ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 386 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 7701 - 7720 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
7701 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ของสำนักงานอัยการสูงสุด | อส. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ของสำนักงานอัยการสูงสุด วงเงิน ๑๑๙,๑๓๗,๘๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินงานสำหรับค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ
ส่วนค่าใช้จ่ายสำหรับค่าครุภัณฑ์โครงการจัดหาอุปกรณ์ดำเนินการทางอิเล็กทรอนิกส์
โครงการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบรักษาความปลอดภัยของระบบสารสนเทศ เพื่อรองรับการดำเนินการทางอิเล็กทรอนิกส์
และรายการรถยนต์หุ้มเกาะป้องกันกระสุน วงเงิน วงเงิน ๓๖๖,๒๓๐,๐๘๙ บาท ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี
โดยพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานหรือแผนการใช้จ่าย
และให้สำนักงานอัยการสูงสุดสอบถามความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาและคำนึงถึงความเท่าเทียมของค่าตอบแทนระหว่างข้าราชการทุกประเภทด้วย
ตามความเห็นและข้อสังเกตของสำนักงบประมาณ
และให้สำนักงานอัยการสูงสุดรับความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่เห็นควรให้ความสำคัญในการควบคุม
กำกับ ดูแลดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
และเร่งรัดการใช้จ่ายเงินให้ทันภายในปีงบประมาณเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7702 | แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2565 | กค. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติและรับทราบตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ
ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ ๔/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๔
ตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติแผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕
ที่ประกอบด้วย แผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงิน ๑,๓๔๔,๗๘๓.๘๔ ล้านบาท
แผนการบริหารหนี้เดิม วงเงิน ๑,๕๐๕,๓๖๙.๖๔ ล้านบาท และแผนการชำระหนี้ วงเงิน
๓๓๙,๒๙๑.๘๗ ล้านบาท ๑.๒ อนุมัติให้รัฐวิสาหกิจ จำนวน ๔ แห่ง
ได้แก่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย การเคหะแห่งชาติ
และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ที่มีสัดส่วน DSCR ต่ำกว่า ๑ สามารถกู้เงินและบริหารหนี้ภายใต้แผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕
โดยให้รัฐวิสาหกิจทั้ง ๔
แห่งดังกล่าวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะกรรมการฯ ไปดำเนินการด้วย ๑.๓ รับทราบแผนความต้องการเงินกู้ระยะปานกลาง
๕ ปี (ปีงบประมาณ ๒๕๖๕-๒๕๖๙) และมอบหมายให้กระทรวงเจ้าสังกัดประสานงานกับรัฐวิสาหกิจที่เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการในกลุ่มโครงการที่ยังขาดความพร้อมในการดำเนินการ
เพื่อเร่งรัดการดำเนินการและการลงทุนเพื่อเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในระยะต่อไป ๑.๔
อนุมัติการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่ การกู้มาและการนำไปให้กู้ต่อ
การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ
ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะฯ มาตรา ๗
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๗ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕ และมาตรา ๓
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔
รวมทั้งอนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเพื่อลงทุนในโครงการพัฒนา และการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้
ภายใต้กรอบวงเงินของแผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕
และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข
และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน การค้ำประกัน
และการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น ทั้งนี้
หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เอง
ก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ๒. ให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ
กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรติดตามและเร่งรัดหน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการและเบิกจ่ายเงินกู้ให้สอดคล้องและบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่กำหนดไว้
และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะแผนการกู้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
คุ้มค่า และเกิดประสิทธิผลต่อการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมอย่างแท้จริง
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓.
ให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7703 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | กค. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น ๑,๐๐๘ ล้านบาท ให้แก่กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดสรรสวัสดิการแบบไม่กำหนดระยะเวลาสำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแก่ผู้มีรายได้น้อยภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
(รอบใหม่) ตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมเสนอ ๒. ให้คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7704 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการและเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าปรับปรุงอาคารเรือนเจ้าจอมมารดาเลื่อนให้เป็นหอประวัติ ราชบัณฑิตยสภาและค่าควบคุมงานปรับปรุงอาคารฯ | นร. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานราชบัณฑิตยสภาเพิ่มวงเงินงบประมาณรายการค่าปรับปรุงอาคารเรือนเจ้าจอมมารดาเลื่อนให้เป็นหอประวัติราชบัณฑิตยสภา
ภายในกรอบวงเงิน ๔๙,๕๗๑,๙๐๐ บาท
โดยวงเงินค่าปรับปรุงอาคารที่เพิ่มขึ้น จำนวน ๒,๙๑๓,๐๐๐ บาท ดังกล่าว ให้สำนักงานราชบัณฑิตยสภาโอนเงินจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ แผนงานพื้นฐานด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
ผลผลิตการสร้างองค์ความรู้ในศาสตร์สาขาต่าง ๆ และกำหนดมาตรฐานการใช้ภาษา
งบรายจ่ายอื่น รายการค่าใช้จ่ายโครงการ รู้ รัก ภาษาไทย ไปสมทบให้ครบค่างาน
สำหรับค่าควบคุมงานปรับปรุงอาคารเรือนเจ้าจอมมารดาเลื่อนให้เป็นหอประวัติราชบัณฑิตยสภา
ขอให้สำนักงานราชบัณฑิตยสภาจัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่สอดคล้องกับระยะเวลาการปฏิบัติงานที่ชัดเจนและเหมาะสม
เพื่อให้สำนักงบประมาณพิจารณาให้ความเห็นชอบความเหมาะสมของราคาค่าควบคุมงานดังกล่าว
ก่อนเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7705 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงศึกษาธิการและวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐฟินแลนด์ | ศธ. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงศึกษาธิการและวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐฟินแลนด์
(Memorandum of Understanding on Cooperation in the Field of Education between the Ministry of Education of the Kingdom of Thailand
and the Ministry of Education and Culture of the Republic
of Finland) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ
โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือด้านการศึกษาเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ
โดยมีรูปแบบความร่วมมือที่หลากหลาย อาทิ
การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการออกแบบและพัฒนาหลักสูตรการศึกษา ระบบการประเมินผล
และงานวิจัยทางการศึกษา
การส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือเพื่อพัฒนาการศึกษาในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานตั้งแต่ระดับปฐมวัย
ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา รวมถึงการอาชีวศึกษา การศึกษานอกระบบ
การศึกษาตามอัธยาศัย และการศึกษาตลอดชีวิต ตลอดจนความร่วมมือในการฝึกอบรมครูและบุคลากรทางการศึกษา
เป็นต้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงศึกษาธิการและวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐฟินแลนด์
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7706 | ขอความเห็นชอบกรอบวงเงินกู้เงินระยะสั้น (Credit Line) ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค | มท. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติกรอบวงเงินกู้ระยะสั้น (Credit Line) ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
(กฟภ.) จำนวน ๕,๐๐๐ ล้านบาท เป็นระยะเวลา ๓ ปี
เพื่อให้ กฟภ. สามารถบริหารสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมหากมีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม
ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงมหาดไทย โดย กฟภ.
รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรพิจารณาดำเนินการกู้เงินให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบหลักเกณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งดำเนินการให้สอดคล้องกับมาตรา ๔๙
แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย
โดย กฟภ.
เร่งประสานและเร่งรัดให้ส่วนราชการที่ค้างชำระค่าไฟฟ้าให้ดำเนินการชำระค่าไฟฟ้าให้กับ
กฟภ. โดยเร็ว รวมทั้งให้ กฟภ.
จัดเตรียมแผน/มาตรการรองรับในกรณีที่ยังไม่สามารถติดตามหนี้ค่าไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วและครบถ้วน
เพื่อลดผลกระทบทางการเงินและปัญหาสภาพคล่องที่อาจเกิดขึ้นด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7707 | การพิจารณารับรองร่างปฏิญญาของกลุ่ม 77 และจีน (Ministerial Declaration of the Group of 77 and China to UNCTAD XV: From inequality and vulnerability to prosperity for all) และร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุม UNCTAD XV (The Bridgetown Covenant: From inequality and vulnerability to prosperity for all) | กต. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างปฏิญญาของกลุ่ม ๗๗ และจีน (Ministerial Declaration of the Group of 77 and China to
UNCTAD XV : From inequality and vulnerability to
prosperity for all) และร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุม UNCTAD
XV (The Bridgetown Covenant : From
inequality and vulnerability to prosperity for all) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายรับรองร่างเอกสารทั้ง
๒ ฉบับ โดยร่างปฏิญญาของกลุ่ม ๗๗ และจีน (Ministerial Declaration of the Group of 77 and China to
UNCTAD XV : From inequality and vulnerability to
prosperity for all) เป็นเอกสารท่าทีที่แสดงความมุ่งมั่นของกลุ่ม
๗๗ และจีนต่อบทบาทและภารกิจของ UNCTAD ตลอดจนผลการประชุม UNCTAD XV ที่จะมีการรับรองในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ผ่านระบบการประชุมทางไกล และร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุม UNCTAD XV (The Bridgetown Covenant : From inequality and vulnerability to prosperity for all) ที่จะมีการรับรองระหว่างวันที่ ๕-๗ ตุลาคม ๒๕๖๔ โดยร่างเอกสารดังกล่าวมีสาระสำคัญ เช่น ผลบกระทบโควิด-๑๙
ต่อการค้าและการพัฒนา การท้าทายระดับโลก การส่งเสริมความเข้มแข็ง (resilience) ความทั่วถึง
และความยั่งยืน การพัฒนาบทบาทของ UNCTAD ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาของกลุ่ม
๗๗ และจีน (Ministerial Declaration of the Group of 77 and
China to UNCTAD XV : From inequality and vulnerability to
prosperity for all) และร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุม UNCTAD
XV (The Bridgetown Covenant : From
inequality and vulnerability to prosperity for all)
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7708 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์) | นร.10 | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายปิยวัฒน์
ศิวรักษ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการ ก.พ. สำนักงาน ก.พ. ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ. สำนักงาน ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ
ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม
๒๕๖๔ เป็นต้นไป ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7709 | รายงานผลการเจรจาการบินระหว่างไทย - คาซัคสถาน | คค. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-คาซัคสถาน
และเห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตของฝ่ายไทย
โดยมอบให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตยืนยันการมีผลใช้บังคับของบันทึกความเข้าใจดังกล่าวต่อไป
โดยผลการเจรจาการบินระหว่างไทย-คาซัคสถาน มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงภาคผนวกของความตกว่าด้วยบริการเดินอากาศระหว่างไทยกับคาซัคสถาน
(ฉบับลงนามเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๓๙) และสิทธิการบินในประเด็นต่าง ๆ เช่น (๑)
ปรับปรุงใบพิกัดเส้นทางการบินโดยเพิ่มจุดในแต่ละประเทศเพิ่มอีก ๒ จุด (๒) ให้สิทธิการบินโดยใช้ชื่อเที่ยวบินร่วมกัน
(Code Share) กับสายการบินของประเทศที่สามได้
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้กระทรวงการต่างประเทศปรับปรุงชื่อเมืองของสาธารณรัฐคาซัคสถานในร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตของฝ่ายไทยให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริง
จาก กรุงอัสตานา (Astana) เป็น กรุงนูร์-ซูลตัน (Nur-Sultan) ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตของฝ่ายไทย
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7710 | การขอความเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 26 | พม. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ครั้งที่ ๒๖ [Joint Statement of the
Twenty-Fifth ASEAN Socio-Cultural
Community (ASCC) Council] และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นของมนุษย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ครั้งที่ ๒๖ (26th ASEAN Socio-Cultural Community (ASCC) Council
Meeting) ร่วมรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ในวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๔
ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video conference) โดยร่างถ้อยแถลงร่วมฯ
มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการชื่นชมความพยายามความก้าวหน้าของภูมิภาคในการบรรลุ ๓
แผนงานหลักของการเป็นประธานอาเซียนของประเทศบรูไนดารุสซาลาม ได้แก่
การเป็นประชาคมที่ห่วงใย เตรียมพร้อม และก้าวหน้า
โดยเฉพาะบริบทของความท้าทายที่เกิดจากสถานการณ์โควิด ๑๙
รวมถึงการรับรองในหลักการต่อเอกสารผลลัพธ์ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๘
การประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ครั้งที่ ๒๖
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7711 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์) | ดศ. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ)
กลุ่มที่ปรึกษา สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7712 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายสุวิช ธรรมปาโล) | สธ. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสุวิช ธรรมปาโล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ
(ด้านเวชกรรมป้องกัน) กรมควบคุมโรค ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรมป้องกัน) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7713 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญใสห้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุมิ (นายทวี แสงสุวรรณโณ) | คค. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายทวี แสงสุวรรณโณ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา
(ด้านสำรวจและออกแบบ) (วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ) กรมทางหลวงชนบท ให้ดำรงตำแหน่งวิศวกรใหญ่ที่ปรึกษาวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา
(ด้านสำรวจและออกแบบ) (วิศวกรโยธาทรงคุณวุฒิ) กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม ตั้งแต่วันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7714 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับอัตราภาษีที่ใช้ในการจัดเก็บอัตราภาษียาสูบประเภทบุหรี่ซิกาแรตและยาเส้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังพิจารณาทบทวนโครงสร้างและอัตราภาษียาสูบทั้งในระยะปานกลางและระยะยาวเพื่อนำไปสู่โครงสร้างแบบอัตราเดียวในอนาคตที่เหมาะสม
เป็นธรรม และคำนึงถึงการแข่งขันในตลาด รวมทั้งการดูแลสุขภาพของประชาชน
ตลอดจนกำหนดมาตรการควบคุมการลักลอบนำเข้าบุหรี่โดยผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย ๓.
ให้การยาสูบแห่งประเทศไทยรับผิดชอบดูแลเกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบ
ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
เพื่อให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบเปลี่ยนมาปลูกพืชทดแทนเพื่อลดพื้นที่การเพาะปลูกยาสูบ ๔. ให้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพมีบทบาทมากขึ้นในการสร้างองค์ความรู้
หรือสนับสนุนทางวิชาการให้กับเกษตรกรในการปลูกพืชทดแทนเพื่อลดพื้นที่การเพาะปลูกยาสูบ ๕.
ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวรวมถึงสถานการณ์
ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับ ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
ตลอดจนการกำหนดมาตรการในการช่วยเหลือการปรับเปลี่ยนอาชีพทางเลือกหรือปลูกพืชทดแทนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๖.
ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7715 | การอนุมัติองค์ประกอบคณะกรรมการฝ่ายไทยในคณะกรรมการบริหารมูลนิธิการศึกษาไทย - อเมริกัน (ฟุลไบรท์) ประจำปี 2564 - 2565 (1. นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี) | กต. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติองค์ประกอบคณะกรรมการฝ่ายไทยในคณะกรรมการบริหารมูลนิธิการศึกษาไทย-อเมริกัน
(ฟุลไบรท์) ประจำปี ๒๕๖๔-๒๕๖๕ จำนวน ๗ คน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ประธานกรรมการ (ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ) ๒. อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้
หรือผู้แทน กรรมการ ๓.
อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ หรือผู้แทน กรรมการ ๔.
ผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการ ๕.
ผู้แทนกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรรมการ ๖. นายพรวิทย์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการ [รองอธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และที่ปรึกษาบริษัท ชีพีออลล์ จำกัด (มหาชน)] ๗. นายกสมาคมฟุลไบรท์ไทย กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7716 | การให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ (นายเหรียญชัย ลิขิตพฤกษ์) | นร.04 | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ นายเหรียญชัย ลิขิตพฤกษ์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๖๔ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7717 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (1. นายดนุชา พิชยนันท์ จำนวนรวม 20 คน) | อว. | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ รวม ๒๐ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่
๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๔ เป็นต้นไป และให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงาน
ก.พ.ร. โดยพิจารณานำหลักเกณฑ์การสรรหาประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการองค์การมหาชน
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ไปปรับใช้ต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ดังนี้ ๑. ผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ๑.๑ นายดนุชา พิชยนันท์ ๑.๒ นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ ๑.๓ นายอนันต์ แก้วกำเนิด ๑.๔ นายวันชัย พนมชัย ๑.๕ ศาสตราจารย์บรรจง มไหสวริยะ ๑.๖ รองศาสตราจารย์สมหมาย ผิวสะอาด ๑.๗ ศาสตราจารย์ปิยะมิตร ศรีธรา ๑.๘ นายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ ๑.๙ ศาสตราจารย์ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช ๑.๑๐ ศาสตราจารย์ศุภชัย ปทุมนากุล ๒. ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมิใช่ข้าราชการ ๒.๑ นายสุพันธุ์
มงคลสุธี ๒.๒ นายกลินท์ สารสิน ๒.๓ รองศาสตราจารย์สุธรรม อยู่ในธรรม ๒.๔ นายสุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ ๒.๕ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ๒.๖ ศาสตราจารย์สมคิด เลิศไพฑูรย์ ๒.๗ นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ๒.๘ รองศาสตราจารย์วีระพงษ์ แพสุวรรณ ๒.๙ นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส ๒.๑๐ นายทศพร ศิริสัมพันธ์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7718 | การขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร | นร.08 | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร
ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ จนถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ๒. เห็นชอบและรับทราบร่างประกาศ ดังนี้ ๒.๑ เห็นชอบร่างประกาศ เรื่อง
การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่
๑๔) และร่างประกาศ เรื่อง การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ ๒.๒ รับทราบร่างประกาศ เรื่อง
การให้ข้อกำหนด ประกาศ
และคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ รวม
๓ ฉบับ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓.
ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7719 | ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... | นร.05 | 28/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นว่า ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ส่งร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๘๓ และมาตรา ๙๑) ซึ่งได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาเมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๔ ตามมาตรา ๒๕๖ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาเพื่อนายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อพระมหากษัตริย์ลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมาย ตามความในมาตรา ๘๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต่อไปแล้ว เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๔ นั้น เพื่อให้การบังคับใช้ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ จึงมีมติมอบหมายให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าว แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7720 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสสอง ปี 2564 | นร.11 สศช | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะสังคมไทยไตรมาสสอง ปี ๒๕๖๔
ซึ่งมีสาระสำคัญประกอบด้วย (๑) ความเคลื่อนไหวทางสังคมไตรมาสสอง ปี ๒๕๖๔ เช่น การจ้างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ
๒.๐ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และหนี้สินครัวเรือนมีมูลค่า ๑๔.๑๓ ล้านล้านบาท
เพิ่มขึ้นร้อยละ ๔.๖ จากร้อยละ ๔.๑ ในไตรมาสก่อน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ ๙๐.๕ ต่อ GDP (๒) การพัฒนาคนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
Education Technology : เครื่องมือสำคัญในการเปิดกว้างทางการศึกษาและบทบาทสื่อกับบริบทสังคมไทย
และ (๓) บทความเรื่อง “ประเทศไทยกับความพร้อมของรูปแบบการทำงานที่บ้าน”
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|