ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 364 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 7261 - 7280 จากข้อมูลทั้งหมด 123986 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
7261 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหลังวิกฤต COVID-19 ของคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา | สว. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหลังวิกฤต COVID-19
ของคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา
ซึ่งวุฒิสภามีมติเห็นด้วยกับรายงานพร้อมทั้งข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าว
โดยมีข้อเสนอแนะ ดังนี้ (๑) เชิงนโยบาย
ควรกำหนดให้การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเป็นวาระแห่งชาติ
ที่สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศโดยรวม
โดยยึดหลักการพัฒนาแบบบูรณาการองค์ประกอบที่สำคัญของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพไปพร้อม
ๆ กัน อย่างเป็นระบบควรมีการจัดตั้งหน่วยงานของภาครัฐที่เป็นเจ้าภาพหลักหรือควรมีหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมาเป็นพิเศษเฉพาะในการบูรณาการเชิงนโยบายและเชิงกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
Thailand Medical Hub ในภาพรวมของประเทศ
ควรกำหนดมาตรการการดำเนินงานตามนโยบายที่มีผลบังคับตามกฎหมาย เพื่อดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีคุณภาพให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
และพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพให้ได้มาตรฐานสากล เป็นต้น (๒) การพัฒนา
ควรส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการเร่งพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยให้ได้มาตรฐานในทุกองค์ประกอบ
ควรจัดทำฐานข้อมูลด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับแนวโน้มพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติมีรูปแบบและช่องทางการนำเสนอที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย
และมีการนำเข้าข้อมูลเป็นภาษาต่างประเทศหลากหลายภาษา และควรสนับสนุนให้ภาคเอกชนร่วมมือกันจัดทำฐานข้อมูลออนไลน์สาธารณะด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยที่มีความเฉพาะเจาะจงมีรูปแบบที่ง่ายต่อการสืบค้น
และเชื่อมโยงระบบบริการด้านการท่องเที่ยวทั้งหมดให้อยู่ในเว็บไซต์เดียว
ควรมีการประชาสัมพันธ์แผนการท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นที่นิยมและเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยแบบครบวงจร
ซึ่งวุฒิสภามีมติเห็นด้วยกับรายงานพร้อมทั้งข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าว
ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7262 | กรอบแนวทางการทบทวนกฎกระทรวง | นร.09 | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบกรอบแนวทางการทบทวนกฎกระทรวง
รวมทั้งแบบรายงานผลการทบทวนกฎกระทรวงท้ายกรอบแนวทางดังกล่าว
โดยกรอบแนวทางการทบทวนกฎระทรวง มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ (๑)
กำหนดขอบเขตกฎกระทรวงให้ใช้กับกฎกระทรวงทุกฉบับ รวมถึงระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ
หรือคำสั่ง ที่กำหนดให้ประชาชนต้องดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดในการติดต่อกับหน่วยงานของรัฐ
(๒) กำหนดเกณฑ์ทางเนื้อหาให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐจัดทำรายงานการทบทวนฯ เช่น
ภาระที่ประชาชนจำต้องดำเนินการในการติดต่อกับหน่วยงานของรัฐ
ขั้นตอนและระยะเวลาดำเนินการ อายุใบอนุญาตและวิธีการต่ออายุใบอนุญาต ข้อเสนอยกเลิก
แก้ไข หรือปรับปรุงกฎกระทรวง และ (๓)
กำหนดแบบรายงานผลการทบทวนกฎกระทรวงแนบท้ายกรอบแนวทางฯ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7263 | ความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ เดือนตุลาคม 2564 | นร.11 สศช | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ
เดือนตุลาคม ๒๕๖๔ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเสนอ
โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่ ๑)
ความก้าวหน้ายุทธศาสตร์ชาติและการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ๒)
ความก้าวหน้าแผนการปฏิรูปประเทศ ๓) ผลการดำเนินการอื่น ๆ ๔)
ประเด็นที่ควรเร่งรัดเพื่อการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ และ ๕)
ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7264 | เป้าหมายของนโยบายการเงิน ประจำปี 2565 | กค. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป้าหมายของนโยบายการประเงิน
ประจำปี ๒๕๖๕ พร้อมข้อตกลงร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในการกำหนดเป้าหมายของนโยบายการเงินสำหรับระยะปานกลาง
และเป้าหมายสำหรับปี ๒๕๖๕
ซึ่งกำหนดเป้าหมายของนโยบายการเงินไว้ที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงร้อยละ ๑-๓
และเมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้วจะได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและคณะกรรมการนโยบายการเงินรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า
หากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเคลื่อนไหวอยู่นอกกรอบเป้าหมาย
ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นสำหรับการบริโภคและการลงทุน
เห็นควรให้คณะกรรมการนโยบายการเงินเร่งพิจารณาหาแนวทางแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวและรายงานผลการดำเนินการต่อคณะรัฐนตรี
รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้กับสาธารณชนถึงแนวทางในการแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่อไป
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
การดำเนินนโยบายการเงินในปี ๒๕๖๕
จำเป็นจะต้องมีความยืดหยุ่นในการดำเนินนโยบายอย่างเหมาะสม
เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ
รวมทั้งการใช้เครื่องมือและมาตรการทางการเงินเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ยังมีข้อจำกัดในการฟื้นตัว
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7265 | รายงานผลการให้บริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2563 และประจำงวดครึ่งปีงบประมาณ 2564 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และรายงานผลการให้บริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2563 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย | กค. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการให้บริการสาธารณะ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๓ และประจำงวดครึ่งปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และรายงานผลการให้บริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๓
ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ในคราวประชุมคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ
ครั้งที่ ๓/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๔
ที่ประชุมได้มีมติรับทราบและมีข้อสังเกตเกี่ยวกับรายงานผลการให้บริการสาธารณะดังกล่าว
โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่ ๑) บันทึกข้อตกลงการให้บริการสาธารณะขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพและการรถไฟแห่งประเทศไทย
และ ๒) รายงานผลฯ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพและการรถไฟแห่งประเทศไทย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7266 | แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ไปสู่เมืองต้นแบบที่ 4 อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา “เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” | นร.04 | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบ
“สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ไปสู่เมืองต้นแบบที่ ๔ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
“เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยนายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๓๓๐/๒๕๖๔ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมฯ ลงวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๔ ซึ่งเป็นการแก้ไขคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๒๐/๒๕๖๔ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการฯ ลงวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๔ โดยได้ยกเลิกความในข้อ
๑.๑ [รัฐมนตรีช่วยการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า) ประธานกรรมการ] และข้อ ๑.๒ [รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน
(ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์) รองประธานกรรมการ] ของคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๒๐/๓๕๖๔ ดังกล่าว และให้ใช้ข้อความ “๑.๑ รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธานกรรมการ”
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีบัญชามอบหมาย รองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์)
เป็นประธานกรรมการแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7267 | การจัดทำโครงการบ้านพักข้าราชการ (บ้านหลวง) ของกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัย ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) | พม. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
โดยเห็นชอบในหลักการโครงการบ้านพักข้าราชการ (บ้านหลวง)
ซึ่งดำเนินการโดยกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน ๑๙ โครงการ ๒๖๓ หน่วย ภายในวงเงิน
๒๑๑,๗๐๔,๒๔๖ บาท ภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัย ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ -
๒๕๗๙)
โดยเห็นควรให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการโครงการดังกล่าวให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงและเป็นธรรม
พร้อมจัดทำรายละเอียด แบบรูปรายการ ประมาณการค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันในแต่ละระดับ
โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและประหยัด เป้าหมาย ประโยชน์ที่จะได้รับ
และผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ
รวมทั้งจัดลำดับความสำคัญของโครงการ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม
ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (การเคหะแห่งชาติ)
และกระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ดังนี้ ๑) กระทรวงการคลังที่เห็นว่า
กระทรวงศึกษาธิการควรให้ความสำคัญในการควบคุม กำกับ ดูแล
และดำเนินโครงการดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๒) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นว่า หากโครงการดังกล่าวมีลักษณะการจัดสรรที่ดินเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยหรือเพื่อประกอบการพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดินที่มีจำนวนที่ดินแปลงย่อยตั้งแต่
๕๐๐ แปลงขึ้นไปหรือมีเนื้อที่เกินกว่า ๑๐๐ ไร่ จะเข้าข่ายโครงการกิจการหรือการดำเนินการ
ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่อง กำหนดโครงการกิจการหรือการดำเนินการ ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๒ เอกสารท้ายประกาศ ๔ ลำดับที่ ๒๘
โดยให้เสนอรายงานในขั้นตอนตามข้อ ๑๐ (๑)
กรณีเป็นโครงการกิจการหรือการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐหรือของหน่วยงานของรัฐดำเนินการร่วมกับเอกชน
และต้องขอรับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีตามระเบียบปฏิบัติของทางราชการ ให้หน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการกิจการหรือการดำเนินการนั้นเสนอรายงานในขั้นก่อนขอรับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ๓) กระทรวงมหาดไทยที่เห็นว่า การดำเนินโครงการให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง |
||||||||||||||||||||||||||||||
7268 | รายงานประจำปี พ.ศ. 2563 ของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี
พ.ศ. ๒๕๖๓ ของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามที่คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอ
ทั้งนี้ รายงานประจำปีฯ ได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๔ ด้วยแล้ว
โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่ ๑) การทบทวนและจัดทำ (ร่าง)
แผนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕ และ
(ร่าง) แผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕ ๒)
การกำหนดสัดส่วนรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อรายได้สุทธิของรัฐบาล
และการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๔ และ ๓) การจัดทำร่างกฎหมายที่แก้ไขให้เป็นไปตามแผนการกระจายอำนาจฯ
และแผนปฏิบัติการฯ
รวมทั้งการวินิจฉัยกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7269 | แนวทางปฏิบัติสำหรับการนำข้อตกลงคุณธรรมมาใช้กับโครงการที่ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โดยอนุโลม | กค. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบแนวทางปฏิบัติสำหรับการนำข้อตกลงคุณธรรมมาใช้กับโครงการที่ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยอนุโลม เช่น ขอบเขตการดำเนินการ คุณสมบัติของผู้สังเกตการณ์
และค่าตอบแทนของผู้สังเกตการณ์ และเห็นชอบมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจดำเนินการทำความตกลงกับกระทรวงการคลังเพื่อกำหนดค่าตอบแทนของผู้สังเกตการณ์และให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนเสนอ ๒. ให้คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นว่า สำหรับค่าตอบแทนการดำเนินงานของผู้สังเกตการณ์
เห็นควรให้ทำความตกลงกับกระทรวงการคลังเพี่อกำหนดค่าตอบแทนที่มีความเหมาะสมตามอัตราที่กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนดเพื่อให้หน่วยงานเจ้าของโครงการสามารถดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจพิจารณาความเหมาะสมของการนำข้อตกลงคุณธรรมมาใช้ในขั้นตอนการแก้ไขสัญญาโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
โดยเฉพาะกรณีที่เป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่
เพื่อช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าการดำเนินโครงการร่วมลงทุนของภาครัฐเป็นไปอย่างโปร่งใส
ตรวจสอบได้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
7270 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 17/2564 | นร.11 สศช | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
7271 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 20/2564 | นร. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ ๒๐/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๔ ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑)
รายงานสถานการณ์และคาดการณ์แนวโน้มการแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ ๒) รายงานผลการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19
ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ๓) แผนการให้บริการวัคซีน ปี ๒๕๖๕ ๔) การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร
และมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ในการจัดงานช่วงเทศกาลปีใหม่
และการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี และ ๕)
การปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7272 | หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ การจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ และมอบหมายผู้มีอำนาจกำกับแผนงานบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | นร.07 | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ
และอนุมัติแผนงานบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ รวมทั้งมอบหมายผู้มีอำนาจกำกับแผนงานบูรณาการ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
และให้สำนักงบประมาณได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7273 | หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (ฉบับที่ 3) | สธ. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (ฉบับที่
๓) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า
กระทรวงสาธารณสุขจะต้องสร้างความรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดำเนินการแก่ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต
และประโยชน์ที่ผู้ป่วยจะได้รับเป็นสำคัญ ตลอดจนแนวทาง หลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ทุกภาคส่วนจะต้องนำไปปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
รวมทั้งกำกับ ติดตาม และตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพตามหลักเกณฑ์
วิธีการ เงื่อนไข และอัตราที่กำหนด และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่เห็นว่า
ควรมีการประเมินและคาดการณ์ค่าใช้จ่ายรวมถึงผลกระทบต่อการจัดสรรงบประมาณที่จะเกิดขึ้นอย่างละเอียดรอบคอบ
เพื่อให้การบริหารจัดการระบบการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7274 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการส่งเสริมความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทาน | กต. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการส่งเสริมความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทาน
(Memorandum of Understanding Between the Government of the Kingdom
of Thailand and the Government of the United States of America on Promoting
Supply Chain Resilience) เพื่อให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ร่วมลงนามได้ในวันที่ ๑๖
ธันวาคม ๒๕๖๔
และกระทรวงการต่างประเทศสามารถเผยแพร่เอกสารดังกล่าวต่อสาธารณชนภายหลังเสร็จสิ้นการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ
โดยบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือซึ่งมีขอบเขตสำคัญ
อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านตลาดและความเปราะบางเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทาน
พร้อมทั้งโอกาสในการขยายความร่วมมือด้านการพัฒนากฎหมาย นโยบาย มาตรฐาน
และมาตรการต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่อุปทาน
การหารือเพื่อแสวงหาโอกาสขยายความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและรับมือกับปัญหาที่อาจทำให้เกิดการหยุดชะงักของการผลิต
การค้า และการขนส่ง
รวมทั้งแนวทางในการแก้ไขปัญหา และการสนับสนุนบทบาทของภาคเอกชน โดยบันทึกความเข้าใจฯ
มีอายุ ๕ ปี และสามารถพิจารณาต่ออายุได้โดยการเห็นชอบเป็นลายลักษณ์อักษรโดยทั้งสองฝ่าย
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ทั้งนี้
ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
การดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามความร่วมมือภายใต้ร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ควรพิจารณาให้รอบด้าน โดยต้องไม่ขัดหรือแย้งต่อข้อกฎหมายและพันธกรณีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7275 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2564) | ปสส. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๔
ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา ได้แก่
ร่างพระราชบัญญัติเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ....
พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๑๖
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๔
พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๑๗
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๔
และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๑๘
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ วันศุกร์ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๔
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7276 | ผลการพิจารณารายงานสรุปผลการรายงานการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปี 2562 ของคณะกรรมาธิการการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ วุฒิสภา | สว. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานสรุปผลการรายงานการติดตาม
เสนอแนะ และเร่งรัดการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปี ๒๕๖๒
ของคณะกรรมาธิการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ
และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ วุฒิสภา ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยปัจจุบันการดำเนินการของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการติดตามผลการดำเนินโครงการของหน่วยงานภาครัฐในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ
(eMENSCR) เป็นไปในทิศทางเดียวกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ แล้ว เช่น
โครงการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม (เน็ตประชารัฐ)
โดยครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
การยกระดับทักษะมาตรฐานด้านการผลิตหรือบริการของบุคลากรและผู้ประกอบการ
การส่งเสริมการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่ระดับชุมชนไปสู่ระดับประเทศ
และการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
เป็นต้น ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7277 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช | กษ. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า
สำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการดำเนินการตามร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว
เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้ว
หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานหรือแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หรือโอนเงินจัดสรร
หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒
หรือใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ แล้วแต่กรณี เป็นลำดับแรก
หรือจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7278 | ร่างบันทึกการประชุม (Record of Discussion) ของการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 11 | กต. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างบันทึกการประชุม (Record of Discussion) ของการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี
(Joint Commission for Bilateral Cooperation : JC) ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ ๑๑ ณ กรุงพนมเปญ กัมพูชา ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๘
ธันวาคม ๒๕๖๔ ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศเป็นประธานร่วม
ให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศร่วมรับรองร่างบันทึกการประชุมฯ
ในวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๔ โดยวัตถุประสงค์ของร่างบันทึกการประชุมฯ
เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมของรัฐบาลทั้งสองประเทศที่จะส่งเสริมความร่วมมืออย่างรอบด้านทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี
โดยเฉพาะเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙)
รวมทั้งการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา
ในฐานะ “หุ้นส่วนเพื่อสันติภาพและความเจริญ รุ่งเรือง”
ให้มีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและก่อประโยชน์แก่ประชาชนของทั้งสองฝ่าย
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกการประชุมฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7279 | สรุปผลการพิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง การบูรณาการอุตสาหกรรมการบินกับภาคเศรษฐกิจของชาติ ส่วนเศรษฐกิจการบินสำหรับการแพทย์และดูแลสุขภาพ (Aviation Economy for Medical Care) ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา | สว. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการพิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษา
เรื่อง การบูรณาการอุตสาหกรรมการบินกับภาคเศรษฐกิจของชาติ
ส่วนเศรษฐกิจการบินสำหรับการแพทย์และดูแลสุขภาพ (Aviation
Economy for Medical Care) ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา
ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณารายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ
แล้ว สรุปได้ว่า
การใช้หลักสมดุลด้านสุขภาพควบคู่กับด้านเศรษฐกิจในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการเดินทางนั้น
จำเป็นต้องให้กระทรวงสาธารณสุขประเมินและให้ข้อแนะนำเพื่อความปลอดภัยต่อผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน
ชุมชน สังคมไทยในแต่ละกรณีและแต่ละช่วงเวลาในแต่ละสถานการณ์
โดยในการฟื้นฟูจะต้องปฏิบัติตามข้อแนะนำอย่างเคร่งครัดและต้องมีความปลอดภัยต่อสุขภาพประชาชนควบคู่ด้านเศรษฐกิจ
สำหรับการจัดสรรเวลาการบิน
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการจัดสรรเวลาการบินตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในระเบียบสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการจัดสรรเวลาการเข้าออกสนามบินของอากาศยาน
พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งสอดคล้องกับหลักเกณฑ์การจัดสรรเวลาการบินสากล นอกจากนี้
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้มีการทำความร่วมมือกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยต่อผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตในการรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต
ณ ที่ขึ้นลงนอกเขตสนามบินด้วยเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งปฏิบัติการบินภายใต้ความปลอดภัย
มีมาตรฐานบุคลากร
และมาตรฐานอุปกรณ์ทางการแพทย์ตามมาตรฐานการให้บริการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7280 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชุมพร เขตเลือกตั้งที่ 1 และจังหวัดสงขลา เขตเลือกตั้งที่ 6 แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. .... | ลต. | 14/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชุมพร
เขตเลือกตั้งที่ ๑ และจังหวัดสงขลา เขตเลือกตั้งที่ ๖ แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชุมพร
เขตเลือกตั้งที่ ๑ และจังหวัดสงขลา เขตเลือกตั้งที่ ๖ แทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจากสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ
นายชุมพล จุลใส สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๐๑ (๖) ประกอบมาตรา ๙๘ (๔) (๖)
และมาตรา ๙๖ (๒) และสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ นายถาวร เสนเนียม สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา
๑๐๑ (๖) ประกอบมาตรา ๙๘ (๖) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|