ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 624 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 12461 - 12480 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
12461 | การมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ตรวจพิจารณาร่างมติคณะรัฐมนตรี | นร05 | 16/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นผู้ตรวจพิจารณาร่างมติคณะรัฐมนตรีที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12462 | การจัดทำคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา | นร05 | 16/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา ๒. มอบหมายให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรับไปประสานเพื่อแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบว่า คณะรัฐมนตรีมีความพร้อมที่จะแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาได้ตั้งแต่วันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป ๓. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศแปลคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีเป็นภาษาอังกฤษ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12463 | การร้องขอต่อรัฐสภาเพื่อให้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่รัฐสภายังมิได้ให้ความเห็นชอบตามมาตรา 147 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย | นร05 | 16/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ร้องขอต่อรัฐสภาเพื่อให้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่รัฐสภายังมิได้ให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๑๔๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต่อไป รวม ๔ ฉบับ ดังนี้
๑. ร่างพระราชบัญญัติที่อยู่ระหว่างการพิจารณาในวาระที่ ๒ (ชั้นคณะกรรมาธิการ) รวม ๓ ฉบับ คือ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. ร่างพระราชบัญญัติที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว รอการพิจารณาในวาระที่ ๒ และวาระที่ ๓ คือ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ....
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12464 | การกำหนดวิธีการประชุมคณะรัฐมนตรี | นร | 16/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการกำหนดวิธีการประชุมคณะรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. วัน เวลา และสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ๒. องค์ประกอบของการประชุมคณะรัฐมนตรี ๓. ระเบียบวาระการประชุม ๔. ประเภทแฟ้มระเบียบวาระการประชุม ๕. การส่งระเบียบวาระการประชุม ๖. คณะกรรมการรัฐมนตรี ๗. การลาประชุมคณะรัฐมนตี ๘. สรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรี
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12465 | การมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวง | นร05 | 16/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. กรณีที่มีรัฐมนตีช่วยว่าการกระทรวง ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ๒. กรณีที่มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงหลายคน ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณามอบหมายเป็นหลักการให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคนใคคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ๓. กรณีที่ไม่มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณามอบหมายเป็นหลักการให้รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12466 | แนวทางปฏิบัติในการเสนอเรื่องทั่วไปต่อคณะรัฐมนตรี | นร05 | 16/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางปฏิบัติในการเสนอเรื่องทั่วไปต่อคณะรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ให้หน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่องนำเรื่องเสนอนนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับการบริหารราชการพิจารณาก่อน และเมื่อได้รับการอนุมัติ/เห็นชอบให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้หน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่องส่งเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ๒. ในหนังสือนำส่งเรื่องดังกล่าวให้หน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่องดำเนินการให้เป็นไปตามนัยมาตรา ๖ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ ที่บัญญัติให้เป็นอำนาจของรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเป็นผู้ลงนามเสนอเรื่อง โดยให้ระบุในหนังสือนำส่งเรื่องด้วยว่าได้รับการอนุมัติ/เห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีแล้ว ๓. ในกรณีเรื่องที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่จะต้องได้รับความเห็นชอบหรืออนุมัติจากหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นก่อน (ตามระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๘ ข้อ ๙) ให้หน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่องขอความเห็นชอบหรือขออนุมัติจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องให้เสร็จสิ้น แล้วจึงส่งเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพร้อมกับความเห็นชอบหรือคำอนุมัตินั้น ๔. ในการส่งเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ให้หน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่องดำเนินการตามแนวทางการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี โดยกรณีเป็นเรื่องที่มีกรอบระยะเวลาในการดำเนินการอย่างชัดเจน ซึ่งหน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่องทราบล่วงหน้าอยู่แล้ว เช่น เรื่องเกี่ยวกับการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมนานาชาติ เป็นต้น ให้เสนอเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีก่อนถึงระยะเวลาที่กำหนดของเรื่องนั้น ๆ อย่างน้อย ๑๕ วัน ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๔ (เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี) สำหรับกรณีที่เป็นเรื่องเร่งด่วน ให้หน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่องส่งเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอย่างน้อย ๗ วัน ก่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรี ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12467 | คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี (เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนกัน และปฏิบัติราชการแทนกัน ในกรณีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง) | นร04 | 16/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๖๑/๒๕๖๒ เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนกัน และปฏิบัติราชการแทนกัน ในกรณีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง ลงวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12468 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายดิสทัต โหตระกิตย์) | นร04 | 16/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายดิสทัต โหตระกิตย์ ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12469 | มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี | นร04 | 16/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ตามลำดับ ดังนี้
๑. พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ๒. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ๓. นายวิษณุ เครืองาม ๔. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ๕. นายอนุทิน ชาญวีรกุล
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12470 | รายงานผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เรื่อง ศูนย์บริการร่วม ณ จุดเดียว (One Stop Service) | ดศ | 15/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เรื่อง ศูนย์บริการร่วม ณ จุดเดียว (One Stop Service) และกรอบแนวทางการพัฒนาการให้บริการเบ็ดเสร็จของภาครัฐ : สถาปัตยกรรมระบบและการเชื่อมโยงข้อมูล (Government One Stop Service Development Framework : System Architecture and Data Linkage) ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและได้จัดทำกรอบแนวทางการพัฒนาการให้บริการเบ็ดเสร็จของภาครัฐ : สถาปัตยกรรมระบบและการเชื่อมโยงข้อมูล (Government One Stop Service Development Framework : System Architecture and Data Linkage) ได้แก่ การจัดลำดับความสำคัญของบริการเพื่อพัฒนาระบบนำร่องบริการแบบเบ็ดเสร็จ การกำหนดกรอบแนวทางการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลสำหรับบริการแบบเบ็ดเสร็จ และการกำหนดสถาปัตยกรรมระบบการให้บริการเบ็ดเสร็จ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการดำเนินงานด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) และข้อมูลเปิดภาครัฐ (Open Government Data) เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจและการออกแบบนโยบายของรัฐให้ตรงกับสภาวการณ์และความต้องการของประชาชน รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดความโปร่งใสในการทำงานของภาครัฐอีกทางหนึ่งด้วย ๑.๒ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) เห็นด้วยในหลักการเบื้องต้นของกรอบแนวทางดังกล่าว โดยเห็นว่า การพัฒนาศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) จะต้องมีสถาปัตยกรรมและแนวทางในการพัฒนาที่เกิดจากการเชื่อมโยงบริการดิจิทัลของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งขณะนี้สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) อยู่ระหว่างการออกแบบสถาปัตยกรรมและคู่มือการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐสำหรับศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกลาง (Government Data Exchange : GDX) และจะดำเนินการพัฒนาศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) ให้สอคดล้องกับระบบการทำงานของศูนย์ GDX ต่อไป ๑.๓ กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วไม่ขัดข้องต่อข้อเสนอของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาดำเนินการ ได้แก่ การผลักดันให้ทุกหน่วยงานที่เชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านระบบ National Single Window (NSW) อยู่เดิม ขยายการให้บริการในรูปแบบดิจิทัลในส่วนของบริการอื่น ๆ ที่ยังไม่เป็นดิจิทัลทั้งหมดผ่านระบบ NSW เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงบริการของหน่วยงานผ่านระบบ NSW ณ จุดเดียวได้ทุกบริการ การจัดทำตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงาน (KPI) ของหน่วยงานภาครัฐที่ต้องดำเนินงานให้สอดคล้องตามแนวทางศูนย์บริการร่วม ณ จุดเดียว และการให้หน่วยงานภาครัฐมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเอกสารที่หน่วยงานภาครัฐมีความจำเป็นต้องใช้ประกอบการพิจารณาการทำธุรกรรมระหว่างประชาชนกับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาขน โดยไม่ต้องยื่นเอกสารให้กับหน่วยงานภาครัฐ ๒. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ในการขับเคลื่อนศูนย์บริการร่วม ณ จุดเดียว (One Stop Service) เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติเป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12471 | ร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนที่รับผิดชอบงานเยาวชน ครั้งที่ 11 (Joint Ministerial Statement of the Eleventh ASEAN Ministerial Meeting on Youth) และร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนที่รับผิดชอบงานเยาวชน + 3 ครั้งที่ 7 (Joint Ministerial Statement of the Seventh ASEAN Plus Three Ministerial Meeting on Youth) | พม | 15/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบถ้อยคำและสารัตถะร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนที่รับผิดชอบงานเยาวชน ครั้งที่ ๑๑ (Joint Ministerial Statement of the Eleventh ASEAN Ministerial Meeting on Youth) และร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนที่รับผิดชองงานเยาวชน+๓ ครั้งที่ ๗ (Joint Ministerial Statement of the Seventh ASEAN Plus Three Ministerial Meeting on Youth) ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการให้คำมั่นและเน้นย้ำถึงความพยายามและมุ่งมั่นร่วมกันของประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศบวกสามในการสนับสนุนการดำเนินงานและส่งเสริมการกำหนดยุทธศาสตร์ และใช้เป็นแนวทางการดำเนินงานของอาเซียนในการพัฒนาศักยภาพเยาวชนทุกด้านและเสริมสร้างบทบาทของเยาวชนในการพัฒนาที่ยั่งยืนและบูรณาการร่วมกันในภูมิภาค และให้ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยระดับรัฐมนตรี ร่วมรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ทั้ง ๒ ฉบับ ในวันศุกร์ที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ทั้ง ๒ ฉบับ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย สำหรับค่าใช้จ่ายสนับสนุนเงินบริจาคที่อาจจะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เห็นควรให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติการและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ สำหรับค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณถัดเห็นควรให้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12472 | รัฐบาลสาธารณรัฐไนเจอร์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐไนเจอร์ประจำประเทศไทย (นายมุสตาฟา อีนูซา) | กต | 15/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายมุสตาฟา อีนูซา (Mr. Moustapha Inoussa) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐไนเจอร์ประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน สืบแทน นายอาลี อิลเลียสซู (Mr. Ali Illiassou) ซึ่งมีถิ่นพำนัก ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12473 | การรับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุม Focal Points Network on Women, Peace and Security ณ กรุงวินด์ฮุก ระหว่างวันที่ 10 - 11 เมษายน 2562 | กต | 09/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมของผู้ประสานงานระดับชาติด้านสตรี สันติภาพ และความมั่นคง (Joint Communique by the Focal Points on Women, Peace and Security) ซึ่งเป็นเอกสารผลลัพธ์การประชุมเครือข่ายผู้ประสานงานระดับชาติด้านสตรี สันติภาพ และความมั่นคง ณ กรุงวินด์ฮุก สาธารณรัฐนามิเบีย ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๑ เมษายน ๒๕๖๒ โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ มีสาระสำคัญ เช่น การผนวกรวมวาระสตรี สันติภาพ และความมั่นคงเข้ากับแผนประชาคมเศรษฐกิจภูมิภาค และสนับสนุนการบังคับใช้ผ่านกรอบการดำเนินงานและแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาค การรับรองแผนปฏิบัติการระดับชาติ (National Action Plan) เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ ๑๓๒๕ (ค.ศ. ๒๐๐๐) และข้อมติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง การสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม และการเพิ่มพูนบทบาทและการแสดงออกของเยาวชนและสตรีในการสร้าง รักษา และเสริมสร้างสันติภาพ เป็นต้น ๑.๒ มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติรับทราบและถือปฏิบัติในส่วนที่เกี่ยวข้อง ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลังพร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12474 | ร่างถ้อยแถลงอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมธรรมาภิบาลและการเร่งยกระดับภาคราชการพลเรือนในยุคดิจิทัล | นร10 | 09/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบถ้อยคำและสาระของร่างถ้อยแถลงอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมธรรมาภิบาลและการเร่งยกระดับภาคราชการพลเรือนในยุคดิจิทัล (ASEAN Statement on Promotion of Good Governance and Acceleration of an Agile Civil Service in a Digital Economy) มีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมการเร่งพัฒนาศักยภาพของภาคราชการพลเรือนในอาเซียนให้มีประสิทธิภาพและคล่องตัว เพื่อให้สามารถตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการเสริมสร้างความร่วมมือในภาคราชการพลเรือนอาเซียนเพื่อสนับสนุนให้เกิดการตอบสนองต่อผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลที่เกิดขึ้นในสังคมโลก และการส่งเสริมนวัตกรรมด้านธรรมาภิบาลในข้าราชการพลเรือนทุกระดับและในหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนอาเซียนและประเทศสมาชิกอาเซียนมีความเจริญรุ่งเรืองและการพัฒนาที่ยั่งยืน ๑.๒ อนุมัติให้เลขาธิการ ก.พ. ในฐานะผู้นำภาคราชการพลเรือนรับรองและร่วมลงนามในร่างถ้อยแถลงฯ ในการประชุมผู้ภาคราชการพลเรือนอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ ๓ ในเดือนสิงหาคม ๒๕๖๒ ณ กรุงเทพมหานคร ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้สำนักงาน ก.พ. ดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12475 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณโครงการสนับสนุนการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ | กห | 09/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กองบัญชาการกองทัพไทยและกองทัพบกดำเนินโครงการสนับสนุนการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ เป็นจำนวน ๖๗๐ เส้นทาง ระยะทางรวม ๑,๗๔๔.๑๓๘ กิโลเมตร ปริมาณการใช้ยางพารา จำนวน ๑๗,๔๓๕.๐๔๐ ตัน งบประมาณรวมทั้งสิ้น ๒,๕๖๘,๗๘๓,๔๐๐ บาท และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๑,๖๔๕,๒๑๖,๑๐๐ บาท ให้กองบัญชาการกองทัพไทยและกองทัพบกเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินโครงการดังกล่าว ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย ๒. ให้กระทรวงกลาโหมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12476 | การรับรองร่างปฏิญญาทางการเมืองการากัส (Caracas Political Declaration) ในการประชุมคณะกรรมการประสานงานระดับรัฐมนตรีของกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด | กต | 09/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างปฏิญญาทางการเมืองการากัส (Caracas Political Declaration) ที่จะมีการรับรองในการประชุมคณะกรรมการประสานงานระดับรัฐมนตรีของกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (Ministerial Meeting of the Coordination Bureau of the Non-Aligned Movement : NAM CoB) ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ณ กรุงการากัส สาธารณรัฐโบลีวาร์แห่งเวเนซุเอลา โดยร่างปฏิญญาฯ มีเนื้อหายืนยันและเน้นย้ำหลักการและท่าทีของกลุ่มประเทศ NAM ที่จะเคารพหลักกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ บรรทัดฐานและหลักการต่าง ๆ ที่เป็นที่ยึดถือในระดับนานาชาติ เพื่อการส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงของโลกโดยปราศจากการข่มขู่ คุกคาม หรือใช้กำลังโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือเป็นการกระทำแต่เพียงฝ่ายเดียว ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาถ้อยคำในร่างสุดท้ายของปฏิญญาฯ และเอกสารอื่น ๆ ที่จะได้รับการพิจารณาในที่ประชุม NAM CoB โดยหากไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์และท่าทีไทยในสาระสำคัญ แสดงท่าทีเชิงลบ หรือมีถ้อยคำรุนแรงประณามประเทศอื่นใด ให้กระทรวงการต่างประเทศมีหนังสือแจ้งข้อสงวน (Reservation) หรือแสดงท่าทีที่อธิบายอย่างระมัดระวังถึงเหตุผลของไทยซึ่งทำให้ไม่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับถ้อยคำดังกล่าวได้ ๓. ให้ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศที่ได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม NAM CoB เป็นผู้ลงนามร่วมรับรองร่างปฏิญญาฯ ๔. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12477 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (จำนวน 3 คน 1. ศาสตราจารย์เผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์ ฯลฯ) | นร08 | 09/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
จำนวน ๓ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ กรกฎาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑. ศาสตราจารย์เผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านกิจกรรมทางทะเล ๒. ศาสตราจารย์ชุมพร ปัจจุสานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านกฎหมาย ๓. พลเรือเอก จุมพล ลุมพิกานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการทหารเรือ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12478 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ (นายวิเชียร พงศธร) | กค | 09/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวิเชียร พงศธร เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ด้านวิศวกรรม ในคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ แทนผู้ที่ลาออก ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ กรกฎาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12479 | ขออนุมัติรายชื่อผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ประจำปีการศึกษา 2562 - 2563 จากคณะรัฐมนตรี | กห | 09/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรายชื่อผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ ๖๒ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๒-๒๕๖๓ ห้วงเวลาการศึกษาตั้งแต่ตุลาคม ๒๕๖๒ ถึงกันยายน ๒๕๖๓ ทั้งนี้ หากมีผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการศึกษาหลักสูตรดังกล่าวแจ้งความประสงค์สละสิทธิ์ หรือหากการตรวจสอบคุณสมบัติในภายหลัง พบว่าผู้ที่ได้รับการคัดเลือกฯ ขาดคุณสมบัติตามระเบียบกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๔๗ ที่กำหนดไว้ ให้กระทรวงกลาโหม โดยสภาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ตัดรายชื่อออกจากที่ได้รับอนุมัติ รวมทั้งการพิจารณาผู้ที่จะเข้ารับการศึกษาทดแทนได้ตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องขออนุมัติใหม่ทั้ง ๒ กรณี ตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ประธานสภาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
12480 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการใช้ การชัก หรือการแสดงธงชาติ และธงของต่างประเทศในราชอาณาจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 09/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้ การชัก หรือการแสดงธงชาติ และธงของต่างประเทศในราชอาณาจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการใช้ การชัก หรือการแสดงธงชาติ และธงของต่างประเทศในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๒๙ ในส่วนการชักและประดับธงชาติ ณ อาคารสถานที่ ยานพาหนะ และที่สาธารณสถาน ในโอกาสและวันพิธีสำคัญ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
.....