ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 361 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 7201 - 7220 จากข้อมูลทั้งหมด 123983 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
7201 | การดำเนินโครงการของกระทรวงวัฒนธรรม "ส่งสุขวิถีใหม่ สืบสานวิถีไทย ปลอดภัยสร้างสรรค์" เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 | วธ. | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินโครงการของกระทรวงวัฒนธรรม “ส่งสุขวิถีใหม่
สืบสานวิถีไทย ปลอดภัยสร้างสรรค์” เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๕
ให้แก่ประชาชน ประกอบด้วย ๓ กิจกรรมหลัก ได้แก่ (๑)
กิจกรรมทางศาสนาเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล (๒)
กิจกรรมเยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ทางศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ และ
(๓) กิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรม ส่งความสุขแบบไทย ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7202 | สรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 6 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 30 กันยายน 2564) | นร.04 | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๖ (ระหว่างวันที่ ๑ มกราคม-๓๐ กันยายน
๒๕๖๔) สรุปได้ ดังนี้ (๑) ผลการดำเนินงานตามนโยบายหลัก ๑๒ ด้าน เช่น
การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ การสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศและความสงบสุขของประเทศ
การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก
การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย
การปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐ การป้องกัน
ปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบและกระบวนการยุติธรรม และ (๒) นโยบายเร่งด่วน ๑๒
เรื่อง เช่น การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน
การปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การยกระดับศักยภาพแรงงาน
การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต
การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เป็นต้น ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7203 | ของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชนและผู้ประกอบการ พ.ศ. 2565 ของกระทรวงอุตสาหกรรม | อก. | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชนและผู้ประกอบการ พ.ศ. ๒๕๖๕
ของกระทรวงอุตสาหกรรม
เพื่อให้ประชาชนและผู้ประกอบการได้รับทราบการจัดโครงการ/กิจกรรมที่กระทรวงอุตสาหกรรมจัดทำขึ้นเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่
พ.ศ. ๒๕๖๕ ได้แก่ (๑) การอำนวยความสะดวก ลดต้นทุนของผู้ประกอบการ (๒) การเสริมสภาพคล่องการดำเนินธุรกิจ
และ (๓) การยกระดับผู้ประกอบการ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7204 | ของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 ให้แก่ประชาชน | นร.12 | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนงาน/โครงการที่ได้ดำเนินการเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่
พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้แก่ประชาชนในหัวข้อ “e-Service ภาครัฐฉับไว ส่งความสุขทั่วไทย เพื่อคนไทยทุกคน”
รวม ๓๒๕ งานบริการ โดยจัดทำแค็ตตาล็อกที่ประชาชนสามารถสแกน QR Code หรือกดลิงค์เพื่อเข้าใช้บริการผ่านระบบออนไลน์ได้ทันที ตามที่สำนักงาน
ก.พ.ร. เสนอ ดังนี้ ๑.
กลุ่มงานบริการสำหรับประชาชน ๙ ประเภท รวม ๑๓๑ งานบริการ ได้แก่ (๑) ขนส่ง คมนาคม
และการเดินทาง (๒) ประกันสังคม และสวัสดิการภาครัฐ (๓) ที่ดิน ภาษี และธนาคาร (๔)
สาธารณูปโภค (๕) การเกษตรและสิ่งแวดล้อม (๖) การทำงานและส่งเสริมอาชีพ (๗) การสอบ
การศึกษา และการฝึกอบรม (๘) ทะเบียนราษฎร และตรวจสอบข้อมูล และ (๙) สุขภาพ ๒.
กลุ่มงานบริการสำหรับผู้ประกอบการ ๔ ประเภท รวม ๑๙๔ งานบริการ โดยจะคัดเลือกงานบริการที่มีความโดดเด่นจาก
e-Service
Catalog ดังกล่าว ประกอบด้วย (๑) One Hour Service งานบริการ e-Services
ของรัฐที่ให้บริการแล้วเสร็จในทันทีโดยระบบอัตโนมัติหรือภายในเวลา ๑ ชั่วโมง (๒) One
Day Services งานบริการ e-Service ของรัฐที่ให้บริการแล้วเสร็จภายในเวลา ๑ วัน (๓) One ID Services งานบริการ e-Service
ของรัฐที่ประชาชนสามารถใช้บริการ
โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวหรือเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก
เป็นหลักฐานในการยืนยันตัวตนและขอใช้บริการ
โดยไม่เรียกสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติม
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7205 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ | กค. | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนหรือผู้มีหน้าที่ออกใบรับสามารถดำเนินการจัดทำ
ส่ง รับ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีหรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ตามประมวลรัษฎากร
ด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่เห็นควรปรับปรุงถ้อยคำเพื่อให้เกิดความชัดเจนในวัตถุประสงค์ของการระบุตัวเจ้าของลายมือชื่อที่เชื่อมโยงไปถึงใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์
การส่งมอบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการส่งและรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
และการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข หรือคุณสมบัติของระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวสามารถรับรองความมีอยู่ของข้อมูล
ณ
ขณะที่มีการส่งข้อมูลเพื่อป้องกันมิให้เกิดข้อโต้แย้งว่าข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขภายหลังจากการที่ได้มีการส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบ
ก่อนจะมีการรับรองความมีอยู่ของข้อมูลนั้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์
ที่ควรให้ความสำคัญกับระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเพื่อป้องกันการปลอมแปลงหรือแก้ไขข้อมูลในใบกำกับภาษีและใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7206 | การดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 ให้แก่ประชาชน | นร16 | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการของขวัญปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้แก่ประชาชน ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
ซี่งได้ดำเนินโครงการ/กิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ (๑) โครงการเร่งรัดการดำเนินงานกลั่นกรองผลการอ่านภาพถ่ายทางอากาศ
เพื่อประกอบการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐ (๒) การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7207 | ผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ด้วยระบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ | กห. | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (ASEAN Defence Ministers’ Meeting Retreat : ADMM Retreat) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง
ด้วยระบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่
๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
ซึ่งมีกระทรวงกลาโหมเนการาบรูไนดารุสซาลามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี
(พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุม ADMM Retreat โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่
(๑) การประชุม ADMM Retreat (๒) การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน+๑
อย่างไม่เป็นทางการ และ (๓) การส่งมอบตำแหน่งประธานการประชุม ADMM ในปี ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7208 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ 28 | กค. | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค
ครั้งที่ ๒๘ และถ้อยแถลงร่วมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ ๒๘
เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๔ ผ่านระบบการประชุมทางไกล
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย
ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนิวซีแลนด์ (นาย Grant Robertson) เป็นประธาน
พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้แทนระดับสูงจากประเทศสมาชิกเอเปคทั้ง
๒๑ เขตเศรษฐกิจ ผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศ เข้าร่วมการประชุม และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมฯ
สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) ผลการประชุมฯ ครั้งที่ ๒๘ มีการหารือที่สำคัญ เช่น
การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การรับมือกับโควิด-๑๙
เพื่อการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนและครอบคลุม ที่ประชุมสนับสนุนให้ดำเนินนโยบายการเงิน
การคลัง เพื่อรับมือกับผลกระทบของโควิด-๑๙
การใช้นโยบายการคลังและการบริหารงบประมาณเพื่อรับมือกับความท้าทาย
ที่ประชุมได้เน้นย้ำถึงบทบาทของการดำเนินนโยบายการคลังและการบริหารงบประมาณในการรับมือกับโควิด-๑๙
ที่ประชุมได้รับรองแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการเซบูฉบับใหม่
ซึ่งได้นำวิสัยทัศน์ปุตราจายา ค.ศ. ๒๐๔๐ และมาตรการรองรับสถานการณ์ของโควิด-๑๙ มาเป็นปัจจัยในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการเซบูฉบับใหม่ และ (๒) ถ้อยแถลงร่วมฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้รับรองร่างถ้อยแถลงร่วมฯ
ของการประชุมฯ ครั้งที่ ๒๘ โดยมีการปรับปรุงถ้อยคำ
เพื่อให้มีความเหมาะสมและสะท้อนข้อเท็จจริงมากขึ้น โดยไม่กระทบสาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7209 | รายงานความก้าวหน้าการพิจารณาของศาลปกครองกลางและการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องในคดีหมายเลขดำที่ 620/2559 คดีหมายเลขแดงที่ 1948/2563 ระหว่างสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กับ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) | นร.01 | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
ดังนี้ ๑.
คำพิพากษาศาลปกครองกลางคดีหมายเลขดำที่ ๖๒๐/๒๕๕๙ คดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๔๘/๖๓
ระหว่างสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ร้อง กับ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)
ผู้คัดค้าน ที่พิพากษายกคำร้องและให้คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดให้แก่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ๒.
การเตรียมการต่อสู่คดีเพื่ออุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองกลางที่ยกคำร้องตามข้อ ๑
และการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อศาลปกครองสูงสุดของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7210 | การแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี | นร.04 | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๓๓๙/๒๕๖๔ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ
และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๑๗ ธันวาคม
๒๕๖๔ โดยเป็นการแก้ไขคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๒๔๐/๒๕๖๓ เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย
และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๓ เนื่องจากพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด
พ.ศ. ๒๕๖๔ มาตรา ๑๐๙ บัญญัติให้มี “คณะกรรมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด”
ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธานกรรมการ
นายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายรองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล)
ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7211 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 6/2564 | นร.04 | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
(กตน.) ครั้งที่ ๖/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๔ ผ่านระบบการประชุมทางไกล และมอบหมายให้ส่วนราชการรับประเด็นและมติของที่ประชุม
กตน. ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยผลการประชุมฯ ประกอบด้วย (๑) แผนงาน/โครงการการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง
(๒) วิจัยและนวัตกรรมเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความยากจน และ (๓) แผนการดำเนินงานของ
กตน.ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||
7212 | ผลการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ครั้งที่ 3/2564 | กค. | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ
ครั้งที่ ๓/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ซึ่งที่ประชุมมีมติรับทราบรายงานการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ เช่น ภาพรวมการเบิกจ่ายเงิน ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน การเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ
การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่า ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป การเบิกจ่ายเงินกู้โครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม
ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ การเบิกจ่ายเงินกู้โครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ และมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณ รัฐวิสาหกิจ
และหน่วยงานเจ้าของโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ปฏิบัติตามมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ ต่อไป ตามที่คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7213 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม 2564) | ปสส. | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่
๔ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันอังคารที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ และวันพุธที่ ๒๒
ธันวาคม ๒๕๖๔ พิจารณาเรื่องที่ค้างมาจากการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๔
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันอังคารที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๒๐ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๒๓
ธันวาคม ๒๕๖๔ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓
ครั้งที่ ๒๑ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ วันศุกร์ที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๔
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7214 | การขอความเห็นชอบต่อร่างหนังสือแลกเปลี่ยนของสำนักเลขาธิการอาเซียน ในการต่ออายุ ครั้งที่ 3 ของบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งประเทศออสเตรเลียกับรัฐบาลแห่งประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่าด้วยโครงการความร่วมมือด้านการพัฒนาระหว่างอาเซียนกับออสเตรเลีย ระยะที่ 2 และการแก้ไขข้อความในบันทึกความเข้าใจฯ | กต. | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนของสำนักเลขาธิการอาเซียนในการต่ออายุครั้งที่
๓
ของบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งประเทศออสเตรเลียกับรัฐบาลแห่งประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่าด้วยโครงการความร่วมมือด้านการพัฒนาระหว่างอาเซียนกับออสเตรเลีย
ระยะที่ ๒ และการแก้ไขข้อความในบันทึกความเข้าใจฯ
รวมทั้งเห็นชอบให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ
และให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียนผ่านคณะผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน
ณ กรุงจาการ์ตา ว่ารัฐบาลไทยให้ความยินยอมให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนลงนามในเอกสารดังกล่าว
โดยร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ มีสาระสำคัญเป็นการต่ออายุบันทึกความเข้าใจว่าด้วยโครงการความร่วมมือด้านการพัฒนาระหว่างอาเซียนกับออสเตรเลีย
ระยะที่ ๒ (เอเอดีซีพีสอง) ครั้งที่ ๓ ออกไปอีก ๑ ปี จนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕
และแก้ไขบันทึกความเข้าใจในส่วนของอารัมภบท หมวดที่ ๒ (ข้อ ๒ และข้อ ๓) หมวดที่ ๓
(ข้อ ๑) หมวดที่ ๖ (ข้อ ๑ และข้อ ๒) และหมวดที่ ๑๑ (ข้อ ๒)
ให้สอดคล้องกับการต่ออายุบันทึกความเข้าใจดังกล่าวตามที่ปรากฏข้อความที่แก้ไขในร่างหนังสือแลกเปลี่ยนของรัฐบาลออสเตรเลีย
ซึ่งเป็นการดำเนินการตามหมวดที่ ๑๒ การขยายเวลา (Extension)
และหมวดที่ ๑๐ การแก้ไข (Amendments) ของบันทึกความเข้าใจฯ
ตามลำดับ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7215 | การให้คำมั่นทางการเมืองอย่างเป็นทางการของรัฐบาลไทยในการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การพิจารณารายชื่อประเทศที่ไม่ให้ความร่วมมือด้านภาษีของสหภาพยุโรป (EU List of Non- cooperative Jurisdictions for Tax Purposes : EU List) ข้อ 3.2 | กค. | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบการมีหนังสือลงนามระดับรัฐมนตรีถึงประธาน Code of Conduct
Group (CoCG) เพื่อให้การให้คำมั่นทางการเมืองอย่างเป็นทางการของรัฐบาลไทยในการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การพิจารณารายชื่อประเทศที่ไม่ให้ความร่วมมือด้านภาษีของสหภาพยุโรป
(EU List of Non- cooperative Jurisdictions for Tax
Purposes : EU List) ข้อ ๓.๒
ว่าประเทศไทยจะดำเนินการตามข้อแนะนำโดยทั่วไปของ Inclusive Framework ที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามมาตรฐานขั้นต่ำของ Country-by-Country Reports (CbCR) ให้ครบถ้วน
ภายในกำหนดเวลาการจัดทำรายงาน Action ๑๓ Peer Review ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒.
ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7216 | การขยายระยะเวลาปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ | กค. | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการการขยายระยะเวลาปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ๔ แห่ง ได้แก่
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โดยปรับลดอัตราเงินนำส่งลงกึ่งหนึ่งจากร้อยละ ๐.๒๕
ต่อปี เป็นร้อยละ ๐.๑๒๕ ต่อปี (ร้อยละ ๐.๐๖๒๕ ต่องวด)
ของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน ออกไปอีก ๑ ปี สำหรับกรอบในการนำส่งเงินในปี ๒๕๖๕
(งวดเดือนมกราคม-มิถุนายน ๒๕๖๕ และงวดเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม ๒๕๖๕)
โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕ เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่เห็นควรให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจบริหารสภาพคล่องอันเนื่องมาจากการปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนฯ
เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
รวมถึงเตรียมรองรับมาตรการของรัฐที่อาจมีเพิ่มเติมในระยะถัดไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7217 | ข้อกำหนดและคำสั่งที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 รวม 3 ฉบับ | นร.05 | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อกำหนดออกตามความในมาตรา
๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ รวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
ดังนี้ ๑.
ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๔๐) ลงวันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงเขตพื้นที่จังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์และการกำหนดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวเพิ่มเติม
เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและเป็นไปตามแผนการเปิดประเทศของรัฐบาล
โดยขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการควบคุมและป้องกันโรคจำแนกตามเขตพื้นที่สถานการณ์
(พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว) ต่อเนื่องไปอีกเป็นระยะเวลาสิบสี่วันนับแต่วันที่
๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕
และปรับมาตรการควบคุมแบบบูรณาการทั่วราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่
ซึ่งกำหนดให้ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มสามารถเปิดบริการเพื่อการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ตามเวลาเปิดทำการปกติในวันที่
๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ จนถึงเวลา ๐๑.๐๐ นาฬิกา ของวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕
และปรับปรุงมาตรการกำหนดประเภทของผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ๒.
คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
ที่ ๒๓/๒๕๖๔ เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง
และพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ.
๒๕๖๔
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดระดับของพื้นที่สถานการณ์เพื่อการบังคับใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ
ได้แก่ ยกเลิกพื้นที่ควบคุมสูงสุด และกำหนดพื้นที่ควบคุม รวมทั้งสิ้น ๓๙ จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง
รวมทั้งสิ้น ๓๐ จังหวัด และพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งสิ้น ๒๖ จังหวัด
(เพิ่มจังหวัดชลบุรีทั้งจังหวัด) ๓.
คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
ที่ ๒๔/๒๕๖๔ เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๑๙) ลงวันที่
๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการป้องกันโรคและหลักเกณฑ์การดำเนินการในสถานที่กักกันซึ่งทางราชการกำหนดให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19
ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน สำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ๖ ประเภท ได้แก่ ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว
เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจควบคู่กับความมั่นคงด้านสาธารณสุขตามแผนการเปิดประเทศของรัฐบาล
เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7218 | สรุปมติที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ครั้งที่ 2/2564 | คค. | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปมติที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก
ครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๔ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร
วงษ์สุวรรณ) เป็นประธาน ซี่งที่ประชุมได้รับทราบและพิจารณาประเด็นต่าง ๆ เช่น (๑)
รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
(๒) รายงานความคืบหน้าแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และ
(๓) รายงานความคืบหน้าการศึกษาการแก้ปัญหาจราจรบนทางพิเศษ (๔)
แผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะกลุ่มจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง
เพื่อรองรับการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และ (๕) การดำเนินการระบบขนส่งสาธารณะเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง
(สถานีรังสิต) เป็นต้น ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7219 | โครงการของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 สำหรับประชาชน ของกระทรวงคมนาคม | คค. | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการของขวัญปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๕ สำหรับประชาชน
ของกระทรวงคมนาคม ซี่งได้ดำเนินโครงการ/กิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ (๑) ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง/ให้บริการฟรี/ปรับลดอัตราค่าบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคม
(๒) การอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ (๓) ส่งความสุขด้วยการแจกของขวัญ
ของที่ระลึกในช่วงเทศกาลปีใหม่ (๔) การส่งเสริมการท่องเที่ยวของประชาชนเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่
และ (๕) โครงการ “คมนาคมสีสัน สร้างสรรค์ประเทศไทย” ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
7220 | การยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษตามประกาศกระทรวงคมนาคมกำหนดอัตราค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี - สุขสวัสดิ์) ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2565 | คค. | 21/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมีมติรับทราบการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษตามประกาศกระทรวงคมนาคมกำหนดอัตราค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถี
และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๕ เพื่ออำนวยความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทางของประชาชน
โดยไม่มีการเก็บค่าผ่านทางพิเศษของค่าผ่านทางพิเศษดังกล่าวตั้งแต่วันที่ ๓๐
ธันวาคม ๒๕๖๔ เวลา ๐.๐๑ นาฬิกา-วันที่ ๓ มกราคม ๒๕๖๕ เวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|