คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการแก้ไขปัญหาการก่อสร้างถนนและระบบสาธารณูปโภคภาย
ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล  ของสำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก  โดยปรับปรุง
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ  พ.ศ. 2535     และที่แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดอัตรา
ค่าปรับสำหรับงานก่อสร้างสาธารณูปโภคที่มีผลกระทบต่อการจราจร   ให้สูงขึ้นจากอัตราร้อยละ   0.25
เป็นร้อยละ  0.5  ของราคางานจ้างนั้น  โดยงานก่อสร้างสาธารณูปโภคที่มีการดำเนินงานในผิวจราจรใน
เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลปกติให้กำหนดระยะเวลาดำเนินการไม่เกิน  1  ปี     และให้รัฐวิสาหกิจ
หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่นหรือหน่วยงานอื่นซึ่งมีกฎหมายบัญญัติ
ให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานอื่นของรัฐ  ปรับปรุงระเบียบหรือข้อบังคับให้สอด
คล้องกันต่อไป  ทั้งนี้  ให้มีผลใช้บังคับสำหรับการจัดหาที่จะดำเนินการ  ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2545 เป็น
ต้นไป ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) เสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐ ตั้งแต่ต้นปีงบ
ประมาณจนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2545 โดยผลการเบิกจ่ายเงินในภาพรวมมีจำนวน 763,868 ล้านบาท หรือ
ร้อยละ 74.67 ของวงเงินงบประมาณ จำแนกเป็นรายจ่ายประจำ 609,291 ล้านบาท หรือร้อยละ 80.55 ของ
วงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำ และรายจ่ายลงทุน  154,577  ล้านบาท หรือร้อยละ   57.99  ของวงเงินงบ
ประมาณรายจ่ายลงทุน  โดยกระทรวงที่มีการเบิกจ่ายสูงสุดใน 2 สัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม 2545  ได้แก่
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) ส่วนหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญมีการเบิกจ่ายตั้งแต่ต้นปี
จนถึงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนสิงหาคม 2545 มากที่สุด  สำหรับการเบิกจ่ายเงินงบลงทุนแยกเป็นส่วนกลางและ
ส่วนภูมิภาค มีการเบิกจ่ายไปแล้วทั้งสิ้น 54,527 ล้านบาท และ 100,049 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนการเบิก
จ่ายงบกลาง  รายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จำนวน  58,000  ล้านบาท  คณะรัฐมนตรีมีการ
อนุมัติโครงการเป็นเงินทั้งสิ้น 30,915 ล้านบาท  และเบิกจ่ายไปแล้ว 11,713 ล้านบาท  หรือร้อยละ 37.89
ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติโครงการ การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของโครงการถ่ายโอน/กิจกรรมสาธารณะให้แก่
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการเบิกจ่ายเงินจากคลัง 23,067 ล้านบาท  หรือร้อยละ  85.23  ของวงเงินงบ
ประมาณ  นอกจากนี้ ผลการเบิกจ่ายเงินนอกงบประมาณของกองทุนและเงินทุนหมุนเวียนมีการเบิกจ่ายเงิน
จำนวน 92 กองทุน เป็นเงิน 108,534 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.41  รวมทั้งการเบิกจ่ายเงินกู้ต่างประเทศมี
การเบิกจ่าย 39,784 ล้านบาท หรือร้อยละ 73.11 และผลการเบิกจ่ายเงินของรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายแล้ว
1,115,065 ล้านบาท หรือร้อยละ 80.88 ทั้งนี้ ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ  เงินนอกงบประมาณ  เงินกู้
ต่างประเทศ และเงินของรัฐวิสาหกิจ  เมื่อหักรายการซ้ำซ้อนจำนวน 103,637 ล้านบาทแล้ว  ทำให้การเบิก
จ่ายมีทั้งสิ้น 1,923,614 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.19 ของแผนการใช้จ่ายเงินภาครัฐ

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานผลการอนุมัติเงินประจำงวดของส่วน
ราชการและรัฐวิสาหกิจ  ปีงบประมาณ  พ.ศ. 2545  ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงวันที่  5  กันยายน  2545  มี
จำนวนทั้งสิ้น 977,188.9 ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ 95.5 ของวงเงินงบประมาณ จำนวน 1,023,000 บาท
เป็นการอนุมัติเงินประจำงวดสำหรับรายจ่ายลงทุน จำนวน 220,687.2 ล้านบาท  หรือร้อยละ  98.7  ของ
งบประมาณรายจ่ายลงทุน  และรายจ่ายประจำ จำนวน  756,501.7  ล้านบาท  หรือร้อยละ  94.6  ของงบ
ประมาณรายจ่ายประจำ ส่วนการอนุมัติเงินประจำงวดของโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรมบริการสาธารณะ
ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีจำนวนทั้งสิ้น 26,882.2 ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ  99.3  ของวงเงินงบ
ประมาณโครงการถ่ายโอน ฯ  จำนวน 27,061.8 ล้านบาท  รวมทั้งการอนุมัติเงินประจำงวดของงาน/โครง
การภายใต้งบกลางรายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ มีจำนวนทั้งสิ้น 20,300.2 ล้านบาท  คิด
เป็นร้อยละ 65.6 ของวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ จำนวน 30,946.3 ล้านบาท

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานผลการอนุมัติเงินประจำงวดของส่วน
ราชการและรัฐวิสาหกิจ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงวันที่  22  สิงหาคม  2545  มี
จำนวนทั้งสิ้น 973,167.9 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 95.1 ของวงเงินงบประมาณ จำนวน 1,023,000 ล้าน
บาท จำแนกเป็นการอนุมัติเงินประจำงวดสำหรับรายจ่ายลงทุน จำนวน  218,885.0  ล้านบาท  และราย
จ่ายประจำ จำนวน  754,282.9  ล้านบาท    ส่วนการอนุมัติเงินประจำงวดของโครงการถ่ายโอนงาน/กิจ
กรรมบริการสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีจำนวนทั้งสิ้น 26,864.0 ล้านบาท คิดเป็นร้อย
ละ 99.3  ของวงเงินงบประมาณโครงการถ่ายโอน ฯ  จำนวน  27,061.8  ล้านบาท  รวมทั้งการอนุมัติเงิน
ประจำงวดของงาน/โครงการภายใต้งบกลางรายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ มีจำนวนทั้งสิ้น
20,195.9 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 65.3 ของวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ จำนวน 30,946.3 ล้านบาท

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบการเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2546  เพิ่มเติม  จำนวน 2,577.215 ล้านบาท  เมื่อรวมกับวงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อ
วันที่ 13 สิงหาคม 2545  อนุมัติให้สำนักงบประมาณเสนอขอเพิ่มงบประมาณไว้แล้ว จำนวน 16,114.668 
ล้านบาท  รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 18,691.883 ล้านบาท  โดยเพิ่มงบประมาณรายจ่ายในส่วนของเงินอุดหนุน
ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน  633.463  ล้านบาท  ค่าตอบแทนกำนัน   ผู้ใหญ่บ้าน   แพทย์
ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จำนวน 1,694.234 ล้านบาท และรายการสำคัญอื่น ๆ
249.518  ล้านบาท  ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ  เทพกาญจนา) รัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงมหาดไทย  และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอ  และมอบหมายให้สำนักงบประมาณ
นำเสนอคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 
พ.ศ. 2546 พิจารณาต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐ ตั้งแต่ต้นปีจน
ถึงสิ้นสัปดาห์ที่  2  ของเดือนกรกฎาคม  2545  โดยผลการเบิกจ่ายเงินในภาพรวม มีจำนวนทั้งสิ้น 694,230
ล้านบาท  หรือร้อยละ  67.86  ของวงเงินงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร  เป็นรายจ่ายประจำ 558,218 ล้าน
บาท หรือร้อยละ 73.79 ของงบประมาณรายจ่ายประจำ  และรายจ่ายลงทุน 136,012 ล้านบาท หรือร้อยละ
51.03 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน  สำหรับการเบิกจ่ายงบกลางรายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้น
เศรษฐกิจ จำนวน 58,000 ล้านบาท  ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการแล้วเป็นเงินทั้งสิ้น 30,946 ล้านบาท 
มีการเบิกจ่ายแล้ว  10,399  ล้านบาท  หรือร้อยละ  33.60  ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติ  และการเบิกจ่ายเงินงบ
ประมาณโครงการถ่ายโอน/กิจกรรมสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  มีการเบิกจ่ายแล้ว 21,987 
หรือร้อยละ  81.24  ของวงเงินงบประมาณที่จัดสรรให้แก่โครงการ    นอกจากนี้   ผลการเบิกจ่ายเงินนอกงบ
ประมาณในส่วนของกองทุนและเงินทุนหมุนเวียนมีการเบิกจ่ายเงิน จำนวน  92  กองทุน    เป็นเงิน  94,993
ล้านบาท  หรือร้อยละ  78.15  ของแผนการใช้จ่ายเงิน   การเบิกจ่ายในส่วนของเงินกู้ต่างประเทศ มีการเบิก
จ่ายแล้ว 37,395ล้านบาท หรือร้อยละ 74.28 ของแผนการใช้จ่ายเงินกู้ต่างประเทศ   รวมทั้งผลการเบิกจ่าย
เงินของรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายแล้ว  1,004,440  ล้านบาท   หรือร้อยละ  72.86  ของแผนการใช้จ่ายเงิน 
ทั้งนี้ ผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐดังกล่าว เมื่อหักรายการซ้ำซ้อนจำนวน 100,813  ล้านบาทแล้ว  มีการเบิก
จ่ายเงินจำนวนทั้งสิ้น 1,730,245 ล้านบาท หรือร้อยละ 73.03 ของแผนการใช้จ่ายเงินภาครัฐ

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานผลการตรวจติดตามการ
ดำเนินการถ่ายโอนภารกิจบริการสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545
งวดที่ 1  ระหว่างเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2545  ของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในจังหวัดต่าง ๆ 
ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ของส่วนราชการที่ถ่ายโอนภารกิจ ฯ กรมชลประทาน กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมพัฒนา
ชุมชน    กรมการศาสนา    และสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ  ในส่วนของการดำเนินการ
ตามหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการบริหารงบประมาณตามโครงการถ่ายโอน  ฯ  การเตรียมความพร้อมในการ
ถ่ายโอนและรับโอนภารกิจ ฯ การประชาสัมพันธ์  รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน  ซึ่งผลจากการ
ตรวจติดตามเห็นว่า    ควรจัดให้มีการอบรมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(อปท.)  เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการบริหารงบประมาณ   ระเบียบและวิธี
การจัดซื้อจัดจ้าง  ปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการบริหารงบประมาณ   กับจัดให้มีการประชุมเพื่อ
ซักซ้อมความเข้าใจในขั้นตอนวิธีการเบิกจ่ายงบประมาณ   และการเปิดโอกาสให้ประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วม
ในการพิจารณาคัดเลือกพื้นที่ดำเนินการ  สำหรับการตรวจติดตามการดำเนินการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงิน
ภาครัฐในปีงบประมาณ  พ.ศ. 2545 งวดที่ 1 ได้กำชับและเร่งรัดให้หน่วยงานในสังกัดทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิ
ภาค   และส่วนราชการที่ถ่ายโอนงาน/กิจการบริการสาธารณะให้แก่  อปท.  ที่เป็นงบประมาณรายจ่ายลงทุน
ดำเนินการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนและเบิกจ่ายเงินงบประมาณตามแผนปฏิบัติการของแต่ละหน่วย
งาน     โดยให้ถือปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางที่ปฏิบัติเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณตามมติคณะ
รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2544 และวันที่ 22 ตุลาคม 2544

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานผลการอนุมัติเงินประจำงวดของส่วน
ราชการและรัฐวิสาหกิจ  ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงวันที่  8  สิงหาคม  2545  มี
จำนวนทั้งสิ้น 970,507.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 94.9 ของวงเงินงบประมาณ จำนวน 1,023,000 ล้าน
บาท จำแนกเป็นรายจ่ายลงทุน 217,174.0 ล้านบาท  หรือร้อยละ  97.1  ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน
และรายจ่ายประจำ  753,333.3  ล้านบาท  หรือร้อยละ 94.2  ของงบประมาณรายจ่ายประจำ  ส่วนการ
อนุมัติเงินประจำงวดโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรมบริการสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มี
จำนวนทั้งสิ้น 26,840.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 99.2 ของวงเงินงบประมาณโครงการถ่ายโอนฯ จำนวน
27,061.8 ล้านบาท รวมทั้งการอนุมัติเงินประจำงวดของงาน/โครงการภายใต้งบกลางรายการค่าใช้จ่าย
สำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  มีจำนวนทั้งสิ้น  20,149.4  ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ  65.1  ของวงเงินที่คณะ
รัฐมนตรีอนุมัติ จำนวน 30,946.3 ล้านบาท

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 176 เรื่อง การกระจายอำนาจให้แก่องค์การบริหาร
ส่วนท้องถิ่น ของนายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งถามว่า รัฐบาลมีนโยบาย
ที่จะดำเนินการถ่ายโอนอำนาจให้กับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นอย่างแท้จริง ซึ่งไม่ใช่เป็นการโอนเฉพาะเงิน
งบประมาณเพียงอย่างเดียวได้เมื่อใด   และจะใช้เวลากี่ปี   รวมทั้งมีนโยบายที่จะให้ข้าราชการในส่วนราชการ
ต่าง ๆ เช่น  กรมโยธาธิการ กรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย มาช่วยราชการ
หรือทำงานในองค์การบริหารส่วนตำบล  (อบต. )  แล้วขอกลับคืนต้นสังกัดเดิมได้   โดยไม่ต้องอยู่ประจำจน
เกษียณอายุราชการ เพื่อให้มีความก้าวหน้าในชีวิตราชการได้หรือไม่   ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ   และ
มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตอบในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานการตรวจติดตาม โครงการพัฒนาเศรษฐ
กิจชุมชนภายใต้แผนงานด้านชุมชน งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ประจำปี พ.ศ. 2545
ซึ่งจากผลการตรวจติดตาม โครงการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ฯ พบว่า  การอนุมัติโครงการเป็นไปด้วยความล่าช้า 
เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยังขาดความรู้ความเข้าใจในหลักเกณฑ์การจัดทำโครงการหรือไม่เข้าใจใน
ระบบและแนวทางดำเนินการ ความต้องการของประชาคมหมู่บ้าน/ตำบลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลาย
แห่งไม่เป็นไปตามกรอบของโครงการที่กำหนดไว้  และกระบวนการพิจารณาเสนอโครงการมีขั้นตอนการปฏิบัติ
มาก    จึงควรมีการประชาสัมพันธ์การจัดทำโครงการอย่างต่อเนื่องเพื่อเร่งเร้าให้ชุมชนและองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นเล็งเห็นประโยชน์ที่จะได้รับและเกิดความสนใจในการเสนอโครงการ  รวมทั้งควรมีการปรับปรุงกระบวน
การพิจารณาอนุมัติโครงการให้กระชับยิ่งขึ้นโดยให้มีคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติโครงการในระดับจังหวัด ซึ่ง
ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยราชการส่วนกลางและจังหวัด  แล้วเสนอให้คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการเร่ง
ด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหรือองค์กรอื่นใด เป็นผู้อนุมัติในขั้นสุดท้ายแทนคณะรัฐมนตรี

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐในปีงบประมาณ
พ.ศ. 2545  ไตรมาสที่ 3  (ตุลาคม 2544 - มิถุนายน 2545)  โดยผลการเบิกจ่ายเงินในภาพรวม  กรณีรวมงบ
ประมาณรายจ่ายงบกลาง  58,000  ล้านบาท  ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว  672,944
ล้านบาท หรือร้อยละ 65.78 ของวงเงินงบประมาณ  (1,023,000 ล้านบาท)  เป็นการเบิกจ่ายในส่วนของราย
จ่ายประจำ 545,035 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 127,909 ล้านบาท ส่วนกรณีไม่รวมงบประมาณรายจ่าย ฯ
มีการเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว 663,135 ล้านบาท  หรือร้อยละ 68.72 ของวงเงินงบประมาณ (965,000 ล้าน
บาท) นอกจากนี้  ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท  จำนวน 
26 แห่ง มีจำนวน 95,931 ล้านบาท หรือร้อยละ  59.47  ของงบประมาณรายจ่ายลงทุนในกลุ่มนี้  รวมทั้งการ
เบิกจ่ายเงินงบประมาณของโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรมสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  มีการ
เบิกจ่ายจำนวน 20,903 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ  77.23  ของวงเงินงบประมาณโครงการถ่ายโอน  ฯ  และผล
การเบิกจ่ายเงินงบประมาณงบกลางรายการค่าใช้จ่ายสำรองกระตุ้นเศรษฐกิจ (58,000  ล้านบาท) มีการเบิก
จ่ายจำนวน 9,809 ล้านบาท หรือร้อยละ 34.07 ของวงเงินที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ สำหรับการเบิกจ่ายเงิน
นอกงบประมาณของ 92 กองทุน มีจำนวนทั้งสิ้น 92,485 ล้านบาท  หรือร้อยละ  82.14  ของแผนการใช้จ่าย
เงิน   เงินกู้ต่างประเทศมีการเบิกจ่าย  36,258  ล้านบาท   หรือร้อยละ  77.90  ของแผนการใช้จ่ายเงินกู้ต่าง
ประเทศ และการเบิกจ่ายเงินของรัฐวิสาหกิจ มีการเบิกจ่าย 998,231 ล้านบาท  ทั้งนี้  เมื่อหักรายการซ้ำซ้อน
จำนวน 99,238 ล้านบาทแล้ว  ทำให้การเบิกจ่ายเงินภาครัฐในไตรมาสที่ 3  ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  มี
จำนวนรวมทั้งสิ้น 1,700,680 ล้านบาท

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการตรวจสอบความปลอดภัยจากการใช้บริการสวนสนุก ซึ่งคณะทำงาน
ตรวจสอบความปลอดภัยจากการใช้บริการสวนสนุกในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้ทำการตรวจสอบสถาน
ที่ประกอบกิจการสวนสนุกทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล    โดยที่สภาพของเครื่องเล่นต้องมีการปรับ
ปรุงแก้ไขโดยเร็ว ซึ่งในส่วนของห้างพาต้าปิ่นเกล้า ให้ดำเนินการภายใน 24 ชั่วโมง  ส่วนรถไฟลอยฟ้า  สวนสนุก
เมจิกไอส์แลนด์  ทางผู้ประกอบกิจการได้ทำการยกเลิกการให้บริการเครื่องเล่นดังกล่าวแล้ว    สำหรับกรณีการ
เรียกร้องค่าเสียหายจากอุบัติเหตุรถไฟลอยฟ้าเกิดไฟไหม้ทำให้มีผู้เสียชีวิต นั้น  ทางผู้เสียหายได้เรียกร้องค่าเสีย
หายจำนวนคนละ 2 ล้านบาท  แต่ผู้แทนของบริษัทเมจิกเวิลด์ ขอรับไปพิจารณา โดยจะแจ้งให้ทราบภายในวันที่
18 กรกฎาคม 2545  นอกจากนี้ ในส่วนของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด
ทุกจังหวัดพิจารณาแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบสวนสนุกที่มีอยู่ในพื้นที่      รวมทั้งให้กำชับราชการส่วนท้องถิ่น
ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่  และตรวจตราให้สวนสนุกปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายด้วยแล้ว   ตามที่รัฐมนตรี
ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  (นายสุวัจน์  ลิปตพัลลภ)  ประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเสนอ และเห็นชอบ
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอเพิ่มเติมว่า  สวนสนุกหลาย ๆ แห่งมักมิได้จัดเตรียมอุปกรณ์และ
เครื่องมือต่าง ๆ  ที่จำเป็นในการช่วยชีวิตในเบื้องต้นไว้ให้พร้อมสำหรับกรณีที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น หรือจัดเตรียมไว้
ใช้แต่ไม่ครบถ้วนเพียงพอ จึงขอให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ประธานกรรม
การคุ้มครองผู้บริโภครับเรื่องนี้ไปพิจารณาดำเนินการเพื่อเป็นข้อแนะนำผู้ประกอบธุรกิจ

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการติดตามผลการปฏิบัติงาน  และผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณ
ผลการจัดซื้อจัดจ้าง  และผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจประจำไตรมาสที่ 2  ของ
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 และเห็นชอบข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานซึ่งเป็นสาเหตุ
ของความล่าช้าที่ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามแผน โดยให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจยึดแผนการปฏิบัติงาน และ
การใช้จ่ายเงินงบประมาณ  (แบบ สงป. 1  สงป. 2  และ สงป. 3)  แผนการจัดซื้อจัดจ้าง  และการเบิกจ่ายเงินงบ
ประมาณ  (แบบ สงป. 370)  เป็นกรอบแนวทางในการปฏิบัติงาน และมอบหมายให้หัวหน้าส่วนราชการและรัฐ
วิสาหกิจกำกับดูแลนำแผนดังกล่าวไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หากมีการปรับเปลี่ยนแผน ให้ดำเนินการเฉพาะกรณี
ที่มีเหตุผลและความจำเป็น  โดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากหัวหน้าส่วนราชการ  ฯ     รวมทั้งแจ้งให้สำนักงบ
ประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ  กรณีที่หน่วยงานเจ้าของงบประมาณจะต้องรอผลการประสานงานและ
/หรือรอผลการพิจารณาให้ความเห็นชอบจากส่วนราชการ ฯ  ที่เกี่ยวข้องให้ส่วนราชการ  ฯ  ผู้พิจารณาให้ความ
เห็นชอบเร่งรัดพิจารณา และแจ้งผลการพิจารณาให้หน่วยงานเจ้าของงบประมาณในโอกาสแรก  และมอบหมาย
ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัด  และหัวหน้าส่วนราชการ ฯ  รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด เร่งรัดดำเนินงาน การจัดซื้อจัดจ้าง
และการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ     และงบประมาณที่ถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เร่งรัดดำเนิน
การอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ  สำหรับกรณีส่วนราชการ ฯ ที่ได้รับการจัดสรรงบกลาง รายการค่าใช้จ่าย
สำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ (58,000 ล้านบาท) ควรเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ  เพื่อจักได้ดำเนินการจัดซื้อ
จัดจ้างให้เป็นไปอย่างรวดเร็วภายหลังได้รับการอนุมัติงบประมาณจากคณะรัฐมนตรี   ทั้งนี้  ให้หัวหน้าส่วนราช
การ  ฯ  กำกับดูแลให้หน่วยงานรายงานผลตามระยะเวลาที่กำหนดต่อไป (ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  4
กันยายน 2544) เพื่อให้กระทรวง/ทบวง ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติต่อไป  ตามที่สำนักงบประมาณ
เสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานผลการอนุมัติเงินประจำงวดของส่วน
ราชการและรัฐวิสาหกิจ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงวันที่ 11 กรกฎาคม 2545 มี
จำนวนทั้งสิ้น 962,526.4 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 94.1 ของวงเงินงบประมาณ  1,023,000  บาท  เป็น
การอนุมัติเงินประจำงวดสำหรับรายจ่ายลงทุน 214,775.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 96.0  ของงบประมาณ
รายจ่ายลงทุน  และรายจ่ายประจำ  747,751.1  ล้านบาท  หรือร้อยละ  93.5  ของงบประมาณรายจ่าย
ประจำ สำหรับการอนุมัติเงินประจำงวดโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรมบริการสาธารณะให้แก่องค์กรปก
ครองส่วนท้องถิ่น มีจำนวนทั้งสิ้น  26,799.5  ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ 99.0  ของวงเงินงบประมาณโครง
การถ่ายโอน ฯ 27,061.8 ล้านบาท  และการอนุมัติเงินประจำงวดงาน/โครงการภายใต้งบกลางรายการ
ค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ มีจำนวนทั้งสิ้น  19,166.9  ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ  61.9  ของวง
เงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ จำนวน 30,946.3 ล้านบาท

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้มีการคงสิทธิตามโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการ
ที่โอนหรือลาออกจากราชการเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกกรณี และให้ข้าราชการดัง
กล่าวได้รับสิทธิในการได้รับยกเว้นการชดใช้เงินส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามโครงการ ฯ  ตามพระราช
กฤษฎีกาสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย  พ.ศ. 2535   ทั้งนี้   นับตั้งแต่วันที่ข้าราชการโอนหรือลาออกจากราช
การเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐ ตั้งแต่ต้นปี
จนถึงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมิถุนายน 2545 โดยการเบิกจ่ายเงินในภาพรวมมีจำนวน 627,252 ล้านบาท หรือ
ร้อยละ 61.31 ของวงเงินงบประมาณ (1,023,000 ล้านบาท) จำแนกเป็นรายจ่ายประจำ 506,374 ล้านบาท
และรายจ่ายลงทุน 120,878 ล้านบาท ส่วนการเบิกจ่ายเงินงบประมาณจำแนกเป็นรายกระทรวง กระทรวงที่มี
การเบิกจ่ายสูงสุด  ได้แก่  กระทรวงการคลัง  โดยกระทรวงอุตสาหกรรมมีอัตราการเบิกจ่ายต่ำสุด  ผลการเบิก
จ่ายเงินงบลงทุนแยกเป็นส่วนกลางและส่วนภูมิภาค  มีการเบิกจ่ายไปแล้ว  39,752  ล้านบาท   และ  81,125
ล้านบาท ตามลำดับ การเบิกจ่ายงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จำนวน 58,000 ล้าน
บาท อนุมัติโครงการแล้ว 22,403 ล้านบาท ได้เบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว 9,367 ล้านบาท  หรือร้อยละ  41.81
ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติโครงการ และการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของโครงการถ่ายโอน/กิจกรรมสาธารณะให้
แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีจำนวน 19,665 ล้านบาท หรือร้อยละ 72.66 ของวงเงินงบประมาณ สำหรับ
การเบิกจ่ายเงินนอกงบประมาณ กองทุนและเงินทุนหมุนเวียนมีการเบิกจ่ายเงินจำนวน  27  กองทุน  เป็นเงิน 
88,370  ล้านบาท  หรือร้อยละ  85.56  ของแผนการใช้จ่ายเงิน การเบิกจ่ายเงินกู้ต่างประเทศมีการเบิกจ่าย
แล้ว 30,109 ล้านบาท หรือร้อยละ 61.72 ของแผนการใช้จ่ายเงินกู้ต่างประเทศ  และผลการเบิกจ่ายเงินของ
รัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายแล้ว 893,217 ล้านบาท หรือร้อยละ 64.79 ของแผนการใช้จ่ายเงิน  แบ่งเป็นงบทำ
การและงบลงทุน โดยในส่วนของงบลงทุนเป็นการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจจำนวน 40 แห่ง (ไม่รวมรัฐวิสาหกิจ
ที่เป็นสถาบันการเงิน) เมื่อหักรายการซ้ำซ้อนจำนวน 97,239 ล้านบาทแล้ว ทำให้การเบิกจ่ายเงินภาครัฐใน
ช่วงดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 1,541,709 ล้านบาท หรือร้อยละ 65.08 ของแผนการใช้จ่ายเงินภาครัฐ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานผลการอนุมัติเงินประจำงวดของส่วน
ราชการและรัฐวิสาหกิจ  ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงวันที่ 27 มิถุนายน 2545  มี
จำนวนทั้งสิ้น 960,791.1ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 93.9  ของวงเงินงบประมาณจำนวน 1,023,000 บาท 
จำแนกเป็นการอนุมัติเงินประจำงวดสำหรับรายจ่ายลงทุน 213,493.1 ล้านบาท หรือร้อยละ  95.5  ของ
งบประมาณรายจ่ายลงทุน และรายจ่ายประจำ 747,298.0 ล้านบาท หรือร้อยละ  93.5  ของงบประมาณ
รายจ่ายประจำ   ส่วนการอนุมัติเงินประจำงวดโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรมบริการสาธารณะให้แก่องค์
กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีจำนวนทั้งสิ้น 26,748.6 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ  98.8  ของวงเงินงบประมาณ
โครงการถ่ายโอน ฯ จำนวน 27,061.8 ล้านบาท  รวมทั้งการอนุมัติเงินประจำงวดของงาน/โครงการภาย
ใต้งบกลางรายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ มีจำนวนทั้งสิ้น 19,100.5 ล้านบาท คิดเป็นร้อย
ละ 61.7 ของวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ จำนวน 30,946.3 ล้านบาท

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินภาครัฐในปีงบประมาณ
พ.ศ. 2545  ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงวันที่  31  พฤษภาคม  2545  โดยผลการเบิกจ่ายเงินในภาพรวม ส่วน
ราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว 600,541 ล้านบาท หรือร้อยละ 58.70 ของวงเงินงบประมาณ
(1,023,000 ล้านบาท)  ซึ่งสูงกว่าการเบิกจ่ายในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อน จำแนกเป็นการ
เบิกจ่ายรายจ่ายประจำ 486,526 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 114,015 ล้านบาท  ส่วนผลการเบิกจ่ายงบลง
ทุนของหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 26 แห่ง  มีจำนวน  84,791  ล้านบาท
หรือร้อยละ  52.52  ของงบประมาณรายจ่ายลงทุนในกลุ่มนี้  รวมทั้งการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของโครงการ
ถ่ายโอนงาน/กิจกรรมสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีจำนวน 17,899 ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ 
66.13  ของวงเงินงบประมาณโครงการถ่ายโอน  ฯ   และผลการเบิกจ่ายเงินงบกลาง  รายการค่าใช้จ่ายสำรอง
กระตุ้นเศรษฐกิจ  มีจำนวน 9,084 ล้านบาท  หรือร้อยละ  43.55  ของวงเงินงบประมาณที่ผ่านการอนุมัติจาก
คณะรัฐมนตรี  สำหรับการเบิกจ่ายเงินนอกงบประมาณ  กองทุนและเงินทุนหมุนเวียนมีการเบิกจ่ายเงินจำนวน
92 กองทุน เป็นเงิน 86,296 ล้านบาท หรือร้อยละ 87.28 ของแผนการใช้จ่ายเงิน เงินกู้ต่างประเทศมีการเบิก
จ่ายแล้ว 29,710 ล้านบาท หรือร้อยละ  67.59  ของแผนการใช้จ่ายเงินกู้ต่างประเทศ และผลการเบิกจ่ายเงิน
ของรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่าย 887,051 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นงบทำการ และงบลงทุน โดยในส่วนของงบลงทุน
เป็นการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจจำนวน 36 แห่ง (ไม่รวมรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน)

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานผลการอนุมัติเงินประจำงวดของส่วน
ราชการและรัฐวิสาหกิจ  ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงวันที่ 13 มิถุนายน 2545  มี
จำนวนทั้งสิ้น 958,085.2 ล้านบาท  หรือคิดเป็นร้อยละ 93.7  ของวงเงินงบประมาณ  1,023,000  ล้าน
บาท  จำแนกเป็นการอนุมัติในส่วนของเงินประจำงวดสำหรับรายจ่ายลงทุน  211,705.9  ล้านบาท หรือ
ร้อยละ 94.7 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน และรายจ่ายประจำ 746,379.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 93.4
ของงบประมาณรายจ่ายประจำ  ส่วนการอนุมัติเงินประจำงวดของโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรมบริการ
สาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  มีจำนวนทั้งสิ้น  26,740.0  ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ  98.8
ของวงเงินงบประมาณโครงการถ่ายโอน ฯ  จำนวน 27,061.8 ล้านบาท  รวมทั้งการอนุมัติเงินประจำงวด
ของงาน/โครงการภายใต้งบกลางรายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ มีจำนวน 18,555.6 ล้าน
บาท คิดเป็นร้อยละ 91.4 ของวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ จำนวน 20,291.6 ล้านบาท

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือประเทศสาธารณ
รัฐประชาธิปไตย ติมอร์ตะวันออก เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนโรงแรมลอยน้ำ THE DOLPHIN จำนวน 18
ล้านบาท  เพื่อใช้เป็นสถานที่รับรองแขกของรัฐบาลระดับผู้นำรัฐและรัฐมนตรีที่ไปร่วมงานพิธีฉลองเอกราชของ
ติมอร์ตะวันออก   ทั้งนี้  นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตย ติมอร์ตะวันออก  ได้มีหนังสือขอบคุณรัฐบาล
ไทยที่ได้ให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายดังกล่าว รวมทั้งประสงค์จะสานต่อความสัมพันธ์และความร่วมมือกับประเทศ
ไทย  ในด้านการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น   โดยจะขอส่งกลุ่มผู้นำท้องถิ่นและคณะของสาธารณรัฐประชาธิป
ไตย ติมอร์ตะวันออก  จำนวน  3  กลุ่ม  เดินทางมาศึกษาดูงานด้านการปกครองส่วนท้องถิ่น  การเกษตร  และ
เศรษฐกิจท้องถิ่นของไทย  เพื่อพัฒนาบุคลากรของสาธารณรัฐประชาธิปไตย ติมอร์ตะวันออก  ตามที่กระทรวง
กลาโหมเสนอ และให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำแผนการให้ความช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าว  โดยประสาน
กับส่วนราชการไทย ซึ่งจะเป็นหน่วยให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ  และให้กรมวิเทศสหการประสานแหล่งเงิน
สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือจากองค์การระหว่างประเทศต่าง ๆ ต่อไป