ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 385 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 7681 - 7700 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
7681 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อนที่ต้านการกัดกร่อนได้ดีในบรรยากาศ ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อนที่ต้านการกัดกร่อนได้ดีในบรรยากาศ
ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. ... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขปรับปรุงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อนที่ต้านการกัดกร่อนได้ดีในบรรยากาศ
ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานอ้างอิง การพัฒนาเทคโนโลยี
การทำและการใช้ภายในประเทศ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7682 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลสระลงเรือ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ. .... | คค. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่ตำบลสระลงเรือ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการเป็นกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลสระลงเรือ
อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อขยายแผ่นดินหมายเลข ๓๓๔๒ สาย
อำเภออู่ทอง-บ่อพลอย ตอน วังขอน-บ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่าตามมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้ซึ่งอสังหาริมทรัพย์
พ.ศ. ๒๕๖๒ บัญญัติให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสำรวจเพื่อให้ทราบถึงอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องได้มาโดยแน่ชัดให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาการใช้บังคับพระราชกฤษฎีกา
หากเจ้าหน้าที่ดำเนินการไม่แล้วเสร็จและยังประสงค์จะทำการสำรวจเพื่อให้ทราบถึงอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องได้มาโดยแน่ชัดต่อไปให้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้มีการตราพระราชกฤษฎีกาฉบับใหม่ล่วงหน้าไม่น้อยกว่าภายใน
๖๐ วัน ก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานั้นจะสิ้นผลบังคับใช้ ไปถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดต่อไป
และรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าการดำเนินการก่อสร้างโครงการจำต้องโปร่งใส
ตรวจสอบได้ และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นสำคัญ และการก่อสร้างปรับปรุงขยายทางหลวงแผ่นดินดังกล่าวตัดผ่านพื้นที่ชุมชนหนาแน่น
ควรให้กรมทางหลวงพิจารณากำหนดมาตรการลดผลกระทบจากการดำเนินการโครงการอย่างเหมาะสม และกำชับให้กรมทางหลวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการตราร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนเพื่อก่อสร้างหรือขยายถนนอย่างเคร่งครัดต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7683 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 15/2564 | นร.04 | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.)
ครั้งที่ ๑๕/๒๕๖๔ เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๔ ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video
Conference) สรุปได้ดังนี้ ๑) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19
๒) การปรับรายละเอียดของโครงการ Factory Sandbox ระยะที่ ๒
๓) การแก้ไขผลกระทบที่เกิดจากการปฏิบัติตามคำสั่ง ศบค.ที่ ๑๒/๒๕๖๔
กรณีผู้เดินทางเข้าออกราชอาณาจักรทางน้ำเพื่อปฏิบัติภารกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจการปิโตรเลียม
๔) การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านระบบข้อมูลสารสนเทศและแอปพลิเคชันเพื่อรองรับการเดินทางเข้าประเทศและ
Sandbox ทั่วประเทศ หลังวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ๕) ให้คณะรัฐมนตรีเสนอพิจารณาขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร
(คราวที่ ๑๔) ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม จนถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ๖) แผนการให้บริการวัคซีนโควิด-19
ในเดือนตุลาคม-ธันวาคม ๒๕๖๔ และแผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ปี ๒๕๖๕ ๗)
การปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโควิด-19 ๘) การปรับมาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร
(การปรับลดระยะเวลาในการกักตัว การทำกิจกรรมในสถานที่กักกัน) และหลักเกณฑ์
แผนงานและแนวทางการเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว ๙)
การขยายระยะเวลาการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (STV) และ ๑๐) ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7684 | ร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนสำหรับการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สมัยที่ 15 | ทส. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนสำหรับการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
สมัยที่ ๑๕ (ASEAN Joint Statement to the Fifteenth Meeting of the Conference
of the Convention on Biological Diversity) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
เป็นผู้ให้การรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนฯ โดยสาระสำคัญของร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนฯ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ของประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมกับประชาคมโลกในการอนุรักษ์ธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ
โดยสนับสนุนการจัดทำกรอบงานความหลากหลายทางชีวภาพระดับโลกหลังปี ค.ศ. ๒๐๒๐
และการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายในปี ค.ศ. ๒๐๓๐
พร้อมทั้งส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ พฤติกรรม และการบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพให้ยั่งยืน
โดยมีประเด็นที่สำคัญได้แก่
สร้างความเข้มแข็งให้กับกิจกรรมที่สำคัญด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศ
ยกระดับกิจกรรม การจัดเตรียมทรัพยากรทางการเงิน
และการเสริมสร้างสมรรถนะการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เหมาะสม ปรับปรุงการสื่อสาร การศึกษา
เป็นต้น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนสำหรับการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
สมัยที่ ๑๕ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7685 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินงานโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและเพิ่มประสิทธิภาพ การจัดสินค้าเกษตรสู่ผู้บริโภค | อว. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินงานโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสินค้าเกษตรสู่ผู้บริโภค กรอบวงเงิน ๒๗๘,๙๒๘,๓๐๐ บาท เพื่อให้โครงการฯ สามารถดำเนินการได้ตามแผนงานที่กำหนดไว้ และสามารถบรรลุเป้าหมายในการเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับเกษตรกรในการขายผลผลิตให้กับผู้บริโภคโดยตรง และนำเสนอผลผลิตที่มีมาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมต่อผู้บริโภค และให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่เพื่อต่อยอดการดำเนินงานและลดความซ้ำซ้อนในกลุ่มเป้าหมายได้ ส่วนรายละเอียดงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และระเบียบการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7686 | การรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ครั้งที่ 15 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | ตช. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้สนับสนุนและร่วมรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุม
จำนวน ๓ ฉบับ ได้แก่ (๑) ร่างแถลงการณ์ร่วมจากการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ
ครั้งที่ ๑๕ (๒) ร่างแถลงการณ์อาเซียนว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติในช่วงหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
๒๐๑๙ และ (๓) ร่างเอกสารแนวคิดของไทย : แผนงานความร่วมมือด้านการบริหารจัดการชายแดนในกรอบอาเซียน
และอนุมัติให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม (พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล)
ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ
ครั้งที่ ๑๕ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง (15th ASEAN
Ministerial Meeting on Transnational Crime and Its Related Meetings : 15th AMMTC and Its Related Meetings) ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล
(Video Conference) ระหว่างวันที่ ๒๘-๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ เป็นผู้ร่วมรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์จากการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ
ครั้งที่ ๑๕ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมทั้ง ๓ ฉบับ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้
ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7687 | ขอความเห็นชอบการรับรองร่างเอกสาร Joint Statement of the Fifth ASEAN Plus Three Education Ministers Meeting และ Joint Statement of the Fifth East Asia Summit Education Ministers Meeting | ศธ. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบ
Joint Statement of the Fifth ASEAN Plus Three Education Ministers Meeting และ Joint Statement of the Fifth East Asia Summit Education
Ministers Meeting และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการหรือผู้แทนให้ความเห็นชอบและรับรองร่างเอกสารทั้ง
๒ ฉบับ ในการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาของอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ ๕ (the
Fifth ASEAN Plus Three Education Ministers Meeting) และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกด้านการศึกษา
ครั้งที่ ๕ (the Fifth East Asia Summit Education Ministers Meeting) โดยร่างเอกสารทั้ง ๒ ฉบับ
มีสาระสำคัญเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือแบบหุ้นส่วนในยุคที่โลกเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
การช่วยเหลือของประเทศสมาชิกบวกสามที่มีแก่ประเทศสมาชิกอาเซียน
ทั้งการแลกเปลี่ยนนักศึกษาที่มีการประกันคุณภาพ และการสนับสนุนทุนการศึกษา รวมทั้งเป็นการปรับเปลี่ยนระบบการศึกษาไปสู่ระบบดิจิทัล
โดยส่งเสริมทักษะความเข้าใจของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และทักษะในศตวรรษที่ ๒๑
ในหมู่เด็กและเยาวชน การจัดสรรทุนการศึกษา
และแสวงหาความร่วมมือในการทำกิจกรรมที่มุ่งเน้นการศึกษาตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงอุดมศึกษา
รวมทั้งการเทคนิคอาชีวศึกษา ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารทั้ง ๒ ฉบับ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7688 | การแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ 2) | นร.04 | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๕๔/๒๕๖๔
เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ ๒) โดยให้เพิ่มเติมข้อความ
ข้อ ๑.๑.๕ ของคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๓๘/๒๕๖๓ เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๑๓ สิงหาคม
๒๕๖๓ และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน “๑.๑.๕ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (เฉพาะ
กรมพัฒนาที่ดิน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร)” และให้ยกเลิกข้อความในข้อ ๔.๑.๒ ของคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๒๓๘/๒๕๖๓ เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๑๓ สิงหาคม
๒๕๖๓ และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน “๔.๑.๒ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ยกเว้น
กรมพัฒนาที่ดิน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร)” ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7689 | การขยายระยะเวลาการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist VISA (STV) | กก. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ รวม ๒ ฉบับ ได้แก่
ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ Special Tourist VISA (STV)
และ เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
เข้ามาท่องเที่ยวโดยเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) โดยการขยายระยะเวลาการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist VISA (STV) ไปอีก ๑ ปี
ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ จนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕
เพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ
และบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวได้บางส่วน ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและกระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในการอำนวยความสะดวกและกำกับดูแลนักท่องเที่ยว
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้ง
ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ประเมินผลกระทบจากการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษดังกล่าว
เพื่อนำไปสู่การกำหนดทิศทางและนโยบายการท่องเที่ยวในระยะต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7690 | การยกเลิกการกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี | นร.08 | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตามที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร
ตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๓ และขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นระยะต่อเนื่อง
โดยได้มีประกาศ เรื่อง
การกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมายอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ ๓)
ลงวันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔ กำหนดให้โอนบรรดาอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงตามกฎหมาย
หรือที่เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายหรือที่มีอยู่ตามกฎหมาย จำนวน ๓๑ ฉบับ
โอนมาเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราวเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการอนุญาต
อนุมัติ สั่งการ บังคับบัญชา หรือช่วยในการป้องกัน แก้ไข ปราบปราม
ระงับยับยั้งในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือฟื้นฟูหรือช่วยเหลือ ประชาชน นั้น
เพี่อให้ส่วนราชการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายที่ได้โอนเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว
สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามหน้าที่และอำนาจตามเช่นเดิม อันจะเป็นประโยชน์ในการเตรียมการให้สอดคล้องกับการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินในระยะต่อไป
จึงเห็นควรยกเลิกประกาศ เรี่อง
การกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี
(ฉบับที่ ๓) ลงวันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔
ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบตามที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ
และมอบหมายให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยศูนย์ปฏิบัติการ
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7691 | การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) เพื่อสนับสนุนการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 | รง. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7692 | ขออนุมัติกู้เงินเพื่อใช้ในการดำเนินงาน (เงินกู้เพื่อบรรเทาการขาดสภาพคล่อง) วงเงิน 13,500.000 ล้านบาท และวงเงินกู้ระยะสั้น จำนวน 800.000 ล้านบาท (วงเงินกู้เบิกเกินบัญชี) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ประจำปีงบประมาณ 2565 | คค. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกู้เงินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๓๙ (๔) โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน รวมทั้งพิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดตามความเหมาะสม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยจะดำเนินการกู้เงินได้ภายหลังจากวงเงินกู้ได้รับการบรรจุไว้ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕ ที่ผ่านความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว สำหรับการขอยกเว้นค่าธรรมเนียมการกู้เงิน ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับเงินกู้เพื่อบรรเทาการขาดสภาพคล่องในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ วงเงิน ๑๓,๕๐๐.๐๐๐ ล้านบาท และเงินกู้ระยะสั้น (วงเงินกู้เบิกเกินบัญชี) วงเงิน ๘๐๐.๐๐๐ ล้านบาท โดยให้ดำเนินการคัดเลือกสถาบันการเงินด้วยวิธีการขอเจรจาต่ออายุสัญญาเงินกู้ ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ที่ นร ๐๗๒๐/๑๔๒๒๕ ลงวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๔) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (หนังสือสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ นร ๑๑๒๔/๓๙๐๒ ลงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๔) ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7693 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 4/2564 | นร.04 | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
(กตน.) ครั้งที่ ๔/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๔ และมอบหมายให้ส่วนราชการรับประเด็นและมติของที่ประชุม
กตน. เพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยผลการประชุมฯ ประกอบด้วย
(๑) การบูรณาการมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านสวัสดิการสังคม (๒) การขับเคลื่อนแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ
เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (๓) แผนงานและผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการบูรณาการและประสานการเชื่อมโยงฐานข้อมูลสารสนเทศด้านการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
และ (๔) รายงานการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี และงบประมาณที่เกินกว่า ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7694 | ขอยกเลิกพื้นที่แหล่งหินอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และจัดตั้งโรงงานปูนซีเมนต์ในภาคใต้ | อก. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในการยกเลิกพื้นที่แหล่งหินอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และจัดตั้งโรงงานปูนซีเมนต์ในภาคใต้
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๓๘ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ และ ๑ บี
ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์
และอยู่ในเขตพื้นที่ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตอุทยานแห่งชาติขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้
จึงไม่สามารถประกาศเป็นเขตแหล่งแร่เพื่อการทำเหมืองแร่ได้ ตามพระราชบัญญัติแร่
พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๔. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ควรมีการตรากฎหมายเพื่อคุ้มครองพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เป็นการเฉพาะ รวมทั้งกำหนดคำนิยามแหล่งต้นน้ำหรือป่าน้ำซับซึมไว้ในกฎหมายให้ชัดเจน
เพื่อให้การคุ้มครองพื้นที่แหล่งต้นน้ำลำธารทั้งหมดของประเทศเป็นไปอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ในการกำหนดแนวทางการพัฒนาและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรรมชาติ
ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการ
เพื่อป้องกันมิให้เกิดกรณีพิพาท และความขัดแย้งรุนแรง
ตลอดจนสร้างความเป็นธรรมในการจัดสรรทรัพยากร เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7695 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) | กค. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19) (โรคโควิด ๑๙) โดยปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ
เช่น (๑) ปรับวัตถุประสงค์การกู้ให้ครอบคลุมถึงการลงทุน ขยาย และปรับปรุงกิจการ
เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจ (๒) ขยายระยะเวลากู้เงิน
จากเดิมไม่เกิน ๕ ปี เป็นไม่เกิน ๑๐ ปี (ปลอดชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน ๒ ปี) และ
(๓) ปรับเงื่อนไขการชดเชยของรัฐบาล
โดยรัฐบาลจะชดเชยความเสียหายที่เกิดจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing
Loans : NPLs) ร้อยละ ๑๐๐ สำหรับ NPLs ไม่เกินร้อยละ
๔๐
ของวงเงินสินเชื่อที่อนุมัติตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ ๑.๒ อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมจำนวนไม่เกิน
๑๓๕ ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พร้อมทั้งมอบหมายให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
(ธพว.) ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณเป็นรายปีตามความเหมาะสมและความจำเป็นต่อไป
เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดย่อมสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น
และแบ่งเบาภาระในการผ่อนชำระหนี้เพื่อประคับประคองและฟื้นฟูภาคธุรกิจให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้
รวมถึงช่วยให้สถาบันการเงินมีความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น
ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙ ที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ๒. ให้กระทรวงการคลัง
โดย ธพว. รับความเห็นของกระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น ควรดำเนินการตามนัยมาตรา
๒๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้ครบถ้วน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7696 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ค่าวัสดุอาหารไม่เพียงพอ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | ยธ. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าวัสดุอาหารไม่เพียงพอ
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ จำนวน ๓,๘๑๐,๖๘๖,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้กระทรวงยุติธรรม
(กรมราชทัณฑ์) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพลังงาน สำนักงานศาลยุติธรรม
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๑
(เรื่อง ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี
งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ชำระหนี้ค่าวัสดุอาหาร ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๐)
และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ (เรื่อง ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ชำระหนี้ค่าวัสดุสาธารณูปโภค
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐) ที่ให้ดำเนินการตามแนวทางต่าง
ๆ เพื่อลดภาระงบประมาณค่าวัสดุอาหารของเรือนจำ ทัณฑสถาน และสถานกักขังต่าง ๆ
ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้
ให้กระทรวงยุติธรรมติดตามและประเมินผลการดำเนินการดังกล่าว
และรายงานผลความก้าวหน้าให้คณะรัฐมนตรีทราบโดยด่วนต่อไป ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7697 | ร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชียเรื่องความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการเติบโตสีเขียว (Chair's Summary of Asia Green Growth Partnership Ministerial Meeting) | พน. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7698 | ขอความเห็นชอบในหลักการโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้บ่มอิสระที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบของการยาสูบแห่งประเทศไทย ฤดูการผลิต 2562/2563 และรายงานผลการดำเนินการของคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการส่งเสริมเกษตรกรให้เพาะปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนการปลูกยาสูบ | กค. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้บ่มอิสระที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบของการยาสูบแห่งประเทศไทย
ฤดูการผลิต ๒๕๖๒/๒๕๖๓ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบเนื่องจากขาดรายได้เพื่อใช้ในการดำรงชีวิต
และรับทราบรายงานผลการดำเนินการของคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการส่งเสริมเกษตรกรให้เพาะปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนการปลูกยาสูบ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง การยาสูบแห่งประเทศไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์
กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรเร่งดำเนินโครงการในส่วนของการเพาะปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนการปลูกยาสูบ
เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่ต่อเนื่องและดำรงชีพได้อย่างยั่งยืนต่อไป
และการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ควรพิจารณาให้เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
พ.ศ. ๒๕๖๒
สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการให้การยาสูบแห่งประเทสไทยจัดทำรายละเอียด
หลักเกณฑ์ และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือ
พร้อมทั้งตรวจสอบสิทธิของเกษตรกรผู้ปลูกต้นยาสูบที่จะได้รับความช่วยเหลือให้เกิดความโปร่งใส
ตรวจสอบได้
โดยปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อแก้ไขหรือเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายในบางกรณี
พ.ศ. ๒๕๕๙ ต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7699 | ขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสาร ASEAN Protocol for Preparedness and Response to a Nuclear or Radiological Emergency | อว. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างเอกสาร
ASEAN Protocol for Preparedness and Response to a
Nuclear or Radiological Emergency และมอบหมายให้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ แจ้งการเห็นชอบร่างเอกสาร ASEAN Protocol for Preparedness and Response to a Nuclear or
Radiological Emergency ของประเทศไทยต่อเครือข่าย โดยร่างเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารทางวิชาการสำหรับหน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีในภูมิภาคอาเซียนใช้เป็นคู่มือในการเตรียมการรับมือและตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์หรือเหตุฉุกเฉินทางรังสีได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสาร ASEAN Protocol for Preparedness and Response to a Nuclear or
Radiological Emergency
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7700 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภค ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | ยธ. | 28/09/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติให้กรมราชทัณฑ์ก่อหนี้ผู้กพันเกินกว่าที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๓ จำนวน ๓๗๐,๐๖๖,๒๐๐ บาท
และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภค
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จำนวน ๓๖๖,๘๖๕,๐๐๐ บาท ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|