ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1421 จากทั้งหมด 6223 หน้า แสดงรายการที่ 28401 - 28420 จากข้อมูลทั้งหมด 124445 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง  | 
									วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 28401 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ) | กค | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละหนึ่งของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าเช่าพื้นที่ ค่าก่อสร้างสถานที่จัดแสดง ค่าประกันภัย ค่าระวาง หรือค่าขนส่งสินค้าและอุปกรณ์ที่ใช้ในการเข้าร่วมงานออกร้าน งานนิทรรศการหรืองานแสดงสินค้าในต่างประเทศ สำหรับรายจ่ายที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานของรัฐว่าได้เข้าร่วมงานจริง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ 
											    												    		 | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28402 | การติดตามงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านความมั่นคงและปลอดภัยของประชาชน ประจำเดือนมีนาคม 2556 | นร04 | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการติดตามงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านความมั่นคงและปลอดภัยของประชาชน ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) เสนอ สรุปได้ ดังนี้ 
											    												    		๑. สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย กระทรวงยุติธรรมได้จ่ายเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง (เมื่อปี ๒๕๔๘-๒๕๕๓) จำนวน ๑๐ ราย เป็นเงิน ๘,๑๕๑,๐๒๔ บาท และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้จ่ายเงินเยียวยาให้ผู้เสียหาย จำนวน ๒,๒๖๗ ราย เป็นเงิน ๑,๗๗๕ ล้านบาท ๒. กำหนดให้การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็น “วาระแห่งชาติ” สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน จำนวน ๕๑,๑๕๘ หมู่บ้าน/ชุมชน และแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด โดยการนำเข้าสู่ระบบบำบัดรักษาทั้ง ๓ ระบบ จำนวน ๑๓๘,๓๖๘ ราย ๓. ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐอย่างจริงจัง สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ปลูกจิตสำนึกและสร้างความตระหนักรู้ โดยมอบรางวัลเชิดชูเกียรติข้าราชการต้นแบบที่มีความประพฤติดี ทุ่มเทในการทำงาน ไม่ทุจริต ซึ่งโครงการได้เสร็จสิ้นแล้ว ส่วนโครงการสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการ (๑ กรม ๑ ป้องกันโกง) มีหน่วยงานส่งข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านการอนุมัติ ๑๔๓ กรม และจังหวัด จำนวน ๗๖ จังหวัด ๔. ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการและเร่งรัดขยายเขตพื้นที่ชลประทาน สำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติได้ดำเนินโครงการตามแผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๕ ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ๘ ลุ่มน้ำ และพื้นที่ลุ่มน้ำอื่น ๆ ๑๗ ลุ่มน้ำ การบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการและเร่งรัดขยายเขตพื้นที่ชลประทานเพื่อส่งน้ำและระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูก ๒๔.๕๒ ล้านไร่ การป้องกันและบรรเทาอุทกภัยพื้นที่การเกษตรและพื้นที่เศรษฐกิจลดลง ๖๐,๐๐๐ ไร่ รวมทั้งการก่อสร้างโครงการชลประทานขนาดใหญ่ ๑๐ โครงการ ๕. เร่งนำสันติสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนกลับมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติได้จัดทำโครงการและกิจกรรมตามนโยบายการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๗ ภายใต้วัตถุประสงค์การเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้และทุกคนในพื้นที่ดำรงชีวิตได้ปกติสุข การขจัดและป้องกันไม่ให้เกิดเงื่อนไขที่หล่อเลี้ยงและเอื้อต่อการใช้ความรุนแรงจากทุกฝ่าย เป็นต้น และได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพิจารณาและบูรณาการแผนงาน/โครงการ และงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการบูรณาการในการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีโครงการที่ซ้ำซ้อนกัน ๖. เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ กระทรวงการคลังรายงานการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง และการประชุมทวิภาคีระดับสูงกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศในอาเซียนของนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ๗. เร่งเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มีนโยบายการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ๒ ล้านล้านบาท ภายในปี ๒๕๕๘ โดยร่วมมือกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อสำรวจพื้นที่ติดตั้งสัญญาณ WiFi ในพื้นที่ ๑๓ จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ตรัง พังงา ชลบุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี เชียงราย เชียงใหม่ เลย นครราชสีมา กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี ๘. สนับสนุนการพัฒนางานศิลปหัตกรรมและผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อการสร้างเอกลักษณ์และการผลิตสินค้าในท้องถิ่น (OTOP และ SMEs) กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินโครงการ/กิจกรรม ได้แก่ การจัดทำฐานข้อมูลผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP โดยในปี ๒๕๕๕ มีผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น ๓๕,๙๘๔ กลุ่ม และมีผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการ/กิจกรรม จำนวน ๗๑,๕๙๑ ผลิตภัณฑ์ และกระทรวงอุตสาหกรรมได้สนับสนุนภารกิจของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในงานศิลปหัตถกรรมอันทรงคุณค่า การยกระดับผู้ประกอบการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์แบบบูรณาการ (OTOP Plus) เป็นต้น ๙. เร่งรัดและผลักดันการปฏิรูปการเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง กระทรวงมหาดไทย ได้จัดการส่งเสริมวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีหมู่บ้านต้นแบบประชาธิปไตยเพิ่มขึ้น ๘,๗๘๐ หมู่บ้าน และอาสาสมัครเพิ่มขึ้น ๑๗๕,๖๐๐ คน และคาดว่าจะมีโครงการจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย ระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ๒๕๕๖ รวม ๑๐๘ เวที กลุ่มเป้าหมาย ๗๕,๗๐๐ คน 
  | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28403 | การติดตามงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านสังคมและคุณภาพชีวิตในส่วนของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์) ประจำเดือนมีนาคม 2556 | นร | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการติดตามงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านสังคมและคุณภาพชีวิต ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์) เสนอ สรุปได้ ดังนี้ 
											    												    		๑. ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน ๑.๑ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กรมการพัฒนาชุมชนได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเรื่องการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัด โดยแจ้งว่ากรมการพัฒนาชุมชนได้โอนให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดดำเนินการตามจำนวนที่ได้รับการจัดสรรจากคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ ซึ่งพิจารณาจากข้อมูลประชากรจังหวัดตามฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง ณ สิ้นปี ๒๕๕๓ แบ่งเป็น ๓ ขนาด ได้แก่ ขนาดเล็กไม่เกิน ๖๐๐,๐๐๐ คน จำนวน ๓๕ จังหวัด ๆ ละ ๗๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ขนาดกลางตั้งแต่ ๖๐๐,๐๐๑ คน-๑,๐๐๐,๐๐๐ คน จำนวน ๒๒ จังหวัด ๆ ละ ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท และขนาดใหญ่ตั้งแต่ ๑,๐๐๐,๐๐๑ คน ขึ้นไป จำนวน ๑๙ จังหวัด ๆ ละ ๑๓๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๑.๒. กองทุนตั้งตัวได้ กระทรวงศึกษาธิการเห็นชอบการกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาสถาบันการศึกษาที่สามารถขอจัดตั้งเป็น ABI (Authorized Business Incubator) และให้ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนตั้งตัวได้จัดทำ TOR การจัดตั้ง ABI เพื่อประกาศใช้ต่อไป ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการบ่มเพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้มีศักยภาพในการประกอบธุรกิจ (กองทุนตั้งตัวได้) วงเงิน ๑,๓๐๐ ล้านบาท โดยมอบงบประมาณดังกล่าวให้กระทรวงศึกษาธิการไปดำเนินการทั้งหมด ๒. พัฒนาระบบประกันสุขภาพ ๒.๑ การสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อเห็นชอบให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปฏิบัติหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางจัดการธุรกรรมการเบิกจ่ายและระบบข้อมูลด้านบริการสาธารณสุข (National Clearing House) ในการบริการเรียกเก็บ (Claim center) ค่าบริการสาธารณสุขของสถานพยาบาลต่าง ๆ ๒.๒ การคุ้มครองสิทธิ ได้มีการปรับปรุงข้อบังคับว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้ให้บริการได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุข กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะหรือพิการ บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นจากอัตราเดิม ๒.๓ การบริการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้มีการพัฒนาระบบการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง และเสนอขอเพิ่มเติมรายการ “งบเพิ่มเติมด้านค่าแรงของหน่วยบริการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข” ในข้อเสนองบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ๒.๔ การสร้างความมั่นคงทางการเงินการคลังของหน่วยบริการ ได้แก่ การติดตาม กำกับ และตรวจสอบหน่วยบริการที่มีภาวะวิกฤติทางการเงิน การอบรมการจัดทำต้นทุนบริการให้กับกลุ่มโรงพยาบาลที่มีภาวะวิกฤติทางการเงินเรื้อรัง การพัฒนาเกณฑ์การประเมินประสิทธิภาพการบริหารการเงินการคลัง การเสริมสร้างประสิทธิภาพการบริหารการเงินการคลังระดับเขตและระดับจังหวัด และการสนับสนุนการจัดทำข้อเสนอการบริหารงานสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคระดับเขต ๓. จัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้แก่โรงเรียน ๓.๑ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดประชุมหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) เพื่อจัดทำข้อมูลจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ของโรงเรียนในแต่ละหน่วยงาน และการจัดซื้อในแต่ละโซน โดยให้แต่ละหน่วยงานที่เป็นเจ้าของงบประมาณแยกทำสัญญาตามผลการประกวดราคา และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยแต่ละหน่วยงานต้องมีหนังสือมอบอำนาจให้ สพฐ. ดำเนินการเฉพาะขั้นตอนการจัดหาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อเห็นชอบและอนุมัติ ๓.๒ สพฐ. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการประกวดราคาการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ซึ่งได้มีการพิจารณาร่าง TOR จัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้กับ ๙ หน่วยงาน ขณะนี้ ร่าง TOR เสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการขออนุมัติ TOR เพื่อจัดซื้อ 
  | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28404 | การดำเนินการเกี่ยวกับการชำระหนี้ตามคำพิพากษารายบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) | กค | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ 
											    												    		๑. รับทราบการดำเนินการเกี่ยวกับการชำระหนี้ตามคำพิพากษารายบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTSC) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ กระทรวงการคลังได้เจรจากับ BTSC เพื่อขอให้ลดดอกเบี้ยตามคำพิพากษา โดย BTSC ลดดอกเบี้ยให้จำนวน ๑๘,๗๑๕,๖๐๘.๒๘ บาท และกระทรวงการคลังได้ชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้วเป็นจำนวน ๑,๑๑๙,๒๗๖,๕๕๔.๔๕ บาท ๑.๒ กระทรวงการคลังตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ตามนัยพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการ ๑.๓ สำหรับเงินที่ชำระให้ BTSC เมื่อกรมธนารักษ์ดำเนินการพัฒนาที่ราชพัสดุบริเวณสถานีขนส่งหมอชิต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๓๕ ในขั้นตอนของการคัดเลือกผู้รับสิทธิพัฒนาจะได้มีการประสานเพื่อกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ที่ได้รับสิทธิจ่ายเงินค่าชดเชยงานก่อสร้างฐานรากพร้อมดอกเบี้ยที่ทางราชการจ่ายให้กับ BTSC ทั้งหมดคืนให้กับรัฐด้วย ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการโครงการพัฒนาที่ดินราชพัสดุบริเวณสถานีขนส่งหมอชิตให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ รวมทั้งเร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่ต้องรับผิดในการละเมิดตามนัยพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นควรเร่งพิจารณาเสนอโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุบริเวณสถานีขนส่งหมอชิตตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๓๕ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการพื้นที่ราชพัสดุแปลงดังกล่าวเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการสนับสนุนการพัฒนาระบบการขนส่งสาธารณะในกรุงเทพมหานคร และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่อประชาชนผู้ใช้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะ และเห็นว่าการสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความผิดทางละเมิดเพื่อหาผู้ต้องรับผิดสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทางราชการนั้น ควรต้องดำเนินการโดยระมัดระวังมิให้การใช้สิทธิเรียกร้องต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดขาดอายุความด้วย และในส่วนของการดำเนินการกับบริษัท บางกอกเทอร์มินอล จำกัด (BKT) หากกรมธนารักษ์ประสงค์จะใช้สิทธิไล่เบี้ยกับ BKT กรมธนารักษ์จะต้องดำเนินการใช้สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจาก BKT ภายในระยะเวลาการฟ้องคดีต่อศาลปกครองตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ เนื่องจากความเสียหายดังกล่าวเป็นเรื่องของความรับผิดตามสัญญาทางปกครอง ไปดำเนินการต่อไปด้วย  | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28405 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลพระธาตุขิงแกง อำเภอจุน จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลพระธาตุขิงแกง อำเภอจุน จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลพระธาตุขิงแกง อำเภอจุน จังหวัดพะเยา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ 
											    												    		 | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28406 | ร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดอัตราส่วนของไอโอดีนที่โรงงานจะนำมาใช้เพื่อการผลิตเกลือบริโภค พ.ศ. .... | อก | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดอัตราส่วนของไอโอดีนที่โรงงานจะนำมาใช้เพื่อการผลิตเกลือบริโภค พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้โรงงานซึ่งประกอบกิจการผลิตเกลือบริโภคที่ใช้ปรุงหรือแต่งรสอาหารต้องผลิตเกลือซึ่งมีปริมาณของไอโอดีน (Iodine) ผสมอยู่ไม่น้อยกว่า ๒๐ มิลลิกรัม และไม่เกิน ๔๐ มิลลิกรัม ต่อเกลือบริโภค ๑ กิโลกรัม ยกเว้นการผลิตเกลือบริโภคที่มีวัตถุประสงค์ผลิตเพื่อส่งออกไปจำหน่ายนอกราชอาณาจักร ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ 
											    												    		
  | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28407 | การปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการ (กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กระทรวงอุตสาหกรรม) | นร09 | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวง รวม ๔ ฉบับ ที่ได้ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาลงนาม และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ดังนี้ 
											    												    		๑. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ดังต่อไปนี้ สำนักบริหารกลาง กองพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ๑-๒ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ ๑-๑๑ สำนักบริหารยุทธศาสตร์ สำนักพัฒนาการจัดการอุตสาหกรรม สำนักพัฒนาผู้ประกอบการ สำนักพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน และสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน ๒. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ดังต่อไปนี้ สำนักบริหารกลาง กองบริหารยุทธศาสตร์ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักกฎหมาย สำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เขต ๑-๓ สำนักบริหารสิ่งแวดล้อม สำนักโลจิสติกส์ สำนักวิศวกรรมและฟื้นฟูพื้นที่ สำนักเหมืองแร่และสัมปทาน และสำนักอุตสาหกรรมพื้นฐาน ๓. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ดังต่อไปนี้ สำนักงานเลขานุการกรม กองกฎหมาย กองกำหนดมาตรฐาน กองควบคุมมาตรฐาน กองตรวจการมาตรฐาน ๑-๓ กองบริหารมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน กองบริหารมาตรฐานระหว่างประเทศ กองบริหารยุทธศาสตร์ กองส่งเสริมและพัฒนาด้านการมาตรฐาน ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานคณะกรรมการมาตรฐานแห่งชาติ ๔. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กระทรวงอุตสาหกรรม ดังต่อไปนี้ สำนักงานบริหารกลาง กองความร่วมมือการลงทุนต่างประเทศ กองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ ศูนย์บริการลงทุน ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ ๑-๖ สำนักการตลาดเพื่อการลงทุน สำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนในต่างประเทศ สำนักบริหารการลงทุน ๑-๔ สำนักพัฒนาปัจจัยสนับสนุนการลงทุน สำนักยุทธศาสตร์และนโยบายการลงทุน และสำนักสารสนเทศการลงทุน 
  | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28408 | แผนปฏิบัติการตามแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเด็กปฐมวัย (แรกเกิดถึงก่อนเข้าประถมศึกษาปีที่ 1) ตามนโยบายรัฐบาลด้านเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2555 - 2559 | ศธ | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนปฏิบัติการตามแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเด็กปฐมวัย (แรกเกิดถึงก่อนเข้าประถมศึกษาปีที่ ๑) ตามนโยบายรัฐบาลด้านเด็กปฐมวัย พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการให้บังเกิดผลต่อการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามนโยบายรัฐบาลด้านเด็กปฐมวัย พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙ ต่อไป ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยแผนปฏิบัติการฯ ประกอบด้วยโครงการ/แผนงานใน ๔ ยุทธศาสตร์ ดังนี้ 
											    												    		๑. ยุทธศาสตร์ที่ ๑ เด็กทุกคนได้รับบริการในการพัฒนาเต็มศักยภาพ เช่น โครงการจัดทำบัตรประชาชนเด็กแรกเกิด-๖ ปี โครงการพัฒนาระบบการจดทะเบียนการเกิด โครงการส่งเสริมโภชนาการและอนามัยแม่และเด็กบนพื้นที่สูง โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันและอาหารเสริมนมสำหรับเด็กปฐมวัยในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน การส่งเสริมการเจริญเติบโตโภชนาการของเด็กปฐมวัยในศูนย์เด็กเล็ก คลินิกเด็กสุขภาพดี โครงการพัฒนาการดีเริ่มที่นมแม่อย่างมีส่วนร่วม โครงการส่งเสริมพัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างมีส่วนร่วม โครงการพัฒนาสวัสดิการแรงงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ใช้แรงงาน โครงการพัฒนาเด็กปฐมวัยบุตรผู้ใช้แรงงานศูนย์เด็กเล็กน่าอยู่คู่นมแม่ มุมนมแม่ในศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง ๖๘ แห่ง เป็นต้น ๒. ยุทธศาสตร์ที่ ๒ ไอโอดีนกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย เช่น โครงการควบคุมและป้องกันโรคขาดสารอาหารไอโอดีน ปี ๒๕๕๖ โครงการเฝ้าระวังโรคขาดสารไอโอดีนแบบบูรณาการ โครงการบริหารจัดการและสร้างความเข้มแข็งภาคีเครือข่าย โครงการสื่อสารสาธารณสุขเพื่อปรับพฤติกรรมการบริโภคผลิตภัณฑ์ไอโอดีน โครงการยกระดับมาตรฐานการผลิตเกลือบริโภค ใช้มาตรการบังคับกำหนดให้การใช้เกลือ (โซเดียมคลอไรด์) ต้องใช้เกลือ (โซเดียมคลอไรด์) เสริมสร้างไอโอดีนเป็นส่วนผสมในการผลิตอาหารสัตว์ ถ่ายทอดความรู้ประโยชน์ของเกลือ (โซเดียมคลอไรด์) เสริมไอโอดีนให้ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ เฝ้าระวังปริมาณไอโอดีนในอาหารไก่ไข่ รณรงค์การใช้เครื่องปรุงรสที่มีส่วนประกอบของสารไอโอดีนในการประกอบอาหารให้แก่เด็ก เป็นต้น ๓. ยุทธศาสตร์ที่ ๓ การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย เช่น โครงการส่งเสริมเด็กไทยให้รักการอ่าน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันพระราชสมภพ ๒ เมษายน เป็นวันหนังสือเด็กแห่งชาติ การประชุมสัมมนาผู้ปกครองของเด็กที่รับบริการที่สถานรับเลี้ยงเด็กเอกชน การฝึกอบรมแก่ผู้ปฏิบัติงานด้านเด็กปฐมวัยในสถานรองรับเด็กเอกชน (สถานรับเลี้ยงเด็ก สถานสงเคราะห์เด็ก สถานแรกรับ สถานพัฒนาและฟื้นฟู) การส่งเสริมจัดมุมความรู้สำหรับผู้ปกครองในสถานรับเลี้ยงเด็กเอกชน กิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กปฐมวัยในชุมชนด้อยโอกาส เสริมทักษะชีวิตของครอบครัว ส่งเสริมสวัสดิภาพเด็กปฐมวัยในชุมชน โครงการพัฒนาพ่อแม่ ผู้ปกครองเด็กปฐมวัย โครงการให้ความรู้ครูปฐมวัย โครงการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนในโรงเรียนเอกชน โครงการพัฒนาบุคลากรและผู้เกี่ยวข้องกับการศึกษาในโรงเรียนอนุบาลเอกชน เป็นต้น ๔. ยุทธศาสตร์ที่ ๔ กลไกการดำเนินงานพัฒนาเด็กปฐมวัย เช่น การประชุมคณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ การประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กปฐมวัย เด็กไทย สูง-สมส่วน สมองดี แข็งแรง การตรวจติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญเอกชน โครงการวิจัยเพื่อติดตามสภาวการณ์เด็กปฐมวัยในถิ่นทุรกันดาร โครงการวิจัยและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัยในถิ่นทุรกันดาร โครงการพัฒนาระบบส่งต่อข้อมูลและเชื่อมต่อการทำงานเพื่อส่งเสริมพัฒนาการและเชาว์ปัญญาเด็กไทย เป็นต้น 
  | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28409 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด พ.ศ. ๒๕๕๒ ดังต่อไปนี้ 
											    												    		๑. กำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชานิเทศศาสตร์ ๒. กำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชารัฐศาสตร์ ๓. กำหนดสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชานิเทศศาสตร์ ๔. กำหนดสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชารัฐศาสตร์ 
  | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28410 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี พ.ศ. ๒๕๕๕ ดังต่อไปนี้ 
											    												    		๑. กำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชานิเทศศาสตร์ และสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ ๒. กำหนดสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชานิเทศศาสตร์ และสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ 
  | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28411 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ดังต่อไปนี้ 
											    												    		๑. แก้ไขเพิ่มเติมปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาเพื่อกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาของสาขาวิชาการแพทย์แผนไทย และสาขาวิชานิติศาสตร์ ๒. กำหนดสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชาการแพทย์แผนไทย และสาขาวิชานิติศาสตร์ 
  | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28412 | รายงานผลการปฏิบัติงานของ กสทช. ประจำปี 2555 | กสทช | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)รายงานผลการปฏิบัติงานของ กสทช. ประจำปี ๒๕๕๕ ซึ่งประกอบด้วย ความเป็นมาของ กสทช. คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ปฏิบัติหน้าที่ กสทช. และสำนักงาน กสทช. ผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ และผลการปฏิบัติงานด้านการบริหารคลื่นความถี่และการกำกับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมของ กสทช. ที่ได้รับการแต่งตั้งตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่เข้าปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๔ และ กทช. ปฏิบัติหน้าที่ กสทช. ระหว่างวันที่ ๑ มกราคม-๖ ตุลาคม ๒๕๕๔ 
											    												    		
  | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28413 | การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐแอลเบเนียว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกันสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ | กต | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ 
											    												    		๑. เห็นชอบต่อร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐแอลเบเนียว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกันสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ มีสาระสำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้า-ออก และพำนักเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในดินแดนของแต่ละฝ่ายของบุคคลที่ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตราเป็นระยะเวลาไม่เกิน ๙๐ วัน โดยหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่กระทบต่อสาระสำคัญของร่างความตกลงฯ และไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ๒. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในความตกลงฯ ๓. อนุมัติในหลักการให้กระทรวงการต่างประเทศมีหนังสือแจ้งฝ่ายแอลเบเนียเพื่อให้ความตกลงฯ มีผลใช้บังคับต่อไป  | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28414 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และเขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาว เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชนในท้องที่อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และเขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาว เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... จำนวน 2 ฉบับ (โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู) | คค | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ 
											    												    		๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และเขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาว เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และเขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาว เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินกิจการรถไฟฟ้าและธุรกิจเกี่ยวกับกิจการรถไฟฟ้า ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หรือพัฒนาเชิงพาณิชย์ รวมทั้งธุรกิจอื่นเพื่อประโยชน์แก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยและประชาชนในการใช้บริการกิจการรถไฟฟ้า ตามโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชนในท้องที่อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และเขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาว เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และเขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาว เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการขนส่งมวลชน ตามโครงการรถไฟฟ้า สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดำเนินการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพ ลักษณะและการใช้ประโยชน์บน เหนือ หรือใต้พื้นดินหรือพื้นน้ำ เพื่อการวางแผนหรือออกแบบกิจการขนส่งมวลชน ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยและกระทรวงคมนาคมเร่งเสนอรายงานผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอน โดยควรให้ความสำคัญกับการพิจารณาความเหมาะสมทางเทคนิค รูปแบบการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน และการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างเหมาะสมและคุ้มค่าทั้งในด้านการรองรับการขยายตัวของปริมาณการเดินทาง และสนับสนุนการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย  | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28415 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี และเขตดอนเมือง เขตสายไหม เขตหลักสี่ เขตบางเขน และเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี และเขตดอนเมือง เขตสายไหม เขตหลักสี่ เขตบางเขน และเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... จำนวน 2 ฉบับ (โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว) | คค | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติ 
											    												    		๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี และเขตดอนเมือง เขตสายไหม เขตหลักสี่ เขตบางเขน และเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี และเขตดอนเมือง เขตสายไหม เขตหลักสี่ เขตบางเขน และเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินกิจการรถไฟฟ้า ในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดสร้างโครงการขนส่งด้วยระบบรถไฟฟ้า สถานที่จอดรถสำหรับผู้โดยสาร กิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการรถไฟฟ้า และกิจการอื่นที่จะสนับสนุนการพัฒนาเมือง และการลดจำนวนเงินที่รัฐบาลอาจต้องอุดหนุนชดเชยการขาดทุนจากการดำเนินกิจการรถไฟฟ้า ตามโครงการรถไฟฟ้า สายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี และเขตดอนเมือง เขตสายไหม เขตหลักสี่ เขตบางเขน และเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี และเขตดอนเมือง เขตสายไหม เขตหลักสี่ เขตบางเขน และเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการขนส่งมวลชน ตามโครงการรถไฟฟ้า สายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดำเนินการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพ ลักษณะและการเข้าใช้ประโยชน์บน เหนือ หรือใต้พื้นดินหรือพื้นน้ำ เพื่อการวางแผนหรือออกแบบกิจการขนส่งมวลชน ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยและกระทรวงคมนาคมเร่งเสนอรายงานผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอน โดยควรให้ความสำคัญกับการพิจารณารูปแบบการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน และการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างเหมาะสมและคุ้มค่าทั้งในด้านการรองรับการขยายตัวของปริมาณการเดินทาง และสนับสนุนการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย  | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28416 | ข้อมติวุฒิสภาสหรัฐอเมริกาเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 180 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย - สหรัฐอเมริกา | นร04 | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับข้อมติที่ S.RES.77 “A Resolution expressing the sense of Congress relating to the commemoration of the 180th anniversary of diplomatic relations between the United States and the Kingdom of Thailand” ของวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา โดยข้อมติมีสาระสำคัญเพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ ๑๘๐ ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-สหรัฐฯ ร่วมเฉลิมฉลองและถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๕ พรรษา แสดงความยินดีต่อไทยและประชาชนชาวไทยในการยึดมั่นกับค่านิยมประชาธิปไตย แสดงความยินดีและปรารถนาดีแก่ความเจริญรุ่งเรืองของไทย และแสดงความหวังให้ไทยและสหรัฐฯ มีมิตรภาพที่ยั่งยืนและต่อเนื่องสืบไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ 
											    												    		
  | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28417 | สรุปผลการเยือนปาปัวนิวกินีอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี | นร | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีรายงานสรุปผลการเยือนปาปัวนิวกินีอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ ๒๔-๒๕ มีนาคม ๒๕๕๖ ณ กรุงพอร์ตมอร์สบี ปาปัวนิวกินี ของกระทรวงการต่างประเทศ และมอบหมายส่วนราชการต่าง ๆ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามที่ตารางติดตามผลที่กระทรวงการต่างประเทศจัดทำ ได้แก่ การเชิญนายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินีเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการและเชิญเข้าร่วมประชุม Asia-Pacific Water Summit ครั้งที่ ๒ การจัดตั้งกลไกการหารือทวิภาคีซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะให้กรอบการหารือดังกล่าวเป็นเวทีเพื่อทบทวนส่งเสริมความร่วมมือของสองฝ่าย โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งแรก การเร่งรัดการเจรจาความตกลงที่คั่งค้าง โดยเฉพาะความตกลงเพื่อส่งเสริมและปกป้องการลงทุน และความตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีซ้อน การเพิ่มการส่งออกข้าวไปยังปาปัวนิวกินี และการส่งผู้เชี่ยวชาญไปให้คำแนะนำในการปลูกข้าว การลงทุนเพื่อพัฒนาและหาแหล่งก๊าซธรรมชาติในปาปัวนิวกินี การเพิ่มการลงทุนในอุตสาหกรรมการประมงของปาปัวนิวกินี การให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของปาปัวนิวกินี การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การเปิดสถานเอกอัครราชทูตปาปัวนิวกินีประจำประเทศไทย และการเปิดสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพอร์ตมอร์สบี การตรวจลงตราที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองให้กับคนปาปัวนิวกินี และการใช้ประโยชน์จากความตกลงว่าด้วยการบริการเดินอากาศไทย-ปาปัวนิวกินี (Air Service Agreement) การให้ความร่วมมือทางวิชาการในสาขาที่ปาปัวนิวกินีมีความสนใจ และการสนับสนุนปาปัวนิวกินีในการเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในปี ค.ศ. ๒๐๑๘ รวมทั้งขอรับการสนับสนุนจากปาปัวนิวกินีในการสมัครเป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และการสมัครเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ 
											    												    		
  | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28418 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | มท | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในท้องที่บางแห่งในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อประโยชน์ในด้านการควบคุมเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การสาธารณสุข การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ 
											    												    		 | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28419 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยศูนย์วิจัย 5 กับซอยพระรามเก้าแยก 18 พ.ศ. .... | มท | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยศูนย์วิจัย ๕ กับซอยพระรามเก้าแยก ๑๘ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยศูนย์วิจัย ๕ กับซอยพระรามเก้าแยก ๑๘ ในท้องที่แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ 
											    												    		
  | 
											    |||||||||||||||||||||
| 28420 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของรองนายกรัฐมนตรี (นายยุคล ลิ้มแหลมทอง) (นายถาวร จำปาเงิน) | นร | 21/05/2556 | ||||||||||||||||||
| 
		 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งนายถาวร จำปาเงิน ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของรองนายกรัฐมนตรี (นายยุคล ลิ้มแหลมทอง) ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ 
											    												    		
  | 
											    |||||||||||||||||||||
					.....
									
			