ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 390 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 7781 - 7800 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
7781 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ และนายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์) | พณ. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงพาณิชย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑. นายณรงค์ พูลพิพัฒน์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ๒. นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7782 | ขอขยายเวลาการประกาศพื้นที่ปรากฎเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร | นร.51 | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๕๑ ในพื้นที่อำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก และอำเภอสุคิริน
จังหวัดนราธิวาส อำเภอไม้แก่นและอำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี
อำเภอเบตงและอำเภอกาบัง จังหวัดยะลา และอำเภอนาทวี อำเภอจะนะ และอำเภอสะบ้าย้อย
จังหวัดสงขลา เพื่อประกอบการพิจารณาขอขยายเวลาการประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๕๑ ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอ ๒.
อนุมัติให้ขยายระยะเวลาการประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่อำเภอศรีสาคร
อำเภอสุไหงโก-ลก และอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส อำเภอไม้แก่นและอำเภอแม่ลาน
จังหวัดปัตตานี อำเภอเบตงและอำเภอกาบัง จังหวัดยะลา และอำเภอนาทวี อำเภอจะนะ
และอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ออกไปอีก ๑ ปี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔
ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอ ๓. เห็นชอบ ๓.๑ ร่างประกาศ
เรื่อง พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ๓.๒ ร่างประกาศ
เรื่อง การให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ๓.๓ ร่างประกาศ
เรื่อง กำหนดลักษณะความผิดอันมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
ตามมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ และ ๓.๔
ร่างข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๕๑ รวม ๔ ฉบับ ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๔. ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย
ที่ควรกำหนดมาตรการในการพัฒนาประสิทธิภาพการกำกับ ติดตาม
และเร่งรัดหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องให้บูรณาการการดำเนินการให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์
(พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐) แผนการดำเนินงานที่ได้เสนอต่อคณะกรรมการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
และแผนเผชิญเหตุในแต่ละสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น รวมทั้ง
ให้มีการติดตามประเมินผลความเหมาะสมในการขยายเวลาการประกาศพื้นที่ปรากฎเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยผ่านกลไกระบบตัวชี้วัดเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7783 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายพาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์) | อว. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายพาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7784 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายภุชพงศ์ โนดไธสง และนางปิยนุช วุฒิสอน) | ดศ. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
จำนวน ๒ ราย เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม
๒๕๖๔ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ ดังนี้ ๑.
นายภุชพงศ์ โนดไธสง ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๒. นางปิยนุช วุฒิสอน ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7785 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายประภาศ คงเอียด) | กค. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
จำนวน ๗ ราย เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ และสับเปลี่ยนหมุนเวียน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม
๒๕๖๔ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.
นายประภาศ คงเอียด ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์ ๒. นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมบัญชีกลาง ๓. นายพรชัย ฐีระเวช ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ๔. นางสาวชุณหจิต สังข์ใหม่ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายธีรัชย์ อัตนวานิช ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๖.
นายธิบดี วัฒนกุล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๗. นางชลิดา
พันธ์กระวี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7786 | ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 33) | สลค. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๓๓) ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยศูนย์ปฏิบัติการ
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ส่งมาเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา
โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้บังคับใช้บรรดามาตรการตามข้อกำหนดที่ได้ประกาศไว้แล้วต่อเนื่องต่อไป
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. ข้อกำหนดพื้นที่สถานการณ์จำแนกตามเขตพื้นที่จังหวัด
ยังคงกำหนดระดับของพื้นที่สถานการณ์เพื่อการบังคับใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ
ได้แก่ พื้นที่ควบคุมสุงสุดและเข้มงวด รวมทั้งสิ้น ๒๙ จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด
รวมทั้งสิ้น ๓๗ จังหวัด และพื้นที่ควบคุม รวมทั้งสิ้น ๑๑ จังหวัด ๒. ขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการสำหรับพื้นที่ควบคุมสุงสุดและเข้มงวด
เพื่อการควบคุมสถานการณ์ของการระบาดให้อยู่ในวงจำกัดตามการประเมินของฝ่ายสาธารณสุขจนถึงวันที่
๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ได้แก่ การห้ามออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา ๒๑.๐๐ นาฬิกา ถึง ๐๔.๐๐
นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น การห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค
มาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ควบคุมสุงสุดและเข้มงวด การใช้เส้นทางคมนาคมเพื่อการเดินทางข้ามจังหวัด
การขนส่งสาธารณะ และการปฏิบัติงานนอกสถานที่ทำการของส่วนราชการ
หน่วยงานของรัฐและเอกชนอย่างเต็มความสามารถที่จะทำได้ รวมถึงบรรดามาตรการ
หลักเกณฑ์
หรือแนวทางปฏิบัติสำหรับพื้นที่ควบคุมสุงสุดและเข้มงวดที่พนักงานเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบได้กำหนดขึ้นภายใต้ข้อกำหนดดังกล่าวยังคงใช้บังคับต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7787 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายปฐม เฉลยวาเรศ) | คค. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงคมนาคม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.
นายปฐม เฉลยวาเรศ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวง ๒. นายปริญญา แสงสุวรรณ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมท่าอากาศยาน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7788 | การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และแผนปฏิบัติการปรับลดพื้นที่การประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ห้วงปี 2565 – 2570 | สมช. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี
ยกเว้นอำเภอไม้แก่น และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และอำเภอกาบัง
ออกไปอีก ๓ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๔
ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ๒. เห็นชอบและรับทราบร่างประกาศ ดังนี้ ๒.๑ เห็นชอบร่างประกาศ
เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี
ยกเว้นอำเภอไม้แก่น และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และอำเภอกาบัง
และร่างประกาศ เรื่อง การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ ๒.๒
รับทราบร่างประกาศ เรื่อง การให้ประกาศและคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ
ได้แก่ ร่างประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี
ยกเว้นอำเภอไม้แก่น และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และอำเภอกาบัง
ร่างประกาศ เรื่อง การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ
และร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศและคำสั่งสำนักนากยรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ
รวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓.
เห็นชอบแผนปฏิบัติการปรับลดพื้นที่การประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๔๘ ห้วงปี ๒๕๖๕-๒๕๗๐ ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ๔. ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7789 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายวันชัย พนมชัย) | อก. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ
และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นายวันชัย พนมชัย ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ๒. นายบรรจง สุกรีฑา ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ๓.
นายวิษณุ ทับเที่ยง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๔.
นายนิรันดร์ ยิ่งมหิศรานนท์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7790 | ร่างเอกสารสําหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 39 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | พน. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างเอกสารสำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๖ ฉบับ ได้แก่ (๑) ร่างปฏิญญาร่วมบันดาร์เสรีเบกาวันด้านความมั่นคงทางพลังงานและการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน พร้อมคำแปล (๒) ร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ ๓๙ พร้อมคำแปล (๓) ร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานบวกสาม ครั้งที่ ๑๘ พร้อมคำแปล (๔) ร่างถ้อยแถลงข่าวร่วมของการประชุมรัฐมนตรีพลังงานแห่งเอเชียตะวันออก ครั้งที่ ๑๕ พร้อมคำแปล (๕) ร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมโครงการบูรณาการด้านการไฟฟ้าระหว่าง สปป. ลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ครั้งที่ ๒ พร้อมคำแปล และ (๖) ร่างถ้อยแถลงระดับสูงของความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างอาเซียนกับทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ พร้อมคำแปล และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน) เป็นผู้ให้การรับรองในเอกสารสำหรับการประชุมดังกล่าวกับรัฐมนตรีพลังงานของกลุ่มประเทศสมาชิกได้ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารทั้ง ๖ ฉบับ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงพลังงานได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7791 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดข้อความโฆษณาสินค้าหรือบริการที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีนในโรงภาพยนตร์และทางป้ายโฆษณา พ.ศ. 2547 พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | นร.03 | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดข้อความโฆษณาสินค้าหรือบริการที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีนในโรงภาพยนตร์และทางป้ายโฆษณา พ.ศ. ๒๕๔๗ พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับดังกล่าว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดข้อความโฆษณาสินค้าหรือบริการที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม และการยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีนในโรงภาพยนตร์และทางป้ายโฆษณา พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7792 | รายงานผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขอถอนตัว และร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ดศ. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบกรณีนางสาวฐิติรัตน์ ทิพย์สัมฤทธิ์กุล ซึ่งเป็นผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๓ (เรื่อง การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) ขอถอนตัว ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ ๒. อนุมัติในหลักการร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ๒๕๖๓ ให้มีความชัดเจนมากขึ้น ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอ คณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่าคณะรัฐมนตรีสามารถรับทราบรายงานการถอนตัวของผู้ได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรีให้เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ และมีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ และควรให้สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เร่งสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มเติม พร้อมทั้งตรวจสอบสถานะของกรรมการสรรหาแต่ละราย หากตำแหน่งรายใดว่างลงควรให้มีกรรมการสรรหาแทนในตำแหน่งนั้นโดยเร็ว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7793 | ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ | สผ. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา ๑๕๑ ของรัฐธรรมนูญ เมื่อวันเสาร์ที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๔ ซึ่งลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง ๖ คน ด้วยคะแนนเสียงไม่มากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร จึงถือว่ารัฐมนตรีทั้ง ๖ คน ได้รับความไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎร ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7794 | การแต่งตั้งผู้สอบบัญชีขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย (ประจำปี 2564 - 2568) | พน. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งบริษัท M/S Baker Tilly Monteiro Heng PLT เป็นผู้สอบบัญชี (External Auditor) ขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ประจำปี ๒๕๖๔ และให้บริษัทดังกล่าวเป็นผู้สอบบัญชี ขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ต่อเนื่องเป็นเวลา ๕ ปี ตั้งแต่ปี ๒๕๖๔ จนถึงปี ๒๕๖๘ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7795 | การเสนองบประมาณและแผนการดำเนินงานประจำปี 2565 ขององค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย | พน. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบงบประมาณและแผนการดำเนินงานประจำปี ๒๕๖๕ ขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย จำนวน ๔,๑๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลงร้อยละ ๑๐.๙ หรือ ๕๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ จากงบประมาณที่ได้รับอนุมัติในปี ๒๕๖๔ โดยมีรายละเอียดค่าใช้จ่าย ดังนี้ (๑) ค่าใช้จ่ายที่ลดลง ได้แก่ เงินเดือนและสวัสดิการ และ (๒) ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ค่าใช้จ่ายสำหรับการบริการจัดเก็บเอกสารดิจิทัลโดยองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ขอใช้เงินจากการขายปิโตรเลียมส่วนที่เป็นกำไรในไตรมาสสุดท้ายของปี ๒๕๖๔ จำนวน ๓,๑๙๐,๗๒๕ ดอลลาร์สหรัฐ และงบประมาณเหลือจ่ายของปี ๒๕๖๓ จำนวน ๙๐๙,๒๗๕ ดอลลาร์สหรัฐ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่าการเสนองบประมาณและแผนการดำเนินงานประจำปี ๒๕๖๕ ขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ไม่เข้าข่ายลักษณะของกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการตามบทบัญญัติในมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ควรให้ความสำคัญในการควบคุม กำกับ ดูแล และดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมทั้งควรเร่งรัดการเสนองบประมาณและแผนการดำเนินงานประจำปีขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๓๖) ออกตามความในพระราชบัญญัติองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย พ.ศ. ๒๕๓๓ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7796 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการให้ได้ที่ดินเพิ่มเติมและการจ่ายเงินค่าทดแทนเพื่อชดเชยให้แก่ผู้ถูกเวนคืน พ.ศ. .... | คค. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการให้ได้ที่ดินเพิ่มเติมและการจ่ายเงินค่าทดแทนเพื่อชดเชยให้แก่ผู้ถูกเวนคืน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการให้ได้ที่ดินเพิ่มเติมและการจ่ายเงินค่าทดแทนเพื่อชดเชยให้แก่ผู้ถูกเวนคืน เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่เห็นว่าควรจะให้มีการเพิ่มเติมบทบัญญัติในร่างกรณีเจ้าของที่ดินแปลงอื่นที่ถูกเวนคืนไม่ตกลงในการซื้อขายว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไปด้วย ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยให้กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลักในการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรับรู้ความเข้าใจในกฎหมายให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไปอย่างทั่วถึง เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนและวิธีการต่าง ๆ ในการปฏิบัติตามร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้การจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อดำเนินโครงการของภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7797 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 13 กันยายน 2564) | ปสส. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๔ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๒๐ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพุธที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๔ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๒๑ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๔ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๗ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันศุกร์ที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๔ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7798 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนรายจ่ายค่าซื้อชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน (Antigen Test Kit)] | กค. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีรายจ่ายค่าซื้อชุดตรวจโควิด-๑๙ แบบเร่งด่วน (Antigen Test Kit) เพื่อใช้สำหรับพนักงานหรือลูกจ้าง สามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้นได้อีกเป็นจำนวนร้อยละ ๕๐ ของรายจ่ายที่จ่ายไป ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยกำหนดวันเริ่มต้นการดำเนินการตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนรายจ่ายค่าซื้อชุดตรวจโควิด-๑๙ แบบเร่งด่วน (Antigen Test Kit) ในเหตุผลประกอบร่างฯ และร่างพระราชกฤษฎีกา ตั้งแต่วันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรมีมาตรการสนับสนุนการจัดหาชุดตรวจโควิด-๑๙ แบบเร่งด่วน (Antigen Test Kit) ให้มีความครอบคลุมถึงผู้ประกอบการรายย่อยที่อยู่นอกระบบภาษี และผู้ประกอบการประเภทอื่นด้วย และสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าว ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7799 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 14/2564 | นร. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ ๑๔/๒๕๖๔ เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๔
ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) สรุปได้ดังนี้
๑) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ๒)
แนวทางการดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ชาวกัมพูชาในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว
และจังหวัดจันทบุรี ๓) การให้บริการวัคซีนโควิด-19 เช่น แผนการฉีดวัคซีนโควิด-19
สรุปผลการให้บริการวัคซีนโควิด-19 แนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ๔) การประเมินสถานการณ์และมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19
และ ๕) ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19
เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7800 | ขอความเห็นชอบปฏิญญาร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนาคตระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ (สหราชอาณาจักร) | พณ. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบปฏิญญาร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนาคตระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(อาเซียน) และสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ (สหราชอาณาจักร)
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายให้ความเห็นชอบร่างปฏิญญาร่วมดังกล่าว
โดยร่างปฏิญญาร่วมฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดทิศทางการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
การค้า และการลงทุนร่วมกัน ที่จะนำไปสู่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่น
และครอบคลุม สามารถฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-๑๙ ได้อย่างรวดเร็ว และยั่งยืน
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงคมนาคม โดยให้ปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนาคตระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(อาเซียน) และสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ (สหราชอาณาจักร)
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย |