ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 802 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 16021 - 16040 จากข้อมูลทั้งหมด 124270 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
16021 | การนำที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะมาใช้ในโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณหลังโรงเรียนชาติเฉลิม อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง | มท | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการนำที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะมาใช้ในโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณหลังโรงเรียนชาติเฉลิม อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง พื้นที่โครงการรวมประมาณ ๒๑๔ ไร่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไปพร้อมกับจัดระเบียบแปลงที่ดินใหม่ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16022 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลพิมพา ตำบลหอมศีล ตำบลบางสมัคร อำเภอบางปะกง และตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ศ. .... | คค | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลพิมพา ตำบลหอมศีล ตำบลบางสมัคร อำเภอบางปะกง และตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลพิมพา ตำบลหอมศีล ตำบลบางสมัคร อำเภอบางปะกง และตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อขยายทางหลวงชนบท ฉช.๒๐๐๔ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการพิจารณาผลกระทบด้านการระบายน้ำภายหลังจากการก่อสร้าง เพื่อมิให้เกิดปัญหาเรื่องการระบายน้ำในพื้นที่บริเวณดังกล่าวในอนาคต รวมทั้งควรพิจารณาจัดลำดับความสำคัญในการขยายช่องจราจรของทางหลวงชนบทที่อยู่ระหว่างเตรียมการให้เหมาะสมตามความจำเป็นเร่งด่วนและความสอดคล้องกับแผนพัฒนาโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งในพื้นที่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16023 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนประกันสังคม สำนักงานประกันสังคม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 และสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2559 | รง | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนประกันสังคม สำนักงานประกันสังคม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ และสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ ประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน และงบกระแสเงินสด ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองแล้ว ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้นำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16024 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติความรับผิดทางแพ่งเพื่อความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน พ.ศ. .... และรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการเรียกเงินสมทบเข้ากองทุนระหว่างประเทศเพื่อชดใช้ความเสียหายอันเนื่องมาจากมลพิษน้ำมันอันเกิดจากเรือ พ.ศ. .... | สว | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติความรับผิดทางแพ่งเพื่อความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน พ.ศ. .... และรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการเรียกเงินสมทบเข้ากองทุนระหว่างประเทศเพื่อชดใช้ความเสียหายอันเนื่องมาจากมลพิษน้ำมันอันเกิดจากเรือ พ.ศ. .... ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ แล้ว โดยกรมเจ้าท่าในฐานะหน่วยงานหลักในการดำเนินการตามพระราชบัญญัติทั้ง ๒ ฉบับ ได้ดำเนินการชี้แจงข้อมูลของพระราชบัญญัติทั้ง ๒ ฉบับนี้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อให้ทราบถึงสิทธิเรียกร้อง ตลอดจนข้อปฏิบัติในการฟ้องคดีเพื่อให้ผลแห่งคดีมีผลผูกพันกองทุนฯ รวมทั้งได้ดำเนินการยกร่างกฎหมาย (ร่างประกาศกรมเจ้าท่า) แล้ว เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการบังคับใช้กฎหมายและสอดคล้องกับหลักการและสาระสำคัญในสนธิสัญญา อนุสัญญา หรือความตกลงระหว่างประเทศตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้ให้ข้อสังเกตไว้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16025 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ เพื่อให้ครอบคลุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสาขาการดำเนินงานที่สำคัญ รวมทั้งไม่ให้ซ้ำซ้อนกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการในกฎหมายอื่น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16026 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 2 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดศรีสะเกษ พ.ศ. ....) | มท | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดศรีสะเกษ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดบึงกาฬ เพื่อประโยชน์ด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้า ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16027 | การปรับปรุงชื่อหน่วยงานขององค์ประกอบภายใต้คณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี ตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2560 | คค | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการปรับปรุงชื่อหน่วยงานขององค์ประกอบภายใต้คณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี ตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ จำนวน ๓ คน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. คณะกรรมการผู้แทนรัฐบาลเพื่อพิจารณาทำความตกลงเกี่ยวกับการขนส่งทางบกกับรัฐบาลต่างประเทศเป็นประจำ ๑.๑ เดิม ผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือระหว่างประเทศ กรรมการและเลขานุการ เป็น ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ กรรมการและเลขานุการ ๑.๒ เดิม เจ้าหน้าที่สำนักความร่วมมือระหว่างประเทศ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ เป็น เจ้าหน้าที่กองการต่างประเทศ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ๒. คณะกรรมการอำนวยความสะดวกการขนส่งแห่งชาติ ๒.๑ เดิม ผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือระหว่างประเทศ กรรมการและเลขานุการ เป็น ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ กรรมการและเลขานุการ ๒.๒ เดิม เจ้าหน้าที่สำนักความร่วมมือระหว่างประเทศ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ เป็น เจ้าหน้าที่กองการต่างประเทศ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ๓. คณะกรรมการประสานการขนส่งผ่านแดนแห่งชาติ ๓.๑ เดิม ผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือระหว่างประเทศ กรรมการและเลขานุการ เป็น ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ กรรมการและเลขานุการ ๓.๒ เดิม เจ้าหน้าที่สำนักความร่วมมือระหว่างประเทศ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ เป็น เจ้าหน้าที่กองการต่างประเทศ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16028 | สรุปการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ 37 (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2560 - 30 พฤศจิกายน 2560) | นร04 | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบสรุปการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ ๓๗ (ระหว่างวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๐-๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐) ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลเสนอ มีผลงานสำคัญสรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ได้แก่ โครงการส่งเสริมการจัดกิจกรรมเพื่อความปรองดองสมานฉันท์ เช่น การชี้แจงทำความเข้าใจการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ การจัดงานประเพณี กิจกรรมทางศาสนา และกิจกรรมพัฒนา การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ การจัดกิจกรรมเพื่อความปรองดองสมานฉันท์โดยคณะกรรมการหมู่บ้าน และการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน ร้องทุกข์ ๑.๒ การปฏิรูปประเทศ ได้แก่ การติดตามขับเคลื่อนความคืบหน้าการดำเนินการของคณะกรรมการปฏิรูปทั้ง ๑๑ ด้าน ซึ่งได้ดำเนินการจัดประชุมรับฟังความเห็นจากภาคส่วนที่มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งในกรุงเทพมหานครและส่วนภูมิภาค และจัดทำร่างแผนปฏิรูปในแต่ละด้านให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ ๑.๓ การบริหารราชการแผ่นดิน ประกอบด้วย (๑) ด้านความมั่นคง เช่น นิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) (๒) ด้านสังคมจิตวิทยา เช่น การมอบบ้านเอื้ออาทรให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาริมฝั่งเจ้าพระยา การลงนามบันทึกข้อตกลงการให้บริการชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) (๓) ด้านเศรษฐกิจ เช่น การเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี ๒๕๖๐ โครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ (๔) ด้านการต่างประเทศ เช่น การเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ ๒๕ การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๑ และ (๕) ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เช่น การพัฒนาบุคลากรภาครัฐเพื่อรองรับไทยแลนด์ ๔.๐ และการบูรณาการจัดทำระบบฐานข้อมูลกลาง (ด้านความมั่นคงและทางคดีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้) ๒. ในการจัดทำสรุปการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในครั้งต่อไป ให้คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลนำเสนอผลสัมฤทธิ์จากการดำเนินการขับเคลื่อนด้านต่าง ๆ เพิ่มเติมด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16029 | การปรับปรุงคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน (กขป.) | นร04 | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการปรับปรุงคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน (กขป.) ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ยกเลิก กขป. คณะที่ ๖ ด้านท่องเที่ยว วัฒนธรรมและกีฬา โดยนำด้านท่องเที่ยวและกีฬา รวมไว้ใน กขป. คณะที่ ๒ และด้านวัฒนธรรม รวมไว้ใน กขป. คณะที่ ๓ ๒. มอบหมายรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ) เป็นรองประธาน กขป. คณะที่ ๔ แทน รัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง (พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย) ๓. ให้รองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายเป็นรองประธานกรรมการ พิจารณาทบทวนปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการ ให้สอดคล้องกับวาระการขับเคลื่อนและปฏิรูป แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีรวบรวมเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ๔. มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับผิดชอบการเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนและท้องถิ่นในการพัฒนาเพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ๕. มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล) รับผิดชอบการประสานและขับเคลื่อนการบูรณาการเพื่อแก้ปัญหาความยากจนลดความเหลื่อมล้ำ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16030 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 | รง | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ ประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองแล้ว ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้กระทรวงแรงงานกำกับดูแลสำนักงานประกันสังคมให้เสนองบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินกองทุนเงินทดแทนให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16031 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง วิกฤตทะเลสาบสงขลาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง วิกฤตทะเลสาบสงขลาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ รวมทั้งได้มีการดำเนินการตามข้อเสนอแนะเร่งด่วนเชิงนโยบาย ข้อเสนอแนะรายประเด็น และข้อเสนอแนะด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนแล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16032 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภท หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และการดำเนินการของสถานประกอบกิจการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ของลูกจ้างซึ่งเป็นวัยรุ่น พ.ศ. .... | รง | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภท หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และการดำเนินการของสถานประกอบกิจการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ของลูกจ้างซึ่งเป็นวัยรุ่น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สถานประกอบกิจการทุกประเภทจัดให้มีข้อมูลข่าวสารและความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์แก่ลูกจ้างซึ่งเป็นวัยรุ่น และให้สถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างทำงานในขณะเดียวกันตั้งแต่ ๒๐๐ คนขึ้นไป ต้องจัดให้มีพยาบาลประจำสถานประกอบกิจการตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ของลูกจ้างซึ่งเป็นวัยรุ่น ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่เห็นควรรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอมาตรการการดำเนินงานจากสถานประกอบกิจการไปพิจารณาดำเนินการ เมื่อได้รับความเห็นและข้อเสนอมาตรการการดำเนินงานจากสถานประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับร่างกฎกระทรวงนี้แล้ว ให้แจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการตรวจพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16033 | รัฐบาลสาธารณรัฐแซมเบียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม แห่งสาธารณรัฐแซมเบียประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายวาลูบีทา อีมาคันโด (Mr. Walubita Imakando)] | กต | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวาลูบีทา อีมาคันโด (Mr. Walubita Imakando) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐแซมเบียประจำประเทศไทย คนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สืบแทน นายลูพันโด ออกัสติน เฟสตัส คาโทโลชี อึมวาพี (Mr. Lupando Augustine Festus Katoloshi Mwape) ซึ่งเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐแซมเบียประจำประเทศไทยคนล่าสุด ที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายอักษรสาสน์ตราตั้ง เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๒ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16034 | การขอเลื่อนฐานะกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐอิตาลีประจำจังหวัดภูเก็ต เป็น กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์สาธารณรัฐอิตาลี ณ จังหวัดภูเก็ต และการขอยกระดับ สถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐอิตาลีประจำจังหวัดภูเก็ต เป็น สถานกงสุลใหญ่ กิตติมศักดิ์สาธารณรัฐอิตาลี ณ จังหวัดภูเก็ต (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายฟรันเชสโก เปนซาโต (Mr. Francesco Pensato)] | กต | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เลื่อนฐานะ นายฟรันเชสโก เปนซาโต (Mr. Francesco Pensato) กงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐอิตาลีประจำจังหวัดภูเก็ต เป็น กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์สาธารณรัฐอิตาลี ณ จังหวัดภูเก็ต ๒. ยกระดับสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐอิตาลีประจำจังหวัดภูเก็ต เป็น สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์สาธารณรัฐอิตาลี ณ จังหวัดภูเก็ต โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช ปัตตานี พังงา พัทลุง นราธิวาส ยะลา สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16035 | การเสนอรายงานเกี่ยวกับหลักสูตรผู้บริหารงานด้านกฎหมายภาครัฐระดับสูง รุ่นที่ 6 | นร09 | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานข้อเสนอต่อรัฐบาลหลักสูตรผู้บริหารงานด้านกฎหมายภาครัฐระดับสูง รุ่นที่ ๖ และรายงานสรุปผลการศึกษาการปฏิรูปกฎหมายของประเทศเกาหลีใต้ รวม ๒ ฉบับ โดยรายงานข้อเสนอต่อรัฐบาลฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวข้องกับบทบัญญัติมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งได้มีการวิเคราะห์สภาพปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบอนุญาต ระบบคณะกรรมการ การใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และการกำหนดโทษอาญาของประเทศไทย โดยมีข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาองค์ความรู้ทางกฎหมายอันจะเป็นแนวทางในการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายต่อไป ส่วนรายงานสรุปผลการศึกษาฯ เป็นการศึกษาโครงสร้างองค์กรและกระบวนการพัฒนากฎหมายของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งได้ดำเนินการปฏิรูปกฎหมายเพื่อเป็นการควบคุม ตรวจสอบ และพัฒนาคุณภาพของกฎหมาย อันเป็นปัจจัยของความสำเร็จในการปฏิรูปกฎหมายของประเทศเกาหลีใต้ เพื่อเป็นตัวอย่างนำมาสำหรับการพัฒนาคุณภาพของกฎหมายในประเทศไทยต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่งรายงานทั้งสองฉบับดังกล่าวไปยังคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย กระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาดำเนินการให้เกิดผลสัมฤทธิ์และเป็นประโยชน์แก่ประชาชนอย่างแท้จริงไม่ใช้กฎหมายไปในทางที่จะสร้างความขัดแย้งระหว่างภาครัฐและประชาชน รวมทั้งเพื่อเป็นประโยชน์ในการพัฒนาองค์ความรู้ทางกฎหมายและเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16036 | ร่างพระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ ในท้องที่ตำบลบ้านแร่ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ให้แก่ทายาทของนายกี สุบินยัง พ.ศ. .... | กค | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ ในท้องที่ตำบลบ้านแร่ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ให้แก่ทายาทของนายกี สุบินยัง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ เพื่อแลกเปลี่ยนกับที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของทายาทนายกี สุบินยัง ใช้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนบ้านกันเตรียง จังหวัดสุรินทร์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16037 | ร่างพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร01 | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้กรมศิลปากรถ่ายโอนอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการและดูแลบำรุงโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และให้รายได้และค่าธรรมเนียมจากการเข้าชมโบราณสถานเหล่านั้นตกเป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับร่างมาตรา ๘/๑ ซึ่งกำหนดให้อธิบดีกรมศิลปากรมีอำนาจสั่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระงับการดำเนินการใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อโบราณสถานอย่างร้ายแรงนั้น ควรพิจารณาอำนาจการดำเนินการดังกล่าวให้มีความสอดคล้องกับหลักการของการกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร เช่น การกำหนดบทนิยามในร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ให้สอดคล้องกับกฎหมายฉบับอื่น รวมทั้งการกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถขอรับการสนับสนุนบุคลากรและงบประมาณจากกรมศิลปากรและกองทุนโบราณคดีเพื่อดำเนินการตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรมรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. และกรุงเทพมหานครที่เห็นว่า กรมศิลปากรควรมีแผนเตรียมความพร้อมให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ และต้องทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและร่วมกันกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดำเนินการตลอดระยะเวลาของการสร้างความพร้อม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองซึ่งต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16038 | การกำหนดโทษทางอาญาในกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย | นร09 | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ในการกำหนดโทษอาญาสำหรับกฎหมายที่จะตราขึ้นในอนาคต รวม ๓ ประการ โดยส่วนราชการที่จะเสนอกฎหมายใหม่หรือที่ต้องมีการทบทวนกฎหมายตามพระราชกฤษฎีกาการทบทวนความเหมาะสมของกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๕๘ พิจารณาดำเนินการกำหนดโทษอาญาในกฎหมายให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ ดังนี้ (๑) เป็นการกระทำที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนอย่างร้ายแรงและมีผลกระทบต่อส่วนรวม (๒) เป็นกรณีที่ไม่สามารถใช้มาตรการอื่นใดเพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างได้ผลหรือมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะทำให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมายได้ และ (๓) ความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวหรือที่มีโทษจำคุกและเปรียบเทียบปรับทำให้คดีอาญาระงับได้ หากโดยสภาพแล้วไม่ใช่ความผิดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนอย่างกว้างขวาง สมควรใช้โทษปรับทางปกครองแทนหรือวิธีการอื่นแทนการปรับ และให้ดำเนินการต่อไปตามกรอบแนวทางการศึกษาและปรับปรุงกฎหมายเพื่อป้องกันมิให้มีการใช้ประโยชน์จากโทษอาญาที่ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16039 | การดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับสหพันธ์สาธารณรัฐโซมาเลียและรัฐเอริเทรีย | กต | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบรับรองการดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council : UNSC) ที่ ๒๓๘๕ (ค.ศ. ๒๐๑๗) เกี่ยวกับสหพันธ์สาธารณรัฐโซมาเลียและรัฐเอริเทรีย ที่ได้รับการรับรองเมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ โดยข้อมติ UNSC มีสาระสำคัญเพื่อต่ออายุมาตรการลงโทษทางอาวุธและข้อยกเว้นต่าง ๆ สำหรับสหพันธ์สาธารณรัฐโซมาเลียและรัฐเอริเทรีย ออกไปจนถึงวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ๒. มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และธนาคารแห่งประเทศไทยถือปฏิบัติ พร้อมทั้งปรับปรุงฐานข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการลงโทษสหพันธ์สาธารณรัฐโซมาเลียและรัฐเอริเทรียให้ทันสมัยตามข้อมูลเว็บไซต์ของสหประชาชาติ (United Nations : UN) (
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16040 | ร่างสัญญาการให้ (Grant Contract) ระหว่างอาเซียนกับสหภาพยุโรปของกิจกรรมการเสริมสร้างขีดความสามารถของสำนักเลขาธิการอาเซียนภายใต้โครงการ ARISE Plus | กต | 13/02/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างสัญญาการให้ (Grant Contract) ระหว่างอาเซียนกับสหภาพยุโรปของกิจกรรมการเสริมสร้างขีดความสามารถของสำนักเลขาธิการอาเซียนภายใต้โครงการสนับสนุนด้านการรวมตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียนจากสหภาพยุโรปเพิ่มเติม (ASEAN Regional Integration Support from the EU : ARISE Plus) มีสาระสำคัญเป็นการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน ๔.๔ ล้านยูโร จากสหภาพยุโรป เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการดำเนินการและการติดตามผลในพื้นที่หลักของสำนักเลขาธิการอาเซียน และพัฒนาระบบและสถาบันของสำนักเลขาธิการอาเซียนให้บรรลุมาตรฐานการจัดการระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามความตกลงให้การสนับสนุนทางการเงินของโครงการ ARISE Plus ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขร่างสัญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก และหลังจากนั้นให้รายงานผลเพื่อคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป ๒. อนุมัติให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในร่างสัญญาฯ และให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียนผ่านคณะผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา ว่ารัฐบาลไทยเห็นชอบร่างสัญญาฯ และให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในร่างสัญญาฯ
|
.....