ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 369 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 7361 - 7380 จากข้อมูลทั้งหมด 123986 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
7361 | ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 11 | กต. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. รับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ ๑๑ และเห็นชอบให้พิจารณามอบหมายส่วนราชการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามผลการประชุมฯ ต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เห็นว่า หากแผนปฏิบัติการกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี ค.ศ. ๒๐๒๑-๒๐๒๕ มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นอาชญากรรมข้ามชาติ เห็นควรให้เพิ่มสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบร่วมด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7362 | การนำรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในราชการ | นร.04 | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงว่า
การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการประจุไฟฟ้าของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในสถานที่ราชการสามารถดำเนินการได้ตามระเบียบของทางราชการ
โดยกรณีที่เป็นการเช่ารถยนต์ส่วนกลาง
การเบิกจ่ายค่าบริการประจุไฟฟ้าถือเป็นค่าสาธารณูปโภคซึ่งเป็นดุลยพินิจของหัวหน้าส่วนราชการตามนัยข้อ
๑๘ (๑)
ของระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของส่วนราชการ
พ.ศ. ๒๕๕๓ และกรณีที่เป็นรถยนต์ประจำตำแหน่ง
ผู้ใช้รถประจำตำแหน่งเป็นผู้จ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าวเองตามนัยข้อ ๒๑
ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. ๒๕๒๓ ๒. ให้กระทรวงการคลังร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระทรวงพลังงาน สำนักงบประมาณ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๔ (เรื่อง การนำรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในราชการ)
รวมทั้งให้พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ คุณลักษณะเฉพาะ ความเหมาะสมของค่าใช้จ่าย
และแนวทางการดำเนินการต่าง ๆ
เกี่ยวกับการเช่ารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในภารกิจของหน่วยงานของรัฐ
ให้แล้วเสร็จสมบูรณ์โดยเร็ว ๓. อนุมัติเป็นหลักการว่า
ในระหว่างที่โครงสร้างพื้นฐานและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า
(Electric
Vehicle: EV) ยังไม่เสร็จสมบูรณ์
ให้ทุกส่วนราชการสามารถจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์ (รถตู้หรือรถกระบะ) สันดาปภายใน
หรือรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle: HEV) หรือรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อิน
ไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle: PHEV) ไปพลางก่อนได้
ตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยให้เน้นรถยนต์ HEV หรือ PHEV
เป็นหลัก
เพื่อส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายในการก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำและการใช้รถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้อย่างน้อยร้อยละ
๓๐ ภายในปี ๒๕๗๓
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7363 | ผลการศึกษาและข้อเสนอด้านกฎหมายในการพัฒนาตลาดคาร์บอนในประเทศไทย | นร15 | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการศึกษาและข้อเสนอด้านกฎหมายในการพัฒนาตลาดคาร์บอนในประเทศ ซึ่งได้ดำเนินการตามมติคณะกรรมการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว
ในการประชุม ครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔
ที่ให้มีการศึกษาแนวทางการบริหารจัดการคาร์บอนเครดิตให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและสอดคล้องกับข้อตกลงระหว่างประเทศ
โดยได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ได้แก่ ข้อผูกพันตามพันธกรณีระหว่างประเทศ
การใช้กลไกทางตลาดในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
การดำเนินการที่ผ่านมาของไทย โดยไทยได้พัฒนาตลาดคาร์บอนรูปแบบความสมัครใจ ตามที่สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (สำนักงาน ป.ย.ป.) เสนอ
และให้สำนักงาน ป.ย.ป.
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่ายังไม่สมควรตรากฎหมายในเรื่องนี้ในชั้นนี้เพราะอาจทำให้การพัฒนาตลาดคาร์บอนไม่ทันต่อการพัฒนาตลาดคาร์บอนของต่างประเทศได้
ควรปล่อยให้กลไกตลาดพัฒนาจนมีความแน่นอนไปสักระยะหนึ่งก่อน
แต่หากว่าเห็นสมควรตรากฎหมายขึ้น ก็สมควรตรากฎหมายจัดตั้งกองทุนเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาตลาดคาร์บอนขึ้นก่อนเป็นลำดับแรก
ซึ่งต้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารทุนหมุนเวียน
และการพัฒนากฎหมายดังกล่าวจะต้องสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์) รับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงพลังงานกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดเป้าหมายและมาตรการในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสาขาต่าง
ๆ เช่น สาขาพลังงาน สาขาเกษตร สาขากระบวนการทางอุตสาหกรรมและการใช้ผลิตภัณฑ์
ให้ชัดเจนทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
รวมทั้งดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายภายในประเทศและพันธกรณีระหว่างประเทศ
เพื่อให้การพัฒนาตลาดคาร์บอนในประเทศไทยเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการในระยะสั้น
ให้พิจารณากำหนดเป้าหมายและมาตรการในการดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วและทันการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค
ประจำปี ๒๕๖๕ ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7364 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 19/2564 | นร. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ ๑๙/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 สรุปได้ ดังนี้ ๑) รายงานสถานการณ์และคาดการณ์แนวโน้มการแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ ๒) รายงานผลการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ๓) ผลการดำเนินงานและแผนการเปิดประเทศ และการจัดทำเว็บไซต์หลักของประเทศไทย (Thailand.go.th) ๔) สถานการณ์แรงงานในประเทศและความก้าวหน้าในการนำแรงงานเข้าประเทศ ๕) การปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 สำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ๖) การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร และมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 (กิจการสถานบันเทิง) และ ๗) การขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ ๑๕) ทั้งนี้ ในส่วนของการปรับมาตรการป้องกันควบคุมโควิด-19 สำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรประเภท Test and Go นั้น ให้คงวิธีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ตามคำสั่ง ศบค. ที่ ๑๗/๒๕๖๔ เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๑๗) ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ต่อไป ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายสาธิต ปิตุเตชะ) เสนอa
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7365 | ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การนำรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในราชการ | นร.09 | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. อนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๔ (เรื่อง การนำรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในราชการ) เป็นการชั่วคราว และให้พิจารณาจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์โดยสาร ๑๒ ที่นั่ง (รถตู้) สันดาปภายใน หรือรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle: HEV) หรือรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle: PHEV) ไปพลางก่อนได้ในระหว่างที่โครงสร้างพื้นฐานและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการใช้งานระบบรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) ยังไม่สมบูรณ์ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7366 | รายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ ตามมาตรา 50 และรายงานสถานะหนี้สาธารณะ หนี้ภาครัฐ และความเสี่ยงทางการคลัง ตามมาตรา 76 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ณ วันสิ้นปีงบประมาณ 2564 | กค. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ ตามมาตรา ๕๐
และรายงานสถานะหนี้สาธารณะ หนี้ภาครัฐ และความเสี่ยงทางการคลัง ตามมาตรา ๗๖
แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ณ วันสิ้นปีงบประมาณ ๒๕๖๔
ซึ่งเมื่อวิเคราะห์ภาระหนี้ประกอบกับแผนการกู้เงินและการชำระหนี้ในอนาคตพบว่า
อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้
และยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐที่กำหนดไว้
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7367 | รายงานผลการดำเนินการตามมาตรา 10 แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 และมาตรา 8 แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | กค. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมาตรา ๑๐
แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ และมาตรา ๘ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งเป็นการรายงานความเป็นมาและข้อเท็จจริง
รายละเอียดของการกู้เงิน วัตถุประสงค์ของการใช้จ่ายเงินกู้และรายละเอียดโครงการ
และผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่ได้รับของโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ และให้เสนอรัฐสภาเพื่อทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7368 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการการท่องเที่ยวทางน้ำอย่างยั่งยืน ในยุค New Normal ของคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา | สว. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการการท่องเที่ยวทางน้ำอย่างยั่งยืน ในยุค New Normal ของคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว
วุฒิสภา
ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณารายงานผลการศึกษาดังกล่าว
ซึ่งมีข้อเสนอแนะให้ดำเนินการกำหนดขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวทางน้ำ
โดยสรุปผลการพิจารณาว่า ได้มีการดำเนินการฝึกอบรมอาสาสมัครช่วยเหลือนักท่องเที่ยว
การกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยทางน้ำ ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเข้าพักโรงแรมที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย
และได้มีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่พัก ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7369 | รายงานผลความคืบหน้าการดำเนินคดีอาญากับผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตในการดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 | ตช. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอรายงานผลความคืบหน้าการดำเนินคดีอาญากับผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตในการดำเนินงานโครงการต่าง
ๆ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้แก่ (๑) แยกเป็นโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ๑๙๑ คดี
และโครงการคนละครึ่ง ๘๕ คดี และ (๒)
แยกเป็นคดีที่อยู่ระหว่างการสอบสวนเสร็จส่งพนักงานอัยการ ๒๑ คดี
ศาลมีคำพิพากษาแล้ว ๑ คดี และอื่น ๆ เช่น อยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานอื่น ๆ
๕ คดี
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7370 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การบริหารจัดการด้านกฎหมายในกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเห็นสมควรดำเนินการไกล่เกลี่ย ประนีประนอมข้อพิพาทในด้านสิทธิมนุษยชน ของคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา | สว. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
การบริหารจัดการด้านกฎหมายในกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเห็นสมควรดำเนินการไกล่เกลี่ย ประนีประนอมข้อพิพาทในด้านสิทธิมนุษยชน
ของคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยสรุปผลการพิจารณาได้ว่า
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐
มาตรา ๒๖ (๑) บัญญัติไว้เพียงให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนทุกกรณีโดยไม่ล่าช้า
และเสนอมาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสมในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชนซึ่งไม่มีสภาพบังคับทางกฎหมาย
สมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๐
เพื่อให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีหน้าที่และอำนาจไกล่เกลี่ยข้อพิพาทได้อย่างชัดแจ้ง
เพื่อช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งสอดคล้องกับหลักการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมและเป็นไปตามหลักการปารีสเกี่ยวกับสถานะของคณะกรรมการฯ
ที่มีอำนาจหน้าที่กึ่งศาล รับฟังและพิจารณาข้อร้องเรียนและเรื่องราวร้องทุกข์เพื่อหาแนวทางยุติปัญหาอย่างสมานฉันท์ผ่านกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
ทั้งนี้ ควรนำประเด็นเกี่ยวกับผลทางกฎหมายของบันทึกข้อตกลง หลักอายุความสะดุดหยุดลง
และการกำหนดกรณีข้อพิพาทที่มิให้นำมาไกล่เกลี่ย ไปพิจารณาประกอบการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติดังกล่าวให้มีความเหมาะสมต่อไปด้วย
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7371 | รายงานผลการดำเนินการตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 2564 | กค. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมาตรา
๑๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งประกอบด้วย ๒ ส่วน ได้แก่ ๑) รายงานการกู้เงินและการค้ำประกันที่ทำในปีงบประมาณที่ล่วงมาแล้ว
และรายงานหนี้สาธารณะ และ ๒) รายงานผลการประเมินความสำเร็จของโครงการหรือแผนงานที่ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ
จำนวน ๒๓ โครงการ และให้เสนอรัฐสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7372 | ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมการพ้นจากตำแหน่งของข้าราชการฝ่ายอัยการ) | อส. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมการพ้นจากตำแหน่งของข้าราชการฝ่ายอัยการ) มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับหลักการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
โดยเทียบเคียงกับหลักเกณฑ์การพ้นจากตำแหน่งของข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม
ในส่วนของมาตรา ๕๕ (๗) การพ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุการถูกสั่งลงโทษไล่ออก ปลดออก
หรือให้ออก จากที่กำหนดให้นำความกราบบังคมทูล
เพื่อมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่งเป็นให้นำความกราบบังคมทูลให้ทรงทราบ
เพื่อให้เหมาะสมและมีลักษณะเช่นเดียวกับผู้พิพากษาและตุลาการ ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้นำร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ไปตรวจพิจารณารวมกับร่างพระราบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้เป็นฉบับเดียวกัน
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7373 | ร่างกฎกระทรวง (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบทหาร พุทธศักราช 2477 ว่าด้วยเครื่องแบบทหารบก ฉบับที่ .. | กห. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบทหาร
พุทธศักราช ๒๔๗๗ ว่าด้วยเครื่องแบบทหารบก ฉบับที่ .. มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง
(พ.ศ. ๒๕๔๒) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบทหาร
พุทธศักราช ๒๔๗๗ ว่าด้วยเครื่องแบบทหารบก
ฉบับที่ ๘๐ โดยแก้ไขเครื่องแบบทหารและส่วนประกอบของเครื่องแบบ
แก้ไขเครื่องแบบทหารกองเกียรติยศรับเสด็จ เครื่องแบบทหารรักษาการณ์ และกำหนดเพิ่มเติมเครื่องแบบทหารรักษาการณ์เขตพระราชฐาน
เพื่อให้การแต่งเครื่องแบบและส่วนประกอบเครื่องแบบมีความถูกต้องเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7374 | รายงานความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีอาญา พ.ศ. .... | นร 05 | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีอาญา
พ.ศ. .... โดยรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธานพิจารณาร่างฯ และมีประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม
ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุม
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๔ ซึ่งที่ประชุมเห็นพ้องว่า ๑. รูปแบบการตรากฎหมายฉบับนี้เห็นควรตราเป็นกฎหมายระดับพระราชบัญญัติ
โดยเป็นร่างพระราชบัญญัติที่จะตราขึ้นเพื่อดำเนินการตามหมวด ๑๖ การปฏิรูปประเทศ
มาตรา ๒๕๘ ง. ด้านกระบวนการยุติธรรม (๒) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบพร้อมกับการเสนอร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้
ตามมาตรา ๒๗๐ วรรคสาม ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต่อไป ๒. เห็นควรชะลอการเสนอร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีอาญา
พ.ศ. .... ต่อรัฐสภาไว้ก่อน เพื่อพิจารณาความสอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ
พ.ศ. ....
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ
พ.ศ. .... ของรัฐสภา อีกครั้งหนึ่ง ๓.
เห็นควรมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาเพิ่มเติมบทเฉพาะกาลในร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีอาญา
พ.ศ. .... โดยกำหนดให้ภายใน ๒ ปี
นับตั้งแต่วันที่ร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีอาญาฯ นี้มีผลใช้บังคับ
ให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นจากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว
หากเห็นสมควรให้นำกลไกตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีอาญาไปใช้กับการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ก็ให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาในส่วนของการสอบสวนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7375 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (1. ศาสตราจารย์สุวรรณา สถาอานันท์ ฯลฯ รวม 9 คน) | วธ. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร รวม ๙ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
ดังนี้ ๑. ศาสตราจารย์สุวรรณา
สถาอานันท์ ประธานกรรมการ ๒. ศาสตราจารย์สุเนตร ชุตินธรานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นางสาวบุษบา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. รองศาสตราจารย์จักรพันธ์
วิลาสินีกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. ศาสตราจารย์เสมอชัย
พูลสุวรรณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. ศาสตราจารย์ยศ สันตสมบัติ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. นายอานันท์ นาคคง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๘. นายดนัย จันทร์เจ้าฉาย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๙. นายทวีป ฤทธินภากร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7376 | รัฐบาลราชอาณาจักรสเปนเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรสเปนประจำประเทศไทย (นายเฟลิเป เด ลา โมเรนา กาซาโด) | กต. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเฟลิเป เด ลา โมเรนา กาซาโด (Mr. Felipe de la Morena Casado) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรสเปนประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายเอมิลิโอ เด มิเกล กาลาเบีย (Mr. Emilio de Miguel Calabia) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7377 | ร่างพระราชบัญญัติสถาปนิก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2564)] | ปสส. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติสถาปนิก (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7378 | อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากเรือ ค.ศ. 1973 ที่แก้ไขปรับปรุงโดยพิธีสาร ค.ศ. 1978 ภาคผนวก 5 ว่าด้วยกฎข้อบังคับสำหรับการป้องกันมลพิษจากขยะบนเรือ [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2564)] | ปสส. | 30/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ซึ่งให้เสนออนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากเรือ
ค.ศ. ๑๙๗๓ ที่แก้ไขปรับปรุงโดยพิธีสาร ค.ศ. ๑๙๗๘ ภาคผนวก ๕ ว่าด้วยกฎข้อบังคับสำหรับการป้องกันมลพิษจากขยะบนเรือ
ต่อรัฐสภาเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7379 | การพัฒนานักกฎหมายภาครัฐ (การปรับปรุงหลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐ) | นร.09 | 23/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินงานการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐ
(การปรับปรุงหลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐ) ซึ่งได้ปรับปรุงหลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐ วิธีการฝึกอบรมและพัฒนานักกฎหมายภาครัฐ เป็น ๒ ระดับ ดังนี้ (๑)
หลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐระดับปฏิบัติการ
มุ่งเน้นไปที่ความรู้ความเข้าใจพื้นฐานเป็นลำดับแรกก่อน เพื่อให้นักกฎหมายภาครัฐที่เพิ่งเริ่มต้นปฏิบัติงานหรือปฏิบัติงานมาเป็นระยะเวลาที่ไม่มากนักมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่สำคัญต่อการพัฒนานักฎหมายให้ดีขึ้น
โดยมีการแบ่งเป็น ๘ หมวดวิชา ได้แก่ หมวดวิชาที่ ๑ วิสัยทัศน์ จริยธรรม
และการปลุกสำนึกการเป็นข้าราชการที่ดี หมวดวิชาที่ ๒ หลักการบริหารราชการแผ่นดิน
เป็นต้น (๒). หลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐระดับชำนาญการขึ้นไป มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาของนักกฎหมายภาครัฐที่มีประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน
เพื่อพัฒนาให้สามารถปฏิบัติงานในฐานะหัวหน้างานหรือผู้มีประสบการณ์ที่ต้องตัดสินใจหรือแก้ไขปัญหาที่ยุ่งยากได้ โดยมีการแบ่งเป็น ๘ หมวดวิชา ได้แก่ หมวดวิชาที่ ๓ กฎหมายมหาชน
หมวดวิชาที่ ๔ กฎหมายการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ หมวดวิชาที่ ๕
กฎหมายเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม เป็นต้น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7380 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 (กองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภาและเงินทุนหมุนเวียนเพื่อให้ข้าราชการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกู้ยืมเพื่อชำระหนี้สิน) | สผ. | 23/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานงบการเงินกองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภาและเงินทุนหมุนเวียนเพื่อให้ข้าราชการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกู้ยืมเพื่อชำระหนี้สิน
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่ารายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|