ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 11 จากทั้งหมด 48 หน้า แสดงรายการที่ 201 - 220 จากข้อมูลทั้งหมด 954 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
201 | แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการติดตามและการรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องสำคัญ (ถูกยกเลิกโดยมติ ว219/53) | นร | 10/04/2550 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการติดตาม
และการรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องสำคัญ และให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วย งานของรัฐถือปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าว
|
|||||||||||||||||||||
202 | การรวบรวมและกำหนดแนวทางการเผยแพร่ข้อมูลความคืบหน้าในการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สถานการณ์บ้านเมือง และวัตถุประสงค์ที่จะเสริมสร้างสังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน | คค | 27/03/2550 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2549 เกี่ยวกับการดำเนินการแก้ไขปัญหารวม 4 ประการ ได้แก่ (1) การบริหารราช การแผ่นดินของรัฐบาลชุดที่แล้วก่อให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกในสังคมและมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมาก ยิ่งขึ้น (2) การบริหารราชการแผ่นดินส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบอย่างกว้างขวาง (3) หน่วยงานและ องค์กรอิสระถูกครอบงำจากทางการเมือง และ (4) มีการกระทำที่หมิ่นต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดย มีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมได้รายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กรมการขนส่งทางบก การรถ ไฟแห่งประเทศไทย การท่าเรือแห่งประเทศไทย การทางพิเศษแห่งประเทศไทย บริษัท ขนส่ง จำกัด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด
|
|||||||||||||||||||||
203 | การรวบรวมและกำหนดแนวทางการเผยแพร่ข้อมูลความคืบหน้าในการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สถานการณ์บ้านเมือง และวัตถุประสงค์ที่จะเสริมสร้างสังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน | วธ | 27/03/2550 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2549 เกี่ยวกับการดำเนินการแก้ไขปัญหารวม 4 ประการ ได้แก่ (1) การบริหารราช การแผ่นดินของรัฐบาลชุดที่แล้วก่อให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกในสังคม และมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากยิ่ง ขึ้น (2) การบริหารราชการแผ่นดินส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบอย่างกว้างขวาง (3) หน่วยงานและองค์กร อิสระถูกครอบงำจากทางการเมือง และ (4) มีการกระทำที่หมิ่นต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รวมทั้งตรวจ สอบข้อมูลย้อนหลังเกี่ยวกับปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบในเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการตาม กรอบภารกิจของกระทรวงวัฒนธรรมในระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันไม่ปรากฏข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปัญหาดัง กล่าว แต่มีแผนงานและโครงการที่ส่งเสริมสนับสนุนการแก้ปัญหาของสังคม ซึ่งได้แก่ โครงการจัดงานศาสนิก สัมพันธ์โดยนำหลักธรรมของทุกศาสนามาเป็นพลังขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม เช่น ปัญหา การทุจริตคอร์รัปชัน ปัญหาความยากจน ปัญหาอาชญากรรม รวมทั้งปัญหาความรุนแรงและความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งถือเป็นโครงการส่งเสริม สนับสนุนการแก้ไขปัญหาการบริหารราชการแผ่นดินส่อ ไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบอย่างกว้างขวาง โครงการ/กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระชนมพรรษา 80 พรรษา เพื่อให้ประชาชนร่วมแสดงความจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัว เป็นแนว ทางการแก้ปัญหาการกระทำที่หมิ่นต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และแผนพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม โดย การสร้างกระแสเชิงบวกผ่านสื่อทุกรูปแบบให้สังคมเกิดความตระหนัก และเห็นความสำคัญในการดำรงชีวิต ภาย ใต้ "คุณธรรมนำสังคม" ในทุกระดับอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ระดับครอบครัว โรงงาน และชุมชน
|
|||||||||||||||||||||
204 | การรวบรวมและกำหนดแนวทางการเผยแพร่ข้อมูลความคืบหน้าในการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สถานการณ์บ้านเมือง และวัตถุประสงค์ที่จะเสริมสร้างสังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน | อก | 13/03/2550 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2549 เกี่ยวกับการดำเนินการแก้ไขปัญหารวม 4 ประการ ได้แก่ (1) การบริหารราช การแผ่นดินของรัฐบาลชุดที่แล้วก่อให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกในสังคมและมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากยิ่ง ขึ้น (2) การบริหารราชการแผ่นดินส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบอย่างกว้างขวาง (3) หน่วยงานและองค์กร อิสระถูกครอบงำจากทางการเมือง และ (4) มีการกระทำที่หมิ่นต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รวมทั้งตรวจ สอบข้อมูลย้อนหลังเกี่ยวกับปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบในเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการใน กรอบภารกิจของกระทรวงอุตสาหกรรมในระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ไม่ปรากฏข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาการ ทุจริตหรือประพฤติมิชอบในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด
|
|||||||||||||||||||||
205 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีและผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ | พณ | 20/02/2550 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2549 เกี่ยวกับการลงนามความตกลง/ข้อตกลง/พิธีสารต่าง ๆ ที่ลงนามโดยรัฐมนตรี เศรษฐกิจอาเซียน และผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ โดยในส่วนของการลงนาม ความตกลง/ข้อตกลง/พิธีสารต่าง ๆ ตามมติคณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้ลงนามความตกลง/ข้อ ตกลง/พิธีสารรวม 6 ฉบับ ได้แก่ กรอบความตกลงว่าด้วยการรวมกลุ่มสาขาสำคัญของอาเซียน (ฉบับแก้ไข) พิธี สารว่าด้วยการรวมกลุ่มรายสาขาของอาเซียน (ฉบับแก้ไข) พิธีสารอนุวัติข้อผูกพันชุดที่ 5 ภายใต้กรอบความ ตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน ข้อตกลงการยอมรับร่วมสาขาวิชาชีพการพยาบาลของอาเซียน พิธีสาร ฉบับที่สองเพื่อแก้ไขกรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนและจีน และพิธีสารเพื่อ แก้ไขความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าระหว่างอาเซียนและจีน ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 12 ซึ่งจัด ขึ้นที่เมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 9-13 ธันวาคม 2549 และการลงนามความตกลงว่าด้วยการค้า บริการระหว่างอาเซียนและจีน สำหรับผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ที่ประชุม ได้ให้ความเห็นชอบการจัดทำแผนงานเพื่อเร่งรัดการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Blueprint) ภายใน ปี ค.ศ. 2015 รวมทั้งการหารือระหว่างประเทศคู่เจรจาต่าง ๆ ได้แก่ เกาหลี ญี่ปุ่น และอินเดีย และการหารือทวิ ภาคีระหว่างรัฐมนตรีการค้าของ 4 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ อินเดีย และออสเตรเลีย
|
|||||||||||||||||||||
206 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่องการชำระคืนหนี้เงินกู้ ค่าออกแบบ ค่าก่อสร้าง และค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย | คค | 14/11/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2549 เรื่อง การชำระคืนหนี้เงินกู้ค่า ออกแบบ ค่าก่อสร้าง และค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล โดยการรถไฟฟ้าขน ส่งมวลชนแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ แห่งญี่ปุ่น (JBIC) เพื่อพิจารณาร่วมกันในการดำเนินการ Refinance เพื่อทำการแปลงหนี้เงินกู้ต่างประเทศที่กู้ จาก JBIC มาเป็นเงินสกุลบาทแทนเพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ โดยคาดว่า จะเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวขึ้นอยู่กับการจัดสรรงบประมาณที่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยจะได้รับ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการ Refinance และการบริหารความ เสี่ยงเงินกู้ดังกล่าว รวมทั้งสภาวะของตลาดการเงินที่จะดำเนินการ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550
|
|||||||||||||||||||||
207 | รายงานผลการดำเนินการตามมติการประชุมนายกรัฐมนตรีกับภาคเอกชนกลุ่ม 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (หนองคาย หนองบัวลำภู เลย และอุดรธานี) | นร | 12/09/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติราย
งานผลการดำเนินการตามมติการประชุมนายกรัฐมนตรีกับภาคเอกชนกลุ่ม 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน (หนองคาย หนองบัวลำภู เลย และอุดรธานี) ซึ่งจากการติดตามผลการดำเนินงานจนถึงเดือนกรกฎา คม 2549 มีผลการดำเนินการจำแนกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้ เรื่องที่ได้รับรายงานความก้าวหน้า มีจำนวน 10 เรื่อง คือ (1) การจัดตั้งร้านค้าปลอดอากรในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงสะพานมิตรภาพ (2) ฟื้นฟูบูรณะพิพิธภัณฑ สถานแห่งชาติบ้านเชียง ในส่วนของงานปรับปรุงหลุมขุดค้นวัดโพธิ์ศรีใน งานก่อสร้างปรับปรุงภูมิทัศน์และตก แต่งภายใน งานจัดแสดงและวางแผนบริหารจัดการ และงานอำนวยการ (3) การลดภาษีนำเข้ามะเขือเทศ (4) การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับผู้ประกอบการ SMEs (5) การจัดตั้งศูนย์พัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (6) การปรับปรุงเส้นทางจราจรในพื้นที่กลุ่มจังหวัด (7) การยกระดับท่าอากาศยานจังหวัด อุบลราชธานี (8) การพัฒนาลุ่มน้ำและการจัดการน้ำเพื่อการเกษตรของกลุ่มจังหวัด (9) การขุดลอกลำน้ำ เลย และ (10) การส่งเสริมการปลูกสบู่ดำทดแทนการปลูกข้าวโพด และเรื่องที่ไม่ได้รับรายงานความก้าวหน้า มีจำนวน 2 เรื่อง คือ โครงการกระเช้าลอยฟ้าขึ้นภูกระดึง และการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อจัดทำแผนแม่บท การพัฒนาการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัด ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายเร่งดำเนินการแล้วรายงานสำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นประจำทุก 6 เดือน
|
|||||||||||||||||||||
208 | รายงานผลการดำเนินการตามมติการประชุมนายกรัฐมนตรีกับภาคเอกชน กลุ่ม 5 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง กลุ่มที่ 1 (ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์) | นร | 29/08/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติราย
งานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานตามมติที่ประชุมนายกรัฐมนตรีกับภาคเอกชนกลุ่ม 5 จังหวัดภาคเหนือตอน ล่าง กลุ่มที่ 1 (ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย และอุตรดิตถ์) ในรอบ 6 เดือน โดยมีเรื่องที่ดำเนินการแล้ว เสร็จ จำนวน 1 เรื่อง คือ การใช้แรงงานต่างด้าว โดยอนุญาตให้แรงงานพม่า ลาว กัมพูชา หลบหนีเข้าเมืองอยู่ใน ราชอาณาจักรไทยได้ชั่วคราวโดยให้ทำงานเป็นกรรมกรและผู้รับใช้ในบ้านเท่านั้น และจัดตั้งศูนย์ประสานงานข้อ มูลและทะเบียนประวัติแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองในรูปแบบบริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ใน จังหวัดตาก เชียงราย ระนอง และกาญจนบุรี โดยเริ่มทดลองดำเนินการที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ก่อนเป็น แห่งแรก สำหรับเรื่องที่อยู่ระหว่างดำเนินการ มีจำนวน 9 เรื่อง แยกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ (1) การส่งเสริมการท่อง เที่ยวของกลุ่มจังหวัดให้มีลักษณะ Historical Marketing (H-Marketing) และเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ จำนวน 2 เรื่อง ได้แก่ ขยายตลาดการท่องเที่ยวมายังกลุ่มจังหวัดให้มากขึ้นและพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว (2) การพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ จำนวน 4 เรื่อง ได้แก่ การเป็นศูนย์กลางบริการและ โลจิสติกส์สี่แยกอินโดจีน ส่งเสริมการขนส่งและเปลี่ยนถ่ายสินค้าระบบ Multi-modal Shift การดำเนินการศูนย์ กระจายสินค้า (Distribution Center) ณ จังหวัดพิษณุโลก และการก่อสร้างศูนย์อุบัติภัยและอุปกรณ์ทางการ แพทย์ฉุกเฉิน (3) การส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน จำนวน 3 เรื่อง ได้แก่ การพัฒนาภายใต้กรอบความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมบริเวณชายแดน 2 ประเทศ (แม่สอด-เมียวดี) และการพัฒนาสนามบินแม่สอดให้เป็นสนามบินภายในประเทศพม่า และให้หน่วย งานที่ได้รับมอบหมายเร่งดำเนินการ แล้วรายงานผลให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติเป็นประจำทุก 6 เดือน
|
|||||||||||||||||||||
209 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 16 พฤษภาคม 2549 | รง | 15/08/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ประธานกรรมการบริหาร
แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้า เมือง (กบร.) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2549 สรุปภาพรวมได้ดังนี้ ผลการดำเนินการต่ออายุ ใบอนุญาตทำงานและการออกใบอนุญาตทำงานให้แก่แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 3 สัญชาติ (พม่า ลาว และ กัมพูชา) มีแรงงานต่างด้าวที่มาต่ออายุใบอนุญาตทำงาน จำนวน 460,014 คน แยกเป็น สัญชาติพม่า 405,379 คน สัญชาติลาว 29,683 คน สัญชาติกัมพูชา 24,952 คน และผลการดำเนินการออกใบอนุญาตทำงานให้แก่ แรงงานต่างด้าวที่ได้รับการพิสูจน์สัญชาติและปรับเปลี่ยนสถานะเป็นผู้เข้าเมืองโดยถูกต้องตามกฎหมายมีแรงงาน ต่างด้าวที่ได้รับการพิสูจน์สัญชาติ จำนวน 77,782 คน แยกเป็น สัญชาติลาว 34,669 คน และสัญชาติกัมพูชา 34,113 คน โดยมีแรงงานต่างด้าวที่ได้รับวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน จำนวน 36,728 คน แยกเป็น สัญชาติลาว 23,309 คน และสัญชาติกัมพูชา 13,419 คน ส่วนการนำแรงงานต่างด้าวรายใหม่จากประเทศลาว และกัมพูชา เข้ามาทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมาย กรมการจัดหางานได้รวบรวมความต้องการของนายจ้างที่ต้องการจ้างแรง งานดังกล่าวส่งให้กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และกระทรวง แรงงานและการฝึกอาชีพ แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ดำเนินการจัดหาแรงงานให้นายจ้าง รวมทั้งได้ประสานการ เจรจากับสหภาพพม่า เพื่อเร่งให้เข้ามาดำเนินการพิสูจน์สัญชาติแรงงานพม่าที่อยู่และทำงานในประเทศไทย และ การนำแรงงานพม่าเข้ามาทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับการเร่งรัดแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติการ ทำงานของคนต่างด้าวนั้น คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมาย กระทรวงแรงงาน ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. .... และได้เสนอร่างพระราชบัญญัติ ฯ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นอกจากนี้ ยังมีผลการดำเนินการ ตรวจสอบปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีแรงงานต่างด้าว ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2548-31 พฤษภาคม 2549 โดยในส่วนของกรมการจัดหางานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินคดีแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 68,926 คน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการจับกุมนายจ้าง/ผู้นำพา/ผู้ให้ที่พักพิงแรงงานต่าง ด้าว จำนวน 2,734 ราย จับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 182,401 คน และผลักดัน-ส่งกลับ แรง งานต่างด้าว จำนวน 161,468 คน และผลการดำเนินการสกัดกั้นการลักลอบเข้ามาทำงานของแรงงานต่างด้าว ของคณะทำงานด้านการสกัดกั้นการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าว ได้ดำเนินการสกัดกั้นทั้งทางบกและทาง ทะเล จำนวน 92,582 ราย และผลักดันออกนอกประเทศโดยทันทีตามช่องทางในภูมิประเทศ จำนวน 64,911 ราย และส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย จำนวน 27,671 ราย
|
|||||||||||||||||||||
210 | รายงานผลการดำเนินการตามมติการประชุมนายกรัฐมนตรีกับภาคเอกชน กลุ่ม 4 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง กลุ่ม 2 (กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร อุทัยธานี) | นร | 01/08/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เสนอสรุปความก้าวหน้าผลการดำเนินงานตามมติที่ประชุมนายกรัฐมนตรีกับภาคเอกชนกลุ่ม 4 จังหวัดภาค เหนือตอนล่าง กลุ่ม 2 (กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร อุทัยธานี) รวม 8 เรื่อง ซึ่งจากผลการดำเนินงานจน ถึงเดือนกรกฎาคม 2549 มีผลการดำเนินการสามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ เรื่องที่ดำเนินการ แล้วเสร็จ จำนวน 2 เรื่อง คือ การจัดหาสถานที่ตั้งกรมการข้าว และการใช้ไบโอดีเซลในการขนส่ง และเรื่องที่ อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 6 เรื่อง แยกเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย (1) การพัฒนากลุ่มจังหวัดให้เป็นศูนย์ ธุรกิจข้าวชั้นนำของประเทศ (Rice Hub City of Thailand) จำนวน 1 เรื่อง คือ การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ แปรรูปจากข้าว (2) การพัฒนาระบบขนส่ง จำนวน 2 เรื่อง คือ การส่งเสริมการขนส่งทางน้ำในแม่น้ำเจ้า พระยา และการก่อสร้าง Truck Terminal (3) การส่งเสริมการผลิตพลังงานชีวมวล (Biomass Energy) และ พืชพลังงาน (Bio-energy) จำนวน 2 เรื่อง คือ การนำสินค้าและวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาใช้เป็นพลัง งานทดแทน และการเปรียบเทียบต้นทุนการใช้ปาล์มเป็นพลังงานกับการใช้บริโภค (4) การเป็นชุมทางสู่ เมืองล้านนาและมาตรการสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก จำนวน 1 เรื่อง คือ การพัฒนาการท่องเที่ยว ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง และให้หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายเร่งดำเนินการแล้วรายงานคณะกรรม การพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นประจำทุก 6 เดือน
|
|||||||||||||||||||||
211 | รายงานผลการดำเนินการตามมติการประชุมนายกรัฐมนตรีกับภาคเอกชนกลุ่ม 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (กาฬสินธุ์ นครพนม มุกดาหาร และ สกลนคร) | นร | 25/07/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติราย
งานผลการดำเนินการตามมติการประชุมนายกรัฐมนตรี กับภาคเอกชนกลุ่ม 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน (กาฬสินธุ์ นครพนม มุกดาหาร และสกลนคร) จากการติดตามผลการดำเนินงานจนถึงเดือนมิถุนายน 2549 มีเรื่องที่ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 2 เรื่อง คือ การใช้แรงงานต่างด้าว โดยอนุญาตให้แรงงานพม่า ลาว กัมพูชา หลบหนีเข้าเมือง อยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ชั่วคราว และทำงานเป็นกรรมกรและผู้รับใช้ในบ้านเท่านั้น และการอำนวยความสะดวกให้กับนักเรียนประเทศเพื่อนบ้านที่จะเข้ามาศึกษาในไทยโดยนักศึกษาประเทศเพื่อน บ้านซึ่งเป็นผู้รับทุนในประเทศไทย สามารถดำเนินการขอวีซ่าประเภท F ซึ่งตรวจลงตราอนุญาตให้สามารถอยู่ ในประเทศไทยได้ในสามเดือนแรก แต่ถ้าประสงค์จะอยู่ศึกษาต่อก็สามารถขอขยายเวลาได้ถึง 2 ปี ส่วนเรื่องที่ อยู่ระหว่างดำเนินการ มีจำนวน 7 เรื่อง แยกเป็น 3 กลุ่ม คือ การพัฒนากลุ่มจังหวัดให้เป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว (Regional Hub) ในอนุภูมิภาคอินโดจีน (การสร้างศูนย์กระจายสินค้า การใช้ ประโยชน์ท่าอากาศยานสะหวันนะเขต JICA การจัดตั้ง SMEs Center และการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 ที่จังหวัดนครพนม) การส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศเพื่อนบ้าน (การพัฒนาสถาบันการ ศึกษาในพื้นที่และสนับสนุนทุนการศึกษาเพื่อรองรับนักเรียนประเทศเพื่อนบ้าน) และการส่งเสริมการท่องเที่ยว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (การพัฒนาเชื่อมโยงการท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับประเทศเพื่อน บ้าน และการพัฒนาแหล่งขุดค้นพบไดโนเสาร์ที่มีลักษณะเป็น Edutainment) และเรื่องที่หน่วยงานรายงานว่า อยู่ระหว่างดำเนินการแต่ไม่มีความก้าวหน้าเพิ่มเติมจากที่รายงานไปเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2549 มีจำนวน 2 เรื่อง คือ การพัฒนาโครงข่ายระบบราง และการปรับปรุงเส้นทางจราจร โดยให้หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายเร่ง ดำเนินการ แล้วรายงานสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นประจำทุก 6 เดือน
|
|||||||||||||||||||||
212 | รายงานผลการดำเนินการตามมติการประชุมนายกรัฐมนตรีกับภาคเอกชนกลุ่ม 3 จังหวัดอันดามัน (ภูเก็ต พังงา และกระบี่) | นร | 06/06/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
รับทราบความก้าวหน้าผลการดำเนินงานตามมติที่ประชุมนายกรัฐมนตรีกับภาคเอกชน กลุ่ม 3 จังหวัด อันดา มัน (ภูเก็ต พังงา และกระบี่) ซึ่งมีผลการดำเนินงานมาแล้ว 6 เดือน นับจากวันประชุม (วันที่ 5 กันยายน 2548) ถึงเดือนเมษายน 2549 มีมติทั้งสิ้น 26 เรื่อง สามารถจำแนกได้เป็น 3 ประเภท คือ เรื่องที่ดำเนินการ แล้วเสร็จและถือเป็นงานปกติ มีจำนวน 3 เรื่อง เรื่องที่อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 17 เรื่อง และเรื่องที่อยู่ ระหว่างดำเนินการแต่ไม่มีความก้าวหน้าเพิ่มเติมจากที่รายงานไปเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2548 จำนวน 6 เรื่อง และเห็นชอบให้หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายเร่งดำเนินการตามมติที่ประชุม แล้วรายงานสำนักงานคณะกรรม การพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประจำทุก 6 เดือน
|
|||||||||||||||||||||
213 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการพิจารณาส่งออกกากน้ำตาล (molasses) | นร | 09/05/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอรายงานผลการดำเนินการตาม
มติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการพิจารณาส่งออกกากน้ำตาล (molasses) ดังนี้ ปริมาณอ้อยปี 2548/2549 จะมี ปริมาณ 40 ล้านตัน จำนวนกากน้ำตาลปี 2548/2549 เมื่อปิดหีบแล้ว คาดว่าจะมีประมาณ 1.62 ล้านตัน กากน้ำตาลเหลือค้างของปีที่ผ่านมามีจำนวน 0.037 ล้านตัน รวมเป็นปริมาณกากน้ำตาลปี 2548/2549 ทั้ง สิ้น 1.65 ล้านตัน ปริมาณการใช้กากน้ำตาลในประเทศ 1.95 ล้านตัน และปริมาณกากน้ำตาลในฤดูการผลิต ปี 2548/2549 มีไม่เพียงพอสำหรับใช้ในประเทศประมาณ 0.30 ล้านตัน
|
|||||||||||||||||||||
214 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2549 และขออนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันงบประมาณ รายการจัดหาเรือฝึกนักเรียนเดินเรือพาณิชย์ และเครื่องมือฝึกจำลอง | คค | 07/02/2549 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอดังนี้ รับทราบผลการดำเนินการตามมติคณะ
รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2549 เกี่ยวกับการเจรจาต่อรองราคาการจัดหาเรือฝึกนักเรียนเดินเรือ พาณิชย์ และเครื่องมือฝึกจำลอง โดยได้เจรจาต่อรองราคากับผู้ประกอบการที่ชนะการประมูลเพื่อให้ลด ราคาจากวงเงินค่าจ้าง 1,135 ล้านบาท ลงมาอีกไม่น้อยกว่าร้อยละ 2 ของวงเงินดังกล่าว ซึ่งผู้ประกอบ การ ฯ ยินยอมลดราคาลงมาอีกจำนวน 16 ล้านบาท รวมกับที่เสนอลดไว้เดิม 7 ล้านบาท รวมเป็นเงิน ที่ลดลงทั้งสิ้นจำนวน 23 ล้านบาท ทำให้ราคาคงเหลือเป็นเงินค่าจ้างทั้งสิ้น 1,112 ล้านบาท โดยรวม ภาษีมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนภาษีอากรอื่น ๆ และค่าใช้จ่ายทั้งปวงไว้ด้วยแล้ว และอนุมัติขยายระยะเวลา ก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายการจัดหาเรือฝึกนักเรียนเดินเรือพาณิชย์ และเครื่องมือฝึกจำลอง จากปี พ.ศ. 2547-พ.ศ. 2550 เป็นปี พ.ศ. 2547-พ.ศ. 2551
|
|||||||||||||||||||||
215 | ผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การติดตั้งระบบสัญญาณเตือนภัยในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน | นร | 20/12/2548 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีรายงานผลการดำเนินการตามมติ
คณะรัฐมนตรี เรื่อง การติดตั้งระบบสัญญาณเตือนภัยในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน โดยในส่วน ของจังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินการสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 9 จุด จังหวัดพังงาดำเนินการสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 8 จุด จังหวัดกระบี่ดำเนินการสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 7 จุด จังหวัดตรังดำเนินการสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 2 จุด จังหวัดระนองดำเนินการสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 3 จุด จังหวัดสตูลดำเนินการสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 4 จุด สำหรับในการก่อสร้างหอเตือนภัยที่เหลืออีก 43 จุด ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนพื้นที่เกาะจะต้องรอการขนส่ง เสาเหล็กของหอเตือนภัยไปในพื้นที่ดังกล่าวในช่วงที่คลื่นลมในทะเลสงบ คาดว่า จะสามารถดำเนินการแล้ว เสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2549
|
|||||||||||||||||||||
216 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี [เรื่อง ให้ชะลอการจ่ายเงินชดเชย (กรณีโครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ)] | กษ | 13/12/2548 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการดำเนินการตามมติ
คณะรัฐมนตรี เรื่อง ให้ชะลอการจ่ายเงินชดเชย (กรณีโครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสัก อันเนื่องมาจากพระราช ดำริ) กรมชลประทานได้ดำเนินการชะลอการดำเนินการจ่ายเงินชดเชย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2548 แล้ว และกระทรวงเกษตรได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี มีผู้ร้องเรียนว่ามีผู้เรียกรับผลประโยชน์จากเรื่องดังกล่าวในปี พ.ศ. 2542 ตามคำสั่งกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ที่ 333/2548 ลงวันที่ 25 สิงหาคม 2548
|
|||||||||||||||||||||
217 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (การดำเนินการตามมาตรการรับเงินประจำตำแหน่งในช่วงปรับโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรม ใหม่) | นร | 08/11/2548 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงาน ก.พ. รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2548 ที่เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาให้กับบุคลที่ได้รับผลกระทบจากการปรับ ปรุงโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรม ใหม่ สำนักงาน ก.พ. ได้ดำเนินการตามมติดังกล่าวโดยได้ประสานไป ยังส่วนราชการรวม 26 แห่ง ที่ยังมีบุคคลที่ได้รับผลกระทบ ฯ โดยไม่ได้รับการแต่งตั้งเหลืออยู่อีกรวม 105 ราย และจัดทำบัญชีรายชื่อและตำแหน่งของบุคคลที่ได้รับผลกระทบ ฯ ดังกล่าวแล้วแจ้งให้ปลัดกระทรวงที่ มีบุคคลได้รับผลกระทบ ฯ สังกัดอยู่ทุกกระทรวง เพื่อนำบัญชีดังกล่าวมาใช้ประกอบการพิจารณาแต่งตั้ง บุคคลให้ดำรงตำแหน่งเมื่อมีตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เชี่ยวชาญเฉพาะ และบริหารระดับกลางว่าง ลงในโอกาสแรกที่กระทำได้ รวมทั้งชี้แจงเหตุผลในกรณีที่ส่วนราชการไม่สามารถดำเนินการได้ และให้ สำนักงานปลัดกระทรวง ฯ รายงานผลการดำเนินการดังกล่าวไปยังสำนักงาน ก.พ. ภายในเดือนตุลาคม ของทุกปี และเมื่อสำนักงาน ก.พ. ได้รับรายงานในแต่ละปีก็จะได้รวบรวมข้อมูลและนำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
218 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การลดการใช้พลาสติกและโฟม (ตุลาคม 2547 - กรกฎาคม 2548) | ทส | 04/10/2548 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ
รายงานผลการดำเนินการลดการใช้พลาสติกและโฟม ระหว่างเดือนตุลาคม 2547-กรกฎาคม 2548 โดยได้ ดำเนินการทั้งมาตรการระยะสั้นและมาตรการระยะยาว ในส่วนของมาตรการระยะสั้น ได้แก่ มาตรการจัดการ พลาสติกและโฟมในอุทยานแห่งชาติ และแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและ พันธุ์พืช ได้ออกประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ ฯ จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ ประกาศห้ามนำภาชนะที่ทำด้วยโฟม เข้าไปในอุทยานทั่วประเทศ และประกาศการนำบรรจุภัณฑ์เข้าไปในบริเวณพื้นที่ควบคุมพิเศษในอุทยานแห่ง ชาติ โดยใช้กับอุทยานทั่วประเทศแล้ว จำนวน 148 แห่ง มาตรการด้านการรณรงค์ประชาสัมพันธ์โดยหน่วย งานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์การลดการใช้พลาสติกและโฟมผ่านสื่อสัมพันธ์ต่างๆ อย่างต่อ เนื่อง มาตรการด้านเทคโนโลยี ได้มีการส่งเสริมกิจการรีไซเคิลพลาสติกและโฟมในกิจการประเภท 7.21 กิจ การนำวัสดุที่ไม่ต้องการใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ และกิจการวัสดุที่ย่อยสลายได้หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรม ชาติทดแทนการใช้พลาสติกและโฟมในกิจการประเภท 1.28 มาตรการด้าน กฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยา ลัย ได้เสนอแผนยุทธศาสตร์สำหรับการจัดการบรรจุภัณฑ์และของเสียบรรจุภัณฑ์ เสนอแนะการปรับปรุงกฎ หมายเพื่อผลักดันการบังคับใช้แผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว ส่วนมาตรการระยะยาว ได้แก่ การจัดการบรรจุภัณฑ์ พลาสติกและโฟมในห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ กำหนดผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ทำจากพลาสติกใช้แล้ว ส่วนมาตรการด้านเศรษฐศาสตร์ ได้มีการเสนอผลการศึกษาตามมาตรการลดการใช้พลาสติกและโฟม ดังนี้ มาตรการลดของเสียประเภทพลาสติกและโฟมจากแหล่งกำเนิดมูลฝอยที่สำคัญ มาตรการส่งเสริมการนำพลา สติกและโฟมกลับมาใช้ใหม่ มาตรการลดการใช้พลาสติกและโฟมในห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ และ มาตรการส่งเสริมด้านการตลาด สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวด ล้อม สำหรับแผนการดำเนินการต่อไปจะได้มีการรวบรวมข้อมูลและผลการดำเนินงานตามมาตรการดังกล่าว จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ ฯ ต่าง ๆ วิเคราะห์และประเมินผลการดำเนิน งาน เพื่อรายงานคณะรัฐมนตรีในรอบ 6 เดือนครั้งต่อไป ตลอดจนประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำ มาตรการ ฯ ดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติเพื่อลดปริมาณขยะและโฟมในสถานที่ต่าง ๆ โดยในปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2548-พ.ศ. 2549 จะดำเนินโครงการลดการใช้พลาสติกและโฟมในแหล่งกำเนิดที่สำคัญ ปี งบประมาณ พ.ศ. 2550 จะดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพของท้องถิ่นในการลดและคัดแยกขยะมูลฝอย และปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จะติดตามตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินการตามมาตรการทั่วประเทศ
|
|||||||||||||||||||||
219 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเรื่อง แผนปฏิบัติการสร้างราชการใสสะอาด ประจำปี 2547 | นร | 20/09/2548 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงาน ก.พ. รายงานผลการดำเนินงานสร้างราชการใสสะอาด
ประจำปี พ.ศ. 2547 ของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ ซึ่งให้ความร่วมมือจัดส่งรายงานผลการดำเนิน การรวม 180 แห่ง จากที่มีหนังสือขอความร่วมมือ 239 แห่ง จำแนกเป็น กระทรวง กรม 129 แห่ง มหาวิทยา ลัย 14 แห่ง จังหวัด 37 แห่ง และหน่วยงานที่จัดส่งรายงานโดยไม่มีหนังสือขอความร่วมมืออีก 5 แห่ง เป็น หน่วยงานในกำกับ 2 แห่ง วิทยาลัย 1 แห่ง รัฐวิสาหกิจ 1 แห่ง และสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำหรับกิจกรรมที่ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐส่วนใหญ่ให้ความสำคัญมากที่สุด คือ การพัฒนาประสิทธิ ภาพการทำงาน รองลงมาคือ การเสริมสร้างจิตสำนึกราชการใสสะอาด ส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม และ การป้องกันพฤติกรรมที่อาจเป็นภัยต่อประเทศไทยใสสะอาด ความโปร่งใสในการบริหารงานและการจัดการ กรณีทุกจริตที่เกิดขึ้น ฯ ในส่วนของหน่วยงาน พบว่า มหาวิทยาลัยและส่วนราชการสังกัดกระทรวงด้านสังคม เน้นกิจกรรมด้านเสริมสร้างความเข้มแข็งในการสร้างราชการใสสะอาด จังหวัด เน้นกิจกรรมด้านจัดการกรณี ทุจริตที่เกิดขึ้นฯ มาตรการทางวินัยและสนับสนุนให้ภาคประชาชนร่วมตรวจสอบ ส่วนราชการสังกัดกระทรวง ด้านเศรษฐกิจและด้านความมั่นคง เน้นการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลัก เกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ฯ ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ได้จากการสร้างราชการใสสะอาด คือ ด้านข้า ราชการ : ช่วยให้ได้รับการพัฒนา ได้รับทราบข่าวสาร มีขวัญกำลังใจ และลดจำนวนการทำผิด ด้านหน่วย งาน : ช่วยให้มีการบริหารงานที่โปร่งใสมีประสิทธิภาพ ลดข้อร้องเรียน และแก้ปัญหาทุจริต และด้านประชา ชน : ช่วยให้ได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว เป็นธรรม เกิดความร่วมมือระหว่างประชาชนและภาครัฐ
|
|||||||||||||||||||||
220 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (สรุปผลการใช้พลังงานประจำเดือนกรกฎาคม 2548) | พน | 09/08/2548 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพลังงานรายงานสรุปผลการใช้พลังงาน ประจำเดือน
กรกฎาคม 2548 โดยปริมาณการใช้ไฟฟ้ารวมทั้งประเทศเดือนกรกฎาคม 2548 จำนวนทั้งสิ้น 10,125 ล้านหน่วย ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2548 จำนวน 399 ล้านหน่วย หรือร้อยละ 3.8 คิดเป็นเงินที่ ประหยัดได้ 1,073 ล้านบาท โดยเป็นปริมาณการใช้ไฟฟ้าในเขตนครหลวง ลดลงร้อยละ 6.3 และใน เขตภูมิภาค ลดลงร้อยละ 2.3 สำหรับปริมาณการใช้ไฟฟ้าจำแนกตามสาขาต่าง ๆ เดือนมิถุนายน 2548 มีดังนี้ ปริมาณการใช้ไฟฟ้าภาคประชาชน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2548 จำนวน 294 ล้านหน่วย หรือร้อยละ 12 คิดเป็นเงินที่ประหยัดได้ 790 ล้านบาท ปริมาณการใช้ไฟฟ้าภาคราชการ เพิ่มขึ้นจาก เดือนพฤษภาคม 2548 จำนวน 4.6 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.9 และปริมาณการใช้ไฟฟ้าห้างสรรพสินค้า ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2548 จำนวน 12 ล้านหน่วย หรือร้อยละ 5 คิดเป็นเงินที่ประหยัดได้ 32 ล้านบาท ในส่วนของปริมาณการใช้น้ำมันเบนซิน และ Gasohol เดือนกรกฎาคม 2548 เฉลี่ย 20.85 ล้านลิตร/วัน โดยน้ำมันเบนซิน อยู่ในระดับ 17.5 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 3.9 ล้านลิตร /วัน หรือลดลงร้อยละ 18.1 และ Gasohol อยู่ในระดับ 1.65 ล้านลิตร/วัน และปริมาณการใช้น้ำมัน ดีเซล เดือนกรกฎาคม 2548 อยู่ในระดับ 46.5 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 8.7 ล้านลิตร/ วัน หรือร้อยละ 15.7
|
.....