ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 81 จากทั้งหมด 102 หน้า แสดงรายการที่ 1601 - 1620 จากข้อมูลทั้งหมด 2039 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1601 | การถ่ายโอนบุคลากรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 04/02/2546 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลความก้าวหน้าการถ่ายโอนบุคลากรตาม
พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 สรุปได้ ว่า กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการถ่ายโอนบุคลากรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามมติที่ประชุมคณะกรรม การการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครั้งที่ 8/2545 วันที่ 28 ตุลาคม 2545 ที่มอบหมาย ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานในการจัดสรรบุคลากรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายในจังหวัด โดย กระทรวงมหาดไทยและสำนักงาน ก.พ. ได้ดำเนินการตามแผนดำเนินการถ่ายโอนบุคลากร โดยในส่วนของสำนัก งาน ก.พ. ได้จัดสัมมนาแนวทางปฏิบัติของศูนย์ปฏิบัติการถ่ายโอนบุคลากรจังหวัด เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2545 และจัดปฐมนิเทศให้กับข้าราชการที่จะถ่ายโอนไปสู่ท้องถิ่น เมื่อวันที่ 11 - 12 ธันวาคม 2545 สำหรับกระทรวง มหาดไทยได้จัดประชุมชี้แจงแผนปฏิบัติการถ่ายโอนบุคลากรให้แก่หัวหน้าส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดเมื่อ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2545 และแจ้งศูนย์ปฏิบัติการถ่ายโอนบุคลากรทุกจังหวัดจัดประชุมผู้บริหารองค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น และข้าราชการลูกจ้างประจำที่ถ่ายโอนเพื่อจัดสรรบุคลากร เมื่อวันที่ 20 และ 22 พฤศจิกายน 2545 โดยให้เสนอคณะกรรมการข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่นระดับจังหวัดมีมติเห็นชอบการรับโอนให้ เสร็จภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2545 ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการถ่ายโอนบุคลากรจังหวัดได้ดำเนินการถ่ายโอนบุคลากร รวม 2 ครั้ง และได้รายงานผลการแต่งตั้งรับโอนบุคลากรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว รวม 75 จังหวัด โอนได้ 3,618 ราย คงเหลือที่โอนไม่ได้ 484 ราย |
|||||||||||||||
| 1602 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2509 | มท | 28/01/2546 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2509 (แก้ไขเพิ่มเติมลักษณะเครื่องแบบ ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล) และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||
| 1603 | รายงานผลการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครู ผู้นำชุมชน และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | สปศ | 21/01/2546 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปฏิรูปการศึกษารายงานผลการติดตามและประเมินผล
การดำเนินงานโครงการพัฒนาผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครู ผู้นำชุมชน และผู้นำองค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น สรุปได้ว่า จากที่คณะกรรมการประสานงานโครงการ ฯ ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิจาก กระทรวง ทบวง กรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางการศึกษา ได้กำหนดหลักสูตรการฝึกอบรม และจัดทำชุด ฝึกอบรมต้นแบบ เพื่อมอบให้หน่วยงานต้นสังกัดนำไปขยายผล พร้อมทั้งได้ติดตามและประเมินผลการดำเนิน งานโครงการในภาพรวม พบว่า มีโครงการพัฒนาบุคลากรเข้าสู่การปฏิรูปการศึกษาที่ดำเนินการโดยหน่วย งานต่าง ๆ จำนวนมาก โดยมีเนื้อหาของหลักสูตรการฝึกอบรมที่สอดคล้องและใกล้เคียงกับเนื้อหาของชุดฝึก อบรมที่คณะกรรมการประสานงานโครงการ ฯ พัฒนาขึ้น อย่างไรก็ตาม กลุ่มเป้าหมายทั้งผู้บริหาร ครู และ ผู้นำชุมชน ก็ยังได้รับการเตรียมความพร้อมค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะในเชิงคุณภาพ สำหรับในด้านประสิทธิ ภาพและประสิทธิผลของชุดฝึกอบรมต้นแบบ เห็นว่า การพัฒนาชุดฝึกอบรมมีขั้นตอนของการพัฒนาชุดฝึก อบรมค่อนข้างล่าช้า ส่งผลต่อการนำไปเผยแพร่แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผล ทำให้บางหน่วยงาน ยังไม่มีการนำไปใช้หรือมีการใช้เพียงบางส่วนเท่านั้น ยกเว้นกรณีสำนักบริหารการศึกษาท้องถิ่น กรมการ ปกครอง กระทรวงมหาดไทย ที่มีการนำไปใช้อยู่ในขั้นมาก ทั้งนี้ กลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิได้มีข้อเสนอแนะต่อทิศ ทางการพัฒนาบุคลากรในอนาคต ได้แก่ (1) การพัฒนาโดยใช้สื่อชุดฝึกอบรม เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนะของ บุคลากรทางการศึกษาซึ่งมักมองว่าชุดฝึกอบรมจะต้องมีความสมบูรณ์ นำไปสู่การปฏิบัติได้ทันที ให้เป็นการ มองว่าชุดฝึกอบรมเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (2) การพัฒนาทักษะวิธีคิดที่เป็นระบบและ ฉันทะในการเรียนรู้ให้กับบุคลากรทางการศึกษา และ (3) การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงานข้ามกรม กอง และภาวะความเป็นตัวตนระหว่างหน่วยงาน รวมทั้งภาวะในระดับนโยบายของการปฏิรูปเป็นเหตุให้ไม่ เกิดการยอมรับแนวคิดบางประการสู่การปฏิบัติ |
|||||||||||||||
| 1604 | การจัดทำแผนแม่บทแห่งชาติเพื่อกำหนดกรอบรูปแบบการบริหารจัดการปัญหามูลฝอยและสิ่งปฏิกูล | มท | 21/01/2546 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอการจัดทำแผนแม่บทแห่งชาติเพื่อกำหนด
กรอบรูปแบบการบริหารจัดการปัญหามูลฝอยและสิ่งปฏิกูล โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อมเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำแผนแม่บทดังกล่าว และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนัก งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการจัดทำแผนแม่บท ฯ ให้กระทรวงมหาด ไทยเป็นหน่วยประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดทำแผนปฏิบัติ โดยให้ความสำคัญกับการจัด การที่ต้นเหตุหรือแหล่งกำเนิดมูลฝอย การลดปริมาณมูลฝอย การใช้ซ้ำ การหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ การ พัฒนาระบบบริหารจัดการ การสร้างกลไกทางเศรษฐศาสตร์และการตลาด การประยุกต์ใช้หลักผู้ก่อมลพิษ เป็นผู้จ่าย การพัฒนาและเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับขีดความสามารถของท้องถิ่น และการยอมรับของ ประชาชน รวมทั้งให้พิจารณาครอบคลุมถึงแนวทางการจัดการมูลฝอยติดเชื้อ และของเสียอันตรายจากชุมชน และอุตสาหกรรมด้วย ทั้งนี้ ประสานงานอย่างใกล้ชิดในเรื่องดังกล่าวกับหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อกำหนด รูปแบบการบริหารจัดการ มาตรการในการควบคุม และกำกับดูแลได้ครบถ้วนสมบูรณ์ในภาพรวมทั้งระบบ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย และให้นำระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS) มาประกอบในการจัดทำแผน ด้วย |
|||||||||||||||
| 1605 | การถ่ายโอนภารกิจการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปเป็นภารกิจของกรุงเทพมหานคร | มท | 21/01/2546 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานความคืบหน้าการถ่ายโอนภารกิจการ
ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปเป็นภารกิจของกรุงเทพมหานคร สรุปได้ว่า การถ่ายโอนภารกิจดังกล่าว จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้แก่กรุงเทพมหานคร กระทรวงมหาดไทยได้มี หนังสือถึงประธานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อขอทบทวนแผน ปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2545 ซึ่งกำหนดให้ มีการถ่ายโอนภารกิจการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้แก่กรุงเทพมหา นคร ให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 และเมื่อคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น เสนอแผนปฏิบัติการ ฯ ที่ได้มีการทบทวน ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ แล้วก็จะนำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา และเสนอรัฐสภาเพื่อทราบ เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา แล้ว การถ่ายโอนภารกิจก็สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า โดยหลักการเมื่อมีการถ่ายโอน ภารกิจแล้ว ก็สมควรให้โอนทั้งอัตรากำลัง อาคารสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะ และหนี้สิน ซึ่งใช้เพื่อ ภารกิจนั้นโดยตรงไปทั้งหมดก่อน ยกเว้นอาคารสถานที่ที่เดิมใช้ร่วมกันและสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังมี ความจำเป็นต้องใช้ สำหรับบุคลากรเมื่อโอนไปทั้งหมดแล้ว การจะรับกลับสังกัดเดิมก็ยังสามารถดำเนิน การได้ภายหลัง ในส่วนอาคารสถานที่ควรมีข้อกำหนดให้ชัดเจนด้วยว่า เมื่อรับโอนไปแล้วจะต้องนำไปใช้ เพื่อภารกิจนั้นเท่านั้น
|
|||||||||||||||
| 1606 | การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด | นร | 21/01/2546 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับเรื่อง การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยให้ถือปฏิบัติดังนี้ (1) ให้ส่วน
ราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานของรัฐทุกแห่งถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบร่วมกันใน การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้บรรลุผลอย่างจริงจัง (2) ให้รัฐมนตรีซึ่งมีหน่วยงานในสังกัดหรือกำกับ ดูแล และมีหัวหน้าหน่วยอยู่ในจังหวัด/ภาค จัดประชุมชี้แจงเพื่อย้ำให้ชัดเจนว่าการป้องกันและปราบปรามยาเสพ ติดเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ซึ่งหัวหน้าหน่วยดังกล่าวจะต้องให้ความช่วยเหลือ ร่วมมือ สนับสนุนการดำเนิน งานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับจังหวัดและอำเภอ (3) ให้รัฐมนตรีเข้มงวด กวดขัน โดยหากพบว่าผู้ใดกระทำผิด หรือละเลยเพิกเฉยในเรื่องนี้ ให้พิจารณาลงโทษอย่างเด็ดขาด จริงจัง เพื่อเป็นตัวอย่าง แก่ผู้อื่น สำหรับผู้บังคับบัญชาในทุกระดับจะต้องเอาใจใส่ กวดขัน ดูแลมิให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าไปเกี่ยวข้องกับยา เสพติดในทุกรูปแบบ หากผู้บังคับบัญชาละเลย ไม่เอาใจใส่ดูแล หรือมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ จะถูกพิจารณา ดำเนินการทางวินัยด้วย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2546 เป็นต้นไป (4) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติ ธรรมพิจารณาแนวทางการสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อให้ สามารถดำเนินการตรวจสอบและยึดทรัพย์ของผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศได้อย่าง รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพื่อแสดงให้สาธารณชนได้ประจักษ์ถึงโทษภัยของผู้ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งการ ดำเนินการอย่างจริงจังในเรื่องนี้ของรัฐบาล และ (5) ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับไปประชุม หารือร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขอความร่วมมือจากคณะสงฆ์ เพื่อกำหนดแนวทางและ รูปแบบการประชาสัมพันธ์เพื่อรณรงค์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้เป็นระบบ มีความเป็นวิชาการ และต่อเนื่อง โดยให้ครอบคลุมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับโทษและพิษภัยของยาเสพติด การบำบัด รักษา และการฟื้นฟูผู้เสพยา ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจรับผิดชอบในด้านการประชาสัมพันธ์ ตลอด จนหน่วยงานที่มีสถานีวิทยุและโทรทัศน์ในการกำกับดูแลให้ความร่วมมือในการออกอากาศกระจายเสียง เพื่อ เผยแพร่ข้อมูลการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้สาธารณชนได้รับรู้อย่างกว้าง ขวาง ต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่มีผู้ชม/ผู้ฟัง จำนวนมาก (show time)
|
|||||||||||||||
| 1607 | สมควรยกย่องชมเชยอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ | นร | 14/01/2546 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอให้มีการสมควรยกย่องชมเชย
อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายสุจริต นันทมนตรี โดยปัจจุบันดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ซึ่งสมัยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษได้ริเริ่มนำนโยบายการแลกเปลี่ยนสินค้าโดยระบบ หักบัญชีของนายกรัฐมนตรีที่ใช้กับต่างประเทศมาใช้กับจังหวัดศรีสะเกษอย่างได้ผลดี จนจังหวัดอื่นนำแบบอย่าง ไปปฏิบัติ รวมทั้งการบริหารงานในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดที่อยู่ในโครงการจังหวัดทดลองแบบบูรณาการเพื่อ การพัฒนา สามารถทำให้ประชาชน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และข้าราชการมีความพึงพอใจต่อการ บริหารงาน และต่อภาวะผู้นำทั้งทางด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ปัญหาความยากจน และปัญหาการให้บริการของรัฐ ในการนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับทราบและเห็นชอบให้มีการกล่าวชมเชยอดีตผู้ว่า ราชการจังหวัดศรีสะเกษในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ส่วนการมอบรางวัลโล่เกียรติยศให้ดำเนินการในโอกาสอื่น เพื่อที่จะได้เผยแพร่ข่าวการยกย่องให้กำลังใจคนดีให้สื่อมวลชนและประชาชนรับทราบ เพื่อเป็นแบบอย่างในการ ปฏิบัติตนให้ดีต่อไป |
|||||||||||||||
| 1608 | กระทู้ถามที่ 798 ร. เรื่อง นโยบายการใช้ไฟฟ้าเพื่อสิ่งแวดล้อม | สผ | 14/01/2546 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 798 ร. เรื่อง นโยบายการ
ใช้ไฟฟ้าเพื่อสิ่งแวดล้อม ของนายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรสาคร สรุปได้ว่า การ ใช้ไฟฟ้าของส่วนราชการและหน่วยงาน ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น กับเครื่องตีน้ำ หรือเติมอากาศ (โรงงานบำบัดน้ำเสียชุมชน) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้อนุโลมให้คิดในอัตราประเภทที่ 6 ส่วน ราชการและองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร เนื่องจากการบำบัดน้ำเสียชุมชนดังกล่าวไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการ และ การจ่ายค่ากระแสไฟฟ้า ปัจจุบันโรงงานบำบัดน้ำเสียชุมชนของส่วนราชการ ฯ จ่ายค่ากระแสไฟฟ้าต่ำกว่าต้นทุน ที่แท้จริง หากโรงงานบำบัดน้ำเสียหลีกเลี่ยงการใช้ไฟฟ้าในช่วง peak ไปใช้ไฟฟ้าในช่วง Off-peak แทน และควร เลือกใช้อัตราตามช่วงเวลาการใช้ จะทำให้การจ่ายค่ากระแสไฟฟ้าลดลง สำหรับหลักเกณฑ์และขั้นตอนในการ ขอรับการสนับสนุนกระแสไฟฟ้าเพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้กำหนดอัตราค่าไฟฟ้าของโรง งานบำบัดน้ำเสีย คิดในอัตราประเภทที่ 6 ฯ ทั้งนี้ ได้แจ้งให้การไฟฟ้าทุกแห่งถือเป็นหลักปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ดังกล่าวแล้ว และส่วนราชการ ฯ ที่ขอใช้ไฟฟ้ากับโรงงานบำบัดน้ำเสีย ฯ การไฟฟ้า ฯ คิดค่าไฟฟ้าในอัตรา ประเภทที่ 6 ฯ ในอัตราหน่วยละ 2.1412 บาท และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป |
|||||||||||||||
| 1609 | การเตรียมการป้องกันอุบัติเหตุการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ | มท | 24/12/2545 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายประมวล รุจนเสรี)
เสนอเรื่อง การเตรียมการป้องกันอุบัติเหตุการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งการดำเนินการป้องกันปัญหา การจราจรในปีนี้ กระทรวงมหาดไทยได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในถนนสาย รองมากขึ้น โดยมอบหมายและสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งองค์การ บริหารส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ประสานและดำเนินการปรับปรุงสภาพถนน เครื่องหมาย และสัญญาณจราจร ในเส้นทางต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพดีเพื่อรองรับการจราจร ตั้งด่านตรวจและกวดขันวินัยการจราจรของผู้ใช้รถ ใช้ถนนประมาณ 17,000 จุด ใช้บุคลากร 42,000 คน ขอความร่วมมือผู้ประกอบการรถบรรทุก ให้นำรถ บรรทุกออกมาวิ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่เท่าที่จำเป็นเพื่อลดความแออัดด้านการจราจร ขอความร่วมมือสถานี บริการน้ำมันงดจำหน่ายสุรา และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขอความร่วมมือกระทรวง คมนาคมในการควบคุม ดูแล มิให้ประชาชนนำสุรากลั่นและสุราพื้นเมืองประเภทต่าง ๆ มาจำหน่ายริม ถนนสายต่าง ๆ ตลอดจนการกำหนดมาตรการลงโทษผู้ที่กระทำผิด ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนิน การต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ในเดือนเมษายน 2546 ด้วย และในช่วงเทศกาลดังกล่าว หาก รัฐมนตรีท่านใดเดินทางโดยทางรถยนต์ ก็ขอความร่วมมือแวะตรวจเยี่ยมศูนย์และด่านตรวจในเส้นทางที่ เดินทางผ่าน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วย |
|||||||||||||||
| 1610 | การดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำนมดิบและการบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม) | กษ | 24/12/2545 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับเรื่อง การดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำนมดิบและการบริหารจัดการโครงการ
อาหารเสริม (นม) ว่า โดยที่เรื่องนี้มีความเร่งด่วน เกี่ยวข้อง และกระทบกับหลายฝ่ายทั้งเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ผู้ประกอบการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเด็กนักเรียนผู้บริโภคนม เพื่อความรอบคอบ จึงมอบให้รอง นายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) ประธานคณะกรรมการนโยบายนมแห่งชาติ รับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วม กับรองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวง มหาดไทย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติ แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ และรายงานผลให้คณะรัฐมนตรี ทราบด้วย
|
|||||||||||||||
| 1611 | ส่งรายงานประจำปี 2544 (คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) | นร | 17/12/2545 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอรายงานประจำปี พ.ศ. 2544 ของคณะ
กรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะอนุกรรมการในคณะกรรมการ ฯ รวม 6 คณะ และสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (สกถ.) โดยผลงาน ในส่วนของคณะกรรมการ ฯ และคณะอนุกรรมการชุดต่าง ๆ ได้แก่ การจัดทำแผนการกระจายอำนาจ การจัด สรรเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การออกประกาศคณะกรรมการ ฯ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ การจัดสรรเงินรายได้ การกำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรรายได้ การให้ความเห็นเสนอแนะข้อกฎหมายที่เกี่ยว ข้องกับการกระจายอำนาจ การติดตามประเมินผลการดำเนินงานโครงการถ่ายโอนภารกิจบริการสาธารณะ และการรายงานผลการศึกษาการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดโดยตรงจากประชาชน ส่วนผล การปฏิบัติงานของ สกถ. ได้แก่ การจัดทำ Webpage ของ สกถ. ที่ www.dloc.net การพัฒนาศักยภาพ สกถ. ภายใต้โครงการความช่วยเหลือของธนาคารโลก และการจัดสัมมนาเกี่ยวกับการกระจายอำนาจให้แก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระยอง สงขลา อุดรธานี และเชียงใหม่ สำหรับผลการถ่าย โอนงาน/กิจกรรมบริการสาธารณะต่าง ๆ จากส่วนราชการรวม 22 หน่วยงาน ให้แก่องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น งบประมาณทั้งสิ้น 32,476 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2544 มีการเบิกจ่ายเงิน 20,935 ล้าน บาท โดยส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการมีการดำเนินงานตามโครงการ ฯ แล้วเสร็จมากที่สุดและ เบิกจ่ายได้ทันภายในปีงบประมาณ และจากการดำเนินงานพบปัญหาอุปสรรค ได้แก่ ปัญหาการขาดความ รู้ความเข้าใจในหลักการของการกระจายอำนาจ ปัญหาด้านการเตรียมความพร้อมในการถ่ายโอนภารกิจ ปัญหาด้านกฎ/ระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง ปัญหาด้านการขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการปฏิบัติงาน รวมทั้ง ปัญหาด้านการประสานงาน |
|||||||||||||||
| 1612 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 26/11/2545 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันอุบัติภัย
แห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงแก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ (กปอ.) โดยตำแหน่งกรรมการและเลขานุการ เปลี่ยนจาก "รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี" เป็น "อธิบดีกรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย") ตามที่ กปอ. เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า การกำหนดให้อธิบดีกรมทางหลวงชนบทร่วมเป็นคณะ กรรมการ กปอ. ตามร่างข้อ 5 นั้น โดยที่พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 บัญญัติ เป็นบทเฉพาะกาลให้โอนงานของกรมทางหลวงชนบทไปเป็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายในห้าปี จึง ควรกำหนดให้อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการดังกล่าวด้วย แล้วดำเนินการ ต่อไปได้ |
|||||||||||||||
| 1613 | การดำเนินการเกี่ยวกับการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 19/11/2545 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบประเด็นปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไขในการดำเนินการเกี่ยวกับ
การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า การดำเนินการเกี่ยวกับการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังมีปัญหา และอุปสรรคในด้านต่าง ๆ อยู่มาก ทั้งในด้านบุคลากร งาน และงบประมาณ โดยมีการโอนงานและ งบประมาณไปยังองค์กรปกครอง ฯ แล้ว แต่บุคลากรส่วนใหญ่ยังไม่ยอมไป นอกจากนี้ งบประมาณที่จัด สรรให้แก่องค์กรปกครอง ฯ กฎหมายกำหนดไว้ในสัดส่วนค่อนข้างสูงต้องมีการทบทวนหลักการและเหตุผล ประกอบกับการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวยังมิได้มีการศึกษาวิจัย และประเมินผลในทางวิชาการ และสำนัก งานคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ของกระทรวงมหาดไทยต้องทบทวนบทบาทและภารกิจให้เหมาะสมกับ การพัฒนาท้องถิ่นทั้งในด้านบุคลากรและงบประมาณ จึงมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจ ยุทธ) รับเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทาง และมาตรการในการ ดำเนินการและแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ ให้พิจารณาด้วยว่าสัดส่วนการจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรปก ครอง ฯ ตามที่กฎหมายกำหนดมีความเหมาะสมหรือไม่เพียงใด รวมทั้งหากมีการโอนสำนักงานคณะกรรม การกระจายอำนาจ ฯ ไปสังกัดกระทรวงมหาดไทย (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) และจะดำเนินการ โดยการตราเป็นพระราชกฤษฎีกาได้หรือไม่ แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||
| 1614 | การสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ | นร | 29/10/2545 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ
สรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธาน ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 300/2545 ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2545 โดยมีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการ ตามมติคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งอนุมัติให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ ในคณะกรรมการดังกล่าว รวม 10 คน โดยเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ต้องทำงานเต็มเวลา 3 คน ได้แก่ นายมนุชญ์ วัฒนโกเมร นางสาว อรพินท์ สพโชคชัย และนายธรรมรักษ์ การพิศิษฐ์ ตามที่คณะกรรมการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะ กรรมการ ก.พ.ร. เสนอ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2545 เป็นต้นไป |
|||||||||||||||
| 1615 | รายงานผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนกันยายน 2545 | กค | 15/10/2545 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐตั้งแต่ต้นปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2545 จนถึงวันที่ 15 กันยายน 2545 โดยผลการเบิกจ่ายเงินในภาพรวมมีจำนวน 829,388 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.07 ของวงเงินงบประมาณ จำแนกเป็นรายจ่ายประจำ 659,361 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 87.52 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำ และรายจ่ายลงทุน 170,027 ล้านบาท หรือร้อยละ 63.07 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน โดยกระทรวงที่มีการเบิกจ่ายสูงสุดใน 2 สัปดาห์แรกของเดือน ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ ส่วนผลการเบิกจ่ายตั้งแต่ต้นปีจนถึงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน หน่วยงานอิสระตาม รัฐธรรมนูญมีอัตราการเบิกจ่ายสูงสุด ผลการเบิกจ่ายเงินงบลงทุนแยกเป็นส่วนกลางและส่วนภูมิภาคมีการ เบิกจ่ายจำนวน 226,672 ล้านบาท แยกเป็นส่วนกลาง 85,772 ล้านบาท และส่วนภูมิภาค 140,900 ล้าน บาท สำหรับการเบิกจ่ายงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จำนวน 58,000 ล้านบาท คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการเป็นเงิน 36,388 ล้านบาท เบิกจ่ายไปแล้ว 12,899 ล้านบาท หรือร้อยละ 35.45 ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติโครงการ การเบิกจ่ายเงินงบประมาณโครงการถ่ายโอน/กิจกรรมสาธารณะ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีการเบิกจ่ายเงินจากคลัง 24,093 ล้านบาท หรือร้อยละ 89.02 ของ วงเงินงบประมาณ ผลการเบิกจ่ายเงินนอกงบประมาณของกองทุนและเงินทุนหมุนเวียน มีการเบิกจ่ายเงิน จำนวน 92 กองทุน เป็นเงิน 111,746 ล้านบาท หรือร้อยละ 73.82 ของแผนการใช้จ่ายเงิน นอกจากนี้ ผล การเบิกจ่ายเงินกู้ต่างประเทศ มีการเบิกจ่าย 41,861 ล้านบาท หรือร้อยละ 72.02 ของแผนการใช้จ่ายเงิน กู้ต่างประเทศ และผลการเบิกจ่ายเงินของรัฐวิสาหกิจ มีการเบิกจ่าย 1,226,543 ล้านบาท หรือร้อยละ 88.97 ของแผนการใช้จ่ายเงิน ทั้งนี้ ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ เงินนอกงบประมาณ เงินกู้ต่างประเทศ และเงินของรัฐวิสาหกิจ เมื่อหักรายการซ้ำซ้อนจำนวน 106,368 ล้านบาทแล้ว ทำให้การเบิกจ่ายมีจำนวน ทั้งสิ้น 2,103,170 ล้านบาท หรือร้อยละ 88.77 ของแผนการใช้จ่ายเงินภาครัฐ |
|||||||||||||||
| 1616 | รายงานผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐประจำเดือนสิงหาคม 2545 | กค | 01/10/2545 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐในปีงบประมาณ
พ.ศ. 2545 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2545 โดยผลการเบิกจ่ายเงินในภาพรวม กรณีไม่ รวมงบกลางรายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ (58,000 ล้านบาท) มีการเบิกจ่าย 800,611 ล้าน บาท หรือร้อยละ 82.96 ของวงเงินงบประมาณ (965,000 ล้านบาท) และกรณีรวมงบกลางรายการค่าใช้จ่าย สำรอง ฯ มีการเบิกจ่ายเงิน 812,904 ล้านบาท หรือร้อยละ 79.46 ของวงเงินงบประมาณ (1,023,000 ล้าน บาท) จำแนกเป็นรายจ่ายประจำ 649,342 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 163,562 ล้านบาท สำหรับการเบิก จ่ายงบลงทุนของหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 26 แห่ง มีการเบิกจ่าย จำนวน 117,303 ล้านบาท หรือร้อยละ 72.66 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุนในกลุ่มนี้ การเบิกจ่ายเงิน งบประมาณโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรมสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีจำนวน 23,674 ล้าน บาท คิดเป็นร้อยละ 87.47 ของวงเงินงบประมาณโครงการถ่ายโอน ฯ รวมทั้งการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ งบ กลางรายการค่าใช้จ่ายสำรองกระตุ้นเศรษฐกิจมีจำนวน 12,293 ล้านบาท หรือร้อยละ 33.78 ของวงเงินงบ ประมาณที่ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ส่วนการเบิกจ่ายเงินนอกงบประมาณในส่วนของกองทุนและเงิน ทุนหมุนเวียนมีการเบิกจ่ายเงินจำนวน 92 กองทุน เป็นเงิน 108,707 ล้านบาท หรือร้อยละ 78.92 ของแผน การใช้จ่ายเงินจำนวน 137,738 ล้านบาท เงินกู้ต่างประเทศมีการเบิกจ่าย 41,286 ล้านบาท หรือร้อยละ 76.66 ของแผนการใช้จ่ายเงินกู้ต่างประเทศจำนวน 53,859 ล้านบาท และเงินของรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่าย 1,219,775 ล้านบาท แบ่งเป็นงบทำการ 1,123,650 ล้านบาท และงบลงทุน 96,125 ล้านบาท โดยในส่วน ของงบลงทุนเป็นการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 29 แห่ง (ไม่รวมรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน) ทั้งนี้ ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ เงินนอกงบประมาณ เงินกู้ต่างประเทศ และเงินของรัฐวิสาหกิจ เมื่อหักราย การซ้ำซ้อนจำนวน 105,196 ล้านบาทแล้ว ทำให้การเบิกจ่ายเงินภาครัฐมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 2,077,476 ล้านบาท หรือร้อยละ 87.68 วงเงินภาครัฐจำนวน 2,369,327 ล้านบาท |
|||||||||||||||
| 1617 | ขอความเห็นชอบแผนการปรับปรุงฟื้นฟูและบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียรวม | วว | 01/10/2545 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (คกก.3)
ที่มีมติเห็นชอบในหลักการให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม (องค์การจัดการน้ำเสีย) เข้า ดำเนินการเพื่อปรับปรุงฟื้นฟูและบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียที่ก่อสร้างแล้วเฉพาะที่องค์การ ฯ ได้รับการ จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 ไปแล้ว จำนวน 9 พื้นที่ ได้แก่ เทศบาลเมือง ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เทศบาลเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร เทศบาลเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี เทศ บาลเมืองชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ เทศบาลตำบลหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เทศบาลตำบลบ้านเพ จังหวัดระยอง เทศบาลตำบลป่าตอง จังหวัดภูเก็ต เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมือง พัทยา จังหวัดชลบุรี และให้รับประเด็นอภิปรายของ คกก.3 (เกี่ยวกับการปรับปรุงฟื้นฟูและบริหารจัดการ ระบบบำบัดน้ำเสียที่ก่อสร้างแล้วใน 9 พื้นที่ดังกล่าว สำหรับพื้นที่แห่งอื่น ๆ ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประสงค์จะให้องค์การ ฯ เข้าไปดำเนินการ ให้จัดทำรายละเอียดแผนปรับปรุงฟื้นฟู ฯ แผนการจัดเก็บค่า บริการ โดยมีหลักเกณฑ์ว่า ผู้ก่อให้เกิดมลพิษเป็นผู้จ่าย และเมื่อพื้นที่ใดพร้อม ก็ให้นำเสนอขอความเห็นชอบ จากคณะรัฐมนตรีเป็นรายกรณี ๆ ไป) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย รวมทั้งให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ ฯ ราย งานผลการดำเนินงานให้ คกก.3 ทราบด้วย และให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรให้องค์การ ฯ ปรับ ปรุงคุณภาพของบุคลากรและขีดความสามารถขององค์กรให้รองรับภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไปดำเนิน การด้วย |
|||||||||||||||
| 1618 | แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทย พ.ศ. 2545 - 2549 | นร | 25/09/2545 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทย
พ.ศ. 2545-2549 รวมทั้งข้อคิดเห็นเพิ่มเติมจากคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ ตามที่รอง นายกรัฐมนตรี (นายกร ทัพพะรังสี) รองประธานคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติเสนอ โดย ให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม และรัฐวิสาหกิจทุกหน่วยงานจัดทำ และ/หรือปรับแผนแม่บทของหน่วยงานตน ให้สอดคล้องกับแผนแม่บท ฯ ระดับประเทศ ทั้งในด้านสารัตถะและกรอบระยะเวลาการดำเนินงาน และให้ สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการ ฯ พิจารณาร่วมกับกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผน ปฏิบัติของทุกส่วนราชการและหน่วยงาน รวมไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สอดคล้องตรงตามแผน แม่บท ฯ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน 60 วัน และให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกแห่ง ซึ่งมีแผนหรือกำลังเตรียมการจัดทำบัตรประจำตัวและบัตร Smart Card ให้แก่ประชาชน จัดส่งข้อมูล/แผน งานในเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ เพื่อเป็นศูนย์ กลางรวบรวม และบูรณาการให้มีความสอดคล้องในทางปฏิบัติ มาตรฐานข้อมูล และมาตรฐานกลางของ ระบบการอ่านที่สามารถใช้บัตรเดียวเก็บข้อมูลร่วมกันได้หลายหน่วยงาน กับให้สำนักงานสถิติแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลักดำเนินงานเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการเก็บข้อมูลสำรวจที่ลงไปถึงท้องถิ่น สำหรับการ จัดตั้งสำนักงานส่งเสริมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำนักงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสารสน เทศและการสื่อสาร และกรมสำรวจและทำแผนที่พลเรือน ขึ้นในกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสาร มอบให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติจัดทำร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อ สามารถเสนอให้รัฐมนตรีกระทรวงใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้นพิจารณาได้อย่างรวดเร็วต่อไป ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมี ความเห็นเพิ่มเติมว่าร่างแผนแม่บทดังกล่าวควรให้ความสำคัญต่อการจัดการศึกษาซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ เทคโนโลยีสารสนเทศโดยตรง ตามที่ปรากฏในยุทธศาสตร์ โดยระบุไว้ในพันธกิจให้ชัดเจน และให้แก้ไข ชื่อของกระทรวงศึกษาธิการให้ถูกต้องตรงตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ฉบับใหม่ ด้วย นอกจากนี้ การบริหารและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ควรมีกฎหมายเกี่ยวกับ เรื่องนี้ให้น้อยที่สุด เพื่อให้มีความคล่องตัวและเป็นการเปิดกว้างทางเทคโนโลยี เพราะเทคโนโลยีด้านนี้ มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว |
|||||||||||||||
| 1619 | ผลการสำรวจความรู้ความเข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น พ.ศ. 2545 | นร | 25/09/2545 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานสรุปผลการสำรวจความรู้ความเข้าใจ
ของประชาชนเกี่ยวกับการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น สรุปได้ว่า ประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่ประมาณ 4 ใน 5 หรือร้อยละ 79.6 เคยได้ยินหรือทราบเรื่องการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดย ร้อยละ 20.4 ไม่เคยได้ยินหรือไม่ทราบ ทั้งนี้ ร้อยละ 88.4 เห็นด้วยกับการที่จะมีการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ไม่เห็นด้วยร้อยละ 11.6 โดยร้อยละ 55.2 เห็นว่าควรกระจายอำนาจไปในทุกจังหวัดและทุกพื้นที่พร้อมกัน และ ประมาณร้อยละ 42.4 เห็นว่าควรกระจายอำนาจไปในจังหวัดที่สามารถบริหารจัดการด้วยตนเองได้ สำหรับ แหล่งงบประมาณที่จะใช้ในการบริหารงาน ร้อยละ 71.3 เห็นว่าควรเป็นงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจาก รัฐบาล ร้อยละ 47.1 เห็นควรเป็นงบประมาณจากภาษีอากรของท้องถิ่น ร้อยละ 42.7 เป็นงบประมาณของ ท้องถิ่น และร้อยละ 24.2 เป็นงบประมาณที่ได้จากผลประโยชน์/ทรัพยากรของท้องถิ่น นอกจากนี้ ร้อยละ 56.2 เห็นว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความพร้อมในการบริหารงานส่วนท้องถิ่น และร้อยละ 19.8 เห็นว่า ยังไม่พร้อม และประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป เกือบ 3 ใน 4 หรือร้อยละ 72.4 มีความพอใจต่อการบริหารงาน ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในปัจจุบัน โดยมีผู้ที่ไม่พอใจร้อยละ 27.6 |
|||||||||||||||
| 1620 | รายงานผลการอนุมัติเงินประจำงวดของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 (ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงวันที่ 19 กันยายน 2545) | นร | 24/09/2545 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานผลการอนุมัติเงินประจำงวดของส่วน
ราชการและรัฐวิสาหกิจ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงวันที่ 19 กันยายน 2545 มี จำนวนทั้งสิ้น 1,002,342.7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 98.0 ของวงเงินงบประมาณจำนวน 1,023,000 ล้านบาท เป็นการอนุมัติเงินประจำงวดสำหรับรายจ่ายลงทุนมีจำนวน 244,117.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 109.2 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน และรายจ่ายประจำมีจำนวน 758,225.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 94.9 ของงบประมาณรายจ่ายประจำ ส่วนการอนุมัติเงินประจำงวดของโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรม บริการสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีจำนวนทั้งสิ้น 26,947.9 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 99.6 ของวงเงินงบประมาณโครงการถ่ายโอน ฯ จำนวน 27,061.8 ล้านบาท และการอนุมัติเงินประจำ งวดงาน/โครงการภายใต้งบกลางรายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมีจำนวนทั้งสิ้น 20,390.0 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 56.0 ของวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติจำนวน 36,388.1 ล้านบาท |
|||||||||||||||
.....
