คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานผลการดำเนินงานโครงการรับซื้อลด
เช็คเพื่อเพิ่มราคาอ้อยขั้นต้นในฤดูการผลิตปี 2544/2545 สรุปได้ว่า  คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายได้มี
มติเห็นชอบร่างบันทึกข้อตกลง ที่สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย สำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำ
ตาลทราย  และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) เสนอ  ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้  กองทุน ฯ  ตกลงจะ
ออกเช็คสั่งจ่ายเงินให้แก่ ธ.ก.ส. จำนวนไม่เกิน 1,200 ล้านบาท เป็นเช็คลงวันที่  30  มิถุนายน  2546  เพื่อนำ
มาขายลดกับ ธ.ก.ส.  และกองทุน ฯ  ตกลงนำรายได้จากการแยกภาษีมูลค่าเพิ่มออกจากราคาจำหน่ายน้ำตาล
ทรายที่ได้รับจากการนำส่งของโรงงานน้ำตาลเข้าบัญชีกองทุน ฯ ทุกเดือนให้มีจำนวนเงินเพียงพอชำระหนี้ตาม
เช็คที่นำมาขายลดกับ ธ.ก.ส.  และนำเงินที่ได้รับตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ทั้งหมด
ชำระหนี้ที่เกิดขึ้นตามบันทึกข้อตกลงนี้และข้อตกลงอื่นให้แก่  ธ.ก.ส.  ก่อนเจ้าหนี้อื่น  ทั้งนี้  ธ.ก.ส. ตกลงรับซื้อ
ลดเช็คของกองทุน ฯ ที่ออกให้ ธ.ก.ส.  จำนวนไม่เกิน  1,200  ล้านบาท  โดยจะคิดส่วนลดรับในการซื้อลดเช็ค
ดังกล่าวในอัตราร้อยละ 7 ต่อปี   หาก  ธ.ก.ส.  ไม่ได้รับเงินตามเช็คเมื่อถึงกำหนด  ธ.ก.ส.  จะคิดเบี้ยปรับตาม
อัตราที่คณะกรรมการ ธ.ก.ส. กำหนด หรืออัตราเดียวกันกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของเกษตรกรลูกค้าชั้นทั่วไปที่
มีหนี้เงินกู้ค้างชำระ (ชั้น B +3)

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี
ของหน่วยงานในสังกัด งวดที่ 2 (กุมภาพันธ์-พฤษภาคม 2545) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 รวม 101 เรื่อง
ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย 1 เรื่อง กรมการปกครอง 8 เรื่อง กรมการพัฒนาชุมชน 10 เรื่อง กรม
ที่ดิน 2 เรื่อง กรมโยธาธิการ 17 เรื่อง กรมราชทัณฑ์ 5 เรื่อง  กรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท 3 เรื่อง  กรมการผัง
เมือง 12 เรื่อง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย 2 เรื่อง การประปานครหลวง 3 เรื่อง  การประปาส่วนภูมิภาค 1
เรื่อง  การไฟฟ้านครหลวง 6 เรื่อง  การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 3 เรื่อง  การเคหะแห่งชาติ 1 เรื่อง  องค์การตลาด 2 
เรื่อง และกรุงเทพมหานคร 25 เรื่อง

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์  เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม  รายงานการ
ใช้จ่ายเงินกู้โครงการกองทุนสิ่งแวดล้อม ระยะที่ 1 ครั้งที่ 10 ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2545 ซึ่งได้อนุมัติ
วงเงินเป็นรายโครงการไปแล้วทั้งหมด 28 โครงการ โดยมีการเบิกจ่ายไปแล้วบางส่วน ณ วันที่ 30 มิถุนายน
2545 จำนวน 26 โครงการ ได้แก่ โครงการจัดการน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ โครงการ
ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อสนับสนุนสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมในการบริหารงานโครงการตามเงื่อนไข
ของสัญญาเงินกู้  และโครงการด้านการจัดการน้ำเสียและกำจัดขยะในพื้นที่อื่น ๆ จำนวน 24 โครงการ รวม
ทั้งสิ้น  3,524.604  ล้านบาท โดยเป็นวงเงินที่เบิกจ่ายในส่วนของ  JBIC  จากเงินทดรองราชการ ประมาณ
2,433.699 ล้านบาท  หรือประมาณร้อยละ 83 ของวงเงินกู้  และเบิกจ่ายจากเงินกองทุน 1,090.905 ล้าน
บาท  ทั้งนี้ ในส่วนที่เบิกจ่ายจากเงินทดรองจ่ายได้มีการเบิกเงินกู้ชดใช้เงินทดรองจ่ายแล้ว 2,283.632 ล้าน
บาท หรือประมาณร้อยละ 78 ของวงเงินกู้

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานผลการดำเนินการเกี่ยวกับข้อเสนอ
แนวทางการแก้ไขปัญหาโสเภณีเด็ก  งวดที่  31  (พฤศจิกายน 2544 - เมษายน 2545)  โดยได้ดำเนินการฝึก
อาชีพให้แก่ราษฎรหมู่บ้านต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 180 ครั้ง  มีจำนวนผู้สำเร็จการฝึกอาชีพทั้งหมด  3,679  คน  ให้
บริการกู้ยืมเงินเพื่อประกอบกิจการ จำนวน  911  ราย  วงเงินกู้ยืม 59,036,000 บาท  ตลอดจนส่งเสริมด้าน
การตลาด  จำนวน  375  ราย  และให้ความรู้ด้านรูปแบบผลิตภัณฑ์และด้านการผลิตแก่ผู้ประกอบอาชีพ  รวม 
33  เรื่อง  ทั้งนี้  จากผลการดำเนินการมีจำนวนเด็กหญิง อายุระหว่าง 13 - 14 ปี  ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย  เข้า
รับการฝึกอาชีพจำนวนน้อย   เนื่องจากเข้ามาหางานทำในเมืองเป็นส่วนใหญ่  ทำให้ผลการฝึกอาชีพไม่ได้ตกที่
เด็กซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย  อย่างไรก็ตามได้ให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎรผู้ผ่านการฝึกอาชีพไปแล้ว และประสงค์
ที่จะประกอบเป็นอาชีพต่อไปให้เพิ่มมากขึ้นและทั่วถึง  เพื่อให้เกิดการประกอบอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัว
รวมไปถึงหัตถกรรมในท้องถิ่นอย่างจริงจัง เพื่อจูงใจให้เด็กในกลุ่มเป้าหมายสนใจที่จะประกอบอาชีพอยู่ในท้อง
ถิ่นของตนเองมากขึ้น

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แผนปฏิบัติการ
สร้างราชการใสสะอาด ประจำปี พ.ศ. 2544  ซึ่งผลการดำเนินการในภาพรวม ส่วนราชการได้ให้ความร่วม
มือเป็นอย่างดี  และกระทรวง  กรม  ส่วนใหญ่ได้จัดตั้งศูนย์ประสานราชการใสสะอาดเป็นหน่วยงานภายใน
แล้ว  รวมไปถึงหน่วยงานราชการอิสระ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจบางแห่ง ได้ร่วมมือและ
ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีนี้  โดยจัดตั้งหน่วยงานรับผิดชอบโดยเฉพาะ หรือมีแผนและมาตรการการ
ดำเนินการเรื่องนี้เป็นของตนเอง ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
เพิ่มเติมว่า ตามเอกสารรายงานผลการดำเนินการของส่วนราชการต่าง ๆ และหน่วยงานของรัฐในส่วนของ
รายชื่อกระทรวง กรม ที่ไม่ได้ตอบรับการให้ความร่วมมือในการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว มี
สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกลาง  กระทรวงยุติธรรม  ด้วยนั้น  ตามข้อเท็จจริงสถานพินิจ ฯ  มิ
ใช่หน่วยงานระดับกรม แต่เป็นหน่วยงานขึ้นตรงกับสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม  ซึ่งได้ให้ความร่วมมือ
และได้รายงานผลการดำเนินงานให้สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมทราบแล้ว  ทั้งนี้  ให้กระทรวง  ทบวง 
ที่ไม่ได้ตอบรับให้ความร่วมมือด้วย

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่ทบวงมหาวิทยาลัยรายงานผลการดำเนินงานโครงการเรียนรู้ร่วม
กันสรรค์สร้างชุมชน ซึ่งผลการดำเนินงานเป็นไปตามกำหนดการที่วางไว้ทุกประการ โดยมอบหมายสถาบัน
อุดมศึกษาที่มีศักยภาพและความพร้อมจำนวน 16 สถาบัน ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานการดำเนินงานโครง
การ ฯ ทั้งด้านการเงิน การงบประมาณ และการปฏิบัติงานของนิสิตนักศึกษาในแต่ละภูมิภาค  มีพื้นที่รับผิด
ชอบ 4 - 6 จังหวัด   กับให้สถาบันอุดมศึกษาทั้งในสังกัดทบวงมหาวิทยาลัยและกระทรวงศึกษาธิการรับผิด
ชอบการดำเนินงานของนิสิตนักศึกษาในพื้นที่เป้าหมาย (ตำบล/ชุมชน) นอกจากนี้  ได้ทำการรับสมัครและ
คัดเลือกนักศึกษาที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และอาจารย์ที่ปรึกษาภาคสนาม เพื่อปฏิบัติงานในพื้นที่เป้าหมาย
ตามที่กำหนดไว้ โดยมีระยะเวลาปฏิบัติงานภาคสนามในชุมชน 1 เดือน (1 เมษายน - 30 เมษายน 2545)
และจัดทำสรุปรายงานอีก  1  เดือน (1 พฤษภาคม - 31 พฤษภาคม 2545) ทั้งนี้ จากการประเมินผลการ
ปฏิบัติงานภาคสนามของนิสิตนักศึกษาในตำบล/ชุมชนต่าง ๆ ในเบื้องต้น มีผลการปฏิบัติงานเป็นที่น่าพอ
ใจ เป็นประโยชน์กับชุมชน และบางส่วนสามารถกำหนดเป็นนโยบายหรือแผนงานได้  โดยจะจัดทำเป็นราย
งานเพื่อนำเสนอหน่วยงาน   องค์กรชุมชนในพื้นที่ปฏิบัติงาน   และนำส่งทบวงมหาวิทยาลัยอีกจำนวนหนึ่ง
เพื่อรวบรวมเสนอให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบ

           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง ปัญหาของสมัชชาคนจน ตาม
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2544 ซึ่งกำหนดให้รายงานผลการดำเนินการทุก 2 เดือน ของกระทรวง
เกษตรและสหกรณ์   กระทรวงมหาดไทย  กระทรวงวิทยาศาสตร์  เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม   และสำนักนายก
รัฐมนตรี     และอนุมัติให้ยุติการรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว  เนื่องจากปัญหาของ
สมัชชาคนจน รัฐบาลชุดปัจจุบันได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบที่ชัดเจนแล้วตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ
วันที่  3  เมษายน  2544  ที่ได้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน คณะกรรมการ และคณะอนุ
กรรมการเพื่อพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้อง  และมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง   รวมทั้ง
หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหา

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการดำเนินงานของหน่วยงานใน
สังกัดกระทรวงมหาดไทย  งวดที่ 1  (ตุลาคม 2544 - มกราคม 2545)  ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545
รวม 101 เรื่อง ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย 1 เรื่อง  กรมการปกครอง 13 เรื่อง  กรม
การพัฒนาชุมชน 8 เรื่อง กรมที่ดิน 3 เรื่อง  กรมโยธาธิการ 17 เรื่อง  กรมราชทัณฑ์ 5 เรื่อง  กรมการเร่ง
รัดพัฒนาชนบท 3 เรื่อง  กรมการผังเมือง 10 เรื่อง  การทางพิเศษแห่งประเทศไทย  2  เรื่อง  การประปา
นครหลวง 3 เรื่อง การประปาส่วนภูมิภาค 1 เรื่อง  การไฟฟ้านครหลวง 7 เรื่อง  การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 3
เรื่อง การเคหะแห่งชาติ 1 เรื่อง องค์การตลาด 2 เรื่อง และกรุงเทพมหานคร 22 เรื่อง

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม รายงานการใช้
จ่ายเงินกู้โครงการกองทุนสิ่งแวดล้อม ระยะที่ 1 ครั้งที่ 9  ข้อมูล  ณ  วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2545  ซึ่งได้มีการ
พิจารณาสนับสนุนโครงการภายใต้แผนการใช้เงินกู้ดังกล่าว โดยอนุมัติวงเงินเป็นรายโครงการไปแล้วจำนวน
ทั้งหมด 28 โครงการ โดยมีการเบิกจ่ายไปแล้วบางส่วน มีจำนวนทั้งสิ้น 25 โครงการ ได้แก่ โครงการจัดการ
น้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ  จังหวัดสมุทรปราการ   โครงการว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อสนับสนุนสำนักงานนโยบาย
และแผนสิ่งแวดล้อมในการบริหารโครงการตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ และโครงการด้านการจัดการน้ำเสีย
และกำจัดขยะในพื้นที่อื่น ๆ จำนวน 23 โครงการ  รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น 3,377.421 ล้านบาท  ซึ่งเป็นวงเงิน
ที่เบิกจ่ายในส่วนของ  JBIC  จากเงินทดรองราชการ ประมาณ  2,254.232  ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ
77 ของวงเงินกู้ และเบิกจ่ายจากเงินกองทุน 1,123.189 ล้านบาท โดยในส่วนที่เบิกจากเงินทดรองจ่ายได้มี
การเบิกเงินกู้ชดใช้เงินทดรองจ่ายแล้ว  2,145.294  ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 73 ของวงเงินกู้

                คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการเข้มงวดในการอนุญาตตั้งโรงงานและ
ควบคุมสารเคมี วัตถุอันตราย การวางระบบความปลอดภัย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ เกี่ยวกับ
โรงงานที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับเคมีภัณฑ์  สารเคมี  หรือวัตถุอันตราย  ที่จะขอรับใบอนุญาตประกอบ
กิจการโรงงาน  หรือใบอนุญาตขยายโรงงาน  หรือต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานจะต้องทำ
รายงานการวิเคราะห์ความเสี่ยงจากอันตรายที่อาจเกิดจากการประกอบกิจการโรงงาน     พร้อมจัดทำ
มาตรการในการควบคุมและลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น  ซึ่งต้องเป็นไปตามประกาศกระทรวงอุตสาห
กรรม  ฉบับที่ 3  (พ.ศ. 2542)  และได้ดำเนินการยกร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม  กำหนดหลัก
เกณฑ์และมาตรการความปลอดภัย  เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานที่มีการเก็บและใช้วัตถุมีพิษ   วัตถุ
เคมี  วัตถุไวไฟวัตถุระเบิด  และวัตถุอื่นที่อาจจะเป็นอันตราย  ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ  สำหรับ
การสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญทางสารเคมีเข้าไปร่วมในการป้องกันและระงับภัยที่เกิดขึ้นในการประชุมคณะ
อนุกรรมการป้องกันอุบัติภัยจากสารเคมี  ครั้งที่  5-1 /2544  ได้พิจารณาเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การคัด
เลือกผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันอุบัติภัยจากสารเคมี   ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยอยู่
ในระหว่างการจัดทำทะเบียนผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขากรณีเกิดอุบัติภัยร้ายแรงเพื่อเป็นแหล่งข้อมูลระดม
สรรพกำลังในการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการแก้ไขปัญหาราคา
ผลผลิตการเกษตร และโครงการจัดหาปุ๋ยเคมีเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรปี 2542 และปี 2543  โดยผลการ
แก้ไขปัญหาราคาผลผลิตการเกษตรปี  2544/2545  ได้ดำเนินการแทรกแซงผลผลิตการเกษตร  ได้แก่ 
ข้าวโพดความชื้น 14.5 %  ราคากิโลกรัมละ 3.95 บาท  รับจำนำกิโลกรัมละ 4.19 บาท  ข้าวเปลือกเจ้า
นาปี 5 %  ราคาเฉลี่ยตันละ 4,503 บาท  รับจำนำตันละ  5,235  บาท  เมล็ดกาแฟเกรดคละเฉลี่ยกิโล
กรัมละ 20.00 บาท รับจำนำเมล็ดกาแฟเกรด  2  กิโลกรัมละ  21  บาท  ส่วนยางพาราอยู่ระหว่างการ
แทรกแซงตลาดยางพารา ระยะที่ 6  ราคาช่วงดำเนินการกิโลกรัมละ 18.82 บาท  ราคารับซื้อยางแผ่น
ดิบชั้น  3  กิโลกรัมละ  22.75  บาท  สำหรับโครงการจัดหาปุ๋ยเคมีเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ฯ  โดยในปี 
2542  (สิ้นสุดโครงการ ฯ เดือนเมษายน 2545)  ได้เบิกเงินจากกรมบัญชีกลาง  1,820.72  ล้านบาท 
จัดซื้อปุ๋ย 229,540 ตัน และส่งเงินคืนกองทุน  1,460.67  ล้านบาท  คงค้างชำระ  360.05  ล้านบาท
โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ค้างชำระ  357.7  ล้านบาท และกรมส่งเสริมการเกษตรค้างชำระ  2.35  ล้าน
บาท  ส่วนปี 2543  (สิ้นสุดโครงการ ฯ เดือนกรกฎาคม 2544)  ได้เบิกเงินจากกรมบัญชีกลาง 1,600 
ล้านบาท   จัดซื้อปุ๋ย  226,476  ตัน   และส่งเงินคืนกองทุน  1,474.69  ล้านบาท    โดยกรมส่งเสริม
สหกรณ์ค้างชำระ 88.31 ล้านบาท  และกรมส่งเสริมการเกษตรค้างชำระ  37  ล้านบาท   ทั้งนี้  ได้ขอ
ความร่วมมือกรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมส่งเสริมการเกษตรเร่งรัดการส่งคืนเงินค่าปุ๋ยเคมีให้แล้วเสร็จ
โดยเร็วแล้ว

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 ที่มีมติ
ให้ความเห็นชอบให้รวมระเบียบคณะกรรมการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนแห่งชาติด้วยการสงเคราะห์ราษฎรผู้
ประสบภัยสาธารณภัย  พ.ศ. 2524  และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2538 เป็นฉบับเดียวกัน โดยมอบให้คณะกรรมการป้องกันฝ่ายพลเรือน
แห่งชาติพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง   กระทรวงเกษตรและสหกรณ์   กระทรวงแรงงานและสวัสดิการ
สังคม   กระทรวงศึกษาธิการ    กระทรวงสาธารณสุข    สำนักงบประมาณ    และสำนักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกา พิจารณาหลักเกณฑ์การช่วยเหลือ และอัตราที่ช่วยเหลือจำเป็นต้องมีการปรับเพิ่มขึ้นหรือไม่  และ
ให้กระทรวงการคลังรับไปดำเนินการออกระเบียบเกี่ยวกับเงินทดรองจ่ายให้สอดคล้องกับระเบียบที่จะออก
ใหม่ด้วย    ให้ความเห็นชอบให้ส่วนราชการที่มีหน้าที่ให้ความสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุ
หรือเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิต   และผู้พิการเป็นจำนวนมาก   สามารถเสนอขออนุมัติความช่วยเหลือจากคณะ
รัฐมนตรีได้เป็นกรณีพิเศษเป็นรายๆ ไป ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง โดยให้พิจารณาถึงสภาพเศรษฐกิจ
และภาระงบประมาณของแผ่นดินประกอบด้วย รวมทั้งให้กระทรวงการคลังรีบไปดำเนินการแก้ไขกฎหมาย
ให้รัฐมีสิทธิเรียกให้เอกชนผู้ก่อเหตุชดใช้เงินให้แก่รัฐด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการดำเนินการของหน่วยงานในสังกัด  
กระทรวงมหาดไทย งวดที่ 3 (มิถุนายน-กันยายน 2544) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 รวม 76 เรื่อง ได้แก่    
สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย 1 เรื่อง กรมการปกครอง 1 เรื่อง  กรมการพัฒนาชุมชน 7 เรื่อง  กรมที่ดิน 1 
เรื่อง กรมโยธาธิการ 16 เรื่อง กรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท 3 เรื่อง  กรมการผังเมือง 8 เรื่อง  การทางพิเศษแห่ง 
ประเทศไทย 2 เรื่อง การประปานครหลวง 3 เรื่อง การประปาส่วนภูมิภาค 3 เรื่อง  การไฟฟ้านครหลวง 6 เรื่อง  
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 3 เรื่อง การเคหะแห่งชาติ 1 เรื่อง  องค์การตลาด 1 เรื่อง  และกรุงเทพมหานคร 20 เรื่อง

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ 
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกของประเทศ  โดยในส่วนของการให้สินเชื่อเพื่อการส่งออก ธนาคารเพื่อ   
การส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ   เพื่อขจัดปัญหาอุปสรรคในการปล่อยสินเชื่อ 
พร้อมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนแก่ผู้ส่งออกอย่างต่อเนื่อง โดยให้บริการสินเชื่อก่อนและหลังการส่งออก  รวมถึง
ให้บริการสินเชื่อเพื่อการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และเงินทุนหมุนเวียนอื่น  ๆ  แก่ผู้ประกอบการส่งออกทั้งทาง 
ตรงและทางอ้อม ส่วนการแก้ไขปัญหาความล่าช้าในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงหรือ  
กำหนดหลักเกณฑ์สำคัญ ของกรมสรรพากร  เพื่อให้มีการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่รวดเร็วและเป็นภาระแก่ผู้ส่งออก   
น้อยที่สุด รวมทั้งการปรับโครงสร้างภาษีนำเข้าวัตถุดิบเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน อยู่ระหว่างเสนอขอ 
ความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในการปรับปรุงอัตราอากรขาเข้าสินค้าในกลุ่มวัตถุดิบ  เพื่อให้เข้าสู่อัตราอากร 
ตามโครงสร้าง คือ  ร้อยละ 1  ยกเว้นสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรม  และได้พิจารณาปรับลดอัตราอากร
ปัจจัยการผลิตที่ไม่มีผลิตในประเทศลงเหลือร้อยละ 1 เพื่อมิให้เกิดความลักลั่นของโครงสร้างอากรขาเข้า ฯ  ซึ่ง 
จะเป็นการลดต้นทุนการผลิต ส่งเสริมขีดความสามารถของอุตสาหกรรมไทยและการแข่งขันของผู้ประกอบการ
นอกจากนี้   กระทรวงการคลังโดยกรมศุลกากร  ได้จัดทำแผนแม่บทเพื่อปรับปรุงการบริหารของกรมศุลกากร  
ในทุกด้าน   โดยส่วนที่เกี่ยวกับการบริการการส่งออกมีจำนวน  9  แผน  อยู่ระหว่างเร่งรัดดำเนินการเพื่อการ 
ปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านเคมีวัตถุแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2545
- 2549) ที่ได้ปรับปรุงแล้ว ตามความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยในส่วนของกระทรวงกลาโหมได้เพิ่มเติม
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 ฉบับ  ได้แก่  พระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งอาวุธยุทธ 
ภัณฑ์และสิ่งที่ใช้ในการสงคราม พ.ศ. 2490 และคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 37  ลงวันที่ 21  
ตุลาคม 2519  ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตัดคำว่า "ออร์กาโนฟอสเฟต" ออก และแก้ไขคำว่า  "สมาคมผู้  
ผลิตสารเคมีเกษตรนานาชาติ  GIFAP"  เป็น  "CropLife International"  และกระทรวงการคลังได้เพิ่มกรมศุลกากร 
เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาเครือข่ายข้อมูลสารเคมีแห่งชาติ  และยุทธศาสตร์ที่ 3 การส่ง 
เสริมศักยภาพการจัดการของเสียเคมีวัตถุ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม รายงานการใช้จ่าย 
เงินกู้โครงการกองทุนสิ่งแวดล้อม ระยะที่ 1 ครั้งที่ 8 ข้อมูล  ณ  วันที่ 31 ตุลาคม 2544  โดยได้พิจารณาอนุมัติวง  
เงินเป็นรายโครงการไปแล้วทั้งหมด 28 โครงการ   และมีการเบิกจ่ายไปแล้วบางส่วน จำนวนทั้งสิ้น 22 โครงการ   
ได้แก่ โครงการน้ำเสียสมุทรปราการ  โครงการว่างจ้างที่ปรึกษา  และโครงการในพื้นที่อื่น ๆ  จำนวน  20  โครง  
การ   รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น  3,221.316  ล้านบาท    ซึ่งเป็นวงเงินที่เบิกจ่ายในส่วนของ   JBIC   จากเงินทดรอง 
ราชการประมาณ  2,150.041  ล้านบาท  หรือประมาณร้อยละ  73  ของวงเงินกู้    และเบิกจ่ายจากเงินกองทุน 
1,071.275 ล้านบาท  โดยส่วนที่เบิกจากเงินทดรองจ่ายได้มีการเบิกเงินกู้ชดใช้เงินทดรองจ่ายแล้ว  1,934.700 
ล้านบาท  หรือประมาณร้อยละ 66 ของวงเงินกู้   สำหรับการเร่งรัดการใช้จ่ายเงินกู้ตามโครงการ ฯ  ได้ประสาน  
กับหน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการให้เร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด  รวมทั้งได้จัดทำเอกสารการ 
ประเมินความเหมาะสมโครงการตามคู่มือการประเมินความเหมาะสมของโครงการด้านการจัดการขยะมูลฝอยส่ง
ให้ JBIC เพื่อทราบ และจัดประชุมสัมมนาร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับการสนับสนุนเพื่อสร้างเสริม
ศักยภาพในการบริหารงานโครงการให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ตลอดจนสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ
ขั้นตอนและระเบียบการจ่ายเงินกู้  นอกจากนี้ ได้จัดทำคำแนะนำการจัดทำแผนหรือคู่มือเกี่ยวกับการบริหารจัด  
การโครงการฝังกลบมูลฝอยแบบถูกหลักสุขาภิบาลและโครงการน้ำเสียภายหลังการก่อสร้างโครงการแล้วเสร็จ 
จัดการฝึกอบรมการปฏิบัติการโดยทดลองปฏิบัติจริง และกำหนดให้มีแผนการดำเนินงานเพื่อรักษาความเหมาะ 
สมของอัตราค่าบริการ  และผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจและสังคม เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณากำหนด
ค่าบริการเพื่อการบริหารโครงการได้อย่างเหมาะสม

                 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5  กันยายน  2543  เรื่อง  การแก้ไข 
ปัญหาของสมัชชาคนจน ในประเด็นการขยายระยะเวลาการรายงานผลการดำเนินการ  ซึ่งให้รายงานความคืบหน้า
ให้คณะรัฐมนตรีทราบจากเดิมทุก 2 สัปดาห์ เป็นทุก 2 เดือน เว้นแต่เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนให้รายงานคณะรัฐมนตรี
ทราบทันที  ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมรายงานผลการดำเนินการ 
จัดทำข้อมูลการว่างงาน โดยคณะกรรมการจัดทำข้อมูลกำลังแรงงาน การมีงานทำและการว่างงาน มีผลการ  
ประมาณการในปี 2544 ประชากรรวมทั้งสิ้น 62.87 ล้านคน เป็นกำลังแรงงานรวมเฉลี่ยทั้งปี  33.38  ล้าน  
คน  เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 0.16 ล้านคน  การมีงานทำเฉลี่ยทั้งปี  31.36  ล้านคน  จากจำนวนประชากรทั้งสิ้น  
62.87  ล้านคน  เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 0.07 ล้านคน  เป็นการมีงานทำในภาคเกษตร 13.35 ล้านคน 
และนอกภาคเกษตร 18.01 ล้านคน ส่วนการว่างงานเฉลี่ยทั้งปีประมาณ  1.30  ล้านคน  เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 
ประมาณ  0.11  ล้านคน  หรือร้อยละ  9.24   คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ  3.9  ของกำลังแรงงานรวม
เฉลี่ยทั้งปี 33.38 ล้านคน  ทั้งนี้ ผู้ว่างงานที่มีการศึกษาสูงจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น  สำหรับการทำงานระดับต่ำ   
(ทำงานน้อยกว่า 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์  และพร้อมที่จะทำงานเพิ่ม)  จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน คือ มี 
ประมาณ 1 ล้านคน  ตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมเสนอ

                คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคม โดยบริษัท การบินไทย  จำกัด  (มหาชน)  รายงาน 
ผลการดำเนินการตามความเห็นของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  และคณะกรรมการกำกับ     
นโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ เกี่ยวกับโครงการจัดหาเครื่องบินตามแผนวิสาหกิจ 2543/2544 - 2547/2548  รวม  5  
ลำ ประกอบด้วย เครื่องบินพิสัยกลาง จำนวน 1 ลำ  และเครื่องบินพิสัยไกล จำนวน 4 ลำ  ในส่วนของการจัดหาเงิน  
ลงทุนสำหรับการจัดซื้อเครื่องบิน   และการจัดหาแหล่งเงินทุน   การพิจารณาดำเนินการจัดซื้อเครื่องบินในลักษณะ  
การค้าต่างตอบแทนของคณะอนุกรรมการการค้าต่างตอบแทน การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัท ฯ
ภายใต้ภาวะตลาดที่มีการแข่งขันสูง รวมทั้งการทำ Refinance เพื่อลดภาระดอกเบี้ยและความเสี่ยงทางการเงิน
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีของหน่วยงานในสังกัด 
กระทรวงมหาดไทย งวดที่ 2 (กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม 2544) ประจำปีงบประมาณ 2544  รวม  87  เรื่อง 
(87โครงการ) คือ กรมการปกครอง 2 เรื่อง กรมการพัฒนาชุมชน 9 เรื่อง  กรมราชทัณฑ์ 7 เรื่อง  กรมที่ดิน  
1 เรื่อง  กรมโยธาธิการ 17 เรื่อง  กรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท 4 เรื่อง  กรมการผังเมือง  5  เรื่อง  การทาง
พิเศษแห่งประเทศไทย 4 เรื่อง  การประปานครหลวง  2 เรื่อง  การประปาส่วนภูมิภาค  3  เรื่อง  การไฟฟ้า
นครหลวง 4 เรื่อง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 3 เรื่อง  การเคหะแห่งชาติ 2 เรื่อง และกรุงเทพมหานคร 24 เรื่อง 
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ