ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 628 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 12541 - 12560 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
12541 | การเปิดโครงข่ายเน็ตประชารัฐตามหลักการโครงข่ายแบบเปิด (Open Access Network) | ดศ | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเปิดโครงข่ายเน็ตประชารัฐที่ครอบคลุมหมู่บ้านเป้าหมาย จำนวน ๒๔,๗๐๐ หมู่บ้าน ตามหลักเกณฑ์การให้บริการโครงข่ายเน็ตประชารัฐแบบเปิด (Open Access Network) ตามแนวทางที่คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเห็นชอบเพื่อให้มีการเชื่อมต่อโครงข่ายเน็ตประชารัฐไปให้บริการปลายทาง (Last Mile Access) ไปยังทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นการใช้โครงข่ายเน็ตประชารัฐให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมและลดต้นทุนในการคิดอัตราค่าบริการอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยราคาที่เหมาะสมอีกทั้งยังเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ๑.๒ ให้หน่วยราชการต่าง ๆ สนับสนุนให้เกิดการใช้ประโยชน์จากเน็ตประชารัฐเพื่อต่อยอดการพัฒนาบริการภาครัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิ e-Health e-Learning e-Agriculture e-Commence และ e-Government เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ของภาครัฐได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ สามารถสร้างการรับรู้สู่ชุมชน โดยการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร และรับทราบปัญหา อุปสรรค ความต้องการผ่านเครือข่ายอาสาสมัครที่มีอยู่ในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างถูกต้องตรงตามเป้าประสงค์ของนโยบายรัฐบาลได้อย่างทันเหตุการณ์ รวดเร็ว ในรูปแบบประชารัฐ ๒. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด เช่น ควรกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่เหมาะสมเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถขอเชื่อมต่อโครงข่ายได้จำนวนมากราย เพื่อให้สามารถแข่งขันกันทั้งในด้านราคาและด้านสุขภาพการบริการ ควรป้องกันปัญหาการผูกขาดการเชื่อมต่อโครงข่ายเน็ตประชารัฐในการนำไปให้บริการปลายทางและกำกับดูแลให้ผู้ประกอบการเอกชนควบคุมคุณภาพการให้บริการ ควรกำหนดราคาให้บริการให้เหมาะสมและเป็นธรรม ควรมีการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัย การควบคุม กำกับการเข้าถึงสื่อที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้บริการโดยเฉพาะโรงเรียน สถานศึกษา ให้ชัดเจน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. การดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้เอกชนเข้าร่วมให้บริการโครงข่ายเน็ตประชารัฐตามหลักการโครงข่ายแบบเปิดนั้น ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12542 | การแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์จอร์เจียประจำประเทศไทย (นายวิกร ศรีวิกรม์) | กต | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวิกร ศรีวิกรม์ ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์จอเจียประจำประเทศไทย สืบแทน นายทะสึยะ นิชิมุระ (Mr. Tatsuya Nishimura) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12543 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายสมภพ ปราบณรงค์) | รง | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสมภพ ปราบณรงค์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากฎหมาย (นิติกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงแรงงาน ตั้งแต่วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12544 | การปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ประจำจังหวัดเชียงใหม่ และการพ้นจากตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ประจำจังหวัดเชียงใหม่ของ นายอัครจิต พนมวัน ณ อยุธยา | กต | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ประจำจังหวัดเชียงใหม่ และการพ้นจากตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ประจำจังหวัดเชียงใหม่ของ นายอัครจิต พนมวัน ณ อยุธยา เนื่องจากขอลาออกจากตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12545 | รัฐบาลสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย (นางสมันตา เค. ชยสุริยะ) | กต | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสมันตา เค. ชยสุริยะ (Mrs. Samantha K. Jayasuriya) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นางกเษณุกา ธิเรนี เสเนวิรัตนะ (Mrs. Kshenuka Dhireni Senewiratne) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12546 | รัฐบาลสหรัฐเม็กซิโกเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหรัฐเม็กซิโกประจำประเทศไทย (นายเบร์นาโด กอร์โดบา เตโย) | กต | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมติแต่งตั้ง นายเบร์นาโด กอร์โดบา เตโย (Mr. Bernardo Cordova Tello) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหรัฐเม็กซิโกประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายไฆเม บีร์กิลิโอ นัวลาร์ต ซานเชซ (Mr. Jaime Virgilio Nualart Sanchez) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12547 | เกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบายและคู่มือการใช้เกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย | ปช | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบายและคู่มือการใช้เกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย ซึ่งการจัดทำเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงฯ เป็นการดำเนินการตามประเด็นยุทธศาสตร์ “สกัดกั้นการทุจริตเชิงนโยบาย” ของยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) โดยเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงฯ นั้น จะมีลักษณะเป็นแบบรายงานที่กำหนดประเด็นคำถามต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการทุจริต และให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้จัดทำข้อมูลตามแบบรายงานดังกล่าว ซึ่งเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงฯ แบ่งออกเป็น ๒ ส่วน ได้แก่ ขั้นตอนการพัฒนานโยบาย และขั้นตอนการนำนโยบายสู่การปฏิบัติ ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ ๒. ให้ส่งความเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อสังเกตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การสนับสนุนงบประมาณบุคลากร และองค์ความรู้ การปรับปรุงคู่มือการใช้เกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงฯ ให้ชัดเจนและเข้าใจง่าย การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ การลดความซ้ำซ้อน การบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และความเหมาะสมหรือจำเป็นในการนำเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงฯ ไปใช้ ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับสำนักงาน ก.พ.ร. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องประชุมหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบหรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อพิจารณาการกำหนดเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงฯ ให้มีความเหมาะสมหรือสอดคล้องกับหลักเกณฑ์หรือแนวทางการประเมินอื่น ๆ ที่มีอยู่แล้ว เพื่อให้สามารถนำเกณฑ์ดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม คุ้มค่า และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ โดยไม่เป็นการสร้างภาระหรืองบประมาณให้กับภาครัฐ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12548 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต และแขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... | กค | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต และแขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะซึ่งอยู่ในความครอบครองดูแลและใช้ในราชการกองทัพบก โดยเป็นที่ตั้งของมณฑลทหารบกที่ ๑๑ และกรมทหารราบที่ ๑ รักษาพระองค์ ในท้องที่แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต และแขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร เนื่องจากกองทัพบกได้เลิกใช้ประโยชน์และไม่ประสงค์จะใช้ประโยชน์อีกต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12549 | ร่างกฎกระทรวงเพื่อรองรับการใช้บังคับพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 รวม 3 ฉบับ | รง | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงเพื่อรองรับการใช้บังคับพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ รวม ๓ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการขออนุญาตทำงาน การออกใบอนุญาตทำงาน และการจ้างการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตทำงาน การออกใบอนุญาตทำงาน การขอต่ออายุใบอนุญาตทำงาน การต่ออายุใบอนุญาตทำงาน การแจ้งและการจดแจ้งการขยายระยะเวลา และการแจ้งและการออกหนังสือรับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของคนต่างด้าวที่จะขอรับใบอนุญาตทำงาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของคนต่างด้าวที่จะขอรับใบอนุญาตการทำงาน ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12550 | การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ประจำปี 2561 | ยธ | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ๑.๑ อนุมัติให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ประจำปี ๒๕๖๑ ในอัตราไม่เกิน ๙,๖๕๓ คน โดยแบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรงและผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด ดังนี้ ๑.๑.๑ ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบ ประจำปี ๒๕๖๑ เป็นกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่นไม่เกินร้อยละ ๒.๕ ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง จำนวน ๒๖๖,๓๘๔ คน คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๖,๖๖๐ คน ๑.๑.๒ ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบ ประจำปี ๒๕๖๑ เป็นกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดดีเด่นไม่เกินร้อยละ ๑.๕ ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน ๑๙๙,๕๖๐ คน คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๒,๙๙๓ คน ๑.๒ อนุมัติยกเว้นกรณีทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ได้รับการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ติดต่อกันเกิน ๒ ปี ต่อเนื่องได้ ๑.๓ สำหรับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการต้นสังกัดเป็นลำดับแรก หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้เบิกจ่ายจากงบกลาง รายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการเป็นลำดับต่อไป ๒. ในการดำเนินการเพื่อพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดครั้งต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณากำหนดสัดส่วนของเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษในส่วนกลาง ในส่วนภูมิภาค และในพื้นที่ชายแดน ให้ชัดเจน เหมาะสม และเป็นธรรม ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ (เรื่อง การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ประจำปี ๒๕๖๐) อย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12551 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายสานิตย์ ศรีสุข) | คค | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสานิตย์ ศรีสุข ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งวิศวกรใหญ่ที่ปรึกษาวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านสำรวจและออกแบบ) (วิศวกรโยธาทรงคุณวุฒิ) กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม ตั้งแต่วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12552 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. .... | นร09 | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแบ่งส่วนราชการของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป อันจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามอำนาจหน้าที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๒. ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. และสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเตรียมการจัดอัตรากำลังให้สอดคล้องกับภาระงานของกองตั้งใหม่ ซึ่งรวมถึงสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค ๑-๔ ด้วย โดยให้คำนึงถึงการใช้อัตรากำลังที่มีอยู่อย่างเต็มประสิทธิภาพและเพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่เน้นให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือในการบริหารทรัพยากรน้ำร่วมกันของหลายหน่วยงาน โดยเน้นภารกิจเชิงนโยบายเป็นหลัก สำหรับภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการแบ่งส่วนราชการดังกล่าวภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เห็นควรให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปดำเนินการเป็นลำดับแรกก่อน ส่วนภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องครบถ้วน โดยให้ดำเนินการตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12553 | ร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวงเพื่อปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้จากการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม | กค | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวงเพื่อปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้จากกองทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดเก็บภาษีเงินได้บางกรณีสำหรับ (๑) กองทุนที่จัดตั้งขึ้นตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๑๕ ประกอบกับประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดกิจการที่ต้องขออนุญาต ตามข้อ ๕ (๘) แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ลงวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๑๕ (๒) กองทุนรวมตามประมวลรัษฎากร และ (๓) ผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนและกองทุนรวมดังกล่าว ๑.๒ ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยภาษีเงินได้ มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๔๔ (พ.ศ. ๒๕๒๒) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยภาษีเงินได้ กรณีกำหนดอัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ร้อยละ ๑๕.๐ สำหรับการจ่ายเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา ๔๐ (๔) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่กองทุนรวมที่เป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย และกำหนดให้กรณีที่เงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๔) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร เป็นผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอนกับราคาจำหน่ายตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ ให้ถือว่าผู้ออกตั๋วเงินหรือผู้ออกตราสารแสดงสิทธิในหนี้ ให้แก่กองทุนรวมที่เป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย เป็นผู้จ่ายเงินได้พึงประเมิน และให้เรียกเก็บภาษีเงินได้จากกองทุนรวมดังกล่าวในอัตราร้อยละ ๑๕.๐ ของเงินได้ และให้ถือว่าภาษีที่เรียกเก็บนั้นเป็นภาษีที่หักไว้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรคำนึงถึงผลกระทบในทางปฏิบัติที่อาจสร้างแรงจูงใจให้ผู้ออกตราสารหนี้เปลี่ยนพฤติกรรมมาออกตราสารหนี้ระยะสั้นมากขึ้น เนื่องจากกองทุนรวมจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอนกับราคาซื้อหากมิใช่ผู้ทรงคนแรก และเพื่อให้การดำเนินการตามร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวงดังกล่าวเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เห็นควรที่กระทรวงการคลังจะสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12554 | การเข้าร่วมการประชุมผู้นำ G20 ประจำปี 2562 ซึ่งจะมีการรับรองร่างแถลงการณ์ผู้นำ G20 ณ นครโอซากา และร่างแถลงการณ์โอซากาว่าด้วยเศรษฐกิจดิจิทัล | กต | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการเข้าร่วมการประชุมผู้นำ G20 ประจำปี ๒๕๖๒ ซึ่่งมีกำหนดจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๘-๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๒ ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น โดยที่ประชุมฯ จะมีการรับรองร่างแถลงการณ์ผู้นำ G20 ณ นครโอซากา (G20 Osaka Leaders’ Declaration) และเห็นชอบร่างแถลงการณ์โอซากาว่าด้วยเศรษฐกิจดิจิทัล (Osaka Declaration on Digital Economy) ซี่งจะมีการรับรองโดยผู้นำประเทศที่เข้าร่วมกิจกรรมคู่ขนานเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในการประชุมฯ มีสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่มุ่งเน้นการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การลดความเหลื่อมล้ำ การส่งเสริมวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน การลงทุนพัฒนาทุนมนุษย์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เศรษฐกิจดิจิทัล สังคมสูงวัย และนโยบาย Society 5.0 ซึ่งการลงทุนการพัฒนามนุษย์ ควรรวมถึงการพัฒนาทักษะของแรงงานที่จำเป็นภายใต้บริบทความท้าทายของการปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคที่ ๔ รวมทั้งการเตรียมความพร้อมการรองรับสังคมผู้สูงอายุ ควรรวมถึงการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรม การออกแบบโครงสร้างพื้นฐานและสถาปัตยกรรมเพื่อคนทั้งมวล และการแก้ปัญหาสังคมผู้สูงอายุโดยบูรณาการนโยบายและการทำงานชองหน่วยงานรัฐและเอกชนให้ไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ ควรผลักดันการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อเพิ่มผลิตภาพภาคเกษตรของไทยและอาเซียน ซึ่งญี่ปุ่นในฐานะประเทศเจ้าภาพการประชุมผู้นำ G20 อาจช่วยผลักดันประเด็นดังกล่าวในการประชุมได้ เนื่องจากญี่ปุ่นเน้นการทำการเกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture) ด้วยการส่งเสริมเกษตรกรให้สามารถผลิต แปรรูป และจำหน่ายสินค้าเกษตรของตนเองได้อย่างครบวงจร ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12555 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (นายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ และคณะ) | กต | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่เกษียณอายุราชการ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. นายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ๒. นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายนิกรเดช พลางกูร ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12556 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ (จำนวน 9 คน 1. คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ฯลฯ) | พม | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ จำนวน ๙ คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. ผู้แทนองค์กรสตรีและองค์กรที่ทำงานด้านสิทธิความหลากหลายทางเพศ ๑.๑ คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ๑.๒ ศาสตราจารย์เกียรติคุณเพ็ญศรี พิชัยสนิธ ๑.๓ นางสาวอรุณี ศรีโต ๑.๔ นายสาวสุธาดา เมฆรุ่งเรืองกุล ๑.๕ นางถวิลวดี บุรีกุล ๑.๖ นายนฤพนธ์ ด้วงวิเศษ ๒. ผู้ทรงคุณวุฒิ ๒.๑ นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ (ด้านนิติศาสตร์) ๒.๒ นางสาวอารีวรรณ จตุทอง (ด้านนิติศาสตร์) ๒.๓ นางสุทธิศรี วงษ์สมาน (ด้านสังคมศาสตร์)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12557 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (นายวิทิต อรรถเวชกุล) | สธ | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายวิทิต อรรถเวชกุล ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป และให้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาลที่ได้แต่งตั้งไว้แล้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12558 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลาง G20 | กค | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลาง G20 โดยมีผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย และผู้แทนกระทรวงการคลังเข้าร่วมในองค์ประกอบของคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ เมื่อวันที่ ๗-๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๑ ณ เมืองฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งที่ประชุมฯ ได้มีการหารือเพื่อกำหนดทิศทางและแนวนโยบายในการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาเศรษฐกิจของโลกที่ให้ความสำคัญในการร่วมมือในการพัฒนาระบบภาษีระหว่างประเทศ การดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากร การแก้ไขความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจและการพัฒนาการกำกับดูแลเทคโนโลยีทางการเงิน และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการผลักดันร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การแลกเปลี่ยนข้อมูลตามคำขอระหว่างประเทศและการแลกเปลี่ยนข้อมูลอัตโนมัติระหว่างประเทศ) ให้ประเทศไทยสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลภาษีอัตโนมัติ (Automatic Exchange of Information) เพื่อเป็นการป้องกันการวางแผนการหลบเลี่ยงภาษีและโอนกำไรไปต่างประเทศของบริษัทข้ามชาติ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบการเข้าร่วมมาตรการ BEPS ในฐานะประเทศสมาชิกภายใต้กรอบความร่วมมือของ OECD เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12559 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการออกและขายสลากออมทรัพย์ พ.ศ. .... | กค | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการออกและขายสลากออมทรัพย์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการออกและขายสลากออมทรัพย์ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งจะทำให้ ธอส. สามารถระดมทุนและบริหารจัดการแหล่งเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12560 | ผลการรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เดือนมกราคม - มีนาคม 2562) | นร | 25/06/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นผู้ชี้แจงรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา ๒๗๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เดือนมกราคม-มีนาคม ๒๕๖๒) ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
|
.....