ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1428 จากทั้งหมด 6223 หน้า แสดงรายการที่ 28541 - 28560 จากข้อมูลทั้งหมด 124445 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 28541 | การขอปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ปฏิบัติงานจัดทำสัญญาประกันภัยเพื่อคุ้มครองการรักษาพยาบาลของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด | ทก | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ปฏิบัติงานจัดทำสัญญาประกันภัยเพื่อคุ้มครองการรักษาพยาบาลของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด โดยให้สอดคล้องเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๑๑ กล่าวคือ หากสิทธิที่จะได้รับเงินจากบริษัทประกันภัยนั้นต่ำกว่าค่ารักษาพยาบาลในคราวนั้น ผู้นั้นจะยังคงมีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลตามสิทธิของตนเองอีก ในส่วนที่ยังขาดอยู่หลังจากได้รับเงินจากบริษัทประกันภัยไปแล้ว แต่ต้องไม่เกินไปกว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ๒. ให้บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรให้กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับวิธีการและหลักฐานการเบิกจ่ายให้ชัดเจนและรัดกุม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 28542 | โครงการ Institutional Capacity Building for ASEAN Monitoring and Statistics ภายใต้กรอบความสัมพันธ์อาเซียน - สหภาพยุโรป | ทก | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอเกี่ยวกับโครงการ Institutional Capacity Building for ASEAN Monitoring and Statistics ภายใต้กรอบความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบในร่างข้อตกลงด้านการเงิน (Financing Agreement : FA) ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการให้การสนับสนุนจำนวนเงินและระยะเวลาในการดำเนินโครงการ โดยหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงร่างดังกล่าวในประเด็นที่มิใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก ๑.๒ อนุมัติให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนลงนาม แล้วให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งสำนักงานเลขาธิการอาเซียนผ่านคณะผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา เห็นชอบต่อร่าง FA และให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในข้อตกลงดังกล่าว ๒. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับการหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับรายการสถิติและเครื่องชี้ที่จะกำหนดไว้ภายใต้ขอบเขตการดำเนินการของโครงการฯ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 28543 | สรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 | ทก | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน มีจำนวนทั้งสิ้น ๓๙.๓๔ ล้านคน ประกอบด้วย ผู้มีงานทำ ๓๘.๘๑ ล้านคน ผู้ว่างงาน ๒.๔๕ แสนคน และผู้ที่รอฤดูกาล ๒.๘๕ แสนคน โดยผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี ๒๕๕๕ จำนวน ๕.๔ แสนคน (จาก ๓๘.๘๐ ล้านคน เป็น ๓๙.๓๔ ล้านคน) ๒. ผู้มีงานทำ ๓๘.๘๑ ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี ๒๕๕๕ จำนวน ๗.๕ แสนคน (จาก ๓๘.๐๖ ล้านคน เป็น ๓๘.๘๑ ล้านคน) หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒.๐ ซึ่งผู้ทำงานเพิ่มขึ้น ได้แก่ ผู้ทำงานภาคเกษตรกรรม สาขาการก่อสร้าง สาขาที่พักแรมและการบริการด้านอาหาร สาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ และรถจักรยานยนต์ สาขาการผลิต สาขาการบริหารราชการ การป้องกันประเทศ และสาขากิจกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์ สำหรับผู้ทำงานลดลง ได้แก่ ผู้ทำงานสาขากิจกรรมการบริการอื่น ๆ เช่น กิจกรรมบริการเพื่อสุขภาพร่างกาย การดูแลสัตว์เลี้ยง การบริการซักรีดซักแห้ง เป็นต้น และสาขากิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย ๓. ผู้ว่างงานทั่วประเทศ มีจำนวน ๒.๔๕ แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ ๐.๖ ของกำลังแรงงานรวม (ลดลง ๑.๑ หมื่นคน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี ๒๕๕๕) ประกอบด้วย ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อน จำนวน ๑.๐๒ แสนคน อีกส่วนหนึ่งเป็นผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน จำนวน ๑.๔๓ แสนคน โดยเป็นผู้ว่างงานที่มาจากภาคการผลิต ๗.๖ หมื่นคน ภาคการบริการและการค้า ๔.๙ หมื่นคน และภาคเกษตรกรรม ๑.๘ หมื่นคน ผู้ว่างงานเป็นผู้มีการศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา ๑.๑๓ แสนคน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ๔.๕ หมื่นคน ระดับประถมศึกษา ๔.๕ หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ๓.๖ หมื่นคน และไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา ๖.๐ พันคน ผู้ว่างงานส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๙.๘ หมื่นคน ภาคกลาง ๖.๐ หมื่นคน ภาคใต้ ๔.๖ หมื่นคน กรุงเทพมหานคร ๒.๕ หมื่นคน และภาคเหนือ ๑.๖ หมื่นคน โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้มีอัตราการว่างงานสูงสุดร้อยละ ๐.๘ รองลงมาเป็นภาคกลางและกรุงเทพมหานครร้อยละ ๐.๖ และภาคเหนือร้อยละ ๐.๒
|
||||||||||||||||||||||||
| 28544 | รายงานความก้าวหน้าการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ | ทก | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ของสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) โดยผลการจัดอันดับ Waseda University International e-Government Ranking 2013 ของสถาบันรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยวาเซดะ ซึ่งประกาศผลเมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ พบว่า ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ ๒๐ จาก ๕๕ ประเทศทั่วโลก มีลำดับที่ดีขึ้น ๓ อันดับ (ปี ค.ศ. ๒๐๑๒ ไทยจัดอยู่ในลำดับที่ ๒๓) และเป็นอันดับ ๒ ในภูมิภาคเอเชีย รองจากสาธารณรัฐสิงคโปร์ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 28545 | ผลการเข้าร่วมการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง (ACMECS) ครั้งที่ 5 และการหารือทวิภาคีของนายกรัฐมนตรี | นร04 | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการเข้าร่วมการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ครั้งที่ ๕ และการหารือทวิภาคีของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๓ มีนาคม ๒๕๕๖ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และมอบหมายหน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามผลการเข้าร่วมการประชุม ACMECS ครั้งที่ ๕ และการหารือทวิภาคีของนายกรัฐมนตรีตามตารางติดตามผลการประชุมและการหารือดังกล่าวที่กระทรวงการต่างประเทศจัดทำต่อไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. การประชุม ACMECS ครั้งที่ ๕ ประเด็นติดตาม ได้แก่ การดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมการทำเกษตรแบบมีสัญญาระหว่างไทยกับ สปป.ลาว การเจรจาทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมการทำเกษตรแบบมีสัญญาระหว่างไทยกับกัมพูชา การอำนวยความสะดวกการผ่านและข้ามแดนของคนและสินค้าตามแนวเส้นทาง R8 และ R12 การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยการให้ทุนการศึกษาและฝึกอบรมตามที่ภาคเอกชนเรียกร้อง การผลักดันให้ความร่วมมือด้านการค้าข้าวมีความคืบหน้า การจัดตั้งเมืองคู่แฝดชายแดน (Sister Cities) การยกระดับของการรักษาพยาบาลพื้นฐาน และการป้องกันโรคติดต่อ โดยเฉพาะบริเวณชายแดน การพัฒนา Tourism Corridors เชื่อมโยงท่องเที่ยววัฒนธรรมของ ๕ ประเทศสมาชิก เช่น พุกาม-เชียงใหม่-หลวงพระบาง-เวียงจันทน์-เสียมราฐ-เว้ โครงการ ACMECS Single Visa และการดำเนินความร่วมมือภายใต้กรอบ ACMECS อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ๒. การหารือทวิภาคีของนายกรัฐมนตรี ในระหว่างการประชุม ACMECS ครั้งที่ ๕ ๒.๑ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประเด็นติดตาม ได้แก่ การสถาปนาหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ การประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนาม อย่างไม่เป็นทางการ (JCR) ครั้งที่ ๓ การติดตามความเห็นของเวียดนามต่อร่างแผนปฏิบัติการขยายความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การอำนวยความสะดวกในการขนส่งไทย-ลาว-เวียดนาม บนเส้นทางหมายเลข ๘ และ ๑๒ ความร่วมมือเรื่องข้าวและยางพารา และความร่วมมือด้าน ACMECS Single Visa ๒.๒ สปป.ลาว ประเด็นติดตาม ได้แก่ การประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-ลาว อย่างไม่เป็นทางการ (JCR) ครั้งที่ ๒ การก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ ๔ ให้แล้วเสร็จและการจัดพิธีเปิดสะพาน และการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ ๕ (บึงกาฬ-ปากซัน) การก่อสร้างสะพานสำหรับรถไฟคู่ขนานกับสะพานมิตรภาพ แห่งที่ ๑ การอำนวยความสะดวกในการขนส่งไทย-ลาว-เวียดนาม บนเส้นทางหมายเลข ๘ และ ๑๒ การประชุม JBC ครั้งที่ ๙ และความร่วมมือด้าน ACMECS Single Visa ๒.๓ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ประเด็นติดตาม ได้แก่ โครงการทวาย การแก้ปัญหาลักลอบค้าตามชายแดน และแรงงานเมียนมาร์
|
||||||||||||||||||||||||
| 28546 | ขอให้รัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ | วท | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติตอบรับการเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomie Energy Agency : IAEA) ของประเทศไทย จำนวน ๓ รายการ ได้แก่ ๑.๑ การประชุมทางวิชาการ ในหัวข้อ “Severe Acute and Moderate Malnutrition (jointly with the International Malnutrition Task Force, IMTF) in South-East Asia” ณ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๒๗-๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ๑.๒ การฝึกอบรมในหัวข้อ “Image Based Radiotherapy and QA for Lung and Gastrointestinal Cancer” ณ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๖-๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ๑.๓ การประชุมเพื่อปรึกษาหารือ ในหัวข้อ “Drafting the Guidelines on Clinical Use of SPECT/CT and Finalizing the Reporting Templates” ณ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ๒. เห็นชอบร่างหนังสือตอบรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมและฝึกอบรม และหากมีการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำที่มิใช่สารัตถะของร่างหนังสือตอบรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมและฝึกอบรม ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาดำเนินการแทนคณะรัฐมนตรี โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก ๓. อนุมัติให้เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติเป็นผู้ลงนามในร่างหนังสือตอบรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมและฝึกอบรมทั้ง ๓ รายการ |
||||||||||||||||||||||||
| 28547 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีกรณีเงินช่วยเหลือตามโครงการ เกษียณอายุก่อนกำหนด) | กค | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๗๒ (พ.ศ. ๒๕๕๒) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร เพื่อกำหนดให้การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินช่วยเหลือข้าราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ ตามพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ พ.ศ. ๒๕๕๑ มีผลบังคับใช้สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่ปีภาษี พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 28548 | การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 | นร07 | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้
๑. การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ของกระทรวง ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ๒. ให้สำนักงบประมาณนำข้อเสนอตามข้อ ๑. ที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีไปจัดทำเป็นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ และเอกสารประกอบงบประมาณ โดยให้ส่งร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ดังกล่าว ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน และแจ้งผลการพิจารณาให้สำนักงบประมาณทราบโดยตรงก่อนนำไปจัดพิมพ์เป็นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ และเอกสารประกอบงบประมาณ และนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบในวันอังคารที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๖ และนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 28549 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโนนสะอาด อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี พ.ศ. .... | คค | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโนนสะอาด อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโนนสะอาด อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี เพื่อสร้างทางหลวงชนบทตามโครงการก่อสร้างทางต่างระดับบนทางหลวงชนบท อด. ๑๐๐๕ บริเวณจุดตัดทางรถไฟ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 28550 | การแก้ไขความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศว่าด้วยสำนักงานภาคตะวันออกไกลและแปซิฟิกขององค์การดังกล่าว | คค | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแก้ไขความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศว่าด้วยสำนักงานภาคตะวันออกไกลและแปซิฟิกขององค์การดังกล่าว (Agreement between the Government of the Kingdom of Thailand and the International Civil Aviation Organization regarding the Far East and Pacific Office of the said organization) โดยเพิ่มคำว่า “อาคารสำนักงานเลขาธิการ” (Secretariat Building) และ “อาคารการประชุม” (Conference Building) ไว้ใน Article III Section 4 ของความตกลงฯ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 28551 | ข้อเสนอการขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2557 | กค | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกรอบวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำนวน ๒,๔๓๖.๔๔๒ ล้านบาท และ ๑,๕๒๔.๘๓๕ ล้านบาท ตามลำดับ ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง และให้ทั้งสองหน่วยงานดังกล่าวกู้เงินเพื่อเป็นเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามกรอบวงเงินที่เสนอ โดยรัฐรับภาระหนี้และให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้และค้ำประกันการกู้เงิน พิจารณาวิธีการกู้เงิน รายละเอียดและเงื่อนไขในการกู้เงินต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
| 28552 | ข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ | กต | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบต่อการดำเนินการตามข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council : UNSC) ที่ ๒๐๙๔ (ค.ศ. ๒๐๑๓) เกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ รวมทั้งรายชื่อบุคคลที่ถูกห้ามการเดินทางและอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติม รายชื่อคณะบุคคลที่ถูกอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติม รายการสิ่งของ วัสดุ เครื่องมือ สินค้า และเทคโนโลยี และรายการสินค้าฟุ่มเฟือย ๒. ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของไทย ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ การท่าเรือแห่งประเทศไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย คณะกรรมการการบินพลเรือน และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ปฏิบัติตามข้อมติดังกล่าว และปรับปรุงฐานข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวให้เป็นไปตามรายชื่อล่าสุด |
||||||||||||||||||||||||
| 28553 | รายงานผลการเดินทางไปราชการต่างประเทศของรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | กษ | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางไปราชการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายยุคล ลิ้มแหลมทอง) เพื่อเข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลมด้านการเกษตร ในหัวข้อเรื่อง “Food Security : the Asian Solution” ภายใต้ Boao Forum for Asia Annual Conference 2013 ระหว่างวันที่ ๖-๘ เมษายน ๒๕๕๖ ณ มณฑลไหหลำ สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุม Boao Forum for Asia Annual Conference 2013 ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (นายสี จิ้นผิง) ประธานในพิธีการประชุมฯ ได้กล่าวสุนทรพจน์มีสาระสำคัญเกี่ยวกับความท้าทายและความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจระดับภูมิภาคเอเชียและระดับโลกภายใต้การเปลี่ยนแปลง ซึ่งเอเชียมีศักยภาพและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในโลก ความพยายามร่วมกันในการเสริมสร้างเสถียรภาพของภูมิภาคเอเชียซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลกจำเป็นต้องใช้ความไว้วางใจและการทำงานร่วมกันเพื่อส่งผลให้การพัฒนาเศรษฐกิจของโลกประสบความสำเร็จ การพัฒนาของสาธารณรัฐประชาชนจีนยังคงมีความท้าทายต่อไปในอนาคต ซึ่งสาธารณรัฐประชาชนจีนยังคงให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจของสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาให้มีศักยภาพในการแข่งขัน รวมทั้งมุ่งเน้นการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างประเทศเพื่อนบ้านต่าง ๆ ๒. การหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (นายหาน ฉางฟู่) เกี่ยวกับความร่วมมือด้านการเกษตร โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมีความเห็นร่วมกันว่า ความมั่นคงทางอาหารเป็นเรื่องที่รัฐบาลทั้งสองประเทศยังต้องให้ความสำคัญ ซึ่งความร่วมมือทางด้านวิชาการเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารของแต่ละประเทศ รวมถึงภูมิภาคและทั่วโลก นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงแนวทางการดำเนินความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิจัยและพัฒนาร่วมกันในด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ และการลงทุนจัดตั้งบริษัทในการซื้อสินค้าเกษตรจากประเทศไทย รวมถึงความร่วมมือทางด้านสหกรณ์ โดยฝ่ายไทยได้เชิญให้ฝ่ายจีนมาแลกเปลี่ยนและศึกษาดูงานด้านสหกรณ์ในประเทศไทยเพื่อจะได้เชื่อมโยงในกิจกรรมร่วมกันทั้งการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการซื้อขายสินค้าระหว่างกันในอนาคต ๓. การเข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลมด้านการเกษตรในประเด็นความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายยุคล ลิ้มแหลมทอง) ได้กล่าวอภิปรายโดยมีสาระสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า ความมั่นคงทางอาหารเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและเป็นเรื่องที่ทุกประเทศต้องให้ความสำคัญ ซึ่งประเทศไทยในฐานะประเทศที่ส่งออกสินค้าเกษตรและมีเป้าหมายในการเป็นครัวของโลกได้มีการปฏิรูปด้านนโยบาย โดยการดำเนินการในนโยบายกำหนดเขตการผลิตสินค้าเกษตรที่มีการแนะนำในการปลูกพืชที่เหมาะสมกับดินเพื่อเพิ่มผลผลิตทางด้านการเกษตร รวมทั้งดำเนินการเตรียมการรองรับผลผลิตโดยการจัดเตรียมแหล่งรวบรวมผลผลิต แหล่งแปรรูป และการตลาด รวมถึงการเตรียมการในด้านระบบการขนส่งที่ต้องมีการเชื่อมโยงกับแหล่งการผลิตรวมถึงการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงรากฐานของการพัฒนาทางด้านการเกษตรของประเทศไทยที่ได้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาดำเนินการในการสร้างความมั่นคงทางอาหารของประเทศไทยในชนบท และยังชี้ให้เห็นว่า การพัฒนาทางด้านการเกษตรต้องคำนึงถึงการดำเนินการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องใช้ความร่วมมือจากทุกประเทศเพื่อความมั่นคงทางอาหารของภูมิภาคและของทั่วโลก เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชากรโลกอย่างยั่งยืนต่อไป ๔. การดูงานด้านการเกษตร โดยกระทรวงเกษตรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนจัดการดูงานด้านการเกษตรให้กับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายยุคล ลิ้มแหลมทอง) ๒ แห่ง ได้แก่ หมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงเกษตรเมืองป๋ออ้าว ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ให้ความสนใจในการเดินทางมาพักผ่อนและรับประทานอาหารพื้นบ้านที่ปรุงโดยผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกร และกลุ่มสหกรณ์ผู้ปลูกผักหมู่บ้านตัวหมู่ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อรวมกลุ่มเกษตรกรในการเพาะปลูกบนพื้นที่ ๑๕๐ ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐบาล
|
||||||||||||||||||||||||
| 28554 | ร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วย หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการอนุญาตให้ส่งออกน้ำตาลทราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อก | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการอนุญาตให้ส่งออกน้ำตาลทราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายมีอำนาจในการออกประกาศหรือระเบียบปฏิบัติรองรับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และการให้บริการผู้ประกอบการตามขั้นตอนการปฏิบัติงานในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และรองรับการออกใบอนุญาตและใบรับรองเพื่อการส่งออกน้ำตาลทรายผ่านระบบ National Single Window ได้ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 28555 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... | มท | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่กรุงเทพมหานคร เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและดำรงรักษากรุงเทพมหานคร โดยมีการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อมที่ดี มีมาตรฐาน และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองน่าอยู่ เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจวิทยาการของประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และศูนย์กลางการบริหารและการปกครองของประเทศ มีเอกลักษณ์ด้านศิลปวัฒนธรรมของชาติ ตลอดจนการเป็นเมืองต้นแบบในด้านการรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ รวมไปถึงลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการผังเมือง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นว่า เพื่อประโยชน์ในการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของประเทศไทย ควรพิจารณาร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... ในส่วนที่ ๑ แผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามที่ได้จำแนกประเภทให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๒๔ เรื่อง แนวนโยบายการใช้ที่ดินบริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ชั้นใน และข้อเสนอการกำหนดนโยบายการใช้ที่ดินบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี ตรงข้ามบริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ชั้นใน รวมทั้งข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง และแผนแม่บทเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาบริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ที่ส่งเสริมให้มีพื้นที่โล่งว่างสีเขียว การอนุรักษ์โบราณสถานและสถาปัตยกรรมที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม และการลดความหนาแน่นแออัดของอาคาร สถานที่ และการจราจร ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรบูรณาการผังเมืองให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัด แผนบริหารจัดการน้ำของคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ โดยคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและการพัฒนาของพื้นที่เป็นสำคัญ การพิจารณาศักยภาพของการพัฒนาพื้นที่ที่จะดำเนินการวางและจัดทำผังเมือง การดำเนินการวางและจัดทำผังเมืองให้สอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งควรจะได้มีการกำหนดมาตรการบังคับใช้กฎหมายให้มีผลตามข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มข้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีพื้นที่ประเภทอนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม ซึ่งทำหน้าที่เป็นพื้นที่หน่วงน้ำและช่องทางผันน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากตามแผนบริหารจัดการน้ำของคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และเปิดโอกาสให้อุตสาหกรรมเอกลักษณ์ประจำถิ่นพื้นบ้านในพื้นที่เขตต่าง ๆ สามารถดำรงอยู่ในพื้นที่นั้น ๆ ทั้งนี้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎกระทรวงฉบับนี้มีผลในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง เมื่อร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ประกาศใช้ กรุงเทพมหานครจะต้องให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจในรายละเอียดของกฎกระทรวงฯ และเผยแพร่กฎกระทรวงผังเมืองรวมและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง ผ่านสื่อต่าง ๆ ให้เข้าถึงได้สะดวก รวมทั้งควบคุมการดำเนินการให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎกระทรวงดังกล่าวอย่างเข้มงวดและต่อเนื่องต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๔. มอบให้กระทรวงการคลังไปพิจารณาดำเนินการในเรื่องโครงการพัฒนาที่ดินราชพัสดุบริเวณสถานีขนส่งหมอชิตตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เมื่อร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้มีผลใช้บังคับแล้ว |
||||||||||||||||||||||||
| 28556 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลคำพราน ตำบลวังม่วง และตำบลแสลงพัน อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี พ.ศ. .... | กษ | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลคำพราน ตำบลวังม่วง และตำบลแสลงพัน อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลคำพราน ตำบลวังม่วง และตำบลแสลงพัน อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ในการก่อสร้างระบบส่งน้ำ ตามโครงการอ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 28557 | การปรับองค์ประกอบคณะกรรมการระดับชาติเพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย (จำนวน 5 ราย) | รง | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการระดับชาติเพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายเพิ่มเติม จำนวน ๕ราย ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้
๑. ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรรมการ ๒. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กรรมการ ๓. ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ กรรมการ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ๔. อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กรรมการ ๕. ผู้อำนวยการกลุ่มงานแรงงานหญิง เด็ก และเครือข่าย กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ การคุ้มครองแรงงาน สำนักคุ้มครองแรงงาน กรม สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน |
||||||||||||||||||||||||
| 28558 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร | สผ | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร กับผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานอัยการสูงสุด ในประเด็นการส่งสำนวนการสอบสวนในกรณีที่ผู้ต้องหาซึ่งถูกจับและได้รับการปล่อยชั่วคราวหลบหนีไป หรือผู้ต้องหาที่หลบหนีจากการควบคุมหรือการขัง หรือกรณีที่ไม่มีการจับแต่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาแล้วและผู้ต้องหาหลบหนีไปตาม ป.วิ.อ. ม. ๑๔๑ และ ม. ๑๔๒ ที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ แล้วแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป โดยในส่วนของผลการดำเนินการตามข้อสังเกตฯ สรุปได้ ดังนี้
๑. สำนักงานศาลยุติธรรมแจ้งว่า เป็นการดำเนินการซึ่งอยู่ในขั้นตอนของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของสำนักงานศาลยุติธรรมโดยตรง จึงเห็นควรให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นผู้ดำเนินการพิจารณาต่อไป ๒. สำนักงานตำรวจแห่งชาติเห็นชอบกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ ๓. สำนักงานอัยการสูงสุดเห็นว่า การแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจะทำให้เกิดปัญหาข้อขัดข้องในการดำเนินคดีอาญาในชั้นพนักงานอัยการ ทั้งในด้านการสั่งฟ้องของพนักงานอัยการและการติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดี นอกจากนี้ ยังอาจส่งผลให้ผู้ต้องหาไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพตามที่กฎหมายกำหนด มีการดำเนินคดีที่ไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ตลอดจนเกิดความเสียหายแก่กระบวนการยุติธรรมโดยรวม ดังนั้น การแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องที่ถูกต้องควรเป็นไปตามหลักการบริหารงานยุติธรรม ทั้งนี้ ด้วยการเร่งรัดส่งเสริมประสิทธิภาพของพนักงานสอบสวนให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีให้ได้มากยิ่งขึ้น โดยไม่จำต้องแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายแต่อย่างใด ส่วนการจะแก้ไขปรับปรุงการบริหารงานอย่างใดควรอยู่ในดุลพินิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะต้องพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 28559 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นางสาวเพชรวรรณ พึ่งรัศมี) | สธ | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสาวเพชรวรรณ พึ่งรัศมี ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มงานสนับสนุนประเมินผลและพัฒนาแผนงานวัณโรค กลุ่มวัณโรค สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 28560 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2554 และ 2553 | พน | 30/04/2556 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงพลังงานรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๓ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองการเงินแล้ว และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ งบแสดงฐานะการเงิน กองทุนฯ มีสินทรัพย์หมุนเวียนรวม ๒๓,๑๒๒,๙๒๔,๘๐๑.๒๑ บาท มีสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนรวม ๔,๑๒๓,๖๙๐,๑๖๓.๒๙ บาท มีสินทรัพย์รวม ๒๗,๒๔๖,๖๑๔,๙๖๔.๕๐ บาท มีหนี้สินหมุนเวียนรวม ๑๐๗,๔๖๘,๔๕๔.๖๐ บาท และมีสินทรัพย์สุทธิรวม ๒๗,๑๓๙,๑๔๖,๕๐๙.๙๐ บาท ๑.๒ งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน กองทุนฯ มีรายได้จากการดำเนินงานรวม ๗,๒๕๔,๐๘๙,๕๘๗.๗๑ บาท มีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานรวม ๒,๙๒๘,๒๕๗,๘๒๓.๙๓ บาท และมีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิรวม ๔,๓๒๕,๘๓๑,๗๖๓.๗๘ บาท ๑.๓ งบกระแสเงินสด กองทุนฯ มีเงินสดรับรวม ๘,๗๘๔,๘๓๓,๘๙๗.๙๒ บาท มีเงินสดจ่ายรวม ๓,๔๕๗,๑๗๓,๑๕๙.๔๓ บาท มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดคงเหลือ ณ วันปลายงวดรวม ๒๑,๗๑๓,๘๔๑,๙๕๖.๘๘ บาท ๒. ให้กระทรวงพลังงานจัดส่งรายงานในเรื่องนี้ไปลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภารับทราบรายงานดังกล่าวแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
.....
