ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 499 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 9961 - 9980 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
9961 | ขออนุมัติในหลักการเตรียมความพร้อมโครงการบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่าง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี | กษ. | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. รับทราบการเตรียมความพร้อมโครงการบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่าง
อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี เพื่อกรมชลประทานจะได้ดำเนินการ ดังนี้
(๑)
กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในขั้นตอนการสำรวจ-ออกแบบรายละเอียดและชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการ
และ (๒) กระบวนการจัดหาที่ดินเพื่อการก่อสร้าง และงานเตรียมความพร้อมเพื่อก่อสร้าง
ทั้งนี้ เมื่อมีความพร้อมในด้านต่าง ๆ แล้ว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติดำเนินโครงการอีกครั้งและเริ่มงานก่อสร้างได้ภายในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้อง
เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กฎหมาย ระเบียบ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เช่น
ควรมีการบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาผลกระทบในองค์รวม
และควรศึกษาแนวทางเลือกของแหล่งเงิน เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการศึกษาแนวทางเลือกของแหล่งเงินในการดำเนินโครงการฯ
นอกเหนือจากงบประมาณ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
9962 | ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันความเสี่ยงเกี่ยวกับการทุจริตในการบริหารจัดการงบประมาณโครงการกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ | ปช. | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันความเสี่ยงเกี่ยวกับการทุจริตในการบริหารจัดการงบประมาณโครงการกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ใน
๓ ระบบ ได้แก่ (๑) ระบบการจัดสรรงบประมาณ ตั้งแต่การเสนอโครงการเพื่อขอรับงบประมาณ
และการอนุมัติโครงการ (๒) ระบบการบริหารงบประมาณ การเบิกจ่ายงบประมาณ
และการใช้จ่ายงบประมาณ และ (๓) ระบบการติดตามและประเมินผล
และการรายงานผลการดำเนินโครงการ ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติต่อไป
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข
และสำนักงบประมาณ เช่น
ให้ดำเนินการวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงต่อการทุจริตตามแนวทางที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติกำหนด
และให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและกระทรวงมหาดไทยนำข้อเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไปดำเนินการตามภารกิจ
รวมทั้งติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไป
เป็นต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
9963 | ขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้่นที่ 1 เอ เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ของบริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด ที่จังหวัดสระบุรี | อก. | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติการขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ
เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ ตามคำขอต่ออายุประทานบัตร ที่ ๗/๒๕๕๗
(ประทานบัตรที่ ๒๘๐๓๔/๑๕๗๒๓) ของบริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด ที่จังหวัดสระบุรี
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ และ ๖
กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้กระทรวงอุตสาหกรรม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ เช่น (๑)
ผู้รับอนุญาตต้องดูแล รักษา และปลูกต้นไม้ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ทำหมืองแร่และบริเวณใกล้เคียง
เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ ของพื้นที่ทั้งหมดที่ได้รับอนุญาต (๒)
คณะรัฐมนตรีสามารถผ่อนผันการใช้พื้นที่ดังกล่าวได้ หากข้อเท็จจริงปรากฏว่า
พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่แผนแม่บทการบริหารจัดการแร่กำหนดให้เป็นเขตแหล่งแร่เพื่อการทำเหมืองแร่
และคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเห็นว่า
การดำเนินการดังกล่าวมีความคุ้มค่าในทางเศรษฐกิจและสอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่
และ (๓) กระทรวงอุตสาหกรรมควรดำเนินการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลด้านอุปทานและความต้องการใช้แร่ในภาพรวมและแร่ชนิดต่าง
ๆ
รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรศึกษาเพื่อประเมินสถานการณ์ปัจจุบันของพื้นที่ป่าต้นน้ำของประเทศไทยให้ชัดเจน
และควรพิจารณาตรากฎหมายเพื่อคุ้มครองพื้นที่ป่าต้นน้ำต่อไป เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
รวมทั้งให้กระทรวงอุตสาหกรรมกำกับติดตามการดำเนินการของผู้ได้รับประทานบัตรให้ถูกต้อง
เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
และให้กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานผลการกำกับติดตามฯ ให้คณะรัฐมนตรีทราบทุก ๓ ปี
ตลอดอายุประทานบัตรด้วย ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและสังคมต่อท้องถิ่นและประเทศของการผ่อนผันให้ใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ
เปรียบเทียบกับมูลค่าความเสียหายจากผลกระทบสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพที่อาจเกิดขึ้น
ให้เหมาะสมและเป็นปัจจุบันมากยิ่งขึ้น |
||||||||||||||||||||||||||||||
9964 | ข้อเสนอแนะเพื่อยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index : CPI) ระยะที่ 3 | ปช. | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต
(Corruption Perceptions Index : CPI) ระยะที่ ๓ (พ.ศ.
๒๕๖๐-๒๕๖๔) ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ
ป.ป.ช.) เห็นว่า ข้อเสนอแนะเพื่อยกระดับ CPI (ระยะที่ ๑)
และข้อเสนอแนะเพื่อยกระดับคะแนน CPI ระยะที่ ๒ ยังคงมีปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการ
เช่น ความไม่สอดคล้องของปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข
การขาดการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงาน
และการขาดระบบการติดตามและการประเมินผลที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น โดยคณะกรรมการ
ป.ป.ช. ได้มีข้อเสนอแนะและได้มอบหมายให้มีหน่วยงานหลักเพื่อดำเนินการในประเด็นต่าง
ๆ ด้วยแล้ว ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอ ๒.
ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.)
เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือกับสำนักงาน ป.ป.ช.
เพื่อพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ.ร. เช่น
ควรนำเทคโนโลยีและระบบดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินการต่าง ๆ
ควรปรับปรุงกฎและระเบียบเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่เป็นปัจจุบันให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและตรวจสอบได้
และควรศึกษาแนวทางการดำเนินการและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับประเทศที่มีคะแนนในแหล่งข้อมูลมากกว่า
๕๐ คะแนน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
9965 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. .... | กค. | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน
พ.ศ. ๒๕๖๓
เกี่ยวกับประเภทของพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุนและกำหนดวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างสำหรับพัสดุส่งเสริมวิสาหกิจและการประกอบอาชีพพัสดุส่งเสริมพัสดุที่ผลิตในประเทศ
และพัสดุส่งเสริมพัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เห็นว่า
ร่างกฎกระทรวงตามหมวด ๒ ข้อ ๖ (๖) เป็นการครอบคลุมกิจการเพียง ๒ ประเภท ได้แก่
กิจการผลิตสินค้า และกิจการให้บริการ จากทั้งหมด ๔ ประเภท ที่กำหนดไว้ตามมาตรา ๓
แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. ๒๕๔๓
ซึ่งประกอบด้วยกิจการผลิตสินค้า กิจการให้บริการ กิจการค้าส่ง และกิจการค้าปลีก
นอกจากนี้
กิจการค้าส่งและกิจการค้าปลีกเป็นการประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
ที่มีการจัดซื้อจัดจ้างกับภาครัฐเป็นลำดับ ๒ รองจากการก่อสร้าง
จึงเห็นควรที่จะต้องกำหนดให้มีการครอบคลุมกิจการค้าส่งและค้าปลีก
รวมทั้งเห็นควรปรับปรุงรายละเอียดของหมวด ๒ ข้อ ๗ (๒) (ก) จาก “รายการสินค้า” เป็น
“รายการสินค้าบริการ”
เพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างทางธุรกิจของผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
และสอดคล้องกับประเภทการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐ
(จ้างทำของ/จ้างเหมาบริการ) ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นควรให้หน่วยงานของรัฐรายงานผลการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุจากผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
(SMEs) ทุกปีงบประมาณไปยังสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมผ่านระบบการรายงานผลการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
(Electronic Government Procurement : e-GP) และการขึ้นบัญชีรายการพัสดุและบัญชีรายชื่อผู้ประกอบการไทย
ควรกำหนดให้สะดวกและไม่เป็นภาระแก่ผู้ประกอบการไทย
โดยอาจดำเนินการโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
รวมทั้งต้องมีความโปร่งใสตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
9966 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดด่านศุลกากรและด่านพรมแดน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ด่านศุลกากรเชียงแสน) | กค. | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดด่านศุลกากรและด่านพรมแดน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดด่านศุลกากรและด่านพรมแดน พ.ศ.
๒๕๖๐ เพื่อปรับปรุงสถานที่ตั้งด่านศุลกากร เขตศุลกากร
และด่านพรมแดนของด่านศุลกากรเชียงแสน
เนื่องจากด่านศุลกากรเชียงแสนได้ย้ายสถานที่ปฏิบัติราชการไปสถานที่แห่งใหม่
เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติพิธีการศุลกากรและการตรวจของที่ขนส่งมาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
9967 | รายงานสรุปผลการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 23 (23rd Meeting of the ASEAN Socio - Cultural Community: ASCC Council) ผ่านระบบการประชุมทางไกล | พม. | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ครั้งที่ ๒๓ (23rd Meeting of the ASEAN Socio-Cultural
Community : ASCC Council) เมื่อวันที่ ๒๓
มิถุนายน ๒๕๖๓ ผ่านระบบการประชุมทางไกล ซึ่งที่ประชุมได้มีมติร่วมกันในประเด็นต่าง
ๆ เช่น (๑) สนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และแนวคิดหลัก
“แน่นแฟ้นและตอบสนอง”
และแผนงานสำคัญสำหรับประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (๒)
รับรองถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ครั้งที่ ๒๓ และเห็นชอบให้เสนอเอกสารผลลัพธ์สำคัญต่อผู้นำอาเซียนเพื่อรับรอง
หรือเพื่อรับทราบ ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๖ จำนวน ๓ ฉบับ (๓)
รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการประเมินผลแผนงานประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ค.ศ. ๒๐๒๕ ในระยะครึ่งแผน
และให้นำเสนอแผลการประเมินดังกล่าวต่อผู้นำอาเซียนในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่
๓๗ ในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๓ และ (๔)
รับทราบรายงานของเจ้าหน้าที่อาวุโสสำหรับประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนเกี่ยวกับความก้าวหน้าในประเด็นต่าง
ๆ ที่ต้องบูรณาการระหว่างสาขา และระหว่างสามเสาของประชาคมอาเซียน เป็นต้น ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
9968 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาฉุกเฉินการแพทย์เป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. .... | สธ. | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาฉุกเฉินการแพทย์เป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะ
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สาขาฉุกเฉินการแพทย์เป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ
พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้บริการด้านฉุกเฉินการแพทย์แก่ผู้ป่วยซึ่งเป็นการดูแลรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินนอกที่ตั้งสถานพยาบาล
รวมถึงการเคลื่อนย้ายหรือลำเลียงผู้ป่วยตั้งแต่ที่เกิดเหตุจนถึงสถานพยาบาล
เพื่อให้การให้บริการมีมาตรฐานในการประกอบวิชาชีพ
เพื่อให้การช่วยเหลือและรักษาชีวิตของผู้ป่วยให้ทันเวลา ลดความสูญเสียและความพิการ
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
และสำนักงาน ก.พ.
ที่เห็นควรพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของการกำหนดให้ปริญญาหรือประกาศนียบัตรด้านทันตกรรมเป็นสาขาที่เทียบเท่าด้านฉุกเฉินการแพทย์
รวมทั้งควรพิจารณากำหนดนิยามของ “นักฉุกเฉินการแพทย์” ให้ชัดเจน และควรพิจารณากำหนดชื่อหน่วยงานในร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ให้สอดคล้องตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๖๓ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร.
ที่เห็นควรเร่งรัดการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุขที่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินงานและบริหารจัดการการแพทย์ฉุกเฉินของจังหวัด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
9969 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ) | รง. | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง
หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ เป็นข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน (นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์)
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ กันยายน ๒๕๖๓) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
9970 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายธนกร วังบุญคงชนะ) | นร.04 | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง
นายธนกร วังบุญคงชนะ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(นายอนุชา นาคาศัย) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ กันยายน ๒๕๖๓)
เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
9971 | รายงานผลการประเมินองค์การมหาชนและผู้อำนวยการองค์การมหาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 | นร.12 | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการประเมินองค์การมหาชนและผู้อำนวยการองค์การมหาชน
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒
ซี่งมีองค์การมหาชนที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. ๒๕๔๒
และที่แก้ไขเพิ่มเติม จำนวน ๓๖ แห่ง
และองค์การมหาชนที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติเฉพาะ จำนวน ๑๐ แห่ง รวมทั้งสิ้น ๔๖
แห่ง เข้าสู่ระบบการประเมินของสำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งจากผลการประเมินองค์การมหาชนและผู้อำนวยการองค์การมหาชน
ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพและมาตรฐาน โดยมีองค์การมหาชน ๓ แห่ง
มีผลการประเมินอยู่ในระดับต้องปรับปรุง
และมีผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ
มีผลการประเมินอยู่ในระดับต้องปรับปรุง ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร.
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
9972 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายอารัญ บุญชัย) | กก. | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายอารัญ บุญชัย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
9973 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ) | อว. | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑
ตุลาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
9974 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายอรรถพล เจริญชันษา ฯลฯ รวม 5 ราย) | ทส. | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
จำนวน ๕ ราย เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ
และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ดังนี้ ๑. นายอรรถพล
เจริญชันษา ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ๒. นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายสุรชัย อจลบุญ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ๔. นายอศิศร นุชดำรงค์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ ๕. นายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||
9975 | ขอปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการผู้แทนรัฐบาลเพื่อพิจารณาทำความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศกับรัฐบาลต่างประเทศเป็นประจำ | คค. | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการผู้แทนรัฐบาลเพื่อพิจารณาทำความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศกับรัฐบาลต่างประเทศเป็นประจำ
โดยตัด “ผู้แทน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา”
ออกจากคณะกรรมการดังกล่าว ทั้งนี้ ให้องค์ประกอบอื่นและอำนาจหน้าที่คงเดิม ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ กันยายน ๒๕๖๓) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
9976 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายจำเริญ โพธิยอด ฯลฯ รวม 4 ราย) | กค. | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย
เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม
๒๕๖๓ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑. นายจำเริญ
โพธิยอด ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายพชร
อนันตศิลป์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร ๓. นายลวรณ แสงสนิท ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิต ๔. นางวรนุช ภู่อิ่ม ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||
9977 | การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า | พณ. | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||
9978 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการปรับปรุงรายได้และรายจ่ายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน และร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. .....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดจำนวนรายได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 71 ตรี วรรคสาม รวม 2 ฉบับ [ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการปรับปรุงรายได้และรายจ่ายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน] | กค. | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงรวม
๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑. ร่างกฎกระทรวง
ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการปรับปรุงรายได้และรายจ่ายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะการดำเนินการด้านการพาณิชย์หรือการเงินที่เชื่อได้ว่ามีการถ่ายโอนกำไรระหว่างกันของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน
และกำหนดหลักเกณฑ์ให้เจ้าพนักงานประเมินดำเนินการปรับปรุงรายได้และรายจ่ายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน ๒. ร่างกฎกระทรวง
ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการกำหนดจำนวนรายได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา ๗๑ ตรี
วรรคสาม มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีรายได้ต่อรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกินสองร้อยล้านบาทไม่ต้องรายงานข้อมูลและมูลค่ารวมของธุรกรรมระหว่างบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี |
||||||||||||||||||||||||||||||
9979 | ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้ลดหย่อนการออกเงินสมทบของนายจ้าง และผู้ประกันตน กรณีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) | รง. | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงแรงงาน
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้ลดหย่อนการออกเงินสมทบของนายจ้าง
และผู้ประกันตน กรณีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus
Disease 2019 (COVID-19)] โดยลดหย่อนการออกเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมฝ่ายนายจ้างและฝ่ายผู้ประกันตนเหลือฝ่ายละ
ร้อยละ ๒ ของค่าจ้างของผู้ประกันตน เป็นระยะเวลา ๓ เดือน
ตั้งแต่งวดค่าจ้างเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ถึงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ที่นายจ้างและผู้ประกันตนจะได้รับ
รวมทั้งวางแผนการดำเนินการทางการเงินของกองทุนประกันสังคมในระยะสั้น ระยะกลาง
และระยะยาว โดยคำนึงถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อสภาพคล่องและเสถียรภาพของกองทุนประกันสังคม
รวมถึงภาระการเงินการคลังที่อาจเกิดขึ้นแก่รัฐในอนาคต
ตามนัยของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
9980 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ฯลฯ รวม 3 ราย) | พณ. | 01/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงพาณิชย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย
เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ
ดังนี้ ๑. นายรณรงค์
พูลพิพัฒน์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายทศพล
ทังสุบุตร ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ๓. นายวุฒิไกร
ลีวีระพันธุ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา
|