ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 365 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 7281 - 7300 จากข้อมูลทั้งหมด 123986 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
7281 | ร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2564)] | ปสส. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๔ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7282 | ขออนุมัติแผนหลักการพัฒนา ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมคลองแสนแสบ | นร.14 | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการของแผนหลักการพัฒนา
ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมคลองแสนแสบ รวม ๕ เป้าประสงค์ ระยะเวลาดำเนินการ ๑๑ ปี (พ.ศ.
๒๕๖๔-๒๕๗๔) รวมจำนวน ๘๔ โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๘๒,๕๖๓.๘๗๓๐ ล้านบาท
โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับแผนหลักการพัฒนา ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมคลองแสนแสบ ดำเนินการตามกฎหมาย
และระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) จัดทำรายละเอียดการออกแบบ
พร้อมทั้งแผนปฏิบัติการและงบประมาณดำเนินโครงการและเสนอต่อคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญภายใต้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานตามแผนงานและโครงการภายใต้แผนหลักการพัฒนา
ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมคลองแสนแสบ
ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้
ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรม
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เช่นควรให้ความสำคัญกับการสร้างความรับรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
กรุงเทพมหานครควรมีส่วนร่วมลงทุนสำหรับการพัฒนา ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมคลองแสนแสบ ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ
๒๕
เพื่อลดแรงกดดันด้านการคลังและเพื่อให้รัฐบาลมีงบประมาณสำหรับการพัฒนาในด้านอื่น ๆ
ต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7283 | การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (นายสุกิจ จันทร์ทอง) | ทส. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสุกิจ จันทร์ทอง
ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
เนื่องจากผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างต่อไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7284 | การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 19 มีนาคม 2565) | นร.08 | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบให้ปรับลดพื้นที่อำเภอแว้ง
จังหวัดนราธิวาส
ออกจากพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๔๘ เพื่อนำพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑
มาบังคับใช้แทน ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ๒.
เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี
ยกเว้นอำเภอไม้แก่น และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และอำเภอกาบัง
ออกไปอีก ๓ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๕ ๓.
เห็นชอบและรับทราบร่างประกาศ รวม ๔ ฉบับ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๓.๑ เห็นชอบร่างประกาศ เรื่อง
การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี
ยกเว้นอำเภอไม้แก่น และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และอำเภอกาบัง
และร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ ๓.๒ รับทราบร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศและคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ
และร่างประกาศ เรื่อง
ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่อำเภอแว้ง
จังหวัดนราธิวาส ๔.
ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7285 | ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 54 และการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง | กต. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน
ครั้งที่ ๕๔ และการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๒-๗ สิงหาคม
๒๕๖๔ ซึ่งเนการาบรูไนดารุสซาลาม (บรูไน) ในฐานะประธานอาเซียนปี ๒๕๖๔
จัดขึ้นผ่านระบบการประชุมทางไกล
และมอบหมายให้หน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องนำผลการประชุมฯ
ไปปฏิบัติและติดตามความคืบหน้าต่อไป โดยที่ประชุมฯ ได้หารือในเรื่องต่าง ๆ
ที่สำคัญ เช่น การยืนยันเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะขับเคลื่อนประชาคมอาเซียน
การรับรองกรอบการจัดทำระเบียงการเดินทางของอาเซียนเพื่อเอื้อต่อการเดินทางติดต่อทางธุรกิจและราชการที่จำเป็น
การย้ำข้อเสนอเรื่องอาเซียน+๒ เพื่อผลักดันให้มหาอำนาจภายนอกภูมิภาคเข้ามาดำเนินโครงการที่เป็นรูปธรรมร่วมกันอย่างสร้างสรรค์
และการเร่งรัดการดำเนินการตามฉันทามติ ๕ ข้อของอาเซียน
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7286 | ขอให้พิจารณาประกาศพื้นที่อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร | นร.51 | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบสรุปผลการประเมินพื้นที่อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส
ประกอบการพิจารณาประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.
๒๕๕๑ ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอ ๒. เห็นชอบ ๒.๑
ร่างประกาศ เรื่อง พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ๒.๒ ร่างประกาศ
เรื่อง การให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ๒.๓
ร่างประกาศ เรื่อง กำหนดลักษณะความผิดอันมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
ตามมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ๒.๔
ร่างข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๑๘
แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ รวม ๔ ฉบับ
ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓.
ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการแก้ไขประกาศที่ออกตามความในมาตรา
๑๖ วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑
ในพื้นที่อื่น ๆ
เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดำเนินการตามประมวลกฎหมายยาเสพติด
แล้วให้เสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๔.
ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7287 | สรุปผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 16 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | ทส. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม
ครั้งที่ ๑๖ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๔
ผ่านระบบการประชุมทางไหล
โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย
เข้าร่วมการประชุมฯ โดยการประชุมฯ ประกอบด้วย (๑)
การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ ๑๖
โดยไทยได้เรียกร้องให้สมาชิกอาเซียนดำเนินนโยบายเชิงรุกเพื่อเร่งฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
และให้เร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการอาเซียนว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเลด้วย
(๒) การประชุมประเทศภาคีต่อข้อตกลงอาเซียน เรื่อง มลพิษจากหมอกควันข้ามแดน
ครั้งที่ ๑๖
เพื่อหารือสถานการณ์และการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนในภูมิภาคอาเซียน
และ (๓) การประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ ๑๗
เพื่อหารือความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมกับจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7288 | ผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 เรื่อง การป้องกันและตรวจสอบการบุกรุกที่ดินของรัฐและแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ทำการเกษตรในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ | นร16 | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อมูลการทำเกษตรในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ
ประกอบด้วย ข้อมูลจำนวนเกษตรกร ที่ทำการเกษตรในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ
ชนิดของพืชที่ปลูก ประเภทและจำนวนพื้นที่ที่บุกรุก แนวโน้มของการบุกรุก และให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเร่งปรับปรุงข้อมูลดังกล่าวให้ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน
เพื่อใช้ประกอบการจัดทำนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศไทยได้อย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป ๒. เห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาการทำเกษตรในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ
ภายใต้ประเด็นปัญหาหลัก ๓ ประเด็น ได้แก่ (๑)
การป้องกันการบุกรุกที่ดินของรัฐเพื่อทำการเกษตร จำนวน ๓ แนวทาง (๒)
ปัญหาการทำการเกษตรในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิหรือไม่ได้รับอนุญาตจำนวน ๓ แนวทาง
และ (๓) ปัญหาการบริหารจัดการการพัฒนาพื้นที่และผลผลิตทางการเกษตร
(ภายหลังจากการจัดที่ดินหรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายแล้ว) จำนวน ๖ แนวทาง
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ
และให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรมีการหารือและบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเร่งรัดการดำเนินการสำรวจข้อมูลจำนวนผู้บุกรุกที่ดิน
และขอบเขตการใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐที่ถูกบุกรุกให้ชัดเจน ดำเนินการติดตาม ดูแล
และตรวจสอบการทำเกษตรในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิอย่างสม่ำเสมอทุกปี
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7289 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร.12 | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงว่าด้วยการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่ง
พ.ศ. ๒๕๕๓
เพื่อให้กระบวนการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่งสามารถนำไปใช้กับกรุงเทพมหานคร
และให้นำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในกระบวนการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาททางแพ่งได้ด้วย
ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงาน ก.พ.ร
รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
รวมทั้งเป็นการปรับแนวทางให้เอื้อต่อการนำกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในขั้นตอนการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท
ซึ่งจะช่วยลดปัญหาอุปสรรคให้กับประชาชนในการเข้าถึงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในพื้นที่ต่าง
ๆ ได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ หากในระดับปฏิบัติสามารถนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกขั้นตอน
การช่วยเหลือประชาชนในกระบวนการยุติธรรมจะดำเนินการได้อย่างทันท่วงที จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมได้
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7290 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | คค. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข
๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗
และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก)
ตอนบางปะอิน-บางพลี และตอนพระประแดง-บางแค ช่วงพระประแดง-ต่างระดับบางขุนเทียน
ตั้งแต่เวลา ๐๐.๐๑ นาฬิกา ของวันพฤหัสบดีที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๔ ถึงเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา
ของวันจันทร์ที่ ๓ มกราคม ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ควรเร่งประชาสัมพันธ์การยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมบนทางหลวงพิเศษดังกล่าวให้ประชาชนทราบ
เพื่อให้ประชาชนใช้เส้นทางดังกล่าวในช่วงวันหยุดราชการต่อเนื่องได้อย่างคล่องตัว
สอดคล้องตามเจตนารมณ์ของกฎกระทรวงต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7291 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดน่าน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดน่าน พ.ศ. 2556) | มท. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดน่าน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดน่าน
พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. ๒๕๖๒
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ ๒.๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เห็นว่า
ควรมีข้อกำหนดหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้สอดคล้องและเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการพิจารณาให้ความยินยอมหรืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน
พ.ศ. ๒๕๖๐
รวมทั้งกำหนดสัญลักษณ์สีแสดงการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมไว้ในแผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินให้ชัดเจนเพื่อแสดงเขตที่ดินที่ถูกกำหนดให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพิ่มเติม
๒.๒ กระทรวงคมนาคมที่เห็นว่า
ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย กฎหรือระเบียบ และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล เกิดผลสัมฤทธิ์
หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ ๒.๓ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นว่า
การใช้ที่ดินริมฝั่งแม่น้ำ ลำคลอง หรือแหล่งน้ำสาธารณะที่เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ
ให้พิจารณานำมาตรการการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำมาประกอบการดำเนินการด้วย ๒.๔ กระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นว่า
เพื่อสนับสนุนการพัฒนาและขยายตัวของเมืองตามยุทธศาสตร์ประเทศและยุทธศาสตร์ของจังหวัดนั้น
ๆ ตลอดจนเพื่อให้เกิดประโยชน์สาธารณะในการสร้าง บำรุง ปรับปรุงหรือซ่อมแซมทางอาคาร
หรือที่อยู่อาศัยภายใต้หลักเกณฑ์การป้องกันควบคุมปัญหาสิ่งแวดล้อมความปลอดภัยและการกำกับดูแลของกระทรวงอุตสาหกรรม
จึงสมควรกำหนดให้โรงงานดังต่อไปนี้ สามารถประกอบกิจการโรงงานในเขตผังเมืองได้ ดังนี้
๒.๔.๑ ประเภทหรือชนิดของโรงงานลำดับที่ ๕๐
โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม ถ่านหินหรือลิกไนต์อย่างหนึ่งอย่างใด
เฉพาะ (๔)
การผสมผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียมเข้าด้วยกันหรือการผสมผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียมกับวัสดุอื่น
แต่ไม่รวมถึงการผสมผลิตภัณฑ์จากก๊าซธรรมชาติกับวัสดุอื่น (เฉพาะการผลิตแอสฟัลต์ติกคอนกรีตสำหรับโครงการสร้างบำรุงปรับปรุงหรือซ่อมแซมทางที่ประกอบกิจการเพื่อประโยชน์แก่โครงการนั้น)
๒.๔.๒ ประเภทหรือชนิดของโรงงานลำดับที่ ๕๘
โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อโลหะอย่างหนึ่งอย่างใด เฉพาะ (๑)
การทำผลิตภัณฑ์คอนกรีต ผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสม ผลิตภัณฑ์ยิปซัมหรือผลิตภัณฑ์ปูนปลาสเตอร์
(เฉพาะการทำผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จในโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยหรือโครงการสร้าง
บำรุง ปรับปรุงหรือซ่อมแซมทางที่ประกอบกิจการเพื่อประโยชน์แก่โครงการนั้น) ๒.๕ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
เมื่อร่างประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ ประกาศใช้
กรมโยธาธิการและผังเมืองควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ
ดังกล่าวอย่างเข้มงวดต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7292 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา | สว. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง แนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
(SMEs) ของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ
การเงิน และการคลัง วุฒิสภา ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ได้แก่ ๑) ปรับบทบาทสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็น
Policy Body และผู้จัดสรรงบประมาณส่งเสริมการพัฒนา SMEs ที่ยิ่งใหญ่แท้จริงและมีประสิทธิภาพ ๒) เพิ่มหน่วยงานและความเชี่ยวชาญของผู้ให้บริการส่งเสริมการพัฒนา
SMEs ในแต่ละพื้นที่ ๓) ประสานบริการทางการเงินเข้ากับระบบส่งเสริมพัฒนา
SMEs ของชาติอย่างมีประสิทธิภาพ ๔) ยกระดับผู้ประกอบการ SMEs เข้าสู่มาตรฐานการวิเคราะห์สินเชื่อของสถาบันการเงินเอกชน และ ๕)
เตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการ SMEs รองรับ Digital
Disruption, Economic Crisis และ New Normal หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ และให้แจ้งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7293 | ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2564)] | ปสส. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๔ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแก้ไขตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรต่อรัฐสภาเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7294 | หลักเกณฑ์ว่าด้วยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและค่าบริการ | นร.09 | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ว่าด้วยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและค่าบริการตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
โดยมีสาระสำคัญ เช่น ๑)
กำหนดลักษณะของค่าธรรมเนียมและจำแนกค่าธรรมเนียมออกจากค่าบริการ ๒) กำหนดหลักการพื้นฐานว่า
การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต้องมีกฎหมายระดับพระราชบัญญัติให้อำนาจไว้
และต้องกำหนดอัตราขั้นสูงไว้ในกฎหมาย ๓) กำหนดกรณีที่รัฐไม่พึงเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากประชาชน
และ ๔) กำหนดปัจจัยที่หน่วยงานของรัฐต้องพิจารณาในการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม และให้หน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7295 | การสิ้นสุดหน้าที่ของกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำเมืองโอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์ และการปิดสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำเมืองโอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์ เป็นการชั่วคราว (นายไมเคิล เวล) | กต. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๑.
การสิ้นสุดหน้าที่กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำเมืองโอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์ ของ นายไมเคิล เวล (Mr. Michael Whale)
ตั้งแต่วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔ เนื่องจากขอยุติการปฏิบัติหน้าที่ ๒. การปิดสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำเมืองโอ๊คแลนด์
นิวซีแลนด์ เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7296 | รัฐบาลสาธารณรัฐออสเตรียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐออสเตรียประจำประเทศไทย (นายวิลเฮ็ล์ม มัคซีมีลีอาน ด็องโค) | กต. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกรณีรัฐบาลสาธารณรัฐออสเตรียเสนอขอแต่งตั้งนายวิลเฮ็ล์ม
มัคซีมีลีอาน ด็องโค (Mr. Wilhelm Maximilian Donko) ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐออสเตรียประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นางอีวา แฮเกอร์ (Mrs. Eva Hager) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7297 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายสิทธินันท์ มานิตกุล) | นร.08 | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสิทธินันท์ มานิตกุล
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการประสานกิจการความมั่นคง
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ)
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7298 | การดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบ "สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ไปสู่เมืองต้นแบบที่ 4 อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา "เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต" | นร.01 | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบข้อเรียกร้องของเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น
กรณีการดำเนินการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบ
"สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ไปสู่เมืองต้นแบบที่ ๔ อำเภอจะนะ
จังหวัดสงขลา "เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต" ตามที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบ
"สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ไปสู่เมืองต้นแบบที่ ๔ อำเภอจะนะ
จังหวัดสงขลา "เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต" เสนอ ๒. มอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่นสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สถาบันการศึกษาในพื้นที่ ฯลฯ
ร่วมกันจัดให้มีการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental Assessment : SEA) และแผนแม่บทต่าง ๆ โดยให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการ
และให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอของภาคประชาชน
เช่น เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ฯลฯ รวมถึงผลการดำเนินการของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบ
"สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ไปสู่เมืองต้นแบบที่ ๔ อำเภอจะนะ
จังหวัดสงขลา "เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต"
ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
และหน่วยงานของรัฐและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รอผลการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ชาติ
(SEA)
ให้เป็นที่ยุติก่อนการดำเนินการต่อไป ทั้งนี้
การดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและกฎหมายอื่น
ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๓. ให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบ
"สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ไปสู่เมืองต้นแบบที่ ๔ อำเภอจะนะ
จังหวัดสงขลา "เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต"
ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7299 | ร่างพระราชบัญญํติเครื่องราชอิสริยาภรร์จุลจอมเกล้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2564)] | ปสส. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๔ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
7300 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายณัฐวัฒน์ กฤษณามระ ฯลฯ จำนวน 6 ราย) | กต. | 14/12/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๖ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างและสับเปลี่ยนหมุนเวียน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. นายณัฐวัฒน์ กฤษณามระ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ๒. นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ๓. นางสุพัตรา ศรีไมตรีพิทักษ์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ๔. นางสาวรมณี คณานุรักษ์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี ๕. นายวิชชุ เวชชาชีวะ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ๖. นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอเมริกาและแปชิฟิกใต้
|