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี  อัตรา
ดอกเบี้ยร้อยละ  3  ต่อปี  ทั้งนี้  ให้กระทรวงการคลัง  (ธ.ก.ส.)  รับความเห็นของกระทรวงเกษตร ฯ  (ที่เห็นควร
ให้ขยายมาตรการดังกล่าวให้ครอบคลุมถึงเกษตรกรที่เป็นสมาชิกสถาบันเกษตรกรอื่น (สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร)
รวมถึงเกษตรกรรายย่อยทั่วไป)  ไปดำเนินการด้วย    สำหรับจำนวนเงินชดเชยดอกเบี้ยจากรัฐบาล  เมื่อมีความ
ชัดเจนแล้ว ให้กระทรวงการคลัง (ธ.ก.ส.) ประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อดำเนินการตั้งงบประมาณเพื่อการนี้
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ต่อไป