คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความก้าวหน้าการพัฒนาระบบตรวจสอบ
ภายในของส่วนราชการตามมติคณะรัฐมนตรี  (16  กรกฎาคม  2545)  สรุปได้ว่า กรมบัญชีกลางได้ประชุมร่วม
กับสำนักงาน ก.พ. เมื่อวันที่  22  สิงหาคม  2545 เพื่อหารือเรื่องการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรของหน่วยตรวจ
สอบภายใน การปรับปรุงคุณสมบัติและเงื่อนไขการเข้าสู่ตำแหน่งผู้ตรวจสอบภายใน และการกำหนดความเจริญ
ก้าวหน้าในสายงานตรวจสอบภายในและการพัฒนาสายงานตรวจสอบภายในเป็นสายวิชาชีพ  ซึ่งที่ประชุมมีมติ
ให้แต่งตั้งคณะกรรมการทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ และกำหนดแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรของหน่วย
งานตรวจสอบภายใน  และการปรับปรุงสายงานตรวจสอบภายใน  เนื่องจากมีประเด็นข้อปลีกย่อยที่ต้องศึกษา
ในรายละเอียดพอสมควร    กรมบัญชีกลางจึงได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างและสายงาน
ตรวจสอบภายในของส่วนราชการ เพื่อทำหน้าที่ศึกษา  วิเคราะห์  และปรับปรุงคุณสมบัติและเงื่อนไขการเข้าสู่
ตำแหน่งของผู้ตรวจสอบภายใน  กำหนดแนวทางการพัฒนาสายงานตรวจสอบภายในให้เป็นสายงานวิชาชีพที่
เป็นรูปธรรมและยอมรับโดยทั่วไป  รวมทั้งกำหนดแนวทางในการจัดให้มีผู้ตรวจสอบภายในรับอนุญาตในภาค
ราชการ  พร้อมกับจัดทำแผนปฏิบัติการเรื่อง การพัฒนาระบบตรวจสอบภายในของส่วนราชการ เพื่อเป็นแนว
ทางในการพัฒนาระบบตรวจสอบภายในของส่วนราชการต่อไป อย่างไรก็ตาม การดำเนินการในเรื่องดังกล่าว
จะต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาข้อดี ข้อเสีย  และผลกระทบในแต่ละด้าน  โดยจะประสานงานและรับฟังข้อคิด
เห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งจากภายในและภายนอก และจะได้เร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติการ

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการแก้ไขสัญญากู้เงินกับธนาคารพัฒนา
เอเซีย โดยเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในฐานะผู้ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการคลัง ได้ลงนามในสัญญาแก้ไขสัญญากู้เงินและเอกสารที่เกี่ยวข้องในนามราชอาณาจักรไทย  เมื่อวัน
ที่  5  ธันวาคม  2545 เพื่อเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเงินกู้สำหรับเงินกู้ส่วนที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายภายใต้โครงการ 3 โครง
การ   ได้แก่  โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการพัฒนาฝีมือแรงงาน  โครงการพัฒนาบัณฑิตศึกษาและการวิจัย
ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   และโครงการเงินกู้เพื่อเตรียมการปรับโครงสร้างสถาบันการเงินเฉพาะกิจของ
รัฐ  โดยมีสาระสำคัญของการเปลี่ยนแปลงเป็นไปตามขอบเขตเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้ทุกประการ  ส่วน
เงินกู้โครงการจัดการน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษจังหวัดสมุทรปราการ สัญญาเลขที่  1646-THA  ได้เบิกจ่ายเงินกู้
ไปครบวงเงินแล้ว  จึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเงินกู้เป็นระบบ LIBOR-Based Loan ได้  และจะต้องปฏิบัติ
ตามเงื่อนไขเดิมในระบบเงินกู้สกุลเดียว (Single Currency Pool Loan) ดังนั้น จึงมีเงินกู้เพียง  3  สัญญา ที่ได้ทำ
สัญญาแก้ไขสัญญาเงินกู้เดิมในครั้งนี้

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานเรื่อง  ขอความเห็นชอบในการอำนวย
ความสะดวกด้านพิธีการและสิทธิพิเศษแก่โครงการ/กิจกรรม ภายใต้เครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน  ในส่วน
ที่ได้รับมอบหมาย  สรุปได้ว่า (1) ในส่วนของภาษีสรรพากร  ผู้เชี่ยวชาญชาวต่างประเทศที่เข้ามาปฏิบัติหน้า
ที่ในประเทศไทยภายใต้การดำเนินงานของโครงการเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน    จะต้องเสียภาษีเงินได้
บุคคลธรรมดาจากเงินที่ได้รับตามหลักแหล่งเงินได้ เช่นเดียวกับผู้เชี่ยวชาญชาวต่างประเทศในโครงการอื่น ๆ
ที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย  และ (2) ในส่วนของภาษีศุลกากร หากเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน
มีสถานภาพเป็นองค์กรส่วนหนึ่งขององค์การสหประชาชาติ หรือองค์กรระหว่างประเทศระดับรัฐบาล และข้อ
ตกลงของโครงการกิจกรรมภายใต้เครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียนมีบทกำหนดให้ยกเว้นอากรสำหรับของที่
นำเข้า ประกอบกับข้อตกลงได้ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีแล้ว ก็จะได้รับสิทธิยกเว้นอากรตามภาค
4 ประเภทที่ 10 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราภาษีศุลกากร พ.ศ. 2530 แต่หากข้อเท็จจริงมิได้เป็นไปตาม
หลักเกณฑ์ดังกล่าว  เครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียนจะขอใช้สิทธิตามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิชา
การในลักษณะทวิภาคีระหว่างประเทศไทยกับประเทศอื่น  ๆ  หรือระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่นมา
อนุโลมใช้กับโครงการภายใต้เครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน   หรือโครงการเครือข่ายการพัฒนาการศึกษา
ด้านวิศวกรรมศาสตร์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ย่อมกระทำมิได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้รัฐวิสาหกิจ 4 แห่ง ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง
การประปานครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด  กู้เงินจากแหล่งเงิน
กู้ในประเทศเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนที่เป็นเงินบาทสมทบโครงการเงินกู้จากต่างประเทศ  สำหรับปีงบประมาณ 
พ.ศ. 2546 วงเงินรวมทั้งสิ้น 8,038.33 ล้านบาท  และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาวิธีการกู้เงิน  เงื่อนไข 
และรายละเอียดของการกู้เงิน ตลอดจนการค้ำประกันได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยเดือนกรกฎาคม
และสิงหาคม 2545  สรุปได้ดังนี้ (1) การนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่มสินค้าในเดือนกรกฎาคม  2545 มี
มูลค่านำเข้ารวม  49.28  ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว  0.92  ล้านดอลลาร์สหรัฐ
 ส่วนมูลค่าการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง  17  กลุ่ม  เปรียบเทียบกับมูลค่านำเข้ารวมของสินค้าทุกชนิดในเดือน
กรกฎาคม 2545  (5,780.41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)  แล้ว  มูลค่าการนำเข้ามีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 0.85  ของ
มูลค่านำเข้าทั้งหมด  โดยสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่  นาฬิกาและอุปกรณ์  มูลค่า
นำเข้า 7.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  น้ำหอมและเครื่องสำอาง มูลค่านำเข้า 7.15  ล้านดอลลาร์สหรัฐ  และผ้าทอ
ทำด้วยขนสัตว์   มูลค่านำเข้า   6.84  ล้านดอลลาร์สหรัฐ     และเมื่อเปรียบเทียบตั้งแต่เดือนตุลาคม  2544 -
กรกฎาคม 2545 กับเดือนตุลาคม 2543 -กรกฎาคม  2544   มีมูลค่านำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยลดลง  ส่วน  (2) 
การนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง  17  กลุ่มสินค้าเดือนสิงหาคม 2545   มีมูลค่านำเข้ารวม  51.31  ล้านดอลลาร์
สหรัฐ  ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว 7.00 ล้านดอลลาร์สหรัฐ   ส่วนมูลค่าการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง
17 กลุ่ม  เปรียบเทียบกับมูลค่านำเข้ารวมของสินค้าทุกชนิดในเดือนสิงหาคม  2545  (5,916.04   ล้านดอล
ลาร์สหรัฐ)  แล้ว  มูลค่าการนำเข้ามีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 0.87 ของมูลค่านำเข้าทั้งหมด  โดยสินค้าฟุ่มเฟือย
ที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุด 3 อันดับแรก  ได้แก่  น้ำหอมและเครื่องสำอาง มูลค่านำเข้า  8.33  ล้านดอลลาร์สหรัฐ 
กล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์  มูลค่านำเข้า  8.06  ล้านดอลลาร์สหรัฐ  นาฬิกาและอุปกรณ์  มูลค่านำเข้า  6.07
ล้านดอลลาร์สหรัฐ  และเมื่อเปรียบเทียบตั้งแต่เดือนตุลาคม 2544-สิงหาคม 2545  กับเดือนตุลาคม 2543
-สิงหาคม 2544  มีมูลค่านำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยลดลง

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยเดือนสิงหาคม
2545  สรุปได้ว่า การนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่มสินค้าเดือนสิงหาคม 2545 มีมูลค่านำเข้ารวม 51.31
ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว  7.00  ล้านดอลลาร์สหรัฐ  หรือร้อยละ 12.01 โดย
มีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นจำนวน  8  รายการ ตั้งแต่ร้อยละ 3.62  (น้ำหอมและเครื่องสำอาง)  ถึงร้อยละ  74.58 
(กล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์) และมี 9 รายการ ที่มีมูลค่านำเข้าลดลง ตั้งแต่ร้อยละ 3.05  (ดอกไม้)  ถึงร้อยละ
53.52 (เลนส์) สำหรับมูลค่าการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่ม  เมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่านำเข้ารวมของ
สินค้าทุกชนิดในเดือนสิงหาคม 2545  (5,916.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)  มูลค่านำเข้ามีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ
0.87 ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด โดยสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุด 3 อันดับแรก  ได้แก่  น้ำหอมและ
เครื่องสำอาง มูลค่านำเข้า 8.33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  กล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์  มูลค่านำเข้า 8.06 ล้านดอล
ลาร์สหรัฐ  นาฬิกาและอุปกรณ์  มูลค่านำเข้ารวม 6.07 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  และเมื่อเปรียบเทียบตั้งแต่เดือน
ตุลาคม 2544-สิงหาคม 2545 กับเดือนตุลาคม 2543-สิงหาคม 2544  มีมูลค่านำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยลดลง

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ
พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  และร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ
ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 พ.ศ. ....  รวม  2 ฉบับ  ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว แบบที่
1 ดังนี้ (ร่างพระราชกำหนดฉบับแรกมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมตอนที่ 9 สถานบริการ ของพิกัดอัตรา
ภาษีสรรพสามิตท้ายพระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 เพื่อขยายการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต
สำหรับการประกอบกิจการด้านบริการ  โดยกำหนดประเภทบริการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีสรรพสามิตในพิกัด
อัตราภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้น  ส่วนร่างพระราชกำหนดฉบับที่สองมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมบทนิยาม
คำว่า "บริการ" และ  "สถานบริการ"  ในมาตรา 4  แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527) โดยให้แก้ไข
วันใช้บังคับของร่างพระราชกำหนดทั้ง 2 ฉบับ เป็น "ตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป" และให้ดำเนิน
การเป็นเรื่องด่วนต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานสรุปผลการเบิกจ่ายเงิน
งบประมาณ พ.ศ. 2546  ไตรมาสที่ 1  (ตุลาคม-ธันวาคม 2545)  และให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติ
ติดตามการก่อหนี้ผูกพันของหน่วยงานในสังกัดทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยผลการเบิกจ่ายเงินในภาพรวม
ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว 219,378 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.94 ของวงเงินงบ
ประมาณ (999,900 ล้านบาท) การเบิกจ่ายเงินจำแนกตามลักษณะเศรษฐกิจ  (ประจำ/ลงทุน)  มีการเบิกจ่าย
รายจ่ายประจำ 207,250 ล้านบาท หรือร้อยละ 25.67 ของงบประมาณรายจ่ายประจำ  (807,245 ล้านบาท)
และรายจ่ายลงทุน 12,128 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.30 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน  (192,655 ล้านบาท)
ส่วนการเบิกจ่ายงบลงทุนของหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 22 แห่ง มีจำนวน  
9,526 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.88  ของงบประมาณรายจ่ายลงทุนในกลุ่มนี้  (138,469 ล้านบาท) โดยหน่วย
งานที่ยังไม่มีการเบิกจ่ายงบลงทุน   ได้แก่   สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  สำนักงานคณะกรรมการการ
ประถมศึกษาแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมอาชีวศึกษา  รวมทั้งการติดตามเร่งรัด
การใช้จ่ายเงินงบประมาณ พ.ศ. 2546 สำหรับการกำหนดให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเร่งดำเนินการก่อหนี้
ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 (ภายในเดือนมีนาคม 2546) กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นควรให้
รัฐมนตรีเจ้าสังกัดติดตามการก่อหนี้ผูกพันของหน่วยงานในสังกัดทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค  โดยเร่งดำเนิน
การจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้ก่อหนี้ผูกพันได้ภายในเดือนมีนาคม   2546   และรายงานผลการก่อหนี้ผูกพันให้คณะ
กรรมการติดตามผลการใช้จ่ายเงินภาครัฐในปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 ทราบเป็นประจำทุกเดือน

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้กระทรวงการคลังจัดหาเงินกู้ระยะสั้นอายุ
ไม่เกิน 1 ปี  ในรูป  Bridging Loan  วงเงินกู้เทียบเท่า  35  ล้านเหรียญสหรัฐ  ให้บริษัท  บางจากปิโตรเลียม
จำกัด (มหาชน) เพื่อใช้ชำระคืนเงินกู้ Euro Commercial Paper (ECP) ของกระทรวงการคลัง  โดยมีธนาคาร
กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ให้กู้เงิน ซึ่งรวมทั้งการ Rollover เงินกู้ดังกล่าว  โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้
ค้ำประกัน และให้ดำเนินการต่อไปได้

                             อนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษี
สรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงคำนิยามสถานบริการ) และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลังแก้ไขรูปแบบการตรากฎหมายในเรื่องนี้เป็นพระราชกำหนด โดยให้
รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า   หากจะต้องตราพระราชกำหนดในเรื่องดังกล่าวจะสมควร
ตราโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 218 หรือมาตรา 220 แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช) ประธานคณะกรรม
การกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ และประธานคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจเสนอแต่งตั้งนายชัยอนันต์ 
สมุทรวานิช นายวิจิตร สุพินิจ นายอุตตม สาวนายน นายชาญชัย จารุวัสตร์  และนายพิชิต อัคราทิตย์  เป็นกรรม
การผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ กับให้นายสมเกียรติ โอสถสภา ร้อยโท สมศักดิ์
ยมะสมิต และนายเอนก ศรีสนิท พ้นจากตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ
และให้แต่งตั้งนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และนางเกษรี ณรงค์เดช  เป็นกรรมการผู้ทรง
คุณวุฒิในคณะกรรมการดังกล่าว โดยให้แต่งตั้งตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (14 มกราคม 2546) เป็นต้นไป

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้แต่งตั้ง นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นกรรมการ
อื่นในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย แทน นายวิษณุ เครืองาม ที่ลาออก ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรี
มีมติ  (14  มกราคม  2546)  เป็นต้นไป   เนื่องจากการแต่งตั้งกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยตามพระราช
บัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย  พุทธศักราช 2485  มาตรา 19  วรรคสอง  ได้กำหนดให้เป็นอำนาจของคณะ
รัฐมนตรี โดยคำแนะนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นด้วยในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอเกี่ยวกับหลักเกณฑ์  เงื่อนไข ว่าด้วย
การทำและขายสุรากลั่นพื้นบ้าน และร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. พ.ศ. .... ออกตามความในพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 
2493 (แก้ไขเพิ่มเติมความในตอนที่ 9 สถานบริการ ของพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตท้ายพระราชบัญญัติพิกัดอัตรา
ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527)  และมอบให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาอัตราภาษีสุราพื้นบ้านซึ่งอาจส่งผลกระ
ทบต่อรายได้ของรัฐ ความสามารถในการผลิตของชุมชน โดยให้พิจารณาถึงความเป็นธรรมในการจัดเก็บเมื่อเปรียบ
เทียบกับผู้ผลิตรายใหญ่  และควรกำหนดเป็นอัตราเดียวที่เหมาะสม  แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง  รวมทั้ง
ให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข  กระ
ทรวงอุตสาหกรรมว่า การอนุญาตให้ชุมชนหรือผู้ผลิตรายย่อยผลิตสุราพื้นบ้าน  ควรกำหนดคุณภาพ  มาตรฐาน
การผลิตและการรักษาสิ่งแวดล้อม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรดำเนินการในรูปแบบการให้บริการในจุดเดียว (One 
Stop Service) และให้ความรู้ในเรื่องดังกล่าวแก่ชุมชนหรือผู้ผลิตรายย่อยที่มาขออนุญาตควบคู่ไปด้วย

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยเดือนตุลาคม 2545
โดยสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่มสินค้า มีมูลค่านำเข้า  56.87  ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่
แล้ว 2.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 5.34 โดยมีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นจำนวน 12 รายการ ตั้งแต่ร้อยละ 0.82 
(น้ำหอมและเครื่องสำอาง) ถึงร้อยละ 87.48  (นาฬิกาและอุปกรณ์)  และสินค้าฟุ่มเฟือยที่นำเข้าสูงสุด  3  อันดับ
แรก  คือ  สุราต่างประเทศ  (10.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)  นาฬิกาและอุปกรณ์  (9.07 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)  และ
น้ำหอมและเครื่องสำอาง (8.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) สินค้า  5  รายการ  มีมูลค่านำเข้าลดลงตั้งแต่ร้อยละ  6.69 
(ผ้าทอทำด้วยขนสัตว์) ถึงร้อยละ  37.34  (กระเป๋าหนังและเข็มขัดหนัง)  ส่วนมูลค่าการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง 
17  กลุ่ม   เปรียบเทียบกับมูลค่านำเข้ารวมของสินค้าทุกชนิดในเดือนตุลาคม  2545  (5,800.43  ล้านดอลลาร์
สหรัฐ) มูลค่านำเข้ามีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 0.98 ของมูลค่านำเข้าทั้งหมด

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลัง  (กรมบัญชีกลาง)  รายงานการเงินของแผ่นดิน
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 สิ้นสุด  ณ  วันที่ 30 กันยายน 2545  ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินยังไม่
ได้ตรวจสอบรับรอง ประกอบด้วย รายงานรายรับ-รายจ่ายของแผ่นดิน และงบแสดงฐานะการเงินของแผ่นดิน
โดยรายรับรวมปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  มีทั้งสิ้น  1,032,170.54  ล้านบาท  แยกเป็นรายได้จากภาษีอากร
ค่าธรรมเนียมต่างๆ รายได้ที่รัฐวิสาหกิจนำส่ง และเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณโดยวิธีการจำหน่าย
พันธบัตรออมทรัพย์      สำหรับรายจ่าย มีทั้งสิ้น  1,018,747.00  ล้านบาท  ประกอบด้วย  รายจ่ายตามงบ
ประมาณ จำนวน  1,005,621.65  ล้านบาท  และรายจ่ายตามพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. 2491 (และที่
แก้ไขเพิ่มเติม) จำนวน  13,125.35  ล้านบาท โดยในส่วนของรายจ่ายตามงบประมาณ แยกเป็นรายจ่ายตาม
แผนงาน โครงการ จำนวน 889,167.64 ล้านบาท รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน  34,232.28  ล้านบาท
และรายจ่ายเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2541-2544) จำนวน  82,221.73  ล้านบาท  ส่วน
กลุ่มสินทรัพย์หมุนเวียน มีจำนวน 235,514.22 ล้านบาท   และกลุ่มหนี้สิน มีจำนวน  1,911,067.65   ล้าน
บาท   รวมทั้งภาระค้ำประกันการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจ  มีจำนวน  985,841.84  ล้านบาท  ซึ่งเป็นการกู้จาก
ต่างประเทศและกู้ภายในประเทศ  โดยภาพรวมการค้ำประกันย้อนหลัง 10 ปี  เห็นว่า  ภาระค้ำประกันมียอด
ค่อนข้างสูง   จึงเห็นควรทบทวนเงื่อนไขการค้ำประกันการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจในอนาคตต่อไป  เพื่อมิให้เป็น
ภาระของรัฐเกินความจำเป็น

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการประมูลด้วยระบบ
อิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction)  และอนุมัติให้ดำเนินการตามที่เสนอในการขยายเวลาให้ส่วนราชการดำเนินการจัด
หาพัสดุโดยวิธีดังกล่าวได้จนถึงวันที่  14  กุมภาพันธ์  2546   และให้กระทรวงการคลังร่วมกับสำนักงบประมาณ
ศึกษาความเป็นไปได้ และกำหนดมาตรการเพื่อรองรับการใช้เงินเหลือจ่ายเนื่องมาจากการดำเนินการจัดหาพัสดุ
ในรูปแบบ  e-Auction   และให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารดำเนินการประสานงานกับหน่วย
งานที่เกี่ยวข้องศึกษารูปแบบการจัดตั้งหน่วยงานภาครัฐ เพื่อทำหน้าที่ผู้ให้บริการตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์ตาม
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  26  พฤศจิกายน  2545   รวมทั้งรับทราบตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
(นายวราเทพ  รัตนากร)  เสนอเพิ่มเติมในเรื่องนี้ว่า  โดยที่ส่วนราชการหลายแห่งไม่สามารถดำเนินตามกำหนด
เวลาดังกล่าวได้ จึงขอขยายระยะเวลาตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2545 (ที่ให้ดำเนินการจัดซื้อพัสดุ
และครุภัณฑ์ในรูปแบบการประมูลผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต    โดยดำเนินการอย่าง
น้อย 1 รายกา ร ภายในเดือนธันวาคม 2545) เป็นให้ดำเนินการ ภายในวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2546  ทั้งนี้ 
ยกเว้นกรณีในช่วงระยะเวลาดังกล่าว  ส่วนราชการยังไม่มีรายการพัสดุและครุภัณฑ์ที่จะต้องดำเนินการจัดซื้อ จัด
จ้าง โดยอย่างน้อยหากทำไม่ได้ทุกกรม ต้องได้ทุกกระทรวง

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยเดือนกันยายน
 2545  โดยสินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่มสินค้า  มีมูลค่านำเข้ารวม 44.61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  เพิ่มขึ้นจากเดือน
เดียวกันของปีที่แล้ว 2.18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 5.14 โดยมีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้น 11 รายการ ตั้งแต่ร้อย
ละ 1.61 (เลนส์) ถึงร้อยละ 109.65 (เครื่องประดับที่ทำด้วยคริสตัล) และมี  6  รายการ   ที่มีมูลค่านำเข้าลด
ลงตั้งแต่ร้อยละ 1.22 (ดอกไม้) ถึงร้อยละ 41.25  (กระเป๋าหนังและเข็มขัดหนัง)  ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าสินค้า
ฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่ม เปรียบเทียบกับมูลค่านำเข้ารวมสินค้าทุกชนิดในเดือนกันยายน 2545 (5,482.28 ล้าน
ดอลลาร์สหรัฐ) มูลค่านำเข้ามีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 0.81 ของมูลค่านำเข้าทั้งหมด สำหรับมูลค่านำเข้าสินค้า
ฟุ่มเฟือยเดือนตุลาคม 2544 - กันยายน 2545 มีมูลค่านำเข้ารวม 572.29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  เปรียบเทียบ
กับเดือนตุลาคม 2543 - กันยายน 2544 มีมูลค่าลดลง 25.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 4.20

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ อท. 227 ตามโฉนด
ที่ดินเลขที่ 7008  เลขที่ดิน 291 เนื้อที่ประมาณ 2-0-00 ไร่  ตำบลสามโก้  อำเภอสามโก้  จังหวัดอ่างทอง 
คืนให้แก่นายชิต บุญเมือง  และนางฝ้าย บุญเมือง  ผู้ยกให้  เนื่องจากทางราชการมิได้เข้าไปใช้ประโยชน์ตาม
วัตถุประสงค์แต่อย่างใด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุ ตามโฉนดที่ดินเลขที่ 6507 เลขที่ดิน 9 หน้า
สำรวจ 321 ตำบลดอนโพธิ์  อำเภอเมือง ฯ  จังหวัดลพบุรี  (บางส่วน)  เนื้อที่ประมาณ 5-0-33 ไร่  คืนให้
แก่นางสาวเช้า เปรมปราดิน ผู้ยกให้ ตามมติคณะกรรมการพิจารณาการโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุ   ตามที่
กระทรวงการคลังเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายวราเทพ รัตนากร)  
เสนอว่า กระทรวงการคลังโดยกรมธนารักษ์ได้ปรับปรุงพื้นที่ว่างบริเวณตลาดหมอชิต (เดิม) ให้เป็นที่จอด
รถยนต์สำหรับประชาชนผู้ที่เดินทางต่อโดยใช้บริการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (BTS)  โดย
สามารถนำรถยนต์มาจอดได้ตั้งแต่เวลา 05.00 - 24.00 น. ของทุกวัน  โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่ประการใด
จึงขอแจ้งให้รัฐมนตรีทุกท่านทราบและเผยแพร่ข่าวสารดังกล่าวด้วย