คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีทุกปีเพื่อสนับสนุนโครงการ  
อาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา และโครงการอาหารกลางวันเด็กก่อนประถมศึกษา ให้สามารถช่วยเหลือ 
นักเรียนได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของจำนวนนักเรียนในระดับประถมศึกษาและในระดับก่อนประถมศึกษา ตามที่  
กระทรวงศึกษาธิการเสนอ  โดยให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณในการนี้ให้ตามความจำเป็นและ 
เหมาะสม ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับ   
การจัดสรรดอกผลจากกองทุนให้โครงการดังกล่าวเต็มจำนวนตามวงเงินดอกผลที่ได้รับในแต่ละปี เท่าที่จะจัดสรร  
ได้   ส่วนที่ขาดให้ขอสนับสนุนงบประมาณสมทบการจัดทำรายละเอียดแสดงจำนวนเงินที่ได้รับความช่วยเหลือทั้ง  
หมดเป็นรายปี  และการมีระบบการควบคุมตรวจสอบและประเมินผลการทำงาน  พร้อมทั้งรายงานผลสัมฤทธิ์ใน
แต่ละปีการศึกษา  รวมทั้งการปรับวิธีการบริหารจัดการกองทุนและงบประมาณเพิ่มเติมตามโครงการ ฯ เพื่อให้มี  
เงินทุนหมุนเวียนและดอกผลที่จะนำมาเสริมได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน) ไปพิจารณาดำเนินการ และให้กระทรวง  
มหาดไทยสนับสนุนและร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อรณรงค์ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเอกชน  
องค์กรวิชาชีพ  ชุมชน  บิดามารดา  ผู้ปกครอง ได้เห็นถึงความสำคัญ มีส่วนร่วมในการบริหาร  สนับสนุนในด้าน   
ต่างๆ และดูแลโครงการ เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพอนามัย  ความเจริญเติบโตทางร่างกายและสติปัญญา  คุณภาพ   
การศึกษาของนักเรียน  โดยการดำเนินการโครงการ ฯ ควรให้ความสำคัญในเรื่องของคุณค่าอาหารและให้มีการ  
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคแต่ละพื้นที่ให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการด้วย     สำหรับเรื่องโครงการอาหาร
เสริม (นม) ก็ให้ดำเนินการเช่นเดียวกัน

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์  เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมรายงานผลการ 
ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการกองทุนสิ่งแวดล้อม ระยะที่ 1 ครั้งที่ 3  ณ  วันที่ 29 กุมภาพันธ์
2543  เกี่ยวกับการกู้เงินจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (JBIC หรือ OECF เดิม) มาสมทบ 
กองทุนสิ่งแวดล้อมเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมแก่ส่วนราชการส่วนท้องถิ่น การจัดสรรเงินกู้ JBIC  
สมทบเงินกองทุนสิ่งแวดล้อมในสัดส่วน  75 : 25  การเบิกจ่ายเงินกู้  JBIC  สมทบเงินกองทุนภายใต้โครงการ  
กองทุนสิ่งแวดล้อม  ระยะที่  1  ประกอบด้วย  โครงการจัดการน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ  จังหวัดสมุทรปราการ 
โครงการจัดการน้ำเสียและกำจัดขยะในพื้นที่อื่น ๆ   และการว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อสนับสนุนสำนักงานนโยบาย  
และแผนสิ่งแวดล้อมในการบริหารงานโครงการตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้   การสนับสนุนโครงการและการ 
ดำเนินการเพื่อเร่งรัดการใช้จ่าย

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงาน 
บุคคลส่วนท้องถิ่น  จำนวน 5 คน  ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ   โดยให้แต่งตั้งตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ 
เป็นต้นไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับส่งงานในหน้าที่ราชการ 
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  (ปรับปรุงการรับส่งงานของข้าราชการบางตำแหน่งที่มีการเปลี่ยนแปลงชื่อตำแหน่งแตก 
ต่างไปจากเดิม  เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534  การกำหนด 
หลักเกณฑ์ให้ครอบคลุมถึงการรับส่งงานของตำแหน่งผู้ตรวจราชการ และผู้ตรวจสอบภายในของส่วนราชการ  
ทั้งในราชการบริหารส่วนกลาง  และราชการบริหารส่วนท้องถิ่น)  ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 
เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
พ.ศ. .... (ให้มีกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นเพื่อกำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ 
เลือกตั้งและผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง  หลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น  คณะผู้บริหารท้องถิ่นและผู้
บริหารท้องถิ่นให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.)  ได้ตรวจพิจารณาแล้ว 
โดยให้ สคก. รับข้อสังเกตของ สคก.  และคณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับการใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนน ให้พิจารณาถึงโครง  
สร้างระบบการปกครองส่วนท้องถิ่น ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละประเภทประกอบด้วย    ส่วนการเสียสิทธิ 
เลือกตั้งกรณีไม่ไปใช้สิทธิ  ควรสอดคล้องกับการเสียสิทธิกรณีไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมา 
ชิกวุฒิสภา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา 
(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2542) ไปตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง  โดยให้เชิญผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และผู้
แทนกระทรวงมหาดไทยเข้าร่วมพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อน 
เสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเป็นเรื่องด่วนต่อไป

             รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษาญัตติ การทุจริตการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล 
นครสมุทรปราการ ของสภาผู้แทนราษฎร สรุปได้ว่า คณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณา    
แล้วเห็นว่า  จากกรณีการทุจริตการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลสมุทรปราการ นั้น  ทำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 
ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้ความสนใจในการเลือกตั้งท้องถิ่นมากขึ้น     ส่วนการแจ้งความร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ 
การดำเนินการของรัฐไม่ทันเหตุการณ์ กรณีที่ไม่สามารถเปิดหีบบัตรออกมาพิสูจน์  เนื่องจากจังหวัดหรือกระทรวง   
มหาดไทยหรือแม้แต่พนักงานสอบสวนยังเชื่อว่าไม่มีอำนาจที่จะเปิดหีบบัตรเพื่อพิสูจน์ความผิดได้     รวมถึงในการ 
คัดค้านการเลือกตั้งตามกระบวนการยุติธรรมยังใช้เวลานานกว่าจะทราบผลว่าใครถูกใครผิด    นอกจากนี้   การที่   
เทศมนตรีทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งไม่ว่ากรณีใด ๆ  ให้คณะมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งจะต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อดำเนิน  
กิจกรรมต่อไปจนกว่าคณะมนตรีที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่น่าจะไม่เหมาะสม เพราะอาจทำให้มีการใช้อิทธิพล 
ในทางมิชอบต่อพนักงานฝ่ายประจำได้ สำหรับการทุจริตการเลือกตั้งในครั้งนี้จะต้องดำเนินคดีกับกรรมการทุกคน 
ทุกหน่วยเลือกตั้ง    ตลอดจนนักการเมืองหรือผู้มีอิทธิพลที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นผู้อยู่เบื้องหลังหากปรากฎหลัก 
ฐานการทุจริต  นอกจากนี้ ความไม่พร้อมของเจ้าหน้าที่ในการเตรียมการเลือกตั้งยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มีผู้กล้า  
กระทำความผิดโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย  โดยให้คณะกรรมการการเลือกตั้งรีบเสนอร่างกฎหมายว่าด้วยการเลือก  
ตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นต่อคณะรัฐมนตรี  เพื่อนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็ว  โดยกำหนด   
ระยะเวลาบังคับใช้ภายใน 1 ปี  นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา  และให้มีการแก้ไขพระ 
ราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2469 มาตรา 45  และแก้ไขบทบัญญัติเกี่ยวกับการประชุมสภาท้องถิ่นเพื่อป้องกันมิให้  
เล่นเกมส์ในสภาจนเกิดความไม่เป็นธรรม     พร้อมทั้งมีมาตรการแยกอำนาจและคานอำนาจระหว่างสมาชิกสภา 
ท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อให้การปกครองส่วนท้องถิ่นมีประสิทธิภาพและรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตย  
ที่มีคุณภาพและคุณธรรม ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ และมอบให้กระทรวงมหาดไทยและ 
สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับไปพิจารณาดำเนินการ แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อนำเสนอ 
คณะรัฐมนตรีต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจ 
ที่ให้สิทธิพิเศษแก่สำนักงานสภาสถาบันราชภัฎในการรับจ้างหรือให้บริการ  โดยให้ส่วนราชการ  รัฐวิสาหกิจ  
หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหาราชการส่วนท้องถิ่น  รวมทั้งหน่วยงานอื่นที่มีกฎหมายบัญญัติให้ 
มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่นหรือหน่วยงานอื่นของรัฐสั่งจ้างหรือใช้บริการด้านวิชาการและการวิจัย 
ได้โดยวิธีกรณีพิเศษ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (คศก.) คือ รับทราบ 
รายงานความคืบหน้าโครงการลงทุนเพื่อสังคม  (Social  Investment  Project)   ณ   วันที่  31  ธันวาคม  2542  
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงาน  แหล่งเงินทุนในการดำเนินโครงการ  โครงสร้าง   
การบริหารและจัดการโครงการลงทุนเพื่อสังคม ความคืบหน้าของการดำเนินงานและการเบิกเงินกู้ของโครงการ   
การติดตามและประเมินผล   และสรุปภาพรวมของการดำเนินโครงการ    และให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับความ 
เห็นและข้อสังเกตของ  คศก.  (เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินกู้ของโครงการซึ่งยังมีความล่าช้า  จึงให้กรุงเทพมหานคร  
เร่งดำเนินโครงการสร้างโอกาสในการจ้างงานเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมในระยะสั้น กับให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศ   
ไทยติดตาและมเร่งรัดงานปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวให้แล้วเสร็จโดยให้ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ  ที่เกี่ยวข้อง  ให้ 
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเร่งรัดการเบิกจ่ายเพื่อปรับปรุงคุณภาพของแรงงาน การหารือร่วมกับธนาคารโลกเพื่อ 
พิจารณาปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาชุมชนเมือง (RUDF) การพิจารณานำวงเงินกู้ตามโครง  
การ ฯ ไปดำเนินการโครงการกำจัดน้ำเสียและขยะมูลฝอยขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่นในรูปเงินยืมและชดใช้  
คืนภายหลัง  และการพิจารณาแหล่งเงินในการดำเนินโครงการของส่วนราชการ หากสามารถดำเนินการโดยใช้  
งบประมาณปกติได้ควรขอตั้งงบประมาณตามปกติโดยไม่พึ่งพาเงินกู้) ไปดำเนินการต่อไป

                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน  
พ.ศ. .... (ให้มีกฎหมายเกี่ยวกับการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิได้รับข้อมูล คำชี้  
แจงและเหตุผลจากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ  หรือราชการส่วนท้องถิ่น  ก่อนการอนุญาต 
หรือการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัย คุณภาพชีวิต   
หรือส่วนได้เสียสำคัญอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับประชาชนหรือชุมชนท้องถิ่นและมีสิทธิแสดงความคิดเห็นเพื่อนำมา  
ประกอบการพิจารณดำเนินการให้เกิดประโยชน์) ตามที่ทบวงมหาวิทยาลัยเสนอ   และให้ส่งสำนักงานคณะ  
กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา   โดยให้รับข้อสังเกตของรองนายกรัฐมนตรี (นายพิชัย รัตตกุล) รัฐมนตรี 
ช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (เกี่ยวกับการกำหนดให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งที่มีอยู่แล้ว เช่น สำนัก  
เลขาธิการนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางรับผิดชอบเป็นฝ่ายเลขานุการ และเบิกจ่ายค่าใช้จ่าย 
ค่าใช้จ่ายจากหน่วยงานดังกล่าว  ทั้งนี้ เพื่อประสิทธิภาพของการบริหารเงินงบประมาณในการจัดทำประชา  
พิจารณ์ นอกจากนี้ ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ไม่ควรมีบทบัญญัติให้มีการอุทธรณ์ผลการตัดสินใจของหน่วย
งานของรัฐได้ และควรกำหนดเกี่ยวกับการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการซึ่งเป็นปัญหาว่า จะถือเป็นการ 
ประชาพิจารณ์หรือไม่อย่างไรให้มีความชัดเจน) รวมทั้งข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการ
พิจารณาด้วย แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง 


           

             

               คณะรัฐมนตรีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 619 ร. เรื่อง การฟื้นฟูสภาพแวดล้อมลำห้วยจิก อำเภอ 
บ้านไผ่  จังหวัดขอนแก่น  ของนายเปรมศักดิ์  เพียยุระ  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น   ตามที่สำนัก    
เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ  และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป  (โดยมีสาระสำคัญของคำถาม  สรุป   
ได้ดังนี้ รัฐบาลมีการศึกษาผลกระทบทางสภาพแวดล้อม  คุณภาพของน้ำ  การใช้ประโยชน์  และการฟื้นฟูสภาพ  
แวดล้อมของลำห้วยจิก  อำเภอบ้านไผ่  จังหวัดขอนแก่นหรือไม่  และจะสนับสนุนให้หน่วยงานของรัฐหรือองค์กร  
ปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำโครงการดังกล่าว รวมทั้งจะมีนโยบายที่จะจัดงบประมาณอุดหนุนให้แก่หน่วยงานของ 
รัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้สามารถดำเนินงานอย่างไร)

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (คศก.) คือ รับทราบ 
รายงานมาตรการส่งเสริมรายได้จากการท่องเที่ยว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ  เกี่ยวกับการดูแลความปลอด 
ภัยในชีวิตและทรัพย์สินนักท่องเที่ยว การป้องกันการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว การป้องกันแหล่องท่องเที่ยว 
เสื่อมโทรม การส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจับจ่ายซื้อของ  การส่งเสริมนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจ
พิเศษ การกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมปี Amazing Thailand  การจัดตั้งองค์กรใน
รูปคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว  การฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว   การพัฒนาบุคลากรการท่องเที่ยว  
การจัดสิ่งอำนวยความสะดวก   การส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางจัดประชุมนิทรรศการ     รวมทั้งการส่งเสริมให้
ประเทศไทยเป็นประตูสู่ภูมิภาค และที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  (นายพินิจ  จารุสมบัติ)  รายงาน
เพิ่มเติมเกี่ยวกับการที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (พลตรี สนั่น  ขจรประศาสตร์) 
ได้เน้นเรื่องการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ  โดยให้สำนักงานตำรวจแห่ง  
ชาติร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีบทบาทในเรื่องดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น  และให้ทุกจังหวัดจัดทำแผน  
ดำเนินการ พร้อมทั้งจัดทำประกาศเตือนนักท่องเที่ยวในเขตพื้นที่อันตราย  กับให้กระทรวงมหาดไทย  การท่อง  
เที่ยวแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของ  คศก.  (เกี่ยวกับการให้ความสำคัญเรื่องความ  
สะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสถานที่ท่องเที่ยว การป้องกันการเอารัดเอาเปรียบของร้านค้า  การ 
สร้างความสวยงามและความร่มรื่นของสถานที่และการคงเอกลักษณ์ความเป็นไทย) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง ประธานรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรม 
นูญ มาตรา 266 กรณีคณะกรรมการการเลือก หรือ กกต. ตั้งวินิจัยลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น 
สมาชิกวุฒิสภา ตามที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเสนอ สรุปได้ว่า เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 
109 (11) หมายความว่า  เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เรียกชื่ออย่างอื่น  ซึ่งมีสถานะตำแหน่ง  หน้าที่  หรือลักษณะงาน  
ทำนองเดียวกันกับพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรือของส่วนราชการส่วนท้องถิ่น 
โดยได้รับแต่งตั้ง หรือเลือกตั้งตามกฎหมาย  มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการหรือหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎ  
หมาย ดังนั้น การที่ กกต. วินิจจัยว่าบุคคลซึ่งดำรงตำแหน่งต่าง ๆ เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐนั้น ไม่สอดคล้องกับ 
รัฐธรรมนูญ  มาตรา 109 (11)  แต่ที่วินิจฉัยว่าบุคคลซึ่งดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาสมทบเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของ 
รัฐนั้น ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 109 (11) แล้ว

              เห็นชอบให้นำบันทึกเหตุผลของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ
การขุดดินและถมดิน พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร  (โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการให้มีกฎหมายว่า  
ด้วยการขุดดินและถมดิน เพื่อให้การขุดดินหรือถมดินในเขตเทศบาล กรุงเทพมหานคร  เมืองพัทยา  องค์กร 
ปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นตามที่กฎหมายโดยเฉพาะจัดตั้งขึ้น   ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศ 
กำหนดในราชกิจจานุเบกษา และบริเวณที่มีพระราชกฤษฎีกาให้ใช้บังคับกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร 
เขตผังเมืองรวมตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมืองและในท้องที่อื่นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นไป  
โดยถูกต้องตามหลักวิชาการ)  ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ    เป็นบันทึกเหตุผลของ  
ร่างพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. .... ประกาศในราชกิจจานุเบกษาพร้อมกับร่างพระราชบัญญัติ
ดังกล่าว เมื่อได้ทรงลงพระปรมาภิไธยในร่างพระราชบัญญัติแล้ว





 

                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดสำนัก  
นายกรัฐมนตรี  สำนักนายกรัฐมนตรี  พ.ศ. ....  (จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่ 
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)  ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ   และให้ส่งสำนักงานคณะ  
กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา    โดยให้รับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย  (เกี่ยวกับการปรับปรุง  
อำนาจหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจ ฯ ตามร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ  มาตรา 4  
(4)   และมาตรา  6 (4)  ให้สอดคล้องกับมาตรา  15  แห่งพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการ  
กระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542) ไปพิจารณาด้วย  แล้วดำเนินการต่อไปได้ 
สำหรับอัตรากำลังในสำนักงานดังกล่าวให้เกลี่ยอัตรากำลังโดยไม่ให้เพิ่มอัตรากำลังใหม่   ตามความเห็น  
ของสำนักงาน ก.พ.  และสำนักงบประมาณ  โดยให้เกลี่ยนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เช่น  กระทรวงการ  
คลัง กระทรวงมหาดไทย  สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  และให้หน่วยงานดังกล่าวให้ความร่วมมือ 
ด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการการเลือกกรรมการผู้แทนองค์กร 
ปกครองส่วนท้องถิ่น  และการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปก  
ครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ....  ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว    และให้ดำเนินการต่อ  
ไปได้ โดยให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา 
(กรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 1)  (เกี่ยวกับเรื่อง การเลือกกรรมการผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯ  กรณีเมื่อ 
เลือกแล้วผู้นั้นต้องออกจากตำแหน่ง) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวปฏิบัติในการกำกับดูแลการเผยแพร่ข่าวสารการประกาศประกวดราคาเพื่อ 
เสริมมาตรการป้องกันหรือลดโอกาสในการสมยอมกันในการเสนอราคา ตามที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเสนอ ทั้ง   
9 ข้อ   และให้ส่วนราชการ  รัฐวิสาหกิจ  หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาค  องค์กร 
ปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่นของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลถือปฏิบัติต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 186/2542 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้ 
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี  (ฉบับที่  10)  โดย 
มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพิชัย  รัตตกุล) ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรม  
การการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น   และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  (นายอภิสิทธิ์  
เวชชาชีวะ) สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี สำหรับสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์  
กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้รายงานผลการปฏิบัติงานให้ทราบเป็นระยะๆ
ตามความก้าวหน้าของงานด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก 
กรรมการผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ศ. .... ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี
เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาโดยเร่งด่วน ทั้งนี้ ให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี  
(เกี่ยวกับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละประเภทควรกำหนดตำแหน่งให้ชัดเจนไว้ในร่างระเบียบ ฯ   แต่  
ละข้อจะเป็นการเหมาะสมหรือไม่ โดยที่พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542 ได้ประกาศ 
ใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว  สมควรพิจารณาถึงผลกระทบต่อร่างระเบียบนี้เกี่ยวกับผู้บริหารเมืองพัทยาด้วย   และผู้  
บริหารเทศบาล จำนวน 3 คน ในคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรจะกำหนดให้   
มาจากผู้บริหารเทศบาลประเภทละ 1 คน  จะเป็นการเหมาะสมหรือไม่) ไปพิจารณาด้วย  แล้วให้ดำเนินการต่อไป 
ได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรี  และรองนายกรัฐมนตรี  (นายพิชัย  รัตตกุล) 
เสนอเกี่ยวกับการเตรียมการดำเนินการตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์  
กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542  ว่า  พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กร  
ปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ได้ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว  และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับ
กฤษฎีกา เล่ม 116 ตอนที่ 114 ก วันที่ 17 พฤศจิกายน 2542 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2542  
เป็นต้นไป โดยมีสาระสำคัญให้ต้องมีการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกระจายอำนาจให้ 
แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (มาตรา 15) ซึ่งจะต้องดำเนินการตราพระ  
ราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการภายในให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน  พ.ศ.  2534   
มาตรา 8 ต่อไป การตรากฎกระทรวงมอบอำนาจให้เอกชนดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แทน (มาตรา 22)  และ  
การตรากฎกระทรวงมอบอำนาจให้ส่วนราชการ ฯ จัดเก็บภาษีอากร ฯ  แทน  (มาตรา 29)  และเห็นควรมอบให้  
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  (นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ)  เป็นผู้กำกับดูแลและประสานกับสำนักงานปลัด  
สำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อเร่งรัดดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 2522 
(กำหนดเขตเมืองพัทยาเป็นเขตราชการส่วนท้องถิ่นอื่น เพื่อให้อาคารชุดที่ตั้งในบริเวณดังกล่าวมีคนต่างด้าวและนิติ
บุคคลบางประเภทถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดได้ในอัตราเกินกว่าร้อยละสี่สิบเก้าของเนื้อที่ของห้องชุดทั้งหมดในอาคาร
ชุด กับกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของคนต่างด้าวและนิติบุคคลบางประ   
เภทที่มีอัตราเกินกว่าร้อยละสี่สิบเก้าของเนื้อที่ของห้องชุดทั้งหมดในอาคาร)  ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ   และ
ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้