ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 491 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 9801 - 9820 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
9801 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (หลักเกณฑ์และวิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องคดี) ของรัฐสภา | สผ. | 29/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (หลักเกณฑ์และวิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องคดี)
ของรัฐสภา โดยสำนักงานศาลยุติธรรมเห็นว่าผู้ประนีประนอมที่จะมาทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ
มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
และคู่ความหรือคู่กรณีสามารถตกลงให้นำบุคคลที่ไว้วางใจ
รวมถึงทนายความเข้าร่วมในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทได้
เพียงแต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในชั้นไกล่เกลี่ยข้อพิพาทคู่ความหรือคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สามารถนำไปใช้หรืออ้างอิงในการพิจารณาในชั้นศาลได้
เว้นแต่คู่ความหรือคู่กรณีจะตกลงให้ทำได้ รวมทั้งผู้ประนีประนอมซึ่งทำหน้าที่ในการดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทย่อมอยู่ในฐานะเป็นคนกลางในการช่วยลดประเด็นข้อขัดแย้ง
เสนอทางออกที่ดีที่สุดในการยุติข้อขัดแย้งและเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่ายโดยคำนึงถึงความต้องการที่แท้จริงของคู่ความหรือคู่กรณีเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ โดยมีข้อกำหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการไกล่เกลี่ย พ.ศ. ๒๕๕๔
และข้อกำหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการไกล่เกลี่ย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐
ตลอดจนปัจจุบันสำนักงานศาลยุติธรรมได้จัดให้มีศูนย์ไกล่เกลี่ยประจำศาลทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ
มีการจัดวางระบบกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้อง
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทหลังฟ้องคดี
และได้ดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้แก่ประชาชนและศาลยุติธรรมทั่วประเทศทราบถึงขั้นตอนและความแตกต่างระหว่างการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในศาลและการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องคดีตามกฎหมายฉบับนี้แล้ว
ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9802 | ร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พณ. | 29/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ซึ่งเป็นร่างพระราชบัญญัติที่ต้องออกเพื่อให้การเป็นไปตามสนธิสัญญาว่าด้วยลิขสิทธิ์ขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก
(WIPO Copyright Treaty : WCT) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบแล้ว
โดยร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.
๒๕๓๗ เกี่ยวกับอายุการคุ้มครองลิขสิทธิ์ในงานภาพถ่าย
โดยให้การคุ้มครองงานภาพถ่ายตลอดอายุผู้สร้างสรรค์และต่อไปอีก ๕๐ ปี
นับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับการคุ้มครองมาตรการทางเทคโนโลยี
ข้อจำกัดความรับผิดของผู้ให้บริการ
เพื่อสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการและเจ้าของลิขสิทธิ์ในการส่งเสริมการค้าที่เป็นธรรมบนสื่ออินเทอร์เน็ต
และเพิ่มการกำหนดโทษสำหรับความผิดในการให้บริการ ผลิต ขาย หรือแจกจ่าย ซึ่งบริการ
ผลิตภัณฑ์หรืออุปกรณ์ ที่ทำให้มาตรการทางเทคโนโลยีไม่เกิดผล
เพื่อให้การป้องปรามการละเมิดลิขสิทธิ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9803 | การกำหนดวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษ | นร.04 | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบการกำหนดวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษและการเลื่อนวันหยุดชดเชยในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม
๒๕๖๓ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ กำหนดให้วันพฤหัสบดีที่ ๑๙
และวันศุกร์ที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคมรับไปพิจารณาด้วยว่า การกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษดังกล่าวไม่ใช่วันหยุดราชการปกติประจำปี
จึงอาจไม่จำเป็นต้องถือเป็นวันหยุดตามเงื่อนไขสัญญาสัมปทานฯ
ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด ในการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษในวันหยุดราชการประจำปีและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ๑.๒
ให้เลื่อนวันหยุดชดเชยวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ จาก วันจันทร์ที่
๗ ธันวาคม ๒๕๖๓ เป็น วันศุกร์ที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ ๑.๓
ในกรณีที่หน่วยงานใดมีภารกิจในการให้บริการประชาชน หรือมีความจำเป็น
หรือราชการสำคัญในวันหยุดดังกล่าวที่ได้กำหนด หรือนัดหมายไว้ก่อนแล้วซึ่งหากยกเลิก
หรือเลื่อนไปจะเกิดความเสียหายหรือกระทบต่อการให้บริการประชาชน
ให้หัวหน้าหน่วยงานนั้นพิจารณาดำเนินการตามที่เห็นสมควร
โดยมิให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการและกระทบต่อการให้บริการประชาชน ๑.๔ ในส่วนของรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน
และภาคเอกชน ให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงแรงงาน
พิจารณาความเหมาะสมของการกำหนดเป็นวันหยุดให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องในแต่ละกรณีต่อไป ๒. ให้สำนักงาน ก.พ.
เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่ชัดเจนกรณีหน่วยงานของรัฐมีกำหนดการถวายผ้ากฐิน
ณ วัดในต่างจังหวัดในวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ ซึ่งข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างของรัฐ
อาจต้องเดินทางไปเตรียมการล่วงหน้าในวันศุกร์ หรือเดินทางกลับในวันจันทร์
โดยให้ถือเป็นการปฏิบัติราชการตามปกติ และไม่ถือเป็นการลาสำหรับหน่วยงานนั้น ๆ ๓.
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นหน่วยงานหลักรับไปศึกษาความจำเป็นเหมาะสมร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม
กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการกำหนดวันหยุดราชการประจำภูมิภาคตามเทศกาลประเพณีท้องถิ่นที่สำคัญของแต่ละภูมิภาคซึ่งไม่มีนัยสำคัญต่อภูมิภาคอื่น
เช่น ประเพณียี่เป็งของภาคเหนือ ประเพณีไหลเรือไฟของภาคอีสาน
ประเพณีสารทเดือนสิบของภาคใต้ รวมทั้งการกำหนดวันหยุดราชการครึ่งวันเป็นกรณีพิเศษ
เช่น ครึ่งบ่ายของวันศุกร์ และครึ่งเช้าของวันจันทร์ ตามข้อเสนอของผู้ประกอบการ
และรายงานผลการศึกษาให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ทราบโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9804 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 3/2563 | นร.11 | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) ครั้งที่ ๓/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๓ ประกอบด้วย (๑)
เรื่องเพื่อทราบ ได้แก่ ความคืบหน้าการดำเนินมาตรการด้านเศรษฐกิจ
สถานการณ์การท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันหยุดชดเชยวันสงกรานต์
และแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (๒) เรื่องเพื่อพิจารณา ได้แก่ มาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศและเพิ่มกำลังซื้อให้แก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย
และประชาชนทั่วไป มาตรการดึงดูดนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ และมาตรการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานระยะเวลาการให้สินเชื่อการค้า
(Credit term) ในประเทศไทย และโครงการบริหารเศรษฐกิจระยะปานกลางและระยะยาว
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9805 | การขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 40 วรรคสาม และมาตรา 42 วรรคหนึ่ง สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | กก. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๑.๑
อนุมัติให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๖ เพื่อเป็นค่าเช่าอาคารสำนักงาน จำนวน ๕ แห่ง ประกอบด้วย
ค่าเช่าอาคารสำนักงานโอซากา ค่าเช่าอาคารสำนักงานนิวเดลี
ค่าเช่าอาคารสำนักงานโฮจิมินห์ ค่าเช่าอาคารสำนักงานจาการ์ตา
ค่าเช่าอาคารสำนักงานกัวลาลัมเปอร์ และค่าเช่ารถยนต์ จำนวน ๒ คัน ประกอบด้วย
ค่าเช่ารถยนต์ สำนักงานกัวลาลัมเปอร์ และค่าเช่ารถยนต์ สำนักงานโฮจิมินห์
วงเงินงบประมาณ ๘๒,๔๘๖,๖๐๐ บาท หรือไม่เกินวงเงินตามสกุลเงินท้องถิ่น
สำหรับกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนได้
โดยให้ดำเนินการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายก่อนได้รับการจัดสรรงบประมาณ
เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ตามนัยมาตรา ๔๐ วรรคสาม และมาตรา ๔๒
ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๑.๒
สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ รายการค่าเช่าอาคารสำนักงาน
๕ แห่ง และรายการค่าเช่ารถยนต์ ๒ รายการ ดังกล่าว
ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยใช้จ่ายและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๓ ไปพลางก่อน
หรือใช้จ่ายตามรายการและวงเงินงบประมาณรายจ่ายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ ประกาศใช้บังคับ ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป
เห็นควรให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณให้สอดคล้องกับค่าเช่าที่จะต้องจ่ายจริงตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ๒.
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย)
รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาความเหมาะสมการใช้จ่ายเงินงบประมาณให้เป็นไปอย่างคุ้มค่า
และมีการติดตามประเมินผลการดำเนินงานของสำนักงานในประเทศและต่างประเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมกับรายงานผลการดำเนินการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทราบอย่างต่อเนื่อง
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9806 | การแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี | นร.04 | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ ๒๘๗/๒๕๖๓ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ
และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๑๘
กันยายน ๒๕๖๓ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9807 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับเบิกจ่ายเป็นเงินเพิ่มพิเศษรายเดือน จำนวน 7 เดือน (ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนกันยายน 2563) ให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ | มท. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๖๗๗,๗๙๑,๑๐๐ บาท
สำหรับเบิกจ่ายเป็นเงินเพิ่มพิเศษรายเดือน จำนวน ๗ เดือน (ตั้งแต่เดือนมีนาคม
ถึงเดือนกันยายน ๒๕๖๓) ให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ
ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9808 | การขอต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมของบริษัท ปตท.สผ. สยาม จำกัด ผู้รับสัมปทานปิโตรเลียม เลขที่ 1/2522/16 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข S1 | พน. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติให้บริษัท
ปตท.สผ. สยาม จำกัด ต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมสำหรับสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ ๑/๒๕๒๒/๑๖
แปลงสำรวจบนบกหมายเลข S1 ออกไปอีก ๑๐ ปี นับตั้งแต่วันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๔
ถึงวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๗๔ โดยอาศัยความตามมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม
พ.ศ. ๒๕๑๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
และให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้พิจารณาถึงความคุ้มค่า
ประโยชน์ที่รัฐหรือประชาชนจะได้รับ และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้อง ครบถ้วนในทุกขั้นตอน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงพลังงาน (กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ)
ดำเนินการตรวจสอบและกำกับดูแลผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมแปลงสำรวจบนบกทุกรายที่ใช้วิธีขุดเจาะปิโตรเลียมแบบ
Hydraulic Fracturing ให้ดำเนินการด้วยความรอบคอบ
รัดกุม เป็นไปตามมาตรฐานสากล
รวมถึงหลักเกณฑ์และข้อบังคับของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9809 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภค ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 | ยธ. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติให้กระทรวงยุติธรรม
โดยกรมราชทัณฑ์ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
จำนวน ๒๕๗,๕๒๕,๐๐๐ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9810 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ : กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ระยะการระบาดระลอก 2 | สธ. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๓ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่
: กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระยะการระบาดระลอก ๒ จำนวน ๒๐๔,๔๕๗,๑๐๐ บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9811 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 (การเพิ่มโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือโรคโควิด 19 เป็นโรคต้องห้ามตามมาตรา 12 (4) และมาตรา 44 (2) แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522) | มท. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง
ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒
มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวงฉบับที่ ๑๔ (พ.ศ. ๒๕๓๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง
พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยเพิ่มเติมให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
หรือโรคโควิด 19 เป็นโรคที่ต้องห้าม ตามมาตรา ๑๒ (๔) และมาตรา ๔๔
(๒) แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒
เพื่อป้องกันมิให้คนต่างด้าวซึ่งเป็นโรคดังกล่าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้พิจารณาในประเด็นตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับชื่อร่างกฎกระทรวงฯ
ว่า โดยที่ในกรณีนี้เป็นการยกเลิกกฎกระทรวงเดิมและกำหนดกฎกระทรวงขึ้นใหม่
ซึ่งการใช้ชื่อกฎกระทรวงว่า “ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ออกตามความในพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒” นั้น
จะไม่อาจทราบได้เลยจากชื่อของกฎกระทรวงว่ากฎกระทรวงนี้มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับเรื่องใดจนกว่าจะพิจารณาเนื้อหา
รวมทั้งหากจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมต่อไปอีกหลายครั้ง กฎกระทรวงก็จะกระจัดกระจายอยู่หลายแห่งตามฉบับการออกกฎกระทรวง
ซึ่งจะมีตัวเลขเรียงลำดับต่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ว่าฉบับใดแก้ไขฉบับใด
จึงเห็นควรแก้ไขชื่อร่างกฎกระทรวงโดยใช้ชื่อให้ตรงกับเนื้อหาสาระที่กำหนดในร่างกฎกระทรวง
และถ้าต่อไปจะมีการแก้ไขเพิ่มเติม ก็กำหนดเป็นฉบับที่ ๒ เรียงตามลำดับต่อไป
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9812 | ขออนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ | พน. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณค่าเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ
ระยะเวลาสัญญา ๕ ปี สัญญาเช่าเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๖๓ ถึงเดือนกันยายน ๒๕๖๘
ในวงเงินทั้งสิน้ ๒,๑๑๖,๘๐๐ บาท
โดยอนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-ปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น
โดยเบิกจ่ายจากในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ จำนวน ๔๒๓,๔๐๐ บาท
ให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๓ ไปพลางก่อน ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ประหยัด
และประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ
ส่วนงบประมาณที่เหลือผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕-พ.ศ. ๒๕๖๘
โดยให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9813 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดระยอง) | มท. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน
๑๕๘,๑๓๓,๓๐๐ บาท โดยให้เบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน ประเภท เงินอุดหนุนเฉพาะกิจ
และใช้เงินรายได้ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดระยองสมทบ จำนวน ๑๗,๕๗๐,๓๐๐ บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑๗๕,๗๐๓,๖๐๐ บาท เพื่อดำเนินการ ๒ โครงการ ได้แก่ (๑)
โครงการป่าชายเลนในเมือง จังหวัดระยอง ป่าชายเลน พระเจดีย์กลางน้ำ อัญมณีหนึ่งเดียวในระยอง
(ระยะที่ ๓) และ (๒)
โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริจังหวัดระยอง
ระยะที่ ๓ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรติดตามประเมินผลภายหลังการดำเนินโครงการฯ
ให้มีการใช้จ่ายเงินไปอย่างคุ้มค่าและเกิดผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด
รวมทั้งการดำเนินโครงการฯ ควรสอดคล้องกับอัตลักษณ์ของพื้นที่
และคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9814 | ขออนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (โครงการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรและอุปกรณ์ในระบบบำบัดน้ำเสียพื้นที่พัทยานาเกลือและโครงการเพิ่มประสิทธิภาพสถานีสูบป้องกันน้ำท่วม รวม 2 โครงการ) | มท. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับ ๒ โครงการ
งบประมาณ จำนวน ๒๒๗,๕๑๒,๘๐๐ บาท ได้แก่ (๑)
โครงการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรและอุปกรณ์ในระบบบำบัดน้ำเสียพื้นที่พัทยานาเกลือ
อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และ (๒)
โครงการเพิ่มประสิทธิภาพสถานีสูบป้องกันน้ำท่วม ถนนสุขุมวิท และถนนเลียบทางรถไฟ
อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
และเร่งดำเนินการก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9815 | การลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างอาเซียนกับองค์การสุขภาพสัตว์โลกว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ | กษ. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างอาเซียนกับองค์การสุขภาพสัตว์โลกว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ
(Memorandum of Understanding between the Association of Southeast
Asian Nation and the World Organisation of Animal Health on Technical
Cooperation)
รวมทั้งเห็นชอบให้เลขาธิการอาเซียนเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างอาเซียนกับองค์การสุขภาพสัตว์โลกว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ
โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ จัดทำขึ้นระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(อาเซียน) และองค์การสุขภาพสัตว์โลก
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดขอบข่ายการดำเนินความร่วมมือทางวิชาการเพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือวิชาการด้านสุขภาพสัตว์ในการควบคุมและป้องกันโรคระบาดสัตว์อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมถึงการเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ตามหลักระบาดวิทยาทางสัตวแพทย์
พัฒนามาตรฐานและอำนวยความสะดวกด้านการค้าสัตว์และสินค้าปศุสัตว์
และเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการบริการทางสัตวแพทย์ภายในภูมิภาคอาเซียน
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยไม่ต้องจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full
Powers) ตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9816 | การบริจาคเงินสมทบกองทุนตั้งต้นเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานที่ปลอดดภัย เป็นระเบียบ และปกติ (Start - Up Fund for Safe, Orderly and Regular Migration) ภายใต้การบริหารของสหประชาชาติ | กต. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบการจัดทำข้อตกลงการบริหารจัดการมาตรฐาน
(Standard Administrative Arrangement : SAA) สำหรับการบริจาคเงินสมทบกองทุนตั้งต้นเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานที่ปลอดภัย
เป็นระเบียบ และปกติ (Start-Up Fund Safe, Orderly
and Regular Migration) ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดรายละเอียดการให้เงินของไทย
จำนวน ๒๕,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ และการใช้เงินในกองทุนฯ เพื่อดำเนินความร่วมมือต่าง ๆ
ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของกองทุนฯ และอนุมัติให้เอกอัครราชทูต
ผู้แทนถาวรประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา เป็นผู้ลงนามในร่างข้อตกลงฯ
โดยกระทรวงการต่างประเทศจะจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรฯ สำหรับการลงนามต่อไป
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นเงินบริจาคดังกล่าว
เห็นควรให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒.
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างข้อตกลงฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9817 | ข้อเสนอแนะเพื่อดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารและอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว | ปช. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารและอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว โดยเห็นควรกำหนดนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารและอุปกรณ์โทรคมนาคมบนเสาไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
โดยเห็นควรให้มีการนำกรณีการจัดระเบียบสายสื่อสารที่ไม่ได้ใช้งานแล้วในซอยพหลโยธิน
๘ (ซอยสายลม) เขตพญาไท ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติและประสบความสำเร็จในการจัดระเบียบสายสื่อสารมาเป็นต้นแบบในการดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารที่ไม่ได้ใช้งานแล้วทั่วประเทศ
ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ ๒.
ให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงมหาดไทย
(การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเป็นไปตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติต่อไป
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
การดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารในระยะแรก
ขอให้ดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารในเส้นทางวิกฤต
ควรคำนึงถึงรูปแบบในการจัดระเบียบสายสื่อสารให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ดำเนินการ
และมิให้นำค่าใช้จ่ายในการรื้อปลดสายสื่อสารของการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมารวมในต้นทุนเรียกเก็บกับประชาชน
เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9818 | ขออนุมัติโครงการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แห่งที่ 2 ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อขอดำเนินกระบวนการเพื่อให้ได้มาซึ่งเอกชนที่จะเป็นผู้รับงานนั้นไปพลางก่อน | ยธ. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างโครงการจ้างก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลราชทัณฑ์
แห่งที่ ๒ คู่ขนานไปกับการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental
Impact Assessment : EIA) ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๙ วรรคสี่
และราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๖๗
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงยุติธรรม (กรมราชทัณฑ์) รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรเร่งดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการขอกันเงินงบประมาณปี
พ.ศ. ๒๕๖๓ ไว้เบิกเหลื่อมปี ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ไปดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9819 | การเสนองบประมาณและแผนการดำเนินงานประจำปี 2564 ขององค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย | พน. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบงบประมาณและแผนการดำเนินงานประจำปี ๒๕๖๔ ขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย จำนวน
๔,๖๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลงร้อยละ ๔ หรือ ๑๙๑,๗๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ จากงบประมาณที่ได้รับอนุมัติในปี
๒๕๖๓ โดยมีรายละเอียดค่าใช้จ่าย ได้แก่ (๑) ค่าใช้จ่ายที่ลดลง ได้แก่
เงินเดือนเจ้าหน้าที่ ค่าฝึกอบรม และค่าเดินทางของคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ และ (๒)
ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ค่าจ้างที่ปรึกษาด้านต่าง ๆ การจัดซื้อรถยนต์เพื่อทดแทนคันเดิมที่ใช้งานมากกว่า
๕ ปี จำนวน ๓ คัน และการปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับ Video
conference ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
และให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรให้ความสำคัญในการควบคุม
กำกับ ดูแล การดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
การเสนองบประมาณและแผนการดำเนินงานประจำปีขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ในปีต่อ ๆ ไป
ให้กระทรวงพลังงานเร่งดำเนินการเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง
ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๓๖) ออกตามความในพระราชบัญญัติองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย พ.ศ. ๒๕๓๓
อย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9820 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองเชียงรากใหม่ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ. | 22/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองเชียงรากใหม่
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองเชียงรากใหม่
ในท้องที่ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน
การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาให้เป็นไปตามรูปแบบการร่างกฎหมายแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|