ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1426 จากทั้งหมด 6223 หน้า แสดงรายการที่ 28501 - 28520 จากข้อมูลทั้งหมด 124445 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 28501 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ) | นร04 | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน ๒๕๐,๗๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งกรมบัญชีกลางอนุมัติให้กันเงินไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีแล้ว ผ่านสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่ออุดหนุนเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินภารกิจของสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ทั้งนี้ ในส่วนของสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดเห็นสมควรให้เช่าจำนวน ๘ แห่ง ประกอบด้วย จังหวัดในภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนบน ภาคอีสานตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคใต้ตอนบน และภาคใต้ตอนล่าง ภาคละ ๑ แห่ง สำหรับจังหวัดที่เหลือให้ใช้พื้นที่ของศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัดเป็นสถานที่ทำการ โดยให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจัดทำแผนการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวแล้วขอทำความตกลงรายละเอียดค่าใช้จ่ายกับสำนักงบประมาณ ตามความพร้อมของการปฏิบัติงานต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) รับไปหารือร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี (นายยุคล ลิ้มแหลมทอง) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการเสนอแนะนโยบายที่สำคัญและแนวทางการพัฒนาเกษตรกรรมอย่างเป็นระบบ เช่น การจัดระบบการเกษตร การจัดทำ zoning ภาคเกษตร เพื่อให้สภาเกษตรกรแห่งชาติได้นำไปเป็นแนวทางในการกำหนดและพัฒนาความมั่นคงในอาชีพเกษตรกรได้อย่างยั่งยืนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28502 | การบริหารความเสี่ยงหนี้เงินกู้ต่างประเทศของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) | กค | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. ให้กระทรวงการคลังปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จำนวน ๑๙๐,๐๕๕ ล้านเยน โดยการแปลงหนี้ด้วยวิธี Cross Currency Swap (CCS) หรือการทำ Swap หนี้เงินเยนขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency : JICA) เป็นหนี้เงินบาท ทั้งนี้ หากในอนาคต รฟม. มีความสามารถในการบริหารความเสี่ยงหนี้ต่างประเทศได้เองแล้ว ให้ รฟม. เป็นผู้รับผิดชอบการบริหารหนี้โดยตรงต่อไป ๒. ให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพื่อชำระหนี้ให้กับ รฟม. ให้สอดคล้องกับข้อผูกพันตามธุรกรรม Swap ตามกำหนดระยะเวลาที่รัฐบาลรับภาระ |
|||||||||||||||||||||||||||
| 28503 | รัฐบาลสาธารณรัฐมอริเชียสเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายเปร็มดัต ดุงกูร์ (Mr. Premdut Doongoor)] | กต | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเปร็มดัต ดุงกูร์ (Mr. Premdut Doongoor) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐมอริเชียสประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สืบแทน นายไศเลนทร์ กุมาร สิงห์ ดูโซโวธ (Mr. Shailendra Kumar Singh Dusowoth) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28504 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (นายเสกสรร นาควงศ์) | กก | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งให้นายเสกสรร นาควงศ์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28505 | การขออนุมัติงบประมาณในการเข้าร่วมงาน Universal Exhibition Milano 2015 | กษ | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ในการประชุมครั้งที่ ๙/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๖ ที่เห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณการจัดงาน Universal Exhibition Milano 2015 (Expo Milano 2015) ณ เมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ วงเงินรวม ๘๓๐,๙๓๕,๖๐๐ บาท โดยใช้จ่ายตามรายการและก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการบริหารโครงการ วงเงิน ๕๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ค่าใช้จ่ายในการจ้างที่ปรึกษาดูแล ควบคุมงาน ออกแบบ ก่อสร้าง และการจัดการนิทรรศการ ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๙ วงเงิน ๓๙,๐๔๕,๖๐๐ บาท และค่าใช้จ่ายในการจ้างออกแบบ ก่อสร้าง ตกแต่งอาคารจัดนิทรรศการ รื้อถอน และการจัดการนิทรรศการ ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๙ ในวงเงิน ๗๓๖,๘๙๐,๐๐๐ บาท ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) เสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น เพื่อจัดทำแผนงานโครงการในการเข้าร่วมงานดังกล่าว โดยเน้นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวและการเร่งรัดการผลิตสินค้าเพื่อส่งเสริมการส่งออกของประเทศ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ OTOP
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28506 | การกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ณ จังหวัดกาฬสินธุ์และขอนแก่น | นร01 | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ณ จังหวัดกาฬสินธุ์ และขอนแก่น ของรองนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) และคณะ เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๖ เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์/สภาพปัญหาของจังหวัด พร้อมทั้งติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งจากการรับฟังบรรยายสรุปและติดตามผลการดำเนินโครงการในพื้นที่ทั้ง ๒ จังหวัด ด้านภัยแล้งพบว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ และขอนแก่น ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาน้ำอุปโภค-บริโภค ตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการ ประชาชนไม่ประสบปัญหาการขาดแคลนแต่อย่างใด และได้มอบนโยบายเพื่อให้จังหวัดดำเนินการในเรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติม ดังนี้
๑. ให้จังหวัดให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะการเฝ้าระวังในสถานศึกษาอย่าให้เป็นแหล่งซื้อ-ขายโดยเด็ดขาด ๒. ให้จังหวัดดูแลประชาชนอย่าให้ขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค ๓. ให้จังหวัดพิจารณาและประเมินสินค้า OTOP ที่มีศักยภาพ เพื่อส่งเสริมให้ก้าวสู่การแข่งขันในระดับสากลต่อไป และให้พิจารณาด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ สร้างมาตรฐานสินค้าให้เป็นที่ยอมรับ มีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพิ่มข้อมูลสินค้าและสถานที่ติดต่อให้ชัดเจนขึ้น รวมทั้งพิจารณาช่องทางการตลาดด้วย ทั้งนี้ อาจขอความร่วมมือและคำแนะนำจากสถาบันการศึกษาในพื้นที่ ๔. การประชาสัมพันธ์โครงการ “๑ ทุน ๑ อำเภอ” ซึ่งในปี ๒๕๕๖ ขยายเป็นโครงการ “๒ ทุน ๑ อำเภอ” ขอให้จังหวัดช่วยประชาสัมพันธ์ให้นักเรียนในจังหวัดได้รับทราบต่อไปด้วย ๕. สำหรับจังหวัดขอนแก่นซึ่งกำหนดทิศทางการพัฒนาเป็นศูนย์กลางทางการศึกษา และศูนย์กลางทางการแพทย์ ขอให้จังหวัดรวบรวมสถิติข้อมูลนักเรียนนักศึกษาต่างชาติ และข้อมูลผู้เข้ารับการรักษาต่างชาติว่าเป็นผู้มีกำลังซื้อหรือไม่ เพื่อวางแผนและเตรียมขยายการรองรับด้านต่าง ๆ ในอนาคตให้เหมาะสมต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28507 | ความคืบหน้าเกี่ยวกับกรอบแนวทางการพิจารณาเพื่อการควบคุมและส่งเสริมการปลูกพืชกัญชง (เฮมพ์) เป็นพืชเศรษฐกิจ | สธ | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับกรอบแนวทางการพิจารณาเพื่อการควบคุมและส่งเสริมการปลูกพืชกัญชง (เฮมพ์) เป็นพืชเศรษฐกิจ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง ครั้งที่ ๑/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีความเห็นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการปรับแก้กฎหมายเพื่อควบคุมและส่งเสริมการปลูกพืชกัญชง (เฮมพ์) เป็นพืชเศรษฐกิจ และให้รายงานความคืบหน้าต่อคณะรัฐมนตรี ๒. ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์และควบคุมการปลูกกัญชง ครั้งที่ ๒/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ และที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ครั้งที่ ๓๓๓-๓/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๖ มีมติเห็นชอบให้แก้ไขประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๑๓๕ (พ.ศ. ๒๕๓๙) และจัดทำร่างกฎกระทรวงเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตและควบคุมการปลูกพืชกัญชง (เฮมพ์) เพื่อส่งเสริมการปลูกพืชกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ ๓. กระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณากรอบระยะเวลาการดำเนินงานการออกประกาศฯ และจัดทำร่างกฎกระทรวงฯ โดยแก้ไขประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๑๓๕ (พ.ศ. ๒๕๓๙) ให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ และจัดทำร่างกฎกระทรวงเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตและควบคุมการปลูกพืชกัญชง (เฮมพ์) ให้แล้วเสร็จ และเสนอคณะรัฐมนตรีภายในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28508 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดท่าหรือที่ สนามบินศุลกากร ทางอนุมัติ ด่านพรมแดน และด่านศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดท่าหรือที่ สนามบินศุลกากร ทางอนุมัติ ด่านพรมแดน และด่านศุลกากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดท่าหรือที่ สนามบินศุลกากร ทางอนุมัติ ด่านพรมแดน และด่านศุลกากร พ.ศ. ๒๕๕๓ เพื่อกำหนดให้ที่และเขตศุลกากรช่องสะงำเป็นที่สำหรับนำของเข้าหรือส่งของออก และกำหนดทางอนุมัติและด่านศุลกากรช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ สำหรับเขตแดนทางบก ระหว่างราชอาณาจักรและราชอาณาจักรกัมพูชา ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28509 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีออกตามความในมาตรา 13 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2519 รวม 2 ฉบับ | ยธ | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงยุติธรรมรับร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เรื่อง กำหนดประเภทสถานประกอบการที่อยู่ภายใต้บังคับของมาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ และร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เรื่อง กำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ รวม ๒ ฉบับ ไปหารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยให้มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนตามวัตถุประสงค์ของร่างประกาศดังกล่าว และคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในทางปฏิบัติด้วย แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28510 | การสนับสนุนเงินบริจาคสมทบกองทุนเยาวชนอาเซียน (The ASEAN Youth Programme Fund) | พม | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการสนับสนุนเงินบริจาคสมทบกองทุนเยาวชนอาเซียน (The ASEAN Youth Programme Fund) โดยมีจำนวนเงินก้อนแรก (Initial Amount) จำนวน ๑๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ เป็นเงิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท (อัตราแลกเปลี่ยน ๓๐ บาทต่อ ๑ ดอลลาร์สหรัฐ) ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดให้มีโครงการเกี่ยวกับเยาวชนอาเซียน โดยกำหนดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นการส่งเสริมบทบาทและการมีส่วนร่วมของเยาวชนในอาเซียนอันเป็นประโยชน์แก่เยาวชนไทยมากที่สุด |
|||||||||||||||||||||||||||
| 28511 | รายงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประจำปี 2555 | ผผ | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประจำปี ๒๕๕๕ ตามที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการพิจารณาสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องต่าง ๆ พร้อมทั้งข้อสังเกตหรือข้อเสนอแนะที่เสนอต่อหน่วยงานของรัฐ โดยผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณาดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงรวมทั้งสิ้น ๓,๕๔๔ เรื่อง และสามารถดำเนินกระบวนการพิจารณาแล้วเสร็จได้ ๒,๒๒๗ เรื่อง หรือคิดเป็นกว่าร้อยละ ๖๓ ของเรื่องร้องเรียนทั้งหมดที่รับไว้ดำเนินการ ๒. ผลการปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐที่ได้ดำเนินการหรือไม่ดำเนินการตามข้อสังเกตหรือข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยหน่วยงานที่ถูกร้องเรียนส่วนใหญ่มักจะให้ความร่วมมือในการดำเนินการตามความเห็นและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน สร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้ร้องเรียน ตลอดจนเป็นการปรับปรุงแก้ไขวิธีการปฏิบัติราชการให้มีความถูกต้องและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้นในหลายกรณี ๓. ความร่วมมือจากหน่วยงานในการชี้แจงข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน ที่ผ่านมาหน่วยงานของรัฐจำนวนหนึ่งที่ตระหนักในความสำคัญของกระบวนการแก้ไขปัญหาตามคำร้องเรียนที่มีต่อหน่วยงานตน แต่ก็มีหน่วยงานที่ยังคงเพิกเฉยไม่ให้ความร่วมมือกับผู้ตรวจการแผ่นดินในการชี้แจงข้อเท็จจริงหรือการส่งเอกสารหลักฐานที่จำเป็นต่อการพิจารณา ในกรณีนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินอาจพิจารณาใช้มาตรการบังคับทางกฎหมายตามที่บทบัญญัติมาตรา ๔๕ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้กำหนดบทลงโทษไว้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชนเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป ๔. ผลการดำเนินงานด้านจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ (รวมราชการส่วนท้องถิ่น) โดยได้ดำเนินการเสนอแนะหรือให้คำแนะนำในการจัดทำหรือปรับปรุงประมวลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองส่งประมวลจริยธรรมแล้ว ๑๔,๗๘๒ หน่วย ยังไม่ได้ส่ง ๙๒๗ หน่วย ส่วนเจ้าหน้าที่ของรัฐส่งประมวลจริยธรรมแล้ว ๗,๓๑๐ หน่วย ยังไม่ได้ส่ง ๗๐๔ หน่วย สำหรับการส่งเสริมให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐมีจิตสำนึกในด้านจริยธรรม ได้มีโครงการและกิจกรรมในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาความซื่อตรงแห่งชาติไปสู่การปฏิบัติในระดับจังหวัด โครงการพัฒนาผู้นำคุณธรรม ความร่วมมือในการดำเนินงานตามจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โรงเรียนต้นแบบด้านคุณธรรมจริยธรรม และโครงการคนดีแห่งแผ่นดิน ทั้งนี้ การตรวจสอบการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมของผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ประกาศระเบียบผู้ตรวจการแผ่นดินว่าด้วยการไต่สวนและเปิดเผยการไต่สวนสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๓ ลงในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๑๒๘ ตอนที่ ๕ ก ๒๑ มกราคม ๒๕๕๔ ๕. ผลการดำเนินงานด้านการติดตามประเมินผลการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้ดำเนินการติดตามการตรากฎหมายตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่ดำเนินการทั้งหมด จำนวน ๓๐๒ ฉบับ สำหรับการติดตามผลการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรการหรือโครงการตามรัฐธรรมนูญทั้งหมด จำนวน ๓,๔๑๓ งาน/โครงการ ๖. แนวทางในการพัฒนาการดำเนินงานของผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนในเชิงระบบ การสอบสวนข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ผู้ร้องเรียน การพัฒนางานด้านจริยธรรม การติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และการพัฒนาสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินให้เป็นองค์กรที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28512 | การตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี พ.ศ. 2556 ของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี | นร01 | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลการตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในพื้นที่ ๓๗ จังหวัด ระหว่างวันที่ ๑๒-๒๒ มีนาคม ๒๕๕๖ ประกอบด้วย การรายงานการเกิดวิกฤตภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ การแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วน และการแก้ไขปัญหาตามมาตรการระยะยาวในการวางแผนการใช้ประโยชน์จากน้ำอย่างทั่วถึงของหน่วยงานและจังหวัด การสำรวจความพึงพอใจของประชาชนในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งของหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะระดับนโยบาย ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการตามข้อเสนอของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และข้อพิจารณาของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ดังนี้ ๒.๑ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบหลักและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อรับข้อเสนอแนะไปร่วมกันพิจารณาดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ ได้แก่ ๒.๑.๑ ควรมีการทำ VDO Conference จากส่วนกลางไปยังจังหวัดโดยตรงเพื่อให้การแก้ไขปัญหาภัยแล้งแบบบูรณาการสามารถดำเนินการได้สำเร็จในเวลาเร่งด่วน ๒.๑.๒ จังหวัดควรจัดทำโครงการเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ และนำเสนอคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ/คณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ เพื่อบรรจุในแผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด แผนปฏิบัติการราชการประจำปีจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ๒.๑.๓ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ มีข้อกำหนดที่ไม่เอื้อต่อการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว จึงควรมีการกำหนดมาตรการที่ยืดหยุ่น ๒.๑.๔ กรณีกรมบัญชีกลางควรยกเว้นการจัดซื้อจัดจ้างกรณีโครงการขุดลอกเพื่อเปิดทางน้ำหลายสายในจังหวัด โดยให้เป็นการจัดซื้อจัดจ้างวิธีกรณีพิเศษ ๒.๒ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบหลักและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันตามแนวทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ ได้แก่ ๒.๒.๑ จัดทำแผนที่และจัดลำดับพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาคและจังหวัด เพื่อกำหนดแนวทางการเฝ้าระวังและป้องกันผลกระทบที่ใช้ทั้งมาตรการด้านกายภาพโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งมาตรฐานความปลอดภัยของระบบสาธารณูปโภค ๒.๒.๒ พัฒนายกระดับการจัดการภัยแล้งให้มีประสิทธิภาพ กำหนดมาตรการให้ครอบคลุมทั้งด้านการเตรียมความพร้อม การป้องกัน การลดผลกระทบ การเตือนภัย การจัดการในภาวะฉุกเฉิน การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์และฟื้นฟูบูรณะ โดยให้ความสำคัญกับการบูรณาการและสร้างเจตนารมณ์ในการบริหารจัดการ ๒.๒.๓ พัฒนาระบบฐานข้อมูลและระบบการสื่อสารโทรคมนาคม ส่งเสริมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านการจัดการภัยแล้ง โดยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พัฒนาเครือข่ายการจัดการภัยพิบัติระดับภูมิภาค ให้มีการเชื่อมโยงข้อมูล การถ่ายทอดเทคโนโลยี การส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้ด้านการเตือนภัยและการจัดการในภาวะฉุกเฉิน ๒.๒.๔ วางระบบเพื่อส่งเสริมการดำเนินงานของภาคส่วนต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของชุมชนและผู้นำท้องถิ่น ผนึกกำลังของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ กองทัพ ภาคประชาสังคมและสื่อมวลชน เพื่อระดมสรรพกำลังและบูรณาการระบบการจัดการภัยแล้งของประเทศให้มีประสิทธิภาพ ๒.๒.๕ สนับสนุนภาคเอกชน สถานประกอบการ โรงเรียนและท้องถิ่น ให้มีการเตรียมความพร้อมโดยจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับภัยแล้ง วางระบบปฏิบัติการสำรองในระดับองค์กรและฝึกซ้อมรับมือกับภัยแล้งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความตื่นตัวให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 28513 | การขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อเบิกจ่ายเงินปรับเพิ่มตามคุณวุฒิให้กับพนักงานมหาวิทยาลัยที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งก่อนวันที่ 1 มกราคม 2555 | ศธ | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ในการประชุมครั้งที่ ๙/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๖ ที่เห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงศึกษาธิการที่ขอให้นำเรื่องการขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อเบิกจ่ายเงินปรับเพิ่มตามคุณวุฒิให้กับพนักงานมหาวิทยาลัยที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งก่อนวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๕ เพื่อพิจารณาอนุมัติวงเงินงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อเบิกจ่ายเงินปรับเพิ่มตามคุณวุฒิในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นจำนวนเงิน ๓,๐๑๔,๘๓๖,๒๙๐ บาท ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นจำนวนเงิน ๔,๒๖๐,๙๖๙,๐๑๐ บาท และปี พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นจำนวนเงิน ๔,๕๑๖,๖๒๗,๑๔๐ บาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๑๑,๗๙๒,๔๓๒,๔๔๐ บาท ให้แก่พนักงานมหาวิทยาลัยจำนวน ๕๔,๘๐๑ คน ที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งก่อนวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๕ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) เสนอ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยเงินปรับเพิ่มคุณวุฒิในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม-๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ และเงินปรับเพิ่มคุณวุฒิในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๕-๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ ให้สถาบันอุดมศึกษา ๗๙ แห่ง ทบทวนเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีที่หมดความจำเป็นของปีงบประมาณที่ผ่านมา หรือปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ หรือใช้เงินเหลือจ่ายจากรายการที่ดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์แล้วมาดำเนินการ โดยขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป สำหรับเงินปรับเพิ่มคุณวุฒิในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖-๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ ให้สถาบันอุดมศึกษา ๗๙ แห่ง ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
| 28514 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (จำนวน 6 ราย 1. นายไพรัช ธัชยพงษ์ ฯลฯ) | วท | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ จำนวน ๖ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้
๑. นายไพรัช ธัชยพงษ์ ประธานกรรมการ ๒. นายอารี สวัสดี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นายชาวันย์ สวัสดิ์-ชูโต กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นายเฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นางภูวษา สินธุวงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นางสาวนิลุบล เครือนพรัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28515 | ร่างแถลงการณ์เจนีวาว่าด้วยการจัดการสารเคมีและกากของเสียอย่างปลอดภัยในการประชุมระดับสูง (High - Level segment) ของการประชุมรัฐภาคีสมัยสามัญของอนุสัญญาบาเซลฯ สมัยที่ 11 อนุสัญญารอตเตอร์ดัมฯ สมัยที่ 6 และอนุสัญญาสตอกโฮล์มฯ สมัยที่ 6 และการประชุมรัฐภาคีร่วมสมัยพิเศษ สมัยที่ 2 ของ 3 อนุสัญญาฯ | ทส | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักการร่างแถลงการณ์เจนีวาว่าด้วยการจัดการสารเคมีและกากของเสียอย่างปลอดภัย (draft Geneva Communique on the sound management of chemicals and waste) ในการประชุมระดับสูง (High-level segment) ของการประชุมรัฐภาคีสมัยสามัญของอนุสัญญาบาเซลฯ สมัยที่ ๑๑ อนุสัญญารอตเตอร์ดัมฯ สมัยที่ ๖ และอนุสัญญาสตอกโฮล์มฯ สมัยที่ ๖ และการประชุมรัฐภาคีร่วมสมัยพิเศษสมัยที่ ๒ ของ ๓ อนุสัญญาฯ ในระหว่างวันที่ ๙-๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ โดยร่างแถลงการณ์เจนีวาฯ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่จะเกิดความพยายามและการดำเนินงานด้านการจัดการสารเคมีและกากของเสียอย่างปลอดภัย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งมีความสอดคล้องกับเอกสารผลลัพธ์ The Future We Want ที่ได้รับการรับรองในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน (Rio+20) เมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๕๕ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขเอกสารดังกล่าวที่ไม่ใช่สาระสำคัญซึ่งไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย (Legally binding) และไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้อยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าคณะองค์คณะผู้แทนไทย ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรเผยแพร่ผลบังคับใช้ของร่างแถลงการณ์เจนีวาฯ พร้อมทั้งเผยแพร่องค์ความรู้ในกรณีที่จะต้องมีการใช้สารเคมีชนิดอื่น ๆ หรือการจัดการกากของเสียอันตรายด้วยวิธีการอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีทางเลือกในการใช้และบริหารจัดการ ให้สามารถดำรงศักยภาพในการแข่งขันของตนอยู่ได้อย่างสอดคล้องกับข้อกำหนดของร่างแถลงการณ์เจนีวาฯ ไปดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 28516 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานวันวิสาขบูชาประจำปี 2556 | พศ | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานวันวิสาขาบูชา วันสำคัญสากลของโลกประจำปี ๒๕๕๖ ในกรอบวงเงิน ๕๖,๓๐๔,๐๐๐ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) เสนอ และโดยที่การจัดงานวันวิสาขบูชาจะต้องจัดเป็นประจำทุกปี ดังนั้น ในปีต่อ ๆ ไป ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อการนี้ไว้ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28517 | การแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดนโยบายการดำเนินงานพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | ศธ | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอการแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดนโยบายการดำเนินงานพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีองค์ประกอบคณะกรรมการฯ จำนวน ๒๕ คน ได้แก่ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับการบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นรองประธานกรรมการ หัวหน้าส่วนราชการ จำนวน ๑๑ คน ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรรมการผู้แทนทรงคุณวุฒิ จำนวน ๘ คน ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นกรรมการและเลขานุการ รองผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบายและทิศทางการดำเนินงานพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี การบริหารและกำกับดูแลแผนปฏิบัติการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี เพื่อให้ได้นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย ที่มีประสิทธิภาพสูงและได้ครูมืออาชีพสายวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน และเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รวมทั้งสนับสนุนหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในสายวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สำคัญต่ออนาคตของชาติ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ให้ประสานความร่วมมือกันอย่างจริงจัง และสร้างเครือข่ายการดำเนินงานแบบบูรณาการ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ควรเน้นบทบาทหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย ทิศทางการดำเนินงานและการกำหนดมาตรการให้เกิดการบูรณาการและดำเนินงานร่วมกันของหน่วยงานต่าง ๆ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 28518 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (จำนวน 8 คน 1. รองศาสตราจารย์ วีระพงษ์ แพสุวรรณ ฯลฯ) | วท | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน จำนวน ๘ คนโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้
๑. รองศาสตราจารย์วีระพงษ์ แพสุวรรณ ประธานกรรมการ ๒. นายแพทย์จิโรจ สินธวานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. ศาสตราจารย์เกียรติคุณถิรพัฒน์ วิลัยทอง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นางพรรณี แสงสันต์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. ผู้ช่วยศาสตราจารย์พรสวาท วัฒนกูล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นายวีระยุทธ ปั้นน่วม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. นายสักกฉัฐ ศิวะบวร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๘. นายสุเมธ แย้มนุ่น กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28519 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) (นายขจร วีระใจ) | กก | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายขจร วีระใจ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 28520 | สถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนมีนาคม และแนวโน้มปี 2556 | นร11 | 07/05/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ และแนวโน้มปี ๒๕๕๖ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ ๑.๑ ภาวะเศรษฐกิจไทยเมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชน หดตัวร้อยละ ๑.๑ และร้อยละ ๐.๗ ตามลำดับ ในขณะที่มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ ๔.๙ ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเร่งส่งออกช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีนในประเทศผู้นำเข้า และการเร่งส่งออกก่อนวันหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เช่นเดียวกับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ ๔.๑ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเร่งการผลิตในช่วงก่อนวันหยุดยาว และการลดกำลังการผลิตในช่วงการรณรงค์ประหยัดพลังงาน ในขณะที่ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรและจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ ๐.๔ และ ๐.๔ ตามลำดับ ๑.๒ ภาวะเศรษฐกิจไทยเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม ๒๕๕๕ ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านอุปสงค์และการผลิต ส่งผลให้เศรษฐกิจรวมทั้งไตรมาสมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในเกณฑ์ที่น่าพอใจ การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่มีสัดส่วนการส่งออกเกินร้อยละ ๖๐ หดตัวแม้ว่าจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากฐานที่ต่ำก็ตาม เสถียรภาพทางเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดีทั้งด้านอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ดุลบัญชีเดินสะพัด และดุลการชำระเงินทั้งไตรมาสเกินดุล แม้ว่าดุลการค้าจะขาดดุลก็ตาม เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องทั้งไตรมาส แม้ว่าจะอ่อนค่าในช่วงปลายเดือนเมษายน ๒๕๕๕ ๑.๓ เสถียรภาพทางเศรษฐกิจในประเทศ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ อยู่ที่ร้อยละ ๒.๗ ชะลอตัวลงจากร้อยละ ๓.๒ ในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ตามราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก รวมทั้งฐานที่สูงเนื่องจากการกลับมาทยอยจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในเดือนมกราคม ๒๕๕๕ อัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ โดยในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ มีจำนวนผู้ว่างงาน ๒.๕ แสนคน คิดเป็นร้อยละ ๐.๖ ของกำลังแรงงาน และการจ้างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒.๐ ตามการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นทั้งภาคเกษตรและนอกภาคเกษตร ๑.๔ สถานการณ์ด้านการคลัง การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น ในขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อนค่อนข้างมาก เนื่องจากฐานที่สูงในปีก่อน หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ อยู่ที่ร้อยละ ๔๔.๑ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ๑.๕ สถานการณ์ด้านการเงิน ในเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ชะลอตัวลดลง โดยเฉพาะสินเชื่อภาคธุรกิจ ในขณะที่เงินฝากขยายตัวสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยยังทรงตัวต่อเนื่องตามทิศทางของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ๒. แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี ๒๕๕๖ คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ ๔.๕-๕.๕ อัตราเงินเฟ้ออยู่ในช่วงร้อยละ ๒.๕-๓.๕ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลร้อยละ ๐.๙ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
|
|||||||||||||||||||||||||||
.....
